ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กล้วยหอมจอมสับ (รับวิจารณ์นิยาย)

    ลำดับตอนที่ #19 : อนาม The nameless ----> วิจารณ์โดย B2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 344
      0
      3 ส.ค. 53

    สวัสดี ครับ B2  จากบทความ กล้วยหอมจอมสับ นะครับ

    เรื่องที่ทำการวิจารณ์ อนาม The nameless

     

    ลิงค์ http://writer.dek-d.com/warrantica/writer/view.php?id=504503

                ก่อนอื่นต้องขออภัยที่มาล่าช้ามากนะครับ เนื่องจากมีเหตุให้วุ่นวายพอสมควรในชีวิต  ในที่สุดก็ได้ทำการวิจารณ์เรื่องนี้  ลงไว้สองลิงค์ชื่อคล้ายกันไม่รู้ว่าเป็นเรื่องเดียวกันรึไม่  ไม่รู้ว่าถ้าไม่อ่านอีกเรื่องจะส่งผลอะไรไหม  เอาเป็นว่าผมจะวิจารณ์ในฐานะของนักอ่านที่บังเอิญได้อ่านนิยายเรื่องนี้แค่เรื่องเดียวแล้วกันนะครับ  เพราะการที่ท่านแยกไว้เป็นสองเรื่องย่อมแสดงว่าหากไม่อ่านอีกเรื่องย่อมไม่ส่งผลใดๆต่อการอ่านนิยายเรื่องนี้ และขอบอกก่อนว่านี่ เป็นความเห็นของนักวิจารณ์คนหนึ่งนะครับ  ไม่ได้หมายความว่านักอ่านทุกคนจะต้องรู้สึกแบบนี้  เพราะฉะนั้น ถ้าเกิดรุนแรงเกินไปต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ด้วยนะครับ เพราะบี 2 วิจารณ์เป็นระดับเดียวคือตรง

     

    1.ไอเดียต้นคิดเรื่อง  11/20    

    น่าสนใจครับ  เพราะจากตัวเปิดมาท่านบอกว่าเป็นแนวไซไฟ  ผมเองก็หวังเยอะ  เพราะส่วนตัวก็ค่อนข้างชอบอ่านไซไฟ  แล้วสุดท้ายผมก็ต้องเศร้าเมื่อพบว่ามันเป็นแฟนตาซีไซไฟแนวโรงเรียน(อีกแล้ว)  ให้เดาโครงหลักก็คงเป็นการต่อสู่กับพลังงานความชั่วร้ายของจอมมารโลคิ  กับโซล  เพราะท่านแบ่งออกมาจำนวนเท่ากันเด่ะคือ 365 ดวง  และมีการทิ้งปริศนาของตัววอร์ที่เป็นพี่ชายของไวท์เอาไว้ตั้งแต่แรก  ผมกำลังสงสัยตัวเองว่าผมต้องไปอ่าน อนามอีกอันหนึ่งก่อนรึเปล่าถึงจะรู้เรื่อง  สำหรับผมนิยายเรื่องนี้รู้สึกเหมือนอ่านแฟนตาซีเก่าๆสมัยโดราเอมอนตอนสู้กับพวกจอมมารปีศาจที่มิติคู่ขนาน  แต่แค่ว่าในเรื่องนี้มีการแทรกความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์เข้ามารองรับ  ซึ่งมันก็ดีในระดับหนึ่งครับ  แต่ที่ยังมีปัญหาคือท่านแทรกเข้ามาแล้วมันไม่ลงตัว  เหมือนเป็นโลกที่เวทย์มนต์กลมกลืนเข้ากับหลักการทาวิทยาศาสตร์  แต่ดันไม่ลงตัว       

    2.การดำเนินเรื่อง   10/20

              ขอโทษด้วยจริงๆครับที่บีสองอาจจะต้องพูดออกมาว่าโดยรวมมันค่อนข้างไม่ดีนัก  การเปิดเรื่องของตัวเอก  การดำเนินเรื่องของแต่ละช่วงที่ท่านนำเสนอมามันน่าเบื่อ  น่าสนใจตรงที่พล๊อตเรื่องเป็นของโลกอนาคต  และที่ผมสังเกตคือท่านเป็นคนที่มีความรู้ทางด้านวิทยาศาสร์ค่อนข้างมากครับ  แต่ท่านแทรกไว้ไม่ดีเลย  ข้อมูลบางอย่างก็ใช่ว่าคนอ่านทั่วไปจะรู้นะครับ  อย่างพวกแรงเฉื่อย  หรืออะไรทั้งหลายทั้งแหล่ที่ท่านแทรกเข้ามาเป็นตัวเลขที่ดูวุ่นวายมันไม่ชัดเจนและแจ่มชัดนะครับ  เรามีวิธีการนำเสนอมันออกได่น่าสนใจมากกว่านี้  แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะอธิบายออกมาเป็นหนังสือวิทยาศาสตร์ออกขายก็ไม่ใช่  ต้องค่อยๆแทรกครับ

                เปิดเรื่องมาด้วยปฐมบทโซล  ค่อนข้างน่าสนใจแต่ติดที่รูปแบบการใช้ภาษาที่ไม่ลื่นไหล  และไม่มีเสน่ห์ในการดึงดูดในอ่านเสียเท่าไหร่  อันนี้ไม่พูดมาก  เดี๋ยวไปคุยช่วงที่พูดถึงเรื่องภาษา  และตอนต่อมาเปิดเข้าไปในช่วงของพระเอกและนางเอก(ละมั้ง)  ฉากโรงเรียน  โอเคครับ  เด็กก็ต้องเรียน  แต่มันไม่น่าสนใจเท่าที่ควร  ส่วนการไปเที่ยวในเมือง  ไม่รู้สิ  ผมรู้สึกว่าการที่จู่ๆเอมี่ชวนไวท์เข้าไปเที่ยวนั่น  ทำไมผมถึงไม่รู้สึกว่ามันเป็นการชวนไปเที่ยวในสถานที่ที่ไม่รู้จัก  ทั้งการขึ้นรถไฟ  ทั้งความตื่นเต้นที่กำลังจะไปเยือนที่แปลกใหม่  ไม่มีเลยแม้แต่น้อย จนนึกว่าเป็นการไปเที่ยวทั่วๆไปแล้วซะอีก  ยิ่งแท๊กซี่ปากหมาคันหลังที่ไวท์  เรล  เอมี่ขึ้นด้วย  ผมยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเรื่องของระบบคอมพิวเตอร์บริการมนุษย์  ลูกค้าคือพระเจ้าครับ  บริษัททั่วไปยึดมั่นในคำนี้มาตลอด  แท๊กซี่ทั่วไปที่เป็นมนุษย์ถ้ามันไม่ได้ไปโมโหกินรังแตนมาจริงๆมันก็ไม่พูดอะไรถึงขั้นนั้นหรอกครับ  ไม่รู้ว่าไอ้คอมพิวเตอร์อันนี้ไปขาดน้ำมันเครื่องมาจากไหน  หรืออะไหล่พังถึงได้แสดงกริยาอย่างนั่น  มันไม่สมควรเป็นคอมพิวเตอร์สำหรับบริการเลยครับ  ไม่สมเหตุสมผล  ท่านกำลังพูดถึงจักรกลในอนาคตที่ถูกพัฒนาโปรแกรมโดยมนุษย์เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ที่เป็นลูกค้านะครับ  โปรแกรมเมอร์ที่ไหนของบริษัทแท๊กซี่มันอุตริลงโปรแกรมสบถคำด่าไปขนาดนั้น  ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนตัวที่สร้างขึ้นมาเพื่อการใดการหนึ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบริการมนุษย์ก็ว่าไปอย่าง  เอามุขนี้ออกไปเถอะครับ  มันไม่ได้ช่วยเติมสีสัน  แถมยังทำให้เรื่องของโลกอนาคตดูไม่น่าเชื่อถือขึ้นมาทันที  ส่วนตัวผมชอบการถามตอบคำถามแบบคลุมเครือกับคอมพิวเตอร์แท๊กซี่ตัวแรก  มันดูเป็นหุ่นยนต์มากกว่าและสร้างบรรยากาศของนครล้ำสมัยได้ดี

    การเปิดตัวของเรล  ผมละแสนจะสงสัยว่าทำไมแค่มีคนเอากระเป๋ามาคืนมันถึงต้องออกอาการอึ้งค้างเวอร์ขนาดนั้น  แล้วผู้ชายดีดีที่ไหนครับ  ทิ้งเพื่อนผู้หญิงไว้กับผู้ชายแปลกหน้าไม่รู้จักที่จู่ๆก็เอากระเป๋ามาคืน  ทำไมไม่ยืนเป็นเพื่อนคุย  หรือชวนเอมี่ไปซื้อน้ำด้วยกันละครับ  ผมเข้าใจครับว่าเรลดูซื่อ  แต่จู่ๆการที่ไวท์ขอตัวออกไปทันทีที่เรลเอากระเป๋ามาคืนให้ ซ้ำยังเข้าใจผิดว่าไวท์คือเอมี่เนี่ย  มันดูผิดปกติมนุษย์ทั่วไปเขาจะทำกันนะครับ  เพราะต้องการให้ไวท์แยกไปอยู่คนเดียวเพื่อจะได้สัมผัสกับไอ้ก้อนกลมๆน่าสงสัยนั่นเหรอครับ ?  ถ้าเป็นอย่างนั่นลองหากสถาการณ์อื่นดูดีไหม ที่มันจะสมเหตุสมผลมากกว่านี้  ส่วนที่ผมขัดใจยังไงก็ไม่รู้คือมุกจำคนผิดของเรล  มันสับไปสับมาจนผมงงๆว่า  สรุปมันคือเหตุผลใดในระบบสมองของเรลที่ทำให้จำสองคนนี้สับสน อาจเพราะคาแรกเตอร์ของเรลยังไม่แจ่มชัดมากแต่ก็น่าสนใจพอควรเลยละ

                แต่ช่วงทดสอบค่อนข้างทำได้ดีครับน่าสนใจ  ผมค่อนข้างชอบเลยละ  แต่ปัญหาใหญ่ของท่านเลยคือทักษะด้านการบรรยายไว้ค่อยว่ากัน  ส่วนวงเล็บที่ห้อยท้ายมา  บางส่วนไม่ต้องมีก็ได้นะครับ  ผมไม่เห็นจำเป็นว่าต้องวงเล็บเลย  อย่างไอ้ที่พูดถึงปลาวาฬในอ่างเลี้ยงอะไรสักอย่าง  ไม่มีวงเล็บก็ไม่เห็นมีปัญหา  หรือพวก (อีกแล้ว)  บางครั้งไม่ต้องใส่ก็ได้ครับ  การเข้าวงเล็บควรใช้ในกรณีจำเป็นจริงๆ  มีมากมันเหมือนไม่ใช่นิยาย  เพราะบางทีแค่เราอยากแทนความรู้สึกของคนเขียนลงไปเราเลยดันไปวงเล็บแบบไม่รู้ตัว

    เอาที่ผมอยากโวยที่สุดเลยนะครับ  ทำไมต้องเป็นโรงเรียนนนน  อีกแล้ว  ความรู้ผมเหมือนโดนชกน๊อคหมัดพิฆาตเข้าไปจังๆ  แฟนตาซีแนวโรงเรียนผมก็จะบ้าแล้ว  ทำไมไซไฟต้องมาเจอโรงเรียนแถมแบ่งภาคกลายเป็นแฟนตาซีแนวตลาดไปเรียบร้อยแล้ว  มีโซล  มีการ์ดเดอร์  มีไฮเปอร์  นี่มันคือพัฒนาการของแนวโรงเรียนเวทย์มนต์หรืออย่างไร  หวังเป็นอย่างยิ่งเลยนะครับว่าโรงเรียนแนวไซไฟนี้จะมีอะไรน่าสนใจกว่าโรงเรียนแนวเวทย์มนต์  ไม่งั้นมันคงเข้าสู่แนวเรื่องตลาดเดิมอีกแน่  และถ้าท่านลองมีเจ้าหญิงเจ้าชายโผล่มาในบทต่อไปละก็ผมคงเซ็งหนักกว่าเดิมแน่ๆ   

    3.ตัวละคร   12/20 

                ตัวละครหลักเลยนะครับ  ไวท์  ค่อนข้างไม่แน่ชัด  ใจร้อนบ้างใจเย็นบ้าง  ยังดูสับสน  มองบุคลิกที่แท้จริงไม่ค่อยออก  ส่วนเอมี่  ค่อนข้างชัดเจนแต่ยังขาดเสน่ห์บางอย่างในการจะเป็นนางเอก(สำหรับผมนะครับ)  เรล  อย่างที่เคยเกริ่นไว้  ยังไม่ค่อยชัดเจนมาก แต่ก็ดูมีมิติน่าสนใจกว่าตัวหลักทั้งสอง ดูมีเสน่ห์อย่างแปลกๆค่อนข้างชอบในระดับหนึ่งเลยละครับ  ส่วนตัวประกอบอื่นยังค่อนข้างแบน  อาจเพราะออกมาน้อยตอนทำให้ยังไม่รู้ลึกมากนัก  ถือว่าหลักๆแล้วตัวละครทำออกมาพอใช้ได้ แต่ตัวที่ผมเทใจไปให้มากที่สุดกลับเป็นผู้คุมสอบอย่างเอพริลฟูล  ดูประหลาดน่าสนใจและมีคาแรกเตอร์ที่มีเสน่ห์จนผมหลงรักได้ง่ายๆเลยละ  ทั้งที่โผล่มาไม่มากนักแต่คว้าใจผมไปง่ายดายยิ่งกว่าคาแรกเตอร์หลักที่ท่านพยายามนำเสนอเสียอีก  คะแนนพอใช้ได้เพราะเอพริลฟูลเลยนะครับเนี่ย

    4.ภาษา   9/20

    เลือกคำใช้ได้ดีครับ  แต่ไม่มีความต่อเนื่อง  ไม่มีความลื่นไหล  ผมถือว่าท่านยังค่อนข้างขาดทักษะในด้านการบรรยายค่อนข้างสูงที่จะสื่อหรือนำเสนอคำพูดให้น่าสนใจ  อ่านแล้วคนอ่านสามารถจินตนาการคล้อยตามไปได้  แต่นี่ยังไม่ถึงเลยครับ  ผมว่าเป็นปัญหาหลักยิ่งกว่าเนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่องเสียอีก  ถ้าภาษาพอใช้ได้จริงๆ  การดำเนินเรื่องธรรมดาหน่อยก็คงไม่เป็นปัญหามากหรอกครับ ดำเนินเรื่องธรรมดาจริงแล้วต้องอ่านรู้เรื่องง่ายแต่กว่าผมจะอ่านได้ต้องอาศัยความพยายามพอสมควรเลย อะไรอธิบายก็เล่นเอาตรงๆ  ทื่อๆ  ไม่ค่อยมีการสอดแทรกหรือเรียบเรียงให้สละสลวยซักเท่าไหร่  แต่ไม่ต้องให้หรูหรานะครับ ย้ำเลย  เขียนแนวนี้อย่าได้อุตริพร่ำพรรณาเป็นแฟนตาซีเทพนิยาย  ผมคงได้โขกหัวตัวเองตายที่เกิดวิจารณ์ไปแล้วทำท่านเข้าใจไปแบบนั้น  ภาษาสวยคือภาษาธรรมดานี่ละ  แต่อ่านแล้วลื่นไหล  มีเสน่ห์  อย่างหนังสือแปลของสุวิทย์  ขาวปลอดที่แปลงานของสตีเฟ่นคิงก็ใช้ได้  ง่ายแต่ไม่สะดุด  มีเสน่ห์ในแบบฉบับ  อีกอย่างที่ผมอยากถามนิดหนึ่ง  ท่านดูหนังต่างประเทศหรือว่าอ่านหนังสือ  หรือมีเคยไปต่างประเทศบ่อยรึเปล่าครับ  ผมสังเกตเห็นสำนวนภาษา  มุขที่ใช้ในการดำเนินเรื่องมีกลิ่นไอของต่างประเทศอยู่เจือจาง ซึ่งมันก็ดีนะครับ  ดูมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ถึงจะทำออกมายังไม่ค่อยถึงก็ตามที  แต่เรื่องอย่างนี้พัฒนาได้ไม่ยากครับ  ว่าแต่  เด็กขาดวิตามินซี  นี่หมายถึงเด็กที่ดูป่วยรึเปล่าครับ  เล่นมาทีทำเอาผมงงเลย  จริงๆอย่าใช้คำเปรียบอะไรที่มันต้องคิดเกินสองตลบจะดีกว่านะครับ  เพราะคนอ่านเข้าใจยาก  บางทีถ้าเล่นไม่ดีแป๊กเอาได้ง่ายๆเลยนะครับ

    อีกเรื่อง  พวกเสียง “งืม...” หรือ อะไรจำพวกคำรับในลำคอใช้บรรยายเอาก็ได้นะครับ  ไม่จำเป็นต้องเขียนออกมาเอยู่ในเครื่องหมายคำพูดก็ได้  อันนี้ไม่ใช่ว่ามันดีหรือไม่ดีนะครับ  เพียงแค่เป็นข้อเสนอหรือทางเลือกเฉยๆ

    ลองหานิยายแปลหรือนิยายไทยสำนวนดีดีมาอ่านครับ  ท่านจะพัฒนาด้านการเรียบเรียงคำและการใช้ภาษาได้อย่างรวดเร็ว  แต่ดีที่สุดก็ต้องหัดเขียนควบคู่ไปด้วยนี่ละครับจึงจะสำเร็จ

    5.ข้อมูลของนิยาย   10/20    

                ใช้ได้ครับ  แต่ที่จะติงนิดหนึ่งคือส่วนสำคัญกลับไม่มี  ไปมีส่วนที่ไม่ค่อยจะสำคัญ  ผมก็เลยไม่รู้ว่าจะเอายังไงกับท่าน  เพราะข้อมูลปลีกย่อยอย่างเรื่องความเร็วอะไรทั้งหลายทั้งแหล่ดูจะแน่นปึก  แต่เรื่องของลักษณะการสร้างเมืองโดยรวม ลักษณะการตกแต่งรอบอนุเสาวรีย์ไม่มีบอก  เรื่องของค่าเงินว่าทำไมเด็กอนาคตถึงต้องมีบัญชีกันทุกคน  (อันนี้ผมเดาเอานะครับ  เพราะจากที่บอกว่าการทำแคปปิคอลการ์ดจะหักเงินโดยตรงจากบัญชีของท่านหากมีการใช้จ่าย  ไม่ใช่บัญชีของพ่อแม่  แสดงว่าเด็กทุกคนต้องมีบัญชี)  รายได้ของไวท์มาจากไหน  เอมี่มีพ่อแม่ไหม  ทำไมต้องไปกินข้าวบ้านไวท์ หรือที่สำคัญที่สุดคือไวท์แยกกันอยู่กับพี่ชายฝาแฝดวอร์หรือ  ทำไม เพราะอะไร ถึงจะไม่ถูกกันแต่มีบ้านถึงสองหลังเลยรึครับ แปลกๆ   ฯลฯ  ถ้าท่านคิดว่ารายละเอียดพวกนี้จะยัดไปในตอนหลังผมก็ขออภัย  แต่จะให้ดีควรมีแทรกสอดเอาไว้ให้คนอ่านได้รู้บ้าง  เหริ่นไว้นิดๆหน่อยก็พอ  คนอ่านจะได้ไม่มีแต่เครื่อง ???? เต็มหัวไปหมด   

    6.ความพึงพอใจ   8/20

              จริงๆแนวเรื่องน่าสนใจและน่าสนุกทีเดียวละครับ  แต่ผมคงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าผมอ่านแล้วหงุดหงิดนิดหน่อย  เพราะสำนวนภาษาที่มันกระตุกเป็นระยะๆ  โครงรองไม่ค่อยดี  สถานการณ์ที่สร้างขึ้นไม่น่าสนใจ  ตัวละครยังไม่แจ่มชัด  และท้ายที่สุดโรงเรียน...  ออกตัวเลยครับว่าบางทีคนอื่นคงไม่เป็นแบบผม  แต่ผมเป็นประเภทไม่ทนกับแนวโรงเรียนเท่าไหร่  เพราะมันค่อนข้างซ้ำซากจำเจ น่าเบื่อ  และ...ผมไม่เห็นความจำเป็นของเรื่องนี้ที่ต้องมีโรงเรียนเลย  อาจจะด้วยจำนวนตอนน้อยทำให้ผมไม่รู้ว่าโรงเรียนของท่านอาจจะแตกต่างไปจากคนอื่นก็ได้ (อย่างน้อยตอนนี้ก็ไม่มีเจ้าหญิงเจ้าชายมาให้ผมหงุดหงิดเพิ่มก็ดีแล้วละ)  บางทีการฝึกของโซลผมว่ามันน่าจะไปในทิศทางอื่นได้นอกจากการเข้าคลาสเรียนอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้  แต่มันก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลละนะครับ  ผมไม่ขอบอกว่ามันเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีแล้วกัน  แค่สำหรับผมมันไม่น่าสนใจแค่นั่นละ

         อย่าเพิ่งท้อใจเพราะคอมเมนท์แรงนะครับ  ผมยอมรับเลยว่าท่านโดนค่อนข้างแรงมากแต่ในเรื่องผมก็เห็นอะไรดีดีอยู่ในนั้น  มีโอกาสพัฒนาได้อีกเยอะ  และน่าจะไปได้ดีด้วยเพราะงั้นอย่าท้อจนเลิกล้มกลางคันนะครับ  ผมคงรู้สึกผิดที่ปล่อยให้นิยายแนวเรื่องน่าสนใจหลุดหายไปเพราะคำวิจารณ์

                สรุปผล  61/120  คะแนน  เกรด D

    ปล.1  อย่าลืมมาบอกรับในหน้าบทความ กล้วยหอมจอมสับ นะครับ  ว่าท่านรู้สึกอย่างไร  มีอะไรสงสัยถามได้เสมอ  ยินดีครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×