ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ถิ่นอัศวิน

    ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 3 - หยามหน้า [2/3]

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ค. 66


    บทที่ 3

    หยามหน้า (2)

     

    "เก่งมากเลยยายฝน" ขุนเขายิ้มน้อย ๆ พลางยกนิ้วโป้งยกยอน้องสาวคนนี้

    "เก่งอะไรพี่ขุน ยังไม่ได้ทำอะไรเลย" ปลายฝนทำหน้าง้ำงอก่อนจะก้มหน้าลง หยาดน้ำตาที่พยายามกลัดกลั้นเริ่มคุมไม่อยู่ แต่เธอก็ไม่อยากร้องไห้ให้พี่ชายคนนี้เห็น

    "แค่นี้ก็เก่งแล้วน้องพี่ ป้ะ...ไปกินข้าวกันเถอะ หิวจนไส้จะขาดอยู่แล้ว" ขุนเขากระตุกแขนของปลายฝนเบา ๆ และเดินนำออกไปด้านนอกโรงแรม

    เขาไม่อยากพูดเรื่องเมื่อครู่ในตอนนี้ รู้ดีว่าหากเปิดประโยคออกไปน้องสาวของเขาได้ร้องไห้งอแงเป็นแน่

    แต่ก็ไม่ทัน...

    "ฮึก...พี่ขุน เราผิดอะไรเหรอ ฮึก...ไร่ของเราผิดอะไร"

    เกินกว่าจะอดกลั้นไหว หยาดน้ำตาพรั่งพรูออกมาพร้อมด้วยแรงสะอื้นที่เต็มไปด้วยความเสียใจ

    ใบหน้าหวานก้มลงมองพื้น แม้ว่าตอนนี้จะร้องไห้ออกมาแล้วแต่เธอก็ไม่กล้าสู้หน้าพี่ชายอยู่ดี

    "ไม่เลย เราไม่ได้ผิดอะไรเลย" ขุนเขาหมุนตัวเดินกลับมาและกอดน้องสาวคนนี้เอาไว้แน่น

    เขาเองก็เจ็บปวดเหมือนกัน แต่พอมาเห็นน้ำตาของเธอกลับยิ่งทำให้คั่งแค้นมากเป็นทุนเดิม

    ไร่พันทิพย์ของเราไม่ได้ผิดอะไร ผิดก็ที่คนพวกนั้นที่มันกล้ามาเหยียดหยามในสิ่งที่เพียรพยายาม

    "ฮึก...ฝนพยายามอย่างหนัก ฝนทำทุกอย่างแล้วฮือ...ฝนไม่รู้จะต้องทำยังไงแล้วพี่ขุน"

    "ไม่ได้รอบนี้ก็ต้องได้สักรอบนั่นแหละ ลูกค้าไม่ได้มีคนเดียวนี่ยายฝน อย่าร้องไห้ดิวะ ถ้าพี่ร้องตามจะทำยังไงหืม" ขุนเขาหัวเราะหึ ๆ ในลำคอ เขาทั้งลูบเรือนผมปลอบ ทั้งยิ้มแย้มอ่อนโยน แต่แท้จริงแล้วภายในใจกลับแตกสลายเป็นผุยผง

    "ฮึก...พี่ขุนอะ ห้ามร้องนะ ร้องแล้วไม่หล่อเดี๋ยวสาวไม่กรี๊ดพอดี"

    "ยายน้องบ้า! อย่างไอ้ขุนมันหล่อตลอดนั่นแหละ มีแต่แกน่ะที่ร้องไห้แล้วน่าเกลียด เช็ดน้ำตาซะ!" มือใหญ่ยีเรือนผมนุ่มของน้องสาวด้วยความเอ็นดู ตบท้ายด้วยคำบ่นคำว่าที่กลับทำให้หญิงสาวขี้แยหัวเราะจนตาหยี

    "ฮึก...ไอ้พี่บ้า! ฝนออกจะสวย ใคร ๆ ก็บอกว่าฝนสวย น่าเกลียดตรงไหนกัน!"

    "ใครเขาบอกมาวะ อยากเห็นหน้าจริง แล้วแกมันก็เชื่อคนง่ายตั้งแต่ตอนไหน ใครบอกอะไรก็เชื่อเขาหมดเลยเรอะ เหอะ! ที่เขาบอกสวยน่ะเขาแกล้งชมเปล่า ทีหน้าทีหลังอย่าไปเชื่อใครเขาง่าย ๆ ล่ะ"

    "อะ...ไอ้พี่ขุน! ไอ้พี่บ้า!" ปลายฝนถลึงตาโตพร้อมกับฟาดมือใส่ร่างกายพี่ชายจอมกวน แต่หาไม่แล้วเธอกลับได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจจากเขา แถมยังเดินหนีทำหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวแต่อย่างใด

    และคนที่ถูกหลอกด่าอย่างปลายฝนก็ทำได้เพียงถอนหายใจฟึดฟัดเป็นวัวกระทิง ทั้งยังต้องกระทืบเท้าตึง ๆ เดินตามขุนเขาไปที่รถอีก!

     

    เสียงเพลงเคล้าคลอภายในร้านคลับบาร์หรูที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองของตัวจังหวัดเชียงราย รวมไปถึงเสียงพูดคุยเฮฮาที่ดังมาถึงบาร์ค็อกเทลจนคนที่นั่งอยู่ก่อนหน้าถึงกับหมดความอดทน

    คลับบาร์ในคืนวันอังคารคนบางตามากกว่าวันหยุด แต่มันกลับเป็นวันโปรดปรานสำหรับปลายฝนเพราะเธอไม่ชอบสถานที่ที่คนเยอะ ทั้งอารมณ์ในตอนนี้ก็ยังอยากดื่มด่ำรสเหล้าเพียงลำพังโดยที่ไม่ต้องกังวลถึงสิ่งใด แต่ทว่าสิ่งที่เธอกำลังพบเจอก็คือเสียงดังเจื้อยแจ้วไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นเสียวหัวเราะหรือเสียงพูดคุยที่ดังขึ้นมาตลอดจากลูกค้าโต๊ะอื่นที่เธอยังไม่เห็นตัวแต่กลับได้ยินเสียงมาแทน

    วันเซ็ง ๆ ที่แม้แต่จะตั้งใจมานั่งปลดทุกข์ก็ยังไม่วายมีลูกค้าไร้มารยาทมารบกวน!

    “นี่น้อง ลูกค้าโต๊ะนั้นคุยกันเสียงดังมากเลยอะ ช่วยไปบอกหน่อยได้ไหมว่ามันรบกวนลูกค้าคนอื่น”

    ความอดทนอดกลั้นหมดลง ตั้งแต่ย่างกรายเข้ามาในร้านจวบจนตอนนี้ก็กินเวลาไปชั่วโมงกว่าแล้ว แต่เธอยังคงได้ยินเสียงพูดคุยและการสนทนาของลูกค้าโต๊ะนั้นมาตั้งแต่ต้น และระดับน้ำเสียงมันก็ดังรบกวนเธอมากจริง ๆ

    “เอ่อ...ต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีคุณลูกค้ากลุ่มนั้นเขาปิดโซนเลี้ยงเฉพาะเลยน่ะครับ”

    “ปิดโซนนั้นแต่โซนนี้ยังได้ยินเสียงของเขาอยู่นะ ใจคอจะคุยกันดังลั่นร้านเลยหรือไง” หญิงสาวขมวดคิ้วก่อนจะเอี้ยวตัวพยายามชะเง้อมองลูกค้าเสียงดังเพราะอยากเห็นหน้าให้ชัด ๆ

    ทว่าใบหน้าของบุคคลที่เธอไม่ทันคาดคิดก็เด่นชัดจนเธอต้องรีบขยับตัวกลับมาดังเดิม

    “อัศวิน...”

    เสียงเล็กพึมพำเบา ๆ เมื่อเห็นหน้าของอัศวินที่อยู่ร่วมวงสนทนาในนั้นด้วย

    อัศวินที่เป็นนายใหญ่ของไร่กมล ไร่กมลที่เป็นไร่ศัตรูคู่แข่งกับไร่พันทิพย์ของครอบครัวเธอ!

    “ใช่ครับ ๆ คุณอัศวินน่ะครับ เขามากับลูกค้าต่างชาติ ผมเองก็ไม่รู้อะไรมาก ผู้จัดการแจ้งมาเท่านี้น่ะครับ แต่ถ้ารบกวนลูกค้าจริง ๆ ผมจะไปเตือนให้นะครับ” พนักงานหนุ่มหน้าซีดเผือด ลูกค้ากลุ่มนั้นมีผู้จัดการร้านฝากฝังให้ดูแลเป็นพิเศษ แต่ในเมื่อลูกค้าท่านนี้เห็นว่าเป็นการรบกวน ในฐานะคนบริการก็ต้องแก้ปัญหาไปที่ต้นเหตุซึ่งก็คือกลุ่มของลูกค้ารายนั้น

    “คงมาดื่มฉลองกับลูกค้าที่ปิดดีลเมื่อเช้าแน่ ๆ” สิ่งที่ปลายฝนคาดการณ์ไม่เกินจริงเท่าไหร่ เพราะเมื่อเช้าเธอมั่นใจว่าคนที่สามารถปิดดีลกับลูกค้าได้จะต้องเป็นไร่กมลอย่างแน่นอน “งั้นไม่เป็นไร คิดเงินเลยค่ะ ฉันจะกลับแล้ว”

    ปลายฝนสังเกตเห็นอาการของพนักงาน เธอจึงต้องยอมหลีกเลี่ยงเพราะไม่อยากให้ตัวเองหงุดหงิดไปมากกว่านี้

    “ครับคุณลูกค้า สักครู่นะครับ”

    เธอจัดการจ่ายเงินเสร็จสรรพก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำโดยวางกระเป๋าไว้ที่เก้าอี้ ระหว่างที่กำลังเดินไปยังทางเข้าห้องน้ำเธอก็ได้ยินเสียงพูดคุยที่ดังขึ้นตามหลัง ซึ่งหากให้เดาก็คงจะเป็นลูกค้าที่กำลังมาเข้าห้องน้ำเฉกเช่นเดียวกัน

    ปลายฝนหันไปมองเล็กน้อย เธอเห็นหน้าไม่ชัดทั้งยังไม่ได้สนใจกับใครผู้ใดเพราะไม่ต้องการหามิตรเพิ่มในเวลาแบบนี้ จนกระทั่งเธอได้ยินเสียงเรียกชื่อของตัวเองที่ดังขึ้นจากด้านหลังพลันทำให้ขาเล็กชะงักกึกก่อนจะรีบหันขวับไปมองยังบุคคลนั้นในทันที

    “สวัสดีครับคุณปลายฝน”

    แรงมือที่แตะลงบนหัวไหล่และเสียงทักทายที่ใกล้หูทำให้ปลายฝนขยับตัวถอยหลังอัตโนมัติ เธอเงยหน้าขึ้นมองบุคคลตรงหน้าด้วยความแปลกใจ

    “คะ? คุณเรียกฉันเหรอ”

    แต่เมื่อลองมองดี ๆ ก็ทำให้ร้องอ๋อพร้อมกับเบ้ปากอยู่ลึก ๆ เพราะคนตรงหน้าคือลูกค้าชาวต่างชาติที่คนเมื่อเช้าที่เธอเพิ่งเข้าร่วมเสนอราคาแต่ก็ถูกไล่ออกมา!

    เขาเป็นลูกค้าที่เธออยากปิดดีลด้วย แต่คำตอบที่ได้รับก็คือการหยามหน้าว่าไร่พันทิพย์ของเธอไม่ได้ถูกเชิญมาตั้งแต่แรก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×