คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : บทที่ 5 - ผลักไส [2/3]
บทที่ 5
ผลักไส (2)
“พ่อมีอะไรเหรอคะ เรื่องเครียดมากเลยเหรอ” ลูกคนสุดท้องถามเสียงอ่อน พานทำให้หัวใจของผู้เป็นพ่อหลอมละลายอ่อนยวบตามไปด้วย
แต่ถึงยังไงก็ต้องเด็ดขาดในการตัดสินใจ ตอนนี้จนปัญหาทุกหนทางแล้ว เห็นทีจะต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะทำเสียที
“ฝน ฝัน พ่อขายที่ของไร่เราครึ่งหนึ่งให้กับไร่กมลแล้วนะ”
“ว่าไงนะพ่อ!” ร่างบางหยัดกายขึ้น มือสองข้างกำเข้าหาแน่น ขณะที่ดวงตาสองข้างเบิกกว้างด้วยความตกใจ
สิ่งที่ได้ยินเป็นเพียงการล้อเล่นเท่านั้นใช่ไหม มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม!?
“พ่อขายที่ครึ่งหนึ่งให้กับไร่กมลแล้ว”
คำตอบย้ำชัดทำให้ปลายฝนชะงักงันราวกับถูกทุบศีรษะด้วยของหนัก
ตอนนี้ไร่พันทิพย์ครึ่งหนึ่งตกเป็นไปของศัตรูที่เธอเกลียด แถมคนที่ยินยอมพร้อมขายนั่นก็คือพ่อของเธออย่างนั้นหรือ?
“ทะ...ทำไมล่ะคะพ่อ ทำไมพ่อต้องขายที่ให้ไร่ของศัตรูด้วย พ่อก็รู้ว่าเขาเป็นศัตรูกับเขา แถมเรื่องไฟไหม้ดีไม่ดีทางนั้นอาจจะเป็นคนทำก็ได้!” ปลายฝันลูกสาวคนเล็กโพล่งขึ้นทั้งน้ำตา หญิงสาวกอดแขนพ่ออย่างเอาคำตอบให้แน่ชัดว่าเหตุใดถึงตัดสินใจเช่นนี้
หากเป็นคนอื่นเธอจะไม่โวยวายเช่นนี้เลย
“ระวังคำพูดด้วยสาวน้อย ฉันสามารถฟ้องเธอได้เลยนะ ถึงจะเป็นนักศึกษาฉันก็ไม่ใจดีหรอกนะรู้เอาไว้ด้วย!” อัศวินชี้หน้าขู่คาดโทษลูกสาวคนเล็กของพ่อเลี้ยงรณที่กำลังปรักปรำความซึ่งหน้า ขึ้นชื่อว่าเป็นครอบครัวของศัตรูแล้วคนอย่างนายอัศผู้ยิ่งใหญ่ย่อไม่คิดใจดีและอ่อนข้อให้อยู่แล้ว
“ฉันขอโทษแทนลูกสาวของฉันด้วย อย่าถือสาแกเลยนะ ขอร้องล่ะ” พ่อเลี้ยงเอ่ยเสียงอ่อนพลางกระชับจับมือลูกสาวคนเล็กให้สงบปากก่อนจะทำให้ผู้เป็นใครเดือดดาลมากกว่านี้
“พ่อจะไปขอโทษคนแบบนั้นทำไม! ตอนนี้เรายังหาตัวคนทำไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าต่อไปมันจะหาไม่เจอ ยังไงทางตำรวจก็ต้องหาตัวคนทำผิดมาลงโทษให้ได้!” ปลายฝันจดจ้องไปที่อัศวินด้วยสายตาแข็งกร้าว เธอไม่รู้นักหรอกว่าใครเป็นคนวางเพลิง
แต่เหตุการณ์มันช่างเหมาะเจาะกันไป หลังสงบเพลิงไหม้ได้ วันรุ่งขึ้นเขาก็หอบเงินก้อนใหญ่มาซื้อไร่ครึ่งหนึ่งของเธอทันที จะเรียกว่ารอเสียบก็คงไม่น่าเกลียดเพราะเธอรู้ว่าเขาต้องการฮุบพื้นที่ไร่ของเธอมาแต่ไหนแต่ไร
การมีที่ดินของศัตรูมาครอบครองก็นับว่าเป็นการหยามหน้าอย่างถึงที่สุด และวันนี้เขาก้ทำสำเร็จได้อย่างที่หวัง ไร่อันเป็นที่รักอย่างไร่พันทิพย์กำลังตกไปเป็นของไร่กมลที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกันมาตลอด
แล้วแบบนี้จะไม่ให้เธอคิดว่าเขาตั้งใจเล่นสกปรกได้ยังไง!
“ฮึ งั้นก็ไล่ล่าตามหาคนทำผิดมาให้ได้แล้วกันนะ ฉันจะคอยดู!” อัศวินแค่นหัวเราะเย้ยเมื่อได้ยินคำพูดไร้สาระของเธอ อยากจะเห็นเหมือนว่าผู้หญิงตัวเล็กจะไล่ล่าหาคนร้ายมาด้วยวิธีอะไร จะทำตัวเป็นสายลับตามหนังตามละครอย่างนั้นสิ
ฮึ...แค่คิดก็รู้สึกว่าแม่นี่ช่างเด็กน้อยเสียจริง!
“พ่อไม่มีทางเลือกแล้วลูก พ่อเองก็ไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น แต่เพื่อไร่ของเราพ่อถึงต้องทำ”
การขายไร่ไปก็เท่ากับว่าพื้นที่ส่วนนั้นจะต้องสูญเสียไปตลอดกาล แต่ทว่ามันกลับเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเจ้าของไร่อย่างเขา อย่างน้อย ๆ ก็ยังได้เงินมาตั้งหลักเพื่อไม่ให้ไร่อีกครึ่งหนึ่งต้องพังทลายลงไปต่อหน้าต่อตา
เงินก้อนนี้สามารถนำมาบริหารงานในไร่ต่อได้อีกมาก
แต่สาเหตุที่คนอย่างพ่อเลี้ยงรณเลือกขายไร่ให้กับศัตรูอย่างอัศวินก็สุดแต่จะหาคำตอบ เพราะไม่มีใครรับรู้ว่าเหตุใดถึงได้กล้าแลกที่ดินอันเป็นที่รักให้กับคู่แข่งเบอร์อย่างไร่กมลไปครอบครอง
“ผมมีข้อเสนอครับ พ่อเลี้ยงจะรับไว้หรือไม่รับก็ได้ ผมเคารพการตัดสินใจของพ่อเลี้ยงเสมอ” เสียงเข้มแทรกการสนทนาระหว่างพ่อลูกที่กำลังจะเรียกฉากน้ำตาออกมา
เขาในฐานะคนนอกย่อมไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งในฉากเศร้าสร้อยเช่นนั้น เพราะสิ่งที่เขากำลังจะเสนอมันน่าจะช่วยเปลี่ยนฉากหมองให้กลายเป็นฉากสดใสได้บ้างเหมือนกัน
“ผมซื้อที่ดินไปแล้วมันก็เท่ากับว่าตอนนี้ไร่พันทิพย์ครึ่งหนึ่งเป็นสมบัติของผมอย่างถูกต้อง แต่ผมเองก็เห็นใจว่าตอนนี้พ่อเลี้ยงกำลังตกที่นั่งลำบาก ผมเลยจะให้พ่อเลี้ยงสามารถใช้พื้นที่ส่วนนั้นในการเพาะปลูกและส่งผลผลิตให้กับลูกค้าได้เหมือนเดิมเป็นเวลาหกเดือน นั่นก็แปลว่าพ่อเลี้ยงยังคงมีรายได้จากการส่งออเดอร์เหมือนเดิม แต่หลังจากที่ครบหกเดือนแล้วผมจะขอยึดพื้นที่คืนและจะทำการรื้อถอนพื้นที่ตรงให้เป็นสิ่งก่อสร้างทันที” อัศวินอธิบายถึงข้อเสนออย่างใจเย็นและราบเรียบ
สิ่งที่เขาเสนอไปนั่นก็คือการปรานีศัตรูอย่างถึงที่สุดแล้ว เขาให้สิทธิ์เจ้าของเดิมเป็นระยะเวลาครึ่งปีในการใช้พื้นที่ส่วนนั้นสำหรับการหาเงิน เพียงแต่ว่าชื่อผู้ครอบครองจะเป็นนายอัศวินคนเดียวเท่านั้น และเมื่อครบกำหนด เขาจะทำการรื้อถอนและทำให้พื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขาในทันที
“แปลว่าฉันยังสามารถใช้พื้นที่ตรงนั้นปลูกพืชได้อยู่ใช่ไหม” พ่อเลี้ยงรณถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“ใช่ครับ ที่ตรงนั้นเป็นชื่อของผมก็จริง แต่ในทางปฏิบัติพ่อเลี้ยงสามารถใช้ได้เหมือนเป็นที่ของตัวเองเลย ผมจะให้เวลาพ่อเลี้ยงหกเดือน ผมหวังว่าเงินจากการขายไร่บวกกับการใช้พื้นที่ส่วนนั้นหากินต่อน่าจะทำให้ไร่พันทิพย์ฟื้นฟูกลับมาได้บ้างนะครับ”
มือใหญ่เคลื่อนซองสีน้ำตาลที่บรรจุธนบัตรสีเทาปึกใหญ่ส่งให้กับพ่อเลี้ยงรณที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“นี่ครับเงินมัดจำ หลังจากที่ทำการโอนชื่อให้มาเป็นชื่อของผมเมื่อไหร่ เงินทั้งหมดจะเข้าบัญชีของพ่อเลี้ยงทันที”
“แล้วฉันจะไว้ใจได้ยังไง ถ้านายเล่นตุกติกขึ้นมาล่ะ!” ปลายฝนโพล่งขึ้นมองหน้าอัศวินและพ่อของตัวเองสลับกันไปมา
การทำธุรกิจไม่มีคำว่าเล่น ๆ ในเมื่อตอนนี้พื้นที่ไร่ของเธอจะต้องตกเป็นของศัตรูก็ต้องเด็ดขาดในการจ่ายเงินให้มาก หากทางนั้นตุกติกไม่ยอมนำเงินส่วนที่เหลือมาให้จะทำกันยังไง อำนาจบารมีน้อยนิดก็คงต่อกรอะไรกับไร่กมลแสนเจ้าเล่ห์นั่นไม่ได้
“สถานะของไร่พันทิพย์ในตอนนี้ไม่มีสิทธิ์ต่อรองนักหรอกนะ”
“อึก!” คำพูดของอัศวินทำเอาปลายฝนถึงกับสะอึก สถานะของเธอไม่มีสิทธิ์อย่างที่เขาพูดจริง ๆ นั่นแหละ
“วางใจเถอะครับพ่อเลี้ยง ผมไม่โกงหรอกครับกับเงินแค่นี้ เรื่องเอกสารเสร็จเมื่อไหร่ก็รอรับเงินผ่านบัญชีได้เลย ผมจะให้ลูกน้องจัดการให้ทันที”
“อืม ตกลงตามนั้น พรุ่งนี้ฉันจะจัดการเรื่องโอนที่ให้เลย”
ประโยคนั้นที่เอ่ยออกมาจากปากของพ่อเลี้ยงรณนั้นเท่ากับว่า ตอนนี้ไร่พันทิพย์กำลังตกเป็นรองให้กับไร่กมลอย่างสมบูรณ์แบบ
“ตกลงครับพ่อเลี้ยง ขอบคุณมากที่ขายที่ให้ผม ถึงแม้ว่าผมจะยังแปลกใจอยู่ก็เถอะ” อัศวินยิ้มน้อย ๆ แสดงออกถึงความขัดข้องอยู่ในใจที่กำลังเคลือบแคลงอยู่ลึก ๆ
เขาไม่รู้ว่าสาเหตุใดพ่อเลี้ยงรณถึงมาขายที่อันหวงแหนให้กับเขา แต่อย่างไรแล้วการที่ได้ครอบครองไร่พันทิพย์มันก็คือความต้องการสูงสุดของตัวเขาอยู่ดี
ถึงอีกฝ่ายจะมีอะไรแอบแฝง แต่คนอย่างนายอัศวินไม่โง่ที่จะยอมให้ถูกจูงจมูกได้ง่าย ๆ เหมือนกัน
“ฉันมีข้อแม้หนึ่งอย่าง อยากขอให้คุณพิจารณาเอาไว้ด้วย”
________________
เรื่องนี้มีอีบุ๊กแล้วนะค่าบบบบ
อ่านเต็ม ๆ ฟิน ๆ ได้ในฉบับเต็มที่อีบุ๊กได้เลยนะคะทุกคน เบลจัดโปรโมชั่น 10 วัน ราคาเพียง 229.- เท่านั้นค่ะ อ่านจุใจกันไปเล้ยยย ฝากเอ็นดูนายอัศกับหนูปลายฝนด้วยนะค้าาา กดจิ้มลิ้งก์ได้เยยยย
อีบุ๊กถิ่นอัศวิน >>
ความคิดเห็น