ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ถิ่นอัศวิน

    ลำดับตอนที่ #11 : บทที่ 4 - เปลวเพลิง [1/3]

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ค. 66


    บทที่ 4

    เปลวเพลิง (1)

     

    “ยายฝน! ยายฝน แกจะไปไหน พี่เรียกก็ไม่หันนะไอ้น้องคนนี้!” ขุนเขาวิ่งตามน้องสาวออกมาจากตัวบ้านพร้อมกับออกปากเรียกเสียงดัง จนคนเป็นพ่อที่เห็นเหตุการณ์ถึงกับต้องเดินตามมาดู

    “อะไรกันสองคนนี้ เอะอะโวยวายกันแต่เช้าเลย”

    “พ่อก็ดูลูกสาวพ่อเถอะ หูหนวกไปแล้วมั้ง ผมตะโกนเรียกหลายรอบก็ยังเมิน”

    “แล้วพี่ขุนมีอะไรเล่า คนยิ่งรีบ ๆ อยู่” ปลายฝนขมวดคิ้วยุ่งพลางหยิบหมวกแก๊ปมาสวมใส่เพื่ออำพรางแดด หลังจากนั้นก็หยิบถุงมือผ้าที่สอดเหน็บไว้กับกระเป๋ากางเกงมาใส่เป็นลำดับถัดไป

    “แกจะออกไปไหน”

    “ก็ออกไปคุมคนงานน่ะสิ วันนี้มีส่งผักที่ตลาดในเมืองล็อตสองไม่ใช่เหรอ ฝนว่าจะไปคุมสักหน่อย”

    “ไม่ต้องไป แกไปที่แปลงกะหล่ำกับพี่ นี่ก็กำลังลงกล้าพอดี”

    “โอ๊ย ไม่เอาอะ เรื่องแค่นี้ไม่เห็นจะต้องให้ฝนไปด้วยเลย”

    “แกนี่มัน...”

    “นายครับ! นาย!”

    แต่ทว่าก่อนที่จะตัดสินใจอะไรได้ ลูกน้องคนสนิทของขุนเขาก็เดินเข้ามาก่อนจะรายงานอะไรบางอย่างให้กับผู้เป็นนายฟัง ที่ทำเอาคนที่มองจับสังเกตได้ถึงสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด

    “อืม ขอบใจ มึงไปทำงานต่อเถอะเดี๋ยวกูจัดการเอง” เสียงเข้มเอ่ยบอกก่อนที่ลูกน้องคนสนิทจะโค้งศีรษะและเดินออกไป

    “มีอะไรไอ้ขุน”

    “ท่านเหมมาที่นี่ รออยู่ที่ห้องรับรอง”

    ชื่อเสียงเรียงนามเพียงแค่ได้ยินก็ทำให้ปลายฝนชะงักงันไปในทันที หญิงสาวเม้มปากแน่น ภายในใจก็รู้สึกอึดอัดและกระวนกระวาย แค่นึกถึงเหตุการณ์หยาบคายที่เธอเจอในวันนั้นก็ทำให้ขยาดรังเกียจมาจนถึงตอนนี้

    “พ่อ...ฝนไม่อยากแต่งงานนะ ฝนตัดสินใจแล้วว่าฝนจะไม่แต่งงาน” มือเล็กจับแขนของผู้เป็นพ่อเอาไว้เพื่อย้ำชัดในการตัดสินใจของตัวเอง

    จริงอยู่ที่ในตอนแรกเธอเคยบอกกับพ่อและพี่ชายว่าจะแต่งงานเพื่อพยุงวิกฤตของไร่ แต่ความหยาบคายและการกระทำที่ไม่ให้เกียรติของอีกฝ่าย ทำให้เธอไม่สามารถแต่งงานกับเขาได้จริง ๆ

    “อืม พ่อเองก็คิดไว้อยู่แล้วล่ะว่าพ่อไม่อยากให้ฝนแต่งงานกับเขา พ่อผิดเองที่คิดแบบนั้นตั้งแต่แรก” พ่อเลี้ยงรณกล่าวอย่างจนใจ

    เขาเป็นคนริเริ่มเรื่องแต่งงานขึ้นเพราะอยากฟื้นฟูไร่ให้กลับมารุ่งเรืองยิ่งใหญ่เหมือนเดิม แต่เขากลับไม่ได้ถามความรู้สึกของลูกเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งเขาได้กลับไปทบทวนกับตัวเองจนได้คำตอบว่าพ่ออย่างเขาไม่สามารถปล่อยให้ลูกต้องไปเผชิญและฝากฝังชีวิตไว้กับคนอย่างเหมราชได้จริง ๆ

    “แล้วทำไมตอนแรกพ่อถึงอยากให้ยายฝนแต่งงานกับท่านเหมล่ะ ทำไมต้องเป็นเขา ทำไมไม่เป็นคนอื่น” ขุนเขาถามผู้เป็นพ่อเมื่อขัดข้องใจมาตั้งแต่ต้น เขาไม่มีโอกาสได้ถามเลยสักครั้ง แต่เมื่อพ่อของเขาตั้งใจว่าจะยกเลิกความคิดนั้นไปแล้วก็ควรถามเหตุผลให้แน่ชัดเสียที

    “พ่อรู้จักกับเขามานานแล้วล่ะ ความจริงท่านเหมเป็นเพื่อนกับแม่ของลูกนั่นแหละ เห็นหน้าค่าตากันมาก็นาน แถมเขาก็ยังมีอิทธิพล ยิ่งพอได้ควบคุมธุรกิจของทางบ้านอย่างเต็มตัวเขาก็ยิ่งเป็นใหญ่”

    รณภพบอกความจริงกับลูกทั้งสองให้เข้าใจ เหตุผลที่เขาอยากให้ปลายฝนแต่งงานกับเหมราชตั้งแต่แรกก็เพราะรู้จักกันเป็นอย่างดี ภรรยาของตนเป็นเพื่อนกับเหมราช เจอหน้าค่าตากันมานานนับสิบปี จนกระทั่งภรรยาของเขาเสีย รวมถึงฝ่ายนั้นก็ได้ขึ้นเป็นใหญ่ในอำนาจของครอบครัว ก็กลายเป็นว่าแทบไม่ได้พูดคุยหรือพบปะกันเลย

    อาจจะมีบ้างที่เจอะเจอกันตามงานสังคมหรืองานประชุมระหว่างไร่ แต่การพูดคุยสังสรรค์ตามประสาเพื่อพี่น้องดังเช่นเมื่อก่อนคงไม่มีให้เห็นอีกต่อไป

    “แล้วก็อีกอย่าง ท่านเหมเองก็เป็นคนบอกกับพ่อเองว่าเขาน่ะเอ็นดูยายฝนอยู่เหมือนกัน เขาพร้อมจะดูแลและช่วยเหลือไร่ของเรา ตอนนั้นพ่อมันโลภบวกกับเห็นแก่ตัว ความคิดแรกของพ่อก็คืออยากให้ยายฝนแต่งงานกับเขาเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของไร่ให้เป็นเหมือนเดิม”

    ราวกับเป็นการสารภาพต่อลูกทั้งสอง ชายวัยหกสิบปีก้มหน้ามองพื้นอย่างละอายใจที่มีความคิดแบบนั้น เขาเกือบจะขายลูกกินเพียงเพราะกระหายความยิ่งใหญ่ที่เคยพึงมี

    กว่าจะคิดได้เขาก็เกือบจะเสียลูกสาวผู้เป็นดวงใจไปเผชิญกับคนสีเทาคนนั้น

    “ท่านเหมเขาบอกกับพ่อแบบนั้นเลยเหรอคะ เขาบอกกับพ่อเลยเหรอว่าเขาชอบ...เอ่อ...เอ็นดูฝน”

    ไม่คิดว่าคนอย่างท่านเหมจะกล้าพูดปาว ๆ ว่ารู้สึกชอบพอลูกสาวของพ่อเลี้ยงรณที่อายุน้อยกว่ายี่สิบปี!

    “อืม เขาบอกกับพ่อแบบนั้น พ่อขอโทษนะฝนที่พ่อคิดแบบนั้น พ่อขอโทษจริง ๆ”

    “ฝนไม่โกรธพ่อหรอก ฝนเข้าใจพ่อทุกอย่าง” หญิงสาวสวมกอดคนเป็นพ่อ กอดแน่นพลางซบใบหน้าอิงกับอกอบอุ่น เธอไม่โทษพ่อของเธอหรอก เพราะในตอนนั้นเธอเองก็เคยคิดที่จะแต่งงานเพื่อยุติทุกปัญหาเหมือนกัน

    “แหม อยู่กันที่นี่เองหรอกเหรอครับ”

    ทว่า...สุ้มเสียงทรงอิทธิพลเอ่ยแทรกขึ้นจากทางด้านหลังทำให้ทุกสายตาหันไปมองยังต้นเสียง

    ร่างสูงตระหง่านของเหมราชเดินเข้ามาช้า ๆ พร้อมด้วยรอยยิ้มกรีดกรายที่มองออกว่ามันเป็นรอยยิ้มแห่งความชั่วร้ายไม่ได้มีความดีปะปนอยู่เลยสักนิด

    “คุณเหม ผมกำลังจะไปหาอยู่พอดีเลย” รณภพเป็นฝ่ายเปิดประโยคด้วยความสุภาพกับผู้ที่อายุน้อยกว่า

    ถึงแม้ว่าเหมราชจะอายุน้อยกว่าเขา แถมยังเป็นเพื่อนของภรรยาที่ล่วงลับ แต่อย่างไรแล้วด้วยอำนาจและสถานะของอีกฝ่ายทำให้เขาต้องให้เกียรติและไม่ทำตัวเทียบเท่าจนเกินควร

    “นี่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเลยสินะ ไม่สิ...ขาดก็แต่ลูกสาวคนเล็กอย่างหนูปลายฝันนี่นา” เหมราชยกยิ้มพลางหัวเราะเบา ๆ ในลำคอเมื่อเห็นภาพครอบครัวสุขสันต์ กระทั่งสายตาคมเคลื่อนมองหญิงสาวที่หมายปองให้มาเป็ดนเจ้าสาวและภรรยาในอนาคต

    “เอ่อ...ท่านเหมมีธุระอะไรเหรอครับ มาหาพวกเราถึงที่นี่เลย” ขุนเขาแทรกขึ้นทันทีเมื่อเห็นสายตาแทะโลมหยาบคายของผู้ทรงอิทธิพลที่กำลังจ้องมองน้องสาวของเขา หากไม่ใช่คนใหญ่คนโตไอ้ขุนคนนี้คงได้สั่งสอนด้วยหมัดหนัก ๆ ไปแทนเป็นแน่!

    “อ้อ! ผมมาทวงคำตอบจากหนูปลายฝนน่ะครับ...เรื่องการแต่งงานของเรา!”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×