ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นี่หรือคือนักศึกษา(แพทย์)

    ลำดับตอนที่ #7 : ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ นายสัตวแพทย์อื้อฉาว

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 52


    /> /> />

    เฮียแกคนนี้รู้ทั้งรู้ว่าจบกันมาแล้ว 6 ปี แต่ว่าเขาก็ไม่ลดละความพยายามน่านับถือจริงๆ แต่ผมก็ไม่สามารถไปขุดคุ้ยวีรกรรมน่าสะเทือนใจจากสถาบันเก่าของแกได้  เอาเป็นว่าแกอยู่ที่นี่แล้วแกทำอะไรได้บ้างดีกว่า

    นายคนนี้ผมเคยนึกว่าแกอายุเท่าๆ กันซะอีกเพราะหน้าเฮียแกเด็กจริงๆ แกเป็นคนมีคารมในการผูกใจคนแบบ first impression ได้ดีมาก  ในคณะนี้เท่าที่ผมเจอมาก็แกนี่แหละที่รัศมีความน่าคบหามีมากแบบเอาโล่ไปเลย  นั่นทำให้กลุ่มผมที่แกเป็นแกนนำนั้นขยายตัวขึ้นได้เร็วอย่างไม่น่าเชื่อ  โอ้โหแต่ละคนเด็กเรียนกันทั้งนั้น  ขยันกันมาก  ทั้งนัดติวกัน  วันว่างก็นัดกันไปเที่ยวดูหนังฟังเพลง  ซึ่งเฮียแกก็เทคแคร์เป็นอย่างดี  คิดแล้วน้ำตาซึม..นี่แหละที่สรรหามานาน  แต่แอ๊บได้ไม่นานชั้นเชิงด้านศิลปะก็บังคับให้แกต้องวาดลวดลายจนทุกคนต้องอึ้ง

    ความสามารถสุดบรรเจิดของแกก็เดากันได้ง่ายๆ เลยว่าสาวต้องติดตรึม  คนแรกที่แกเล็งไว้พอผ่านๆ ก็คือ “สาวเอมี” ซึ่งติดอันดับ 1 ใน 3 เต้ามหากาฬของคณะ เธอเอาแมวมารักษากับเฮียนี่แหละ ไปๆมาๆก็ถามว่า “มีแฟนยังเรา”  เอ้อเหอ ไอ้ตอนนั้นรู้สึกผมยืนอยู่ด้วยห่างๆ เป็น ก ข และ ค แต่สาวเอมีก็มีแฟนไปแล้วตามระเบียบ  อันเนื่องจากเธอก็ซิ่วมาจากเภสัชในมหาวิทยาลัยเดียวกันนี่เอง  ก็ได้แฟนเป็นรุ่นพี่ในคณะเภสัชซึ่งเป็นพี่ของเพื่อนในคณะอีกคนซึ่งผมเรียก “ไคจัง”(บทบาทของไคจังจะมีตามมาทีหลังครับ)  ส่วนตัวผมก็สนิทกับเอมีอยู่ด้วยเรื่องของความนิยมชมชอบในเรื่องสัตว์เลี้ยง  เหอๆๆ สุดท้ายเฮียแกก็ไม่ได้จีบเอมีเต็มตัวเพราะเจ้าของแกอยู่แถวนี้เด๋วมีวางมวยเบ้าตาแตกแล้วแอนตาซินไม่รับผิดชอบ  และแล้วสาวคู่ใจของเฮียแกก็ได้เปิดตัวขึ้นเธอเป็นเพื่อนในกลุ่มผมนี่เองผมเรียกว่า “แร้ง”   ทั้งสองคนไปด้วยกันได้ดีเชียว  สำหรับคู่รักซึ่งหักเตียงไม่ลงก็หวานหยดย้อยถึงขนาดเช่าหอนอกอยู่ด้วยกันสองเราแม้ฝ่ายหญิงจะมีหอในอยู่แล้ว  เริ่มแรกไม่ว่าเวลาใดคู่รักเขาก็จะจู๋จี๋และจี๋จู๋(มันยังไง) สวีทวี้ดวิ้วกันเสมอ  จนวันหนึ่งผมสังเกตแขนขวาของแร้งแล้วมันมีปื้นเหมือนโดนท่อแป๊ปฟาด  เจ๊แกว่าพลาดท่าเสียหลักแขนชนกับเตียง  อ่า..มันเริ่มยังไงๆ อยู่  ก็มีข่าวออกมามากมายแต่ผมก็ยังคงเชื่อในสิ่งที่เห็นเองมากกว่า  ต่อมาไม่นานนักก็มีข่าวเรื่องเฮียแกชวนเพื่อนผมไปนอนที่บ้านกันในกรุงเทพฯ  ก็คงไปเที่ยวกันละมั้ง  ไอ้ผมก็อยู่บ้านในช่วงปี 1 เทอมแรกด้วย  เลยไม่ค่อยจะได้สุงสิงจริงจังกับกลุ่มเพื่อนผมข้ามวันข้ามคืนแบบพวกที่เหลือ  แล้วเพื่อนผมคนหนึ่งที่นั่งรถแกไปก็เป็นเพื่อนเก่ากับแร้งที่มหิดลก่อนที่จะซิ่วมา  เฮียแกก็ไม่รู้เกิดบ้าอะไรขึ้นมา  เริ่มหาเรื่องโดยลากยาวตั้งแต่วันก่อนที่ไปกินข้าวกันแล้วเพื่อนผม “ไอ้เหลี่ยม” ไปนั่งข้างแร้ง  คือคารมมันดีเข้าว่า  ชอบแซวเล่นไปเรื่อยอะ  แต่เฮียแกก็รู้สึกไม่พอใจอะ  เฮียแกสามารถทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ได้จึงไล่ไอ้เหลี่ยมลงที่อนุสาวรีย์พร้อมแฟนมัน  แร้งรู้สึกผิดด้วยก็เลยลงจากรถเฮียแกเป็นเพื่อน  เรื่องนี้ผมมารู้ทีหลังเพราะพี่ตูนก็ไปด้วยและขับรถตามมาทีหลังแล้วเจอพวกนี้ยืนเอ้อระเหยอยู่ทำซากสิ่งใดจึงได้เหวี่ยงขึ้นรถแล้วลากกลับมาหอด้วย  ผมเคยได้ยินจากปากพี่ตูนว่าตอนไปที่บ้านเฮียแก  พี่ตูนอยู่ด้วยตอนที่แม่ของเฮียคุยกับว่าที่ลูกสะใภ้ว่า ถ้าเป็นแฟนกะเฮียก็ต้องทนเอาหน่อยนะลูก  ประมาณว่าแม่ของเฮียก็คงต้องทนรับภาระบางอย่างกับพ่อของเฮียแกด้วยไม่ต่างกัน  อืม..สืบทอดกันมาเหมือนเป็นโรคทางพันธุกรรมยังไงยังงั้น

    ก็ยังไม่จบเท่านั้นครับ  คือเฮียแกมีปฏิกิริยาแปลกๆ ช่วงสอบ  แกมักจะกินอาหารเสริมเป็นเม็ดๆ เพิ่มขึ้นและการอ่านหนังสือของแกทำเอาผมอึ้งหนัก  แกอ่าน สปช. สลน. ประถมปลาย  คือถ้าว่ากันให้แหล่มก็คือแกเป็นคนอ่านหนังสือย้อนหลัง(ย้อนไปไหนวะ)  ถ้าชีวะมี 12 บท สอบไปแล้ว 4 บท  รอบต่อมาสอบอีก 4 บท  แกจะกลับไปอ่าน 4 บทแรก  ผมคงต้องถามว่า “เพื่อออออออออออออออ” แต่แกเป็นงี้จริงๆ ครับ ศัพท์การแพทย์เรียกว่า Obsessive compulsive disorder หรือ OCD โรคย้ำคิดย้ำทำ  เวลาเข้าห้องสอบแกจะเข้าช้าประมาณ 15 ถึง 30 นาทีตลอด  จนนิสัยแกตอนนี้ทำให้แกได้ F ไปหนึ่งวิชาเพราะไม่ส่งรายงานการรับคลอดผู้ป่วย ณ วอร์ดสูติ  แกโดนอาจารย์เตือนให้ไปเดินเรื่องเอาใบขอเข้าห้องสอบมาทำให้เสียเวลาเพิ่มบ่อยมาก  แล้วถ้าพูดถึงเรื่องการทำงานเป็นกลุ่มส่งอาจารย์ครับ  แกจะรับอาสาไปซื้ออุปกรณ์ต่างๆ มาเองเพราะแกบอกแกมีรถสามารถไปไหนมาไหนสะดวก  แต่แกเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่มีใครกล้าขัด(แล้วเวลาแกมีเรื่องกับใครแกจะอ้างว่า “พี่เป็นผู้ใหญ่นะ”) ถ้าซื้อของสัก 320 บาท แกจะลงว่า 300 กว่าๆ ครั้งต่อมาซื้อ 450 บาท ลงว่า 400 กว่าๆ สรุปรวมยอดแกปัดเป็น 400 กับ 500 แล้วแกทำแบบนี้ประจำ  ได้กำไรไปไม่น้อย  เวลาจะทำงานอีกครับ  แกมักจะต้องทำตัวเป็นผู้ตรวจการณ์  อะไรๆ ต้องผ่านแกเสมอ  แกจะย้ำคิดย้ำทำ  อะไรไม่ได้ดังใจเอาไปแก้จนพอใจ  ไม่สนว่าคนอื่นคิดยังไง  ต้องเอาแบบของแกแล้วก็บอกว่า “พี่เป็นผู้ใหญ่นะ” ทุกปัญหาจบลงด้วยคำนี้  เอ้อ..เอากะแกดิ

    เรื่องข้าวใหม่ปลามันยังไม่จบ  แกอยู่ด้วยกันไปได้พักหนึ่งพอดีอยู่หอเดียวกับด้วง  ชั้นเดียวกันอีกต่างหาก  ไอ้ด้วงนี่ก็ไปสืบทราบมาว่าเขาทะเลาะตบตีกันบ่อยมาก  ถึงขนาดเฮียแกยืนอยู่บนเตียงและแร้งล้มกลิ้งอยู่บนพื้น  มีเสียงร้อง “ช่วยด้วยออกมานอกห้อง” ทำเอาคนในหอแตกตื่นกันหมด  พวกรอยจ้ำต่างๆ ก็มีให้เห็นกันบ่อยมาก  หนึ่งในหลายๆ เสียงก็บอกแร้งว่าให้เลิกเถอะ  แต่ก็ไม่เลิกกัน  กลับมาคืนดีกันกับน้ำพริกถ้วยเก่าก็ไม่ปาน  ปัญหาสำคัญอีกเรื่องหนึ่งสำหรับคนคู่นี้เวลาสอบ  คือแร้งจะเป็นคนลายมือสวยมากแล้วแกจดรายละเอียดทุกคำพูดของอาจารย์ได้ทันเสมอ  แม้แต่อาจารย์คุยโทรศัพท์ก็ยังไปจดเขามา  เวลาแร้งอ่านจบ  เฮียจะบอกให้แร้งติว  แต่เวลาเฮียอ่านจบเฮียจะแอ๊บบอกอ่านไม่ถึงไหน  หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ว่าอ่านจบแล้ว  ก็ไม่ติวเอาซะดื้อๆ แล้วเวลาคะแนนแร้งออกมาดีกว่าเฮียจะโกรธเป็นฟืนไฟ  ถ้าเฮียแกคะแนนดีแกก็จะทำเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น  เป็นบ่อยซะจนข่าวระหว่างรักเราสองต้องคำสาป

    หนึ่งประเด็นที่ผมว่าฮาที่สุดคือ เกรดวิชา Organic chemistry ที่เฮียแกต้องได้ A บังเอิญอาจารย์กรอกคะแนนผิดลงเน็ตเป็น B+ พี่ตูนแกข้องใจเลยเดินไปถาม

    “อาจารย์ครับเฮียแกได้ B+ ของอาจารย์จริงหรือครับ”พี่ตูนถาม

    “อ้าว..เฮียเขาได้ A นะ  ถ้าอาจารย์กรอกผิดมาบอกด้วยนะ อาจารย์จะแก้ให้”

    “อ๋อ  ไม่มีไรคับผมคงดูผิดเอง”

    พี่ตูนบอกว่าจะเดินไปบอกเฮียแกตอนที่อยู่ปี 6 ให้เจ็บใจ  เกรดมันเปลี่ยนไม่ได้ตั้งแต่มีลงเว็บมหาลัยแล้วอะครับ  แต่ให้เจ็บใจกว่าต้องแบบนี้

    พี่ตูนแกก็มีเรื่องกับเฮียตรงที่แกเคยอยู่ห้องเดียวกันมาก่อนแล้วเรื่องค่าประกันหอเฮียแกไม่เคยจ่ายและไม่ได้มีส่วนร่วมจนออกไป  และมีอีกหลายเรื่องที่เกิดระหว่างเฮียกับพี่ตูน  อย่างเช่นเรื่องล้างห้องน้ำ  คือตอนที่เฮียเป็นแฟนกับแร้งใหม่ๆ ก็จะพกแร้งมานอนที่ห้อง  ประมาณว่าเข้าโครงการฝากเมียไว้กับตำรวจ  แม้เฮียไม่อยู่ห้อง  แร้งก็ยังมานอน  ขนผ้าผ่อนยังกะหนีตามกันมาปักหลัก  พี่ตูนแกไม่พูดอะไร  พี่ตูนแกยอมลงไปนอนบนพื้นแล้วให้คู่รักนอนบนเตียง(ชิบหายนั่นเตียงพี่ตูนนะ)  วันหนึ่งพี่ตูนกลับมาห้องแล้วแกก็ปวดฉี่  พอไขประตูเสร็จสรรพก็พบสภาพห้องน้ำเปิดไฟ  แร้งอยู่ในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัว  เฮียแกแต่งตัวชุดไปรเวท  เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยกัน  อ้างว่าช่วยกันล้างห้องน้ำ(น่าไปเป็นนักการเมืองเนอะ) 

    ข่าวเรื่องเฮียแกมีการจะไปจีบเด็กทันตะระหว่างที่สองเราก็กำลังเป็นแฟนกันอยู่  เอ้อ..ทำเอาแร้งเครียด  แต่สุดท้ายแล้วเด็กทันตะก็รู้แกวชิ่งหนีไปมีแฟนเป็นหนุ่มในคณะเดียวกันซะก่อนเรื่องนี้มีการเรียกเจ๊ Moonfaker ซึ่งอยู่กลุ่มเดียวกันมาปรึกษาด้วย  โยงไปโยงมาอยู่กับวงจรอุบาทว์เฮ้ออ  แร้งเริ่มมีเพื่อนคบน้อยลงเนื่องจากตอนนั้นความรักมันบังตา  ไม่ว่าเฮียจะไม่ดียังไงในสายตาคนในกลุ่มจนสุดท้ายกลุ่มแตกเพราะเฮียแกคนวางแผนเตรียมบทพูดให้แต่ละคนที่แกจะลากมาอยู่ด้วยหมดเลย  กลุ่มแตกอย่างเห็นได้ชัดตอนนั้นไอ้เหลี่ยมก็แค้นเฮียจนเอาเหรียญเดินไปขูดรถเฮียแกด้วย  แล้วก็พวกที่ไปร่วมกลุ่มกับเฮีย  ทำซะเรื่องใหญ่เลย  แต่มันก็น่าแค้นจริงๆ โดนหาว่าไอ้เหลี่ยมจะไปปล้ำเมียเขา  จริงๆ ก็แค่เรื่องที่ไอ้เหลี่ยมเดินข้ามปลายเท้าของแร้งตอนอยู่ในห้องด้วยกันกว่า 10 คน คิดไปได้

    จนในที่สุดตำนานรักดอกเหมยก็สิ้นสุดลงอย่างไม่เหลือเยื่อใย  แร้งเปลี่ยนตัวเองให้สวยขึ้น  เฮียแกก็มีแฟนใหม่อย่างรวดเร็วเป็นรุ่นพี่ในคณะนั่นแหละ  ถึงยังไงก็อ่อนกว่าเฮียแกอยู่ดี  เช่าห้องอยู่ด้วยกันระหว่างที่เรียนฝั่งคลินิกกันแล้ว  หึหึ..จุดดับของคณะก็แทบจะเกิดขึ้นเพราะเฮียแกหึงรุนแรงอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับแร้ง  จนถึงขั้นตบตีแฟนใหม่อีก  และตามมามีเรื่องกันถึงในโรงพยาบาล  ตอนนั้นผมอยู่คนละวอร์ดกับแก  แกอยู่ศัลยกรรม  ตบผู้หญิงกลางวอร์ด  อื้อหือ..ชิบหายแระ  เรื่องราวถึงตำรวจเลยไง  จะฟ้องแต่ตำรวจก็ห้าม  บอกว่าอย่ามีเรื่องเลยไม่งั้นจะเสียอนาคตกัน  แม้แต่อาจารย์คุมวอร์ดก็ไม่เชื่อเพราะว่ารัศมีของเฮียแกทำ First impression ใส่  อาจารย์เลยเคลียร์ใจไม่ขัดข้อง  แล้วข่าวก็จบลง  เป็นอันว่าปิดข่าว  จบลงเท่านี้ก่อนละกันครับสำหรับเรื่องนายหมอหมาที่เป็นหมาซะเอง

    เฉลยคำศัพท์ประจำวันครับ   เอมี(Amy) คือ อีเม(E’ May)  และ  ไคจัง คือ ไคจัง(รน)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×