คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : วันปฐมนิเทศน์นักศึกษาใหม่
จากบทนี้เป็นต้นไปก็คงต้องขอใช้ชื่อเล่นแทนตัวเองว่า “ตูน” นะครับเพื่อความสะดวกสำหรับการเขียนดำเนินเนื้อเรื่อง
��������������� เนื่องจากแม่ผมเป็นอาจารย์สอนอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้� และผมเองก็รู้จักมหาวิทยาลัยแห่งนี้มาตั้งแต่เด็ก� เดินหลับตาก็ไปไหนต่อไหนได้� ทำให้อะไรหลายๆ อย่างกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่มันง่ายขึ้น� สำหรับวันว่างๆ ช่วงรอคอยกลุ่มที่สอบเข้าคณะต่างๆ ด้วยการสอบตรงรวมถึงคณะแพทย์รอบที่ 2 นั้น� ผมจึงไปนั่งเรียนคอร์สภาษาอังกฤษร่วมกับเด็กทันตะรุ่นแรกของมหาวิทยาลัยที่กำลังจะเปิดเป็นหลักสูตรอินเตอร์ซะงั้นอะ� ดีเลยเรียนฟรีของแบบนี้พี่ชอบ� เรียนไปเรียนมาก็ต้องมี talking dict ติดตัวไว้เป็นธรรมดา� ขนาดมันก็เล็กๆ ยัดลงกระเป๋าใส่ปากกาได้� เรื่องนั้นไม่เท่าไรแต่พอวันเรียกตัวเข้าไปทดสอบด้านความถนัดนี่สิ� ใครก็ไม่รู้มากันตรึมแต่ละคนเป็นทีเด็ดของหลากหลายโรงเรียน� ถึงกับโรคประจำตัวออกอาการผื่นขึ้นเต็มตัวเนื่องจากเป็นโรคภูมิแพ้...แพ้ของขาว� เห็นนักเรียนสาวไม่ได้เป็นต้องเดินตามไปชมความงาม� เดินไปเดินมาถูกรุ่นพี่จับตัวไปถ่ายรูป� สรุปว่ารูปของผมในวันนั้นเป็นรูป freshy คนแรกเลยล่ะสิ� เอาหน้าตาหื่นๆ ของโผมไปลงหนังสือวารสารได้ยางงาย....ว้ากกกกก� ถึงเวลาเข้าไปทำแบบทดสอบความถนัด เอาละวาตายห่าละมีแต่ภาษาอังกฤษที่ศัพท์แสงเป็นทางการ� ไอ้เราที่ว่ามั่นใจยังต้องช็อก� แล้วยังชอบถามคำย่อภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์หรือเกี่ยวกับทางวิทยาศาสตร์ด้วย� อาฮะ..ไม่เป็นต้องตกใจไป�� Talking dict ช่วยท่านได้� ด้วยความจิ๋วของมันทำให้ไม่มีใครสังเกตแม้แต่คนคุม� ผมนั่งกดไปเรื่อยๆ รู้ก็รู้กันอยู่ว่าของแบบนี้เขาไม่ประกาศผลกันหรอกในเมื่อสอบรอบ Entrance ผ่านก็ถือว่าผ่าน ทุกอย่างไม่เอามานับ� จนถึงการสอบสัมภาษณ์� คนที่ได้คะแนนสูงสุดไม่ใช่ใคร� ก็ไอ้คนที่อมเครื่องมือเข้าห้องสอบนี่แหละ� มานั่งจุ้มปุ๊กตรงหน้าอาจารย์แพทย์หลายท่านแล้วก็เสียววาบ� แต่ละคนถามกันใหญ่เนื่องจากเรื่องตัวย่อไม่ผิดสักข้อแต่ขออวดตัวเก่งซะหน่อย� พอโดนจิกถามเรื่องตัวย่อคำอื่น� สิ่งที่ได้ก็คือ� “ไม่ทราบครับ” แหะๆ
��������������� ในที่สุดวันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง� วันปฐมนิเทศน์นักศึกษาใหม่� พิธีเริ่มขึ้นอย่างตระการตา(เว่อร์ปะ)รุ่นพี่ออกมาพูดในหลายสิ่งหลายอย่างให้พวกเราฟัง� ตรึงตราซึ้งใจยิ่งโดยเฉพาะการร้องเพลงพระคุณที่สามและเพลงมหาวิทยาลัยก่อนที่จะให้ลุกขึ้นหันหลังกลับไปยังที่นั่งด้านหลังซึ่งผู้ปกครองของทุกคนจะมาร่วมกันในวันนี้� ให้นักศึกษาใหม่กราบผู้มีอุปการะคุณที่อุตส่าห์เสียค่าเล่าเรียนและเลี้ยงดูเรามา..โอ้ว จอร์จ หวังว่าที่อื่นจะให้ทำแบบเดียวกันนี้� ประเพณีเขาดีจริง
��������������� ถึงเวลาพักกินข้าวกลางวันก็มีข้าวเลี้ยงด้วยอะดีจริงๆ เลย� พอหยิบข้าวได้ก็จับหลักนั่งอย่างไม่ใยดีคนอื่นฉีกทุกสิ่งที่บังตาเผยโฉมหน้ากับข้าวฟรีให้ได้ยล� โอ๊ส...จะกินละนะคร้าบบ� พอตักข้าวเข้าปากไปได้หนึ่งคำ� ก็มีหนึ่งเสียงเรียกมายังกับโฆษณาโอโม่มาเฉิดฉายอยู่เบื้องหน้า� ผื่นลามขึ้นแขนในบัดดล� เพื่อนในอนาคตของผม
��������������� “หวัดดีค่ะ� ชื่ออะไรหรอ” เปี๊ยกเอ่ยถาม
��������������� เธอคนนี้มีชื่อเรียกขานกันว่าเปี๊ยก� หลังจากเอามือซ้ายปิดบังการลุกลามของผื่นแดงที่ต้นแขน� มือขวาก็วางช้อนลง� ปากเคี้ยวข้าวหยับๆ หยิบป้ายชื่อ N’ ตูน ให้เธอดูแล้วหยิบทั้งๆ ที่ข้าวเต็มปาก� ไม่กล้าสบตากลัวใจละลาย� ผมก้มหัวหนึ่งทีให้เป็นการทักทายก่อนกินข้าวต่อ� ข้างหลังเธอมีแต่เพื่อนผู้หญิงในใจก็คิด “เราต้องรักษาฟอร์ม� ถ้าคุยไปตอนนี้อาจจะโดนจับได้ว่าหูดำ” แม้จะเสียโอกาสแต่เราก็ไม่เสียใจ ว่ะฮ่าๆๆๆ...โอกาสหน้ายังมีให้ใส่เกียร์
��������������� กินข้าวเสร็จก็ควานหาห้องน้ำเป็นการใหญ่ต้องเก็บอาการเรื่องปวดท้องให้ดี� พอแยกตัวจากสาวๆ ได้ก็ปลดปล่อยทันที� ในห้องน้ำคนมันเยอะจัง� ไม่รู้จักใครสักคน� แต่ละคนก็เก๊กหล่อกันสุดๆ แต่งตัวกันสุดฤทธิ์สุดเดชกะว่าวันนี้ต้องได้ควงใครสักคนไปเที่ยวสยามใช่มะสาดดดดด� หวงนะเฟร้ยยย� แต่ไม่ได้ๆ วันนี้มากับพ่อ� แค่กับที่บ้านก็เล่นจิตวิทยากันมากมายจะมาเสียทีเผยร่างที่แท้จริงกับพ่อไม่ได้� รวมทั้งคนในที่นี้ด้วย(พูดเหมือนเก็บงำความลับเกี่ยวกับพลังพิทักษ์โลกเอาไว้) �เดินออกมาได้สามก้าว หงะ...เน็กไทง่อยซะแล้วมัวแต่ดูพวกที่อยู่ในห้องน้ำทำเท่ไม่มีที่ให้ล้างมือเลย� พอยื่นมือล้างเสร็จก็รีบๆ ออกมา� พ่อบอกกลับเหอะ....ผมเงียบไปพักนึง� อ่า..กลับก็กลับยังไม่ได้ทำความรู้จักกับใครสักคน� ผมกระชากเน็กไทออกด้วยความคับแค้น� วันนี้ไม่หล่อพอต่อให้ก่อนหนึ่งวัน
ความคิดเห็น