คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ต้องขอบอกว่าเวทีแห่งนี้ยกให้กับไคจัง(รน)
ต้องขอบอกว่าเวทีแห่งนี้ยกให้กับไคจัง(รน)
ช่วงการสอบก็ได้ผ่านพ้นไปด้วยดี ตอนนี้ก็มาสานต่อภารกิจไม่ลับในไดอารี่ฉบับนี้กันต่อดีกว่าครับ คือจริงๆ แล้วไม่ใช่ช่วงสอบอย่างเดียวหรอกแต่ว่าปกติแล้วผมใช้ Iphone เป็นคนแรกๆ ของคณะ ใช้ตั้งแต่มันยังไม่มีโปรแกรมการแพทย์ออกมา จนบัดนี้ผมกลายเป็นช่าง Software ที่ใครๆ ก็รู้จักกันเพราะไอ้ห่านี่ลงให้ฟรี(เฉพาะผู้หญิงนะ) เอิ๊กกกกก.. แล้วมันก็ซื้อไอโฟนแล้วมาออดอ้อนให้ผมทำให้ สรุปว่าช่วงนี้ผมกำลังเก็บข้อมูลการประพฤติตนของมันอยู่เรื่อยมาสำหรับการอัพเดทโดยเฉพาะ มันทำตัวสนิทสนมกับผมมาก ปกติมันจะดีกับผู้หญิง กับผู้ชายจะคุยดีกับบางคน และที่แปลกคือผมเป็นหนึ่งในคนที่มันพูดดีด้วยตลอดมา ก็ไม่รู้เป็นไงอะคับ แต่ละหัวข้อที่ผมเคยเขียนถึงมันอนาถจริงๆ ผมคงเป็นที่ดึงดูดของคนพวกนี้ อืม..ด้วยการพูดของมันไม่กี่คำ แต่คุณเชื่อเรื่อง first impression ปะคับ ผมสามารถแปลผลความรู้สึกต่อบุคคลคนนี้ได้เลยว่า “มหากาพย์จังไร”
ผมเชื่อแน่ๆ ว่าหลายคนในที่นี่จะต้องเคยเรียนและท่องจำบทสักวาลมปากมาแล้ว แต่นี่มันเป็นเรื่องจริงที่นิยายต้องอ้างอิงไปเขียน(เว่อป้ะ) อยากจะบอกว่าไอ้ไคจังอะ เป็นเหตุผลอันดับแรกๆ ที่ทำให้ผมอยากลองเป็นผู้หญิงดูบ้าง ต้องการรับรู้ความรู้สึกของผู้หญิงตอนที่อยู่กับมัน(ไม่ได้เป็นเกย์นะ) คือไม่ว่าผมจะดูยังไงนะ ผมสามารถบอกกับบุคคลที่ผมสนิทด้วยได้ว่า
“ใครเชื่อแม่งได้กลายเป็นไอ้พันธุ์ทางแน่” ควาย(โง่)บวกกับเป็ด(เซ็งสุดๆ)
คำปราชญ์ SunShiNe’ ซึนชิเนะกล่าวไว้
อัตชีวประวัติของ ไค..จัง..รน มันซิ่วมาจากคณะเภสัชจากมหาวิทยาลัยเดียวกันนี่แหละครับ มากับเพื่อนๆ เก่าจากคณะเดียวกันเหนียวแน่นหนึบ แล้วก็พ่วงเจ๊เสือกมาด้วยนั่น หึหึ..มันคือผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังการลงทะเบียนเพื่อสอบเข้าและเป็นผู้ทำข้อสอบให้คนอื่นๆ ลอกกันเข้ามาเพิ่มราคีให้คณะแปดเปื้อน ผมจำได้ว่าวิชาแรกที่ได้เจอกับมันคือคณิตศาสตร์ซึ่งเป็นแคลคูลัสปี 1 คือไอ้ผมมันก็ไม่ใส่ความตั้งใจในตอนนั้นแล้วมันก็เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตผม ฮ้า...(ต้องทำตาหวานซึ้งด้วย) มันทำให้ผมทำข้อสอบได้มากขึ้นข้อนึงเนื่องจากผมไม่ได้อ่านจนจบแต่มาสอบเลย แล้วหลังสอบมันก็พูดขึ้นว่า
“เราน่าจะเจอกันเร็วกว่านี้” เอ่อ..เมิงเป็นไรมากป้ะ กุรู้ว่ากุเป็นโอตาคุ..กุดูการ์ตูนมามากแต่นี่มันโลกแห่งความจริงนะครับ
ช่วงรับน้องตอนปี 1 ตอนนั้นผมก็ Blank สุดๆ ไม่รู้จะหันไปคุยกับใคร ไม่รู้จักสักคน พอดีผมชายตาไปเห็นมันกำลังคุยกับใครหลายๆ คนพลางคิดในใจว่า..เอ้อ ดีว่ะ กุอยากเป็นงั้นมั่งอะ(อย่าเทียบความรู้สึกตอนนี้ที่ชอบอยู่คนเดียวเพราะคณะนี้มันเน่าเหม็น) แล้วมันก็นั่งต่อแถวซ้อมเชียร์ข้างหลังผมแล้วสะกิดว่า “เฮ้ย พูดมั่งก็ได้” ยังจำได้ดี แต่กุไม่ได้อยากคุยกะเมิงเลย อยากคุยกับผู้หญิงมากกว่า
แล้วผมก็ได้พบกับแฟนคนแรกของมันในคณะนี้ เรียกขานเธอว่าน้องปอ ตอนนั้นอะรักกันหวานชื่นแทบจะกลืนกินหรือถอดเสื้อผ้าแล้วโป๊ะเชะ หลงรูปจูบกระดาษแม้ยามเราไกลห่าง เคยทำอะไรให้ขุ่นเคืองใจครั้งหนึ่งก็ทำเซอร์ไพรซ์ให้ดอกไม้ช่อหนึ่งกลางห้องเรียนตอนวาเลนไทน์พร้อมคำพูดหวานๆ ว่าขอโทษนะ แม้เจ้า..อาจารย์ก็อยู่ในห้อง แต่อาจารย์ยังหลีกทางให้มัน เวรจริงๆ น่าจะด่าสักทีว่าไม่ดูกาลเทศะ ซึ่งในที่สุดสองคนนี้กลายเป็นงูกับพังพอน เจอกันทีไรด่าเหน็บแนมกัดกันตลอดแม้แต่หน้ายังไม่มอง
หลังจากนั้นแฟนคนต่อมาก็เป็นรุ่นพี่ที่ตกรุ่นมา ขนานนามเจ๊กอซ่อนรูป สรุปว่ารุ่นเดียวกับไอ้ไคจังพอดี เป็นแฟนกันนานพอควร สวีทกันจนขึ้นเตียงตำกันไปหลายรอบซึ่งทำเอาใครหลายคนรับไม่ได้ ระหว่างนี้ก็มีเลิกราแต่ถ่านก็คุกรุ่นติดไฟหลายครั้งมิยอมดับมอด แล้วมันก็พาเด็กที่ไหนๆ มาอวดโฉมให้ยลอยู่เป็นครั้งคราวจนอดคิดไม่ได้ว่ามันเป็นน้องวิลลี่กินชิเคล็ทแล้วหลีหญิงจนเดินตามต้อยๆ ซึ่งลงเอยในปัจจุบันว่าเกลียดกันปานจะฉีกเนื้อหักกระดูก
สำหรับตอนนี้มันก็มาชอบกลุ่มเด็กเฮียหนึ่งคนจากสี่คนซะงั้น แต่กรณีนี้ค่อยโล่งใจหน่อยว่าเพื่อนสาวที่ผมเรียกขานว่าซันไช่เธอรู้ประวัตินายคนนี้ดี และโดยส่วนตัวแล้วเธอไม่ค่อยจะเหลียวมองผู้ชายสักเท่าไรจึงทำให้ไอ้ไคจังได้แต่บอกคนอื่นๆ ว่า “เออ..กุปลื้มเขา” แจกคำพูดไปเรื่อยแล้วก็ทำดีกับคนรอบข้างซันไช่เสมอก็หวังว่าใครๆ จะร่วมมือให้กำลังใจช่วยชักนำมันไปสู่ความสำเร็จได้ แต่ก็เท่านั้นแหละนะเพราะซันไช่เธอสวยเลือกได้นิ แม้แต่ไอ้บอลยังเป็นคู่แข่งด้วยเลย
ถึงแม้จะสถานะโสดตอนนี้แต่ว่ามันก็หว่านคำหวานไปเรื่อย เรียกคนนู้นว่าที่รักที เรียกคนนี้ว่าแม่ เรียกคนนี้ว่าของสูง คำพูดก็ “ครับ...จ้า...ชั้น...แก...” เอาเป็นว่าทุกคำพูดที่ได้ยิน พวกผู้ชายปกติจะไม่หลุดปากให้กระดากหูตัวเอง ทำให้มีคนรักคนห่วงมากมาย เฮ้อ...เห็นแล้วเหนื่อยหน่าย ก็เพราะไอ้พวกที่เล่นด้วยกับมันนี่ก็เป็นพวกกลุ่มทีมชาติแม่บ้านซึ่งผมอคติกับกลุ่มนี้อยู่แล้ว ถ้าจำแนกคนสามประเภทในคณะผมที่บุคคลมีความคิดไม่ควรเข้าไปคบหา พูดเหมือนรู้..รู้แล้วแบ๊ว..แบ๊วแล้วโชคช่วย พวกเธอทั้งหลายจะเป็นคนระดับแรกและระดับสอง แต่ส่วนมากจะพูดเหมือนรู้ อยู่ด้วยแล้วลำบากใจเพราะสิ่งที่เรารู้บางทีมันเป๊ะ คนพวกนี้ชอบขัดบอกอย่างนู้นอย่างนี้ เปิดหนังสือเทียบก็ยังบ่นวุ่นวายหรือแม้กระทั่งชอบทำเออออห่อหมก(ไม่รู้ก็บอกมาเหอะเจ๊..กุรำคาญนะครับ) สรุปว่าคนที่มีสมองนอกตำราได้แค่นี้ก็เลยคบหาเข้ากันได้เป็นปี่ขลุ่ยละว้า
หนึ่งในเรื่องใหญ่ที่ทำให้ผมเขม่นมันโดยส่วนตัวก็เรื่องเด็กเฮียนี่แหละคับ เธอก็มีกันอยู่ 4 คนนี่แหละ ตอนนั้นเป็นช่วงที่รวมกลุ่มเด็กเฮียเข้ากับกลุ่มทีมเชี่ยทำให้ผมมีบทบาทกับกลุ่มนี้ในเรื่องติวบ้างเรื่องความสนิทสนมจากคารมเป็นต่อบ้างจนผมสังเกตได้ถึงแรงกดดันเมื่อผมกับน้องออสนิทกันมากขึ้น เพื่อนกลุ่มเธอคนหนึ่งผมขอเรียกน้องนอ(แร่ด) มีอาการกระสับกระส่ายเรื่อยมา ทำให้ผมเข้าใจในทันทีว่านี่คือปัญหาเด็กๆ ซึ่งบุคคลพวกนี้จะต้องมีครอบครัวอบอุ่นและไม่เคยได้เจอกับเหตุการณ์ร้ายๆในชีวิตอย่างรุนแรงทำให้เอาแต่ใจ ปัญหาที่ผมพอจะเดาได้คือผมต้องไปแย่งความสนใจระหว่างเพื่อนเก่าในกลุ่ม ทำให้ดูเหมือนเธอกำลังขาดความอบอุ่นเนื่องจากน้องออกำลังให้ความสนใจกับผมมากขึ้นทีละนิด น้องนอจากที่คุยกับไอ้ไคจังมาก่อนก็เริ่มคุยกันมากขึ้นและคงจะบ่นเรื่องผมบ้าง ผมก็ไม่ค่อยกล้าบอกหรอกว่าอย่าไปเชื่อฟังไอ้ไคจังมันมาก(เนื่องจากปากหวานก้นเปรี้ยวเก๊กหล่อแล้วถ้าทำตามที่มันพูดย่อมเสียมากกว่าได้) ยิ่งตอนนี้เป็นช่วงที่เธอไม่ชอบขี้หน้าผมจากความสับสนในใจของเธอเองว่าจะหาทางแย่งชิงเพื่อนเธอกลับมาได้อย่างไร ผมจึงไม่อยากจะใส่ไฟเรื่องไคจัง รู้ดีเลยว่าท้ายที่สุดห้ามไม่ไหวเพราะมันคือสันดานของเธอน่ะครับฝังรากลึกลงในพันธุกรรม ร่วมกับปัญหาของน้องออที่เธอก็เริ่มแสดงลักษณะคล้ายกับน้องนอทำให้ผมตัดสินใจทำชีวิตจริงให้เหมือนการ์ตูน สร้างเรื่องไม่เป็นเรื่องโกหกใส่ร้ายตัวเองแล้วเดินออกมาอย่างสง่าเพราะอย่างน้อยถึงแม้รู้อยู่แก่ใจว่าผมไม่ได้ทำอะไรผิดแต่ก็ต้องยอมเป็นคนผิดในสายตาของคนที่คิดไม่เป็นเอาซะเลยและอย่างน้อยผมก็ไม่ได้ทำร้ายผู้หญิงที่ผมไม่ได้โกรธเคืองอะไรด้วยเลย(รายละเอียดความเศร้าจะมีต่อในบทของน้องออ) ถึงกระนั้นไอ้ไคจังมันก็ยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างผมกับมันทั้งที่จริงผมน่ะเป็นผู้ทรงอำนาจเรื่องข่าวสารและเก็บงำความลับหลายอย่างในความไม่สำเหนียกเจียมตัวของมันไว้
เรื่องของไคจังรนในด้านการเงินน่ะ บ้านมันร้วยรวยทำให้ผมอิจฉาในเรื่องที่มันซื้อเกมมาเล่นทุกเกมตั้งแต่ เกมบอย เพล 1 เพล 2 เพล 3 เครื่องวี Xbox360 ดีเอส พีเอสพี และเกมแผ่นแท้อีกมาก แต่ก็นั่นแหละครับ เล่นเกมมากยังสอบไม่ผ่านใบประกอบใบแรกทั้งที่คนอื่นผ่านรอบแรกแต่มันสอบแล้ว 3 รอบยังไม่ผ่าน..อนาถสิ้นดี มัวแต่เลี้ยงสาวอีกต่างหาก
โชคร้ายที่ตกกับมันคือมันดันเป็น DM type 1 หรือเบาหวานในผู้ป่วยอายุน้อย ทำให้มันมีข้อจำกัดในเรื่องกีฬา อาหารการกิน มันจึงชอบใช้ประโยชน์จาก Look ที่มันสร้างให้กับสายตาคนรอบข้างไว้บังลิ้นสองแฉก ร่วมกับความอ่อนแอ
“แกชั้นกินไม่ได้...แต่ชั้นไปนั่งเป็นเพื่อนได้นะ เดี๋ยวชั้นขับรถพาไป”หรือ
“เอ้อ..เดี๋ยวชั้นจะออกไปเซเว่น พวกแกเอาอะไรมั้ย”(ฟังดูธรรมดานะแต่ถามผู้หญิงบ่อยมาก)หรือ
“กุเตะบอลไม่ได้ กุเป็นเบาหวาน เข้าใจกุหน่อย”หรือ
ทำเสียงหายใจฟืดๆ หรือทำเป็นหน้ามืดตาจะปิดหายใจหอบเหนื่อย ถ้าลองพลิกเปลือกตามันจะทราบได้ทันทีว่าไม่ซีด(น่าถุยน้ำลายใส่ตามันด้วย) ปลายมือเท้ายังคงอุ่น เคยเจาะน้ำตาลทีหนึ่งแต่ว่าค่าที่ได้คือ 121 ซึ่งมากกว่าคนปกติบางคนซะอีก(เกณฑ์ปกติ) ถ้าเจาะส่งหา HCO3 กับ Ketone พร้อมกับหาค่า acid-base ได้จะดีมาก ชอบบ่นว่า “กุจะเป็น DKA” ให้ตายเถอะจอร์จ มันแทบจะเป็นทุกคาบเรียนที่จำเป็นต้องนำเสนอผลงาน present ทำไมไม่บอกอาจารย์ไปเลยว่ากลุ่มผมมันเลว ทำมาไม่ดี วันๆ เอาแต่เล่นเกมดูหนังจีบหญิง ซึ่งช่วงที่เล่นไม่เคยมีอาการน้ำตาลต่ำเลยสักครั้งครับอาจารย์ เคยโดนดีมาสองครั้ง ไปทำท่าจะเป็นลมตอนเรียนเลยโดนจิก
“ไม่ใช่อะ..อาการแบบนี้ไม่ใช่”ท่านอาจารย์ภาควิชาศัลยศาสตร์ตกแต่ง
“คุณเป็นอะไรของคุณ...”ท่านอาจารย์ภาควิชาศัลยศาสตร์ทั่วไป
ดีนะ..ถ้าไปทำต่อหน้าอาจารย์แผนกอายุรศาสตร์ละก็ อาจารย์แกคงปล่อยให้มันเล่นละครจนเป็นจริงๆ จะได้เรียกพวกนักศึกษามาดู Case study หายาก ผู้ป่วยอายุ 24 ปี เป็น DM 1 มาด้วยอาการหอบเหนื่อยและใกล้เคียงจะโดนส่งต่อไปแผนกจิตเวชเพื่อแก้อาการ Malingering กับการรักษาด้วยส้นตีน(การใช้ยาไม่ใช่ทางออกสำหรับทุกโรคเราจึงเลี่ยงการใช้ยาเพื่อจะลดผลข้างเคียง) แล้วสำหรับวิชาศัลยศาสตร์ล่ะ..ผลสอบก็ออกมาน่าพึงพอใจติด I 2 รอบทั้งปี 4 และปี 5 (ถึงคราวเมิงแล้ว) เจอกลุ่มอาการ I love you
รวบรวมมาเท่านี้นะครับสำหรับความจังไรของไอ้ไคจัง(รน) ทุกวันนี้ถ้าผมต้องการหาเรื่องมันก็จะท้าแข่งวิ่งรอบสนามแล้วกินน้ำตาล 10 ช้อนโต๊ะ เหอๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา(เก่งกะหมา ซ่ากะเด็ก ท้าหญิงต่อยนี่แหละผมเลย)
ความคิดเห็น