NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชายาข้ามภพ

    ลำดับตอนที่ #2 : ต้องเอาตัวรอด

    • อัปเดตล่าสุด 1 ธ.ค. 67


    เพ่ยเพ่ยยังคงสับสนกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า รวมถึงความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมที่พรั่งพรูเข้ามาในหัวสมองของเธออย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ความทรงจำหลั่งไหลเข้ามามากมายแต่กลับไม่มีความทรงจำที่บอกได้เลยว่าเจ้าของร่างนั้นตายไปได้อย่างไร รู้แค่ว่าวันนี้คือวันแต่งงานของอ๋องหมิงและหยางเพ่ยเพ่ย ความทรงจำสุดท้ายที่ปรากฏอยู่ในหัวของเพ่ยเพ่ยคือตอนที่คุณหนูหยางขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวออกมาจากจวนสกุลหยาง

    อะไรกันเนี่ย

    เพ่ยเพ่ยรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมา เธอเพิ่งจะได้ข้ามภพมาอาศัยอยู่ในร่างใหม่ ได้รับโอกาสให้มีชีวิตอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าเธออาจจะต้องมาตายอีกรอบในเร็วๆ นี้

    ไม่เชื่อก็ดูสายตาของอ๋องหมิงผู้นี้สิ ช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยโทสะและความเคียดแค้นในใจ และดูเหมือนว่ามันพร้อมจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ มือทั้งสองของเขากำแน่น แถมเธอยังถูกเขามัดแขนมัดขาเอาไว้ ไม่รู้ว่ามัดแน่นและนานเพียงใดจนแผลเหวอะหวะและยังเจ็บแสบได้ถึงเพียงนี้

    ใช่แล้ว ตอนนี้เธอกำลังรู้สึกแสบที่ข้อมือและข้อเท้าของตัวเอง เพ่ยเพ่ยไม่อยากจะคิดอะไรแล้วในตอนนี้ เธอรู้แค่ว่าตอนนี้เธอรู้สึกอ่อนล้าเต็มทน เหมือนร่างกายกำลังจะหมดแรงลง ร่างกายของเจ้าของร่างนี้อ่อนแอเกินไป

    เพ่ยเพ่ยเริ่มสัมผัสได้ถึงเปลือกตาอันหนักอึ้งที่กำลังจะปิดลง

    "ซ่า!"

    เสียงน้ำที่สาดกระทบลงบนใบหน้าของเพ่ยเพ่ย เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะความเย็นสายหนึ่งที่ปะทะเข้ามาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว แต่เมื่อเพ่ยเพ่ยลืมตาขึ้นเธอก็ถึงกับต้องสบถออกมา

    "นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ จะอะไรกันนักหนา ท่านเป็นบ้าไปแล้วรึ ทำไมต้องทำกับข้าถึงเพียงนี้!"

    แม้จะโมโหมากแต่เพ่ยเพ่ยก็ยังไม่ลืมที่จะปรับเปลี่ยนคำพูดให้เข้ากับสถานการณ์หรือจะเรียกว่ายุคสมัยก็ว่าได้

    เจ้าของร่างนี้ไปทำอะไรให้ตาอ๋องนี่โกรธกันนะ

    เพ่ยเพ่ยได้แต่คิดทบทวนความทรงจำของหยางเพ่ยเพ่ยในหัวแต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก

    "ตอบมาสิ ข้าไปทำอะไรให้ท่านกัน"

    เพ่ยเพ่ยเอ่ยถามออกมาด้วยความโมโห สายตาของนางไม่มีความกลัวเลยแม้แต่นิด

    อู๋เหยาหมิงเมื่อเห็นสายตาต่อว่าของเพ่ยเพ่ยและยิ่งได้ฟังคำพูดของนาง เขาก็เริ่มรู้สึกเหลืออดกับสตรีตรงหน้าผู้นี้

    "หึ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นผู้ใครกัน เจ้าไม่มีสิทธิ์มาถามคำถามนั้นกับเปิ่นหวางด้วยซ้ำ ทำเรื่องน่าอายเช่นนั้นได้แต่กลับมิกล้ายอมรับความจริง"

    เขาตะโกนใส่นางเสียงดังด้วยโทสะเต็มเปี่ยม

    "ท่านต้องบอกข้ามาก่อนว่าข้าทำสิ่งใดผิด หากว่าข้าทำผิดจริงคนอย่างข้าย่อมต้องกล้ายอมรับผิด แต่หากข้าไม่ผิดท่านจะมาทำอย่างนี้กับข้าไม่ได้ ข้าไม่ใช่สัตว์นะ!"

    เพ่ยเพ่ยเอ่ยเสียงดังฟังชัดด้วยความโมโห นางเองก็ไม่ไหวแล้วเช่นกัน

    "เจ้าใช้อุบายมากมายเพื่อที่จะแต่งเข้ามาเป็นชายาข้า อิจฉาริษยาจนดวงตามืดบอด หากไม่ใช่เพราะสตรีใจดำอำมหิตอย่างเจ้า เหวินเอ๋อคงจะไม่เป็นเช่นนี้ หากนางไม่ฟื้นขึ้นมาล่ะก็ ข้าจะให้เจ้าชดใช้แน่"

    อู๋เหยาหมิงกัดกรามแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดโปนตรงขมับ เขาอยากจะฆ่านางให้ตายด้วยมือของเขานัก สตรีเจ้าเล่ห์ นางยังมีหน้ามาลอยหน้าลอยตากล้าเถียงเขา

    อ๋องหมิงเงื้อมือขึ้นด้วยความโมโหก่อนที่จะใช้มือข้างนั้นบีบไปที่คางของนางอย่างไม่ออมแรงเลยสักนิด เพ่ยเพ่ยร้องครางออกมาด้วยความเจ็บปวด

    "อื้อ...ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ"

    "ท่านอ๋องโปรดยั้งมือด้วยพะยะค่ะ!"

    ชายร่างสูง รูปร่างกำยำผู้หนึ่งตะโกนทัดทานเขาไว้ พอเพ่ยเพ่ยหันไปมองหน้าบุรุษผู้นั้นนางก็จำเขาได้ในทันทีจากความทรงจำของเจ้าของร่าง เขาคือ 'เหลยคัง' องครักษ์คนสนิทและยังเป็นมือขวาของอ๋องหมิง

    "ท่านอ๋องโปรดยั้งมือก่อนพะยะค่ะ หากพระชายาเป็นอะไรไปองค์ไทเฮาและฝ่าบาทอาจต้องผิดใจกับสกุลหยาง ท่านอ๋องได้โปรดไตร่ตรองดูอีกทีเถิด อย่างไรท่านเสนาบดีก็เป็นคนของฝ่ายเรานะพะยะค่ะ"

    แม้เหลยคังจะกล้าๆ กลัวๆ แต่เขาก็ต้องยอมเสี่ยงที่จะเอ่ยคำทัดทาน เพราะเขาไม่อยากให้ท่านอ๋องบันดาลโทสะจนนำพาปัญหาใหญ่ตามมาให้แก้ในภายหลัง

    อ๋องหมิงสะบัดมือออกจากคางของเพ่ยเพ่ยอย่างหงุดหงิดแล้วกำมือแน่นด้วยโทสะที่ยังไม่ลดลงเพียงสักนิด เขาหมุนตัวพลางสะบัดแขนเสื้อลงอย่างเดือดดาล

    "หึ…ดูท่าแล้วนางคงสบายดี ปิดตำหนักของนาง ห้ามผู้ใดเข้าออกและห้ามผู้ใดตามหมอถ้าเปิ่นหวางไม่สั่ง"

    พูดจบอ๋องหมิงก็เดินจากไปในทันที

    "ไอ้บ้านี่!"

    เพ่ยเพ่ยสบถออกมา เพราะแรงที่มีอันน้อยนิดจึงไม่มีใครได้ยินที่นางพูด

    จะลีลาอะไรนักหนา หยางเพ่ยเพ่ยไปทำอะไรผิดมาเจ้าอ๋องบ้านั่นก็ไม่ยอมบอก มัวแต่อ้ำๆ อึ้งๆ อยู่ได้

    ยังไม่ทันที่เพ่ยเพ่ยจะคิดอะไรไปไกลกว่านี้ เสียงสะอื้นไห้เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ

    "คุณหนู คุณหนูของข้า ท่านเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ ฮือๆ เจ็บมากไหมเจ้าคะ"

    'ชิงชิง' สาวรับใช้คนสนิทของหยางเพ่ยเพ่ย นางวิ่งเข้ามาในห้องอย่างรีบร้อนทันทีที่อ๋องหมิงเดินออกไปจากตำหนัก

    สาวน้อยอายุรุ่นราวคราวเดียวกับหยางเพ่ยเพ่ยผู้นี้ได้ติดตามป้าของนางเข้ามาอยู่ในจวนสกุลหยางตั้งแต่ยังเล็ก ชิงชิงคอยรับใช้และเป็นเพื่อนเล่นให้กับเพ่ยเพ่ยมาตั้งแต่นางอายุได้แปดหนาวและนางก็เป็นสาวใช้คนเดียวที่ติดตามมารับใช้เพ่ยเพ่ยที่จวนอ๋องด้วย

    "ชิงชิง เจ้าช่วยแก้มัดให้ข้าก่อน พาข้าไปที่เตียงที ข้ารู้สึกว่าขาของข้าไม่มีแรงแล้ว"

    เพ่ยเพ่ยเอ่ยเสียงเบา เธอไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะเดิน เธออ่อนล้าเต็มทนและเธอต้องการการพักผ่อน

    ชิงชิงรีบเข้ามาแก้มัดให้คุณหนูของตน นางยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุดเมื่อได้ยินเสียงโอดครวญของผู้เป็นนายดังออกมาเป็นระยะในขณะที่นางกำลังแก้มัดให้

    "ข้าดูแลคุณหนูได้ไม่ดี เป็นความผิดของข้าเอง ฮือ…"

    "ไม่ใช่ความผิดของเจ้าหรอกชิงชิงอย่าได้โทษตัวเองไปเลย พาข้าไปนั่งที ช่วยรินน้ำให้ข้าด้วยนะ"

    เพ่ยเพ่ยกล่าวเสียงแหบแห้ง นางไร้ซึ่งเรี่ยวแรงแล้วจริงๆ

    ชิงชิงพาเพ่ยเพ่ยไปนั่งลงบนเตียง นางจัดการรินน้ำชาให้เพ่ยเพ่ยอย่างร้อนรนก่อนจะเริ่มถอดเครื่องประดับอันหนักอึ้งบนหัวของนางออก

    ชิงชิงนึกอนาถใจต่อคุณหนูยิ่งนัก คุณหนูของนางคือสตรีผู้งามเป็นหนึ่งในแคว้นอู๋ เหล่าคุณชายน้อยใหญ่ต่างหมายปองที่จะได้นางมาครอบครองกันทั้งนั้น แต่มิรู้ทำไมคุณหนูถึงได้ดึงดันที่จะแต่งเข้าตำหนักของท่านอ๋องใจร้ายผู้นี้กันนะ

    "คุณหนูเจ้าคะ ข้าควรทำอย่างไรดี ท่านอ๋องไม่ให้ใครตามหมอ ข้าจะทำอย่างไรดี คุณหนูเจ็บมากไหมเจ้าคะ ฮึก…ฮือ"

    ชิงชิงมองข้อมือของเพ่ยเพ่ย ข้อมือสวยที่ตอนนี้กลับกลายเป็นแผลเหวอะหวะ คุณหนูของนางต้องเจ็บมากแน่ๆ ขนาดนางยังแทบจะทนดูไม่ได้เลย

    "ชิงชิงเจ้าหยุดร้องไห้ได้แล้ว เจ้าช่วยไปเอาน้ำอุ่น และผ้าสะอาดสำหรับพันแผลมาให้ข้าที ข้าต้องล้างแผลและเช็ดคราบเลือดพวกนี้ออกก่อน"

    "เจ้าค่ะ" ชิงชิงรับคำเสียงสั่นก่อนจะรีบลุกขึ้นจากไปตามคำสั่ง

    "เดี๋ยวชิงชิง ข้าจำได้ว่าในหีบสินเดิมของข้า ท่านพ่อได้จัดเตรียมสมุนไพรและยาสรรพคุณล้ำค่ามากมายไว้ให้ข้าด้วย เจ้าช่วยไปเอาออกมาที เอาออกมาทั้งหมดเลยนะ"

    เพ่ยเพ่ยต้องรีบฆ่าเชื้อและทำแผลให้เรียบร้อยก่อนที่นางจะเป็นลมไปเสียก่อน

    เหอะ…ไอ้เจ้าอ๋องบ้านั่น ไม่ให้คนตามหมอแล้วยังไง ใครสนกันล่ะ ก็ข้านี่ไงหมอ

    ไม่รู้เสียแล้วว่านี่หยางเพ่ยเพ่ย แพทย์หญิงประจำหน่วยรบพิเศษ แผลสาหัสกว่านี้นางก็เคยเจอมาแล้ว คนอย่างเธอจะเอาชีวิตรอดจากแผลแค่นี้ไม่ได้ก็คงต้องส่งคืนความรู้ให้เหล่าอาจารย์หมอแล้วล่ะ

    ถึงแม้จะไม่มีพวกยาทันสมัยเหมือนในยุคปัจจุบัน แต่สมุนไพรจีนต่างๆ ก็มีสรรพคุณที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ายาปฏิชีวนะพวกนั้นเลย อาจจะเห็นผลช้าหน่อยแต่เธอก็มั่นใจว่าเธอจะต้องมีชีวิตรอดอย่างแน่นอน เพียงแค่ต้องคอยกำชับชิงชิงให้เตรียมรับมือกับอาการต่างๆ ที่จะตามมายามที่แผลอักเสบ เพราะเธออาจจะสลบไปเพราะพิษไข้เล่นงาน

    ต้องกำชับนางไว้ก่อน ยิ่งเจ้าอ๋องบ้านั่นห้ามไม่ให้ใครเข้าออกเรือนของนาง ก็คงมีเพียงชิงชิงที่เป็นความหวังเดียวของนางแล้ว

    คิดไปคิดมาเพ่ยเพ่ยก็ดีใจไม่น้อยที่เธอเคยได้ผ่านการเรียนรู้และฝึกฝนให้รู้จักสมุนไพรชนิดต่างๆ รวมถึงวิธีการใช้ เธอต้องเรียนรู้เอาไว้เผื่อในยามที่ต้องไปปฏิบัติภารกิจในป่า หรือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินที่ไม่สามารถหายาปฏิชีวนะมาใช้ได้ทัน


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×