ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Just love......ขอเพียง(แค่)ได้รัก

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.ค. 49


    บทนำ



                 



                 



                   ภายในห้องนอนขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยเครื่องเรือนทันสมัยที่เข้ากับผนังโทนสีฟ้าอบอุ่นตามรสนิยมของเจ้าของห้อง โดยจัดให้มีเตียงขนาควีนไซด์ตั้งอยู่ตรงกลาง ระหว่างโต๊ะเครื่องแป้งและโต๊ะทำงาน 

                       
                       ร่างบางขดตัวนิ่งใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ยักษ์ นอนหลับสนิทชนิดที่แผ่นดินไหวระดับเบาๆคงไม่ตื่น.....แต่ก็ต้องลุกมาขึ้นมานั่งสลึมสลือเมื่อเตียงสั่นสะเทือนด้วยแรงกระโดดจากร่างเล็กที่พึ่งถลาเข้ามาในห้อง

                   


     "คุณแม่ขาตื่นได้แล้วค่ะ เดี๋ยวไปทำงานสาย นกน้อย ไม่รู้ด้วยนะ"

                       
                       ร่างบางขดตัวนิ่งใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ยักษ์ นอนหลับสนิทชนิดที่แผ่นดินไหวระดับเบาๆคงไม่ตื่น.....แต่ก็ต้องลุกมาขึ้นมานั่งสลึมสลือเมื่อเตียงสั่นสะเทือนด้วยแรงกระโดดจากร่างเล็กที่พึ่งถลาเข้ามาในห้อง

                   


     "คุณแม่ขาตื่นได้แล้วค่ะ เดี๋ยวไปทำงานสาย นกน้อย ไม่รู้ด้วยนะ"

                        
    "อืมมม....แม่ขอนอนต่ออีกห้านาทีนะลูก" วาสนาเอ่ย


    "ไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋ยวข้าวเช้าจะเย็นซะก่อน หนูอุตส่าห์ตื่นแต่เช้ามาช่วยป้าสายจิตทำกับข้าวด้วยน้าาาา"

                   

                    หลังจากได้ยินเสียงใสแจ้วๆนั้น คุณแม่ในวัย 32 จึงหายง่วงทันที  แขนขาวเรียวยาวสวยตวัดกอดร่างเล็กในชุดกระโปรงบานสีแดง  พร้อมกับหอมแก้มยุ้ยนั่นด้วยอาการเอ็นดูที่สุด ร่างเล็กหัวเราะชอบใจจึงหอมตอบ สองแม่ลูกเล่นกอดหอมแก้มกันอยู่บนเตียงสักพักหนึ่ง...... วาสนาหยิบเสื้อคลุมที่แขวนอยู่ข้างเตียง ก่อนจูงมือลูกสาวเดินลงบันไดมาข้างล่าง 

    "สายป่านนี้แล้วทำไมยังไม่ไปโรงเรียนอีกละ ลูก ? " 

    เด็กหญิงส่ายหน้าอย่างเร็วจนเปียที่ถักไว้สองข้างแกว่งตาม ปากจิ้มลิ้มสีแดงเอ่ยตอบด้วยเสียงดังฟังชัด

    "แหมๆ คุณแม่ก็ลืมซะแหละ วันนี้เป็นวันหยุดพิเศษที่ทางโรงเรียนแจ้งไว้นานมากกกแล้วไงคะ "  

    "อ้าวตายจริง! แม่ลืมเสียสนิทเลย แต่ เอ๊ ...แม่ไม่เห็นใบแจ้งผู้ปกครองเลยนี่นา " วาสนาพยายามนึกจนหัวคิ้วทั้งสองย่น....หรือว่าช่วงนี้หล่อนทำงานหนักมากไปจนลืมเรื่องที่ลูกบอก

    "อุ้ย! หนูนึกออกแล้วว่าหยิบเอกสารไปให้คุณยายเซ็นแทน เพราะตอนนั้นคุณแม่ไม่อยู่ไปต่างจังหวัดค่ะ แหะ แหะ..." นกน้อยยิ้มอย่างเขินๆและยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ที่พึ่งก้าวเข้ามา

    "แด๊ดดี้ !"  นกน้อยวิ่งถลาเข้าไปสู่สองแขนที่อ้ารับของชายผมสีน้ำตาลเข้ม เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าสวย

                   

                    ร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีดำก้มลงกอดเด็กหญิงตรงหน้าด้วยความทะนุถนอม เหลือบมองร่างบางที่ยืนอยู่ข้างๆ หรืออีกนัยหนึ่งก็คืออดีตภรรยาของเขาที่พึ่งหย่าขาดไปเมื่อหลายเดือนก่อน  วาสนายืนจ้องด้วยแววตาที่อ่านไม่ออกว่าเจ้าตัวคิดอย่างไงกับภาพของสองพ่อลูกที่ดูรักกันมาก


    "สวัสดีวินนี่" มาร์คเอ่ยทักหญิงสาว ด้วยน้ำเสียงที่เหินห่าง 

    "ไงคะ มาร์ค ไม่นึกว่าวันนี้คุณจะมาได้ด้วย" วาสนาแค่นยิ้ม พลางกลั้นอาการเจ็บปวดในใจยามที่ได้ยินน้ำเสียงของอดีตสามีตน โดยไม่รอฟังคำตอบจากชายหนุ่ม หญิงสาวก็จูงมืงลูกสาวไปที่ห้องครัว

    "ต้องมาสิ วันนี้ผมสัญญากับลูกแล้วว่าจะพาไปเที่ยวที่ทะเล"ร่างสูงใหญ่เดินตาม พยักหน้าขอบคุณหญิงสาวเมื่อหล่อนรินกาแฟใส่ถ้วยให้

    "ใช่คะ วันนี้แด๊ดดี้จะพาหนูไปเที่ยว! "นกน้อยยิ้มกว้างอย่างมีความสุข เด็กหญิงกระโดดไปมาอย่างร่าเริง เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากทั้งสองได้เป็นอย่างดี

    "แล้วจัดของหรือยังจ๊ะ แม่นักเที่ยว"วาสนาก้มลงมองลูกสาว หัวเราะขำเมื่อเด็กหญิงตกใจอ้าปากค้างเหมือนพึ่งนึกออกว่าตนเองลืมอะไรไป

    "จริงด้วย หนูลืมหยิบชุดว่ายน้ำไปด้วย งั้นเดี๋ยวหนูไปเตรียมก่อนนะคะ " พูดเสร็จร่างเล็กก็รีบวิ่งขึ้นไปบนห้องทิ้งไว้ให้ผู้ใหญ่สองคนอยู่ในห้องครัว

                      หลังจากที่ดวงใจของทั้งวาสนาและมาร์คออกจากห้องแล้ว ทั้งคู่ต่างมองหน้ากันเงียบๆ ก่อนที่วาสนาจะเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาอะไรทานหรืออีกนัยหนึ่งคือหาอะไรทำสักอย่าง ก่อนที่ตัวเธอจะหมดความอดทน ..ร้องกรี๊ดใส่ผู้ชายตรงหน้า

              
                      ชายหนุ่มจ้องร่างบางตลอดเวลาไม่ว่าเธอจะเดินไปไหน....หล่อนยังคงสวยอยู่เสมอแม้ว่าจะมีลูกแล้ว ใบหน้ารูปไข่ คิ้วเรียวสวยได้รูป สองนัยน์ตาดุจนิลน้ำงามคู่โต ประกอบกับปากสีแดงอิ่มเอิบ ทำให้วาสนาในตอนนี้ ยังคงเหมือนหญิงสาวที่เขาพบเมื่อสิบปีก่อน

                   
                     เขายังจำได้ แม้ว่าผ่านมาสิบปีแล้ว วันที่เขาและหล่อนเจอกันครั้งแรก........


    "เฮ้! พวก นี่วินนี่ แฟนของข้า "  ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กำยำ ผมสีดำนุ่มสลวยยาวระต้นคอ หน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่ง เดินเคียงคู่มากับหญิงสาวร่างบาง ผมดำยาวตรง ผิวขาวอมชมพู แก้มแดงซ่านด้วยความอาย แต่ก็ยังคงยิ้มทักทายคนในห้องที่หันมามองคู่รักด้วยความสนใจ....ใครจะไม่สนใจล่ะในเมื่อ เจ้าของข่าวดังมายืนอยู่ต่อหน้า ใครๆก็รู้ว่าชายหนุ่มนัยน์ตาคมบาดใจสาวๆทั่วทั้งมหาวิทยาลัย หวงความเป็นโสดขนาดไหน  ไม่ว่าจะเป็นสาวแบบไหน  คริส ก็ไม่เคยสนใจ จนมีข่าวลือว่าหนุ่มหล่อ พ่อรวย นักเรียนแพทย์คนนี้เป็น 'เกย์' เสียด้วยซ้ำไป

                  
                       
    แต่ข่าวลือเรื่องนั้นก็เป็นอันตกไป เมื่อมีข่าวใหม่มาแทนว่า ช่วงสามอาทิตย์ที่ผ่านมา มีคนเห็น   คริสเดินอยู่กับสาวชาวเอเชีย และดูเหมือนคริสจะหลงเธอคนนี้เอามากๆ

    "สวัสดีค่ะ เราชื่อวาสนา เรียกวินนี่ก็ได้นะ แล้วขอบอกว่าไม่ต้องเชื่ออีตานี่มาก เราไม่ได้เป็นแฟนกัน" หญิงสาวเอ่ยแก้ตัว แล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เมื่อชายหนุ่มหันขวับมามองทันทีเมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย

    "ได้ไงที่รัก เราตกลงเป็นแฟนกันแล้วนะ" คริสรีบโวย

    "ไม่ใช่ยะ  เราตกลงว่าจะดูกันไปก่อนสามอาทิตย์ ถึงแม้ว่าวันนี้เป็นวันครบกำหนด แต่ยังไม่หมดวันเลยนะ นายขี้ตู่" ร่างบางแย้ง แกล้งตีหน้าเครียด แต่อมยิ้มในใจ เมื่อเห็นพ่อหมีของหล่อนคอตก  

                   
                        หลายคนประหลาดใจเมื่อเห็นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ โดยเฉพาะคริสที่รู้กันว่าเป็นหนุ่มมาดขรึมติดจะเย็นชา
     ไม่เหมือนคนที่เห็นตรงหน้าที่ดูจะอารมณ์ดีตลอดเวลา แววตาบ่งบอกถึงความรักเต็มเปี่ยมต่อหญิงสาวข้างเคียง

                    มาร์คเป็นหนึ่งคนในพวกที่ประหลาดใจ ขนาดเขาซึ่งถือว่าเป็นเพื่อนสนิทของคริส ยังไม่ค่อยจะเห็นเพื่อนอารมณ์ดีขนาดนี้ แสดงว่าแม่สาวนั่นคงเป็นตัวจริง คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มจึงผุดยิ้ม ลุกขึ้นเดินไปตบบ่า

    "ไง!เพื่อน หนอย มีแฟนแล้วไม่บอกกันเลยนะ" มาร์คแกล้งแซว ยิ้มขบขันเมื่อเห็นเพื่อนเค้าบ่นอะไรพึมพำ แล้วยิ้มกว้างทักทายหญิงสาวที่มองอยู่

    "สวัสดี วินนี่ ผมชื่อมาร์ค แคลนตัน เป็นเพื่อนกับคริส ยินดีที่ได้รู้จักฮะ "

    "สวัสดีคะ มาร์ค ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันคะ" พลันห้องก็ดูสว่างขึ้นทันตาเมื่อหล่อนยิ้ม   รอยยิ้มของหล่อนสวยน่ามอง  มีรอยยิ้มทั้งปากและนัยน์ตาคู่งาม.........เขาจำได้ว่าเผลอตะลึงมองอยู่นานจนคริสต้องสะกิดให้เขาปล่อยมือที่จับอยู่ออก

    ............และนั่นเป็นครั้งแรกที่เราสองคนเจอกัน

    -
    -
    -
    -
    -

    -
    -
    -
    -
    -

    ------> คุยกันก่อน
    เรื่องนี้เป็นเรื่องยาว ที่เปลี่ยนแนวการเขียน เพราะอยากลองแต่งแนวซึ้งๆบ้าง
    ปกติ โย จะเขียนแนวตลกกะรักหวานแหววซะส่วนใหญ่ ประมาณ เลิฟคอมมาดี้ ซะงั้น
    ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×