ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผ่ามิติทะลุแดนฝัน

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 8 : กลยุทธ์สลัดรัก ตัดสัมพันธ์ 2

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 47


                                                    ผ่ามิติทะลุแดนฝัน

                                      ตอนที่ 8 : กลยุทธ์สลัดรัก ตัดสัมพันธ์ 2




            ผ่านมา..... 3 วันแล้ว ตั้งแต่เริ่มกลยุทธิ์บ้าๆนั่น  3 วันแล้ว.....มัน(เอกภพ) ก็ยังไม่เลิกมาตอแย จนสาวจ้านึกท้อ และละอายแก่ใจไปเองในการทำตัวมีสถุนของตนเอง ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้สังเกตการณ์ทั้งหลาย (เพื่อนๆตัว D) ที่มันท้น ทนๆๆ ยิ่งกว่าอ้ายทุย



            ผ่านมา..... 3 วันแล้ว ที่สาวจ้าสลัดคราบความเป็นกุลสตรี(หลบใน) และความกระดากอาย ใส่วิญญาณของนักเลงโตทำตังน่ารังเกียจขนาดนี้ พูดหยาบก็เท่านั้น (พูดไป สบถไป) ทำหน้ากวนอวัยวะเบื้องต่ำตลอดเวลาจนเมื่อยหน้า กินอาหารมูมมามสุดๆ ขนาดใช้มือกิน ฯลฯ  สรุปง่ายๆขนาดทำตัวสุดยอดยิ่งกว่าพวกชั้นต่ำแล้ว ม้าน.....ก็ยังตามไม่เลิก แถมยังจะมาทำท่าพิศวาสมากกว่าเดิมอีก เฮ้อ......ตูล่ะกลุ้ม!!!



            “เฮ้ย! จ้าเป็นไงมั่ง ได้ผลมะ” หนุ่มตรีแถเข้ามาหาเพื่อถามความคืบหน้า



            “ได้ผลบ้าอะไรอ่ะ ดูนั่นดิ” สาวจ้าพูดอย่างหงุดหงิด พลางโบ้ยหน้าให้เพื่อนดูผลงาน ซึ่งเมื่อหนุ่มตรีหันไปแล้วก็เห็นนายเอกมานั่งเฝ้าอยู่เหมือนเดิมด้วยดวงตาฉ่ำเยิ้ม



            “เฮ้ย!! ทำไมเป็นงั้นล่ะ แกทำไรผิดพลาดไปรึเปล่าจ้า” หนุ่มตรีอุทานอย่างตกใจ พลางถามอย่างสงสัยที่เห็นผลมันกลับเป็นตรงกันข้ามกับความน่าจะเป็น



             “ก็ไม่นี่....ทำตามแผนทุกอย่าง สงสัยงานนี้ถ้าจะมีคนโดนกระทืบนะ” สาวจ้าพูดลอยๆ พลางปรายตามาที่คู่สนทนาเป็นนัยๆ



            “เออ....ถ้าทำตามแผนมันน่าจะได้ผลนะ แกทำไงวะ ไหนลองแสดงให้ดูดิ ตอนนี้ไอ้เด็กนั่นก็กำลังจ้องอยู่ด้วย” หนุ่มตรีพยายามหาทางรอด เลยเบี่ยงประเด็นให้เพื่อนสาธิตวิธีการให้ดูแทน เพื่อที่ตัวเองจะได้เตรียมวิจารณ์



            “ก็กำลังทำอยู่นี่ไงไม่เห็นเหรอ  เชอะตาไม่ถึงเลย” สาวจ้ากล่าวอย่างหงุดหงิด และหนุ่มตรีก็ถึงบางอ้อ เมื่อเห็นเพื่อนสาวนั่งด้วยท่านักเลง โดยนั่งขัดสมาธิแล้วชันเข้าขึ้นข้างหนึ่ง โดยตลบชายกระโปรงพรีสตัวยาวไว้ที่ระหว่างขากันโป๊ ด้านหน้ามี มาม่า ทุบแล้วคลุกด้วยเครื่องปรุง เทอยู่บนกระดาษที่ใช้ลวดเย็บกระกาษเย็บติดจนเป็นกระทงลูกย่อมวางด้านหน้าคอยกรอกเข้าปากด้วยความเมามัน จนเขาต้องร่วมแจมด้วย แต่เพื่อนสาวก็ไม่ว่าอะไร และไม่เคยว่าด้วย เพราะความใจกว้างและไม่เคยหวงของ เป็นอีกคุณสมบัติหนึ่งที่ทำให้เพื่อนๆรัก และคบกันได้ยืด



            ขณะที่ร่วมแจม หนุ่มตรีก็สังเกตท่าทีของ ‘หนุ่มเป้าหมาย’ ซึ่งยังคงจ้องนิ่งเหมือนมองไม่เห็นท่านั่งอันแสนจะทุเรศลูกนัยตา กับการเปิบแบบอุบาทๆของเพื่อนสาวเลย ทั้งที่เขาก็เห็นว่ามันก็สุดจะบรรยายจริงๆ



            “เฮ้ย! ตีบทแตกเกินไปแล้ว เพลาๆลงหน่อยก็ได้ เดี๋ยวเรากินไม่ลง” หนุ่มตรีเอ่ยเตือนเพื่อนสาว เมื่อเห็นว่าตนเองก็ชักจะไม่ไหว



            “เออดิ ขนาดนี้มันยังไม่สะดุ้งสะเทือนเลย เราก็อายแทบแย่ดูสิ เพื่อนเราหายจ้อยกันไปหมดแล้ว ไม่มีใครกล้าอยู่ใกล้เราซักคนเดียวเห็นมะ อายคนอื่นเขาจะตายT^T” สาวจ้าพูดอย่างน้ำตาตกใน เพราะเพื่อนทั้งหลายเริ่มปลีกวิเวกไปทีละคนสองคน เมื่อเธอเริ่มการแสดงบทบาทสาวชั้นต่ำ จะเหลือก็แค่เฟริสคนเดียว (  T^T ฮือๆๆ....ToT โฮๆๆๆ ขอบใจมากเฟริส:สาวจ้า / ไม่เป็นไรครับนายหญิง....ผมทนได้ : เฟริส)



            “เหรอ.....” หนุ่มตรีมองเพื่อนอย่างปลงๆ โดยที่สาวจ้ายังควักฮอตดอก ที่เพิ่งซื้อที่ 7 Eleven หน้าประตู Mc มากินอย่างเอร็ดอร่อย แต่วิธีการกินของเจ้าหล่อนสิ ภายในถุงบรรจุเต็มไปด้วยซอสมะเขือเทศกับมายองเนส แล้วก็มัสตาร์ดอีกนิดหน่อย ที่เทมาโดยไม่กลัวร้านเขาจะเก็บค่าซอสเพิ่ม เธอหยิบเอาฮอตดอกชีสที่ชโลมไปด้วยซอสที่ผสมจนเข้ากันแล้วจนชุ่ม ขึ้นมาค่อยๆเลียซอสกินจนหมด เหลือแต่ฮอตดอกเปล่าๆ แล้วเอามันกลับลงถุงแล้วเลียใหม่อยู่ประมาณ 4-5 ครั้งแล้วค่อยๆ ละเล็มกินไปเรื่อยๆอย่างกลัวหมด และทำอยู่อย่างนี้จนครบทั้ง 5 ไม้ที่สถิตอยู่ในถุงที่เห็นคราวแรก ซึ่งหนุ่มตรีเมื่อเห็นกรรมวิธีการกินของเพื่อน ก็ทำหน้าพะอืดพะอมแบบอยากจะไปเอาข้าวกลางวันกับ มาม่า ที่เพิ่งกินไปเมื่อครู่ออกไปฝากในถังขยะที่อยู่หน้าห้องเป็นกำลัง เมื่อเขาเบือนหน้าไปทาง ‘เป้าหมาย’ ก็พบว่านั่งมองเพื่อนสาวที่นั่งกินอย่างโคตรน่ารังเกียจเขม็ง แล้วอ้าปากค้าง หน้าแดงก่ำ ซึ่งอาการผิดเขาอย่างสุดขั้วจนเขานึกสงสัยว่า ไอ้รุ่นน้องคนนี้คงมีอาการผิดปกติทางจิตขั้นรุนแรง แต่ก็เริ่มรู้สึกสะกิดใจ เมื่อลองหันไปพิจารณาเพื่อนที่กำลังนั่งโซ้ยอย่างไม่สนใจใครก็......



            ‘โอ้พระเจ้า......ไอ้เด็กลามก’ หนุ่มตรีอุทานลั่นอยู่ในใจ เมื่อเริ่มเห็นว่าอะไรเป็นอะไร เพื่อนของเขาซึ่งกำลังกินอย่างมูมมามสุดๆ แต่ถ้ามองอีกแง่มันก็ส่อ (ไปในทางอนาจาร) สุดๆเหมือนกัน



            “จ้า! เรารู้แล้วว่าทำไมมันไม่ได้ผล” เพื่อนตรีพูดอย่างตื่นๆกับเพื่อนที่จัดการส่งฮอตดอกชิ้นสุดท้ายเข้าปากไปพอดี



            “ทำไมล่ะ ? ” สาวจ้าถาม งงๆ



            “ก็ไอ้เด็กเวรนั่น มันลามกโคตรๆเลยอ่ะดิ เวลาแกกินนะ ส่อสุดๆเลย แถมท่านั่งอีก มันยั่วกิเลสรู้ตัวมั่งป่าวเนี่ย ฉะนั้นเลิกเหอะ ไม่ต้องทำแล้ว” เพื่อนตรีเตือนด้วยความหวังดี



            “งั้นเหรอ เออ...เลิกดีกว่า ดีเหมือนกันชักจะทนตัวเองไม่ไหวเหมือนกัน” ว่าแล้วสาวจ้าก็ปรับตนเองกลับมาให้เป็นปกติ แล้วค่อยๆไปตามเพื่อนๆกลับมา เนื่องจากสำนึกผิด เอ้ย! เลิกแผนการแล้ว ท่ามกลางเสียงโมทนาสาธุของเพื่อนๆ ไม่เว้นแม้แต่เฟริส (ก็ผมเป็นคนดูแล และสอนมารยาทให้นายหญิงนี่ครับ ย่อมดีใจเป็นธรรมดา นายหญิงต้องเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบแน่ๆครับ แม้ว่าระยะทางยังอีกยาวไกลก็ตาม(ดูได้จากท่ากินไส้กรอก) : เฟริส / นี่นายชมหรือว่านายด่าชั้นยะเนี่ย พูดดีๆ พูดไม่ดีเดี๋ยวหลังแหวน : สาวจ้า / ชมสิครับ นายหญิง : เฟริส / แล้วไป : สาวจ้า/ เฮ้อ.....: เฟริส)



                                   <<<<<>>>>><<<<<<>>>>><<<<<>>>>>



            หลังจากที่สาวจ้า กลับมาทำตัวเป็นปกติแล้ว ความสงบสุขในชีวิตก็เริ่มกลับมา แม้จะไม่เต็มร้อยเพราะมีไอ้เจ้าตัวที่ไม่พึงประสงค์มันยังคอยตามติดอยู่ก็ตาม เธอก็เลยได้แต่ปลงเท่านั้น..........



            แต่พอเวลาผ่านไป..........นานเข้า นายเอกก็เป็นฝ่ายเริ่มห่างหายจากวงจรชีวิตของสาวจ้าไปเองอย่างเงียบๆ สาเหตุน่ะเหรอ......ก็ดูเหมือนจะหันไปชอบรุ่นพี่ปี 4 คณะเทคโนฯตึกตรงข้ามกับตึกวิทยาการจักการ ที่ทั้งห้าวและดุดันถึงในกว่าสาวเอกไทยธรรมดาๆน่ะสิ ตอนหลังถึงได้รู้ว่าไอ้หมอนี่เป็นมาโซฯ ชอบความเจ็บปวด พอไปเจอสาวซาดิสเข้า ไฟมันก็เลยสปาร์คกันทันที ทำให้สาวจ้ารู้สึกขอบคุณรุ่นพี่เป็นกำลัง



            ‘โอ้......ชีวิตอันปกติสุขของเรากลับคืนมาแล้ว......’ สาวจ้านิ่งคิดด้วยความปลื้มปิติ ลงท้ายโดยการที่เพื่อนๆในห้องบังคับเธอให้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงฉลองที่ร้านอาหารหรูในย่านนั้น ซึ่งเธอก็ไม่ว่ากระไร แถมยอมควักกระเป๋าอย่างเต็มใจอีกต่างหาก



                                   <<<<<>>>>><<<<<>>>>><<<<<>>>>>



            หลังจากที่กลับมานอนตีพุงอยู่ในห้องแล้ว เธอก็หยิบ ‘ตำราสุริยจันทรกาล’ มานอนอ่านเล่น ขณะนี้เธออ่านทุกถ้อยคำจนจำได้จะขึ้นใจแล้ว จะขาดก็แต่......การทดลอง



            “เฟริส......นายคิดว่าไงถ้าชั้นอยากลองใช้ไอ้นี่น่ะ” สาวจ้าเอ่ยถาม ‘คนสนิท’ ที่นั่งขัดสมาธิอยู่ที่พื้นข้างเตียง พลางโบก ‘ไอ้นี่’ ให้ดูประกอบ



            “ไม่ค่อยดีกระมังครับนายหญิง ผมว่ามันออกจะอันตราย......ไปซักหน่อย” เฟริสเอ่ยตอบเจ้านายอย่างใคร่ครวญ ตอนนี้นายหญิงของเขาเพิ่งจะพ้นเรื่องยุ่งๆไปไม่ทันข้ามวันดีเลย ฉะนั้นอย่าเพิ่งหาเรื่องยุ่งจะดีกว่า



            “เอาน่า......ชั้นว่าตอนนี้ก็น่าจะถึงเวลาอันสมควรแล้ว ตอนนี้วิชาประหลาดๆ ที่นายจับชั้นฝึกมันก็จบคอสไปนานแล้ว พวกเพื่อนๆก็พอไปวัดไปวาได้ นายอย่าลืมสิว่าตั้งแต่ชั้นเจอนายมันก็จะปีกว่าอยู่แล้ว” สาวจ้าหันไปเกลี้ยกล่อมผู้จัดการส่วนตัวให้เห็นด้วยกับเธอ



            “แต่...........” เฟริสที่กำลังจะขยับปากค้างก็มีอันต้องเงียบไปเมื่อนายสาวพูดแทรก



            “ชั้นขึ้นปี 3 แล้วนะ หรือนายจะรอจนชั้นจบปริญญาก่อน นายถึงจะยอม” สาวจ้าพูดด้วยความอัดอั้นตันใจ จนเฟริสไม่กล้าขัดใจ



            “งั้น......นายหญิงคงต้องติดต่อเพื่อนๆให้ร่วมด้วยล่ะครับ ถ้านายหญิงคนเดียว ผมคงยอมไม่ได้” เฟริสหลุดปากพูดออกมาในที่สุด ท่ามกลางความยินดีของสาวจ้า และแทบจะกดปุ่มนาฬิกาติดต่ออีก 3 สาวแทบไม่ทัน จนเฟริสแอบอมยิ้มด้วยความเอ็นดูเสียไม่ได้กับกิริยานั้น



            หลังจากที่สาวจ้า ติดต่อกับสาวแป๋ม  สาวส้ม และสาวเก๋ และชักชวน + เกลี้ยกล่อมเพื่อนๆให้ยอม ‘ไปเที่ยว’ ในโลกหนังสือกับเธอแล้ว เธอก็จัดแจงนัดให้เพื่อนๆ และเหล่าองครักษ์ทั้งหลายมาหาเธอที่บ้านในวันเสาร์ ซึ่งก็คืออีก 3 วันข้างหน้าในตอนเช้า 8.00 น. (วันนั้นจะไม่มีใครอยู่บ้าน และเธอจะอาสาเฝ้า) พร้อมทั้งให้จัดเตรียมข้าวของ และเสบียงกรัง เพื่อเตรียมออกผฐญภัยในเรื่องที่เธอเตรียมเอาไว้สำหรับเธอและเพื่อนๆ







                                                        โปรดติดตามตอนต่อไป            

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×