ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter3 : เฟริสรุ่น Gz320 L
ที่ห้องอันสุดหรู ในคฤหาสน์ของสาวจ้า  ที่อุดมไปหนังสือ หนังสือ และ
หนังสือ และวันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่บรรดาหนังสือในห้องนี้ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่มาอยู่
ในบ้านใต้รั้วหลังคาเดียวกัน โดยที่เจ้าของห้องนอนแอ้งแม้ง อ่านหนังสือด้วยสีหน้าที่
ยากจะบรรยาย ประมาณอ่านหนังสือเอนซ์สะท้านก่อนสอบวันเดียวยังไงยังงั้น
“เอ...นี่เราไปซื้อหนังสือตำราเวทมนต์มารึไงวะเนี่ย....มีท่องมนต์ ทำพิธีอะไรอีก
ต่างหาก...อึมเราก็ไม่ได้อ่านแฮรี่ พอตเตอร์มากไปนี่นะ...โอ้ย..เจ็บ” สาวจ้าซึ่งกำลังนอน
อ่านไปบ่นไปอยู่นั้น ก็ทดสอบโดยการหยิกตัวเอง และผลการพิสูจน์ก็ออกมาว่าไม่ได้ฝัน
ไป  แต่ระหว่างที่กำลังนั่งลูบแขนตัวเองอยู่นั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นกล่องของแถมที่
โผล่ออกมานอกถุง ซึ่งเธอยังไม่ได้เปิดดูเลย...
กล่องเหล็กรูปทรงกลมสีดำเป็นมันเงา  ที่ฝามีตัวอักษรสีส้มเรืองแสง  อ่านได้ว่า
‘เฟริสรุ่น Gz 320 L’ เมื่อเปิดกล่องออกก็พบ นาฬิกาสุดเท่ส์สีบรอนเงินนอนสงบ
นิ่งอยู่บนก้อนอะไรซักอย่างที่น่าจะนิ่มๆสีเหลือบรุ้ง หน้าปัดนาฬิกาทำด้วยแก้วคริสตัล
อย่างดีมีตัวอักษร F สีส้มเรืองแสงสวยงามอยู่ข้างใน และมีปุ่มคำสั่งข้างๆหน้าปัดที่เรียก
กันว่า ‘เม็ดมะยม’ ติดอยู่ 4 ปุ่ม แต่ละปุ่มเหมือนจะเรืองแสงอยู่ตลอดเวลาและมีสีแตก
ต่างกันไป แดง, ฟ้า, เหลือง, เขียว แต่สิ่งที่มาสะดุดความสนใจก็คือ มันไม่มีสาย.....
“เฮ้ย! เป็นไปไม่ได้  ทำไมมันเหมือนกันอย่างนี้วะ” จ้าจ้องมองดูนาฬิกา เหมือน
กับมองดูสิ่งมหัศจรรย์แห่งที่ 8 ในโลก เธอคงจะไม่ร้องและจ้องตาค้างอย่างนี้หรอกถ้า....
ถ้ามันไม่ดันไปเหมือนนาฬิกาไวท์โรดที่ Dr.Popเขียนบรรยายอยู่ในหนังสือน่ะ (ก็
เพิ่งอ่านจบไปเมื่อวานเอง วันนี้ดันโผล่ออกมาให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างซะแล้ว)
เมื่อตั้งสติได้ก็ไปเอานิ้วจิ้มๆสัมผัสดูเพื่อพิสูจน์ว่ามันเป็นของจริง และมันก็ยังนอนสงบนิ่งอยู่ใน
กล่องตามเดิม สร้างความดีใจให้กับเธอยิ่งนัก เพราะในใจลึกๆแล้วอยากได้นาฬิกา
สารพัดประโยชน์แบบนี้มาไว้ในครอบครองซักเรือน แต่ไม่คิดว่าจะมีจริงนะเนี่ย
“เอ...มันใช้ยังไงหว่า...มันต้องมีคู่มือสิ ไม่งั้นลุงแกจะให้มาทำไมเนี่ย?” บ่นไป
พลางมือก็ค้นไป แต่เมื่อไม่เจอก็เลยเอานาฬิกาออกมาดูก่อนให้เห็นเป็นขวัญตา
บุญมือก่อนก็แล้วกัน แต่พอตอนหยิบนี่สิ ไอ้ก้อนนุ่มๆกลมๆที่เห็นเมื่อทีแรก ดัน
กระเด้งออกมาด้วย เมื่อจับดูจึงรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรซักอย่างซ่อนอยู่ในนั้นแน่ๆ แต่ก็ยัง
หาวิธีเปิดมันไม่ได้  (ช่างยุ่งยากจริงๆ ไอ้ของไฮเทคพวกนี้) จนเมื่อนั่ง งมอยู่ประมาณ
ครึ่งชั่วโมง ก็พบกับปุ่มเล็กๆที่ซ่อนอยู่ในกลุ่มขนนั้น
            /แป็ก/
มีเสียงปลดล็อคดังขึ้นเบาๆ แล้วเจ้าลูกสีรุ้งก็ค่อยๆเปิดออกอย่างนิ่มนวล ภาย
ในบรรจุแผ่น CD สีส้มอ่อนใสแจ๋วขนาดเล็กอยู่ 1 แผ่น
“เอ้า! เอาเข้าไป ขืนไปเล่าให้ใครฟังมีหวังถูกจับส่งศรีธัญญาแน่เว้ย  แล้วทีนี้จะ
เอาไงดี CD มีไวรัสรึเปล่าก็ไม่รู้” ยืนช่างใจอยู่ซักพักแล้วจึงเดินไปเปิดคอมพิวเตอร์รุ่น
ใหม่ป้ายแดงที่เพิ่งถอยได้อาทิตย์ก่อน
“แล้วแต่บุญแต่กรรมแล้วกัน เจ้าประคุณเอ๋ย ขออย่าให้คอมฯของลูกช่างเป็น
อะไรเลย อุตส่าห์เก็บเงินซื้อมาก็ตั้งหลายปี” เมื่ออธิฐานขอพรให้คุณพระคุณเจ้าช่วยคุ้ม
ครองลูกคอมฯแสนรักแล้ว ก็ยัดแผ่น CD ปริศนาลงเครื่องทันที แต่แล้ว...ก็รู้สึกว่าจะ
เกิดปฏิกิริยารีเฟ็คกับเจ้าคอมพิวเตอร์ลูกรักของคุณเธอเข้าจนได้ คอมฯของเธอเปล่ง
แสงออกมาเจิดจ้าสว่างจนทุกอย่างในห้องขาวไปหมด ประมาณครึ่งนาทีต่อมา เมื่อแสง
หายไปแล้วเธอค่อยๆลืมตาขึ้นและหันไปมองลูกรักอย่างใจหาย พลางคิดอย่างหนักใจ
“เอาแล้วซีกู งานนี้โดนด่ายับแน่...เพิ่งซื้อด้วย” แต่สิ่งที่เธอคิดไม่เหมือนกับสิ่งที่
เธอกำลังเห็นต่อไปนี้ คอมฯของเธอพัฒนา คอมฯของเธอพัฒนาได้ยังกะ ‘ดิจิมอน’
แปลงร่าง (ทำยังกับหนังการ์ตูน) แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!!!! เพราะมันป็นไปแล้วจริงๆ
“โอ้แม่เจ้า!!! วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของลูกเนี่ย ให้ตายสิแบ็คแมน แอน
โรบิ้น” พลางจ้องมองคอมฯลูกรักอย่างตาไม่กระพริบ ตอนนี้...ดูลูกรักของเธอสิ เปลี่ยน
สภาพไปจนแทบจะจำไม่ได้ มันไฮเทค มันล้ำหน้าเกินคำจะบรรยาย หน้าจอ
เปลี่ยนเป็นแผ่นกระจกคริสตัลใสสีชมพูอ่อนขอบด้านนอกสีฟ้าน้ำทะเล ทุกอย่างเปลี่ยน
มากลายเป็นกระจกคริสตัลใสชมพูฟ้าฯ เข้าชุดกัน แต่ดูเหมือนจะมีปุ่มมีช่องแปลกๆโผล่
ออกมาเยอะแยะผิดปกติจนไม่รู้ว่ามันใช้สำหรับทำอะไร แต่ที่ยิ่งแปลกก็คือเธอไม่เห็น
แผงวงจรอะไรเลย  ทั้งที่มันออกจะโปร่งใสขนาดนี้ ยิ่งเครื่องปริ้นเตอร์ กับแสกนเนอร์
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกันใหญ่ เพราะมันไปด้วยกันหมดแล้ว รวมทั้งโต๊ะคอมฯด้วย  ซึ่งมันก็ดี
อยู่หรอกถ้ามันไม่ดันมาอยู่ในห้องที่ขัดกันแบบสุดๆเหมือนอย่างในห้องนี้ ที่มีหนังสือ
เรียงกันเป็นตั้งอย่างกะหอสมุดแห่งชาติ แล้วยังที่นอนแบกะดินนี้อีก ดีนะที่แยกออก
มานอนคนเดียวเมื่อ 2 เดือนก่อน ม่ายงั้น...ยุ่งแน่
แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันยังไม่หยุดแต่เพียงเท่านั้น เพราะคอมฯมันกำลังเริ่มทำงานน่ะสิ
              / ตื๊ด..ตื๊ด..ตื๊ด../ - วาบบบ
เมื่อแสงสว่างสีส้มจางลงไปก็ก่อให้เกิดสิ่งที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ปรากฏขึ้นมา
เขามีตาสีน้ำเงินเข้มดุจราตรียามค่ำคืน ผมสีเดียวกับตา ผมตัดรองทรงจัดได้รูป ร่างสูงอยู่
ในชุดสูทสีดำรองเท้าขัดมัน มองตรงมาที่จ้า และโค้งคำนับให้อย่างสวยงาม มองทีเดียวก็
รู้เลยว่าหล่อมากกกก
“สวัสดีครับ ผมชื่อเฟริส Gz 320 L ทำหน้าที่เป็นผู้แนะนำให้คุณสามารถใช้
งานนาฬิกาเรือนนี้ครับ ไม่ทราบว่าคุณซึ่งเป็นนายของผมในขณะนี้มีชื่อว่าอะไรครับ”
พ่อรูปหล่อที่ออกมาจากคอมฯมาแนะนำตัว พร้อมกับปวารณาตัวเป็นข้ารับใช้เสร็จ
สรรพ จ้องตรงมาที่สาวจ้า แล้วยิ้มให้น้อยๆ ซึ่งนั่นทำให้เธอแทบจะละลายไปด้วยความ
อาย
“ชื่อ ‘จ้า’ ค่ะ” พูดตอบไปด้วยน้ำเสียงที่คิดว่าเซ็กซี่ที่สุด พร้อมกับเก๊กสวยสุด
ชีวิต แต่พ่อรูปหล่อเจ้าของชื่อว่าเฟริสกลับไม่มีปฏิกริยาตอบสนองใดๆทั้งสิ้น
“ครับคุณจ้า ก่อนอื่นกรุณาผมตามไปกรอกประวัติข้อมูลส่วนตัวเพื่อบันทึกใน
ทะเบียนผู้ใช้นาฬิกา พร้อมทั้งตรวจลายนิ้วมือ, ม่านตา, และระดับของคลื่นสมองเพื่อยืน
ยันข้อมูลการใช้ด้วยครับ ซึ่งวิธีการดังกล่าวเป็นการยืนยันผู้ใช้นาฬิกาและช่วยป้องกัน
การโจรกรรมครับ” นายเฟริสกล่าวด้วยเสียงเป็นการเป็นงาน พลางก้าวนำสาวจ้าไปที่
เครื่องคอมฯ ซึ่งตอนนี้ได้พัฒนาเป็น ‘ไฮเปอร์ดาต้าซูเปอร์คอมพิวเตอร์’ ไปแล้ว
เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จพร้อมทั้งตรวจวัดลายนิ้วมือ, ม่านตา และคลื่นสมองแล้ว
นายเฟริสได้อธิบายประวัติความเป็นมาคร่าวๆและคุณสมบัติของนาฬิกาฟัง ซึ่งสาวจ้าก็
จำไม่ได้ทั้งหมดหรอกว่ามันมีอะไรบ้าง แต่ก็พอจะจับใจความได้ว่า มันใช้พลังงาน
นิวเคลียร์เป็นแหล่งพลังงาน ซึ่งสามารถใช้งานได้นาน 300 ปีโดยไม่ต้องเปลี่ยนถ่านนับ
จากใช้ครั้งแรก (ให้มาทำไมตั้ง 300 ปี จะให้เป็นมรดกตกทอดไปถึงรุ่นดับเบิ้ลเหลนรึไง)
กันน้ำได้ลึกระดับก้นมหาสมุทรที่ลึกที่สุดในจักรวาล ตัวเรือนแข็งแรงทนทานมากกว่า
เพชร 1,000,000  เท่า สามารถเก็บของได้ทุกอย่าง เป็นโทรศัพท์ในตัว ท่องWeb เล่น
Internet ถ่ายรูปอัตโนมัติ บันทึกเสียงได้นาน 7 วัน เป็นกล้องวิดีโอในตัวฯลฯ และ
นาฬิการุ่นนี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดผลิตเพียง 10 เรือนในโลกเท่านั้น(อะไรจะโชคดีปานนี้เนี่ย)
“ต่อไปขออธิบายวิธีการใช้งานนะครับ ก่อนอื่นนำนาฬิกามาวางตรงข้อมือนะ
ครับ ระบบจะทำการวัดให้สายรัดพอดีกับข้อมือครับ” พูดพลางชำเลืองสายตาเป็นเชิง
บอกให้ทำตาม
เมื่อสาวจ้านำตัวเรือนนาฬิกามาวางไว้บนข้อมือ ปรากฏว่ามีสายสีเงินยวงเลื้อย
ออกมารัดรอบข้อมืออย่างพอดิบพอดี โดยไม่มีเลื่อนหลุดเมื่อเธอลองสะบัดข้อมือดู 
“ลำดับต่อไป กรุณามองที่ข้างนาฬิกานะครับจะมีอยู่ 4 ปุ่ม สีแดง, น้ำเงิน, เขียว,
เหลือง ซึ่งปุ่มทั้ง 4 ปุ่มนี้เป็นปุ่มคำสั่งมีการใช้งานแตกต่างกัน โดยผมจะอธิบายให้ฟังทีหลัง
เพื่อเป็นการไม่เสียเวลานะครับ\"พ่อหนุ่มเฟริสอธิบายอย่างแคล่วคล่องว่องไว
\"เออ...ขอโทษนะคะ  แล้วไอ้นาฬิกาเนี่ยมันถอดยังไงคะคุณเฟริส\"สาวจ้าถาม
อย่างสงสัย  ด้วยน้ำเสียงที่คิดว่าน่ารัก (พอพูดกับผู้ชายหล่อๆนะเป็นแบบนี้ทุกที)
\"ขอประทานโทษครับ  ไม่ทราบว่าผมบอกคุณไปหรือยังว่านาฬิการุ่นนี้จะไม่มี
การถอดออกตลอดชีวิตของผู้ใส่  คือพูดง่ายๆก็คือไม่สามารถถอดออกได้นั่นเองครับ\"
ตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย  ไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งใด
\"อะไรน้า ถอดไม่ได้งั้นหรือ\" ถามด้วยความตกใจปนช็อค
\"ครับ ถูกต้องนะครับ คุณเข้าใจถูกต้อง แต่คุณไม่ต้องกังวลเพราะผมจะอยู่
กับคุณไปตลอดชีวิตเช่นกัน\"นายเฟริสตอบพลางยิ้มส่งมาให้สาวจ้าอย่างอบอุ่น.
                                        โปรดติดตามตอนต่อไป 
หนังสือ และวันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่บรรดาหนังสือในห้องนี้ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่มาอยู่
ในบ้านใต้รั้วหลังคาเดียวกัน โดยที่เจ้าของห้องนอนแอ้งแม้ง อ่านหนังสือด้วยสีหน้าที่
ยากจะบรรยาย ประมาณอ่านหนังสือเอนซ์สะท้านก่อนสอบวันเดียวยังไงยังงั้น
“เอ...นี่เราไปซื้อหนังสือตำราเวทมนต์มารึไงวะเนี่ย....มีท่องมนต์ ทำพิธีอะไรอีก
ต่างหาก...อึมเราก็ไม่ได้อ่านแฮรี่ พอตเตอร์มากไปนี่นะ...โอ้ย..เจ็บ” สาวจ้าซึ่งกำลังนอน
อ่านไปบ่นไปอยู่นั้น ก็ทดสอบโดยการหยิกตัวเอง และผลการพิสูจน์ก็ออกมาว่าไม่ได้ฝัน
ไป  แต่ระหว่างที่กำลังนั่งลูบแขนตัวเองอยู่นั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นกล่องของแถมที่
โผล่ออกมานอกถุง ซึ่งเธอยังไม่ได้เปิดดูเลย...
กล่องเหล็กรูปทรงกลมสีดำเป็นมันเงา  ที่ฝามีตัวอักษรสีส้มเรืองแสง  อ่านได้ว่า
‘เฟริสรุ่น Gz 320 L’ เมื่อเปิดกล่องออกก็พบ นาฬิกาสุดเท่ส์สีบรอนเงินนอนสงบ
นิ่งอยู่บนก้อนอะไรซักอย่างที่น่าจะนิ่มๆสีเหลือบรุ้ง หน้าปัดนาฬิกาทำด้วยแก้วคริสตัล
อย่างดีมีตัวอักษร F สีส้มเรืองแสงสวยงามอยู่ข้างใน และมีปุ่มคำสั่งข้างๆหน้าปัดที่เรียก
กันว่า ‘เม็ดมะยม’ ติดอยู่ 4 ปุ่ม แต่ละปุ่มเหมือนจะเรืองแสงอยู่ตลอดเวลาและมีสีแตก
ต่างกันไป แดง, ฟ้า, เหลือง, เขียว แต่สิ่งที่มาสะดุดความสนใจก็คือ มันไม่มีสาย.....
“เฮ้ย! เป็นไปไม่ได้  ทำไมมันเหมือนกันอย่างนี้วะ” จ้าจ้องมองดูนาฬิกา เหมือน
กับมองดูสิ่งมหัศจรรย์แห่งที่ 8 ในโลก เธอคงจะไม่ร้องและจ้องตาค้างอย่างนี้หรอกถ้า....
ถ้ามันไม่ดันไปเหมือนนาฬิกาไวท์โรดที่ Dr.Popเขียนบรรยายอยู่ในหนังสือน่ะ (ก็
เพิ่งอ่านจบไปเมื่อวานเอง วันนี้ดันโผล่ออกมาให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างซะแล้ว)
เมื่อตั้งสติได้ก็ไปเอานิ้วจิ้มๆสัมผัสดูเพื่อพิสูจน์ว่ามันเป็นของจริง และมันก็ยังนอนสงบนิ่งอยู่ใน
กล่องตามเดิม สร้างความดีใจให้กับเธอยิ่งนัก เพราะในใจลึกๆแล้วอยากได้นาฬิกา
สารพัดประโยชน์แบบนี้มาไว้ในครอบครองซักเรือน แต่ไม่คิดว่าจะมีจริงนะเนี่ย
“เอ...มันใช้ยังไงหว่า...มันต้องมีคู่มือสิ ไม่งั้นลุงแกจะให้มาทำไมเนี่ย?” บ่นไป
พลางมือก็ค้นไป แต่เมื่อไม่เจอก็เลยเอานาฬิกาออกมาดูก่อนให้เห็นเป็นขวัญตา
บุญมือก่อนก็แล้วกัน แต่พอตอนหยิบนี่สิ ไอ้ก้อนนุ่มๆกลมๆที่เห็นเมื่อทีแรก ดัน
กระเด้งออกมาด้วย เมื่อจับดูจึงรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรซักอย่างซ่อนอยู่ในนั้นแน่ๆ แต่ก็ยัง
หาวิธีเปิดมันไม่ได้  (ช่างยุ่งยากจริงๆ ไอ้ของไฮเทคพวกนี้) จนเมื่อนั่ง งมอยู่ประมาณ
ครึ่งชั่วโมง ก็พบกับปุ่มเล็กๆที่ซ่อนอยู่ในกลุ่มขนนั้น
            /แป็ก/
มีเสียงปลดล็อคดังขึ้นเบาๆ แล้วเจ้าลูกสีรุ้งก็ค่อยๆเปิดออกอย่างนิ่มนวล ภาย
ในบรรจุแผ่น CD สีส้มอ่อนใสแจ๋วขนาดเล็กอยู่ 1 แผ่น
“เอ้า! เอาเข้าไป ขืนไปเล่าให้ใครฟังมีหวังถูกจับส่งศรีธัญญาแน่เว้ย  แล้วทีนี้จะ
เอาไงดี CD มีไวรัสรึเปล่าก็ไม่รู้” ยืนช่างใจอยู่ซักพักแล้วจึงเดินไปเปิดคอมพิวเตอร์รุ่น
ใหม่ป้ายแดงที่เพิ่งถอยได้อาทิตย์ก่อน
“แล้วแต่บุญแต่กรรมแล้วกัน เจ้าประคุณเอ๋ย ขออย่าให้คอมฯของลูกช่างเป็น
อะไรเลย อุตส่าห์เก็บเงินซื้อมาก็ตั้งหลายปี” เมื่ออธิฐานขอพรให้คุณพระคุณเจ้าช่วยคุ้ม
ครองลูกคอมฯแสนรักแล้ว ก็ยัดแผ่น CD ปริศนาลงเครื่องทันที แต่แล้ว...ก็รู้สึกว่าจะ
เกิดปฏิกิริยารีเฟ็คกับเจ้าคอมพิวเตอร์ลูกรักของคุณเธอเข้าจนได้ คอมฯของเธอเปล่ง
แสงออกมาเจิดจ้าสว่างจนทุกอย่างในห้องขาวไปหมด ประมาณครึ่งนาทีต่อมา เมื่อแสง
หายไปแล้วเธอค่อยๆลืมตาขึ้นและหันไปมองลูกรักอย่างใจหาย พลางคิดอย่างหนักใจ
“เอาแล้วซีกู งานนี้โดนด่ายับแน่...เพิ่งซื้อด้วย” แต่สิ่งที่เธอคิดไม่เหมือนกับสิ่งที่
เธอกำลังเห็นต่อไปนี้ คอมฯของเธอพัฒนา คอมฯของเธอพัฒนาได้ยังกะ ‘ดิจิมอน’
แปลงร่าง (ทำยังกับหนังการ์ตูน) แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!!!! เพราะมันป็นไปแล้วจริงๆ
“โอ้แม่เจ้า!!! วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของลูกเนี่ย ให้ตายสิแบ็คแมน แอน
โรบิ้น” พลางจ้องมองคอมฯลูกรักอย่างตาไม่กระพริบ ตอนนี้...ดูลูกรักของเธอสิ เปลี่ยน
สภาพไปจนแทบจะจำไม่ได้ มันไฮเทค มันล้ำหน้าเกินคำจะบรรยาย หน้าจอ
เปลี่ยนเป็นแผ่นกระจกคริสตัลใสสีชมพูอ่อนขอบด้านนอกสีฟ้าน้ำทะเล ทุกอย่างเปลี่ยน
มากลายเป็นกระจกคริสตัลใสชมพูฟ้าฯ เข้าชุดกัน แต่ดูเหมือนจะมีปุ่มมีช่องแปลกๆโผล่
ออกมาเยอะแยะผิดปกติจนไม่รู้ว่ามันใช้สำหรับทำอะไร แต่ที่ยิ่งแปลกก็คือเธอไม่เห็น
แผงวงจรอะไรเลย  ทั้งที่มันออกจะโปร่งใสขนาดนี้ ยิ่งเครื่องปริ้นเตอร์ กับแสกนเนอร์
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกันใหญ่ เพราะมันไปด้วยกันหมดแล้ว รวมทั้งโต๊ะคอมฯด้วย  ซึ่งมันก็ดี
อยู่หรอกถ้ามันไม่ดันมาอยู่ในห้องที่ขัดกันแบบสุดๆเหมือนอย่างในห้องนี้ ที่มีหนังสือ
เรียงกันเป็นตั้งอย่างกะหอสมุดแห่งชาติ แล้วยังที่นอนแบกะดินนี้อีก ดีนะที่แยกออก
มานอนคนเดียวเมื่อ 2 เดือนก่อน ม่ายงั้น...ยุ่งแน่
แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันยังไม่หยุดแต่เพียงเท่านั้น เพราะคอมฯมันกำลังเริ่มทำงานน่ะสิ
              / ตื๊ด..ตื๊ด..ตื๊ด../ - วาบบบ
เมื่อแสงสว่างสีส้มจางลงไปก็ก่อให้เกิดสิ่งที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ปรากฏขึ้นมา
เขามีตาสีน้ำเงินเข้มดุจราตรียามค่ำคืน ผมสีเดียวกับตา ผมตัดรองทรงจัดได้รูป ร่างสูงอยู่
ในชุดสูทสีดำรองเท้าขัดมัน มองตรงมาที่จ้า และโค้งคำนับให้อย่างสวยงาม มองทีเดียวก็
รู้เลยว่าหล่อมากกกก
“สวัสดีครับ ผมชื่อเฟริส Gz 320 L ทำหน้าที่เป็นผู้แนะนำให้คุณสามารถใช้
งานนาฬิกาเรือนนี้ครับ ไม่ทราบว่าคุณซึ่งเป็นนายของผมในขณะนี้มีชื่อว่าอะไรครับ”
พ่อรูปหล่อที่ออกมาจากคอมฯมาแนะนำตัว พร้อมกับปวารณาตัวเป็นข้ารับใช้เสร็จ
สรรพ จ้องตรงมาที่สาวจ้า แล้วยิ้มให้น้อยๆ ซึ่งนั่นทำให้เธอแทบจะละลายไปด้วยความ
อาย
“ชื่อ ‘จ้า’ ค่ะ” พูดตอบไปด้วยน้ำเสียงที่คิดว่าเซ็กซี่ที่สุด พร้อมกับเก๊กสวยสุด
ชีวิต แต่พ่อรูปหล่อเจ้าของชื่อว่าเฟริสกลับไม่มีปฏิกริยาตอบสนองใดๆทั้งสิ้น
“ครับคุณจ้า ก่อนอื่นกรุณาผมตามไปกรอกประวัติข้อมูลส่วนตัวเพื่อบันทึกใน
ทะเบียนผู้ใช้นาฬิกา พร้อมทั้งตรวจลายนิ้วมือ, ม่านตา, และระดับของคลื่นสมองเพื่อยืน
ยันข้อมูลการใช้ด้วยครับ ซึ่งวิธีการดังกล่าวเป็นการยืนยันผู้ใช้นาฬิกาและช่วยป้องกัน
การโจรกรรมครับ” นายเฟริสกล่าวด้วยเสียงเป็นการเป็นงาน พลางก้าวนำสาวจ้าไปที่
เครื่องคอมฯ ซึ่งตอนนี้ได้พัฒนาเป็น ‘ไฮเปอร์ดาต้าซูเปอร์คอมพิวเตอร์’ ไปแล้ว
เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จพร้อมทั้งตรวจวัดลายนิ้วมือ, ม่านตา และคลื่นสมองแล้ว
นายเฟริสได้อธิบายประวัติความเป็นมาคร่าวๆและคุณสมบัติของนาฬิกาฟัง ซึ่งสาวจ้าก็
จำไม่ได้ทั้งหมดหรอกว่ามันมีอะไรบ้าง แต่ก็พอจะจับใจความได้ว่า มันใช้พลังงาน
นิวเคลียร์เป็นแหล่งพลังงาน ซึ่งสามารถใช้งานได้นาน 300 ปีโดยไม่ต้องเปลี่ยนถ่านนับ
จากใช้ครั้งแรก (ให้มาทำไมตั้ง 300 ปี จะให้เป็นมรดกตกทอดไปถึงรุ่นดับเบิ้ลเหลนรึไง)
กันน้ำได้ลึกระดับก้นมหาสมุทรที่ลึกที่สุดในจักรวาล ตัวเรือนแข็งแรงทนทานมากกว่า
เพชร 1,000,000  เท่า สามารถเก็บของได้ทุกอย่าง เป็นโทรศัพท์ในตัว ท่องWeb เล่น
Internet ถ่ายรูปอัตโนมัติ บันทึกเสียงได้นาน 7 วัน เป็นกล้องวิดีโอในตัวฯลฯ และ
นาฬิการุ่นนี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดผลิตเพียง 10 เรือนในโลกเท่านั้น(อะไรจะโชคดีปานนี้เนี่ย)
“ต่อไปขออธิบายวิธีการใช้งานนะครับ ก่อนอื่นนำนาฬิกามาวางตรงข้อมือนะ
ครับ ระบบจะทำการวัดให้สายรัดพอดีกับข้อมือครับ” พูดพลางชำเลืองสายตาเป็นเชิง
บอกให้ทำตาม
เมื่อสาวจ้านำตัวเรือนนาฬิกามาวางไว้บนข้อมือ ปรากฏว่ามีสายสีเงินยวงเลื้อย
ออกมารัดรอบข้อมืออย่างพอดิบพอดี โดยไม่มีเลื่อนหลุดเมื่อเธอลองสะบัดข้อมือดู 
“ลำดับต่อไป กรุณามองที่ข้างนาฬิกานะครับจะมีอยู่ 4 ปุ่ม สีแดง, น้ำเงิน, เขียว,
เหลือง ซึ่งปุ่มทั้ง 4 ปุ่มนี้เป็นปุ่มคำสั่งมีการใช้งานแตกต่างกัน โดยผมจะอธิบายให้ฟังทีหลัง
เพื่อเป็นการไม่เสียเวลานะครับ\"พ่อหนุ่มเฟริสอธิบายอย่างแคล่วคล่องว่องไว
\"เออ...ขอโทษนะคะ  แล้วไอ้นาฬิกาเนี่ยมันถอดยังไงคะคุณเฟริส\"สาวจ้าถาม
อย่างสงสัย  ด้วยน้ำเสียงที่คิดว่าน่ารัก (พอพูดกับผู้ชายหล่อๆนะเป็นแบบนี้ทุกที)
\"ขอประทานโทษครับ  ไม่ทราบว่าผมบอกคุณไปหรือยังว่านาฬิการุ่นนี้จะไม่มี
การถอดออกตลอดชีวิตของผู้ใส่  คือพูดง่ายๆก็คือไม่สามารถถอดออกได้นั่นเองครับ\"
ตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย  ไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งใด
\"อะไรน้า ถอดไม่ได้งั้นหรือ\" ถามด้วยความตกใจปนช็อค
\"ครับ ถูกต้องนะครับ คุณเข้าใจถูกต้อง แต่คุณไม่ต้องกังวลเพราะผมจะอยู่
กับคุณไปตลอดชีวิตเช่นกัน\"นายเฟริสตอบพลางยิ้มส่งมาให้สาวจ้าอย่างอบอุ่น.
                                        โปรดติดตามตอนต่อไป 
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น