ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผ่ามิติทะลุแดนฝัน

    ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 10 : ตะวันรักที่ปลายฟ้า

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ย. 47




            “โอ๊ย!! เจ็บ เฟริสนายอย่ากอดชั้นแน่นสิ หายใจไม่ออกนะ”  สาวจ้าร้องออกมาดังๆ อย่างจุกๆ ที่จู่ๆก็ร่วงลงมาจากที่สูงอย่างรวดเร็วมานอนเอ้งเม้งอยู่บนพื้นหญ้าสีเขียวนุ่มๆ ที่ไม่นุ่มเลยสักนิดเมื่อตกลงมากระแทกเสียเต็มรัก โดยที่มีนายเฟริสที่เกาะคอคุณเธออย่างเหนียวแน่น หลับตาปี๋ตามทับลงมาด้วย จนทำให้เธอเกิดอาการจุกคูณสอง



            “นายนี่....หนักชะมัดลงไปได้แล้ว” ว่าพลางก็พลักร่างของคนสนิทให้กลิ้งออกไปจากตัว พลางสูดอากาศหายใจเข้าออกแรงๆ ไล่อาการมึนงง เห็นโลกหมุนๆ เอียงไปเอียงมาให้หมดไป แต่ก็ไม่สำเร็จจึงเดินสโหลสเหลออกไปปล่อยเสียงโอกอากเสียหมดไส้หมดพุง ก่อนที่จะเดินโซเซมานอนแปะที่เดิม  



            “นายหญิงเป็นไงบ้างครับ” เฟริสที่ตอนนี้ตั้งสติให้เป็นปกติได้แล้ว ถามอย่างเป็นห่วง พลางทำท่าเข้าไปช่วยประคองนายหญิงให้ลุกขึ้นมาดื่มน้ำที่เตรียมไว้



            “เมาคลื่นลมน่ะ มึนหัวไปหมดเลย แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้วล่ะ เจ็บหลังมากกว่า” สาวจ้าดื่มน้ำกลั้วคอ แล้วเอ่ยบอกออกมาอย่างอ่อนระโหยโรยแรงกับคนสนิทคู่ใจ พลางพลิกนอนคว่ำเพราะรู้สึกระบบไปทั่วทั้งแผ่นหลัง และร้องครวญออกมาอีกครั้งเมื่อเฟริสเอามือลงไปแตะๆดู



            “แล้วพวกนั้นหายไปไหนล่ะ ส้ม แป๋ม เก๋ แล้วก็เหล่าองครักษ์น่ะ ไม่เห็นเลย” สาวจ้ากวาดตามองหาเพื่อนๆร่วมอุดมการณ์ ที่ตอนนี้มองหาก็ไม่เห็นใครนอกจากนายเฟริสที่ตกลงมาติดๆกัน ด้วยมือตุ๊กแกที่เกาะเธอไว้ตอนไหนก็ไม่รู้อย่างเหนียวแน่น ที่ไม่ว่าลมพายุจะพัดแรงแค่ไหน เขาก็สามารถเกาะเธอไว้ได้โดยไม่หลุด  



            “ไม่ทราบเหมือนกันครับ รู้สึกว่าจะไม่ได้อยู่ในบริเวณนี้เสียด้วย ยังไงผมทายาให้ก่อนแล้วกัน รู้สึกว่านายหญิงจะหลังเดาะ ขออนุญาตนะครับ” พูดจบ เขาก็ค่อยๆถลกเสื้อของนายสาวขึ้น แล้วลงมือนวดยาทันที เนื่องจากเป็นหน้าที่และสำนึกผิดที่ตนทำให้เจ้านายมีส่วนทำให้เจ้านายเจ็บตัว



            “โอ๊ย! เบามือหน่อยสิ หลังคนนะไม่ใช่แป้งซาลาเปาไม่ต้องแรงขนาดนั้นก็ได้ ” สาวจ้าร้องโวยวายอีกหน เมื่อคนหวังดีช่วยนวด นวดแรงซะจนรู้สึกหลังระบมมากกว่าเดิม



            “ขอโทษครับ แล้วตอนนี้ยังเจ็บอยู่มั้ยครับ” เฟริสหน้าเสียเอ่ยขอโทษเบาๆ แล้วลดแรงลงให้เหลือพอประมาณ



            “เออ ค่อยยังชั่วหน่อย นึกว่าจะตายคามือนายซะแล้ว” สาวจ้าบ่นเบาๆ แต่ก็ชะงักเหมือนนึกอะไรที่สำคัญออกมาได้



            “เอ๋....คราวนี้ชั้นโดนตัวนายได้ จับนายได้แล้วเฟริส จับนายได้จริงๆด้วย” สาวจ้าพูดอย่างตื่นเต้น ดีใจ พลางเอี้ยวตัวมาจับมือเฟริสเขย่าๆ 5 – 6 ที และดูเหมือนเฟริสจะเพิ่งสังเกตตัวเองเหมือนกัน ว่าตอนนี้เขามีเลือดเนื้อแล้ว ไม่ได้ปรากฏเป็นภาพฮิตโตแกรมอย่างที่แล้วๆมา



            “จริงด้วยครับนายหญิง ผมมีร่างเนื้อแล้ว ผมมีร่างกายแล้ว ไชโย” นายเฟริสเอ่ยออกมาอย่างดีใจ พลางโผตัวเข้ากอดนายสาวสุดตัว



            “โอ๊ย! ชั้นเจ็บอยู่นะเฟริส ออกไป..... แล้วดูเหมือนชั้นจะบอกนายไปแล้วนะว่านายตัวหนักอ่ะ มาทับสาวแสนสวย เอวบางร่างน้อย อรชรอ้อนแอ้นแบบชั้น เดี๋ยวชั้นก็ได้แบนพอดี” สาวจ้าโวยวาย พร้อมยันลูกน้องลงไปออกไปจากตัวอีกรอบ



            “ขอโทษครับ ผมดีใจมากไปหน่อย มาครับผมนวดยาต่อให้” เฟริสก้มหัวให้อย่างขออภัย พลางดึงนายสาวให้มานอนคว่ำพาดบนตักตัวเอง แล้วลงมือนวดยาให้อย่างเบามือจนเสร็จ



            “เออ...พวกเก๋ แป๋ม ส้ม จะเป็นไงบ้างนะลองติดต่อดูดีกว่า” สาวจ้ารำพึง พลางยกนาฬิกาขึ้นกดปุ่มติดต่อสามสาว จนได้ยินสัญญาณตอบรับในอีกนาทีถัดมาเป็นจอภาพสามบานที่สะท้อนภาพของเพื่อนแต่ละคน



            “ไง....อยู่ไหนน่ะ?” สาวจ้าเอ่ยทักเพื่อน ก่อนจะเอ่ยถามว่าแต่ละคนอยู่ไหนกัน



            “ไม่รู้สิ จ้าที่นี่มันที่ไหนก็ไม่รู้อ่ะ มีเมืองแปลกๆ แล้วก็คนแต่งตัวแปลกๆเต็มไปหมดเลย แล้วก็มีหอคอยยักษ์ด้วย เราอยู่กับป๋อม 2 คนเองไม่เจอใครเลย ตอนนี้แกอยู่ที่ไหนอ่ะ” สาวแป๋มพูดออกมาด้วยความหวาดกลัว เสียงสั่นเทาโดยมีป๋อมยืนปลอบอยู่ข้างๆ



            “เฮ้ย! เราอยู่กลางทะเลทรายอ่ะ ร้อนจะตายอยู่แล้ว รอบตัวมีแต่ทราย ทราย แล้วก็ทราย อ้อมีแคร์อีกคน ทำไงดีล่ะ” สาวส้มถามบ้าง



            “เฮ้ย!! เราดีกว่าเรานะไปโผล่ขึ้นมาจากบ่อน้ำเลย ดีนะไม่จมน้ำตาย เจอพวกไหนก็ไม่รู้พูดภาษาแปลกๆ ตอนโผล่ขึ้นมานะเขาแตกตื่นกันทั้งบาง พวกหนุ่มๆนุ่งมินิสเกิตซ์ถือดาบถือหอกวิ่งตามมาเป็นพรวนเลย เราเลยต้องวิ่งหนีกันกับไมค์อุตลุดเลย” สาวเก๋เล่ามั่งด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น พลางมองเลิกลั่กไปรอบๆ ซึ่งสาวจ้าที่ฟังเพื่อนๆเล่าก็ได้แต่เหงื่อตก เพราะเริ่มรู้เลาๆแล้วว่าเพื่อนๆอยู่ที่ไหนกัน มีแต่ตัวเองเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนของหนังสือ



            “เออ.....รู้แล้ว แป๋มที่แป๋มอยู่มีเจดีย์ใหญ่ๆ ที่เป็นรูปภูเขาแล้วบันไดเวียนใช่ป่ะ” สาวจ้าหันไปถามสาวแป๋มจากจอภาพที่ติดต่อด้วย



            “อืม....ใช่” สาวแป๋มตอบกลับมาพลางเขยิบให้สาวจ้าเห็นรูปผ่านจอด้วย



            “แป๋มอยู่เมืองวาชูกันนี ขออาณาจักรไมแทนนี เออ....แถบ...แถบเมโสโปเตเมียน่ะ ยังไงก็หาที่อยู่รอไปก่อนนะแล้วจะหาทางไปรับ” สาวจ้าบอกสาวแป๋มไปอย่างไม่ค่อยมั่นใจ



            “ส่วนส้ม มีแต่ทะเลทรายใช่มั้ย น่าจะอยู่ในเขตอียิปต์นะ ไงก็ลองเดินๆเอาหน่อยอาจจะเจอคนหรือเมืองบ้าง ทนๆไปก่อนนะ” สาวจ้าหันมาบอกสาวส้มบ้าง



            “แล้วเก๋....โผล่ขึ้นมาจากบ่อน้ำใช่มั้ย ดีใจด้วยว่ะเรื่องนี้เธอได้เป็นนางเอกเน็ทๆ แต่ทำใจซะเหอะนะ เพราะเธอต้องโดนราชินีจ้องจับไปเป็นเครื่องสังเวยสำหรับสาปแช่งว่ะ ฉะนั้นรีบหาเจ้าชายคาอิลให้เจอเร็วๆนะแล้วจะรอด อ้อลืมบอก เธออยู่ฮัตตูซา เมืองหลวงของจักรวรรดิฮิตไทต์ว่ะ อยู่แถบตอนกลางของดินแดนอนาโตเลีย ถ้าเป็นสมัยเราๆก็ประเทศตุรกีนั่นแหละ ยังไงก็อย่าหลงคารมหนุ่มตุรกีง่ายๆนะเฟ้ยจะหาว่าไม่เตือน เจ้าชายยิ่งหล่อๆอยู่ เสียดายเว้ย....ทำไมไม่เป็นเรามั่งฟะ” สาวจ้าร่ายยาวก่อน ที่จะพูดออกนอกเรื่อง



            “แล้วจ้าอยู่ไหนล่ะ” สาวแป๋มถามสาวจ้าขึ้นมาอีกอย่างสงสัย ที่ไม่พูดถึงว่าตัวเองอยู่ที่ไหน



            “อึ๋ย.....ไม่รู้เฟ้ย อย่าถาม รู้แต่ว่าอยู่กลางป่าที่ไหนก็ไม่รู้ เซ็งเว้ยจะออกไปจากป่านี้ได้ไงก็ไม่รู้ ที่นี่ที่ไหนก็ไม่รู้อีก” สาวจ้าตอบอย่างหงุดหงิดตัวเอง ที่ไม่รู้ว่าตนอยู่ส่วนไหนของหนังสือ



            “แล้วจะทำไงดีล่ะ” สาวส้มเอ่ยขึ้นอย่างเป็นกังวล



            “เอางี้นะ ตอนนี้ก็ตัวใครตัวมันก่อนก็แล้วกัน รู้สึกเราอยู่กันคนละทิศละทางกันเลย คงต้องใช้เวลานานโขอยู่กว่าจะหาตัวกันเจอ ยังไงก็เที่ยวกันตามสะดวกนะ แล้วรักษาชีวิตกันให้ดีๆล่ะ ติดต่อกันมาบ่อยๆด้วย  พวกองครักษ์ก็ดูแลเจ้านายกันให้ดีๆล่ะ คนอื่นคงไม่ต้องเป็นห่วงยกเว้นเก๋ ยังไงก็รักษาชีวิตกันให้ดีๆล่ะ แล้วจะรีบไปรับนะ” สาวจ้าบอกอย่างง่ายๆให้เพื่อนๆพากันอ้าปากค้าง ว่าเอามาทิ้งกันง่ายๆอย่างนี้เอง  ก่อนจะเอ่ยกำชับบรรดาองครักษ์ของเพื่อนๆให้ดูแลเจ้านายที่แสนจะไร้เดียงสา ก่อนจะพูดให้ความหวังเล็กน้อย โดยที่อีกสามสาวขยับปากค้านไม่ได้เลย เพราะมันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ และคงต้องเป็นไปตามนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้



            “เอ้อ.....อีกอย่าง เรื่องอัญมณีน่ะ ถ้าว่างก็ช่วยกันหานะ ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์กันหน่อย จะได้กลับกันเร็วๆ ส่วนเครื่องมือค้นหาก็ใช้นาฬิกานั่นแหละ เราส่งโปรแกรมหาอัญมณีให้แล้วอยู่ในนาฬิกา เคยดูดรากอนบอลมั้ย มันใช้โปรแกรมคล้ายๆกันนั่นแหละ มันจะแสดงจุดที่อยู่ของอัญมณีทั้ง 4 และตัวเรา ถ้าเราข้าใกล้อัญมณีมันจะกระพริบสัญญาณถี่ขึ้นน่ะ ถามวิธีใช้จากผู้ช่วยเอาแล้วกันนะ เดี๋ยวคืนนี้เราว่าจะนอนแถววนี้แหละ แค่นี้นะบ๊ายบาย ซียู” สาวจ้าสั่งเรื่องตามหาอัญมณีจบ ก็ตัดการสนทนาฉับออกไป โดยไม่อยู่ฟังเสียงบ่นของเพื่อนๆ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีตามมาอีกเป็นกระบุงโกย



            “ทำแบบนี้กับพวกเธอจะดีเหรอครับ ผมดูเหมือนนายหญิงปัดความรับผิดชอบยังไงไม่ทราบ พาพวกเธอมาแล้วก็ปล่อยไปตามยถากรรม” เฟริสติง



            “ดี – ไม่ดี ก็ทำไปแล้วนี่ หรือว่านายเห็นทางอื่นที่ดีกว่านี้ ขนาดพวกเราเองจะเอาตัวรอดรึเปล่าก็ยังไม่รู้เลย แถมตอนนี้อยู่ส่วนไหนของหนังสือก็ยังไม่รู้ แล้วจะเอาปัญญาที่ไหนไปช่วยพวกเค้า” สาวจ้าบอกเศร้าๆ เพราะเธอเองนั่นแหละที่ดื้อจะมา ลำบากคนเดียวไม่พอ ยังลากเอาเพื่อนๆและพวกบริวารมาลำบากอีก แถมตอนนี้ยังต้องเล่นบทเห็นแก่ตัวอีก เฮ้อ กลุ้ม



            “ขอโทษนะเฟริส ที่พานายมาลำบากด้วยน่ะ” สาวจ้าเอ่ยขอโทษพ่อหนุ่มดิจิตอลอย่างสำนึกผิดเป็นครั้งแรก ส่วนเฟริสเมื่อได้ยินดังนั้น ก็เข้ามาจับมือนายสาวขึ้นมาแนบแก้มแล้วเอ่ยอย่างตื้นตันว่า



            “ไม่เป็นไรครับนายหญิง ไม่ว่านายหญิงอยู่ที่ไหนผมจะอยู่ที่นั่นด้วย ผมเคยบอกแล้วไง.....ผมจะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต” พูดจบก็ทอดสายตามองอย่างอบอุ่น ทำเอาสาวจ้ารู้สึกสะบัดร้อนสะบัดหนาวขึ้นมาทันที ปฏิกิริยาในตอนที่เจอเฟริสช่วงแรกๆเริ่มกลับมา (จำไม่ได้กลับไปหาอ่านที่ Chapter 3) ทั้งๆที่พักหลังๆนั้นเธอลืมความรู้สึกเช่นนั้นไปแล้วแท้ๆ



            “พูดไรไม่รู้ ขนลุกเลยดูจิ เลิกๆ ไปกางเต็นท์นอน กับหาข้าวกินกันเหอะ ไม่หิวเหรอไง” สาวจ้าที่เริ่มเขินหาเรื่องกลบเกลื่อน ก่อนจะชวนไปตั้งที่พักแรม



            จ้อกกกกกกก  จ้อกกกกกกก



            “เออ....นายหญิงครับ ผมเป็นอะไรไม่ทราบครับ ผมรู้สึกเครื่องตรงส่วนท้องของผมขัดข้อง ปวดแสบๆไปหมดเลยครับ แถมยังมีเสียงอีกสงสัยจะชำรุด อยู่ไกลขนาดนี้คงจะกลับไปซ่อมที่ศูนย์ไม่ทัน เจ๊งแน่” เฟริสเอ่ยออกมาอย่างเป็นกังวล กับสภาพผิดปกติของตนเอง ที่มีอาการแปลกๆอย่างที่ไม่เคยเป็น จนสาวจ้าที่นิ่งฟังอาการอยู่ถึงกับหัวเราะขบขันกับคำพูดดังกล่าว



            “ 5 5 5 นาย.....จี้จริงๆ ถามตรงๆนะนายเคยกินอะไรบ้างอ๊ะป่าวเนี่ย ถ้าไม่เคยนะอาการอย่างเงี้ยเขาเรียกว่าหิวข้าว รู้ไว้ซะด้วย ขำชะมัด 5 5 5 ทีเรื่องอื่นน่ะรู้ทุกเรื่อง แต่เรื่องแค่นี้กลับไม่รู้แปลกคนจริง” สาวจ้าพูดปนขำให้นายเฟริสต้องตีหน้าเซ่อ เพราะไม่คิดว่าแอนดรอยฮิตโตแกรมอย่างเขาจะเกิดอาการ ‘หิวข้าว’ ขึ้นมาได้



            “เอางี้ กินข้าวก่อนแล้วกัน แล้วค่อยมากางเต็นท์นอน นี่ก็เย็นแล้วเดี๋ยวมืด” สาวจ้าบอกอย่างใจดี พลางกดนาฬิกา เอาข้าวที่ซื้อมาเก็บไว้เมื่อเช้าขึ้นมา 2 กล่อง แล้วยื่นส่งให้นายเฟริสที่ยื่นมือมารับอย่างงงๆ



            “กินซะสิ” สาวจ้าบอก เมื่อเห็นนายเฟริสมองข้าวนิ่งอยู่



            “กินยังไงล่ะครับ ผมไม่เคยกิน” เฟริส หันมาถามอย่างจนปัญญา เพราะตลอดชีวิตที่อยู่มาได้ เขาไม่เคยใช้ปากทำอย่างอื่นนอกจากการพูด



            “เฮ้อ....นี่ชั้นต้องมาสอนนายกินข้าวอีกเหรอเนี่ย แต่ตักใส่ปากเคี้ยวๆ กลืนแค่นี้มันยากตรงไหนวะ” สาวจ้าบ่น แต่ก็สอนเฟริสกินข้าวแต่โดยดี แม้จะทุลักทุเลในตอนแรก แต่หลังจากที่ลองไปหลายช้อน เขาก็สามารถกินข้าวได้ ท่าทางเอร็ดอร่อยน่าดูกับการกินข้าวมื้อแรกในชีวิต....... ข้าวไข่เจียวหมูสับ......



            “อร่อยจัง อาหารของมนุษย์เนี่ย ขอบคุณนะครับนายหญิง” เขาว่าอย่างนั้น แล้วหันมาขอบคุณสาวจ้าที่ให้เขาได้ลิ้มลองรสชาติอาหารของมนุษย์ที่เขาว่า พลางตักข้าวเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ



            “ไม่เป็นไร นายยังต้องได้กินอีกนานแน่ อย่าเพิ่งเบื่อแล้วกัน” สาวจ้าตอบเบาๆ พร้อมกับทำนายอนาคตได้ว่าถ้าอาหารเหลือน้อยคงได้แย่งกันกินกับหมอนี่แน่ แต่คงไม่เป็นไรหรอกเพราะเธอตุนเสบียงมาเยอะ แต่ถ้าเจอสัตว์ที่พอกินได้ค่อยจับมากินแล้วกัน จะได้เก็บเสบียงไว้นานๆยามหาอะไรกินไม่ได้ เฟริสจะได้ไม่เป็นกล่องข้าวน้อยฆ่านาย หรือไม่เราก็ไม่ต้องเป็นกล่องข้าวน้อยฆ่าบ่าวซะก่อน



            หลังจากที่ทั้งคู่กินข้าวเสร็จแล้ว ก็ช่วยกันกางเต็นท์ อาบน้ำ(ซึ่งสาวจ้าก็ต้องสอนให้เด็กโข่งมันอาบอีก เฟริสนุ่งผ้าขาวม้า สาวจ้านุ่งกระโจมอก แต่ก็อาบไม่ได้เรื่องเพราะอาบไม่เกลี้ยง เลยร้อนถึงนายสาวต้องคอยอาบให้) แล้วก็พากันนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ทั้งนายและบ่าว โดยไม่มีใครยอมตื่นขึ้นมารับรู้ถึงภยันตรายที่อยู่รอบๆที่พักในคืนนั้นเลย.



      

                                                         โปรดติดตามตอนต่อไป                  



    16.9.47

    20.13น.



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×