ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    NCT FICTION | MARKHYUCK MARKCHAN

    ลำดับตอนที่ #8 : OS | Anonymous

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.พ. 61


    Anonymous



     

     



    มาชอบเราได้ละ เราชอบเธอมานานแล้วเนี่ย 

    มากกว่า 1 ปีที่ผ่านมา

     


    เช้าวันแรกของสัปดาห์เริ่มต้นขึ้นอย่างเรียบง่ายเหมือนเช่นทุกครั้ง มาร์คลีลุกออกจากเตียงนอนแต่เช้าตรู่เพราะเสียงแจ้งเตือนนาฬิกาปลุกที่ดังมาจากโทรศัพท์มือถือ จากนั้นก็พับเก็บเครื่องนอนของตัวเองให้เป็นระเบียบ ป้องกันเสียงบ่นของผู้เป็นแม่ที่จะเข้ามาปลุกเขาซ้ำ ก่อนจะเข้าห้องน้ำชำระร่างกายเรียกความสดชื่นพร้อมสู่การไปโรงเรียน


    เพราะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ตามสองข้างทางที่เขาใช้เดินเข้าโรงเรียนจึงเต็มไปด้วยต้นไม้ที่แข่งกันผลิใบบานสะพรั่ง มีดอกไม้และใบไม้หลากหลายสีสัน สร้างความสวยงามให้กับผู้พบเห็น นอกจากนี้อากาศยังเย็นสบายไม่หนาวมากเกินไปจนทำให้คนขี้หนาวแบบเขาต้องรู้สึกไม่สบายตัว ซึ่งทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นสัปดาห์ที่แจ่มใสดีสำหรับเขา


    แต่จะไม่ดีก็เพราะไอ้คนที่กำลังเล่นหัวเขาอยู่นี่แหละ


    “เลิกยุ่งกับผมฉันได้แล้วหน่า”


    มาร์คพูดเสียงเข้ม ก่อนจะปัดมือของอีดงฮยอกที่กำลังยุ่มย่ามออกจากศีรษะตัวเองเบา ๆ ทั้ง ๆ ที่หมอนั่นเพิ่งจะเดินเข้ามาในห้องเรียนแท้ ๆ แต่ดันเลือกที่จะมากวนประสาทเขา แทนที่จะเข้าไปนั่งที่ของตัวเอง


    ให้ตายดิ นี่เขาเพิ่งสระผมมาเมื่อคืนเองนะ


    “ฉันแค่จะปัดใบไม้ที่ติดผมนาย”


    “ขอบใจ” มาร์คบอกปัด ก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะเรียน และปล่อยให้หมอนั่นกลับไปนั่งลงยังที่นั่งของตัวเองเงียบ ๆ เพราะไม่อยากเสวนากับหมอนั่นต่อเท่าไหร่นัก ได้แต่นึกโทษนาแจมินที่กำลังอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่ในใจว่าทำไมไอ้เพื่อนตัวดีของเขาถึงไม่ยอมปัดออกให้ก่อนที่ดงฮยอกจะเข้ามาเห็นมัน


     

    ใคร ๆ ก็รู้ว่าเราสองคนน่ะไม่ค่อยจะถูกกัน


     

    และใคร ๆ ก็รุ้ว่าอีดงฮยอกกับมาร์คลีน่ะตีกันบ่อยจะตาย


     

    ก็มันช่วยไม่ได้จริง ๆ และถ้าจะโทษก็คงต้องโทษหมอนั่นที่ดันชอบมากวนใจ ทั้งพูดจากวนประสาท และชอบหาเรื่องแกล้งเขาอยู่เสมอ ๆ ซึ่งมาร์คเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าสาเหตุที่หมอนั่นชอบมาแกล้งกันแบบนั้นมันเป็นเพราะอะไร


    คิดเรื่องลีดงฮยอกคนน่ารำคาญไปแล้วก็จะเสียสุขภาพจิตเปล่า ๆ มาร์คจึงเลือกที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วกดเข้าแอพพลิเคชั่นที่ชอบเข้าอยู่เป็นประจำ ก่อนจะต้องเผลอยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้


     

    ตื่นยางงงงง ประมาณ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา


     

    ข้อความธรรมดาจากใครสักคนที่ถูกส่งผ่านมาจากแอพพลิเคชั่นถามคำถามไม่ระบุตัวตนนั้นทำให้มาร์ครู้สึกดีขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเขาเป็นใครเป็นคนส่งมาตลอดหนึ่งปีที่คุยกันเลยก็เถอะ


    มือเรียวพิมพ์ตอบคนที่มักจะส่งข้อความมาปลุกกันทุกเวลาเจ็ดโมงเช้าผ่านแอพ Ask.fm ก่อนจะกดปิดหน้าจอแล้วเก็บโทรศัพท์ลงใต้โต๊ะเมื่อได้ยินเสียงอาจารย์ที่ปรึกษาเดินเข้ามาในห้องเรียน เขาเงยหน้าขึ้นจากใต้โต๊ะเรียนเพื่อมองไปยังหน้าห้อง ก่อนที่สายตาจะปะทะเข้ากับอีดงฮยอกที่กำลังหันหลังกลับมาเพื่อหาของในกระเป๋าเป้


    “ยิ้มคนเดียวอีกแล้วนะมาร์คลี”


    คนตัวเล็กที่พ่วงตำแหน่งหัวหน้าห้องเอ่ยแซ็วออกมาเบา ๆ พร้อมกับส่งยิ้มกว้างที่แสนน่ารำคาญเหลือเกินในความคิดของมาร์คลีมาให้ ก่อนจะหันกลับไปทางหน้าห้องเรียนตามเดิม ส่วนเขาก็ทำได้แค่แอบแยกเขี้ยวให้คนตรงหน้าในใจ


     






    หลังสิ้นสุดเสียงออดบอกเวลาพักกลางวัน เพื่อนร่วมห้องของเขารวมถึงอาจารย์ประจำวิชาต่างพากันเก็บข้าวของของตัวเองก่อนจะทยอยกันออกจากห้องเรียน เพื่อไปรับประทานอาหารกลางวัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเพื่อนบางส่วนที่ยังนั่งอยู่ในห้องเรียน บ้างก็กินอาหารกลางวันที่เตรียมมาจากที่บ้าน บ้างก็ทำการบ้านที่ตัวเองยังทำไม่เสร็จ หรือเพื่อนบางคนที่เอาเก้าอี้มาต่อกันแล้วทิ้งตัวลงนอนก็มี


    มาร์คลีก็เช่นกัน เขาไม่ได้ลงไปทานข้าวกลางวันแบบคนอื่น ๆ และทิ้งให้นาแจมินต้องลงไปกินข้าวคนเดียว ส่วนตัวเองก็เลือกที่จะมาก้มหน้าก้มตาทำการบ้านวิชาประวัติศาสตร์ของตัวเองให้เสร็จเรียบร้อย ก่อนที่จะถึงเวลาส่งในคาบบ่ายนี้


    หลังจากใช้เวลาเกือบยี่สิบนาทีในการเขียนสรุปประวัติศาสตร์จีนจากหนังสือเรียนลงในสมุดตามคำสั่งของอาจารย์พัค(ที่เขาลืมจนต้องมาทำเอาตอนกลางวัน) ในที่สุดมาร์คก็ทำมันจนเสร็จ ถึงแม้ลายมือจะไม่ค่อยเรียบร้อยตามประสาคนรีบเขียนก็ตาม เขาวางปากกาลงบนโต๊ะแล้วยืดข้อนิ้วคลายความเมื่อย ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเล่น


    ข้อความแจ้งเตือนจากแอพถามคำถามเด้งขึ้นมาทันทีที่มาร์คเปิดหน้าจอ เมื่อกดเข้ามาดูก็พบกับคำถามที่เพิ่งถูกส่งมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนจากใครบางคน

     


    วันนี้นายไม่กินข้าวกลางวันหรอ? ประมาณ 7 นาทีที่ผ่านมา

     


    มาร์คยิ้มหวานให้กับข้อความนั้น ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไปอย่างอารมณ์ดี ถึงแม้จะไม่รู้ว่าคนที่ถามเข้ามาเป็นใครนี้


     

    วันนี้นายไม่กินข้าวกลางวันหรอ?

    Markmarkk 3 นาทีที่ผ่านมา

    ไม่กิน ๆ พอดีเรายังทำการบ้านไม่เสร็จอ่ะ



    มือเรียวพิมพ์ออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนกดส่งคำตอบออกไป หลังจากนั้นก็กดเข้าแอพอื่น ๆ เพื่อกะเล่นฆ่าเวลา แต่ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งนาทีก็มีแจ้งเตือนจากแอพเดิม ที่คาดว่าน่าจะเป็นคนเดิมถามเข้ามาอีกครั้ง


     

    แล้วนายจะไม่หิวหรอ? ไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา

     


    มาร์คจ้องมองคำถามใหม่ที่เพิ่งถูกส่งเข้ามา ก่อนจะต้องกลั้นยิ้มจนเหมือนเคี้ยวเหงือกหนุบหนับ เมื่อเงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์แล้วเห็นว่าเพื่อนคนไทยที่ชื่อผดุงเกียรติกำลังมองหน้ากันอยู่


    เขาก้มหน้าลงมองหน้าจอมือถือของตัวเองอีกครั้งก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไป โดยไม่สนใจเสียงเอ่ยแซ็วของเพื่อนร่วมห้องที่ชื่อออกเสียงยากมาก ๆ แต่รออยู่หลายนาทีก็ยังไม่มีคำถามอะไรส่งกลับมาอีกจึงฟุบหน้าลงกับโต๊ะ


    “อ่ะ” สัมผัสเหมือนมีห่อพลาสติกมาวางอยู่บนแขน รวมถึงน้ำเสียงที่คุ้นเคยทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง “แจมินฝากมาให้”


    ดงฮยอกรีบอธิบายก่อนจะหันหลังกลับไปนั่งลงยังที่นั่งของตัวเองที่อยู่ด้านหน้าเขา ส่วนเขาก็ไม่ได้ตอบอะไรคนตัวเล็กกลับไป แต่ก็หยิบห่อขนมปังนั้นมาแกะกินเงียบ ๆ


    “ไม่ลงไปกินข้าวนะไอ้หมา” เสียงทุ้ม ๆ ของนาแจมินที่เดินเข้ามาในห้องเรียนพร้อมกับอีเจโน่ดังขึ้นทันทีเมื่อมันเดินเข้ามาในห้องเรียน พอดีกับที่เขาเอาขนมปังคำสุดท้ายเข้าปากพอดี “แล้วนี่เอาขนมปังมาจากไหน?”


    “มึงฝากให้หัวหน้าเอามาให้กูไม่ใช่หรือไง?” เขาตอบ


    คำตอบของเขาทำให้เพื่อนตัวสูงชะงักไปสักพัก มันเลิกคิ้วขึ้นใส่เขาก่อนจะร้องออกมาเมื่อโดนเจโน่กระซิบและสะกิด(หยิก)เข้าที่หลัง


    “กูลืม ๆ” แจมินพูดพร้อมกับหัวเราะออกมาเบา ๆ “กินไป เดี๋ยวปวดท้องมาแล้วจะมีคนไม่สบายใจอีก”









    หน้าปัดนาฬิกาที่อยู่บนข้อมือของเขาบอกเวลาสี่โมงเย็นแป๊ะ ๆ เหล่าบรรดาเพื่อนในห้องเรียนต่างพากันแยกย้ายกันกลับบ้านไปพักผ่อน บ้างก็ไปซ้อมกีฬา และบางคนก็ออกไปเรียนพิเศษต่อ เหลือแต่พวกที่ต้องอยู่ทำเวรประจำวันที่ยังคงเดินหน้าปัดกวาดห้องเรียนกันอย่างขะมักเขม้นตามคำสั่งของหัวหน้าเวรที่ได้รับมอบหมายโดยคุณครูประจำชั้น


    มาร์คไม่ได้เป็นเวรทำความสะอาดประจำวันจันทร์ แต่ที่เขายังต้องนั่งรออยู่หน้าห้องเรียนไม่ได้ออกไปไหน ก็เพราะต้องรอนาแจมินเพื่อนรักที่กำลังหยิบไม้กวาดมาปัดผ่านพื้นอยู่ในห้องเรียน ก่อนจะพากันไปเรียนพิเศษต่อจนถึงดึก


    เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาไถหน้าจอเล่นไปเรื่อยอย่างคนไม่มีอะไรทำ เข้าแอพนั้นออกแอพนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมีแจ้งเตือนจากแอพถามคำถามที่เขาเฝ้ารอมาทั้งวัน


     

    นั่งหน้าหงอยเชียว ประมาณ 1 นาทีที่ผ่านมา

     


    มาร์คมองคำถามที่เพิ่งถูกส่งมาเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน ก่อนจะยิ้มออกมาน้อย ๆ แล้วกดเข้าไปตอบคำถามที่ถูกส่งมาจากบุคคลนิรนามนั้น เหลียวมองซ้ายมองขวาหาคนที่น่าจะเป็นคนส่งคำถามมาแต่ก็ไม่เห็นมีใครที่นั่งอยู่ริมระเบียงนอกจากผดุงเกียรติที่กำลังนั่งอ่านนารูโตะอยู่บล็อกถัดไป


    เอาจริง ๆ ก็พอจะรู้อยู่แหละ ว่าคนที่ส่งคำถามมาหาเขาทุกวันแบบวินาทีต่อวินาที รวมถึงส่งข้อความมาปลุกกันทุกเช้าน่าจะเป็นคนที่อยู่โรงเรียนนี้ แต่เขาก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าคนคนนั้นเป็นใครทั้ง ๆ ที่คุยกันมาเกือบปี จนคำถามในอาส์กของเขาเป็นหมื่นแล้วก็เถอะ


    “ยิ้มให้โทรศัพท์อีกแล้ว”


    เสียงปิดประตูห้องเรียนพร้อมกับคำเอ่ยทักของหัวหน้าห้องทำให้มาร์คต้องเงยหน้าขึ้นจากจอมือถือ คนตัวเล็กเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาพร้อมกับกองสมุดที่อยู่ในอ้อมแขน คิดว่าคงจะต้องเอาไปเก็บที่ห้องพักครูแหง ๆ


    “คุยกับแฟนหรอมาร์คลี?” หมอนั่นถามขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะเดินมาหยุดตรงหน้าเขา


    “อือ” เขาตอบออกไปเสียงดังฟังชัดเมื่อเห็นรอยยิ้มซื่อ ๆ กับคำถามของอีกคน ก็เห็นชอบพูดว่าคนแบบเขาใครจะโง่มาหลงชอบดีนัก ขออวดว่าที่แฟนหน่อยก็แล้วกัน(?)


    “งั้นหรอ” ดงฮยอกพูดเสียงเบา แต่เขาก็พอจะได้ยินอยู่ดี “กับคนในแอพไร้ตัวตนนั่นนะ?”


    “ใช่”  


    “เขายอมเป็นแฟนนายแล้วหรอ?”


    “แล้วนายยุ่งอะไรด้วยล่ะ? เดี๋ยวเราก็ได้เป็นแฟนกันแล้ว นายคอยดูเถอะ”


    “มั่นใจจังเลยนะ”


    “แน่นอนสิ อีกไม่นานนี้แหละ”


    เขายื่นคำขาดออกไป ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงจนคนตัวเล็กต้องผงะถอยหลังออกไป เมื่อเขาเห็นว่าเพื่อนสนิทของเขาออกมาจากห้องเรียนพอดี


    แอบชำเลืองมองหัวหน้าห้องคนเก่งที่หันหลังกลับไปมองแจมินกับเจโน่ ก็พบว่าอีกคนมีเหงื่อออกตามไรผม แถมหน้าก็ขึ้นสีนิด ๆ ทั้งที่อากาศก็ไม่ได้ร้อนมากเท่าไหร่ ไม่สบายหรือยังไง?


    “ทำอะไร!?!” หมอนั่นแหวขึ้นหลังจากที่ผมเอาหลังมือไปแตะหน้าผากเขา จนเพื่อนอีกสองคนตกใจ เขาแอบเห็นว่าผดุงเกียรติสะดุ้งจนทำหนังสือการ์ตูนหลุดมือด้วย


    “ก็เห็นหน้าแดง ๆ ตัวก็ไม่ได้ร้อนนี่” เขาตอบ


    “ช่างเหอะ” ดงฮยอกพูดก่อนจะคว้าแขนเจโน่แล้วลากกันออกไป “เจโน่ไปกันได้แล้ว!

     





     

    เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยตอบเราเลยนะ

    Markmarkk ประมาณ 1 วันที่ผ่านมา

    ก็มาเจอกันสักทีสิ

     


    “มาร์ค”


    “มาร์คลี”


    “ไอ่! เชี่ย! มาร์ค!


    เสียงตะโกนใส่หูจากไอ้เพื่อนตัวสูงที่นั่งเรียนอยู่ข้าง ๆ กันทำให้เขาต้องยกมือขึ้นมาปิดหูตัวเองเพราะความตกใจ แต่เมื่อตั้งสติได้ก็ฟาดลงไปที่แขนมันเต็ม ๆ


    “ตะโกนทำเชี่ยไร”


    “กูเรียกมึงหลายรอบละ เหม่อๆ” แจมินพูด ก่อนจะยกมือขึ้นมาผลักหัวเขาเบา ๆ “เอาการบ้านออกไปส่งหน้าห้อง ดงฮยอกจะรวบรวมแล้ว”


    “เออ ๆ”


    เขาพูดตอบพลางหยิบสมุดวิชาเคมีที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะเรียนออกมา ก่อนจะเดินไปวางมันไว้บนโต๊ะอาจารย์ที่อยู่หน้าห้องเรียนโดยมีอีดงฮยอกที่กำลังนับจำนวนสมุดอยู่ เมื่อได้สมุดของเขาแล้วหมอนั่นก็รับเอาไว้และเดินออกไปส่ง ส่วนเขาก็เดินกลับมายังที่นั่งของตัวเอง


    “เป็นไรจ๊ะ? วันนี้เหม่อ ๆ” แจมินถามขึ้นอีกครั้งก่อนจะกระทุ้งแขนเขาเบา ๆ ส่วนอีเจโน่ที่หันหลังมาเล่นไพ่สลาฟทางโต๊ะพวกเขาก็มองหน้าเขาอย่างสงสัยด้วย


    “เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร”


    “แน่ใจนะ?” แจมินถามย้ำอีกครั้ง “ไม่ได้คิดเรื่องคนที่อยู่ในอาส์กหรอ?”


    “เออ” ก็คิดแหละ พอขอเจอหน้าก็หายเงียบไปเลยอ่ะ ถึงจะเคยขอเจอไปหลายครั้งแล้วไม่เคยได้เจอเลยก็เถอะ แต่คราวนี้จะน้อยใจจริง ๆ แล้วนะ


    “เขาเป็นอะไรล่ะ?” เจโน่ถามขึ้นบ้าง


    “ไม่รู้ดิ” มาร์คพูด “พอเราขอเจอเขาทีไรก็ชอบหายเงียบ ไม่ก็เบี่ยงประเด็นทุกทีเลยอ่ะ ตกลงเขาชอบเราจริงป่ะวะ?”


    นี่ไม่ได้พูดแบบมั่นหน้านะ แต่คนนั้นเคยบอกชอบเขาจริง ๆ นี่หว่า แล้วนี่ยิ่งไปโม้ใส่หัวหน้าห้องไว้อีกว่าจะเปิดตัวแฟนเร็ว ๆ นี้


    “อย่าคิดมากเลยมาร์ค คนคนนั้นคงจะเขินนายมาก ๆ จนไม่กล้ามาเจอหน้าก็ได้”


    เจโน่พูดอย่างใจเย็น เหมือนจะพยายามช่วยไม่ให้เขาฟุ้งซ่าน พอดีกับที่ดงฮยอกเดินกลับมานั่งที่ของตัวเองพอดี


    “ไม่งั้นนายก็บอกคนคนนั้นไปเลย ว่าถ้าไม่มาให้เจอหน้า จะลบบัญชีอาส์ค” เจโน่เสนอแนวทาง ก่อนจะหันไปถามดงฮยอก “นายว่าแบบนั้นดีไหมดงฮยอก”


    “ห้ะ?” ดงฮยอกเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะหันกลับมามองหน้าเขา


    “มาร์คบอกว่าคนที่มาร์คชอบในอาส์กไม่ยอมมาให้เจอหน้า ถ้าให้มาร์คลบบัญชีแลกกับการมาเจอหน้ากันนายว่าดีมั้ย?”


    “แบบนั้นมันบังคับกันนี่!


    “ถ้าไม่บังคับแล้วมาร์คจะต้องรอไปถึงเมื่อไหร่ล่ะ?” เจโน่พูด ก่อนจะมองหน้าดงฮยอก “ไหนบอกมาสิ”


    “จะไปรู้กับคนนั้นหรอ” ดงฮยอกแหว ก่อนจะหันมาพูดกับเขา “คนคนนั้นอาจจะยังไม่พร้อมก็ได้”


    “ไม่รู้ดิ แต่ลองเก็บวิธีนี้ไปคิดดูได้นะมาร์ค” เจโน่พูดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งแจมินก็พยักหน้าสนับสนุน ส่วนหัวหน้าห้องคนเก่งก็หันกลับไปทางหน้ากระดานแล้ว เมื่อขัดเจโน่ไม่ได้









    โกรธไรป่าวอ่ะ? ประมาณ 13 นาทีที่ผ่านมา


     

    มาร์คจ้องมองข้อความที่เพิ่งถูกส่งมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนเงียบ ๆ ในขณะที่กำลังตัดสินใจกับตัวเองอยู่ว่าควรจะทำแบบที่เจโน่พูดเลยดีมั้ย หลังจากที่คิดมาทั้งวันจนถึงขึ้นเปิดกูเกิลเพื่อหาวิธีลบบัญชีแอพพลิเคชั่นนี้ไปแล้วก็เถอะ


    ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนแล้ว เพื่อนร่วมห้องหลายคนก็พากันกลับบ้านไปหมดจนตอนนี้เหลือเพียงแต่เวรประจำวันศุกร์เท่านั้นที่ยังอยู่ในห้องเรียนนี้ ซึ่งตอนนี้ก็เหลืออยู่แค่สามคนเท่านั้น คือ เขา ดงฮยอก และจินฮยอน เพราะคนอื่น ๆ ทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จหมดแล้ว


    “เราไปซ้อมบอลแล้วนะฮยอกกี้”


    คิมจินฮยอนพูดขึ้นกับหัวหน้าห้องตัวเล็ก หลังจากกวาดห้องด้านหน้าและเก็บไม้กวาดเข้าที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งดงฮยอกก็ทำเพียงพยักหน้าและส่งยิ้มให้เพื่อนร่วมห้องเท่านั้น ก่อนจะกลับมาจัดโต๊ะต่อ


    เขาชำเลืองมองคนตัวเล็กหลังจากทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จเรียบร้อย แต่ดูเหมือนดงฮยอกจะยังต้องเก็บรวบรวมสมุดไปส่งยังห้องพักครูอีก หมอนั่นยังคงนับและเรียงสมุดอยู่หน้าห้องด้วยท่าทางขะมักเขม้นจนเขานึกเอ็นดู


     

    เอาล่ะ จะเริ่มขู่คนคนนั้นแล้วนะ


     

    โกรธไรป่าวอ่ะ?

    Markmarkk ประมาณ 1 นาทีที่ผ่านมา

    ถ้าเธอไม่มาเจอเรา เราจะลบบัญชีแล้วนะ


             

    มาร์คเลือกที่จะมาหลบอยู่มุมห้องและหันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง ก่อนจะพิมพ์ข้อความนั้นและส่งออกไปอย่างรวดเร็ว และรอเพียงไม่นานคำถามใหม่ก็ถูกส่งเข้ามาหลังจากผ่านไปไม่กี่วินาที


     

    ตลกหรอ? ไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา


     

    อย่าเพิ่งลบนะ ไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา


     

    มาร์คอ่าาาาา ไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา


     

    เรายังไม่พร้อมๆๆๆ ไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา


                                                                                                                           

    “นี่ดงฮยอกอ่า” เขาเอ่ยเรียกคนที่กำลังก้มหน้ากดโทรศัพท์ยุกยิกอยู่หน้าห้องเรียน ก่อนจะเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย และยื่นหน้าจอให้ดู “นายพอจะรู้วิธีลบบัญชีแอพนี้มั้ย?”


    “ไม่ ๆ ไม่รู้”


    “ถ้าลองกดมั่ว ๆ ตรงนี้จะเป็นยังไงนะ?” เขาพูดขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะชี้ไปที่ช่องลบแอคเคาท์ แอบชำเลืองมองอีกคนก็เห็นว่าเหงื่อกำลังออกมาตามไรผม ทั้ง ๆ ที่เครื่องปรับอากาศในห้องก็ยังทำงานอยู่


    “นี่!


    What?” มาร์คหันไปมองหน้าอีกคน ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเบา ๆ “ทำไมอ่ะ แค่ลบบัญชีเอง”


    “แล้วคนคนนั้นจะรู้สึกยังไงล่ะ ถ้าอยู่ ๆ นายก็หายไปเสียดื้อ ๆ อ่ะ”


    “แล้วทำไมคนคนนั้นไม่คิดถึงใจฉันบ้างล่ะ?” มาร์คพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะหันไปมองคนที่กำลังก้มหน้ามองโต๊ะอาจารย์ ตอนนี้นอกจากไรผมจะเปียกแล้วหูยังแดงมากอีกต่างหาก “มาทำให้ชอบ แต่ไม่ยอมให้เข้าใกล้แบบนี้ไม่ยุติธรรมเลยนะ”


    "..."


    "..."


    “ก็ได้...”


    “ก็ได้อะไร?”


    เขาพูดเอื่อย ๆ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโต๊ะอาจารย์จนใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกับอีกคนพอดี กอดอกมองหน้าคนตัวเล็กที่เอาแต่ก้มหน้ามองสมุดการบ้านของเพื่อนร่วมห้องทั้ง ๆ ที่มันไม่ได้น่าสนใจตรงไหน ยิ่งตอนยื่นมือไปกำรอบแขนอีกคนจนผงะยิ่งนึกขำ


    “ไอคนที่อาส์คไปถามนายทุกวันก็ฉันเองแหละ พอใจยัง?”


    คนตัวเล็กพูดรัวเร็วจนเขาเกือบจะฟังไม่รู้เรื่อง ส่วนมืออีกข้างที่ไม่ได้ถูกเกาะกุมก็กำลังพยายามแกะมือของเขาออก ซึ่งก็ดูไม่ค่อยจะได้ผลเท่าไหร่


    “ยังไม่พอใจ”


    “อะไรอีกอ่ะ” คนตรงหน้าบะปากน้อย ๆ ก่อนจะช้อนตามองกัน “มาร์ค หายโกรธเถอะน้า”


    “ให้หอมแก้มก่อน แล้วจะหาย”


    “ตลกหรอ!!


    ดงฮยอกเหวขึ้นก่อนจะพยายามบิดข้อมือออกจากการเกาะกุม แต่แรงที่มีแค่นิดเดียวเมื่อเทียบกับเขา ทำให้ไม่สามารถหนีจากแรงของเขาได้ สุดท้ายมาร์คลีเลยต้องรวบข้อมือของเด็กดื้อเอาไว้ทั้งสองข้าง ก่อนจะยื่นหน้าไปสัมผัสความนุ่มนิ่มที่แก้มของนักเลงคีย์บอร์ดที่ปั่นหัวเขามาตั้งนาน


    “ก็แค่เนี้ย”


    “ไอ้บ้าเอ๊ย!!


    ดงฮยอกโวยวายก่อนจะเอามือมาถูแก้มตัวเองแรง ๆ หลังจากที่เขาปล่อยมือออก ก่อนจะต้องตกใจจนตาโตอีกครั้งเมื่อได้รับสัมผัสหนุ่มยุ่นที่ริมฝีปาก


    “ไอ้เชี่ยมาร์ค!!


    ช่วยไม่ได้จริง ๆ ที่ดันน่ามันเขี้ยวจนอดจะแกล้งไม่ได้แบบนี้


    และเอาจริง ๆ เขาก็รู้ตั้งนานแล้วแหละครับว่าคนที่อาส์คมาทุก ๆ วันเป็นใคร ก็ใครล่ะที่ดันมาฝากมือถือไว้กับเขาในคาบพละแล้วไม่ยอมล็อกรหัสอ่ะ 


    แต่ก็นั่นแหละครับ เขาแค่อยากแกล้งเด็กดื้อเฉย ๆ แค่นั้นเอง




    -END-






    แถม



    “เมื่อไหร่จะกลับสักที่อ่า?


    น้ำเสียงติดจะงอแงของคนตัวสูงที่กำลังนั่งกอดอกหน้างออยู่บนโต๊ะอาจารย์ยังคงมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระหว่างรอเขานับสมุดบันทึกการอ่านของเพื่อนร่วมห้องก่อนที่จะต้องเอาไปส่งยังห้องพักครูที่ปรึกษา


    เพราะเป็นวันศุกร์หรรษา เพื่อน ๆ ในห้องจึงพากันกลับบ้านไปหมดอย่างรวดเร็วจนตอนนี้เหลือคนอยู่ในห้องแค่สามคน คือ เขา มาร์คลี และผดุงเกียรติ(ที่มีชื่อเล่นว่าฟาโรห์ แต่เพื่อนไม่ยอมเรียกกัน)เพื่อนคนไทยสุดหล่อที่เป็นเวรประจำวันนี้เหมือนกัน


     “ดงฮยอก เราฝากเอาสมุกฟิสิกส์ไปส่งด้วยได้มั้ย” สำเนียงภาษาเกาหลีแบบแปล่ง ๆ ของฟาโรห์ทำให้ดงฮยอกต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง “เห็นว่านายจะไปห้องพักครูหมวดวิทย์พอดี”


    “ไม่รับฝาก”


    “ห้ะ ทำไมอ่ะ?


    “เป็นคำสั่งของแฟนหัวหน้าห้อง ห้ามใช้งานหัวหน้าห้องโดยไม่จำเป็น”


    “โถ่ มาร์คลี” ผดุงเกียรติถอนหายใจก่อนจะกลอกตามองบนหลังจากได้ฟังประโยคของมาร์คลี ซึ่งเขาเองก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน


    “เอามาเหอะ เดี๋ยวเอาไปส่งให้” เขาบอกก่อนจะยื่นมือไปรับสมุดวิชาฟิสิกส์จากเพื่อนร่วมชั้นตัวสูง ก่อนจะโบกมือลาอีกฝ่ายที่เดินออกจากห้องเรียนไป


    “อย่าไปยิ้มให้คนอื่นพร่ำเพื่อดิ” มาร์คลีพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง


    “ขี้หวงว่ะ”


    “ก็อยากน่ารักเองทำไมอ่ะ?”


    พูดจบหมอนั่นก็ยื่นหน้ามาหอมแก้มเขาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะผละออกไปยิ้มหน้าบ้านจนจะเป็นกระด้งจนคนเห็นแบบเขารู้สึกหมั่นไส้จนต้องฟาดลงไปที่แขนแรง ๆ


    “ไอ้เห...”


    “จะพูดว่าอะไรนะ!?


    มาร์คลีพูดเสียงเข้มก่อนจะล็อกแขนและรวบเอวเขาเข้าหาตัวเองเมื่อเห็นว่าเขาจะพ่นคำหยาบใส่ ยิ่งพยายามดิ้นออกหมอนั่นก็ยิ่งรวบเอวเขาไว้มากขึ้น


    “อย่าาาาาาา” เผลอร้องเสียงหลงก่อนจะเอามือข้างที่ไม่ถูกเกาะกุมดันหน้าอีกฝ่ายเอาไว้ เมื่อเห็นว่ามาร์คลีทำท่าจะยื่นหน้าเข้ามา


    “บอกกี่รอบแล้วว่าอย่าพูดคำหยาบใส่กัน” คนตัวโตพูดก่อนจะมองหน้ากันนิ่ง ๆ “เรายังไม่พูดคำหยาบใส่นายเลยนะ”


    “ขอโทษ ก็มันยังไม่ชินไง” เขาพูดเสียงอ่อยก็คนมันลืมตัวนี่หว่า พยายามยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าแต่มาร์คลีก็ยังทำหน้านิ่งใส่ “มาร์คไม่โกรธน้า ดีกันๆ”


    “ให้จูบก่อนจะหายโกรธ”


    “บ้าเหอะ!


    “ไม่บ้า”


    “ไอ้ อื้อ”






    -20180214-



    สุขสันต์วาเลนไทน์นะคะ 

    อัพฟิคเนื่องในวันเกิดแจฮยอนนี่ 

    คุณหมูหัวหน้าชิปเป้อมัคดงของเรานั่นเอง

    (ไม่เกี่ยวกันเล้ย)

    เป็นกำลังใจให้สัปดาห์นรกที่จะมาถึงของไรท์เตอร์ด้วยค่ะ สาธุ

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×