คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : SF | Little boy next door
Little boy next door
MARK LEE X LEE DONGHYUCK
เช้าวันหยุดสุดสัปดาห์ของเด็กชายวัยอนุบาลเริ่มต้นขึ้นด้วยการตื่นนอนแต่เช้า ลุกขึ้นเก็บที่นอนให้เป็นระเบียบตามแบบฉบับเด็กดีที่ใคร ๆ ก็กล่าวชม ก่อนจะอาบน้ำปะแป้งจนหอมฉุย แล้วลงไปหาคุณมัมที่กำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัว
เด็กน้อยนั่งลงในที่ประจำของตน แกว่งเท้าไปมาพร้อมกับฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีในระหว่างรอให้ผู้เป็นแม่ทำอาหารเสร็จ ก่อนจะต้องหันไปมองทางประตูหน้าบ้านเมื่อได้ยินเสียงออดดังขึ้น
“เดี๋ยวมาร์คไปดูเองฮะ”
พูดจบก็ปีนลงจากเก้าอี้ประจำตัว ก่อนจะรีบวิ่งไปเปิดประตูให้กับแขกผู้มาใหม่
“สวัสดีตอนเช้าจ้ะมาร์ค”
ทันทีที่เปิดประตูบ้านออกไป มาร์คลีก็พบเข้ากับรอยยิ้มใจดีของแขกประจำซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคุณน้าลีดงฮา เพื่อนบ้านที่พ่วงตำแหน่งเพื่อนสนิทของมัมนั่นเอง
เด็กน้อยฉีกยิ้มโชว์ฟันน้ำนมให้คุณน้าข้างบ้าน ก่อนจะหลีกทางให้คุณนายลีเดินจูงมือน้องดงฮยอกที่เอาแต่ขยี้หูขยี้ตาเหมือนกับยังไม่ตื่นดีเข้ามาข้างใน เมื่อเข้ามาภายในบ้านคุณน้าก็วางกระเป๋าสัมภาระของฮยอกกี้ไว้บนโซฟาหน้าทีวี ก่อนจะเดินหายเข้าไปหามัมในครัว
สงสัยคุณน้าจะต้องไปดูร้านที่เชจูอีกแล้วแน่ ๆ เลย
มาร์คลีคิดในใจ ก่อนจะเดินไปนั่งรอแม่ ๆ ที่โซฟา ตามมาด้วยดงฮยอกที่ดูท่าทางจะตื่นตัวมากกว่าก่อนหน้านี้นิดหน่อย แต่ก็ยังอ้าปากหาวจนคนเป็นพี่กลัวว่าแมลงวันจะบินเข้าปาก
เพราะกิจการร้านอาหารเกาหลีของคุณน้าขายดิบขายดีจนต้องเปิดสองสาขา แต่บางครั้งก็เกิดปัญหาขึ้นกับสาขาใหญ่อย่างเชจูบ้าง ถึงแม้ว่าคุณพ่อของดงฮยอกจะเป็นคนดูแลอยู่แล้วก็ตาม ทำให้คุณน้าลีดงฮาต้องมาไหว้วานฝากน้องดงฮยอกไว้กับบ้านของเขาอยู่บ่อย ๆ
“ขอโทษที่รบกวนอีกแล้วนะเธอ”
“ไม่เป็นไรหรอกหน่า ดงฮยอกก็เหมือนลูกฉันอีกคนนั่นแหละ”
หลังจากที่พูดคุยกันเสร็จเรียบร้อย คุณแม่ยังสาวทั้งสองก็พากันเดินออกมาจากห้องครัว ก่อนคุณน้าลีจะเดินมาหาดงฮยอกที่นั่งตาแป๋วอยู่ข้าง ๆ เขา
“อยู่กับคุณป้าแล้วอย่าดื้อนะครับ” ย่อตัวลงพูดกับลูกชายที่นั่งอยู่บนโซฟา ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มกลม ๆ ทั้งสองข้างจนเกิดเสียงดังฟอด
“หม่าม้าอย่าลืมขนมนะ”
“โอเค ๆ หม่าม้าไม่ลืมหรอก” พูดพลางส่ายหัวขำ ๆ ให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่ห่วงของฝากมากกว่าห่วงว่าจะต้องห่างแม่ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วลูบหัวมาร์คลีเบา ๆ “น้าฝากน้องด้วยนะมาร์ค”
หลังจากทานข้าวเช้าฝีมือมัมจนเสร็จเรียบร้อย มาร์คและน้องชายข้างบ้านก็พากันขนของเล่นออกมาเล่นด้วยกันแบบที่ทำอยู่เป็นประจำ แต่คราวนี้มาร์คลีเพิ่งได้ของเล่นใหม่อย่างแป้นบาสมินิที่แด๊ดดี้ซื้อมาฝากจากแคนาดา
พี่ชายวัยหกขวบอธิบายวิธีการใช้เครื่องเล่นเกมส์แป้นบาสมินิให้คนน้องฟัง ก่อนจะตกลงผลัดกันเล่นคนละครั้ง คนที่ได้ครบยี่สิบแต้มก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ ส่วนคนแพ้จะต้องโดนดีดเหม่ง
“พี่มาร์ค! ขี้โกงอ่ะ!”
เสียงโวยวายดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อมาร์คลีเริ่มทำแต้มนำไปถึง 16 – 7 คนเด็กกว่าเอาแต่ดีดดิ้นไปมาเพราะกลัวว่าจะต้องเป็นฝ่ายแพ้เสียเอง
“ไม่เล่นอันนี้แล่ว” ว่าแล้วก็กอดอกมุ่ยหน้า
“ไม่เล่นอันนี้ แล้วดงดงจะเล่นอะไรอ่ะ?” คนพี่ได้แต่เกาหัวอย่างงง ๆ ดงฮยอกก็แบบนี้ทุกที พอจะแพ้ก็ไม่ยอม ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นคนคิดบทลงโทษเองแท้ ๆ
“งั้นไปจับแมลงกัน”
“ไม่เอา!” ส่ายหน้าแรง ๆ เป็นการปฏิเสธ “คราวที่แล้วดงดงก็กินน้ำผึ้งจนหมด ไม่เหลือไว้ให้แมลงเลย”
“โถ่ กะแค่จะลองชิมดูเฉย ๆ เองอ่ะ” คนตัวเล็กหน้างอ ก่อนจะคว้าต้นแขนของพี่ชายข้างบ้านมาเขย่า ๆ แทนการออดอ้อน “งั้นไปสนามเด็กเล่นกัน น้าๆ”
“ก้อด้าย ก้อด้าย”
การเล่นเกมส์แป้นบาสมินิจบลงทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ (จริง ๆ ก็น่าจะรู้กันอยู่) สุดท้ายมาร์คก็ได้แต่เดินจูงแขนป้อม ๆ ของน้องชายตัวเล็กไปยังสนามเด็กเล่นของหมู่บ้าน โชคดีจริง ๆ ที่พอเดินเข้ามาในสนามเด็กเล่นแล้วเห็นเจโน่ กับแจมินกำลังนั่งเล่นชิงช้ากันอยู่
“ก้อนมาแล้ว” แจมินหยุดไกวชิงช้าของตัวเอง ก่อนจะรีบลุกมาหาเพื่อนที่เพิ่งมาใหม่ “วันนี้เล่นอะไรกันดี?”
“ไม่รู้สิ” ดงฮยอกส่ายหน้าไปมา
“งั้นมาเล่นตำรวจจับผู้ร้ายกันเถอะ” มาร์คเสนอเกมส์ใหม่ที่เขาเพิ่งรู้จัก หลังจากได้ลองเล่นกับเพื่อน ๆ ชั้นอนุบาลสาม “เดี๋ยวพี่จะเป็นตำรวจเอง”
“ดงดงเป็นด้วย”
“โน่ก็เป็น”
“งั้นแจมินจะเป็นด้วย”
“เอ้า ! ถ้าเป็นตำรวจกันหมดแล้วมันจะเป็นเกมส์ตำรวจจับผู้ร้ายได้ยังไงล่ะ” พี่โตสุดในกลุ่มแหวขึ้นมา
“ม้ากเอาแต่ใจจังเลยน้า” ดงฮยอกพูดพลางกอดอกแล้วส่ายหน้าเหมือนกับเอือมระอาเขาเต็มทน ท่าทางแบบนั้นมันมาจากการ์ตูนเรื่องชินจังที่เพิ่งดูกันไปเมื่อวานไม่ใช่รึไง?
แต่ว่าเขาไม่ได้เอาแต่ใจซะหน่อย ดงดงนั่นแหละที่เอาแต่ใจ!
มาร์คได้แต่คิดในใจ เพราะเกรงว่าถ้าพูดออกไปเขาอาจจะโดนทุบได้ เห็นตัวเล็กสุดในกลุ่มแบบนี้แต่พลังจากกล้ามเนื้อแขนไม่ใช่เล่น ๆ เลยทีเดียว
“งั้นมาเล่นวิ่งไล่จับกันเถอะ” เจโน่เสนอเกมส์ประจำกลุ่มขึ้นมา ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนก็เห็นดีเห็นงามด้วยเพราะอยากจะวิ่งเล่นเต็มแก่แล้ว
หลังจากเล่นสนุกกันมาทั้งวัน ก็ถึงเวลาที่ต้องแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมันแล้ว เด็กอนุบาลทั้งสี่แยกย้ายกันที่หน้าทางเข้าสนามเด็กเล่น โดยเจโน่กับแจมินแยกไปทางเดียวกัน ส่วนมาร์คก็เดินจูงมือน้องชายกลับบ้านของตัวเองบ้าง
เมื่ออาบน้ำ ทานข้าว แปรงฟันและทาแป้งจนหน้าขาววอกแบบที่ดงดงชอบแล้ว ก็ถึงเวลาเข้านอนของเด็กน้อยทั้งสอง ซึ่งคุณมัมผู้ใจดีของมาร์คลีก็เข้ามาเล่านิทานให้เด็ก ๆ ฟังก่อนจะปลีกตัวออกไปเมื่อเห็นว่าเด็กทั้งสองพล่อยหลับแล้ว
“ม้ากนอนแล้วหรอ?” เสียงเล็ก ๆ พูดขึ้นอีกครั้ง เรียกให้คนพี่ที่กำลังจะเคลิ้มหลับต้องตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
“นอนแล้ว” มาร์คลีตอบเสียงยาน ก่อนจะต้องผงะเมื่ออยู่ ๆ ดงดงก็เอาคางมาเกยไหล่ไว้ “จะทำอะไรอีกเนี่ย?”
“หม่าม้าบอกว่าถ้าจุ๊บ ๆ แล้วจะนอนหลับฝันดีนะ ม้ากจะไม่จุ๊บเค้าหรอ?” ยื่นหน้ามาใกล้ ๆ ไม่พอยังจ้องเขาจนตาแป๋วอีก แล้วที่พูดนี่อะไรจุ๊บ ๆ จะมาอยากกินหอยจุ๊บตอนนี้เขาหาให้ไม่ได้หรอกนะ
มาร์คไม่ได้ตอบอะไรดงฮยอกกลับไปอีกเพราะง่วงนอนเด็มทน แถมพรุ่งนี้ยังต้องตื่นให้ทันรถโรงเรียนอีก เลยปล่อยให้ดงฮยอกบ่นงึม ๆ งำ ๆ อยู่ข้างหู ส่วนตัวเองก็หลับตาพริ้มก่อนจะต้องสะดุ้งสุดตัวอีกครั้งเมื่อได้รับสัมผัสแผ่วเบาที่แก้ม
“เค้าจุ๊บเองก้อด้าย ฝันดีม้าก”
เด็กน้อยได้แต่เบิกตาโพลงอยู่ในความมืด ทั้งงงทั้งตกใจ เพราะนอกจากมัมกับแด๊ด มาร์คลีคนนี้ก็ยังไม่เคยปล่อยตัวให้ใครมาจุ๊บแก้มแบบนี้เลยนะ!
แอบเอี้ยวตัวไปมองคนเด็กกว่าที่กำลังนอนหลับตาพริ้ม พร้อมกับลมหายใจเข้าออกที่สม่ำเสมอแล้วได้แต่บ่น ๆ ในใจ มาทำให้คนอื่นนอนไม่หลับแต่ตัวเองนอนหลับสบายใจแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย
แต่จะว่าไป ก็กลัวดงดงฝันร้ายจัง งั้นจะจุ๊บให้ก็ได้
นี่ไม่ได้อยากจุ๊บเลยนะ! แค่กลัวดงดงจะฝันร้ายเฉย ๆ
END.
สวัสดีค่าทุกคนนนนน
เหตุเกิดจากการดูชินจังจนเกือบจะสองร้อยตอน(สั้นๆ)แล้ว...
ก็เลยอยากจะเขียนเรื่องเด็กน้อยใสๆลองดูบ้าง
แต่มันก็แอบจะงงๆหน่อย เพราะเราเป็นคนงงๆนั่นแหละ
อีกอย่างคือจะมาบ่นว่าเปิดเทอมได้สองอาทิตย์ละ ทำไมมออื่นไม่ยอมเปิดกัน ห้ะ!!//เดี๋ยวๆ
อือ มาบ่นแค่นี้แหละ
รักนะทุกคล
PS . ขอฝากฟิคแก้บนของเราด้วยฮะะะะ
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1653208
ความคิดเห็น