[Fic-Snsd] Hunter killed นักฆ่านักล่า(รัก)(Taeny:nytae) - นิยาย [Fic-Snsd] Hunter killed นักฆ่านักล่า(รัก)(Taeny:nytae) : Dek-D.com - Writer
×

    [Fic-Snsd] Hunter killed นักฆ่านักล่า(รัก)(Taeny:nytae)

    ฟิคนี้ประกอบไปด้วยคำหยาบคาย60% เรท16+ แนวโน้มอีโรติก85%ในตอนที่2-3ขึ้นไป

    ผู้เข้าชมรวม

    7,157

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    7.15K

    ความคิดเห็น


    61

    คนติดตาม


    178
    จำนวนตอน :  6 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  12 พ.ค. 59 / 13:46 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ




    ¥-HUNT€R KILL€D-$

        “คุณเคยได้ยินคำนี้บ้างมั้ย? มันอาจฟังดูหน้ากลัวแต่ที่จริงเปล่าเลย ฮ่าฮ่า จะว่าฉันเป็นโรคจิตก็ได้นะ 
    ฉันไม่ว่าอะไรหรอก แต่ฉันจะเล่าอะไรให้ฟังก่อนที่ฉันจะฆ่าตัวตาย”หญิงสาวงามโฉมนั่งขาไขว้ห้างอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำมันเงาตัวใหญ่อยู่ภายในห้องสี่เหลื่ยมที่มีเพียงโต๊ะทำงานและimacเครื่องใหญ่ตั้งตระหง่าอยู่กลางห้อง
    นิ้วมือเรียวเคาะลงไปกระทบกับกระบอกโลหะจนเกิดเสียง มุมปากยกยิ้มขึ้น 
    ข้างๆโต๊ะมีรูปภาพหญิงสาวสองคนยืนโอบเอวกันอยู่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีแต่ความสุข จนมือบางยื่นไปคว่ำกรอบรูปลง



    เมื่อ 10 ปีที่แล้ว

        “เธอว่าไงนะ”ชายหนุ่มยกสมาร์ทโฟนขึ้นมาพูดแล้วกรอกเสียงทุ้มส่งไป
    “หลังจากคุณวางสาย”หญิงสาวยกยิ้มขึ้น เมื่อเธอแอบเห็นชายหนุ่มนักธุรกิจชื่อดังยืนทำหน้างงอยู่ในห้องทำงานขนาดใหญ่  ชายหนุ่มรีบตัดสายทิ้งทันทีเมื่อคนในสายเอาแต่พูดกำกวมใส่เขาแล้วปาสมาร์ทโฟนลงบนพื้นอย่างอารมณ์เสีย

        

    ปังงงง!!!!!

    เสียงกระบอกโลหะเหนี่ยวไกลทะลุกระจกบานใสเข้ามากระทบศีรษะของชายหนุ่มที่กำลังจะลุกขึ้น ภาพตรงหน้าเขาดับวูบไปพร้อมกับร่างกายที่อ่อนลง  

    กระบอกโลหะขนาดปานกลางถูกวางลงที่พื้น “ฉันบอกแล้วไงว่า หลังจากที่แกวางสาย หึ” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกและแววตาอันเชื่อยชาที่มองลงไปยังกระจกที่แตกร้าวอยู่อีกฟากหนึ่งของตึก



    แปะๆ แปะๆ แปะๆ

    เสียงมือหนากระทบกันดังจากบุคคลที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ข้างหลังเงามืด เขาก้าวเข้ามาจากเงามืดจนเผยร่างของตนเองออกมา ร่างสูงผิวสีเข้มใบหน้าเรียวเข้มมุมปากกระตุกยิ้มขึ้นเมื่อหญิงสาวหันกลับไปมอง

        “ทำดีหนิ ไม่ผิดหวังเลยนะที่จ้างนักฆ่าแบบเธอมา”ร่างสูงพูดพร้อมพาขายาวก้าวเดินเข้ามาเกาะริมกำแพงของตึกชั้นดาดฟ้าไว้ สายตาคมจ้องมองลงไปยังตึกของอีกฟากที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจวิ่งกันระนาวค้นมุมนี้ ส่องมุมนู้นดูเหมือนพวกเขากำลังหาตัวคนร้ายที่ลงมือฆาตกรรมนักธุรกิจชื่อดังคนหนึ่งโดยการหาวิถีกระสุนจากการที่เขากำลังคาดเดาไว้

        “ฉันว่าไม่นานมันคงตามเธอเจอ”ร่างสูงหันหลังพิงให้กำแพงพลางเอามือยกขึ้นกอดอก สายตาคมจ้องมองไปยังหญิงสาวที่ยังคงนั้นเช็ดกระบอกปืนสไนท์เปอร์คู่ใจอย่างถนุดถนอม หญิงสาวช้อนสายตาขึ้นมามองก่องจะหลุบต่ำลงไปมองที่กระบอกปืนเช่นเดิม
    “ถ้าพวกมันยังมีชีวิตรอดก็มีโอกาสอยู่หรอกนะ”ริมฝีปากบางของหญิงสายยกยิ้มขึ้นมาอย่างเย่ยยันทั้งๆที่ยังไม่หันไปสบกับอีกคน ร่างสูงที่ยังยืนกอดอกมองหญิงสาวยิ้มเย่ยยันให้เขาจึงถอนหายใจออกมา “เรื่องนี้ เงินฉันไม่เกี่ยวนะ” ร่างสูงพูดออกมา เมื่อได้ยินประโยคเห็นแก่ตัวหลุดออกมาจากปากของอีกคนหญิงสาวถึงกับปล่อยเสียงหัวเราะออกมา
     
        “ฮ่ะๆ ถ้าคุณอยากมีชีวิตรอดกลับไปบริหารธุรกิจคุณต่อโดยที่ไม่มีศัตรูหน้าไหนมาขัดขวางล่ะก็….สองร้อยล้านวอน”หญิงสาวพูดจบไม่ทันที่เขาจะได้พูดปฎิเสทอะไรใดๆ กระบอกปืนสั้นสีทองเย็นเฉียบยื่นเข้ามาจ่ออยู่ที่ข้างขมับขวา มุมปากบางยกยิ้มฉายแววเจ้าเล่ห์อย่างเยือกเย็น
    “แก!!”

    ปัง!!

    ไม่ทันที่ร่างสูงจะได้เอ่ยอะไรออกมากระบอกปืนเหนี่ยวไกลยิงทะลุสมองจนเลือดกระฉูดออกมา “เกะกะ หลบไป” หญิงสาวผละร่างสูงให้หลบไปเพราะตำรวจในห้องตึกอีกฟากเริ่มตกใจเสียงปืนเมื่อครู่พร้อมกับตำรวจหนึ่งนายล้มลงตายคากองเลือดท่ามกลางลูกกระสุนปริศนา

    ปัง! ปัง! ปัง!

    เสียงปืนกระบอกสั้นดังลั่นพร้อมกับลูกกระสุนที่พุ้งไปเจาะสมองตำรวจเล่นทีละคนจนหมด ร่างสูงมองหญิงสาวด้วยความตกใจ นี่แค่ปืนสั้นยิงทะลุสมองตำรวจโดยที่ไม่ต้องเล็งสักนิดถ้าเป็นระยะใกล้เขาคงไม่ตะลึงเท่านี้แต่นี้มันตึกอีกฟากหนึ่งของโซลเลยนะเว้ย คิดแล้วหัวใจหล่นวูบ
        “แทยอน ฉันว่ากลับได้แล้วล่ะ เรื่องเงินเดี๋ยวฉันโอนไปให้ภายในวันพรุ่งนี้” ร่างสูงเดินออกไปพร้อมกับคว้ามือนักฆ่าตัวฉกาดไว้แล้วออกแรงดึงให้เขาเดินตามมา แทยอนเดินตามแรงของอีกคนไปพร้อมกับยื่นมือไปหยิบสไนท์เปอร์คู่ใจมาถือไว้
    “ไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวกลับก่อนล่ะกัน” ทั้งคู่พากันเดินมาที่ลานจอดรถ แทยอนเอ่ยลานายจ้างหน้าใหม่อย่าง ควอน ยูริ นักธุรกิจที่รวยอันดับต้นๆของเกาหลีใต้ แต่ถ้าเจาะลึกลงไปดีๆก็รวยด้วยวิธีสกปรกอย่างเช่นที่เขาจ้างเธอให้มาฆ่าคู่แข่งอย่างวันนี้
    ยูริส่งยิ้มใบให้แทยอน มือหนายื่นกระเป๋าหนังสีดำทรงสี่เหลื่ยมให้แทยอน แทยอนรับมาอย่างรู้กันแล้วเธอก็หายพรวดเข้าไปในรถ

    มือบางเล็กดึงถุงมือสีดำออกทีละข้างก่อนจะโยนมันไปกองไว้ที่ใต้เบาะข้างคนขับ นิ้วเล็กกดที่ปุ่มสีดำที่แอบซ่อนอยู่ใต้เบาะข้างคนขับ สักพักมันก็เลื่อนออกมา มันเป็นลิ้นชักลับที่เอาไว้ใส่อุปกรณ์สังหารคน ถ้าไม่ก้มลงไปสังเกตุดีๆก็จะไม่เห็นปุ่มนี้เพราะมันกลมกลืนกับหนังเบาะมาก มือบางหยิบปืนสองกระบอกใส่ในลิ้นชักพร้อมกับอุปกรณ์ต่างๆแล้วเก็บมันเข้าที่เดิม

    รถคันหรูสีดำเงาติดฟิล์มสีทึบเข้ามาจอดเทียบกับบันไดของตัวบ้านขนาดใหญ่ที่ดูๆแล้วก็แอบคล้ายๆคฤหาสน์ ร่างเล็กนึกขึ้นได้ว่าเธอพึ่งให้คนขับรถและแม่บ้านไปพักร้อนหรือกลับบ้านพักงานไปสักเดือนนึ่งบ้านจึงดูเงียบๆแล้วเธอก็ถอยรถเข้าโรงจอดรถที่มีรถปอร์เช่สีดำฟิล์มใสอยู่ข้างๆ ถ้าจะถามว่าเธอทำงานอะไรถึงได้รวยขนาดนี้แถมยังอายุน้อยเรียนยังไม่จบอีกด้วยพ่อแม่ก็ไม่มี เดี๋ยวจะตอบให้เมื่อตอนเธอยังเป็นเด็กมีครอบครัวทหารอยู่ครอบครัวนึ่งอุปถรรมเธอไปเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมแล้วฝึกหัดสอนการใช้มืดใช้ปืนเพื่อหวังว่าในอนาคตแทยอนคงมีอาชีพที่ดีและเป็นเหมือนพ่อบุญธรรมที่คอยรับใช้ชาติ แต่พอนานเข้าแทยอนเริ่มเติบโตเข้าสู่วัยรุ่นเธอเริ่มรู้ความจริงเกี่ยวกับประวัติครอบครัวของเธอ เธอพยายามตามสืบหาทุกทางเพื่อที่จะได้รู้ความจริงว่าทำไมพ่อแม่ถึงต้องทิ้งเธอไปด้วยความเป็นเด็กอายุเพียงแค่สิบสองเธอจึงทำอะไรไม่ยั้งคิดเมื่อเธอรู้ความจริงของบ้านตระกูลคิมนักธุรกิจที่ถูกพวกตำรวจทหารฆ่าตายเนื่องจากไม่ทราบสาเหตุและไม่มีข้อมูลเปิดเผยเธอจึงเกิดอาการคลุ้มครั่งฆ่าพ่อแม่บุญธรรมตายและหนีออกจากบ้าน จากนั้นมาเธอเลยเกลียดตำรวจทหารเข้าไส้และรับทำงานให้กับองค์กรๆหนึ่งเป็นองค์กรรวบรวมและฝึกหัดมือปีนเป็นอาชีพที่ไม่เปิดเผยตัวตนมีคนน้อยนักที่จะรู้จักตัวตนที่แท้จริงแถมรายได้ต่อหัวนี้ก็ดีซ่ะด้วย


        “หืม? รถใครมาจอดหน้าบ้านตอนดึกตอนดื่น” ร่างเล็กเดินตรงไปยังรั้วบ้านโดยที่มืออีกข้างถือปืนสั้นแอบไว้ข้างหลัง รถนี้คุ้นๆแหะ
    “ไง อีแท/อร้ายย!! อีบ้าตกใจหมด”หญิงสาวในรถโพล่หัวออกมาจากกระจกด้วยใบหน้าขาวๆโบะแป้งมาจนเหมือนผีทำเอาแทยอนสดุ้งโหยงดีดตัวออกมาก่อนจะกดรีโมทเปิดประตูให้เพื่อนสาวที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันเคลื่อนรถเข้ามาจอดภายในบ้านก่อนร่างของเพื่อนสาวจะเดินเข้ามากอดด้วยความดีใจ แทยอนรีบเก็บปืนสั้นเข้าไปในขอบกางเกงที่เอวแล้วยิ้มแหยๆให้

        “ได้ข่าวว่ามึงพึ่งกลับมาจากเอลเอ เป็นไงบ้างว่ะกลับมาได้กี่วันล่ะ” เพื่อนสาวร่างสูงคว้าคอแทยอนลากเข้าบ้านแล้วเอ่ยถามไถ่ อันที่จริงก็กลับมาจนได้เงินค่าหัวก้อนโตไว้กอดเล่นแล้วล่ะทำอาชีพนี้มันอึดอัดเจรงงงห้ามบอกใครแม้กระทั้งเพื่อนที่(โครต)สนิทกัน
    “อาทิตย์กว่าล่ะ มามีไร”แทยอนย่อตัวลงนั่งกับโซฟาสีขาวสะอาดพร้อมกับเพื่อนที่ยังกอดคอตนอยู่
    “ที่รักกลับมาแล้วหรอครับ? ผมคิดถึงคุณมากเลยนะ” เสียงทุ้มของชายหนุ่มที่พึ่งเดินเข้ามาสวมกอดที่คอจากด้านหลังแล้วจัดการส่งปลายจมูกลงกับแก้มเนียนของแทยอน แทยอนแสยะยิ้มแบบหน่ายๆให้กับคนรักแล้วหันมากระซิบข้างหูเพื่อน
    “พรุ่งนี้ไปผับกันกูเลี้ยง” เธอแอบบอกเพื่อนโดยที่ไม่อยากให้ชายหนุ่มเมื่อครู่รู้แล้วเงยหน้าขึ้นไปส่งยิ้มให้ ชายหนุ่มมองลงมาแล้วยิ้มกลับก่อนจะเดินขึ้นบ้านไป

    “ผัวมึงนี้หน้ารักเนอะ นี้ผัวมึงยังไม่รู้อีกหรอว่ามึงมีเมียอยู่ที่เอลเออีกคนอ่ะ ฮ่าๆๆ” ซูยองกลั้วขำออกมาที่เธอพูดมันก็เป็นเรื่องจริงทั้งหมดเพราะแทยอนอัพรูปลงในไอจีพร้อมกับแฟนสาวที่เธอพึ่งไปงาบมาจากผับที่เอลเอ แทยอนส่งค้อนไปให้ซูยองแล้วมองขึ้นไปข้างบนบ้านก่อนจะกลับเข้าสู่โหมดเย็นชาหน้าปลาตายตามสไตล์แทยอน
    “นี้มีงซี? มันก็แค่สัตว์เลี้ยงเอาไว้ดูเล่นสนุกๆจำเป็นต้องบอกมันด้วยหรอ”แทยอนตอบเสียงปัดพลางยกสมาร์ทโฟนขึ้นมากดรับสายที่เพิ่งโทรมาเมื่อครู่



        ‘hi!! sweetheart’ สำเนียงอังกฤษถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากบางเฉียบ ร่างเล็กยิ้มออกมาโดยที่มีสายตาพื่อนคอยมองอยู่อย่างอิจฉา
    “ว่าไงคะ”คำพูดนับคำได้พร้อมกับรอยยิ้มที่ค่อยๆหุบลง
    ‘พรุ่งนี้มีประชุมนะคะอย่าลืม เจอกันที่เดิมเดี๋ยวเจสไปรับ’ เจสสิก้า จองแฟนสาวของแทยอนที่เธอพึ่งไปพบรักที่เอลเอตอนที่เธอไปเป็นนักเรียนแลกเปลื่ยนและมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน หัวหน้าองค์กรส่งเธอมาจับตาดูความพัฒนาฝีมือโดยให้แทยอนและเจสสิก้าแสดงละครตบตาคนอื่นและเพื่อนของเธอว่าเป็นแฟนกัน และแน่นอนว่าแทยอนก็ให้ความร่วมมืออย่างดีเพราะเธอก็มีรสนิยมทางด้านนี้เหมือนกัน
    “ว่าไงนะคะ พรุ่งนี้เจสกลับมาเกาหลีหรอเดี๋ยวฉันจะรีบไปรับเลยค่ะ”แทยอนเหลือบมองเพื่อนสาวที่นั่งเล่นมือถืออยู่ข้างๆแล้วเอ่ยเสียงอย่างตื่นเต้น
    ‘ฮ่าๆพูดโกหกแบบนี้มีคนอยู่ด้วยสินะ โอเคค่ะหน้าร้านมินิมาร์ทที่เดิมนะคะไม่ต้องเอารถมาหล่ะ’
    “ค่ะ คิดถึงเหมือนนะ”
    ‘คิดถึงเหมือนกัน ที่รักของคนอื่น’

    มือเล็กกดวางสาย ซูยองหันกลับมาหาเพื่อนแล้วทำหน้าจ๋อยๆ “สรุปผับพรุ่งนี้เป็นหมั้นชะมะ”
    “Yes. เมียกลับมาทั้งทีเอาไว้วันหลังละกานน กลับบ้านได้ละเดี๋ยวผัวกูงอน” แทยอนฉุดมือซูยองขึ้นแล้วพาเดินลากออกมา ซูยองเดินออกมาด้วยสภาพไหล่ห่อหน้าเหี่ยว
    “นี้มึงยังสนใจผัวอยู่อีกหรอ ทั้งที่มึงก็ไม่ได้รักมันแค่เอาเล่นๆไปวันๆ”


    ผลัวะ!!


    “อี* กูไม่เสียซิงค์ให้มันหรอกนะ พูดมาได้อิBAD” มือเล็กตบเข้าที่หัวของเพื่อนตัวสูงก่อนจะเปิดประตูรถแล้วยัดมันเข้าไปในรถ ซูยองแลบลิ้นใส่เพื่อนซี้จอมขี้เก็กแถมเย็นชาหน้าปลาตายพลากหักพวงมาลัยขับรถออกไป
        ร่างเล็กเดินกลับมาในบ้านตรงไปยังห้องนอนของเธอเปิดประตูเข้าไปพลางคว้าผ้าเช็ดตัวมาเตรียมตัวจะไปอาบน้ำแต่มีมือหนาเข้ามาฉุดเอวบางไว้ก่อนปลายจมูกจะไล่กดลงสูดกลิ่นจากต้นคอขาว
    “อืม แบคคะแทอยากอาบน้ำ”แทยอนพูดพลางแกะมือแบคฮยอนออกจากเอวเธอ แบคฮยอนยอมแกะมือออกแล้วอุ้มแทยอนขึ้นมา ร่างเล็กขมวดคิ้วแน่น บอกว่าจะอาบน้ำไม่เข้าใจหรือไง
    “ไม่เอาหน่าแท คุณไปอยู่เอลเอตั้งปีกว่าผมคิดถึงจะแย่อยู่แล้วนะ”ร่างสูงของแบคฮยอนอุ้มแทยอนมาวางลงที่เตียงแล้วขึ้นคร่อมก่อนจะซุกหน้าลงกับซอกคอ แทยอนเริ่มจะโมโหกับการกระทำของแบคฮยอนพลางส่งมือทั้งสองไปดันแผงอกแบคฮยอน จนตัวเขาไปนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่กับพื้น
    “แท! ผมเจ็บนะ” แบคฮยอนลุกขึ้นยืนลูบก้นของตัวเองใบหน้าหล่อเหยเกขึ้นเพราะความระบมรอบก้น ร่างเล็กลุกขึ้นหยิบผ้าเช็ดตัวเดินกระแทกเท้าเหมือนเด็กเข้าห้องน้ำไป

        “คุณเนี้ยไม่อ่อนโยนกับผู้หญิงเลยนะคะ รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่เล่นด้วย”เสียงแหลมเล็กเปล่งออกมาจากข้างหลังชายหนุ่ม แบคฮยอนหันหน้ากลับไปเจอสาวสวยตัวเล็กพอๆกับแทยอนนั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียงแล้วส่งยิ้มมาให้ แบคฮยอนมองหญิงสาวแบบงงๆบนตกใจ
    “นี้คุณ เข้ามาได้ไงเนี้ย” น้ำเสียงพูดที่ยังไงก็ดูออกว่าตกใจกับหญิงสาวที่นั่งยิ้มให้เขาอยู่เมื่อกี้แทยอนลุกขึ้นไปยังไม่เห็นมีใครเลย
    “เป็นแค่สัตว์เลี้ยง ไม่มีสิทธิ์พูดค่ะ” เจสสิก้าชักปืนออกมาใต้หมอนของแทยอนพลางยื่นไปจ่อหน้าชายหนุ่มก่อนที่เขาจะส่งยิ้มเหยืยด
    “คุณจะทำอะไรอย่านะ!” แบคฮยอนทำท่าลุกลี้ลุกลนก่อนเขาจะทรุดตัวนั่งลงกับพื้นมือก็พลางปัดป่ายเอากระบอกเย็นๆที่ค่อยๆเคลื่อนมาจ่อไว้ที่หน้าผาก

        “อ้าว~ เจสที่รักคุณจะทำอะไรหน่ะนั้นมันแฟนฉันนะ”แทยอนเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่ใส่แค่ผ้าขนหนูบางๆออกมาแล้วทำตาถลนใส่เจสสิก้า เจสสิก้าเดินเข้าไปหาแทยอนพลางเดินซบที่ไหล่เล็กตรงมาที่เตียงแล้วมองตาชายหนุ่ม
    “แทคุณต้องช่วยผมนะ ยัยนี้มันบ้ามันจะยิงผมแท” แบคฮยอนคุกเข่าเกาะขาแทยอนเขย่าไปมา แทยอนหันไปมองเจสสิก้าแล้วมองปืนสั้นสีดำพลางยกยิ้มให้เจสสิก้า
    “แบคทำไมคุณพูดกับแขกแบบนั้นล่ะคะ แทว่าแทเลี้ยงดูแบคอย่างดีแล้วนะเนี้ย เสียมารยาทที่สุด!!” แทยอคพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวมือเล็กคว้าปืนสั้นมาจากมือของเจสสิก้า


    ปังง!!!!

    “หว่า~ บ้านแทเลอะหมดเลยอ่ะ เจสต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้แทต้องเสียสัตว์เลี้ยงผู้สัตย์ไป” เจสสิก้าทำหน้าจ๋อยลงพลางเอาคางแหลมวางเกยไว้ที่ไหล่เล็กสองมือรวบกอดเอวแทยอนไว้ มือเล็กยกขึ้นลูบผมยาวสลวยของเจสสิก้าพลางกดจมูกโด่งรั้นลงกับกลุ่มผม
    “หัวหน้าเรียกประชุมด่วน ท่านให้เจสมาตามแทไปที่บริษัทค่ะ”
    “แล้วแบคละคะแทสงสารเขานะ เกิดมาเป็นลูกนายพันแท้ๆไม่น่าโง่เลย” เท้าเล็กเขี่ยร่างชายหนุ่มที่นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่ให้หงายหน้ามาเธอก้มลงกดริมฝีปากลงกับริมฝีปากบางของแบคฮยอนแล้วลุกขึ้นเตรียมตัวจะไปแต่งตัว
    “ดูเหมือนคุณจะติดใจเด็กนี่เป็นพิเศษ อย่าบอกนะว่าคุณเสร็จไอ่หมอเนี้ยแล้ว” เจสสิก้ามองร่างชายหนุ่มก่อนจะหันไปมองร่างเปลือยปล่าวของแทยอนที่กำลังจะสวมแพนตี้สีฟ้า แทยอนสวมมันเข้าก่อนจะหันหน้ามาหาเจสสิก้า
    “ไม่มีทาง ขยักแขยงจะตายไปเจสคุณก็รู้ฉันไม่ถูกชะโหลกกับพวกค่าราชการเท่าไหร่”(ตำรวจ ทหาร) ร่างเล็กถือบลาเซียแกว่งไปมาแล้วมองเจสสิก้าตั้งแต่หัวจรดเท้าพลางกรีดกายเข้าไปหาเจสสิก้าเชื่องช้า
    “หึ!! ยัยเด็กหื่นไม่ต้องมายั่วเลย เดี๋ยวเจสขอตัวไปโทรศัพท์บอกคนในองค์กรมาเก็บซากไอ่หมอนี้ก่อนนะคะ” เจสสิก้าก้มใบหน้าหงุดลงแล้วเดินเปิดประตูออกไป ท่าทางนางคงเขินหน้าดูแทยอนหัวเราะเสียงเบาก่อนที่เธอจะสวมใส่เสื้อผ้าแล้วเดินตามเจสสิก้าออกไป













    “เจสสิก้า แทยอน พวกคุณมาสาย” ห้องประชุมขนาดใหญ่ที่เปิดแค่ไฟสลั่วๆเพื่อปิดบังใบหน้าหน้าของชายหนุ่มสูงอายุ แทยอนและเจสสิก้าที่นั่งอยู่ด้านขวาของโต๊ะประชุมที่มีรูปร่างเป็นตัวUมองท่านประธานหรือหัวหน้าองค์กรอย่างสำนึกผิดพลางเอ่ยบอกขอโทษขอโพยกันยกใหญ่จนหัวหน้าสั่งบอกให้หยุดกัน
    “แทยอนได้ข่าวว่าช่วงนี้รวยเป็นเทน้ำเทท่าเลยหรอครับ ไม่เสียใจเลยที่รับคุณเข้ามา ฮ่า ฮ่า” ชายสูงอายุหัวเราะขำขันให้กับฝฝีมือของแทยอนที่ไม่เคยตกเลยแม้สักครั้ง แทยอนยิ้มให้ชายสูงอายุ
    “อีกสองวันพวกคุณทั้งสองก็ต้องไปเรียนแล้ว ผมมีงานให้พวกคุณทำรับบัตรนี้ไปแล้วเข้าร่วมงานประมูลเพรชนี้ซ่ะ ส่วนเหยื่อเดี๋ยวผมจะส่งรูปไปให้ อ้ออีกอย่างงานเริ่มพรุ่งนี้นะคุณเจสสิก้าตอนแรกผมก็จะเรียกพวกคุณมาเพราะเรื่องนี้แต่ประธานงานดันเกิดคึกเลื่อนงานประมูลให้เร็วขึ้น หวังว่าพวกคุณคงไม่ทำให้ผมผิดหวังนะ” มือหนายื่นการ์ดสีขาวสองใบให้ทั้งคู่ เจสสิก้าและแทยอนรับบัตรมาแล้วลุกขึ้นโค้งตัวให้ก่อนจะพาร่างทั้งเดินออกไป    










    01:12AM

    “เคสนี้ท่าจะยากถึงให้พวกเราลงมือ จริงมั้ยคะที่รักของคนอื่น” เจสสิก้าพูดพลางซบไหล่คนตัวเล็กที่กำลังขับรถมุ่งหน้าไปยังห้างใหญ่ 
    “ค่าหัวคงแพงน่าดู” ปากเล็กตอบเจสสิก้าสายตายังคงมองไปบนถนนใหญ่มือหักพวงมาลัยเข้าเลี้ยวไปในตัวห้างที่กำลังจะปิดเพราะได้เวลาพวกแม่ค้าพ่อค้ากลับไปพักผ่อน สายตาเล็กกวาดมองเข้าไปข้างในห้าง
    “เย็นชาแถมยังหน้าเลือดอีกนะ คิดเป็นแต่เรื่องเงินอย่างเดียวหรือไง”
    “พูดมากหน่า รีบๆลงไปได้แล้วฉันจะกลับบ้าน” แทยอนหันไปมองค้อนแฟนในนามของเธอก็จะพูดประโยคพลักไสไล่ส่ง เจสสิก้าจิ๊ปากหยิบกุญแจรถของเธอที่วางอยู่ตรงคอนโซนแล้วพลักประตูออกไป แทยอนมองตามร่างเพรียวบางอีกคนที่วิ่งไปทางลานจอดรถ

    ปี๊บบบ ปี๊บบบบบ
    “เน้!!! มาจอดคาทางเข้าทำไมเนี้ยไม่เห็นหรอว่ารถเขาจะเข้าอ่าห๊า!!”  เสียงตระโกนของหญิงสาวจากด้านหลังรถของตนดังขึ้นมา แทยอนหันไปมองตามเสียงก็ต้องตกใจไอ่เสียงที่ดังมาจากด้านหลังรถแต่ร่างหญิงสาวดันมายืนอยู่ตรงประตูข้างคนขับของเธอเนี้ยนะสิตกใจหมดทำหน้าเหมือนหมีโมโหซ่ะขนาดนี้ แทยอนกดเลื่อนบานกระจกทึบลงจนเผยใบหน้าขาวเรียบตึงของเธอให้กับหมีขี้โวยวายเมื่อครู่ หญิงสาวมองมาที่ร่างเล็กนั่งหน้าขาวเป็นปลาตายมองหน้าเธออยู่
    “เมื่อกี้คุณว่าฉันหรอ ถ้ามีสมองหน่อยคุณคงเห็นผู้หญิงเมื่อครู่เดินลงจากรถไปนะ” แทยอนตอบใบหน้านึ่ง คำพูดเมื่อครู่ทำเอาร่างบางแถบปี๊ดมาหาว่าโง่ หน๊อยยย



    “แอร๊ยย ยัยหมาหิมะนี้เธอว่าฉันโง่หรอ ห๊ะ ยัยๆๆ…”
    “นี้ขนาดตัวเองยังไม่รู้ตัวอีกหรอว่าโง่จนต้องมาถามฉันหน่ะ หลบไปฉันจะกลับบ้าน ถ้าชนไม่รู้ด้วยนะ” ร่างเล็กเอ่ยตัดประโยคที่หญิงสาวอีกคนจะเอ่ยคำด่าทอออกมาด่าอย่างอื่นพอรับได้แต่นี้มาด่าว่าหมาหิมะแทรับไม่ได้ แทยอนสตาร์ทรถก่อนจะเคลื่อนรถออกไปปล่อยให้หญิงสาวร่างบางกระโดดหลบรถ
    “กรี๊ดดดด ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเจอใครที่กวนประสาทด้วยใบหน้าแบบนี้เลยนะ ยัยบ้าเอ้ยย อย่าให้เจอนะคอยดูเถอะยัยหมาหิมะจอมหยิ่ง” ทิฟฟานี่กระทืบเท้าอย่างหัวเสียพลางตระโกนด่าไล่หลังรถคันหรูที่เคลื่อนตัวออกไป 
        

















































    Photo EDit/art :@tal-suksompon
    B E R L I N ?

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น