ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    CODE DIE สงครามอันตราย…วัยร้ายอันธพาล.

    ลำดับตอนที่ #10 : CHAPTER 9 โค้ดเนมคือ ‘OSCAR’

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.9K
      2
      4 เม.ย. 66

    CHAPTER 9 โค้ดเนมคือ ‘OSCAR’

     

    ครืด…ครืด…

    “เสียงมือถือนายสั่นหรือเปล่า…”

    ยูนิคอร์นที่นั่งอยู่เบาะข้างๆฉันบนรถเมล์หันมาถาม ความจริงมันสั่นตั้งแต่ฉันก้าวขาออกมานอกรั้วโรงเรียนแล้วล่ะ แต่ฉันพอจะเดาได้ว่าเป็นใครก็เลยไม่คิดจะหยิบมันขึ้นมาดู  เอาไว้ค่อยไปแก้ตัวเย็นนี้ก็ได้ หวังแค่ว่าหมอนั่นคงจะไม่โกรธจนขาดสติแล้วจับฉันปล้ำแค่นั้นเอง T__T

    “ช่างมันเถอะ  ไม่สำคัญหรอก”

    “กำลังจะบอกว่าฉันสำคัญกว่าคนที่โทรเข้ามาใช่มั้ย…”

    นี่ก็ลูกอีช่างปะติดปะต่อเหลือเกิน!  เดามั่วแล้วก็วนมาเข้าข้างตัวเองตลอด ถ้าไม่ติดว่าต้องการจะล้วงความลับเรื่องโค้ดเนมของเขาล่ะก็…ฉันจะไม่ยอมเข้าใกล้คนที่ขโมยจูบฉันเพราะคิดว่าฉันเป็นพี่ฟาเด็ดขาด!

    คิดแล้วก็เจ็บไปทั้งทรวงงง TT^TT

    พี่ฟาเป็นคนที่มีเสน่ห์อยู่ในตัวมาก ข้อนี้ฉันยอมรับ เพราะผู้หญิงทุกคนไม่ว่าจะเป็นสาวน้อยสาวใหญ่ต่างก็พากันหลงใหลได้ปลื้มแอบรักพี่ฟากันไปหมด  แต่ใครจะไปคิดว่าในหมู่ผู้ชายเอง  พี่ฟาก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน  ผู้ชายมากมายต่างพากันมารุมทึ้งรุมรักพี่ฟา นี่ถ้าเอาจำนวนคนที่แอบรักพี่ฟาตอนนี้มายืนเรียงกันคงยาวเท่ารางรถไฟเลยมั้ง!              

    แล้วดูฉันสิ  หน้าเหมือนกันแท้ๆ  เหมือนตั้งแต่หัวจรดเท้ายกเว้นเพศ  แต่กลับไม่มีใครชายตาแลเลยสักคน!

    พระเจ้าลำเอียงชัดๆ T^T  ขนฟีรีโมนให้พี่ฟาไปหมดเลยแน่ๆ

    “เงียบเลยนะ   งั้นฉันเปลี่ยนคำถามก็ได้  เรากำลังจะไปไหนกันเหรอ…”

    “ไปสวนสาธารณะน่ะ   ฉันอยากไปนั่งกินลมชมวิวสบายๆ”

    ความจริงคือฉันไม่รู้จะไปไหนต่างหาก ห้างสรรพสินค้าก็ไม่ชอบไป สวนสนุกยิ่งแล้วใหญ่ ถ้าไม่ได้ไปในฐานะผู้หญิงแล้วก็ไปกับแฟนของตัวเองล่ะก็  ให้ตายก็คงไม่สนุกหรอก T^T

    “ก็ดีนะ  อีกพักใหญ่กว่าจะถึง  งั้นฉันของีบก่อนได้หรือเปล่า เมื่อคืนไปช่วยนักเรียนในแดนสู้กับคู่อริมา  เหนื่อยจะแย่”

    “อื้อ   ตามสบายเลย”

    ฉันพยักหน้ารับแล้วหันหน้าออกนอกหน้าต่างเพื่อมองวิวข้างทางแทน  แต่ก็สะดุ้งสุดตัวอีกครั้งเมื่อมีอะไรหนักๆทับลงมาบนบ่า

    “ยะ…ยูนิคอร์น”

    ฉันเรียกชื่อเขาเสียงสั่น  ยูนิคอร์นเอนตัวลงมาเอาหัวซบกับไหล่ของฉัน  เส้นผมเป็นลอนของเขาปลิวไปตามแรงลม  กระทบกับซอกฉันบ้าง  แก้มฉันบ้าง จั๊กจี้จนแทบพุ่งออกทางหน้าต่างแน่ะ T.,T

    “ของีบก่อนนะ…”

    และเพราะคำพูดของเขา ฉันก็เลยไม่กล้าผลักหัวเขาออกไปหรือพูดอะไรอีก ได้แต่นั่งนิ่งเป็นหุ่นยนต์ยอมให้เขาหลับไปอย่างง่ายดาย ผู้คนที่อยู่บนรถเมล์ด้วยตอนนี้พากันมองมาที่เราสองคนแล้วซุบซิบกันระงม  คงหนีไม่พ้นเรื่องชายรักชายนั่นแหละ  ฮือๆๆ หนูเป็นผู้หญิงนะคะ  แง้ๆๆ อยากจะบอกความจริงจังเลย TOT

    ป่นปี้ไม่เหลือชิ้นดีแล้ว  ความเป็นกุลสตรีของฉัน!

     

    กว่าจะหลุดพ้นจากความอับอายและคำครหาที่ว่า…คู่เกย์กำลังสวีตวี้ดวิ่วไม่แคร์สายตาใครอยู่บนรถเมล์…ก็ทำเอาฉันแทบจะมุดดินหนีอยู่แล้ว ยูนิคอร์นที่สะลึมสะลือตื่นขึ้นมาหลังจากฉันปลุกก็ไม่ได้มีท่าทีแยแสกับเสียงนินทาของใครเลย  เขาจับข้อมือพาฉันเดินลงมาจากรถเมล์หน้าตาเฉย  นายไม่อายแต่ฉันอายนะ  เป็นผู้หญิงดีๆ ไม่ชอบ  ดันมาปลอมตัวเป็นผู้ชายให้คนอื่นเขานินทาว่าเป็นเกย์ซะงั้น T^T

    “ที่นี่เหรอที่นายอยากมา…”

    ยูนิคอร์นถาม  เขามองไปที่สวนสาธารณะตรงหน้า มันคือที่ที่พี่ฟาจะพาฉันมาเป็นประจำถ้าเราได้ว่างตรงกัน  หรือถ้าฉันมีเรื่องไม่สบายใจ  พี่ฟาก็จะพาฉันมานั่งรับลมที่นี่  มองผู้คนเดินผ่านไปผ่านมา  ฉันจะนอนตักพี่ฟามองท้องฟ้าจนผล็อยหลับไป พอลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีพี่ฟาก็มักจะกำลังแบกฉันขึ้นหลังเพื่อพากลับบ้าน พี่ฟาเป็นพี่ชายที่อดทนกับน้องสาวงี่เง่าและทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโตอย่างฉันได้เสมอ เขาไม่เคยพูดว่ารำคาญที่มีน้องสาวแบบฉันเลยสักครั้ง…

    “ฟา…ร้องไห้ทำไม”

    “อ๊ะ…ทะ…โทษที  สงสัยฝุ่นเข้าตาน่ะ”

    ฉันก้มหน้าหลบ  ใช้หลังมือปาดน้ำตาที่ไหลลงมาทิ้ง  ไม่ไหวเลย พอมาในที่ที่มีแต่ความทรงจำระหว่างฉันกับพี่ฟาเต็มไปหมดมันก็อดคิดถึงและร้องไห้ไม่ได้ ฉันไม่ได้ไปหาพี่ฟาเลยเพื่อเป็นการป้องกันไอ้พวกที่มันสะกดรอยตามฉันอยู่มันรู้ว่าพี่ฟารักษาตัวอยู่ที่ไหน ยัยแพนเองก็เข้าใจและบอกว่าจะดูแลพี่ฟาให้ดีที่สุด  ให้ฉันเป็นห่วงแค่ตัวเองก็พอ  ถ้าหากชีวิตของเราสองคนพี่น้องไม่มียัยแพน ฉันเองก็ไม่รู้จะจัดการเรื่องนี้คนเดียวได้ยังไงเหมือนกัน

    “ไปนั่งริมน้ำตรงนั้นดีกว่านะ…”

    ยูนิคอร์นจับมือพาฉันเดินไปที่ม้านั่งริมน้ำ  มันคือตัวเดียวกับที่ฉันชอบมานั่งกับพี่ฟา  ไม่ได้…ฉันต้องไม่นึกถึงพี่ฟาตอนนี้  ถ้าหากอ่อนแอขึ้นมาจนทำภารกิจนี้ไม่สำเร็จ  ที่พยายามพายูนิคอร์นออกมาก็จะสูญเปล่า  ทุกวินาทีต่อจากนี้สำหรับฉันมันมีค่ามาก ฉันจะต้องจริงจังกับเรื่องนี้ให้มากกว่าเดิม!

    “นายหายง่วงหรือยัง”

    ฉันเอ่ยถามยูนิคอร์นหลังจากที่พากันมานั่งแกร่วอยู่ที่ม้านั่งริมน้ำเรียบร้อย  ยังสงบร่มรื่นเหมือนเคย  แถมช่วงบ่ายๆแบบนี้ก็ไม่ค่อยมีคนด้วย  ดีนะที่ร้านขายน้ำเจ้าประจำยังตั้งขายอยู่ที่เดิม  ฉันจะได้ทำตามแผนเหมือนเดิม

    “หายแล้วล่ะ  ได้มาสูดบรรยากาศดีๆแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ  คนละเรื่องกับที่โรงเรียนเลย…”

    “มันแหงอยู่แล้วล่ะ ในโรงเรียนทุกตารางนิ้วมีแต่สงครามระหว่างแดน  ไอ้อากาศที่สูดเข้าไปก็มีแต่ควันบุหรี่  ฉันแทบจะอ้วกออกมาเป็นก้อนมะเร็งอยู่แล้ว”

    “จริงสิ  ฟาไม่สูบบุหรี่นี่นา”

    “แล้วนายสูบหรือเปล่า”

    “…”

    ฉันชะงักไปทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ว่าถามอะไรออกไป  เวรแล้วไอ้ซอลเอ๊ยยย! ดูจากการกระทำของหมอนี่แสดงว่าเขาและพี่ฟาต้องสนิทกันมากแน่ๆ ไม่มีทางที่พี่ฟาจะไม่รู้ว่าเขาสูบหรือไม่สูบบุหรี่  ฮือๆๆ ขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ TT^TT

    “ทำไม…ถามเหมือนไม่รู้เลยล่ะ”

    “เอ่อ…คือ…คือฉันล้อเล่นน่ะ  ฉัน…ล้อเล่น”

    “แต่หน้าตาตอนที่ถามเมื่อกี้ดูไม่ล้อเล่นนะ  ดูเหมือนอยากรู้จริงๆ มากกว่า”

    ยูนิคอร์นทำปากยื่นขมวดคิ้วอย่างสงสัย เวลาแบบนี้ยังสามารถทำหน้าแอ๊บแบ๊วได้อย่างน่าตบ  ขอคารวะในความน่ารักน่าหยิกเลยย่ะ!

    “ฉันบอกว่าล้อเล่นก็ล้อเล่นน่า  อย่าเซ้าซี้สิ”

    “ไม่เซ้าซี๊ก็ได้  ถ้างั้น…ขอนอนตักได้มั้ย”

    “ถึงจะบอกว่าไม่ได้ก็ต้องนอนอยู่ดีไม่ใช่หรือไง -*-“

    ตุ้บ…

    ยูนิคอร์นทิ้งตัวลงนอนหนุนตักฉันทันที  ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่  แล้วเบนสายตาไปมองผู้คนแทน  ดีนะที่คนไม่เยอะเท่าไหร่  ไม่งั้นไอ้ฉากแบบนี้ต้องถูกหาว่าเป็นคู่เกย์มาสวีตกันอีกแน่เลย เพราะไอ้คนที่มากับฉันมันก็ดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจที่โดนกล่าวหาแบบนี้สักเท่าไหร่  ไม่สิ…ก็หมอนี่มันเป็นเกย์จริงๆ นี่นา  ทั้งสารภาพรักและจูบกับพี่ฟา ( รวมถึงพี่ฟาในร่างฉันด้วย T^T ) เสียดายทรัพยากรผู้ชายของโรงเรียนนี้จริงๆ  หล่อๆ หุ่นน่ากินเสร็จพี่ฟาไปซะหมด  เฮ้อออ!

     

    ฉันนั่งคุยนู่นนี่นั่นเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยกับยูนิคอร์น ซึ่งหมอนี่ก็เอาแต่จะระลึกความหลังที่เคยทำไว้กับพี่ฟา  ไอ้ฉันที่ไม่ได้รู้เรื่องพวกนี้ก็ได้แต่เออออห่อหมกปลาช่อนไปตามเรื่อง แต่ก็ได้รู้อย่างหนึ่งว่าความจริงแล้วพี่ฟากับยูนิคอร์นเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัย ม.ต้น  แต่พอขึ้น ม.ปลาย ทั้งคู่ก็ถูกจับให้อยู่คนละแดน ทำให้ความสัมพันธ์ฉันเพื่อนต้องถูกปิดซ่อนเอาไว้  เพราะหากคนในแดนรู้ว่าคนต่างแดนมาเป็นเพื่อนกัน  จะต้องเกิดสงครามครั้งใหญ่ขึ้นอย่างแน่นอน

    ทำอย่างกับโรมิโอจูเลียต  ต้องลักลอบแอบคบกัน =___=;;

    “นายเคยคิดมั้ยว่าทำไมถึงต้องมีสงครามระหว่างแดน”

    ฉันก้มหน้าถามยูนิคอร์นที่เอาแต่หลับตามาได้พักใหญ่  นอนหนุนตักฉันสบายใจเฉิบเลยนะ  ไม่คิดว่าตะคริวมันจะกินขาฉันบ้างหรือไง - -+

    “เพื่อประกาศศักดิ์ดาแห่งความยิ่งใหญ่”

    “เรื่องแบบนี้มันจำเป็นด้วยเหรอ…”

    “…”

    ยูนิคอร์นลืมตาเมื่อฉันถามคำถามนี้จบ  เขาเงียบไปครู่หนึ่ง  ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ

    “นั่นสินะ…”

    “…”

    “จำเป็นหรือเปล่าฉันก็ไม่รู้  แต่เรื่องนี้มันสืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ทุกคนที่เขามาเรียนที่โอนลี่กายสคูลไม่มีใครหลีกหนีความจริงนี้ได้ทั้งนั้น…”

    “…”

    “ยังไงทุกคนก็ต้องเข้าสู่สงครามห้ำหั่นเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่…”

    “…”

    “นี่แหละ…คือบาปที่ตกทอดกันมา  และพวกเรา..ก็ต้องทนรับมัน ถึงแม้ในใจจะไม่อยากรับไว้แค่ไหนก็ตาม”

    “ฉันไม่เข้าใจอยู่ดี เอาชีวิตมาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายให้กับคำว่ายิ่งใหญ่ล้มๆ แล้งๆ แบบนั้น  มันไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยนะ”

    “สักวันนายจะเข้าใจนะฟา…”

    ถึงตายก็ไม่มีวันเข้าใจ  พวกเขาก็ไม่ได้ดูเลวร้ายอะไรมากมาย  แต่พวกเขากลับเลือกที่จะเดินบนเส้นทางอันตรายแห่งนี้เอง  พวกเขาเลือกที่จะต่อสู้กัน เลือกที่จะเป็นปรปักษ์ต่อกันทั้งที่ยืนอยู่ในรั้วโรงเรียนเดียวกันแท้ๆ  ถ้าหากพวกเขาสามารถจับมือกันได้  กลับไปเป็นนักเรียนชายธรรมดาๆ ที่มีชีวิตแสนสดใสไปวันๆ พวกเขาคงจะมีความสุขกว่านี้…

    ตายล่ะ! ฉันเผลอนอกเรื่องไปคิดถึงเรื่องของคนอื่นอีกแล้ว สิ่งที่ฉันต้องทำตอนนี้คือล้วงเอาโค้ดเนมของยูนิคอร์นออกมาให้ได้  นี่ก็น่าจะได้เวลาที่เหมาะสมแล้วล่ะ  ไม่ช้าไม่เร็วเกินไปที่จะเริ่มแผนการ ฉันต้องรีบตัดผู้ต้องสงสัยออกไปให้ได้มากที่สุดเพื่อให้ง่ายแก่การค้นหาเจ้าของโค้ดเนมปาปา

    “เอาอีกแล้ว…ทำหน้าเศร้าอีกแล้ว”

    ยูนิคอร์นที่นอนลืมตามองหน้าฉันเลื่อนมือขึ้นมาจับแก้มของฉันเอาไว้  ฉันก้มหน้ามองเขา ได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆไปให้เพราะไม่รู้จะแถว่าอะไรดี

    “ฟา…”

    “หืม?”

    ฉันตอบรับ  คิดไปเองหรือเปล่าที่รู้สึกว่าสายตาของยูนิคอร์นมันเซ็กซี่ขึ้นมาแปลกๆ =__=;; ทำไมถึงเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมานะ =[]=;;

    “อยากจูบฟาอีกจัง”

    ไม่พูดเปล่า มือที่จับแก้มฉันอยู่ในตอนแรกเลื้อยไปจับที่ต้นคอของฉันแทนแล้วพยายามดันให้ฉันก้มลงไปหาหมายจะขโมยจูบฉันอีกรอบ >O<  ฉันยื้อเอาไว้สุดแรงจนคอแทบจะหักแล้วกลิ้งหลุนๆลงริมน้ำไป

    พลั่ก!

    “ฉันหิวน้ำน่ะ  ขอไปซื้อน้ำก่อนนะ”

    ฉันดันตัวเองออกมากการการรุกล้ำของยูนิคอร์นได้สำเร็จ  รีบลุกพรวดขึ้นไปยินห่างเขาหลายเมตร  โชคดีของยูนิคอร์นที่เขามีความเร็วมหาศาล  ก็เลยลุกขึ้นมานั่งได้ทันก่อนที่หัวตัวเองจะกระแทกกับเก้าอี้

    “อ่อ  ให้ฉันไปซื้อให้มั้ย…”

    แล้วก็ถามราวกับเมื่อกี้ไมได้กำลังจะขืนใจเพื่อจูบฉัน!  อีตาบ้านี่มันหน้าตายชัดๆ เริ่มเข้าใจพวกผู้ชายที่มักจะเป็นห่วงประตูหลังของตัวเองเวลาอยู่กับพวกที่เป็นเกย์ซะแล้วล่ะ

    ฉันเองยังเสียววาบอยู่เลย TT^TT!

    “ไม่ต้องๆ  ฉันไปเอง ร้านขายน้ำอยู่แค่ตรงนี้ นายจะเอาน้ำอะไรหรือเปล่า”

    เขาทำเนียนเปลี่ยนเรื่องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้  ฉันก็ต้องทำได้เหมือนกัน >_< ยูนิคอร์นเอียงคอทำหน้าคิดได้อย่างแอ๊บแบ๊วมากๆก่อนจะตอบ

    “งั้น…ขอเหมือนเดิมละกันนะ”

    เวรอีกแล้วไง  มาเหมือนดงเหมือนเดิมอะไรฟะ!  ฉันไม่รู้สักหน่อยว่านายชอบกินน้ำอะไร TOT

    “ทำหน้านิ่วอีกแล้ว…”

    ยูนิคอร์นที่ลุกขึ้นจากตักยื่นหน้าเข้ามาใกล้ เขาใช้ปลายนิ้วโป้งกดเข้าเบาๆระหว่างคิ้วของฉัน  แล้วนวดมันไปมา

    “ระวังคิ้วมันจะแยกกันไม่ออกนะ…”

    “เอ่อ…”

    ใกล้ไปมั้ย =//////=  นี่พี่ฟาได้อยู่กับผู้ชายน่ารักๆ และแสนมีเสน่ห์ถึงสองคนเลยเหรอ ทั้งคอปเตอร์แล้วก็ยูนิคอร์น ถึงไซไฟเองก็จะหน้าตาดีและหล่อไม่แพ้กัน แต่หมอนั่นก็ยังมีเส้นแบ่งชัดเจนระหว่างตัวเองกับพี่ฟา  ดูก็รู้ว่าคงเป็นแค่เพื่อนกันธรรมดาๆ   แต่กับอีตาสองคนนี้เนี่ยสิ  ทำใจฉันสั่นไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้ว T/////T

    “ขอน้ำส้มเหมือนเดิมนะ…”

    “อ๊ะ!  อืม ฉันจำได้น่า  ไม่ต้องบอกหรอก”

    โฮะๆๆ งานแถนี่ถนัดนักเลยล่ะไอ้ซอล =.,=

    แล้วฉันก็ผละตัวออกมาจากยูนิคอร์นเดินตรงไปที่ร้านขายน้ำ  พอหันกลับไปมองก็พบว่าเขาเอนตัวนอนราบไปกับม้านั่งเรียบร้อยแล้ว  เอาล่ะ ต่อไปก็เริ่มแผนการได้  ยูนิคอร์น…ไม่ว่านายจะใช่หรือไม่ใช่โค้ดเนมปาปา  ฉันก็ต้องขอโทษที่ต้องโกหกนาย  ทั้งที่นายคงจะรักพี่ฟามาก  แต่ฉันกลับใช้ความรักของนายมาทำเรื่องแบบนี้  ถ้าวันหนึ่งปริศนาทุกอย่างถูกไขกระจ่าง  และฉันสามารถหาตัวคนร้ายได้แล้ว  ฉันจะขอโทษนายด้วยตัวตนของฉันจริงๆ

    ในนามของกุญแจซอล…

    “น้ำส้มหนึ่งแก้ว  แล้วก็น้ำเปล่าหนึ่งขวดครับ”

    ถ้าสมมติยูนิคอร์นคือเจ้าของโค้ดเนมปาปา  ฉันควรจะทำอะไรเป็นอย่างแรกล่ะ  เปิดเผยตัว ซักถามความจริง  หรือว่าควรจะรอต่อไปเรื่อยๆเพื่อดูทีท่าของเขา?

    “ขอบคุณครับ”

    ฉันรับแก้วน้ำส้มและขวดน้ำเปล่ามาก่อนจะยื่นเงินให้แล้วเดินกลับไปหายูนิคอร์น น้ำส้มในมือฉันสั่นไหวไปมาเพราะมือของฉันมันสั่นไม่หยุด หวังว่าการกระทำต่อไปนี้คงไม่สร้างพิรุธอะไรให้ยูนิคอร์นสงสัยหรอกนะ!

    “ยูนิ…เหวอ!!!”

    ฉันเริ่มแผนการแรก แกล้งสะดุดขาตัวเองแล้วเซไปทางยูนิคอร์นก่อนจะเทน้ำส้มทั้งแก้วราดใส่ตัวเขา!  ยูนิคอร์นลืมตาลุกขึ้นนั่งอย่างตกใจ เขาก้มมองเสื้อของตัวเองที่เปียกโชกและเลอะสีส้มจางๆ  ฉันรีบถลาเข้าไปหาเขาอย่างเป็นห่วง ( แน่นอนว่าเสแสร้ง  ฮอลลีวู้ดคงต้องตามมามอบรางวัลออสการ์ให้ฉันแล้วล่ะ =.,= ) ฉันใช้ฝ่ามือลูบน้ำตามเสื้อออกให้เขา

    “ฉันขอโทษนะ  พอดีสะดุดขาตัวเอง”

    “ไม่เป็นไร  แค่นี้เอง…”

    “ฉันว่านายถอดเสื้อเหอะ  ฉันซื้อน้ำเปล่ามาด้วยเดี๋ยวจะซักแล้วตากไว้ที่เก้าอี้นี่ก่อน”

    ฉันพยายามแกะกระดุมเสื้อของยูนิคอร์นออกอย่างเร่งรีบ  ถ้าใครมาเห็นเข้าคงนึกว่าฉันจะขืนใจเขา  และคงกำลังมีอารมณ์จนทนไม่ไหว  ดูได้จากดีกรีความรีบร้อนของฉัน =__=//

    “ไม่เป็นไรๆ  ไม่ต้องถอดหรอก”

    “ไม่ได้!!!”

    “…”

    ยูนิคอร์นผงะไปอย่างตกใจ  ฉันรีบเม้มปากแน่น  ละ…ลืมตัวไปเลย เผลอแสดงความต้องการที่จะให้เขาถอดเสื้อออกมากไปหรือเปล่านะ TOT

    “โอเคๆ  แค่ถอดเสื้อออกก็พอใช่มั้ย…”

    “อะ…อืม”

    ฉันหลุบตาต่ำไม่กล้ามองหน้าเขา  ผ่านไปเกือบหนึ่งนาที  อะไรหนักๆก็มาทับอยู่บนหัว  สะ…เสื้อสูทตัวนอกกับเสื้อเชิ้ตด้านในของยูนิคอร์น!

    หมายความว่าเขาถอดเสื้อเสร็จแล้ว!

    ฉันรีบยกเสื้อออกจากหัวของตัวเองแล้วมองไปที่เรือนร่างของยูนิคอร์นทันใด ช่วงแผงอกไล้ไปจนถึงสะโพกของเขาสะอาดวิ้งวับไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนแถมยังขาจ๊วะน่าเจี๊ยะอีกต่างหาก -.,-  ให้ตายสิ! อย่าบอกนะว่าหมอนี่สักไว้ที่ลับสุดยอดแบบอีตาคอปเตอร์อีกคนหนึ่งน่ะ T^T//

    “มองอะไรเหรอ…”

    “มองหาโค้ดเนม!”

    “…”

    “เอ่อ…คือ…”

    อ๊ากกกกก  อยากจะตบปากตัวเองให้หลุดออกมาจริงๆ !  ฉันลืมตัวพูดสิ่งที่ต้องการออกไปทำม๊ายยย  แบบนี้โดนจับได้แหงๆเลย

    “คือว่า…ยูนิคอร์น…”

    “หมายถึงโค้ดเนมของฉันน่ะเหรอ…”

    “ไม่…คือว่า T^T”

    “ฉันสักไว้ที่หลังต่างหาก  ลืมไปแล้วเหรอ…”

    แล้วยูนิคอร์นก็หันหลังให้ฉันดูหน้าตาเฉย! ฉันเบิกตากว้างมองตัวอักษรที่สักอยู่ที่หลังบริเวณช่วงไหล่ด้านขวา  เป็นตัวอักษรเรียงกันลงมาทีละตัวสีดำสนิท…

    O

    S

    C

    A

    R

    “ออสการ์…”

    ฉันอ่านชื่อโค้ดเนมของเขาออกมาเบาๆ  หัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม  ไม่ใช่เขา…ยูนิคอร์นไม่ใช่เจ้าของโค้ดเนมปาปา!

    “มีอะไรหรือเปล่า  จู่ๆ มาพูดถึงโค้ดเนม  ทำเหมือนไม่รู้ไปได้”

    คำพูดของยูนิคอร์นทำให้ฉันสะกิดใจ พี่ฟารู้โค้ดเนมของเขาอยู่แล้วอย่างนั้นเหรอ  ทำไมกันล่ะ? ไหนพี่ฟาเคยบอกว่าโค้ดเนมพวกนี้จะถูกปิดเป็นความลับ  ไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้  หรือจะเป็นเพราะสองคนนี้เป็นเพื่อนสนิทกัน  แล้วยูนิคอร์นก็แอบรักพี่ฟา  เขาถึงยอมเปิดเผยโค้ดเนมของตัวเองให้พี่ฟารู้?

    “เปล่าๆ  ฉันแค่อยากจะดูอีกครั้งเฉยๆ น่ะ”

    “นายแปลกๆ ไปนะฟา  เหมือนไม่ใช่นายคนเดิมเลย…”

    “!!!”

    “ฉันพูดจริงๆ นะ  ตั้งแต่ที่นายกลับมา  เหมือนนายจะจำอะไรที่เกี่ยวกับพวกเราไม่ได้เลย  หรือฉันจะคิดมากไปเอง?”

    “ชะ…ใช่! นายคิดมากไปแล้วล่ะยูนิคอร์น ฉันก็เป็นฉัน จะเป็นคนอื่นไปได้ยังไงล่ะ  ฮะๆๆ”

    ฉันยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ไหลลงมาอาบแก้ม  ใจเต้นตึกตักด้วยความกังวล  ยูนิคอร์นจะจับได้มั้ยนะ วันนี้ฉันเองก็แสดงท่าทีอยากรู้โค้ดเนมของเขามากไปซะด้วย

    “แต่ว่า…เวลามองตานาย มันรู้สึกไม่เหมือนเดิม…”

    “…”

    “นาย…”

    “…”

    “ไม่ใช่ฟาใช่มั้ย…”

    “!!!”

    “นาย…”

    “…”

    “เป็นใครกันแน่?”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×