ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [VKOOK] I secretly love him

    ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER 2

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ย. 60





    2



    ปิดเทอม



                    วันสุดท้ายของการสอบไฟนอลกำลังจะผ่านพ้นไปเช่นเดียวกับจองกุกที่นั่งทำข้อสอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสต่างจากอีกฟากนึงของห้องที่จีมินกำลังทำข้อสอบอย่างเคร่งเครียด ตากลมโตหันไปมองนอกหน้าต่างเหมอลอยคิดถึงใครบางคน เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลทองคู่นั้น ป่านนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง มือเรียวเท้าคางมองออกไปข้างนอกเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย มุมปากยกยิ้มขึ้นเมื่อคิดถึงใบหน้าหล่อเหลาที่จองกุกเองมักจะมองเห็นได้แค่ด้านข้างเท่านั้น




                   คิดถึงจัง




                   จองกุกลุกขึ้นจากโต๊ะหยิบกระดาษคำตอบที่ตัวเองฝนเดาบ้างมั่วบ้างเดินไปส่งให้คุณครูหน้าห้องด้วยรอยยิ้มสดใสจนคุณครูสาวอดที่จะยิ้มตามไม่ได้


                    “อารมณ์ดีเชียวนะจองกุก” คุณครูสาวที่เห็นลูกศิษย์ตัวเองยิ้มแย้มกว่าทุกวันเอ่ยทัก จองกุกได้แต่ยกมือขึ้นเกาหัวอย่างเขินๆ นี่เขาแสดงมันออกมาชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอ


                    “นิดหน่อยครับ” จองกุกยิ้มโชว์ฟันกระต่ายอีกครั้งก่อนจะโค้งให้คุณครูและเดินออกจากห้องสอบ มือบางยกกระเป๋าเป้ตัวเองขึ้นสะพายบ่าข้างเดียวยืนพิงผนังหน้าห้องสอบรอเพื่อนตัวเล็กของตัวเองที่ไม่ยอมออกห้องสอบง่ายๆจนกว่าจะหมดเวลา หูฟังถูกยกขึ้นสวมมือบางกด       เพลย์ลิสที่ตัวเองฟังเป็นประจำก่อนจะยิ้มอีกครั้ง





                    เขาจะได้กลับบ้าน



                    กลับไปเจอพี่แทฮยอง





                    หลังจากเจอพี่แทฮยองเมื่อสองสัปดาห์ก่อน จองกุกก็ต้องกลับเข้ามาเรียนในเมืองอีกเพราะใกล้จะสอบไฟนอลจริงๆครั้งที่แล้วจองกุกตั้งใจจะไปเยี่ยมคุณพ่อกับคุณแม่แค่นั้นและการได้เจอพี่แทฮยองก็ถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญมาก แม้จองกุกจะตั้งใจไปหาเองก็ตามแต่ก็ไม่ได้คาดหวังเหมือนกันว่าจะเจอพี่แทฮยองนั่งเล่นเกมอยู่เหมือนเดิม




     

    อาจเป็นโชคชะตาที่นำพาจองกุกมาเจอแทฮยอง ทุกครั้งที่จองกุกอยากเจอก็มักจะได้เจออยู่บ่อยๆ




                   แบบนี้เรียกว่าพรหมลิขิตรึป่าวนะ





                    คราวนี้ขอให้โชคชะตาเข้าข้างเขาอีกครั้งเถอะ

                   






                    ตากลมหวานมองไปรอบๆตัวที่ตอนนี้มีแต่ระเบียงว่างเปล่าไร้ผู้คนเพราะจองกุกออกมาก่อนหมดเวลา 20 นาที ปากสีพีชยู่เล็กน้อยพลางคิดว่าถ้ากลับไปบ้านจะเจอพี่แทฮยองนั่งเล่นเกมอยู่เหมือนเดิมไหมหรือถ้าไม่เจอจองกุกจะทำยังไงต่อไปในช่วงเวลาปิดเทอม

     



                    บุกไปบ้านพี่แทฮยอง ?

     


                    บ้า นั่นน่ากลัวไป

     



                   ร่างบางในชุดนักเรียนสีแดงเลือดหมูหลับตาฮัมเพลงโปรดของตัวเองเพื่อลดความคิดฟุ้งซ่านจนเวลาผ่านไปเสียงออดก็ดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าหมดเวลา เหล่าบรรดานักเรียนก็ค่อยๆทยอยออกห้องสอบ เสียงจอกแจกเหมือนนกกระจอกแตกรังกลับมาดังอีกครั้งหลังจากเงียบไปราวสองชั่วโมง จองกุกชะโงกหน้ามองหาเจ้าเพื่อนตัวเล็กผมดำที่มักสะพายกระเป๋าหนังคล้ายผู้หญิงแต่กลับหาไม่เจอ


                    “อยู่นี่” เสียงคุ้นเคยดังมาจากด้านข้าง จองกุกรีบถอดหูฟังออกจากหูก่อนจะหันไปยังต้นเสียง


                    “ทำข้อสอบนานนะมึง”


                    “ก็ทำเต็มเวลา ไม่ได้ออกห้องสอบก่อนเหมือนมึง” จีมินว่าพลางยักไหล่แบบไม่ใส่ใจจนจองกุกนึกหมั่นไส้เจ้าเพื่อนตัวดีคนนี้ มือบางล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบลูกอมจุ๊ปปาจุ๊ปรสโปรดมาให้จีมิน


                    จีมินรับลูกอมจากมือจองกุกไว้อย่างรู้งาน มือเล็กเกาะห่อพลาสติกอย่างชำนาญก่อนจะส่งเจ้าลูกอมสีแดงเข้าปาก ริมฝีปากหนาดูดกลืนลูกอมสีแดงเข้าออกรสหวานที่แผ่ซ่านอยู่ในปากทำให้จีมินรู้สึกผ่อนคลายความเครียดหลังจากการสอบได้เป็นอย่างดี


                   จองกุกมักจะรู้ใจจีมินเสมอว่าเวลาไหนจีมินต้องการอะไร


                    “แล้วไปไหนต่อดี” จีมินถามออกมาพลางล้วงโทรศัพท์ตัวเองมายืนพิงกำแพงเช็คข้อความต่างๆอยู่ข้างๆจองกุก นิ้วเรียวเลื่อนหน้าจออ่านข้อความของเพื่อนที่ชอบส่งมาชวนไปกินเหล้า พลางส่ายหัวหน่อยๆ


                     วันนี้ยังไม่อยากเมา

     


         




                    Yoongi : อย่าลืมนัดของเรานะ       



       

                   ตาเรียวเล็กเบิกโตขึ้นมา สมองย้อนหลับไปเมื่อไม่กี่วันก่อนตอนที่จีมินเจอกับรุ่นพี่ยุนกิ ก่อนความทรงจำจะทั้งหมดจะกลับมา                 จีมินกดล็อคหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะเก็บมันเข้าใส่กระเป๋ากางเกง มือเล็กวางทาบบ่าจองกุกเบาๆ สูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด ปากอิ่มเม้มเข้าหากันเล็กน้อยก่อนจะแสดงสีหน้ากังวลออกมา


                    เพราะจีมินดันนัดเลี้ยงข้าวรุ่นพี่ยุนกิเพื่อตอบแทนที่รุ่นพี่คอยติวหนังสือสอบให้จีมินตลอดสองเทอมที่ผ่านมา จีมินเคยชวนจองกุกไปติวหนังสือด้วยกันหลายครั้งแต่จองกุกกลับปฏิเสธเพราะบอกว่าเหม็นขี้หน้า แถมยังบอกอีกว่าพี่ยุนกิคือตัวอันตรายไม่อยากให้จีมินสนิทด้วย


                   บางครั้งจีมินไปติวหนังสือกลับมาก็ต้องมาติวให้จองกุกต่อตามลำดับแต่ติวไปได้สักยี่สิบนาทีจองกุกก็มีสภาพฟุบลงกับโต๊ะ ไม่ก็ไปหนีไปเล่นเกมในห้องตามประสาเด็กติดเกม


                    “อะไร” จองกุกที่เงยหน้ามองเพดานหันหน้าไปทางจีมินเล็กน้อย มองเพื่อนตัวเองที่มีท่าทีกังวลอะไรบางอย่าง


                    “คือวันนี้ฉันมีนัดกับรุ่นพี่ยุนกิไปทานมื้อเย็นอะ” จีมินพูดประโยคที่อัดอั้นใจตัวเองเมื่อหลายนาทีออกมา จองกุกขมวดคิ้วเล็กน้อยกับคำพูดของจีมิน ก่อนจะยักไหล่แบบไม่สนใจ


                    “ก็ไปดิ” ร่างบางตอบกลับเสียงห้วนพลางเดินหนีแต่จีมินคว้าแขนจองกุกไว้ทัน


                    “มึงโกรธเหรอ”


                    “….

     






                    จองกุกไม่ชอบทานข้าวคนเดียว


                   จีมินกับจองกุกเป็นรูมเมทกัน ทุกๆวันเราทั้งสองจะทานข้าวด้วยกันเสมอ จองกุกเคยบอกว่าเมื่อไหร่ที่ทานข้าวคนเดียวจะรู้สึกแย่มากๆ  มีหลายครั้งที่จีมินไม่ได้กลับเข้าหอ เลิกเรียนแล้วก็ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนจนดึกดื่น พอกลับเข้าหออีกทีก็เจอจองกุกนอนฟุบเฝ้าอาหารบนโต๊ะและหลังจากนั้นก็ไม่ยอมพูดกับเขาสามวัน





                ให้มันได้อย่างนี้สิ ไอ้เพื่อนขี้ใจน้อย





                    “ไม่ได้โกรธสักหน่อยใครว่ากูโกรธ” จองกุกสะบัดมือจีมินออก


                    “เห้ย มึงมีเหตุผลหน่อยดิ” ขายาวของจีมินเริ่มวิ่งตามเพื่อนตัวเองที่เดินฉับๆหนีไป จองกุกต้องน้อยใจจีมินมากแน่ๆแต่ให้ทำไงได้ในเมื่อนัดรุ่นพี่ยุนกิไว้แล้วจะให้ปฏิเสธตอนนี้ก็คงไม่ใช่


                    “จองกุก มึงฟังกูก่อนดิ!” จีมินตะโกนเสียงดังลั่นระเบียงจนจองกุกที่กำลังจะก้าวขาเดินลงบันไดต้องหยุดชะงักแต่ก็ไม่ได้หันไปมองเพื่อนตัวเล็ก กระเป๋าหนังสีดำถูกกระชับขึ้นมาก่อนจีมินจะวิ่งไปหาเพื่อนร่างสูง


                    “กูไม่ได้โกรธมึง” เสียงเรียบๆของจองกุกเปล่งออกมาทันทีที่จีมินวิ่งมาถึง ใบหน้าหวานยังคงไม่หันมามองจีมินเหมือนเดิม


                    “….


                    “กูแค่..


                   ….


                    “ไม่ชอบเวลามึงกับพี่ยุนกิอะไรนั่นอยู่ด้วยกัน”


                   ….


                    “กูรู้สึกว่ามันไม่ใช่คนดี กูไม่อยากให้มึงไปสนิทอะไรกับมัน มึงเข้าใจกูไหม” ใบหน้าหวานหันมาปะทะกับจีมินดวงตาคู่สวยฉายแววจริงจัง


                    ประโยคหลังจองกุกพูดว่าอะไรจีมินไม่รู้หรอก




    “ไม่ชอบเวลามึงกับพี่ยุนกิอะไรนั่นอยู่ด้วยกัน”

    ไม่ชอบ

    ไม่ชอบ

    ไม่ชอบ

    ไม่ชอบ

     

    กูไม่ชอบมึงอยู่กับพี่ยุนกิ

                   

    ตึก ตึก ตึก


              ไอ้บ้า พูดอะไรออกมาวะ !


              จีมินหลบสายตาจริงจังของจองกุก ลมหายใจติด ๆ ขัด ๆ เป็นสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนถึงความรู้สึกของจีมินที่มีต่อจองกุกกำลังเปลี่ยนไปมากขึ้นเรื่อยๆ มือเล็กเสยผมสีดำที่เซตไว้ของตัวเองไปด้านหลังแก้เขิน


              “เออ แต่กูรับปากพี่เขาไว้แล้วไง นัดกันไว้นานแล้วด้วย” จีมินดึงจุ๊บปาจุ๊บออกแล้วโยนลงถังขยะข้างๆ สายตายังไม่กล้าหันไปสบตาจองกุกที่ตอนนี้หันมามองหน้าตัวเอง


              ทำไมต้องหวั่นไหวกับคำพูดของจองกุกมันด้วยวะ


              “งั้นกูคงห้ามอะไรมึงไม่ได้” จองกุกว่าพลางยู่ปากสีพีชเข้าหากัน ดวงตาแสดงความแข็งกร้าวไม่สบอารมณ์ ในเมื่อทำอะไรไม่ได้เขาก็หวังว่าเพื่อนของตัวเองที่จะไปกับรุ่นพี่ยุนกิคงจะปลอดภัยกลับมา






              จองกุกเชื่อแบบนั้น






              “ไปกี่โมงอะ เดี๋ยวเดินไปส่ง” จองกุกถามจีมินที่เอาแต่หลบสายตาตัวเองไปทางอื่น แม้น้ำเสียงจองกุกตอนนี้จะปนไปด้วยความหงุดหงิดแต่แปลกที่มันทำให้สิ่งที่อยู่ข้างในตัวจีมินยิ่งเต้นไม่เป็นจังหวะ






              ใจสั่นนะเว้ย            




                 

              “มึงโอเคจริงดิ ไหนบอกไม่ชอบพี่ยุนกิวะ”


              ตอนนี้ทั้งจีมินและจองกุกกำลังเดินลงบันไดของตึก เสียงเงียบของจองกุกเป็นคำตอบยืนยันได้ดีว่าอีกฝ่ายก็ไม่อยากไปส่งตัวเองมากหรอก..


              “แค่เป็นห่วงมึง ไม่ไว้ใจไอ้ยุนกินั่น” จองกุกกระชับกระเป๋าหนังสีเหลืองบนบ่าขึ้นก่อนจะเดินนำจีมินออกไป แต่ตัวจีมินที่ได้ฟังคำตอบของจองกุกกลับ



                   



             ใบหน้าเรียบเฉยกับสายตาที่ฉายแววอะไรบางอย่างกำลังมองแผ่นหลังจองกุกที่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ มือเล็กจับหน้าอกข้างซ้ายที่กำลังเต้นแรงแทบจะระเบิด จองกุกจะรู้ไหมว่าคำพูดและการกระทำของมันในวันนี้ทำให้จีมินต้องหวั่นไหวอีกครั้ง




                   จีมินกลัว


                   

     

                   กลัวว่าสักวันจะบังคับใจของตัวเองไม่ได้

     

     

              ถ้าถึงตอนนั้นจีมินไม่อยากจะคิด


     

     

              ถ้ารู้สึกมากกว่านี้

     




              ก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมาให้ได้

     

     


                   แบบนี้ไม่ดีเลยนะ

     

                

       

              “มาดิ ! เดี๋ยวพี่ยุนกิของมึงรอนาน” จองกุกหันกลับมาตะโกนจีมินให้เร่งฝีเท้าตามได้ จีมินได้แต่ทำหน้าเอ๋อแล้ววิ่งตามจองกุกที่เดินไปได้ไกลแล้ว


              แต่แล้วจีมินก็หยุดวิ่งพร้อมกับรอยยิ้มที่หุบลงเมื่อความจริงมันแล่นเข้ามาปะทะกับความรู้สึกของตัวเอง



                   

                   เป็นไปไม่ได้


                   ยังไงเราสองคนก็เป็นมากกว่านี้ไม่ได้

     


              “เป็นไร” 

              “เปล่า แค่คิดอะไรได้เฉยๆ” รอยยิ้มบางฉายออกมาอย่างสดใสแม้ข้างในจะถูกความเป็นจริงเสียดแทงจนจุกแทบกระอัก

     

     





                   กูจะพยายามเป็นเพื่อนที่ดีกับมึงนะจองกุก

                   

     







                    หน้าโรงเรียน



                    เวลาช่วงเย็นหลังเลิกเรียนได้ล่วงเลยมาถึงช่วงค่ำ แสงไฟข้างทางสว่างจ้าส่องให้เห็นเด็กนักเรียนชายตัวเล็กสองคนยืนรอใครบางคนอยู่ริมถนน


                นัดกันยังไงถึงปล่อยให้จีมินมารอเป็นชั่วโมง


                จองกุกบ่นในใจก่อนจะกินไอศกรีมที่ซื้อมาเมื่อไม่กี่นาทีนี้ส่วนเพื่อนข้างๆก็นั่งอยู่ม้านั่งที่มีอยู่เพียงตัวเดียว ก้มหน้าก้มตามองกระเป๋าสะพายหนังสีดำของตนเอง


                    “อีกนานไหมอะ” จองกุกโผล่คำถามออกไปแสดงถึงความไม่พอใจที่มีต่อตัวยุนกิสุดขีด จีมินหันไปมองจองกุกที่ยืนพิงเสากินไอศกรีมอย่างหงุดหงิด


                    “เดี๋ยวก็มาแล้ว พี่เขาบอกติดธุระนิดหน่อย”จีมินบอกจองกุกเสียงเบาเพราะกลัวจองกุกจะหงุดหงิดรุ่นพี่ของตนเองมากกว่าเดิม จากตอนแรกที่ไม่ชอบขี้หน้าแล้วพอมาเจอแบบนี้ยิ่งพากันเหม็นขี้หน้าไปกันใหญ่


                    ก่อนที่จองกุกจะพูดอะไรออกมาแสงไฟจากรถยนต์ก็สาดเข้ามาใส่ร่างทั้งสอง จีมินลุกยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนหรี่ตาเล็กๆจ้องมองคนในรถ


                    เมื่อรถจอดแน่นิ่ง เจ้าของรถก็เปิดประตูรถออกมาผมสีเทาในชุดสีขาวและกางเกงยีนส์ขาดๆ สำหรับคนอื่นคงจะมองว่าคนตรงหน้าดูเท่และแบดบอยมาก ๆ แต่สำหรับจองกุกแล้ว

     

              ไม่ชอบขี้หน้าชะมัด


                    “สวัสดีครับพี่ยุนกิ” จีมินโค้งน้อยๆให้รุ่นพี่ที่สนิทของตัวเอง ยุนกิยิ้มให้เป็นคำตอบก่อนจะหันไปมองจองกุกที่ชักสีหน้าไม่พอใจแล้วหันมาพูดกับจีมิน


                    “ขอโทษนะที่ให้รอนาน วันนี้พี่มีธุระหลายที่น่ะ” เสียงทุ้มๆบวกกับสายตาที่จริงจังของยุนกิทำให้จีมินคลายความน้อยใจออกไปได้บ้าง รุ่นพี่เขามีงานที่ต้องทำในแต่ละวันเยอะมากๆและคงจะยุ่งสุดๆด้วยแต่ยังสละเวลามานัดของจีมิน


                    “ไม่เป็นไรครับ”


                    “เมื่อยขา” เสียงจองกุกโพล่งออกมาทันทีที่เพื่อนตัวเองพูดจบ จีมินหันไปส่งสายตาดุเพื่อนตัวดีที่พิงเสา แต่จองกุกก็ยักไหล่ทำเป็นไม่สนใจก่อนจะค่อยๆเดินมาหายุนกิ


                    “ดูแลเพื่อนผมด้วยนะครับ” จองกุกพูดเสียงเรียบ ยุนกิพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะดึงแขนจีมินให้ขึ้นรถ


                    “ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวมา” จีมินพูดส่งท้ายก่อนจะเปิดประตูขึ้นรถคันหรูไป จองกุกก็ยิ้มน้อยๆให้เพื่อนตัวเอง แม้จองกุกจะไม่ไว้ใจยุนกิมากแค่ไหนแต่ในเมื่อเพื่อนเขาไปกับยุนกิแล้วเขาก็คงต้องไว้ใจยุนกิเท่าที่จะทำได้


                    แล้วรถคันหรูสีดำก็แล่นผ่านหน้าจองกุกไป

     

                หยุดคิดอะไรบ้าๆแล้วกลับหอเถอะ

                     





                    ตุ้บ กระเป๋าสีเหลืองถูกเหวี่ยงลงโซฟาตามมาตัวของจองกุก ใบหน้าหวานฉายแววความเหนื่อยล้าออกมาเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองนาฬิกาดิจิตอลที่วางอยู่ใกล้ๆกับทีวีจอแบนขนาดใหญ่


                    7.20 P.M


                   เฮ้อ


                   จองกุกหันไปมองรอบๆห้องของตัวเองที่เงียบสงัด โต๊ะกินข้าวที่มักจะมีจีมินไม่ก็เพื่อนของตัวเองมาทานด้วยประจำ มือบางลูบไปยังโซฟาที่เขากับจีมินชอบนั่งเล่นเกมส์เพลย์ด้วยกันจนดึกดื่นรวมไปถึงโต๊ะอ่านหนังสือในห้องจีมินที่จองกุกชอบไปก่อกวนจีมินอ่านหนังสืออยู่บ่อยๆ


                    ถ้าจองกุกอยู่คนเดียวก็ชอบฟุ้งซ่านแบบนี้แหละ


                    มือบางปลดเนคไทและเสื้อชั้นนอกออกมาวางพาดไว้ที่โซฟาดึงชายเสื้อในกางเกงออกก่อนจะล้วงโทรศัพท์เครื่องหรูนั่งเช็คข้อความต่างๆ แก้มใสป่องออกมาเมื่อเห็นว่า

     

                   Mom : จองกุกสบายดีใช่ไหมลูก มะรืนนี้แม่กับพ่อจะบินไปฮาวายนะไม่แน่ใจว่าจะกลับเมื่อไหร่ ลูกอยู่บ้านคนเดียวได้ใช่ไหมลูก

                     

                   จะหนีกันไปฮันนีมูนอีกแล้ว ทิ้งจองกุกอีกตามเคย

     

                   Jungkook : ทำไมคุณแม่ไม่เอาจองกุกไปด้วย

     

                   Mom : เป็นเด็กเป็นเล็กอ่านหนังสืออยู่บ้านก่อนนะลูก ไว้ถ้าสอบติดตำรวจแม่จะพาไปนะ

                   

                    Jungkook : สัญญานะครับ

                   

                    Mom : จ้า สัญญาจ๊ะลูกรัก ดูแลตัวเองด้วยนะลูก อย่าไปกวนจีมินเยอะนักละ

                   

                    Jungkook : จีมินต่างหากที่กวนผม

     

                    Mom : แม่ไม่เชื่อ 5555

                   

                   



                    ผ่านไป 15 นาที นอกจากบทสนทนาของจองกุกกับคุณแม่ จองกุกก็ไล่ตอบแชทเพื่อนๆที่มักชวนไปผับบ่อยๆ ไม่ก็ชวนไปนั่งดื่มเบียร์ริมแม่น้ำฮันตอนดึก ๆ


    พวกมันไม่กลัวหนาวกันรึไงนะ

     


    สุดท้ายหน้าจอโทรศัพท์จองกุกก็ดับลงพร้อมกับใบหน้าหวานที่เริ่มทำหน้างอ

     

    หิว


                    ร่างบางลุกขึ้นเดินไปเดินมาสักพักก่อนจะนึกออกว่าจีมินเคยติดเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้สั่งอาหารตรงตู้เย็น จองกุกไม่รอช้ารีบเดินไปหาตู้เย็น นิ้วเรียวกดเบอร์โทรศัพท์แล้วแนบหูเพียงไม่กี่วินาทีปลายสายก็รับ จองกุกสั่งอาหารหลายอย่าง จาจังมยอน คิมบับ ไก่ทอดหนึ่งตัว จัมปง หมูทอดแล้วก็ต๊อกบกกี



                    ที่สั่งมาเยอะไม่ใช่อะไร ก็สั่งเผื่อเพื่อนอีกคนที่ตอนนี้ไปนั่งทานมื้อเย็นกับไอ้ตี๋หน้าจืดที่ไหนสักแห่ง

     



                    ต้องใช้เวลารอประมาณ 20 นาทีกว่าอาหารจะมาส่ง จองกุกเลยเลือกที่จะเข้าไปอาบน้ำให้สบายตัว



                    น้ำอุ่นไหลออกมาจากฝักบัวสาดมากระทบผิวเนียนบริเวณหลังคอและแผ่นหลัง จองกุกหลับตาปล่อยความคิดความรู้สึกให้จางหายไปสายน้ำ มือบางเริ่มถูตัวเพื่อไล่ความรู้สึกเมื่อยล้าให้ออกไป

     





                    คิดถึงพี่แทฮยองจัง


                    จู่ๆ เสียงความคิดก็ดังขึ้นมาในหัว จองกุกสะบัดหัวไล่ความคิดนี้ออกไป ก่อนเสียงเดิมจะดังอีกครั้ง


                    พี่แทฮยอง




              จองกุกยอมรับว่าในทุกๆวันความรู้สึกคิดถึงพี่แทฮยองเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เขาอยากเจอแทบใจจะขาด ทั้งคิดถึงอยากเห็นหน้า หลากหลายอารมณ์เกี่ยวกับพี่แทที่ปะทะกันในหัวตอนนี้

                   

              “พี่แทฮยอง” จองกุกก้มมองมือตัวเองย้อนคิดถึงความกล้าในวันนั้นที่เอาน้ำโค้กไปให้แทฮยองความรู้สึกอายแล่นเข้ามาผ่านใบหน้าจนร้อนผ่าวจนอยากจะมุดเข้าท่อที่ไหนสักแห่งเพื่อหนีความทรงจำวันนั้นยิ่งคิดไปถึงสีหน้าและท่าทางของแทฮยองก็เริ่มคิดหนักว่านอกจากแทฮยองจะจำตนเองได้แล้วแทฮยองจะกลัวด้วยรึเปล่า

     

              ถ้าแทฮยองกลัวจองกุกขึ้นมา สิ่งที่พยายามมาทั้งหมด 5 ปีก็ดูสูญเปล่าไปในพริบตา

                   




                ไม่นะ พี่แทอย่ากลัวผม

     





                    มือบางเอื้อมไปเปิดน้ำให้แรงสุด หันหน้าเข้าฝักบัวให้สายน้ำไหลลงมากระทบใบหน้าและผม ก่อนจะบีบแชมพูมาชโลมผมให้ทั่ว

     



                    เพียงไม่กี่นาทีจองกุกก็ออกจากห้องน้ำด้วยเสื้อสีขาวผืนบางตัวโตและกางเกงขาสั่นเหนือเข่าขึ้นไปหลายนิ้ว จองกุกนำผ้าเช็ดตัวผืนเล็กมาขยี้ผมตัวเองที่เปียกจากการสระผมเมื่อครู่ แต่แล้วเสียงกดออดที่หน้าห้องก็ดังขึ้น


                    จองกุกเดินไปเปิดเพลงคลาสสิคก่อนจะเลือกเดินไปหน้าห้องด้วยสภาพผ้าขนหนูคลุมหัว มือบางเปิดประตูออกมาก่อนจะเจอจนส่งของตัวผอมสูงใส่หมวกแก๊ปและผ้าปิดปากสีดำในมือเต็มไปด้วยกล่องอาหาร


                    จองกุกรับของในมือมาอย่างทุลักทุเลเพราะเขาสั่งอาหารมาเยอะเกินกว่าเด็กผู้ชายคนเดียวจะทานหมด คนส่งของก้มหน้ากดเครื่องในมือของตัวเอง


                    สองหมื่นห้าพันวอนครับ” เสียงทุ้มนุ่มลึกเปล่งออกมา จองกุกที่กำลังก้มหน้างุดเช็คอาหารอยู่ถึงกับเงยหน้ามองคนส่งของด้วยแววตาสงสัย

     



                   เสียงคุ้นๆนะ

     



                    ดวงตาสีน้ำตาลทองจ้องมองมายังใบหน้าจองกุก คิ้วหนาขมวดเข้าเล็กน้อยราวกับแปลกใจ ใบหน้าเรียวได้รูปและจมูกโด่งที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าปิดปากสีดำ



    เห็นแค่ตาจองกุกก็รู้แล้ว





     


                    พี่แทฮยอง !!!













    ....................................................................................................................................................................................................................


    Talk : สวัสดีรีดที่หลงเข้ามาทุกคน 555555555 ไม่รู้ว่ามีคนรอเรื่องนี้ไหมแต่กว่าเราจะอัพก็กินเวลาไปหลายเดือน (เกือบครึ่งปี) (ขอโทษน้าาา) จริงๆฟิคเรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรมากไม่มีอะไรซับซ้อนเรา เน้นน้องกุกรุกอย่างเดียว (มั้งนะ) อิอิ แต่เราไม่ทิ้งเรื่องนี้นะคะแต่อาจอัพช้าหน่อยเพราะเราเรียนหนักมากจริงๆ (ยิ่งเรียนเยอะนานวันเข้าสติเริ่มหายไปกับตำราเรียน แค่เรานะ 5555) ถ้าว่างเราจะมาอัพน้าาา



    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ  อยากอ่านต่อคอมเม้นต์ให้กำลังใจเราด้วยนะตัวเอง ติชมได้น้าาา



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×