เรื่องนี้เกิดย้อนไปในยุคคลาสสิค ของ อังกฤษ มีลูกเศรษฐีคนหนึ่งที่มีรูปร่างสวยมาก เธอชื่อ ริน ผู้เป็นพ่อต้องการให้ลูกสาวตัวเองได้แต่งงานกับ ชายที่มีฐานะเหมาะสมกับลูกตัวเองเท่านั้น แต่ทว่า ลูกสาวของเขานั้นได้รักกับชายคนหนึ่งที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ชายผู้นี้ เป็นคนดี และมีความรับผิดชอบอย่างมาก แต่เพราะเขาจน เขาคิดเพียงว่า การมีชีวิตอยู่ของเขา ต้องมีความหมายอยู่ในตัวเอง อาจจะเป็นความรักของเขาก็ได้ ที่ทำให้เขาไม่คิดย่อท้อในชีวิตของตัวเองเลย กำลังใจของเขาคือ คนที่เขารักนั่นเอง เพราะจนเขาจึงต้องยอมแพ้ไม่ได้ ลืมบอกไปครับว่า ชายคนนี้ชื่อ เจ ครับ เรื่องความรักของเขาทั้งสองได้รู้ถึงหูพ่อของรินตลอด ดังนั้น ริน จึงต้องระวังตัวเสมอ เพราะกลัวว่า พ่อตัวเองจะให้แต่งงานกับชายอื่น วันนี้ เป็นวันที่ เจ ออกมาเจอกับรินเหมือนทุกๆวัน ทุกครั้งที่ทั้งสองออกมาเจอกัน ทั้งสอง จะพบกันที่ใต้ต้นสนใหญ่หน้าลำธาร วันนี้ คงเป็นวันที่แย่มากเพราะ เศรษฐีตามมาในที่ที่ทั้งสองอยู่ พอเศรษฐีมาถึง จึงบอกลูกตัวเองว่า “ลูกเอ๋ย เจ้าจะมาจมปลักอยู่กับคนที่ไม่มีอะไร อย่างไอ้หมอนี่ไม่ได้นะ เราเป็นถึงผู้ที่มีเกียรติ เป็นถึงผู้ที่มีฐานะ แต่ดูเขาสิ เขาไม่มีอะไรเลย แล้วชีวิตลูกของพ่อจะมีความสุขได้อย่างไร” ฝ่ายลูกสาวได้ยินดังนั้นจึงพูดกับผู้เป็นพ่อว่า “ความรักมันคืออะไร ลูกเข้าใจว่า ความรักมันคือสิ่งสวยงามไม่ใช่หรือ มีคนบอกกับลูกมากมายว่า ความรักไม่มีคำว่าจน ไม่มีคำว่า รวย แล้วเราล่ะ เราก็คนเหมือนกับทุกๆคน แล้วทำไมพ่อจึงคิดว่า ผู้ที่ไม่มีอะไรจึงจะสมควรแค่ผู้ที่ไม่มีอะไรเท่านั้น ความสุขของลูก ลูกสุขที่ได้รัก”
แล้ว รินก็ได้เดินกลับบ้านพร้อมผู้เป็นพ่อ โดยที่ เจไม่พูดอะไรออกมาเลย เจ นั่งคิดอยู่คนเดียว ว่า คนเรามีความหมายอะไรกันแน่ในชีวิต
ในวันที่ 7เจ ต้องไปประจำการที่หน้าด่าน เพราะ เจได้เป็นทหาร แต่ มันเป็นการเสี่ยงชีวิตอย่างมาก เพราะที่หน้าด่าน จะถูกข้าศึกบุกมาเมื่อไหร่ก็ได้ ก่อนเจ จะไป รินออกมาส่ง พร้อม กับจับมือกันไว้แน่น “กลับมาให้ได้นะ รินจะรอ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน รินก็จะรอ” คำพูดนี้ถูกพูดออกมาด้วยสีหน้าอันเศร้าหมอง พร้อมกับน้ำตา ที่ไหลลงมาอาบแก้มและหยดลงมาใส่มือของคนทั้งสองที่จับ กันไว้ “ จะร้องไห้ไปทำไม เราไม่ได้ไปแล้วไปลับซะหน่อย สัญญานะ ว่าเจจะกลับมาให้ได้ เจจะกลับมาพร้อมเกียรติของเจ ที่พ่อของรินต้องการ วันที่ 10 เดือน 8 เจจะกลับมาหา รินให้ได้” น้ำตาของเจเริ่มไหลลงมาจากตา เมื่อมองหน้า รินคนรักด้วยใจที่เศร้าหมอง ก่อนที่เจจะไป รินได้มอบจี้รูปดาวให้ “ เจ ใส่ไว้นะ มันเป็นของที่ รินรักและใส่มาตั้งแต่เด็กแล้วละ” แล้วเจก็พูดขึ้นมาว่า “รินอยากเป็นอะไรมากที่สุด” รินมองหน้าเจ แล้วตอบว่า “ รินอยากเกิดเป็นเมฆ รินจะได้ลอยไปไหนได้ และ รินจะได้รักเจได้อย่างอิสระไง เจล่ะ” เจ มองหน้าอันเศร้าของริน ก่อนที่จะตอบว่า “ เจ อยากเป็นสายลม จะได้ พัดพาความเศร้าและ สิ่งที่ทำให้ รินไม่สบายใจ ออกไปจากรินได้ ไง วันไหนที่ รินร้อนใจ เจก็จะเป็นดังลมที่พัดพาความทุกข์ของรินออกไปจากใจรินได้ไง..” เจใส่จี้รูปดาวไว้ แล้วก็พูดว่า “ เจต้องไปแล้วนะ สัญญาว่าเจ จะกลับมาหารินให้ได้ ” เมื่อพูดจบ เจก็จูบที่หน้าผากของริน เบาๆ แล้วก็เดินจากไป
สมัยนั้นการสู้รบจะยังเป็นการใช้ดาบกันอยู่ เจไปอยู่ที่หน้าด่านได้เป็นผู้ดูแลอาวุธ ส่วน ริน เฝ้าแต่คิดถึงคนรักตลอดเวลา จนแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับ ผู้เป็นพ่อเห็นลูกสาวที่ตนรักเป็นเช่นนั้นแล้วรู้สึกสงสารและ เข้าใจลูกสาวขึ้นมา จึงเดินเข้าไปพูดกับลูกสาวว่า “ลูกเอ๋ย มากินข้าวบ้างสิ เดี๋ยวก็ไม่มีแรงหรอก” รินมองหน้าผู้เป็นพ่อแล้วร้องไห้ แล้วรินจึงบอกผู้เป็นพ่อ ว่า “รินรักเจมาก พ่อไม่เข้าใจรินเลย รินจะรอให้เจกลับมา เจต้องกลับมาพร้อมเกียรติและศักดิ์ศรีแน่” พ่อได้ฟังดังนั้นจึงพูดกับลูกว่า “ลูกไม่กินข้าวกินปลา แล้วลูกจะเอาแรงที่ไหนมารอ เจเค้าละ เดี๋ยวก็เป็นอะไรไปก่อนเจจะกลับมาหรอก” ผู้เป็นพ่อมองลูกด้วยความสงสารลูกจับใจที่ลูกเป็นเช่นนี้ แล้วผู้เป็นพ่อจึงพูดต่อไปอีกว่า “ พ่อให้สัญญาว่า พ่อจะรอเจกลับมาพร้อมลูก พ่อให้โอกาส เมื่อถึงวันที่ 10 เดือน 8 เจกลับมา ลูกจะได้แต่งกับเจ แต่ถ้า เจไม่กลับมา ลูกต้องเข้าพิธีเลือกคู่ ตกลงไหม” รินได้ยินดังนั้นก็ดีใจขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง แล้วบอกกับผู้เป็นพ่อว่า “ลูกเชื่อว่าเขาต้องกลับมาแน่ ถ้าเขาไม่กลับมาลูกยินดีขึ้นเลือกคู่ให้พ่อ” พ่อของริน ได้ยินแล้วจึงยิ้ม แล้วบอกกับลูกว่า “นอนเถอะลูกพ่อ รักษาตัวเองไว้ให้ดี ดูแลตัวเองด้วยละ”แล้วคืนนั้น รินก็หลับได้อย่างสุขจนถึงเช้า
ส่วนเจ ก็เฝ้ารอวันที่ 10 เดือน 8 และวันนี้ก็เป็นวันที่8 เดือน 8 แล้ว ระยะเวลาที่ เจมาอยู่ที่นี่ ได้รู้จักคนมากมาย และยังไม่เคยมีการรุกรานของกลุ่มตรงข้ามเลย ในทุกคืนเจจะมองจี้รูปดาวที่แขวนที่คอก่อนนอนทุกครั้ง ในเช้าวันที่ 9 “เตรียมพร้อม ทุกกำลังพลเตรียมพร้อม ข้าศึกบุกแล้ว” เสียงของผู้คุมกองทหารดังขึ้น ทำให้ทหารทุกนาย พร้อมกับเจ ต้องรีบตื่นขึ้นมา แล้วหยิบอาวุธของใครของมันขึ้นมา การศึกครั้งนี้ ดำเนินไปจนถึงเวลาพลบค่ำ การต่อสู้เป็นไปเรื่อยๆ เจมองไปที่ผู้คุมทหาร ผู้คุมกำลังเสียท่า เจวิ่งเข้าไปช่วย แล้วพุ่งตัวพร้อมดาบของตัวเอง หมายจะเผด็จศึกที่หัวหน้าของอีกฝ่าย แต่ทว่า หัวหน้าของอีกฝ่ายก็พุ่งตัวเข้ามาเพื่อจะเอาชีวิตเจเหมือนกัน ดาบของทั้งสอง แทงเข้าพร้อมกันที่หัวใจของแต่ละคน แล้วร่างของเจก็ล้มลงพร้อมกับหัวหน้าของฝ่ายตรงข้าม แล้วเจก็หมดสติไป ตื่นมาอีกที เป็นวันที่ 10 เดือน 8 ที่หน่วยพยาบาลของกองทหารที่อยู่ในเมืองใหญ่ เพราะตอนนี้ เจได้ออกมาจากหน้าด่านแล้ว ได้เป็นวีรบุรุษ เพราะเจเป็นผู้ที่ทำให้ศึกนี้ชนะ ผู้คุมได้เล่าให้เจฟังว่า “ตอนที่นายโดนแทง ปลายดาบของอีกฝ่ายโดนจี้รูปดาวพอดี แต่จี้แตกจึงทำให้นายโดยแทงด้วย แต่ว่ายังดีนะ ถ้าไม่ใช่จี้ลดแรงกระแทงละก็ ผมคิดว่า นายคงไม่รอดแน่ๆ พลทหาร นายจะได้รับเหรียญกล้าหารและยศที่เราจะมอบให้ ขอบใจที่ช่วยผมไว้นะ” แล้วผู้บัญชาการทหารสูงสุดก็เข้ามาแล้วพาเจไปทำพิธีรับมอบเกียรติ ฝ่ายริน ได้ยินข่าวว่ามีการรบกันขึ้น ก็ใจหาย รินนั่งรอ เจ ตั้งแต่เช้า แต่ก็ไม่มีวี่แววว่า เจจะมา รินนั่งร้องไห้ น้ำตาเริ่มไหลรินลงมาหยดลงเข่า มีสายลมเบาๆพัดผ่านหน้าไป
เช้าวันที่ 11 เดือน 8 รินตื่นขึ้นมา มีผู้ชายมารอคิวเลือกคู่มากมาย รินรู้ดีกับเรื่องที่เกิดขึ้น รินแต่งตัวแล้วลงมา พ่อของรินให้ รินเลือกว่าจะเอาใคร สำหรับริน ใครก็ไม่สามารถมาแทนเจได้ ดังนั้น รินจึงอธิษฐาน “ถ้าคู่ของข้าพเจ้าเป็นใครขอให้ เค้ารู้ความหมายในสิ่งที่ข้าพเจ้าจะแสดงต่อไปนี้ด้วยเถอะ ริน ยกนิ้วก้อยขึ้น ให้ผู้ชายทั้งหลายหาความหมายในสิ่งที่ ริน อยากได้คำตอบ ชายแต่ละคนต่างไม่มีใครรู้ บางคนยกนิ้วชี้ขึ้นมาบ้าง บางคนเอาแหวนไส่ให้บ้าง บางคนเอาสมบัติประเคนให้บ้าง จนคนสุดท้ายก็ไม่มีใครรู้ใจ รินเลย แต่แล้ว เจก็เดินขึ้นมาพร้อมชุดเกียรติยศเต็มยศสีขาว เดินเข้ามาถึง เจ ยกนิ้วก้อยขึ้น แล้วเดินไปเกี่ยวก้อยกับ ริน แล้วสุดท้าย คนที่ได้เป็นคู่ของรินก็คือ เจ โดยการยอมรับของผู้เป็นพ่อของ ริน เพราะการมาพร้อมเกียรติยศของเจ อยู่กันได้ไม่ถึงเดือนก็มีข่าวมาบอกเจว่า ที่หน้าด่านโดนรุกรานและต้องการเจไปเป็นผู้นำ ในอีก 3 วันข้างหน้า เวลาที่เหลือทุกวัน เจกับรินจะมานั่งกันที่ใต้ต้นสนริมลำธารทุกวันๆ จนถึงวันสุดท้ายที่เจเหลือให้รินก่อนไปหน้าด่านนอกเมือง เจกับรินมานั่งอยู่ใต้ต้นสนเช่นเคย มีลมเบาๆพัดมาแล้วใบไม้ก็ปลิวเข้ามาใส่มือของเจ แล้วใบไม้ใบนั้น ก็ปลิวไปและขาดเหมือนถูกฉีกตามลมเบาๆ มันทำให้เจมีลางสังหรณ์ไม่ดี เจเริ่มนิ่ง รินยังไม่รู้สึกอะไรจึงถามเจว่า ถ้ากลับมาเจอยากทำอะไร เจบอกรินว่า “เจจะอยู่กับรินตลอดไป เราจะอยู่กันอย่างคนธรรมดาดีไหม อยู่กันแบบชนบทธรรมดา มีเด็กตัวเล็กๆสักคน” แล้วรินก็ยิ้มโดยที่ไม่รู้ว่า เจ กำลังกังวลอะไรบางอย่างอยู่ เจหยิบใบไม้มาทำเป็นกังหัน แล้วมอบให้กับริน “ริน .. ถ้าวันหนึ่งเจไม่ได้อยู่กับริน รินจะมีใครไหม คือแบบว่า เจไม่สามารถอยู่กับรินได้อีกต่อไปแล้วอะไรแบบนี้” รินได้ฟังจึงตอบกลับไปว่า “ถ้าวันนั้นมีจริงนะรินก็จะตามไปอยู่กับเจไง ไม่ว่าเจจะเป็นอะไร รินก็จะอยู่กับเจ ไม่ว่าภพนี้หรือภพไหน รินรู้อยู่หรอก ว่าเจต้องการบอกอะไร เจหมายถึงการตายใช่ไหมละ ฮึ..”
แล้ววันนั้นก็ผ่านไป... เช้าของวันที่ 29 เดือน 8 รินแต่งตัวให้ เจ แต่เช้า ขณะแต่งตัว เจก็ได้บอกริน ว่า “เจ อยากเป็นลมนะ จะได้คอยอยู่ใกล้ๆรินได้ทุกๆที่ไง ถ้าวันหนึ่งเจไม่อยู่ เวลามีลมพัดริน ก็แปลว่า เจอยู่ข้างๆรินนะ” รินมองหน้าเจ แล้วพูดขึ้นว่า “ทำไมพูดแบบนี้ เป็นอะไรไป เจต้องอยู่กับริน ตลอดไปนะ” แล้วน้ำตารินก็ไหลลงมา เจเอามือ เช็ดน้ำตาให้ริน แล้วบอกว่า “เจจะอยู่กับรินนะ เจสัญญา เจจะอยู่กับรินตลอดไป” เจ พูดพร้อมกับเอานิ้วก้อยเกี่ยวกับนิ้วก้อยของรินไว้ ก่อนจะเดินจากไป แม้จะไม่แสดงอาการออกมาก แต่น้ำตาก็ไหลลงมาตอนที่เดินออกมาแล้ว เมื่อเวลาผ่านพ้นไป15 วัน ก็มีข่าวมาบอกรินว่า เจหายตัวไปไม่มีใครรู้ว่าเจหายไปไหน รินถึงกับน้ำตาตก เข่าอ่อน ทรุดลงกอง “ไม่นะ เจสัญญาไว้แล้วว่าจะอยู่ กับริน เจไม่มีทางทิ้งรินได้หรอก เจ..ฮือ..ฮีอ..ไม่จริงใช่ไหม เจ....ฮือๆ” เวลาผ่านไปเป็นวันที่ 48 ของการจากไปของเจ แม้จะรู้ว่า รินแต่งงานแล้วก็ยังเป็นที่หมายปองของชายทั้งหลายอยู่ เมื่อผู้คนได้ข่าวว่า รินเป็นหม้ายก็พากัน มาขอให้รินเลือกคู่กันอีก โดยด้านนอกจะมีทหารของเจอยู่หน้าประตูบ้าน เช่นเคยแหละครับ รินอธิษฐาน แล้วยกนิ้วก้อย ขึ้น แต่ก็เหมือนเดิม แต่ทว่ามีขอทานคนหนึ่งปิดหน้าปิดตา แต่งตัว
พะลุงพะลังเดินเข้ามาเพื่อจะขอเลือกคู่ แต่ทหารไม่ให้เข้าไป เมื่อรินมองมาเห็นจึงบอกว่า “ให้เขาเข้ามาเถอะ เราถือว่า ผู้คนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน” เพราะที่รินยอมหาคู่อีกครั้งก็เพื่อหวังจะให้มีปาฏิหาริย์ เพื่อให้เจรู้ข่าวถ้ายังอยู่ รินอยากเจอเจมากนั่นเอง เมื่อขอทานเดินเข้ามาก็ได้ชูนิ้วก้อยขึ้นแล้วเดินมาหาริน รินรู้สึกใจสั่นน้ำตาแทบร่วงลงมา เมื่อเห็นเช่นนี้ทำให้ริน รู้สึกคิดถึงเจมากขึ้น แต่เมื่อขอทานเดินเข้ามาเกี่ยวก้อยกับรินแล้วผ้าคลุมหน้าก็ถูกลมเบาๆปลิวร่วง หัวใจของรินแทบหยุด เพราะขอทานคือเจที่หายสาบสุญไปนั่งเอง รินกอดเจด้วยความรัก น้ำตาทั้งสองเริ่มไหลลงมา “เจ ไปไหนมา รู้ไหม รินคิดถึงเจทุกวันเลย เจอย่าไปจากรินอีกนะ” เป็นน้ำเสียงที่ออกมาด้วยความดีใจของริน “เจสัญญานะ เจจะอยู่ข้างๆริน ทุกๆ เวลา เจจะไม่ไปไหนอีกแล้ว เจสัญญา”เมื่อทุกอย่างในวันนั้นจบลง คืนนั้น รินได้นอนกับเจ แต่พอตื่นขึ้นมา เช้า ของวันที่ 49 ที่มีการจากไปของเจ รินก็ไม่เจอกับเจ รินเดินตามหาเจจนทั่ว แล้วก็เดินถึงหน้าบ้าน มีทหารอยู่เต็มเลย เมื่อรินเดินมาถึง ใจแทบช็อก เพราะมีแท่นแก้วใบหนึ่ง แท่นแก้วใบนั้นข้างในบรรจุร่างไร้วิญญาณของ เจ อยู่ มีทหารนายหนึ่งกล่าวขึ้น “ ผู้คุมเป็นผู้ที่กล้าหาญมากครับ ท่านสู้อย่างสมเกียรติมาก ท่านเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนอื่นๆ กระผมได้นำศพของท่านเดินทางมาล่าช้า ท่านได้เสีย ในวันที่ 31 เดือน 8 ครับ ท่านกล้าหาญมากครับ” แล้วทหารทุกนายก็นั่งลงทำความเคารพศพของเจ สภาพศพของเจ เหมือนเดิมทุกอย่าง แม้จะผ่านไปหลายวัน ร่างของเจที่นอนอยู่ ก็ไม่มีส่วนไหนที่ผิดแปลก ไม่มีการเน่าเปื่อยนั่นเอง รินยืนอึ้งน้ำตาไหลพูดอะไรไม่ออก แล้วก็มีลมพัดมาบนหน้าของรินเบาๆ เหมือนสายลมอยากจะเช็ดน้ำตาให้ริน แล้วก็มีกังหันใบไม้ลอยมาตามสายลม “ เจ เจใช่ไหม เจ ไหนบอกจะไม่ทิ้ง รินไง เจไม่รักรินแล้วเหรอ ฮือ..ๆ..” รินก็เดินไปที่ศพของเจ แล้วกอดเจ แล้วพูดว่า “ เจ็บไหม เจ รินอยู่ข้างๆเจแล้วนะ เจหนาวไหม เดี๋ยว ริน จะกอดเจให้เจอุ่นนะ หรือว่าเจหิว เจคงไม่ได้กินอะไรมาหลายวันใช่ไหม เจจะทานอะไร รินจะทำของโปรดของเจให้เจทานดีไหม” รินพูดพร้อมกับน้ำตาไหลล้นออกมาจากตา หยดลงมากระทบใบหน้าของเจ เหล่าทหารที่เป็นคนของเจ ที่อดกลั้นน้ำตาอยู่นั้นเมื่อเห็น ริน แล้วก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ต่างนั่งคุกเข่าน้ำตาร่วงลงบนผืนดินทั้งนั้น “เจคงเหนื่อยมากสิใช่ไหม เจอยากพักผ่อนไหม” เสียงของรินที่กำลังพูดอยู่ด้วยเสียงอันแผ่วเบามาก แล้วก็มีลมกรรโชกแรงปลิวเข้ามา มีกังหันใบไม้อันหนึ่งลอยอยู่ตามลม รินวิ่งตามกังหันไปเรื่อยๆ แต่ที่ที่กังหันตกลงนั้น คือ ใต้ต้นสนใหญ่ ริมลำธาร “เจ เจออกมาหารินสิ รินรู้ว่าเจใช่ไหม เจ รินอยากเจอเจนะ เจ รินคิดถึงเจ นะ ฮือ..ๆ”สายลมเหมือนจะล้อมรอบตัวรินไว้ แล้วกังหันใบไม้มากมายก็ลอยมาตามลม สายลมปลิวไหวทำให้ต้นไม้ที่อยู่บริเวณนั้นเอนเอียงไปตามสายลม “เจ ฮือ..ๆ รินคิดถึงเจนะ รินอยากอยู่กับเจนะ เจ”แล้วสายลมก็ก่อตัวกันขึ้นเป็นร่างคน ปรากฏว่าเป็นร่างของเจ “เวลาของ เจ หมดแล้วนะริน เจต้องไปแล้ว ขอบคุณนะสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง เจก็รักรินนะ เจสัญญานะว่า เจจะอยู่ข้างๆ รินตลอดไป ไม่ว่ารินจะอยู่แห่งหนไหน ตลอดชีวิตของเจ เจมีความสุขนะที่ได้รักกับริน” น้ำตาแห่งความรักเริ่มไหลออกมา เจเดินมาเกี่ยวก้อยกับริน แล้วพูดว่า “เจสัญญา เจจะรักรินตลอดไป เจก็คิดถึงรินนะ ยามใดที่มีลมพัดผ่านริน จำไว้นะ เจจะกระซิบข้างหูของรินทุกครั้งว่า เจรักริน การเกี่ยวก้อยนี้ เป็นการให้คำมั่นสัญญาของเจนะ ว่าเจจะทำตามสัญญาให้ได้ สัญญาใจของเราไง เราจะมีกันและกัน เราจะเคียงข้างกันตลอดไปจริงไหมริน” เจพูดพร้อมกับเข้ามาจูบที่หน้าผากของรินเบาๆแล้วหยิบกังหันใบไม้ใส่มือริน “เจ รินจะเป็นเมฆนะ รินจะได้เคียงข้างเจ ตลอดไปได้ เราจะไม่แยกจากกันใช่ไหมเจ รินจะเป็นเมฆให้เจพัดกระซิบว่ารักตลอดไปนะ” “เจสัญญา เจจะรักรินตลอดไป เจสัญญา เจสัญญา...เจสัญญา...” คำพูดของเจหายไปพร้อมกับร่างของเจที่กลายเป็นลมพัดหายไปในอ้อมกอดของริน “เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปนะเจ เจรอรินนะ” วันต่อมาก็พบว่า รินได้ตามเจไปแล้ว รินนอนข้างๆเจนิ้วก้อยรินกับเจเกี่ยวกันไว้แน่น เป็นการไปด้วยคราบน้ำตาเปื้อนเต็มใบหน้า แต่ก็ยังมีรอยยิ้มแห่งความสุขบนใบหน้าเช่นกัน เรื่องนี้สร้างความเศร้าให้กับครอบครัวของคนทั้งสองอย่างมาก ต่อมาไม่นานก็มีการเล่าต่อๆกันมาว่ามีคนเห็นกังหันใบไม้ลอยอยู่กับลมบริเวณต้นสนริมลำธารและมีเมฆสีขาวลอยเป็นรูปดาวตรงๆกับต้นสนบ่อยๆ
" ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา การเกี่ยวก้อยจึงเป็นการให้สัญญาของคู่รักเสมอๆจนกลายเป็นที่นิยมจนถึงปัจจุบันไงครับ.........."
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น