ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Teach Me, Teacher #ปราบเด็กนรก [Singto x Krist]

    ลำดับตอนที่ #8 : บทเรียน.08 - เด็กในปกครอง

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.33K
      294
      9 พ.ค. 62







    สิงโตตระเตรียมอุปกรณ์สำหรับใช้สอน มองดูเวลา รีบเร่งเดินไปห้องเรียน คาบบ่ายวิชาแรกหลังจากพักเที่ยงห้องพวกเด็กนรก ท่าทางเขาจะโดนพวกเด็กมันกวนตีนอีก



    เดินเข้ามาห้อง 4/4 แต่ความแปลกประหลาดในวันนี้ก็คือ..


    ห้องที่ว่างเปล่า




    หืม วันนี้งดคลาสเหรอ ไม่หนิ เขาไม่เห็นรู้เรื่องเลย

    จะว่ามีกิจกรรมโรงเรียนอะไรก็ไม่น่าใช่ ในเมื่อเขายังเห็นคุณครูท่านอื่นเดินไปเข้าสอนตามปกติ



    สิงโตยกนาฬิกาขึ้นดู เลทมาห้านาทีแล้ว ที่จริงวันนี้เขามาสาย กะจะออกตัวขอโทษอยู่
    แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าเขามาถึงคนแรกท่ามกลางห้องเรียนว่างเปล่า ไม่มีเด็กซักคน


    มันไปไหนกันหมดเนี่ย

    .. สิงโตวางของไว้ที่โต๊ะหน้าห้อง
    เดินออกมาด้านนอกอย่างสงสัย






    “นี่พวกเธอ ทำสีเลอะลานอาคารอย่างนี้มันใช้ได้เหรอ แล้วนี่ออดวิชาเรียนถัดไปดังแล้ว ทำไมไม่เข้าเรียน พวกเธอเรียนวิชาอะไรกัน”


    เสียงเอะอะของครูคนหนึ่งดังให้ได้ยิน ในขณะที่เขากำลังเดินลงบันไดไปชั้นล่าง ว่าจะดูเสียหน่อยว่ามีงานโรงเรียนอะไรรึเปล่า


    กลับกลายเป็นว่าตัวปัญหาที่ทำให้เขาตามหา เด็กห้องสี่..ทั้งห้อง อยู่ตรงนั้น





    “พวกผมกำลังจะขึ้นไปเรียน กำลังเก็บข..”

    “โรงเรียนมีกฎมีระเบียบ ครูประจำชั้นพวกเธอคือใคร ฉันจะไปแจ้ง ทำไมถึงเกเรกันแบบนี้ รวมหัวกันโดดเรียนใช่ไหม”


    สิงโตได้ยินดังนั้นถึงกับส่ายหัว ผู้ใหญ่เราบางทีก็ไม่ฟังอะไร ยึดแต่กฎเกณฑ์ โดยมองข้ามสิ่งเล็กๆที่เห็นชัดอยู่แล้วรึเปล่า


    หรือเขาเองที่ยังไม่โตพอ





    ..แต่ถึงแม้เด็กมันจะผิดก็เถอะ บางครั้ง เหตุผลมันอาจจะมีมากกว่าการโดดเรียน



    ผมมองสถานการณ์ตรงหน้ากับเสียงคุณครูที่ยังต่อว่าไม่หยุด รู้ตัวอีกทีขาก็ก้าวพาตัวเองมายังจุดเกิดเหตุแล้ว


    “อาจารย์ครับ ผมปราชญานักศึกษาฝึกสอน เป็นเจ้าของวิชาเด็กห้องนี้ ไม่ทราบว่าห้ามปล่อยคาบฟรี ผมต้องขอโทษด้วยครับ”


    เหลือบมองพวกเด็กนรก อุปกรณ์หลายอย่างวางเรียงราย
    น้ำเสียงที่ผมพูดออกไปหนักแน่นพอๆกับความคิดที่อยู่ในใจนั่นแหละ



    “อ้าว นักศึกษา ถ้าจะปล่อยฟรีให้ทำงานขอให้ทำในห้อง ไม่งั้นเธอก็ต้องอยู่คุมตลอดเข้าใจไหม ไม่งั้นครูท่านอื่นมาเห็นจะคิดว่าโดดเรียน ถ้ายังไงดูแลนักเรียนเธอด้วย”



    และถ้าเรื่องนี้จะหาคนผิดให้ได้ .. เขาเองก็ผิดนั่นแหละ
    ก็ดีกว่าไปเป็นเรื่องเป็นราวกับครูประจำชั้น



    ผมเอ่ยรับคำ คุณครูท่านนั้นเลยยอมเดินจากไป ไม่หาความผิดพวกเด็กอีก





    “อาจารย์สิงโต”


    หันมองตามเสียงเรียกเห็นไอ้พวกเด็กห้องสี่ที่เกือบจะโดนแจ้งพฤติกรรมครูประจำชั้น ดูตกอกตกใจที่เห็นผมมาอยู่ตรงนี้อย่างกะทันหัน และคงตกใจที่ออกตัวรับแทน



    แน่นอนว่าผมไม่ปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปแน่ ถ้ามันเป็นความผิด

    ที่ออกตัว ก็แค่เพราะมันเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องดูแลความประพฤติเด็กในคาบสอนเหมือนกัน



    “พวกนายทำอะไรกัน”

    “..งานประชาสัมพันธ์โปรเจคทำละครห้องครับ”



    อ่า ผมก็ได้ยินมาบ้างว่าแต่ละปี โรงเรียนจะมีจัดงานกิจกรรมแต่ละห้อง เด็กพวกนี้ก็ดูตั้งใจดี เพียงแต่ว่า...



    “พวกนายจะโดดเรียนเหรอ

    ความตั้งใจกับจุดประสงค์ และเหตุผลของการกระทำ
    นั่นต่างหากที่ครูควรจะถาม ถึงจะถูกต้อง

    แล้วได้คำตอบค่อยว่ากันว่าจะเอายังไงกับพวกมันดี




    “ไม่ได้จะโดดเรียน พวกผมเก็บของแล้วบังเอิญทำสีหก เลยอยู่ช่วยกันรับผิดชอบ”


    “พวกนาย..”
    ผมเอ่ยเสียงดุ .. สายตาคมกวาดมองเด็กในห้องแต่ละคนที่เริ่มหงอย
    ไม่มีใครกล้าเถียงอะไรออกมา เพราะคิดว่าคงจะโดนด่าแน่นอน

    ใช่ ต้องด่าแหละ



    “คราวหลังจะทำอะไรก็บอก มีงานด่วนก็ขอ ถ้ามันจำเป็นผมจะพิจารณาให้”


    “เอ๊ะ?!จารย์หมายความว่าไง”


    “มีอะไรให้แจ้งผมก่อนไม่ต้องมาหลบๆซ่อนๆ ทำงานบนห้องก็ได้ ถ้าเลยเวลาจะเลทก็ให้ใครซักคนขึ้นไปบอกก่อน"


    ผมหยุดจังหวะการพูด เมื่อเห็นว่าพวกเด็กแสบยังตั้งใจฟังไม่ได้กวนตีนขัดอะไร จึงเอ่ยต่อ


    ปัญหาอะไรแก้ไม่ได้ ผมเป็นคนสอนพวกคุณ โตกว่าคุณ ผมอาจจะช่วยได้ อย่ามัวแต่กลัว มัวแต่คิดเอาเอง ไม่ใช่แค่ผม กับอาจารย์ท่านอื่นก็เหมือนกัน”


    ผมเอ่ยเชิงสั่งสอนไปด้วยในตัว .. ครั้งนี้พวกเด็กแสบก็เงียบ รับฟัง ไม่มีสีหน้าท่าทางกวนประสาทเหมือนเคย





    “จะทำอะไร อย่าคิดแต่ว่ากลัวจะโดนด่า การไม่บอกแล้วถ้าเกิดมีปัญหาเป็นอะไรขึ้นมา คนที่ต้องรู้สึกผิดไปตลอดก็คือคนที่ดูแลพวกคุณ”


    เกิดความเงียบชั่วขณะ ก่อนที่หลายเสียงจะเอ่ยออกมาแทบจะพร้อมกัน


    “ขอโทษครับ..”




    นี่เป็นครั้งแรกที่ห้องศูนย์รวมเด็กนรก เอ่ยคำขอโทษเขา
    แม้กระทั่งไอ้เด็กแสบหน้าห้องที่บอกว่าเกลียดวิชาเขาก็เหมือนกัน



    .


    .


    หลังจากรอพวกเด็กมันเก็บเช็ดสีที่หกเลอะเทอะ เก็บของขึ้นมาบนห้อง สุดท้ายก็ตัดสินใจปล่อยคาบฟรีให้หนึ่งวัน ตามแผนการสอนที่ผมวางไว้พอมีเวลาอยู่ เห็นพวกเด็กมันตั้งใจทำงานจนท้ายคาบก็รู้สึกสบายใจ



    และเป็นความรู้สึกในใจว่าจริงๆ พวกมันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดนี่หว่า
    แค่กวนตีนไปหน่อยเท่านั้น

    ก่อนจะปล่อยเลิกคาบ ผมก็สั่งงานไปรีเสิร์ทข้อมูลนั่นนี่นิดหน่อย ไอ้พวกเด็กป่วนห้องนรกก็ตั้งใจฟัง จด ไม่เล่นมือถือ นับว่าเป็นเรื่องดี




    ..อยากซื้อใจ..ต้องให้ใจก่อน
    คำพูดนี้น่าจะจริงครับ



    .



    .





    ตกเย็น
    ณ ห้องพักครู


    ... หลังเลิกเรียน เวลาเดิม..



    ไม่สิ วันนี้มันมาเร็วกว่าเดิมครึ่งชั่วโมงแน่ะ ไม่อยากจะเชื่อ
    แต่มือนี่เลอะสีมาเลย



    “โทษทีจารย์.. ทำงานอยู่มาช้า”

    “นายมาเร็วกว่าเมื่อวานเกือบครึ่งชั่วโมง”


    “นั่นแหละ จารย์ก็อย่ากวนเซ่”


    สิงโตหัวเราะขำ ไม่ว่าอะไร ดูท่าทางวันนี้คงทำงานมาหนัก ทั้งเรียนทั้งกิจกรรม จะใจดีงดลงโทษวันนึงแล้วกัน


    “ถ้าเหนื่อยงานเยอะก็ไม่ต้องมาก็ได้นะ ไปพัก เลื่อนระยะเวลาลงโทษไป”


    “ไม่เป็นไร ไหวๆผมไปล้างมือแป๊ปนะ”
    ไอ้เด็กกวนประสาทโยนของลงบนโต๊ะเขาทำอย่างกับเป็นโต๊ะของมันเอง ก่อนหายไปล้างมือ ดีนะชีทที่วางไว้ยังไม่กระจาย ไม่งั้นจะด่าให้







    นั่งฟังเสียงนาฬิกาเคลื่อนไปในห้องเงียบ สิงโตนั่งทำงานของตัวเองต่อปล่อยให้ไอ้เด็กตรงหน้ามีสมาธิกับการเขียนงาน

    โจทย์เดิมต่อจากครั้งที่แล้ว ที่ยังไม่ได้งานอะไรจากมันเลยซักนิด




    ปล่อยความเงียบแต่ไม่ทันไร เสียงกวนๆก็เริ่มดังชวนเขาคุยอีกแล้ว



    “ที่จริงจารย์ก็ไม่แย่นะ”

    มันเปิดประเด็นขึ้นมา ปากกาในมือยังไม่เริ่มเขียนอะไรเลย


    “..นายเองก็ไม่ได้แย่ เท่าที่คิดตอนแรกเหมือนกัน”


    “อ้าวจารย์.. ด่าผมเหรอ”


    “แล้วทีนายล่ะ”



    “ผมชมนะนั่น”

    “ไอ้คำว่า จริงๆก็ไม่แย่ มันแปลว่าก่อนหน้านั้นนายมองว่าแย่ไม่ใช่รึไง”

    “โธ่ จารย์ก็อย่าคิดซับซ้อนสิ”

    “ไม่เห็นต้องคิดอะไร มันก็ชัดอยู่แล้วว่ามันแปลว่างั้น”

    “งั้นตกลงว่าผมมองแบบนั้นก็ได้ .. ก็จารย์เก๊กเองทำไม”

    “..นี่ผมเป็นอาจารย์คุณนะ พีรวัส”

    “ผมก็แค่ตอบคำถามของจารย์ ผิดอีกกก ทำไมต้องดุด้วยเล่า”

    “หัดทำตัวให้มันดีๆบ้างสิ”

    “จารย์เอง.. ก็อย่าบ่นสิ แก่เร็วนะ”


    “ถ้าจะแก่เร็ว ก็เพราะเจอเด็กกวนประสาทน่าปวดหัวแบบนายนั่นแหละ”


    “อ้าว.. จารย์ด่าผมอีกแล้วนะ”

    “อืมใช่ ก็เข้าใจถูกแล้วนี่”

    “ก็ไม่ต่างกันหรอกน่า”

    “คุยกับนายมันเสียเวลาจริงๆ เงียบหน่อย จะตรวจงาน”



    “อ๊ะ อันนั้นงานผมนี่ ได้เท่าไหร่อะ ดูหน่อย”

    “นี่ หยุดเลย ไม่ต้องรื้อ”

    “งกไปได้น่าจารย์ ตรวจแล้วไม่ใช่เหรอ ขอดูนิดเดียว”

    “ไม่ได้”

    “นิดเดียวเอง”

    “พีรวัส นั่งดีๆ นี่ผมทำโทษอยู่นะ”




    สรุปวันนั้นก็ไม่ได้งานลงโทษจากไอ้เด็กตรงหน้า..
    ไม่ใช่เพราะมันหลับ ไม่ใช่เพราะมันชวนคุย
    แต่รู้ตัวอีกทีก็เถียงกันเรื่อยเปื่อย จนฟ้าร้องครืน
    ไม่นานฝนคงตกกระหน่ำ



    ผมรีบเก็บของ ไล่ๆไอ้เด็กนรกออกจากห้องแยกย้ายกันกลับบ้าน




    จริงๆก็รู้สึกว่าเถียงกับมันก็แก้เซ็งดี
    อีกอย่าง.. การมาเป็นอาจารย์ฝึกสอนแบบเหงาๆมีแต่รุ่นป๊าม๊า

    นี่ก็ถือเป็นสีสัน




    จากแรกๆแทบไม่อยากมาฝึกสอนเลยวันๆ แค่คิดว่าต้องเจอไอ้พวกเด็กกวนประสาทก็ปวดหัว


    ถึงตอนนี้จะยังอยากสูดยาดมวันละหลายๆรอบ

    แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ..

    มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก .. อาจจะดีขึ้นเรื่อยๆซะด้วยซ้ำ







    ---- TBC

    #ปราบเด็กนรก




    B
    E
    R
    L
    I
    N
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×