ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Teach Me, Teacher #ปราบเด็กนรก [Singto x Krist]

    ลำดับตอนที่ #20 : สมุดการบ้าน.07 - หน้าแรกของความลับ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.17K
      303
      26 ก.ย. 62





    .. เข้าบ้านไม่ได้ ..

    ไม่มีทางเลือก ท้ายที่สุดผมก็ต้องพึ่งคอนโดอาจารย์ซุกหัวนอนให้ผ่านพ้นคืนนี้ไปก่อน ค่อยหาทางจัดการกับกุญแจเจ้าปัญหา


    ท้องฟ้าข้างนอกหน้าต่างตอนนี้เริ่มมืดมิด ถือว่าผมยังโชคดีที่วันนี้มาหาจารย์สิงโตมันนะ ถ้าออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนทำกุญแจหาย เข้าบ้านไม่ได้นี่แย่เลย


    ..แต่จะว่าไป สุดท้ายถ้ามีปัญหา คนที่จะโทรหาก็คงเป็นจารย์มันอยู่ดี


    ถอนใจกับตัวเอง ละสายตาจากหน้าต่างมองผ้าเช็ดตัวในมืออย่างปลงๆ มองคนที่ก้มๆเงยๆอยู่ตรงตู้เสื้อผ้า ไม่นานชุดที่พับอย่างเรียบร้อยก็ถูกยื่นส่งให้



    “ไปอาบน้ำไป อ่ะนี่ชุด”


    อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า .. ใช่ๆ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ยืนคิดอะไรเพลินๆจนลืมความรู้สึกก่อนหน้าที่โดนน้ำจากถนนกระเซ็นใส่ อยากอาบน้ำจะแย่


    อ่า อันที่จริงก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกหน่อยๆแฮะ ผมมาเที่ยวเล่นห้องอาจารย์บ่อยก็จริง
    แต่ก็ไม่เคยมาค้างหรอกครับ .. นี่เป็นครั้งแรก


    แต่ก็นั่นแหละ แค่มาห้องจารย์ ไม่ได้เกร็งเหมือนนิยายรักถูกพามาบ้านแฟนอะไรแบบนั้นซะหน่อย
    ..เฉยมาก นี่ใคร คริสห้องเด็กนรกครับ

    โชคดีที่ตอนนี้ปิดเทอมอยู่ ไม่อยากจะนึกว่าไปเรียนจากคอนโดอาจารย์จะลำบากแค่ไหน



    ผมรับชุดจากจารย์มา แต่ก็ยังไม่ขยับไปไหน ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาแถวนั้น อิดออดขี้เกียจอยู่นานจนอาจารย์เข้าไปอาบน้ำก่อน เขาอาบเสร็จผมถึงได้ไปอาบต่อบ้าง


    .

    .


    เดินเช็ดหัวเปียกๆออกมาจากห้องน้ำ .. ไฟในห้องถูกปรับเป็นสีส้มนวลแทนที่แสงสีขาวสว่างจ้า

    อย่าบอกนะ.. จารย์มันจะนอนแล้ว นอนเร็วไปไหม


    แต่พอเหลือบมองคนที่คิดว่าจะอยู่บนเตียงก็ไม่.. เจ้าของห้องในชุดนอนแบบชุดอยู่บ้านสบายๆ เสื้อยืดกางเกงขาสั้น กำลังเดินไปเดินมาจัดเก็บหนังสือกองใหญ่บนโต๊ะเขียนหนังสือ

    ผมเดินเข้าไปใกล้เขา

    มองเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่แล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้ว ไม่รู้อาจารย์มันกวนตีนหรืออยากจะขิงกันรึเปล่า ถึงได้เอาเสื้อแขนยาว ที่ใส่เสร็จมือผมแทบจะไม่โผล่พ้นออกมา กับกางเกงขาสั้นที่สั้นกว่าที่เจ้าตัวใส่อีก

    จารย์จะสอนอะไรก็ได้ แต่อย่าไปเป็นสไตล์ลิสนะ
    หาชุดให้โคตรไม่เข้ากัน




    “ตกลงนี่จารย์กลัวผมร้อนหรือหนาวกันแน่.. “

    ผมส่งเสียงกวนตีนใส่ คนที่จัดของเสร็จพอดี หันมามอง


    “เปล่า ชุดนั้นนายน่าจะใส่ได้สุดแล้ว”


    ไม่พูดเปล่า จารย์สิงโตหมุนตัวกลับมา เดินเข้ามาใกล้ผม ยังไม่ทันที่จะได้โวยวายเขาที่พูดเหมือนหาเสื้อไซส์ผมไม่ได้..

    อาจารย์มันกลับเอื้อมมือออกมากะทันหัน ผมชะงัก เผลอถอยหลังไม่รู้ตัว


    “อะไร..”
    อาจารย์สิงโตเห็นท่าทางแบบนั้นของผม เขาเลิกคิ้ว เอ่ยถาม


    “..อะไรจารย์”
    ผมย้อนถามกลับบ้าง .. มองคนที่ยื่นมือค้างกลางอากาศ

    อะไรของเค้าวะ




    “จะพับแขนเสื้อให้เฉยๆ ตกใจอะไร”

    ผมแอบเห็นรอยยิ้มมุมปากที่พยายามกลบเกลื่อนความขำไว้ มือเรียวเอื้อมมาจับดึงข้อมือผมขึ้นในระดับสายตาแล้วพับแขนเสื้อให้ตามที่พูด



    “จารย์ไม่ต้..”

    “อย่าดื้อน่า.. คนเป็นแฟนกัน แค่นี้มันเป็นเรื่องปกติ”


    ผมรู้ ไอ้จารย์สิงโตจงใจแกล้งให้ผมทำตัวไม่ถูก ฝันไปเถอะ..
    บอกแล้วว่าคนอย่างคริสชอบเอาชนะ ถ้าคิดจะทำให้ผมเขิน อาจารย์นั่นแหละที่ต้องเป็นเหยื่อ


    “นั่นสินะครับ”
    ผมยกมืออีกข้างที่ไม่ได้ถูกพับแขนเสื้อให้ จับข้อมืออาจารย์ไล้นิ้วเบาๆบนมือนั้น ใช้สายตาเกเรสบตามองเขา ขยับตัวเข้าใกล้จนได้กลิ่นสบู่อาบน้ำอ่อนๆที่ไม่รู้มาจากตัวเองหรืออีกฝ่ายกันแน่


    “แปลกจัง..ที่จริงผมก็อยากรู้นะว่านอกจาก กวนตีน ขี้บ่น จารย์น่ะจะมีมุมอื่นอีกรึเปล่า”


    แน่นอนว่าผมไม่ใช่เด็กเรียบร้อยอยู่แล้ว ก่อนจะเจออาจารย์ความเกเรของผมมันเหมารวมถึงความก๋ากั่นเจ้าชู้จีบผู้หญิงติดแล้วทิ้งก็มี และผมกำลังใช้สายตานั้นอยู่ตอนนี้

    แววตาวาววับเจ้าชู้ไม่เคยมีเหยื่อไหนรอดได้

    หรืออาจจะมี ...


    “อยากลองดูไหมล่ะ”
    น่าเสียดาย อาจารย์สิงโตกลับไม่หลุดท่าทีเขินอายให้เห็น ยิ่งทำให้ผมอยากเอาชนะ

    อยากเห็นจารย์ในสีหน้าอื่นๆ..จริงๆนะ



    อาจารย์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ จนริมฝีปากเกือบจะสัมผัสกัน อีกนิด ..

    ผมเผลอใจสั่น นึกถึงความรู้สึกวันนั้นในห้องพักครู
    ไม่ได้ผงะถอยเช่นเดียวกับวันนั้น แต่ต่างกันตรงที่.. ครั้งนั้นเราอยู่ใน 'โรงเรียน'
    แต่ตอนนี้ .. มีเพียงแค่เราในห้อง 'ส่วนตัว'


    เกือบจะเป็นผมที่ปล่อยให้หัวใจเต้นระรัวอย่างยอมแพ้ ยามที่อีกฝ่ายเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้อีกนิด ..
    แต่ก่อนจะแตะสัมผัสโดนกัน จารย์กลับยิ้มแล้วทำท่าจะผละออกไป


    แกล้งกันชัดๆ


    ..เป็นผมเองที่เอามือดึงรั้งไหล่นั้นไม่ให้ขยับออก อีกนิดเกือบจะกลายเป็นโอบรอบคอ
    อยากเป็นฝ่ายกลับมาคุมเกมส์อีกครั้ง


    “ไหนว่าจะลอง ทำไมยอมแพ้ซะล่ะครับจารย์ ไม่แน่จริงนี่หว่า”
    ผมส่งน้ำเสียงกวนๆใส่ จงใจยั่วยุอีกฝ่าย มั่นใจว่าอย่างอาจารย์ก็แค่แกล้งเย้าแหย่เล่นนั่นแหละ ไม่กล้าทำจริงแน่นอน



    “อย่าท้านะคริส .. นายก็รู้ว่ามันไม่ด..”


    “แต่ตอนนี้ไม่มีฝ่ายปกครองหรือหัวหน้าหมวดแล้วนะ มีแค่ผมกับอาจารย์ ประตูก็ล็อคแล้ว วงจรปิดก็ไม่มี..ไม่ใช่เหรอครับ”

    “นี่นาย..”

    อา..เหมือนผมจะเห็นสีหน้าอื่นๆของอาจารย์แล้วแฮะ นิดหน่อย




    ผมยิ้ม วาดแขนโอบรอบคออีกฝ่าย ขยับริมฝีปากไปใกล้ชิดกว่าเดิม ในขณะที่อาจารย์ทำแค่ยืนเฉยๆ สายตาที่พยายามคุมให้ดูสงบนิ่งมองมา

    ..อยากรู้จัง เขาคิดอะไรอยู่กันนะ



    “ถ้าไม่สบายใจ จารย์ก็คิดสิว่า เราแค่บังเอิญชนกัน ไม่ได้ตั้งใจ”

    ยิ่งเห็นใบหน้าอีกฝ่ายขึ้นริ้วสีแดงจางๆ ผมยิ่งนึกสนุก

    “ถ้าอาจารย์ไม่พูด... คริสว่าไม่มีใครรู้หรอกครับ เก็บเป็นความลับ..ของเรา”



    ผมเปลี่ยนไปใช้คำพูดแทนตัวเองด้วยสรรพนามที่เปลี่ยนไป
    และรู้ตัวอีกที ริมฝีปากอุ่นๆก็ถูกประกบจูบลงมา

    จากแผ่วเบา จนกลายเป็นบดเบียดรุนแรงขึ้น..


    ถึงแม้ผมจะไม่ได้ใสๆ หรือจะก๋ากั่นแค่ไหน .. แต่จูบแบบนี้ มันค่อนข้างแปลกใหม่ ..

    มันพาให้รู้สึกวาบหวิวแปลกๆ จากแค่เล่นๆท้าทาย กลายเป็นผมที่ถูกชักนำ ถอยหลังจนขาชนเข้ากับขอบเตียง เสียหลักลงไปนั่ง


    จูบแรกของผมกับเขา ในความสัมพันธ์ที่มากกว่าแค่อาจารย์กับนักเรียน
    .. มัน.. รู้สึกดีกว่าที่คิด



    อาจารย์สิงโตผละจูบออกเมื่อผมเสียหลักลงไปนั่งบนเตียงในตอนนี้ แววตาวาววับของเขาที่ผมไม่เคยได้เห็น ทำให้หัวใจเต้นรัว ..

    รสสัมผัส ที่ยังรู้สึกบนริมฝีปากทำเอารู้สึกร้อนวูบวาบแปลกๆ ..
    ผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับใคร.. อย่างมากก็แค่จุ๊บแกล้งๆกับผู้หญิงที่ไม่ได้คิดจริงจัง

    ..ไม่ใช่จูบแบบนี้




    อาจารย์ไม่พูดอะไร เดินไปหยิบกระเป๋าเป้ที่ผมโยนลวกๆทิ้งไว้บนเตียงตอนเข้าห้องมา
    ดูเหมือนเขาจะช่วยเอาไปวางเก็บที่โต๊ะเขียนหนังสือให้.. ไม่ให้เกะกะขวางทาง

    เดาไม่ถูกว่าท่าทางนิ่งๆนั้นคือกำลังยับยั้งตัวเองเหมือนเคย หรือไม่ใช่กันแน่..



    แต่ในตอนนั้นเอง.. ผมก็ต้องเบิกตาโพลง
    กระเป๋าผมที่ปิดไม่สนิท แรงหยิบของจารย์ทำให้ของบางส่วนไหลร่วงลงมา..


    !!!


    อาจารย์สตั้นท์ ยืนนิ่ง
    ผมเองได้แต่กรีดร้องในใจ ..
    จะไม่อะไรเลย ถ้าของที่ร่วงหล่นลงมาจากกระเป๋ากองอยู่บนพื้นตรงหน้านี่มัน ..ไม่ใช่


    บุหรี่..
    ไพ่..
    ถุงยางอนามัย



    ชิบหาย หายนะสุดๆ



    “คริส” เสียงกดต่ำชวนใจเต้นระรัวยิ่งกว่าเมื่อกี๊เสียอีก

    “จ..จารย์ คือ ไม่ใช่อย่างนั้น”


    เด็กเกเรผู้ไม่เคยกลัวอาจารย์ปกครองหน้าไหน ตอนนี้หลุดละล่ำละลักเอ่ยอย่างทำตัวไม่ถูก


    มันไม่ใช่ของผม!!..เอ่อ ก็ไม่เชิง
    อันที่จริงผมแค่ซื้อมาเล่นกับไอ้พวกเพื่อน แกล้งกันขำๆให้ตื่นเต้น ท้ากันพกไว้เวลาอาจารย์จะตรวจตัว

    แต่เห็นท่าความซวยมันออกที่ผมแล้วคราวนี้ ..กับคนตรงหน้าที่ไม่ใช่อาจารย์ปกครองด้วย
    อาจารย์ที่เป็นแฟนเนี่ยแหละ
    !!!



    นรกแล้ว..
    ถ้าอธิบายไปใครจะเชื่อ .. มันไร้น้ำหนักมากเลย ..ในเมื่อหลักฐานคาตาแบบนี้




    “นี่นายรู้มั้ยมันผิดกฎโรงเรียน”


    ถ้อยคำเรียบนิ่งมาพร้อมท่าทางที่คนตรงหน้าก้มหยิบบุหรี่ขึ้นมา
    สายตาคมตวัดมองซองถุงยาง เอ่ยเสียงเย็น


    “..นายใช้กับใคร”



    เห็นท่าไม่ดี ผมจะลุกขึ้นไปเก็บของที่หล่นเพราะจารย์มันยังยืนนิ่งคาดคั้นเอาคำตอบ
    แต่พอทำท่าจะลุกอีกฝ่ายกลับกดไหล่ผมให้นั่งลงที่เดิม


    “ตอบมาคริส”

    “รู้แล้วว่าผิดกฎ จารย์ เพื่อนมันแกล้ง”

    ได้แต่โอดครวญ สถานการณ์ไม่สู้ดี คนส่งสายตาเพ้อๆหวานเยิ้มเมื่อกี๊เหมือนกลายร่างยิ่งกว่าฝ่ายปกครอง




    “แกล้งแบบไหน .. ต้องใช้ของพวกนี้ด้วยเหรอ”

    “จารย์ใจเย็นน่า ปล่อยก่อน”

    ผมเอ่ยเสียงอ่อย ..พยายามขยับจะดึงมืออีกฝ่ายออก แต่ไม่ง่าย
    เพราะครั้งนี้ท่าทางจารย์สิงโตจะหงุดหงิดจริง
    .. แรงเยอะชะมัด



    อาจารย์ดึงบุหรี่ออกจากซอง ผมได้แต่ก้มหน้านิ่ง
    คิดดูอีกที หรือควรใช้วิธีเดียวกับเวลาเผชิญหน้าฝ่ายปกครอง .. ปล่อยให้เค้าดุไปก็ได้วะ ทำไรไม่ได้ เดี๋ยวบ่นจนพอใจก็หยุดเอง

    ตามฟอร์มเด็กที่โดนอาจารย์ด่าจนชินชา


    พอผมเลิกยื้อจะดึงแขนหนีเขา .. อาจารย์ก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงเรียบ



    “สูบเป็นไหมบุหรี่”

    “เป็นดิจารย์ ถามแปลก”

    อ้าวเวรละ ปากไวเกินไป ผมไม่ได้หมายถึงว่าบุหรี่นี้ของผม แต่ผมเคยสูบ
    พูดไปอย่างนั้นจะเข้าใจผิดไหม



    “อืม แต่นายคงไม่เคยสูบจริงจังสินะถึงได้ไม่สนว่าทำไมโรงเรียนถึงห้าม

    จารย์หันไปหยิบไฟแช็คจากชั้นวางของแถวนั้นขึ้นมาจุดมวนบุหรี่หน้าตาเฉย ผมนั่งมองเงียบๆ รู้ว่าจารย์คงจะสอนอะไรซักอย่าง

    ให้เขาสอนไป..


    จารย์สิงโตยกบุหรี่ขึ้นสูบ ท่าทางแบดๆที่ไม่เคยเห็นบ่อยนัก ไม่รู้ทำไม ลึกๆแอบรู้สึกดี
    ผมเผลอมองท่าทางนั้นอยู่นาน ทั้งที่รู้กำลังจะโดนเทศนายาว



    นิ้วเรียวคีบบุหรี่อย่างมีมาด พ่นควันฟุ้งจนผมต้องเบือนหน้าหลบ

    ไอ้อาจารย์บ้า นี่มันห้องแอร์นะ


    หลังจากนั้นต้องตกใจหนักกว่าเก่า
    เมื่อมืออีกฝ่ายจับรั้งปลายคางให้หันกลับมาก่อนจะประกบจูบแรงๆอีกครั้ง



    รสจูบคละคลุ้งกลิ่นบุหรี่ ผมตกใจจะขืนตัวออก แต่โดนอีกฝ่ายเอามือกดล็อคคอไว้ให้ถอยหนีไม่ได้


    !! ทำอะไรของเขา


    สัมผัสวาบหวามปะปนกับรสแปลกปร่าฟุ้งควัน เหมือนอีกฝ่ายจงใจ ยิ่งบดเบียดหนักเข้า ลมหายใจผมติดขัด สูดควันบุหรี่ไปเต็มๆ หายใจไม่ออก

    ผมสำลักลมหายใจตัวเอง น้ำตาไหล

    “แค่กๆๆๆ”
    พยายามเบือนหน้าหลบ .. อาจารย์สิงโตจึงยอมถอนจูบออก


    “อย่างนี้ไม่เรียกว่าสูบเป็น อ่อนหัด”


    เขาปล่อยมือให้ผมเป็นอิสระก่อนส่งเสียงเยาะ






    ยกมือปัดควันคลุ้งรอบตัว พูดอะไรไม่ออก ยังคงสำลัก มองสบตาอีกฝ่ายเคืองๆ
    ..สูบน่ะสูบเป็นเว้ย แต่แบบเมื่อกี๊ไม่เรียกสูบบุหรี่แล้ว ไอ้อาจารย์โรคจิต



    “แล้วส่วนนี่..”

    อาจารย์โยนบุหรี่ที่ยังไม่หมดมวนดีทิ้งลงขยะ ก้มตัวลงหยิบถุงยางอนามัยที่ยังไม่ได้ฉีกซองขึ้นมา เดินกลับมาตรงหน้าผมอีกครั้ง


    ความซวยยังไม่จบสินะ



    “เรียนหนังสือ.. พกถุงยางทำไมคริส”

    “โธ่อาจารย์ .. ผมเปล่า..”

    ผมส่งเสียงกล้าๆกลัวๆแย้งออกไปหลังจากโดนสั่งสอนเรื่องบุหรี่ไปเมื่อกี๊

    เห็นท่าไม่ดี พอผมพยายามจะก้าวลงจากเตียง อาจารย์สิงโตกลับเดินมาประชิด
    คุกเข่าข้างหนึ่งกับเตียง ยืนกันท่าไม่ให้ผมไปไหนได้ ท่าทีคุกคามโหมดอาจารย์เถื่อนๆที่ผมไม่เคยเห็นกลับมาอีกครั้ง

    ..อาการท้าทายถูกความตกใจกลบจนเด็กเกเรที่มีความผิดอย่างผม จำต้องเขยิบถอยไปจนชิดหัวเตียง


    จะหนีไปด้านข้างก็ไม่น่าทัน ในเมื่อตอนนี้อาจารย์คนเก็บอารมณ์เก่ง
    คนเดียวกับที่เคยบอกว่า ‘มันไม่ดี ลืมมันไปซะ’ ในวันวาน ตอนนี้เหมือนจะเปลี่ยนเป็นคนละคน..

    แค่บังเอิญเห็นถุงยางในกระเป๋าเท่านั้นเอง



    “ตกลงยังไง”

    “ยังไงอะไรจารย์ ... เพื่อนมันแกล้งเอามาใส่จริงๆ”




    ปึง!!!

    เสียงมือกระแทกหัวเตียง ทำผมสะดุ้งตกใจ เผลอหลับตาปี๋
    อาจารย์สิงโตวาดแขนพาดหัวเตียง กักกันร่างผมไว้ หมดสิ้นซึ่งทางออกจะหลบหนี


    “งั้นเหรอ .. แน่ใจ”

    “..น..แน่ดิ จารย์ เห็นผมเป็นคนยังไงเนี่ย”



    ดวงตาคมกวาดมองทั่วร่างผม ..ก่อนหยุดสบตา

    “ก็ต้องลองพิสูจน์ดู”



    .


    .


    อาจารย์สิงโตยามถูกสับสวิตซ์มาอยู่ในโหมดแบดๆอย่างตอนนี้ทำให้ผมรู้สึกรับมือได้ยาก ส่วนหนึ่งก็เพราะไม่แน่ใจว่าควรจะต้องทำยังไง .. อาจารย์ฝึกสอนที่อยู่ในกฎระเบียบ อาจารย์ที่ดูแล ให้คำปรึกษา และคอยช่วยแก้ปัญหา แต่สำหรับตอนนี้มันค่อนข้างต่างออกไป


    ที่จริงไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ อาจารย์เองก็ดูไม่ได้จะเรียบร้อย อยู่ในกฎเกณฑ์อะไรมากมายอยู่แล้ว จากที่รู้จักกันมาพอสมควรในระดับหนึ่ง ถึงจะมีมุมมองความคิดแบบผู้ใหญ่ แต่ลึกๆผมเองก็รู้ดี..

    อาจารย์น่ะร้ายไม่ใช่เล่น ตอนอยู่มหาลัยก็คงจะกวนตีน เฮ้วๆ เถื่อนๆ ..
    แต่ก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้

    อย่างที่บอก.. ผมไม่เคยเห็น
    แต่สิ่งที่เริ่มทำให้รู้สึกแพ้ทาง ก็เพราะมัวแต่มองตามท่าทีน่าดึงดูดที่ทำให้หัวใจเต้นรัวแรงเนี่ยแหละ


    หมดความคีพลุคการเป็นอาจารย์ฝึกสอนต้นแบบที่อาจารย์ส่วนใหญ่ต่างพากันชื่นชมไม่ขาดปาก
    ..สลัดคราบอาจารย์คนดี .. พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ

    ในสมองผมคิดหาทางหนีทีไล่ตามสไตล์พวกที่มักสร้างแต่ปัญหา แต่ตอนนี้ผมว่าปัญหามันอาจจะไม่ได้เกิดจากผมแล้วล่ะ
    .. มันเพราะไอ้คนที่กำลังใช้สายตาโลมเลียไม่หยุดอยู่ตรงหน้านี่ไง


    และคนอย่างผมจะไม่ยอม..
    ไม่ยอมให้อาจารย์หัวเราะเยาะกับท่าทีกล้าๆกลัวๆของผมฝ่ายเดียวแบบนี้แน่



    ทางเดียวที่จะทำให้ไม่โดนคุกคาม คือทำยังไงก็ได้ ให้เราไม่เสียเปรียบ หรือถึงแม้ว่าจะจนมุมแค่ไหน เราก็อย่าทำเหมือนว่าเรากำลังจะแพ้
    วิถีเด็กนรกสอนผมไว้ ... เพราะงั้นทางออกตอนนี้น่ะเหรอ

    ต้องพลิกเกมส์สิ


    ผมพยายามข่มอาการที่เผลอหลุดตกใจ พยายามปรับสีหน้าเป็นปกติ พอเริ่มตั้งสติได้ คิดว่าอาจารย์มันก็แค่ขู่ด้วยจูบที่เต็มไปด้วยการพยายามเอาชนะ ตามคำที่บอกจะปราบเด็กพยศอย่างผม

    ทำไงก็ได้ให้มันหายโกรธก่อนเถอะ ค่อยว่ากัน
    ผมตั้งสติ คิดได้ดังนั้นจึงเอื้อมมือไปจับแขนคนที่พาดคร่อมกักผมไว้ชิดหัวเตียง ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้



    “จารย์นี่ตลกเนอะ .. อย่าบอกนะว่า ที่โมโหเนี่ย..”

    ผมไล้มือจากแขนไล่เรื่อยขึ้นไปยังหัวไหล่ สัมผัสไปตามปลายคาง หยุดที่ข้างแก้ม ลากลูบเบาๆ พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงกวนตีนตามสไตล์

    “อาจารย์..หึงผมเหรอ น่ารักแฮะ”


    อีกฝ่ายปัดดันมือผมออกเบาๆ ขยับตัวออกเล็กน้อย ผมหัวเราะขำ รู้สึกกลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง
    ให้มันรู้ซะบ้างนี่ใคร
    อย่าเล่นกับคริส ..


    เห็นท่าทีถอยไปตั้งหลักแบบนั้น ผมยิ่งได้ใจ สงครามยังไม่จบง่ายๆหรอกครับคุณปราชญา เล่นผมซะแทบแย่เหมือนกันนะเมื่อกี๊

    แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า อาจารย์มันจูบเก่งชะมัด


    มองอีกฝ่ายที่นั่งนิ่ง ไม่รู้คิดอะไรอยู่ในใจบ้าง แต่ตอนนี้ผมเริ่มหายตกใจแล้วจึงขยับตัวเปลี่ยนท่านั่งที่แทบหลอมรวมไปกับหัวเตียง เปลี่ยนมานั่งสบายๆขึ้น


    “คราวหลังจารย์มีไรข้องใจถามผมก่อน อย่าใจร้อนแบบนี้ มันไม่ดี”

    .

    .

    กว่าจะสงบศึก เคลียกันได้ อธิบายยืดยาวจนปาไปกี่โมงแล้วไม่รู้
    เหนื่อย ยิ่งใช้สมองอ่านหนังสือทั้งวันเอาจริงๆผมก็เริ่มง่วงนิดๆแล้ว




    “นอนมั้ยครับ มามะๆ ง่วงแล้ว”
    ผมแอบส่งเสียงล้อๆ ตบเตียงข้างๆเหมือนเป็นเจ้าของห้องแล้วหัวเราะคิกคักอย่างทะเล้น
    แกล้งอาจารย์นี่สนุกดี


    แต่พอได้ยินเสียงเข้มๆที่ตอบกลับมาทำเอาชะงัก


    “ใครบอกนายว่าจะให้นอนได้ ยังสอนไม่จบเลยนะ”


    สอนหรือเทศนาครับพ่ออ
    ยังไม่จบเรื่องบุหรี่ ถุงยาง ของกลางอีกเหรอ

    นี่ผมคบกับอะไรอยู่กันแน่ ฝ่ายปกครอง นักวิชาการ หรือตำรวจวะเนี่ย




    “..พอแล้วววจารย์ อธิบายไปหมดแล้ว เลิกน้อยใจน่านะครับ ผมจะมีใครนอกจากอาจารย์ ปราชญา ฮ่าๆๆๆ”

    ยิ่งแกล้ง ยิ่งสนุก .. เห็นอีกฝ่ายขมวดคิ้วมุ่นยิ่งอยากรังแก

    “คริส ที่บอกว่าจะสอนน่ะ..”

    คนที่นั่งอยู่ตรงข้าม เว้นระยะ ท่าทางเกรี้ยวกราดหายไปแล้ว
    ง่ายดายชะมัด การทำให้อาจารย์หายโกรธ

    หึ ผมนี่เก่งจริงๆ



    “หมายถึงเรื่องที่น่าจะออกสอบแอดมิชชั่น”
    “ห๊ะ?!”

    นี่ขนาดมาค้างห้อง ยังจะสอนแอดมิชชั่นก่อนนอนอีกเหรอ
    ผมต้องฝันร้ายแน่ๆ ให้ตายเถอะ



    “จารย์ว่าอะไรแอดมิดนะ.. ผมอยากแอดมิดมากเลย ปวดหัว ไม่สบาย วิงเวียน คล้ายจะเป็นลม นอนกันเถอะนะ ผมขอ”

    “ถ้าไม่สอนนายตอนนี้ เดี๋ยวนายก็ลืม”


    มันจำเป็นต้องตอนนี้เลยเหรอวะห๊ะ สอนตอนนี้ก็ลืมเว้ย ผมง่วง …

    อยากจะตะโกนด่าออกไปแต่ทำไม่ได้ อาจารย์มันโตกว่า เดี๋ยวจะโดนดุเอาแล้วไม่ได้นอน หรือทางที่ดีที่สุดคือยอมๆฟังจารย์มันพูดในสิ่งที่อยากพูดไปซะ

    จริงๆนะครับ ผมค้นพบว่าจารย์สิงโต มันเอาแต่ใจ อะไรที่อยากพูดอยากบอก ถ้าไปขัดใจพี่แกเมื่อไหร่ ไม่จบง่ายๆแน่
    การทำหูทวนลมฟังๆจารย์บ่นไป เป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะถึงยังไง ก็ไม่ทำให้เด็กกวนประสาทอย่างผมสะทกสะท้านหรอก



    “เห็นแก่อาจารย์เลยนะเนี่ย .. อ่ะ มีไรว่ามา”

    ผมเห็นอาจารย์สิงโตเริ่มสวิตซ์โหมดกลับมาเป็นซีเรียสอีกครั้ง แววตาดูจริงจัง ดูเหมือนมีหลายตัวตน หลายร่างจนผมเริ่มตามไม่ทัน


    “จะสอนว่า.. เพราะอะไรทำไมเราถึงควรเรียนรู้นอกห้องเรียนบ้าง.. ที่นายบอกว่าแค่เรียนในห้องเรียนก็พอแล้วน่ะ จริงๆมันไม่พอหรอกนะ”


    เรื่องเรียนพิเศษน่ะนะ.. โธ่ ถ้าจะถกกัน ก็ไม่ได้เกี่ยวกับว่ามันจะออกแอดมิชชันหรอกมั้งอาจารย์

    ได้ อยากเถียงนัก เดี๋ยวผมจัดให้ เริ่มหายง่วงแล้วด้วย..



    เรื่องเถียงกับอาจารย์เนี่ยของถนัดเลย ขอให้บอก พร้อมเสมอ

    “อาจารย์ก็ยังคิดว่าเรียนพิเศษดีกว่าใช่มะ ผมยืนยันคำเดิม เอาเวลาเรียนพิเศษ ตั้งใจฟังครูสอนเหอะ ผลลัพธ์มันไม่ต่างกันหรอก .. อยู่ที่มันสมองด้วย”

    ผมพูดอย่างโคตรมั่นใจในตัวเองและมั่นใจว่าจารย์ต้องหมั่นไส้ผมแน่ๆ
    ดีเลย เสริมต่ออีกนิด


    “ต่อให้ผมไม่เรียนพิเศษ ผมก็มั่นใจว่าสอบแอดมิชชันติดแน่นอน .. จารย์อย่าห่วงเลย .. ไอ้ข้อสอบต่างๆที่อาจารย์ให้ผมอ่าน กวาดตาผ่านๆก็รู้ละ มันไม่ต่างจากที่เรียนในห้องหรอก ไม่ใช่โจทย์ใหม่จากจักรวาลไหนทั้งนั้น .. ก็แค่เข้าใจหลักการ มันก็ทำได้หมดทุกโจทย์นั่นแหละ”



    อาจารย์สิงโตหัวเราะหึออกมานิดหน่อย บอกเลยผมไม่มีทางยอมโอนอ่อนตามเหตุผลเขาแน่ๆ อย่างเรื่องบางเรื่อง ถ้ามันมีเหตุผล ผมก็เก็บไปคิดตามนะ ถึงจะดื้อจะเถียง แต่บางอย่างผมก็ฟัง

    .. แค่ไม่บอกให้เขาดีใจเท่านั้นแหละ



    “อยากรู้มั้ยว่ามันดีกว่ายังไง การเรียนรู้นอกห้องเรียน .. ”

    ผมฟังอีกฝ่ายโดยไม่ได้ตอบรับอะไรว่าอยากรู้หรือไม่อยาก
    ปล่อยให้อาจารย์พูดต่อไป



    “เพราะมันเห็นได้ชัดกว่าการเรียนตามตำราเพียงอย่างเดียวไง .. ต่อให้รู้มากแค่ไหน ก็ไม่เท่าการได้สัมผัสการเรียนรู้แบบประสบการณ์ตรง”

    “ประสบการณ์ตรงอะไรของจารย์ ง่วงเหรอ เบลอเปล่าเนี่ยเรา .. ข้อสอบมันเป็นสอบกากระดาษนะเว้ยเฮ้ย .. ไม่ได้ไปสอบปลูกข้าว”


    ผมอดท้วงไม่ได้ ตรรกะไหนของเขาวะ



    “.. อาจารย์ที่สอนนายคงสอนแค่ในตำรา”

    อาจารย์เอ่ยออกมาเรียบๆ

    “นายไม่คิดอยากรู้บ้างเหรอว่า ถ้านายได้รู้ลึกกว่านั้น มากกว่าตัวหนังสือที่นายต้องท่องจำในสิ่งที่ไม่เคยรู้จักมันจริงๆ มันจะดีกว่ารึเปล่า”

    “พูดไรประหลาดจารย์ ถ้ารู้ลึกกว่ามันก็ต้องดีกว่าอยู่แล้ว”

    “อยากรู้มั้ยล่ะ เดี๋ยวจะสอนให้ ..”

    “อยากสอนก็สอนดิ ถ้ามันน่าสนใจผมจะลองรับไว้นะ หึ”



    ผมส่งยิ้มกวนประสาทให้ แต่อีกฝ่ายยิ้มตอบกลับพร้อมแววตาร้ายๆนั้นทำให้ผมชักไม่แน่ใจว่าที่พูดออกไปน่ะ คิดถูกคิดผิด

    .. ที่ไปปลุกสงครามการโต้เถียงและความอยากเอาชนะของเราสองคนให้มันโหมกระหน่ำขึ้นมา



    “ยังไงคริสก็ต้อง ‘รับ’ อยู่แล้วล่ะ พี่มั่นใจ”

    ผมนิ่งไปนิดนึงกับสรรพนามที่อีกฝ่ายเอ่ย.. คำพูดที่เคยพูดว่าให้เรียกว่า 'พี่' ดังซ้อนทับในความคิด
    แต่ยังไม่ทันคิดอะไรมากกว่านั้น อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนถูกแรงกดลงกับเตียง

    สมองประมวลผลอีกทีก็เห็นร่างคนเป็นอาจารย์คร่อมทับอยู่ด้านบน



    --- CUT ---






    ในความมึนเบลอ มองเห็นภาพของจารย์สิงโต หยิบไพ่ หัวใจ ขึ้นในระดับสายตา ไม่รู้ไปหยิบออกมาจากสำรับตอนไหน ของกลางอีกหนึ่งชิ้นที่หล่นออกมาจากกระเป๋า


    นอกจากนั้นยังมีปากกาเมจิกเขียน ระหว่างสองฝั่งของไพ่ที่มีหัวใจเพียงดวงเดียวตรงกลาง

    พี่สิงโต <3 น้องคริส



    “ไพ่ไม่ครบสำรับ ต่อไปก็ไม่ต้องเล่นแล้ว มันผิดกฎโรงเรียน การพนันมันไม่ดีนะ”



    ผมไม่ตอบคำถามนั้น ซุกตัวเข้าหาไออุ่นมากขึ้น รู้สึกดี กำลังจะเข้าสู่ภวังค์ .. เผลอพึมพำออกไปอย่างไม่รู้ตัว อาจจะเพราะผมบังเอิญกวาดตาอ่านไพ่นั่นแหละ


    “คริส..ก็รัก .. พี่ สิง..




    ผมรู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ .. อาจารย์เองก็ด้วย

    ผมมันเด็กไม่ดี.. อาจารย์เองก็ไม่ใช่คนดีเหมือนกัน

    แต่ว่า… ก็ช่างแม่งเถอะ ..

    ถ้าไม่พูดออกไป.. ยังไงซะ มันก็เป็น 'ความลับ'






    ---- TBC

    #ปราบเด็กนรก


    อีกไม่กี่ตอนก็จบแล้ว --- โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน แต่เหนือสิ่งอื่นใด เรื่องนี้หัวใจหลักที่บาร์อยากแต่งมากๆนอกจากความสัมพันธ์ของจารย์สิงกับนักเรียนป่วนประสาทของเขา อยากจะแทรกในอีกมุมหนึ่งนอกจากเรื่องความรัก คนที่อยู่ในระเบียบ ความรู้สึกต่อสิ่งที่เหมาะสม ถูกต้อง สถานภาพความสัมพันธ์ที่คอยพร่ำบอกให้ตัวเองต้องทำอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ ทุกสิ่งมีจุดแสงสว่างย่อมมีจุดมืดที่ไม่แสดงออก และเบื้องลึกทุกคนเองก็คงเคยมี .. 'ความลับ' กันทั้งนั้น,, เจอกันตอนต่อไปนะก๊ะ เลิ้บ

    B
    E
    R
    L
    I
    N
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×