คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ONLY BAE : Special (UP 100%)
{ Special }
ก่อนที่ฉันจะเดินไปเรียกสติเพื่อนสาวที่ยังยืนไร้วิญญาณให้มีชีวิตอีกครั้ง
ก็มีเสียงผู้หญิงคนนึงที่ไม่ใช่เชอรี่ เดินเข้ามาทักจีมินพร้อมกับมองหน้าฉัน(?) เธอคนนี้เป็นดาวเด่นในโรงเรียน และชอบแกล้งฉันมากๆด้วย
เวลาฉันอยู่คนเดียวเธอชอบเอาน้ำมาเทราดหัวฉันหรือไม่ก็ชอบผลักฉันให้ล้มต่อหน้าคนอื่น
แล้วอย่าถามว่าทำไมฉันถึงไม่สู้ คุณเคยได้ยินคำนี้ไหม ‘หมาหมู่’
พวกเธออยู่กันเป็นกลุ่ม หนึ่งในกลุ่มก็คือเชอรี่นั่นเอง
และกลุ่มนี่ก็ชอบเล่าบรรดาที่สาวแห่กันกรี๊ดทั้งโรงเรียนอย่าง ‘บังทัน’ กลุ่มของจีมินกับวี เนี่ยแหละ
“จีมินขา มาทำอะไรตรงนี้กับยัยพวกนี้คะเนี่ย”
“พวกนี้งั้นหรอ” เพื่อนฉันกลับมามีชีวิตแล้วสินะ
“ใช่แล้วทำไมล่ะ”
เธอหันมาพูดกับไวท์แล้วหันไปคุยกับจีมินต่อ “จีจี้ขา ซอลลี่คิดถึงจีจี้จังเลย”
จีจี้(?) เมื่อฉันกับไวท์ได้ยิน เราสองคนกลั้นขำกันแทบไม่ทัน โอ้ยยยยย จีจี้นี่มันจี้จริงๆนะ
แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกหน่วงๆขึ้นมาล่ะ
“พอเถอะซอล เราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ”
“คุยอะไรค่ะ ซอลลี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย” ฉันเห็นหน้าไวท์ตอนนี้นี่แทบจะหลุดขำออกมาจริงๆ
เห็นได้จากสีหน้าที่เธอทำ เสียงของซอลลี่ที่ช่างเย้ายวน(?)
และท่าทางของเธอที่เอาหัวปราดไปมาอยู่ตรงอกของจีมิน
“เราเลิกกันแล้วซอล อย่าทำแบบนี้ต่อหน้า..” เขาหันมามองฉัน
และพูดว่า “คนของผมอีก” คะ..คนของนายหรอ
“ว่าไงนะ! คนของนายหรอ นี่อย่าบอกนะว่ายัยนี่..”
“คือคนของฉัน เธอกลับไปได้แล้ว” จีมินพูด เขาก็เอาแขนมาโอบไหล่ฉันให้เข้าไปหา
“นายคอยดูเถอะจีมิน!
ดูแลคนของนายดีๆละกัน แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน!!”
พูดเสร็จซอลลี่ก็เดินสะบัดก้นออกไป
ฉันเพิ่งเห็นว่าไวท์กับเชอรี่กำลังมองกันอยู่
เกิดสงครามส่งสายตาขนาดย่อมอีกแล้วสินะ และก่อนที่เชอรี่จะเดินไปอีกคน
เธอก็หันมาพูดกับฉัน
“แกคงไม่ตายดีแน่ไอยู หึหึ” แล้วเธอก็เดินตามซอลลี่กลับเข้าไปในร้าน
ฉันรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่แล้วนะ แต่เดี๋ยวก่อนจีมินเลิกกับซอลลี่แล้วหรอ
ใครๆก็รู้ว่าสองคนนี้กำลังคบกันอยู่นิ
“นายช่วยเอาแขนออกจากเพื่อนฉันด้วย”
ฉันกับจีมินได้ยินแบบนั้นก็ผละออกจากกันทันที
ฉันลืมไปเลยว่าเขาเอาแขนมาโอบไหล่ฉันไว้อยู่
ฉันมองไปที่เพื่อนสาวและเห็นว่าเธอก็กำลังมองฉันอยู่เช่นเดียวกัน แววตาเธอทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ
“จีมิน นายรู้ใช่มั้ยว่าทำอะไรลงไป”
“อืม”
“แล้วนายจะทำยังไง ฉันรู้ว่าพวกนั้นไม่หยุดแค่นี้แน่ๆ
ยิ่งนายบอกยัยนั่นว่าไอยูเป็นคนของนาย ยัยนั่นยิ่งไม่ยอมแหงๆ”
“ฉันจะรับผิดชอบเอง” รับผิดชอบงั้นหรอ
“ก็ดีนะ ไอยูจะได้มีคนดูแลนอกจากฉัน แต่ถ้าไอยูผู้แสนดีของฉันเป็นอะไรไป
นายต้องรับผิดชอบเธอ เข้าใจ?”
“เข้าใจแล้วน่า ไม่ต้องย้ำบ่อยก็ได้ เพื่อนหรือแม่วะเนี่ย”
“แม่แกสิ! โฮทส์อย่างนายจะไปมีวันเข้าใจอะไรล่ะ”
“เออๆ ว่าแต่ไอ้ตูบเพื่อนนายมันไปเอารถที่ขั่วโลกเหนือรึไงเนี่ย”
“ว่าใครไอ้ตูบห้ะ ยัยปากปลาร้าทรงเครื่อง”
อยู่ๆวีก็เดินเข้ามาแทรกระหว่างฉันกับไวท์
นี่เขาผลุบๆโผล่ๆแบบนี้บ่อยไหม ฉันจะได้เตรียมตัวเอาไว้ก่อน หัวใจจะวายตายเพราะอย่างนี้นี่แหละ
“ทรงเครื่องบ้านนายสิ มาให้ซุ่มให้เสียงบ้างได้ป่ะ
แล้วนี่ไปเอารถถึงไหนพวกฉันยืนคอยนายเป็นชาติแล้วนะ แถมยังต้องมาเห็นขี้หน้ายัยสตอเชอรี่นั่นอีก”
“ฉันก็ไม่อยากเห็นเชอรี่เหมือนกับเธอนั่นแหละ พูดมากจริง
ผู้หญิงอะไรขี้บ่นจัง”
“ผู้ชายอะไรปากหมาจัง”
“เป็นกูลสตรีหัดพูดจาเพราะๆบ้างได้ไหมเธอน่ะ ระวังนะ
พูดจาแบบนี้สักวันจะไม่มีใครเอา”
“ฉันก็ไม่อยากจะเอาใครเหมือนกันนั่นแหละ โดยเฉพาะคนอย่างนาย!” ดูท่าทางไวท์จะหัวเสียกับคำพูดของวีมาก
จากสีหน้าของเธอและน้ำเสียงที่เปลี่ยนเป็นแข็งกร่าวยิ่งกว่าเดิม “จีมิน ขอบใจนะที่จะไปส่งฉันกับไวท์ แต่ไม่ต้องแล้วล่ะ”
ไวท์หันไปบอกจีมิน
จากนั่นเธอก็จับมือฉันให้เดินออกมา ฉันหันกลับไปมองเห็นเขากำลังมองมาที่เราอยู่
ส่วนวีเดินเข้าร้านไปแล้ว
“ไวท์แกเป็นอะไรรึเปล่า” ฉันถามเธอขณะที่เรากำลังยืนรอรถแท็กซี่อยู่
“เปล่านิ”
“อย่ามาโกหกน่า ฉันรู้ว่าแกเป็น”
“ฉันจะเป็นอะไรล่ะ คำพูดของนายนั่นฉันไม่แคร์หรอก”
“แกก็รู้ว่าแกเก็บอาการไม่เก่ง ที่แกแสดงออกเมื่อกี้มันชัดเจนแจ่มแจ้งเลยนะ
ถึงฉันจะซื่อบื้อแต่ฉันก็ไม่ซื่อทุกเรื่องนะเว้ย”
“เออๆๆก็ได้แกนิ ฉันก็แค่โมโหโอเคป่ะ ผู้ชายบ้าไรปากไม่เป็นมงคล พูดแบบนั้นใส่ฉันทั้งๆที่หน้าตาย
อย่างนั้น โอ้ยยยยยย พูดแล้วของมันขึ้น”
“โล่งยัง ^^”
ฉันถามพร้อมกับยิ้มออกมา
ฉันอยากให้ไวท์ได้ระบายมันเป็นทางดีที่สุดที่จะให้เธอกลับมาเป็นคนเดิม ขืนปล่อยไว้แบบนั้นมีหวังอกแตกตายพอดี
เพื่อนฉันคนนี้มันเป็นโรคชอบเก็บกดแล้วระเบิดกับคนรอบข้าง ฉันไม่อยากซวยน่ะ
“โล่งล่ะ แกนี่มันแสนรู้จริงๆ”
“ฉันไม่ใช่สัตว์เลี้ยงแกนะ”
“เอ้าหรอ ฮ่าๆ แล้วนี่แกโทรบอกซิสเตอร์ยังว่าแกจะมานอนค้างบ้านฉัน”
“บอกตั้งแต่จะออกมากับแกแล้ว”
“โอเควันนี้ถือว่าเป็นวันซวยของแกกับฉันละกัน ที่แกโดนแฟนทิ้งและฉันก็เพิ่งโดนไอ้บ้านั่นพูดไม่เป็นมงคลใส่
เพราะฉนั้น..” เอาล่ะ ไวท์คนเดิมกลับมาแล้ว “ปาร์ตี้กันดีกว่าเพื่อนนนน”
“ปาร์ตี้? เมื่อกี้ไปร้านยังไม่พออีกหรอ”
“นั่นมันร้าน แต่นี้มันบ้านเว้ย”
“บ้านแก แล้วพ่อแม่แกไม่ว่ารึไง”
“อย่าลืมสิ พ่อแม่ฉันอยู่อเมริกา”
จริงด้วย พ่อแม่ของไวท์เป็นทูตของอเมริกาทั้งคู่
นานๆทีท่านสองคนจะกลับมาไทยครั้งนึง ส่วนไวท์ก็อยู่กับป้าแม่บ้านและคนขับรถอีกหนึ่งคน
“ชวนอีเจ๊ประธานนักเรียนแปป”
ประธานนักเรียนคนนี้คือเพื่อนสนิทของเราอีกคน
ไปไหนไปกันแต่ที่เธอไม่ได้มาร้านกับเราด้วย เพราะไวท์ไม่ให้มา
ด้วยเหตุที่ว่ากลัวเธอจะหลวมตัวไปกับผู้ชาย = =’
“บี๋มันจะมาหรอ ดึกแล้วนะ”
“คนอย่างมันเคยพลาดซะที่ไหน แกก็รู้”
“งั้นแล้วแต่แกเลย อย่าลืมบอกให้เอาชุดนักเรียนกับหนังสือมาด้วยนะ”
“รับทราบเจ้าคะ”
ไวท์หยิบโทรศัพท์มือถือไอโฟน6ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานมานี้ออกจากกระเป๋า และเลื่อนหาดูรายชื่อบนหน้าจอ
ตู้ด ตู้ด ตู้ด…
“ทำไมมันไม่รับสาย”
“นอนแล้วมั้ง”
“เพิ่ง5ทุ่ม มันยังไม่นอนหรอก มัวทำอะไรอยู่นะอีเจ๊รับสิ
ของดีเดี๋ยวพลาดนะเว้ย”
“แกพูดคนเดียวทำไม นู้น แท็กซี่มาแล้ว”
ฉันเห็นแท็กซี่คันนึงวิ่งมาทางที่เรายืนอยู่
ฉันให้ไวท์เป็นคนเรียกเพราะฉันไม่รู้เส้นทางไปบ้านเธอ
แต่เธอก็เอาแต่บ่นกับโทรศัพท์ที่แนบหูไว้แบบนั้นอยู่คนเดียว
“อ่า แท็กซี่ๆๆๆๆ” ดูมันเรียกสิ ไม่ใช่แค่เรียกนะ
ยังออกไปยืนขวางหน้ารถอีกต่างหาก = =’ ไวท์เดินไปเปิดประตูรถด้านหลังให้ฉันเข้าไปนั่งก่อนและเธอก็เข้ามานั่งตาม
“ไปไหนครับ”
“สุขุมวิท 32 หมู่บ้านกลางกรุง น้ารู้จักใช่มั้ยค่ะ”
(อีบ้า น้าอะไรฉันอายุเท่าแกนะ!)
เหมือนฉันได้ยินเสียงจากโทรศัพท์แกนะไวท์
“ไวท์ บี๋รับสายแล้ว”
“เอ้า” ไวท์ทำหน้าเหว๋อนิดๆแล้วเอาโทรศัพท์แนบหูเหมือนเดิม
“ฮัลโหลเจ๊”
(แกเรียกใครน้าวะ ฉันเพิ่ง17เท่าแกเองนะอีบ้านิ)
“ฉันไม่ได้พูดกับแกอีเจ๊ ตอนนี้ฉันกำลังจะกลับบ้านกับไอยูมัน”
(พวกแกจะกลับแล้วหรอ ทำไมเร็วจัง)
“มีปัญหานิดหน่อยอ่ะ แต่ตอนนี้บ้านฉันกำลังจะมีปาร์ตี้”
(ฉันไปด้วย!)
“ไม่ให้มา แต่ถ้าจะมาต้องเอาของกินติดไม้ติดมือมาด้วยจะดีมากนะเจ๊”
(อีงก! แต่พรุ่งนี้เปิดเทอมนะเว้ย)
“จะมาไหมล่ะเจ๊ อย่าบ่นมากสิ เอาของที่จะไปโรงเรียนพรุ่งนี้มาด้วยนะ
เจอกันที่บ้านฉันอีก20นาที บายยยยย” ไวท์กดวางสาย
แล้วบ่นอะไรไม่รู้คนเดียวอีกแล้ว “อีเจ๊นี่มึนตลอด ใครเลือกมันไปเป็นประธานนักเรียนวะ”
“ฉันไง” ฉันตอบพลางเอามือลูบกระจกที่มันมีไอขึ้นจนมัว
“ถึงบี๋มันจะมึนแต่มันก็เก่งใช่เล่นนิ”
“ก็จริงของแก เออฉันว่ามีแค่เราคงไม่สนุก”
“แล้วแกจะเอาใครมาอีก”
ไวท์ไม่ตอบอะไรฉัน เอาแต่นั่งยิ้มกรุ่มกริ่มกับหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเธอ ฉันเห็นเธอเล่น
แชทกับใครสักคนในไลน์ ซึ่งฉันไม่สนใจจะชวนใครมาก็ชวนเลย มีแค่เราสามคนก็คงไม่สนุกจริงๆนั่นแหละ
ความคิดเห็น