คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ONLY BAE : Found you again (UP 100%)
{ Found you again }
ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างเขาจะมาทำงานในที่แบบนี้
อ่า..
เขาคือเพื่อนร่วมชั้นของฉันเอง และเขาก็เป็นสมาชิกหนึ่งในกลุ่มที่มีสาวกรี๊ดทั่วทั้งโรงเรียนเหมือนวี
คนที่ไวท์ไม่ชอบขี้หน้าที่สุดนั่นล่ะ
สำหรับเขาแล้วเรื่องบริการลืมมันไปได้เลย
เพราะเขาถือว่าเป็นลูกเจ้าของธุรกิจใหญ่โตที่รวยติดอันดับ 7 ของประเทศ
ซึ่งนั่นมันก็แน่อยู่แล้วที่คนอย่างเขาไม่น่าจะมาทำงานอะไรประเภทนี้ได้ เว้นก็แต่..
“หมอนั่นน่ะเจ้าชู้จะตาย
จะมาทำงานแบบนี้ก็ไม่แปลกหรอก ยิ่งอยู่กับสาวๆทั้งวันทั้งคืนนะหมอนั่นยิ่งชอบ”
“แต่แกว่ามันไม่แปลกไปหน่อยหรอวะ
ผู้ชายอย่างจีมินเนี่ยนะ!”
“แกอยากรู้ป่ะละว่าทำไม”
ใบหน้าเจ้าเล่ห์ที่ซ้อนอยู่ภายในของเพื่อนสาวได้ปรากฏขึ้นต่อสายตา
และนั่นมันทำให้รู้ว่าเจ้าเพื่อนตัวดีของฉันมันกำลังคิดจะทำอะไรอยู่
สายตากับรอยยิ้มมุมปากแบบนั้นไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆเลยสำหรับคนที่อยู่ตรงหน้า
ไวท์หันไปเรียกพนักงานที่ยืนอยู่แถวๆนั้นให้มาหา
แล้วจัดการกวักมือเป็นทำนองว่าให้เอาหูมาใกล้ๆ แล้วยกมือข้างหนึ่งขึ้นเพื่อป้องปากเอาไว้ไม่ให้ฉันเห็น
แต่ฉันพอจะเดาความคิดของเธอออก ว่าเธอกำลังคิดจะทำอะไร
“ไวท์..”
“ชู่ววว์”
ไวท์เอานิ้วชี้ขึ้นปิดริมฝีปากเหมือนอยากจะบอกให้ฉันเงียบก่อน
จากนั้นเธอก็หันไปพูดกับพนักงานต่ออีกสักพัก “ขอบคุณนะคะ”
ฉันมองพนักงานคนนั้นเดินไปที่เคาว์เตอร์แล้วคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งไม่ได้แต่งตัวเหมือนพนักงาน
ผู้หญิงคนนั้นทำหน้าคุ่นคิดแล้วหันมามองที่โต๊ะฉัน พร้อมกับยิ้มให้ฉัน ไม่สิ
ยิ้มให้ไวท์ต่างหาก ฉันหันไปมองไวท์ที่กำลังยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้นเช่นเดียวกัน
“ไวท์ แกรู้จักหรอ”
“เพื่อนพี่ฉันเองอ่ะ” จากนั้นฉันก็ถึงบางอ้อทันที ไม่น่าล่ะทำไมถึงดูสนิทกันจัง ฉันหันกลับไปมองที่เคาว์เตอร์ก็เห็นเพื่อนพี่ของไวท์กำลังเดินมาทางนี้
“สวัสดีจ๊ะน้องไวท์สุดสวย” เธอเดินมานั่งข้างๆไวท์พร้อมเอ่ยสวัสดีอย่างเป็นมิตร ดูใกล้ๆแล้วเธอสวยมากเลยนะ
ตากลมโต ผิวขาว หุ่นนี่สะบั่นเหลือเกิน
“แหมพี่ซีนก็พูดซะ หนูแทบลอยแล้วเนี่ย
ฮ่าๆๆ”
“แล้วไวท์มีอะไรให้พี่ช่วยหรอ
เห็นบอกพนักงานว่าอยากคุยกับพี่” พี่ซีนหันมามองฉันแล้วยิ้มให้นิดๆเป็นเชิงถามว่านั่นใคร
“อ่อ! นี่เพื่อนหนูคะชื่อไอยู
แกนี่พี่ซีนนะเพื่อนพี่ฉันเป็นผู้จัดการร้านนี้ สวยใช่ม้า พี่ซีนเป็นลูกครึ่งไทยเกาหลีเชียวนะ”
“สวัสดีคะพี่ซีน”
“สวัสดีจ๊ะน้องไอยู
ชื่อน่ารักนะเนี่ย แถมคนก็ยังน่ารักอีกต่างหาก^^”
“ฮ่าๆ ไม่หรอกคะ” ฉันหัวเราะแห้งๆกลับไปให้พี่ซีน
ก็แหงล่ะไม่เคยมีใครชมต่อหน้าแบบนี้มานานแล้วนิ นอกจากไวท์ที่ชมฉันแทบจะทุกวัน
“แล้วมีอะไรให้พี่ช่วยกันล่ะ
มาถึงที่นี้คงมีเรื่องอะไรช้ำใจมาแน่ๆ”
“โหพี่ นี่ความคิดพี่จะล้ำไปล่ะ
รู้ทุกอย่างเลยรึไง”
“แสดงว่าใช่ ฮ่าๆๆ”
“ก็ไอยูมันอกหัก
หนูก็เลยพามันมาเปิดโลกบ้าง พี่ซีนช่วยหนูทีสิ”
“หืม อกหัก? ใครช่างกล้าหักอกน้องสาวพี่ซีนแบบนี้ละเนี่ย
ตาต่ำจริงๆน้องสาวพี่ออกจะน่ารักขนาดนี้ ไม่เป็นไรนะไอยู เรื่องแบบนี้พี่ถนัด
อยากได้คนไหนบอกมาเลยพี่จัดให้!”
อยากจะบอกว่าฉันรู้สึกดีมากๆที่พี่ซีนเรียกฉันว่าน้องสาวทั้งๆที่เพิ่งเจอกันไม่ถึง
5 นาทีด้วยซ้ำ
ฉันชอบคนแบบนี้นะดูใจดีและจริงใจด้วย
ยิ่งเธอพูดทำนองว่าเป็นห่วงฉันมากฉันก็ยิ่งรู้สึกขอบคุณเธอมากเหมือนกัน
“หนูขอคนนี้ได้ไหมพี่ซีน คนนี้น่ะ”
ไวท์ชี้นิ้วไปที่กระดาษที่พนักงานเอามาให้
แล้วชี้ไปที่รูปผู้ชายคนหนึ่ง ใส่เสื้อกล้ามและหมวกไหมพรมสีดำ ที่กำลังมองมาหน้ากล้อง
สายตาเขาเด็ดเดี่ยวเหมือนที่ฉันเคยเห็นที่โรงเรียน
แต่การแต่งตัวช่างห่างจากคำว่านักเรียนโดยสิ้นเชิง
“ไหวหรอ”
“พี่ก็รู้คำตอบอยู่แล้ว”
ฉันเห็นสองคนนี้มองหน้ากันแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม ฉันว่าที่พี่ซินถามว่าไหวหรอคงเป็นค่าตัวของเขาสินะ
เพราะมันโคตะระแพงมาก ตัวเลขเกือบเหยียบ 6 หลักกันเลยทีเดียว จากนั้นพี่ซินก็ขอตัวไปจัดการเรื่องที่ไวท์ขอ
ก่อนที่จะมีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาหาไวท์แล้วนั่งข้างๆแทนที่ที่พี่ซินนั่งเมื่อกี้
“สวัสดีครับ ผมขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับ^^”
“O[]O อ่า..มาแล้ววววว”
ดูมันทำตาเข้าสิ เหมือนจะปล่อยแสงเลเซอร์ออกมาอย่างนั้นแหละ “เชิญคะๆ อู้วหล่อกว่าในรูปอีก”
“ดื่มอะไรรึยังครับ”
“ยังเลยคะ^^”
“งั้นผมช่วยสั่งให้นะครับ”
แล้วเขาก็เรียกพนักงานมาสั่งเครื่องดื่มอะไรสักอย่างที่ฉันไม่เคยได้ยินมา 2 แก้ว ย้ำว่า
2 แก้ว! ฉันว่าตรงนี้ฉันคงไม่มีตัวตนแล้วล่ะ =
= อ้อลืมบอกไป เมนูอาหารที่ไวท์สั่งได้มาสักพักแล้วนะ
แต่ยังไม่มีใครเริ่มลงมือแตะมันเลย
แล้วฉันก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เพื่อนตัวดีมันคิดอะไรของมันอยู่ ที่สั่งแต่อาหารแต่ไม่สั่งเครื่องดื่มมาด้วย
ฉันนั่งมองไปรอบๆร้านพลางดูนู้นดูนี้ไปเรื่อย
ร้านนี้ถือว่าใช้ได้เลยล่ะ ออกแนววินเทจหน่อยๆ ร้านไม่ใหญ่มากแต่ก็จุคนได้เยอะพอสมควร
เป็นร้าน 2 ชั้น
ด้านล่างเหมือนบาร์ทั่วไป ด้านบนเป็นดาดฟ้าจะเปิดโล่ง
ผนังด้านในนี่เป็นสีขาวตกแต่งด้วยรูปภาพต่างๆ มีของเก่าๆตั้งโชว์ด้วย
ขณะที่ฉันมองสำรวจร้านอย่างเพลินๆอยู่นั้น
สายตาฉันดันไปสะดุดกับบุคคลที่อยู่ในลิสของค่าตัวแพงที่สุด
และเขากำลังเดินมาทางนี้ เอาแล้วไง
ฉันต้องทำยังไงละเนี่ยเจ้าเพื่อนตัวดีของฉันก็ดันไม่อยู่ซะด้วยสิ
ก็เล่นขอตัวไปแด๊นซ์กับคนของหล่อนกลางฟลอร์แบบนั้นทิ้งให้ฉันนั่งอยู่คนเดียว แล้วนั่นเขากำลังจะถึงโต๊ะฉันแล้ว
ทำไงๆๆๆ ไอยูคิดสิ คิดดดดดด!!
“เธอ..”
“อ่ะ.. เอ่อ
สวัสดี” ฉันพูดตะกุกตะกักพร้อมยกมือข้างหนึ่งขึ้นทักทาย
แต่ฉันยังไม่สบตากับเขาหรอกนะ ก็ฉันไม่กล้านี่หน่า แค่รู้ว่าเขาเข้ามาใกล้หัวใจฉันก็เต้นแรงแทบจะระเบิดออกอยู่แล้ว
‘มันมีความหลังที่ทุกคนยังไม่รู้แม้แต่เพื่อนสนิทของฉันด้วย’
ฉันรู้สึกได้ว่าเขากำลังนั่งลงข้างๆ
และกำลังเขยิบเข้ามาใกล้ฉัน.. โอ้ย ให้ตายสิ ฉันไม่น่ามาที่นี้ตั้งแต่แรกเลย
นายทำให้ฉันทำตัวไม่ถูกแล้วนะ จีมิน!
“เธอมาทำอะไรที่นี้
ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่ไหมว่าที่แบบนี้มันอันตรายน่ะ”
“ฉะ..ฉันมากับไวท์”
“เฮ้อ ยัยตัวแสบนั่นอีกแล้วสินะ
แล้วยัยนั่นหายไปไหนแล้วล่ะ ทำไมทิ้งให้เธอนั่งอยู่คนเดียว ใช้ได้ที่ไหนกัน
โทรเรียกไอวีมาดีไหมเนี่ย”
“อย่านะ! ถ้าไวท์เจอวีมีหวังร้านแตกแน่ๆ” ฉันรีบพูดออกมาทันที ทำให้จีมินถึงกับหลุดหัวเราะออกมา
“เธอนี่นะ เป็นห่วงเพื่อนหรือกลัวว่าร้านฉันจะแตกกันแน่”
“ร้านฉัน?”
“อือ ร้านฉัน ทำไม”
งั้นก็แสดงว่าที่เขาทำงานอยู่นี่เพราะเป็นร้านของเขาอย่างนั้นหรอ
ไม่น่าล่ะ คนอย่างเขาไม่มีวันมาทำงานแบบนี้หรอกถ้าไม่มีเหตุผลจริงๆ แล้วไอ้ที่ค่าตัวแพงๆคงจะเป็นเพราะเขาเป็นเจ้าของร้าน
ส่วนไอ้คำบรรยายบ้าบอนั่น เขาคงจะมโนขึ้นมาเองสินะ
“อ่อ เปล่าๆ”
“นี่.. ไม่คิดจะหันมาคุยกันบ้างรึไง
ปล่อยให้ฉันมองเธอฝ่ายเดียวได้ยังไงเนี่ย ไม่แฟร์เลยนะ แย่ๆ” เขาทำเสียงเหมือนน้อยใจ ใช่คะ ที่คุยกันมาฉันยังไม่สบตาเขาเลยสักนิด ใครจะกล้าล่ะบอกแล้วไงว่ามันมีความหลังอยู่
= =
“นายก็อย่ามองฉันสิ จะได้แฟร์ไง”
“ก็ฉันอยากมองเธออ่ะ!”
“…”
“หรือจะให้ฉันเอาหน้าเข้าไปใกล้เธอมากกว่านี้
หึ?”
เมื่อฉันได้ยินแบบนั้นก็หันควับไปหาเขาทันที
แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้น่ะสิ
ก็หน้าของเราอยู่ใกล้กันจนจมูกของฉันไปชนกับจมูกของเขา ฉันรีบดึงหน้ากลับแล้วหลบตาเขาอีกครั้ง
“ หึ ก็ยังเป็นยัยซุ่มซ่ามเหมือนเดิม”
“อะไร ฉันไม่ได้ซุ่มซ่ามซะหน่อย!”
ฉันหันกลับไปพูด
“ไม่ได้ซุ่มซ่าม.. แล้วเมื่อกี้ที่หันมาชนหน้าฉันเรียกว่าอะไร อยากจูบฉันหรอ? แล้วตอนนั้นอีก ที่เธอชน..”
“หยุดนะ!” ฉันรีบค้านขึ้นทันทีที่เขาจะพูดเรื่องเก่าๆนั่นออกมา
ให้ตายสิ เขาจะพูดเรื่องบ้าๆนั่นอีกทำไม ฉันไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย
มันก็แค่อุบัติเหตุเท่านั้นแหละ!
ตอนนี้ฉันรับรู้ได้ถึงใบหน้าที่เริ่มร้อนผ่าว
สมองเริ่มประมวลภาพเหตุการณ์ในอดีตที่ฉันยังคงจดจำมันได้ดี และนั่น..
มันเป็นเหตุผลที่ทำไมฉันถึงต้องใจเต้นแรงที่เจอเขาทุกครั้ง
“อะๆๆ ไม่พูดแล้วก็ได้ เธอคงยังไม่ลืมมันสินะ”
“ก็บอกให้หยุดพูดไงเล่า!”
“นี่เธอตะคอกใส่คนที่มีบุญคุณกับเธออย่างนั้นหรอ”
“ฉะ..ฉันเปล่านะ”
“เธอนี่มัน ให้ตาย! หัดเข้มแข็งซะบ้างสิ อย่างนี้ไงคนอื่นเขาถึงชอบแกล้งเธอ
ถ้าเธอไม่มียัยเพื่อนตัวแสบนั่น เธอจะทำยังไง
ห้ะ!”
ก็อย่างที่เขาพูดนั่นแหละ
ฉันอ่อนแอเกินกว่าที่จะอยู่คนเดียวได้
และที่อกหักเหตุผลที่ไวท์ไม่อยากให้ฉันอุดอู้อยู่แต่ในบ้านก็เพราะฉันอ่อนแอเกินไปที่จะรับมันไว้คนเดียว
ส่วนเรื่องโดนแกล้ง ฉันโดนจนชินแล้วล่ะและเกือบทุกครั้งไวท์ก็จะมาเป็นคนช่วยฉัน
คุณอาจจะคิดว่าทำไมฉันถึงอ่อนแอได้มากขนาดนี้ ก็เพราะว่าฉันโตมาในครอบครัวที่มีพี่น้องต่างสายเลือดอยู่รวมกันเป็นร้อยๆน่ะสิคะ
มีบ้านหลังใหญ่ที่เป็นตึกๆ ถึงจะคอยมีคนเอาใจใส่อย่างเช่นซิสเตอร์ที่คอยเลี้ยงดูฉันมา
แต่มันก็เหมือนยังขาดบางอย่างที่ทำให้ฉันอ่อนแอได้มาจนถึงทุกวันนี้
ใช่ ฉันเป็นเด็กกำพร้าตอนนี้ฉันอาศัยอยู่กับซิสเตอร์มาเรีย
ท่านเป็นคนอุปถัมภ์ฉัน คอยส่งเสียเรื่องเรียนให้ทุกอย่าง แต่กับไวท์ถึงเธอจะเป็นเหมือนลูกคุณหนูคนหนึ่งแต่เธอก็ไม่คิดที่จะรังเกียจฉันเหมือนคนอื่นๆ
เราคบกันเป็นเพื่อนได้พ่อแม่เธอไม่ได้ว่าอะไร
แถมยังคอยใส่ใจถามถึงฉันตลอดเวลาอีกด้วย
“เฮ้อ ช่างเถอะ! ฉันเดาว่าที่เธอเลือกฉันไม่ใช่เพราะเธอเลือก แต่เป็นเพื่อนเธอเลือกใช่ไหม”
“อื้ม”
“นี่! มองหน้าฉันสิเวลาตอบน่ะ
ฉันไม่ชอบเวลาคุยกับใครแล้วถูกเมินแบบนี้นะ”
“อ่ะ..” ทันทีที่เขาพูดจบ
เขาก็เอามือมาจับหน้าฉันให้หันไปหาเขา
“นี่ครั้งที่ 2 แล้วนะที่ฉันได้มองเธอใกล้ๆแบบนี้ ^^”
“นายจะพูดแบบนี้ทำไมอีกเนี่ย”
“ทำไม เขินหรอ”
เขาทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่ฉัน
ฉันพยายามที่จะหันหน้าหนีแต่ก็ไร้ประโยชน์เพราะเขายังไม่ปล่อยมือที่เขาจับหน้าฉันไว้ออก
รอยยิ้มบ้านั่นมันอะไร เขากำลังคิดอะไรอยู่ เราสบตากันสักพักก่อนที่เขาจะปล่อยมือออก
และหน้าเจ้าเล่ห์ของเขาเปลี่ยนไปเป็นใบหน้าที่ฉันคุ้นเคย
รอยยิ้มมุมปากหุบลงเหลือแต่เพียงใบหน้าที่มองมานิ่งๆ
‘ฉันคิดว่าฉันเคยรู้จักคนๆนี้ คนที่ฉันคิดว่าเขาเป็นเจ้าชายของฉัน’
____________________________________________________
- TALK -
ตอนนี้ลงครบ 100% แล้วนะคะ ช่วยติดตามกันด้วยนะรีดเดอร์ที่น่ารัก
อย่าหายนะคะ^^ 2 คนนี้มีอดีตอะไรที่ทุกคนยังไม่รู้ต้องคอยติดตามเนาะ
ขอบคุณที่ติดตามและอ่านจนจบน้า จุ้บๆ
1 เม้นเป็นกำลังใจให้รีดเดอร์นะคะ พลีสสสสส
ความคิดเห็น