ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { BTS } ONLY BAE รู้สึกหรือไม่รู้สึก

    ลำดับตอนที่ #2 : ONLY BAE : Found you again (UP 100%)

    • อัปเดตล่าสุด 9 มิ.ย. 58












     

    { Found you again }

     

    ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างเขาจะมาทำงานในที่แบบนี้ อ่า.. เขาคือเพื่อนร่วมชั้นของฉันเอง และเขาก็เป็นสมาชิกหนึ่งในกลุ่มที่มีสาวกรี๊ดทั่วทั้งโรงเรียนเหมือนวี คนที่ไวท์ไม่ชอบขี้หน้าที่สุดนั่นล่ะ

     

    สำหรับเขาแล้วเรื่องบริการลืมมันไปได้เลย เพราะเขาถือว่าเป็นลูกเจ้าของธุรกิจใหญ่โตที่รวยติดอันดับ 7 ของประเทศ ซึ่งนั่นมันก็แน่อยู่แล้วที่คนอย่างเขาไม่น่าจะมาทำงานอะไรประเภทนี้ได้ เว้นก็แต่..

     

    หมอนั่นน่ะเจ้าชู้จะตาย จะมาทำงานแบบนี้ก็ไม่แปลกหรอก ยิ่งอยู่กับสาวๆทั้งวันทั้งคืนนะหมอนั่นยิ่งชอบ

    แต่แกว่ามันไม่แปลกไปหน่อยหรอวะ ผู้ชายอย่างจีมินเนี่ยนะ!”

    แกอยากรู้ป่ะละว่าทำไม

     

    ใบหน้าเจ้าเล่ห์ที่ซ้อนอยู่ภายในของเพื่อนสาวได้ปรากฏขึ้นต่อสายตา และนั่นมันทำให้รู้ว่าเจ้าเพื่อนตัวดีของฉันมันกำลังคิดจะทำอะไรอยู่ สายตากับรอยยิ้มมุมปากแบบนั้นไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆเลยสำหรับคนที่อยู่ตรงหน้า


    ไวท์หันไปเรียกพนักงานที่ยืนอยู่แถวๆนั้นให้มาหา แล้วจัดการกวักมือเป็นทำนองว่าให้เอาหูมาใกล้ๆ แล้วยกมือข้างหนึ่งขึ้นเพื่อป้องปากเอาไว้ไม่ให้ฉันเห็น แต่ฉันพอจะเดาความคิดของเธอออก ว่าเธอกำลังคิดจะทำอะไร

     

    ไวท์..”

    ชู่ววว์ ไวท์เอานิ้วชี้ขึ้นปิดริมฝีปากเหมือนอยากจะบอกให้ฉันเงียบก่อน จากนั้นเธอก็หันไปพูดกับพนักงานต่ออีกสักพัก ขอบคุณนะคะ

     

    ฉันมองพนักงานคนนั้นเดินไปที่เคาว์เตอร์แล้วคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งไม่ได้แต่งตัวเหมือนพนักงาน ผู้หญิงคนนั้นทำหน้าคุ่นคิดแล้วหันมามองที่โต๊ะฉัน พร้อมกับยิ้มให้ฉัน ไม่สิ ยิ้มให้ไวท์ต่างหาก ฉันหันไปมองไวท์ที่กำลังยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้นเช่นเดียวกัน

     

    ไวท์ แกรู้จักหรอ

    เพื่อนพี่ฉันเองอ่ะจากนั้นฉันก็ถึงบางอ้อทันที ไม่น่าล่ะทำไมถึงดูสนิทกันจัง ฉันหันกลับไปมองที่เคาว์เตอร์ก็เห็นเพื่อนพี่ของไวท์กำลังเดินมาทางนี้

    สวัสดีจ๊ะน้องไวท์สุดสวยเธอเดินมานั่งข้างๆไวท์พร้อมเอ่ยสวัสดีอย่างเป็นมิตร ดูใกล้ๆแล้วเธอสวยมากเลยนะ ตากลมโต ผิวขาว หุ่นนี่สะบั่นเหลือเกิน

    แหมพี่ซีนก็พูดซะ หนูแทบลอยแล้วเนี่ย ฮ่าๆๆ

    แล้วไวท์มีอะไรให้พี่ช่วยหรอ เห็นบอกพนักงานว่าอยากคุยกับพี่พี่ซีนหันมามองฉันแล้วยิ้มให้นิดๆเป็นเชิงถามว่านั่นใคร

    อ่อ! นี่เพื่อนหนูคะชื่อไอยู แกนี่พี่ซีนนะเพื่อนพี่ฉันเป็นผู้จัดการร้านนี้ สวยใช่ม้า พี่ซีนเป็นลูกครึ่งไทยเกาหลีเชียวนะ

    สวัสดีคะพี่ซีน

    สวัสดีจ๊ะน้องไอยู ชื่อน่ารักนะเนี่ย แถมคนก็ยังน่ารักอีกต่างหาก^^”

    ฮ่าๆ ไม่หรอกคะฉันหัวเราะแห้งๆกลับไปให้พี่ซีน ก็แหงล่ะไม่เคยมีใครชมต่อหน้าแบบนี้มานานแล้วนิ นอกจากไวท์ที่ชมฉันแทบจะทุกวัน


    แล้วมีอะไรให้พี่ช่วยกันล่ะ มาถึงที่นี้คงมีเรื่องอะไรช้ำใจมาแน่ๆ

    โหพี่ นี่ความคิดพี่จะล้ำไปล่ะ รู้ทุกอย่างเลยรึไง

    แสดงว่าใช่ ฮ่าๆๆ

    ก็ไอยูมันอกหัก หนูก็เลยพามันมาเปิดโลกบ้าง พี่ซีนช่วยหนูทีสิ

    หืม อกหัก? ใครช่างกล้าหักอกน้องสาวพี่ซีนแบบนี้ละเนี่ย ตาต่ำจริงๆน้องสาวพี่ออกจะน่ารักขนาดนี้ ไม่เป็นไรนะไอยู เรื่องแบบนี้พี่ถนัด อยากได้คนไหนบอกมาเลยพี่จัดให้!”

     

    อยากจะบอกว่าฉันรู้สึกดีมากๆที่พี่ซีนเรียกฉันว่าน้องสาวทั้งๆที่เพิ่งเจอกันไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำ ฉันชอบคนแบบนี้นะดูใจดีและจริงใจด้วย ยิ่งเธอพูดทำนองว่าเป็นห่วงฉันมากฉันก็ยิ่งรู้สึกขอบคุณเธอมากเหมือนกัน

     

    หนูขอคนนี้ได้ไหมพี่ซีน คนนี้น่ะไวท์ชี้นิ้วไปที่กระดาษที่พนักงานเอามาให้ แล้วชี้ไปที่รูปผู้ชายคนหนึ่ง ใส่เสื้อกล้ามและหมวกไหมพรมสีดำ ที่กำลังมองมาหน้ากล้อง สายตาเขาเด็ดเดี่ยวเหมือนที่ฉันเคยเห็นที่โรงเรียน แต่การแต่งตัวช่างห่างจากคำว่านักเรียนโดยสิ้นเชิง


    ไหวหรอ

    พี่ก็รู้คำตอบอยู่แล้ว

     

    ฉันเห็นสองคนนี้มองหน้ากันแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม ฉันว่าที่พี่ซินถามว่าไหวหรอคงเป็นค่าตัวของเขาสินะ เพราะมันโคตะระแพงมาก ตัวเลขเกือบเหยียบ 6 หลักกันเลยทีเดียว จากนั้นพี่ซินก็ขอตัวไปจัดการเรื่องที่ไวท์ขอ ก่อนที่จะมีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาหาไวท์แล้วนั่งข้างๆแทนที่ที่พี่ซินนั่งเมื่อกี้

     

    สวัสดีครับ ผมขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับ^^”

    “O[]O อ่า..มาแล้วววววดูมันทำตาเข้าสิ เหมือนจะปล่อยแสงเลเซอร์ออกมาอย่างนั้นแหละ เชิญคะๆ อู้วหล่อกว่าในรูปอีก

    ดื่มอะไรรึยังครับ

    ยังเลยคะ^^”

    งั้นผมช่วยสั่งให้นะครับ

     

    แล้วเขาก็เรียกพนักงานมาสั่งเครื่องดื่มอะไรสักอย่างที่ฉันไม่เคยได้ยินมา 2 แก้ว ย้ำว่า 2 แก้ว! ฉันว่าตรงนี้ฉันคงไม่มีตัวตนแล้วล่ะ = = อ้อลืมบอกไป เมนูอาหารที่ไวท์สั่งได้มาสักพักแล้วนะ แต่ยังไม่มีใครเริ่มลงมือแตะมันเลย แล้วฉันก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เพื่อนตัวดีมันคิดอะไรของมันอยู่ ที่สั่งแต่อาหารแต่ไม่สั่งเครื่องดื่มมาด้วย

     

    ฉันนั่งมองไปรอบๆร้านพลางดูนู้นดูนี้ไปเรื่อย ร้านนี้ถือว่าใช้ได้เลยล่ะ ออกแนววินเทจหน่อยๆ ร้านไม่ใหญ่มากแต่ก็จุคนได้เยอะพอสมควร เป็นร้าน 2 ชั้น ด้านล่างเหมือนบาร์ทั่วไป ด้านบนเป็นดาดฟ้าจะเปิดโล่ง ผนังด้านในนี่เป็นสีขาวตกแต่งด้วยรูปภาพต่างๆ มีของเก่าๆตั้งโชว์ด้วย

     

    ขณะที่ฉันมองสำรวจร้านอย่างเพลินๆอยู่นั้น สายตาฉันดันไปสะดุดกับบุคคลที่อยู่ในลิสของค่าตัวแพงที่สุด และเขากำลังเดินมาทางนี้ เอาแล้วไง ฉันต้องทำยังไงละเนี่ยเจ้าเพื่อนตัวดีของฉันก็ดันไม่อยู่ซะด้วยสิ ก็เล่นขอตัวไปแด๊นซ์กับคนของหล่อนกลางฟลอร์แบบนั้นทิ้งให้ฉันนั่งอยู่คนเดียว แล้วนั่นเขากำลังจะถึงโต๊ะฉันแล้ว ทำไงๆๆๆ ไอยูคิดสิ คิดดดดดด!!

     

    เธอ..”

    อ่ะ.. เอ่อ สวัสดีฉันพูดตะกุกตะกักพร้อมยกมือข้างหนึ่งขึ้นทักทาย แต่ฉันยังไม่สบตากับเขาหรอกนะ ก็ฉันไม่กล้านี่หน่า แค่รู้ว่าเขาเข้ามาใกล้หัวใจฉันก็เต้นแรงแทบจะระเบิดออกอยู่แล้ว

     

     มันมีความหลังที่ทุกคนยังไม่รู้แม้แต่เพื่อนสนิทของฉันด้วย

     

    ฉันรู้สึกได้ว่าเขากำลังนั่งลงข้างๆ และกำลังเขยิบเข้ามาใกล้ฉัน.. โอ้ย ให้ตายสิ ฉันไม่น่ามาที่นี้ตั้งแต่แรกเลย นายทำให้ฉันทำตัวไม่ถูกแล้วนะ จีมิน!

     

    เธอมาทำอะไรที่นี้ ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่ไหมว่าที่แบบนี้มันอันตรายน่ะ

    ฉะ..ฉันมากับไวท์

    เฮ้อ ยัยตัวแสบนั่นอีกแล้วสินะ แล้วยัยนั่นหายไปไหนแล้วล่ะ ทำไมทิ้งให้เธอนั่งอยู่คนเดียว ใช้ได้ที่ไหนกัน โทรเรียกไอวีมาดีไหมเนี่ย

    อย่านะ! ถ้าไวท์เจอวีมีหวังร้านแตกแน่ๆฉันรีบพูดออกมาทันที ทำให้จีมินถึงกับหลุดหัวเราะออกมา

    เธอนี่นะ เป็นห่วงเพื่อนหรือกลัวว่าร้านฉันจะแตกกันแน่

    ร้านฉัน?”

    อือ ร้านฉัน ทำไม

     

    งั้นก็แสดงว่าที่เขาทำงานอยู่นี่เพราะเป็นร้านของเขาอย่างนั้นหรอ ไม่น่าล่ะ คนอย่างเขาไม่มีวันมาทำงานแบบนี้หรอกถ้าไม่มีเหตุผลจริงๆ แล้วไอ้ที่ค่าตัวแพงๆคงจะเป็นเพราะเขาเป็นเจ้าของร้าน ส่วนไอ้คำบรรยายบ้าบอนั่น เขาคงจะมโนขึ้นมาเองสินะ

     

    อ่อ เปล่าๆ

    นี่.. ไม่คิดจะหันมาคุยกันบ้างรึไง ปล่อยให้ฉันมองเธอฝ่ายเดียวได้ยังไงเนี่ย ไม่แฟร์เลยนะ แย่ๆเขาทำเสียงเหมือนน้อยใจ ใช่คะ ที่คุยกันมาฉันยังไม่สบตาเขาเลยสักนิด ใครจะกล้าล่ะบอกแล้วไงว่ามันมีความหลังอยู่ = =

    นายก็อย่ามองฉันสิ จะได้แฟร์ไง

    ก็ฉันอยากมองเธออ่ะ!”

    “…”

    หรือจะให้ฉันเอาหน้าเข้าไปใกล้เธอมากกว่านี้ หึ?”

     

    เมื่อฉันได้ยินแบบนั้นก็หันควับไปหาเขาทันที แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้น่ะสิ ก็หน้าของเราอยู่ใกล้กันจนจมูกของฉันไปชนกับจมูกของเขา ฉันรีบดึงหน้ากลับแล้วหลบตาเขาอีกครั้ง

     

    หึ ก็ยังเป็นยัยซุ่มซ่ามเหมือนเดิม

    อะไร ฉันไม่ได้ซุ่มซ่ามซะหน่อย!” ฉันหันกลับไปพูด

    ไม่ได้ซุ่มซ่าม.. แล้วเมื่อกี้ที่หันมาชนหน้าฉันเรียกว่าอะไร อยากจูบฉันหรอ? แล้วตอนนั้นอีก ที่เธอชน..”

    หยุดนะ!” ฉันรีบค้านขึ้นทันทีที่เขาจะพูดเรื่องเก่าๆนั่นออกมา ให้ตายสิ เขาจะพูดเรื่องบ้าๆนั่นอีกทำไม ฉันไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย มันก็แค่อุบัติเหตุเท่านั้นแหละ!

     

    ตอนนี้ฉันรับรู้ได้ถึงใบหน้าที่เริ่มร้อนผ่าว สมองเริ่มประมวลภาพเหตุการณ์ในอดีตที่ฉันยังคงจดจำมันได้ดี และนั่น.. มันเป็นเหตุผลที่ทำไมฉันถึงต้องใจเต้นแรงที่เจอเขาทุกครั้ง

     

    อะๆๆ ไม่พูดแล้วก็ได้ เธอคงยังไม่ลืมมันสินะ

    ก็บอกให้หยุดพูดไงเล่า!”

    นี่เธอตะคอกใส่คนที่มีบุญคุณกับเธออย่างนั้นหรอ

    ฉะ..ฉันเปล่านะ

    เธอนี่มัน ให้ตาย! หัดเข้มแข็งซะบ้างสิ อย่างนี้ไงคนอื่นเขาถึงชอบแกล้งเธอ ถ้าเธอไม่มียัยเพื่อนตัวแสบนั่น เธอจะทำยังไง  ห้ะ!”

     

    ก็อย่างที่เขาพูดนั่นแหละ ฉันอ่อนแอเกินกว่าที่จะอยู่คนเดียวได้ และที่อกหักเหตุผลที่ไวท์ไม่อยากให้ฉันอุดอู้อยู่แต่ในบ้านก็เพราะฉันอ่อนแอเกินไปที่จะรับมันไว้คนเดียว ส่วนเรื่องโดนแกล้ง ฉันโดนจนชินแล้วล่ะและเกือบทุกครั้งไวท์ก็จะมาเป็นคนช่วยฉัน

     

    คุณอาจจะคิดว่าทำไมฉันถึงอ่อนแอได้มากขนาดนี้ ก็เพราะว่าฉันโตมาในครอบครัวที่มีพี่น้องต่างสายเลือดอยู่รวมกันเป็นร้อยๆน่ะสิคะ มีบ้านหลังใหญ่ที่เป็นตึกๆ ถึงจะคอยมีคนเอาใจใส่อย่างเช่นซิสเตอร์ที่คอยเลี้ยงดูฉันมา แต่มันก็เหมือนยังขาดบางอย่างที่ทำให้ฉันอ่อนแอได้มาจนถึงทุกวันนี้

     

    ใช่ ฉันเป็นเด็กกำพร้าตอนนี้ฉันอาศัยอยู่กับซิสเตอร์มาเรีย ท่านเป็นคนอุปถัมภ์ฉัน คอยส่งเสียเรื่องเรียนให้ทุกอย่าง แต่กับไวท์ถึงเธอจะเป็นเหมือนลูกคุณหนูคนหนึ่งแต่เธอก็ไม่คิดที่จะรังเกียจฉันเหมือนคนอื่นๆ เราคบกันเป็นเพื่อนได้พ่อแม่เธอไม่ได้ว่าอะไร แถมยังคอยใส่ใจถามถึงฉันตลอดเวลาอีกด้วย

     

    เฮ้อ ช่างเถอะ! ฉันเดาว่าที่เธอเลือกฉันไม่ใช่เพราะเธอเลือก แต่เป็นเพื่อนเธอเลือกใช่ไหม

    อื้ม

    นี่! มองหน้าฉันสิเวลาตอบน่ะ ฉันไม่ชอบเวลาคุยกับใครแล้วถูกเมินแบบนี้นะ

    อ่ะ..” ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็เอามือมาจับหน้าฉันให้หันไปหาเขา

    นี่ครั้งที่ 2 แล้วนะที่ฉันได้มองเธอใกล้ๆแบบนี้ ^^”

    นายจะพูดแบบนี้ทำไมอีกเนี่ย

    ทำไม เขินหรอ

     

    เขาทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่ฉัน ฉันพยายามที่จะหันหน้าหนีแต่ก็ไร้ประโยชน์เพราะเขายังไม่ปล่อยมือที่เขาจับหน้าฉันไว้ออก รอยยิ้มบ้านั่นมันอะไร เขากำลังคิดอะไรอยู่ เราสบตากันสักพักก่อนที่เขาจะปล่อยมือออก และหน้าเจ้าเล่ห์ของเขาเปลี่ยนไปเป็นใบหน้าที่ฉันคุ้นเคย รอยยิ้มมุมปากหุบลงเหลือแต่เพียงใบหน้าที่มองมานิ่งๆ

     

    ฉันคิดว่าฉันเคยรู้จักคนๆนี้ คนที่ฉันคิดว่าเขาเป็นเจ้าชายของฉัน

    ____________________________________________________


    - TALK -

    ตอนนี้ลงครบ 100% แล้วนะคะ ช่วยติดตามกันด้วยนะรีดเดอร์ที่น่ารัก

    อย่าหายนะคะ^^  2 คนนี้มีอดีตอะไรที่ทุกคนยังไม่รู้ต้องคอยติดตามเนาะ

    ขอบคุณที่ติดตามและอ่านจนจบน้า จุ้บๆ


    1 เม้นเป็นกำลังใจให้รีดเดอร์นะคะ พลีสสสสส



    Tiny Hand
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×