คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ONLY BAE : Prologue (UP 100%)
ค่ำคืนที่แสนจะโหดร้ายและยาวนาน
มีเพียงแสงสว่างจากดวงจันทร์ส่องนำทางให้เห็นจุดหมายปลายทางที่เกินจะเอื้อมถึง
ยามราตรีนี้ยังอีกไกลและแสนไกล เหม่อมองท้องฟ้าที่มืดมิด
ถนนหนทางสัญจรแม้ในยามค่ำคืนเต็มไปด้วยความเงียบเหงาภายในหัวใจ
แต่ไม่ไร้ซึ่งความโดดเดี่ยวในภายนอก
“ไอยู ฉันว่าแกพักผ่อนหน่อยก็ดีนะ”
คำบอกเล่าปะปนกับความเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย
หลุดออกมาจากริมฝีปากบางเฉียบสีแดงระเรื่อของเพื่อนสาวคนสนิทที่มักจะดิ้นรนให้ฉันมีความสุขอยู่เสมอ
ในคืนนี้ฉัน ไอยู ผู้ซึ่งถูกทอดทิ้งให้เดียวดายจากผู้ชายที่เรียกว่าแฟน(เก่า)
อย่างไร้ซึ่งความเยื่อใยและปราณี โดยการขอเลิกแบบเจ็บแสบและถึงทรวงที่สุด ‘เธอมันก็เป็นได้แค่ของเล่นของฉันเท่านั้นแหละ!’
เจ็บไหมล่ะค่ะท่านผู้ชม ถึงทรวงแบบทลายความไว้ใจภายในระยะเวลา0.0009วิกันเลยทีเดียว
“เลิกเหม่อได้ล่ะ นู้น ถึงแล้ว”
ตึกที่ซ้อนอยู่ภายในหลืบ เน้นว่าหลืบ! สีเทาเข้มตกแต่งผนังด้านนอกอย่างสวยงาม
หน้าร้านมีผู้ชายหน้าตาดีใส่เสื้อกล้ามโชว์ก้อนเนื้อที่เป็นมัดๆยืนอยู่ 2-3 คน และผู้หญิงที่ยืนล้อมอีกนับสิบ แต่ในบรรดาผู้หญิงเหล่านั้นนั่นมัน…
“เห้ย!
นั่นยัยสตอ ห้อง 6/4นี่หว่า”
“อืม” ฉันว่าพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ
“ฉันว่าเราเปลี่ยนร้านกันม่ะ”
“แกกลัวเชอรี่หรอไวท์”
“ฉันไม่ได้กลัวเว้ย! แกก็รู้นี่หว่าว่าฉันไม่ค่อยถูกชะตากับยัยนี่เท่าไหร่ ปากยัยนี่เหมือนนกหวีดจะตาย
พูดทีฉันเอามืออุดหูแทบไม่ทัน”
ความจริงยัยสตอที่ไวท์เรียกกับคนที่ชื่อเชอรี่ที่ฉันเรียกมันคือคนๆเดียวกันนั่นแหละ
ไวท์กับเชอรี่ไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ ตั้งแต่เข้ามาอยู่โรงเรียนใหม่ๆแล้ว เพราะว่าเชอรี่เคยเดินมากระชากผมเธอด้วยสาเหตุที่ว่าเธอไปด่าผู้ชายที่ชื่อวี
สมาชิกหนึ่งในกลุ่มที่บรรดาสาวๆแห่กันกรี๊ดสลบทั่วทั้งโรงเรียน
แต่ยกเว้นฉันกับไวท์นะ
เราสองคนเป็นพวกไม่ค่อยชอบเรื่องพวกนี้เท่าไหร่และไม่ค่อยสุงสิงกับใครด้วย
นอกซะจากประธานนักเรียนซึ่งเป็นเพื่อนร่วมห้องของเราอีกคน
“เอาเถอะน่า
แกตั้งใจจะพาฉันมาร้านนี้ไม่ใช่หรอ ดูจากหน้าร้านแล้วก็ไม่ได้แย่อะไรเท่าไหร่นิ”
“มันก็ไม่ได้แย่จริงๆนั่นแหละ
แต่ฉันไม่รับประกันว่าข้างในจะดูดีเหมือนข้างนอกนะเว้ย”
“เอ้า แกยังไม่เคยมาร้านนี้หรอ
ไหนบอกว่าดีนักดีหนาไง”
“ก็พี่ฉันบอกมาแบบนั้น ช่างเถอะ!
ถ้ายัยนั่นเห็นฉันแล้วมากระชากผมฉันอีก ฉันจะเล่นงานแกแทนยัยสตอ
ไอยู”
ฉันไม่ได้พูดตอบอะไรออกไป เพียงแต่ยิ้มๆให้เธอเท่านั้น
แค่ยิ้มฉันยังรู้สึกว่าตัวเองกำลังฝืนอยู่เลย
ความรู้สึกตอนนี้มันเหมือนแบบอยากจะร้องไห้
ยิ่งมาอยู่ในที่ที่พลุกพล่านเต็มไปด้วยผู้คน ทั้งเดินจูงมือกัน กอดกัน
ฉันเห็นบางคนยืนจูบกันข้างถนนก็ยังมี เฮ้ออออ โจ่งแจ้งกันเกินไปหน่อยไหม กะจะประกาศให้คนทั้งโลกรู้รึไงว่าเป็นอะไรกันอะ
ผู้หญิงสมัยนี้นี่ยังไงกัน
ไม่ให้เกียรติตัวเองกันบ้างเลย แต่อย่าเพิ่งคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงแบบนั้นนะ
ที่ฉันมาที่นี้เพราะว่าไวท์เป็นคนชวนฉันมา และถ้ายังคิดว่าแค่ชวนไม่เห็นต้องมาเลย
ก็เพราะว่าเธอชวนฉันด้วยแบบนี้ไง.. ‘อย่าเศร้าไปเลยเพื่อน วันนี้ฉันจะพาแกไปเลี้ยงเอง
ไม่อั้น!’ ถ้าเป็นคุณ คุณก็มาใช่ไหม?^^
“อุ้ยต๊าย! ดูสิใครมา”
เชอรี่ที่ยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับเพื่อนเธออีก 5-6 คน มองมาที่ฉันกับไวท์ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะตกใจไม่น้อยที่เห็นฉันมาที่นี้ “นี่เธอก็มากับยัยขาวนี่ด้วยหรอ เอ๊ะ
แล้วแต่งตัวแบบนี้จะมาเที่ยวหรือจะมานอนกันล่ะจ๊ะ”
เมื่อเชอรี่พูดจบเธอกับเพื่อนก็หัวเราะฉัน
และมองฉันหัวจรดเท้าด้วยสายตาเหยียดๆ ใช่สิ! ก็ฉันไม่ชอบมาสถานที่แบบนี้สักหน่อย
เรื่องเสื้อผ้าแบบที่เธอใส่น่ะฉันก็ไม่มีหรอกนะ จะมีก็แต่ไอ้เสื้อยืดแขนยาว
กางเกงขาสั้นกับร้องเท้าผ้าใบเน่าๆนี่แหละ หึ และยังไม่ทันที่ฉันจะเอ่ยปากขึ้นก็มีเสียงสวรรค์จากข้างๆจิกกัดคนที่พูดเยาะเย้ยฉันเมื่อกี้ได้เจ็บแสบพอควร
“ก่อนที่จะว่าคนอื่น หัดมองดูตัวเองซะบ้าง ทาปากแดงแจ๋ซะขนาดนั้นคิดว่าน่าจูบมากสินะ แล้วนั่นน่ะที่ห้อยอยู่มันคืออะไร พวงมาลัยหรอ ไปร้องเพลงมาใช่ไหม ได้มาเท่าไหร่ล่ะ ฮ่าๆๆ”
“หน๊อย! ฉันไม่พูดกับแกนะยัยขาว
เก็บปากของแกไปซะ!”
“จุ๊ๆๆ อย่าเสียงดังสิเชอรี่
เดี๋ยวผู้ชายที่เธอจะเก็บไว้กินคืนนี้หายไปหมดซะก่อนนะ^^”
ดูท่าทางเชอรี่จะหัวเสียไม่น้อยที่จู่ๆ
ไวท์ก็พูดทำนองว่าเธอเป็นผู้หญิงอย่างว่าออกมา
ฉันได้แต่ยืนทำตาปริบๆมองดูเพื่อนสาวพูดอย่างสนุกสนาน
โดยไม่เกรงกลัวต่อสายตาพิฆาตของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
จากนั้นไวท์ก็จับมือฉันพาเข้าร้าน
แต่ยังไม่วายหันไปพูดกับเชอรี่ต่อ
“เอ๊าะ ฉันลืมบอกเธอไปน่ะเชอรี่
ที่เธอใส่อยู่นั่นมันเหมือนชุดสก๊อยซ้อนท้ายแว๊นแถวบ้านฉันเลยวะ ฮ่าๆๆ ไปละน้า
ไว้เจอกันที่โรงเรียนนะจ๊ะ บ๊ายยย”
ไวท์โบกมือบ๊ายบายก่อนที่เธอจะยิ้มหัวเราะร่าอย่างดีอกดีใจ
แต่กับคนข้างนอกที่โดนตรอกกลับใส่มีอาการอยากจะวิ่งมาตบแต่โดนเพื่อนจับไว้ซะก่อน
เพื่อนฉันคนนี้นี่มันใช่เล่นนะ ปากร้ายอย่าบอกใครเชียว
ฉันกับไวท์เดินเข้ามาในร้าน ก่อนที่จะมีพนักงานมาบริการให้ไปนั่งที่โซฟาขนาดเล็กสำหรับ 4 คน
“ร้านตกแต่งใช้ได้ คนเยอะ
อาหารน่ากิน บริการดี แต่เสียอย่างเดียว..” ฉันหันไปมองเพื่อนสาวแสนสวยที่กำลังทำหน้าคุ่นคิดอะไรสักอย่างอยู่สักพัก
แล้วหันมามองที่ฉัน “ไม่เป็นไร เพื่อแก วันนี้ฉันเลี้ยงไม่อั้นเว้ย!”
“อะไรของแก มันแพงขนาดนั้นเลยไง”
ฉันที่ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร เอื้อมมือไปหยิบเมนูอาหารเล่มใหญ่เหมือนที่ไวท์กำลังดูที่เคลือบพลาสติกอย่างดีแล้วเปิดขึ้นมาดูบ้าง
“โอ๊ะ.. ” ฉันเผลอร้องออกมาเบาๆ
เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในสมุดเล่มนั้น
“แพงใช่ป่ะละ แต่น่าเร้าใจน่าดู
ฮ่าๆๆ”
“แก.. นี่มันไม่ใช่..”
“นี่ๆ คนนี้อย่างเด็ดเลย โอ๊ย ไวท์จะม่ายโทนนนนน”
“= =”
ฉันว่าเพื่อนฉันคนนี้มันเสียสติไปแล้วแน่ๆ นี่มันไม่ใช่เมนูอาหารคะ
แต่เป็น เอ่อ.. เป็นอะไรสักอย่างที่ข้างในมีรูปผู้ชายน่าตาดี(มากกกกก)เรียงกัน บอกชื่อ สัดส่วน
อายุชัดเจน แถมราคาแต่ละคนนี่ก็แบบ.. ฉันกินได้ทั้งเดือนเลยล่ะ!
“น้องเลือกเลยนะจ๊ะ
วันนี้เจ๊เลี้ยงเอง กระเป๋าเจ๊หนัก! ฮู้วเล่”
“น้องเนิ้งอะไรของแกวะเนี่ย สตงสติไปหมดละ
ฉันไม่เอาด้วยหรอกนะแบบนี้อ่ะ ฉันจะกลับบ้าน” ฉันพูดแล้วลุกขึ้นยืน
แต่ไอ้เพื่อนตัวดีดันจับแขนฉันให้นั่งลงซะก่อน
“เถอะน่า ไหนๆก็มาแล้ว
ฉันเลี้ยงไงแก ออกมาเปิดหูเปิดตาซะบ้างจะได้รู้ว่าโลกข้างนอกมันเป็นยังไง
ไม่ใช่เอาแต่อุดอู้อยู่แต่ในบ้านทั้งวัน
ยิ่งแกเป็นแบบนี้อย่าหวังว่าฉันจะให้แกกลับไปง่ายๆ”
“แต่แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบอะไรแบบนี้นี่หว่า”
“เปิดหูเปิดตาไงเพื่อน
เผื่อมันจะทำชีวิตแกดีขึ้น”
“ด้วยวิธีพาฉันมาหาผู้ชายแบบนี้น่ะนะ!”
“ไม่ต้องพูดมากเลย
แกไม่ได้เป็นคนจ่ายไม่มีสิทธิ์พูด เพราะฉนั้น.. เอานี่ไป”
ไวท์ยื้นสมุดเล่มที่ฉันดูเมื่อกี้มาให้
แล้วเธอก็ก้มหน้าก้มตาเลือกเมนูอาหารที่พนักงานเพิ่งจะเอามาให้เมื่อกี้ขึ้นมาสั่ง
อ่อ! และถ้าสงสัยว่าร้านแบบนี้เปิดให้นักเรียน
ม.ปลาย อายุไม่ถึง 20 ปีแบบฉันเข้าด้วยหรอ
ไม่ต้องสงสัยคะ เพราะมันเป็นร้านใต้ดิน ตำรวจไม่ตรวจ ไวท์บอกว่าเจ้าของที่นี้มีอิทธิพลมากจ่ายใต้โต๊ะเดือนละเป็นแสนเลยทีเดียว
ฉันเลื่อนดูสมุดแบบผ่านๆ ไม่ได้ตั้งใจจะเลือกซักเท่าไหร่
ก็แหมฉันยังไม่ถึง 18 เลยนะ
เรื่องแบบนี้ฉันไม่ค่อยถนัดเหมือนไอ้เพื่อนตัวดีนักหรอก ฉันเห็นไวท์สั่งอาหารเสร็จ
ก็หยิบสมุดแบบเดียวกับฉันขึ้นมาดู
ระหว่างที่ฉันดูสมุดเปิดแล้วเปิดอีก จนคิดว่ากระดาษที่เคลือบพลาสติกอย่างดีมันจะหลุดออกมาในไม่ช้า
พนักงานที่เอาเมนูอาหารมาให้เมื่อกี้คงคิดว่าฉันไม่ถูกใจกับใครสักคนที่เป็นตัวเลือกอยู่ในสมุดแหงๆ
เขาถึงพูดขึ้นมาก่อนที่ฉันจะทำให้ทรัพย์สินของร้านเขาเสียหาย
“ไม่ถูกใจหรอครับ^^”
“อะ.. เอ่อ
เปล่าคะ” หือ นี่แค่พนักงานเสิร์ฟนะ ปากยังหวานแถมยิ้มกระชากใจขนาดนี้
“แต่ดูท่าทางแล้วจะไม่ถูกใจเลยนะครับ
ทางร้านเรามีบริการตัวเลือก Top 10 ให้บริการนะครับคุณหนู
คุณหนูสนใจไหมครับ^^”
“สนคะ!” คุณรู้ใช่ไหมค่ะว่านั่นเสียงใคร
= =
“รอสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมเอามาให้^^”
ไม่นานนักพนักงานหนุ่มหล่อยิ้มกระชากใจคนนั้นก็เดินกลับมา
พร้อมกับกระดาษใบใหญ่ที่เคลือบพลาสติก แล้วส่งมาให้ไวท์พร้อมยิ้มให้เธอก่อนจะเดินกลับไปทางเดิม
ฉันว่าตอนนี้สติเพื่อนฉันคงไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วแน่ๆ
ดูท่าทางนางสิ ตานี่แวววาวเป็นประกายส่องสว่างเจิดจรัส
ประหนึ่งว่ากระดาษที่อยู่ในมือเป็นทองคำแท้อย่างนั้นแหละ
แต่สักพักก่อนที่เธอจะทำหน้าคิ้วขมวด มองมาที่ฉันอย่างตกใจ
“ไอยู แกดูนี่” ไวท์ส่งกระดาษมาให้ฉัน
“หืออออ โครตแพงเลยวะ”
“ไม่ใช่! แกดูนี่ คนนี้” ไวท์ชี้นิ้วไปที่ผู้ชายคนหนึ่ง ที่ไม่ได้อยู่ในลิส Top 10 แต่อยู่ในลิสของผู้ชายที่มีค่าตัวแพงที่สุด!
“หนุ่มน้อยหน้าใสเสียงหวาน เขาอาจทำให้คุณละลายได้ภายใน 5 วินาที..” ฉันอ่านข้อมูลของผู้ชายคนนั้นอย่างนึกไม่ถึง “หนุ่ม ม.ปลาย ตัวเล็กน่ารักอายุ 17 ปี ส่วนสูง 174..”
นะ..นี้มันอะไรกัน เขา..
______________________________________________
- TALK -
prologue อาจจะยังไม่ค่อยลุ้นสักเท่าไหร่ ก็แหมเพิ่งเริ่มเรื่องมาเองนิเนาะ^^
ยังไงก็คอยติดตามอ่านกันเรื่อยๆนะคะ ไรท์สัญญาว่าจะเขียนออกมาให้ดีที่สุด
เท่าที่ไรท์จะจินตนาการได้นะ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
1 เม้นเป็นกำลังใจให้เค้าทำตอนต่อไปน้า จุ้บๆรีดเดอร์ -3-
ความคิดเห็น