ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปิ๊งรักยัยเอ๋อ รักเธอสุดหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #9 : ทำตัวเป็นผู้สอดรู้สอดเห็น

    • อัปเดตล่าสุด 18 ม.ค. 50


    เธอว่าเค้าจะพูดเรื่องอะไรกันน่ะนายนั่นพูดขึ้น  โอ๊ย...นายจะมาถาม

    อะไรตอนนี้ยะขัดจังหวะการฟังฉันนะ หุบปากไปเลยนายน่ะ
    ฉันพูดไป แล้วหัน

    หน้าไปสนใจทั้งสองคนนั้นต่อ


             “
    เรื่องไรล่ะพี่พีถามมิ้งค์ คือ...ไม่รู้ว่าพี่จะเชื่อรึป่าวนะ แต่ก็อยากจะ

    มาบอกไว้ ว่าอย่ามาสนใจมิ้งค์เลย มิ้งค์ไม่ได้เลิศเลออะไร คือ....
    ยัยมิ้งค์อั้มอึ้ง คือ

    อะไร
    พี่พีถามต่อ คือ...มิ้งค์ไม่อยากแย่งความสุขใครน่ะ คือ พี่กลับไปเอาใจใส่

    น้องสาวพี่ดีกว่านะ
    ยัยมิ้งค์พูด โถ นางเอ๊กนางเอก แหวะ นางเอกผู้แสนดีเป็นฉัน

    นะฉันจะรีบคว้าไว้เลย ไม่ปล่อยไปง่ายๆแบบนี้หรอก เพื่อนฉันนี่ก็จริงๆเลย ไม่เข้า

    ใจเค้าเลยจริงๆ ไม่ได้การแล้วฉันต้องเข้าไปบอก แต่พอฉันกำลังจะเดินออกไป นาย

    นั่นก็ดึงแขนฉันไว้
    นี่ดึงแขนฉันทำไมเล่า ฉันพูดด้วยท่าทางไม่พอใจเล็กน้อย

    ถ้าเธอเข้าไปก็คงจะดูไม่ดีหรอกนะ เรื่องส่วนตัวของเค้า ให้เค้าตัดสินใจกันเองสิ

    ยัยจุ้นเอ้ย
    นายนั่นพูด


             “
    แล้วทำไมล่ะ ถ้าพี่จะบอกว่าพี่จะไม่เลิกยุ่งกับเรา พี่พีพูด ทำเอายัยมิ้งค์

    ถึงกับทำหน้าเครียดจัด แล้วยืนนิ่งไปเลย
    พี่ไม่รู้หรอกนะว่าเราไปได้ยินอะไรมาน่ะ
     
    แล้วเราก็ไม่ต้องกลัวว่าไปแย่งพี่มาจากใคร เพราะพี่ไม่เคยมีใคร
    และไม่ต้องห่วง

    ด้วยเพราะพี่รักเดียวใจเดียว
    พี่พีพูด เฮ้ย....จะบ้าเหรอ พี่บ้าป่าวเนี่ย พูดยังกับว่า

    เราเป็นแฟนกันงั้นแหละ มิ้งค์ไปตกลงเป็นแฟนกับพี่ตอนไหนมิทราบฮะ หลงตัว

    เองจริงๆเลยพี่เนี่ย
    มิ้งค์พูด อ้าวยังไม่ตกลงตอนนี้แต่อีกเดี๋ยวต้องตกลงแน่ พี่พี

    พูดติดตลก
    เชอะ ชาติหน้าตอนบ่ายๆแล้วกันนะ แบร่ยัยมิ้งค์พูดแล้วแลบลิ้นใส่พี่

    พีแล้ววิ่งหนีไปเลย ปล่อยให้พี่พียืนอมยิ้มอยู่คนเดียว ให้ตายสิพี่พีนี่ก็ไม่รู้เรื่องอะไร

    เลย น่าจะมาชอบฉันมากกว่าฉันอิจฉานะ
    นี่เธอ ยิ้มอยู่ได้ บ้าเหรอนายนั่นกระตุก

    แขนฉัน เล่นเอาซะหลุดออกจากห้วงความคิดไปทันที ฉันก็แค่หันไปมองหน้านาย

    นั่นเฉยๆ
    อิจฉาเค้ารึไง ฮะ นายนนั่นพูดแล้วทำหน้ากวนๆ นี่ ฉันพูดพร้อมยก

    เท้าเหยียบเท้าของนายนั่นเต็มแรง
    โอ๊ย!”นายนั่นครางออกมา โอ๊ยนี่ เธอทำอะไร

    ของเธอน่ะ ฉันเจ็บนะ
    นายนั่นพูดพร้อมกับเอามือกุมเท้าตัวเองไว้ ดี สมน้ำหน้า

    อยากว่าฉันดีนัก
    ฉันพูดเป็นเชิงเยาะเย้ยแล้วเดินออกไป


    ................................


    ................................


              “
    นี่ๆได้ข่าวว่าปีหน้าจะมีนักเรียนแลกเปลี่ยนมาเรียนห้องเราเหรอ เสียง

    คุยกันของเพื่อนข้างๆโต๊ะดังขึ้น ฉันก็เลยตั้งใจฟังเป็นอย่างดี
    แล้วผู้หญิงหรือผู้ชาย

    ล่ะ
    เสียงเพื่อนอีกคนถามขึ้น ใช่ๆผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะยัยก้านที่กำลังนั่งฟังอยู่กับ

    ฉันทนไม่ไหวเลยรีบเค้าไปแจม(แต่ฉันก็เดินเข้าไปด้วยนะ)
    ก็เห็นว่าเป็นผู้ชายนะ

    เป็นลูกมหาเศรษฐีด้วย
    เพื่อนอีกคนตอบ ถ้านับดูแล้วก็เหลืออีกประมาณเดือนกว่าๆ

    จะสอบเลื่อนชั้นอ่ะนะ แล้วพอปิดเทอมฉันก็กะว่าจะไม่กลับบ้านด้วยจะอยู่มันที่หอ

    เนี่ยแหละอยู่เป็นเพื่อนยัยมิ้งค์เพราะพ่อแม่มันไปอเมริกามันเลยบอกว่าไม่อยากกลับ

    บ้าน กลับไปก็อยู่คนเดียว ฉันก็เลยอาสาอยู่ที่โรงเรียนเป็นเพื่อน ฉันเป็นเพื่อนที่ดีใช่

    มั้ยล่ะ


              “
    เห็นว่าจะย้ายมาตอนปิเทอมนะเสียงเพื่อนอีกคนนึงพูดขึ้น ถ้าย้ายมา

    ตอนปิดเทอมฉันก็ไม่ได้เห้นคนแรกสิ
    ยัยก้านพูดขึ้น แต่ฉันคิดว่าปิดเทอมเนี้ยฉัน

    จะอยู่ที่โรงเรียนเพราะฉันลงสมัครเรียนพิเศษไว้แล้ว
    เพื่อนคนเดิมพูดขึ้น ฉันก็ได้

    แต่นั่งนิ่งๆอยู่อย่างนั้นแหละ ก็ฉันเป็นเด็กเรียบร้อยนี่นา เรื่องผู้ชายเนี่ยไม่เคยพูดถึง

    (จริงเหรอเนี่ย
    ^-^)


    ………………


             “
    นี่ใกล้สอบแล้วนะเรามาอ่านหนังสือกันเถอะเสียงของยัยกิมกับยัยมิ้งค์

    เดินเข้ามา พร้อมกับหนังสือกองโตในมือ
    โอ้โห แกจะเอามาฝังศพแกเหรอฮะก้าน

    พูดพลางตกใจผสมอึ้งเล็กน้อย
    ไม่ต้องบ่นมากเลยแก อ่านซะยัยมิ้งค์พูดพลางทิ้ง

    กองหนังสือกองโตที่เจ้าตัวหอบมาลงตรงหน้าฉันและยัยก้านที่กำลังอร่อยกับ

    ขนมอย่างเพลินอุรา ฉันกับยัยก้านก็ได้แต่มองหน้ากันเหนื่อยๆ
    เออนี่จิ๊บแกยังไม่ได้

    จ่ายค่าน้ำฉันเลยนะ เอามาเลย 10 บาท
    ยัยกิมทวงเงินค่าน้ำเมื่อวานนี้กับฉัน โถ่ งก

    เป็นบ้าเลยแค่ 10 บาทเอง


                   แต่......
    เฮ้ย...กระเป๋าตัง กระเป๋าตังฉันอยู่ไหนล่ะฉันล่ะกนขึ้นเล่นเอา

    ทุกคนตกใจกันหมด
    แกไม่ได้ไปวางลืมไว้ไหนเหรอ ยัยกิมถาม ฉันหยุดคิดไป

    พักนึงแล้วตอบว่า
    ใช่! มันอยู่ใต้โต๊ะ เดี๋ยวฉันมานะ ฉันพูดพลางกำลังจะเตรียม

    ตัวลุกออกไป
    รีบๆไปล่ะเดี๋ยวมันจะหายซะก่อน แล้วอย่าวิ่งชนเสาอีกนะยัยก้าน

    พูดขึ้น แล้วฉันก็วิ่งไปทันทีเลย


                 ฉันไม่ชนเสาร์หรอกเพราะฉันจำได้แล้วว่าทางโค้งข้างหน้ามีเสาร์อยู่หนึ่ง

    ต้น ฉันคิดพลางวิ่งหลบเสาต้นแรกไป ไม่ชนแล้วล่ะเพราะเสาต้นประจำที่ฉันชอบ

    เดินชนมันก็ไม่ชนแล้ว ฉันก็เลยวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด
    ตึง โอย....เจ็บ เจ็บเป็น

    บ้าเลยฉันชนเสาอีกแล้วเหรอเนี่ย ลืมไปเลยว่ามันมีเสาอยู่ตรงเนี้ย โถ่...ไม่น่าเลยเรา


    ซุ่มซ่ามจริงๆเธอเนี่ยเสียงหนึ่งดังขึ้นทางข้างหลังฉัน โอย...เจ็บจะตายแล้วยังมา

    ซ้ำเติมอีก
    ฉันครางออกมาขณะที่นั่งแหมะอยู่กับพื้น อ้าว แล้วฉันพูดกับใครอยู่เนี่ย
     
    อ้าว นายเองเหรอ ฉันพูดขณะหันไปมองนั่นก็คือนายอาร์ทนั่นเอง ทำไมน้า ทุกที

    ที่ฉันชนเสาก็เจอแต่นายทุกทีไม่เข้าใจจริงๆเลย


                 “
    เอ้า...ลุกขึ้นมาสิ นายนั่นพูดแล้วยื่นมือมาให้ฉัน แหมนายนี่ก็เป็น

    สุภาพบุรุษเป็นเหมือนกันแฮะ
    ไม่เป็นไรฉันลุกเองได้ แค่นี้จิ๊บๆ ฉันพูดอย่างมั้นใจ

    เต็มที่แล้วพยุงตัวเองลุกขึ้นมา แต่...
    โอะ ลุกไม่ได้อ่ะ เจ็บขา ก็คราวนี้มันล้ม

    แรงกว่าทุกครั้งนี่นา
    มานี่ ขึ้นหลังฉันนายนั่นพูดพลางนั่งลงมาให้ฉันขึ้นหลัง

    เฮ้ย...นายจะไหวเหรอฉันพูดด้วยท่าทางหวั่นเต็มที่ก็ฉันว่าตัวฉันต้องหนักมาก

    แน่ๆเลย แต่ ฉันก็ตัดสินใจขึ้นมาจนได้
    เดี๋ยว ฉันจะไปเอากระเป๋าตังที่ห้องเรียน

     ฉันพูดขณะที่นายนั่นกำลังจะแบกฉันไปไหนก็ยังไม่รู้เลย
    ไม่ต้องไปหรอกนาย

    นั่นพูด
    เฮ้ย นาย พูดอะไรนะ เงินค่าขนมฉันทั้งเดือนเลยนะ ฉันพูดออกไป ที่เธอ

    ว่าหมายถึง...ไอ้นี่รึป่าว
    นายนั่นพูดพลางชูกระเป๋าตังลายหมีสีฟ้าของฉันขึ้น เข้า

    กับกางเกงในตัวนั้นเลย
    นายนั่นพูดต่อ ไอ้บ้า นายนี่ทุเรศที่สุด ฉันพูด นายหน้า

    มึนนั่นก็เอาแต่หัวเราะไม่หยุด แล้วจู่ๆนายนั่นก็เงียบไป
    คือ ฉันมีเรื่องจะบอกนาย

    นั่นพูดเสียงอ่อยๆ
    แล้วเรื่องอะไรล่ะฉันถามไป แล้วเรื่องอะไรล่ะเนี่ย คือ....ขอ

    โทษนะ
    นายนี่ท่าจะเพี้ยน มาขอโทษฉันทำไมอ่ะฉันถามด้วยความสงสัยเต็มที่

    ฉันทำเงินในกระเป๋าเธอหายน่ะ นายนั่นพูดออกมาจนได้และมันเป็นสิ่งที่ทำให้

    ฉันช็อคสุดขีด ค่าขนมทั้งเดือนของช้านน..... นายตายแน่
    นี่นาย รู้มั้ยว่า ค่าขนมฉัน

    ทั้งเดือน นายทำงี้ได้ไงหา
    ฉันตะคอกออกไป น่านะอย่าโกรธเลยนะ เดี๋ยวอาทิตย์

    หน้าฉันเอามาให้คืน นะ แค่สามพันกว่าเท่านั่นเอง
    นายนั่นพูดออกมาหน้าด้านๆ

    นายจะบ้าหรือไงฮะตั้งสามพันกว่าเชียวนะ นายบ้าเอ้ย ฉันไม่รู้จะด่านายว่าอะไรดี

    เนี่ย
    แล้วนายทำมันหายได้ยังไง ในเมื่อกระเป๋าตังก็ยังอยู่กับนายนี่นาฉันถาม ก็

    คือว่า อย่างนี้นะ
    นายนั่นพูดพลางวางฉันลงตรงโต๊ะม้าหินอ่อนเบื้องหน้าแล้วเดิน

    มานั่งตรงหน้าฉัน
    ฉันกะว่าจะแกล้งเธอเล่นเฉยๆน่ะ แต่พอเปิดกระเป๋าเธอดูอีกที

    นึงมันก็หายไปแล้วน่ะ สงสัยมันจะตกหายตอนที่ฉันกำลังค้นกระเป๋าเธออยู่
    นาย

    นั่นพูดออกมาในที่สุด หน็อยอีตานี่แกล้งฉันเหรอ ไม่รู้เรื่องรู้ราวเลย
    นี่นาย แล้วฉัน

    จะเอาเงินไหนกินข้าวเนี่ย อาหารยิ่งแพงๆอยู่
    ฉันบ่นออกไป แหม...คือฉันไม่ได้งก

    เกินเหตุนะก็มันแพงจริงๆนี่นา ข้าวราดแกงธรรมดาจานนึงก็จานตั้ง 50 บาทแล้ว

    แล้วไหนจะน้ำอีกล่ะขนมอีก โอยซวยจริงๆเลยฉันเนี่ย
    เอางี้นะนายนั่นพูดขึ้น

    เหมือนว่าจะนึกอะไรออก
    ฉันพอมีเงินอยู่บ้างนะ แต่ถ้าให้เธอครบทีเดียวฉันก็ไม่มี

    กินเหมือนกันแหละ ก็เลยว่าจะให้เธอเป็นมื้อแล้วกันนะเพราะรออีก3 วันก็จะได้

    กลับบ้านแล้วน่ะเพราะว่าวันเสาร์อาทิตย์ฉันก็จะกลับไปเอาเงินที่บ้าน เอาเป็นว่า ทั้

    งหมดเดี๋ยวฉันเอามาคืนให้วันอาทิตย์ที่โรงเรียนนะ
    นายนั่นพูดซะยาวเลยฉันยังไม่

    ได้ว่าอะไรซักคำ แต่ก็ดีที่มีความรับผิดชอบ ตแก็แสดงว่าภายในสามวันนี้ฉันก็ต้อง

    แบมือของตังนายซื้อข้าวอ่ะสิ คิดแล้วมันยังไงยังไงก็ไม่รู้แฮะ แต่ก็ไม่รู้ทำไม ไม่

    รู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนเท่าที่ควรจะเป็นแต่กลับดีใจนิดๆล่ะมั้ง (เป็นบ้าแล้วเหรอ

    เงินหายสามพันกว่าเนี่ยนะดีใจ ท่าจะบ้านะเราเนี่ย)


            ก็สรุปว่าฉันได้เงินคืนครบทุกบาททุกสตางค์แหละนะ แต่กว่าจะได้คืนนี่สิ ไม่

    ได้กินหนมอร่อยๆตั้งสามวันแหน่ะ ไปขอยืมเงินไอ้เพื่อนบ้าสามคนนั่น มันก็ขี้

    เหนียว โดยเฉพาะยัยมิ้งค์จอมขี้ตืดนะ รวยก็รวยแต่ทำไม ขี้งกจัง


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×