คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ปิดเทอมหรรษา
เย้...ในที่สุดก็ปิดเทอมซักทีพวกฉันตกลงกันไว้แล้วว่าจะไปเที่ยวทะเลกัน
ฉันก็เลยโทรไปอ้อนวอนพ่อกับแม่ว่าจะไม่กลับบ้านแล้วก็ขอเงินค่าขนมเพิ่มอีก มัน
ช่างมีความสุขอะไรเช่นนี้ พวกคุณหนูไฮโซก็ไม่ต้องไปเจอหน้า แถมยังไม่มีนายนั่น
ไปให้รกหูรกตาอีก
“เฮ้...นี่พวกแกไปกันได้รึยัง”ฉันตะโกนถามพวกเพื่อนของฉันที่กำลังง่วน
อยู่กับการเตรียมสัมภาระในการเดินทาง แล้วไม่นานก็มีเสียงยัยก้านตะโกนตอบมา
“นี่ เข้ามานี่ซิ” ฉันก็รีบเข้าไปทันทีเลย “มีอะไรเหรอ ฉันอยากไปจะแย่แล้วนะ” ฉัน
พูดอย่างกระตือรือร้น “ก็มาเตรียม ของช่วยกันสิ”ยัยกิมพูดขณะที่ก้มหน้าก้มตาจัด
อาหารการกินอยู่ แต่ฉันก็ต้องแปลกใจเพราะของทุกอย่าง ทั้งแซนวิช น้ำ นม กล่อง
ข้าวมันมี 5 ชุด ก็พวกเรามี 4 คนนี่นา แล้วทำไม...? “นี่จ้องอยู่ได้ ก็เราจะไปกัน 5
คนไง” ยัยมิ้งค์พูดอย่างกับว่ารู้ความในใจของฉัน “ 5 คน?”ฉันถามพลางมองหน้า
ทุกคน อย่างประหลาดใจ “ใช่”ก้านตอบ “ก็มีนายอาร์ทอีกคนไง” “แกว่าไงนะ นาย
นั่นเหรอ”ฉันพูดแบบพลางตกใจสุดขีด “งั้น ฉันกลับล่ะ” ฉันพูดพลางคว้ากระเป๋า
เตรียมตัวจะกลับบ้าน “โธ่...จิ๊บจ๋า เราต้องเป็นคนที่รู้จัคุณคนนะจ๊ะ เค้าอุตส่าห์ทำใ
ห้เราคะแนนดี และอีกอย่างฉันเป็นคนชวนเค้ามาเองแหละ” ยัยก้านทำเสียงอ่อน
เสียงหวาน น่าขนลุกชะมัด “แล้วเกี่ยวอะไรกับฉันเล่า ก็ให้นายนั่นไปก็แล้วกัน ฉัน
จะกลับ”ฉันพูดด้วยความรู้สึกน้อยใจนิดๆ
“งั้นฉันไม่ไปก็ได้”เสียงหนึ่งดังเข้ามาจากนอกห้อง ปรากฏว่าเป็นนายอาร์ท
ไม่น่าเชื่อเลย นายนั่นทำหน้าเศร้ายังกับหมาหงอยท่าทางจะเสียใจมากน่ะสิ โถปาก
ช้าน ไม่น่าเลย หวังว่านายคงจะไม่เสียใจจนคิดสั้นนะ
โอย...แย่ล่ะสิ พวกนี้มองฉันเป็นตาเดียวเลยเพื่อนฉันโกรธฉันแหง จะทำ
ไงได้ล่ะ ก็คงต้องยอมให้นายนั่นไปด้วยซะละมั้ง “นี่ฉันให้นายนั่นไปด้วยก็ได้”ฉัน
หันไปพูดกับเพื่อนของฉันอย่างสำนึกผิด “สายไปแล้วล่ะ อาร์ทเค้าไม่ไปกับเรา
แล้ว”ยัยกิมพูดอย่างเศร้าๆ “แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ” ฉันพูดอย่างกระวนกระวายใจ
“ก็ไปง้อเค้าสิ” ยัยก้านพูดขึ้นมาทำเอาฉันอึ้งไปชั่วขณะแต่ก็พยักหน้ารับโดยดี
โธ่
ฉันต้องไปหานายนั่นจริงๆเหรอเนี่ย เอาก็เอาวะ ลองซักครั้งไม่เสีย
หลาย แล้วฉันจะเริ่มที่ตรงไหนก่อนล่ะเนี่ย อืม...เอาเป็นว่าทำหน้าหงิมๆสำนึกผิด
เข้าไปขอโทษก็แล้วกัน
“นี่ นายโกรธฉันเหรอ”ฉันพูดพลางเดินเข้าไปหานายนั่นตอนหันหลังให้
“ป่าวนี่ ฉันไม่มีสิทธิโกรธเธอหรอก” นายนั่นงอนเหมือนผู้หญิงเลยแฮะ แต่ดูๆไปก็
น่ารักดีนะ “โอ๋...แต่แต๊แต่แต๊ งอนเหรอตัวเอง”ฉันง้อนายนั่นแบบเลี่ยนๆแบบที่ไม่
เคยใช้พูดกับใครมาก่อน “หึ หึ”เสียงนายนั่นหัวเราะ “หัวเราะอะไรอ่ะ” ฉันถามด้วย
น้ำเสียงอ่อนหวานสุดๆ “เธอนี่ตลกดีนะ”หา?ฉันตลกเหรอ? “ตลกตรงไหนมิทราบ
ยะ”ฉันเริ่มอารมณ์ขึ้น “ก็....ไม่มีอะไรหรอก ตกลงมาง้อให้ฉันไปด้วยใช่มั้ย” แต่ฉัน
ยังไม่ทันจะอ้าปากตอบเลยนายนั่นก็พูดเองเออเองไปซะงั้น “งั้นฉันไปด้วยก็ได้” พอ
นายนั่นพูดจบก็ดึงแขนฉันไปทันทีเลย แต่ไม่รู้ทำไมฉันกลับเดินตามมาโดยดี
เฮ้อ...ในที่สุดก็มาถึงจนได้ ทะเลนี่สวยจังเนอะ ฉันจำได้ว่าฉันไปเที่ยว
ทะเลครั้งสุดท้ายตอนอยู่ ป.1 แต่ที่นี่สวยจังเลย ทนไม่ไหวแล้ว อยากเล่นน้ำจังเลย
“นี่ยัยก้าน ไปเล่นน้ำกันเถอะ”ฉันชวนยัยก้านไปเล่นน้ำขณะที่มันกำลังง่วนกับการ
ขนสัมภาระเข้าที่พักอยู่แต่มันก็ส่ายหน้าแล้วเดินหายไปเฉยเลย ความจริงที่พักที่เรา
มาอยู่กันเนี่ยเป็นบ้านพักต่างอากาศของพ่อยัยมิ้งค์ เป็นบ้านหลังติดทะเล สวยมาก
เลยมีห้องพักอยู่ประมาณ7-8ห้องได้ เราจะมาพักกันประมาณ 4 คืน 5 วัน นี่หมายถึง
ว่าถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนะ
ฉันไปจองห้องที่อยู่มุมตรงที่มีวิวทะเลชัดเจนที่สุดแต่ข้างห้องฉันนี่สิสุด
เซ็งเลยดันเป็นนายนั่นซะได้ ส่วนห้องข้างๆอีกฝั่งนึงก็เป็นยัยกิม เฮ้อ...ฉันลำบากใจ
จังมาเป็นตัวขัดขวางความรักเพื่อนอีกแล้ว เล่นซะคั่นกลางห้องเลยฉันอยากย้าย
ห้องจัง
ในที่สุดฉันก็ได้เล่นน้ำซักที น้ำทะเลนี่เค็มเป็นบ้าเลยแฮะ คลื่นก็แรง ฉัน
กลืนน้ำเข้าไปตั้งหลายอึกแน่ะ ส่วนยัยก้านน่ะ เหรอ โน่นขับเจสกีแข่งกับนายนั่นอยู่
นั่น ฉันล่ะอยากขับเป็นจริงๆ ท่าทางน่าสนุกสุดๆ ก็ดเพื่อนคนอื่นเค้าขับเป็นกันทุก
คนแล้วจะไม่ให้ฉันไม่อยากขับได้ยังไงเล่า แต่ก็ยังดีที่ยัยมิ้งค์กับยัยกิมอุตส่าห์ไม่ไป
เล่นเจสกีเลยมาเล่นน้ำเป็นเพื่อนฉัน แต่วันนี้เนี่ยนะสนุกเป็นบ้าเลย
เช้าวันต่อมา เป็นวันที่สดใสท้องโปร่งเมฆน้อย ฉันออกมาเดินชมหาดตาม
ลำพัง(เหมือนนางเอกละครเลยแฮะ) หาดทรายที่นี่อ่ะนะ เป็นสีขาวสะอาด คู่กับน้ำ
ทะเลสีครามที่น่าหลงใหลนี่
“นี่...รอด้วย จิ๊บ...รอฉันด้วย”เสียงยัยกิมวิ่งตามฉันมา “อ้าวยัยกิม ตื่นแล้ว
เหรอ” ฉันถามยัยกิมเพราะเห็นว่ายัยกิมค่อนข้างที่จะตื่นสาย “แหมมาชมวิวเนี่ยไม่
ชวนกันเลยนะ”ยัยกิมพูดพลางหอบแหกๆเพราะคงจะวิ่งมาไกล “วิวสวยนะ”ยัยกิม
พูดพลางสูดอากาศบริสุทธิ์จากทะเลซะฟอดใหญ่ คงจะชอบที่นี่มากเหมือนกับฉัน
ล่ะนะ “นี่จิ๊บ เธอคิดยังไงกับอาร์ทเหรอ”จู่ๆยัยกิมก็ถามฉันขึ้นมาเล่นเอาฉันช็อกซีนี
ม่าไปเลย “ทะ ทะทำไมเธอ...ถึง ถึงถามอย่างนั้นล่ะ”ฉันถามยัยกิมออกไปเพราะไม่รู้
ว่ายัยนี่คิดอะไรกันแน่ “ก็...ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากรู้น่ะ เห็นท่าทางอาร์ทเค้าดูสนิท
กับเธอดีน่ะ”ยัยกิมพูดด้วยท่าทางเหมือนว่าจะหนักใจไม่ใช่น้อยเลย “ก็ ไม่ได้คิด
อะไรหรอก แทบจะไม่อยากจะเห็นหน้านายนั่นด้วยซ้ำ”ฉันพูดตามความรู้สึกพลาง
มองดูทะเลเบื้องหน้า แต่ฉันก็ไม่แน่ใจหรอกนะว่าพูดไปอย่างเนี้ยมันตรงกับใจฉันรึ
ป่าว มันรู้สึกแปลกๆบอกไม่ถูกเหมือนว่ามันสับสนยังไงก็ไม่รู้สิ แต่ฉันคิดว่าฉันไม่
รู้สึกอะไรกับนายนั่นเลยเพราะว่านายนั่นออกจะเพลย์บอยฉันไม่ชอบคนอย่างนั้นนี่
ฉันชอบคนที่เป็นสุภาพบุรุษอ่อนโยน ต่างจากนายนั่นที่แข็งกระด้าง ไม่เป็นสุภาพ
บุรุษเอาซะเลย ไม่ไม่ไม่ยังไงฉันก็เกลียดนาย
“คือ เธอไม่สบายใจใช่มั้ยที่นายนั่นมาขอให้ฉันเล่นละครเป็นแฟน
น่ะ”ฉันตัดสินใจถามยัยกิมออกไปตรงๆ “ไม่ใช่หรอกเรื่องนั้นนะฉันไม่คิดอะไร
จริงๆนะ ฉันแค่อยากรู้เท่านั้นเอง คือ...ถ้าเธอจะชอบอาร์ทก็ไม่เป็นไรนี่”ยัยกิมพูด
ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “แล้วเธอ..ไม่ชอบนายนั่นแล้วเหรอ”ฉันถามยัยกิมเพราะสงสัยเต็ม
ที่ว่ายัยกิมไม่ชอบนายนั่นแล้วหรือไง ทำไมถามฉันแบบนี้ แล้วทำไมพูดแบบนี้แล้ว
ยังยิ้มแย้มอยู่ได้ “ก็ไม่รู้สิรู้แต่ว่า มันอยู่ไกลเกินไป เค้าอาจจะชอบใครซักคนนึงอยู่ก็
ได้ จริงๆนะ”ยัยกิมพูดแล้วหันมามองหน้าฉัน “หึหึ ยังไงฉันก็ไม่ชอบนายนั่นอยู่ดี
แหละ”ฉันรีบพูดออกไปก่อนที่ยัยกิมจะเข้าใจฉันผิด “จริงเหรอ?”ยัยกิมถามฉันแล้ว
ทำหน้าแปลกๆชอบกล “เฮ้ย ไอ้บ้า ทำไมทำหน้าแบบนั้นวะ ฉันขนลุกนะเฟ้ย ทำ
หน้าเหมือนนายนั่นเลย”ฉันพูดออกไป มันทำให้ยัยกิมทำหน้านิ่งไปชั่วขณะ ก็มัน
เหมือนจริงๆนี่ “เธออยากรู้มั้ยว่าที่ฉันถามเธอเนี่ยเพราะอะไร”จู่ๆยัยกิมก็พูดขึ้นมา
ทำเอาฉันมึนงงไปหมด “ละละแล้วทำไมล่ะ”ฉันถามออกไป “ไม่บอกเดี๋ยวรูเอง
แหละ”ยัยกิมพูดทำหน้าสนุกเต็มที่เลย “เธอนี่ท่าจะบ๊องส์”ฉันพูดออกไป “เออ ไป
กันเถอะ เห็นว่ายัยมิ้งค์จะพาไปเที่ยวที่เกาะไม่ใช่เหรอ”ยัยกิมชวนฉันกลับ เพราะ
โปรแกรมการเที่ยวของวันที่สองเราจะไปเที่ยวที่เกาะกันและเราก็จะไปแคมปิ้งกัน
ด้วยน่าสนุกมากเลยอันเนี้ย
ที่เกาะ
.
“ว้าวสวยจัง”ยัยก้านลงจากเรือคนแรกพูกอย่างแจ่มใส “ไม่คิดเลยว่าจะมี
คนมาแคมปิ้งที่นี่เหมือนเราด้วย ดูสิ มีตั้งสี่ห้า แคมป์แน่ะ” ยัยมิ้งค์พูดขึ้นพลางกวาด
ตามองทั่วทั้งบริเวณ “น่าสนุกจังเลย”นายนั่นพูดพลางขนของแบกสัมภาระลงเรือ
แล้วพวกเราก็จัดแจงช่วยกันกางเต้นท์ กว่าจะกางเสร็จก็กินเวลาไปชั่วโมงเต็มๆ เรา
กางเต้นท์ทั้งหมดสองเต้นท์ เต้นท์นึงก็เป็นของพวกฉันส่วนเต้นท์ข้างๆก็เป็นเต้นท์
ของนายนั่น
ถึงคราวก่อกองไฟ ยัยบ้ามิ้งค์ดันลืมเอาอุปกรณ์ติดไฟมาน่ะสิ ดูซิมืดแล้วยุง
ก็กัด แต่นายนั่นก็อาสาที่จะไปขอยืมเต้นท์ข้างๆมาให้
เวลาผ่านไปห้านาทีได้ นายนั่นก็ยังไม่กลับมาซักที ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น กับ
นายรึป่าว
“อ้าวทุกคนไฟมาแล้ว”นายนั่นเลยกลับมาพร้อมกับชายหนุ่มอีกคนนั่นก็
คือ “พี่พี”ยัยมิ้งค์พูดขึ้นมาทันที ใช่แล้วรุ่นพี่หนุ่มสุดหล่อประจำดรงเรียนที่เต้นรำ
กับยัยมิ้งค์วันนั้นน่ะเองบังเอิญจริงๆเลย อย่างงี้ก็สนุกน่ะสิ
พี่พีไม่พูดพล่ำทำเพลงก็เดินดุ่มๆไปนั่งข้างๆยัยมิ้งค์ทันที เล่นเอาซะมัน
แก้มแดงทำตัวไม่ถูกไปเลย
เวลาผ่านไปเรื่อยๆแต่ยัยมิ้งค์ก็ไม่เงยหน้าไปมองพี่พีซะทีไม่รู้เป็นอะไร
นักหนา ไม่ทันใจฉันเลย “นี่ ยัยมิ้งค์ จะนั่งหน้าแดงไปถึงเมื่อไหร่กันจะบ้าเหรอ” พอ
ได้ยินคำพูดฉันพี่พีก็หัวเราะออกมาเบาๆเล่นเอาซะยัยมิ้งค์ที่กำลังอายๆอยู่ยื่นมือไปตี
พี่พีเบาๆ “หัวเราะอะไรคะ”ยัยมิ้งค์พูดพลางจ้องหน้าพี่พีขึงขัง “ก็หัวเราะเราน่ะสิ”พี่
พีพูดออกมาแฝงด้วยความอบอุ่น โอยฉันอยากเป็นยัยมิ้งค์จังเลย ก็พี่พีออกจะน่ารักนี่
นา ฉันละอิจฉา ไม่เอาแล้วไปนอนดีกว่า “นี่พวกแกฉันจะไปนอนแล้วนะ เลี่ยน”ฉัน
พูดพลางล้อเลียนแล้วก็หันมามองทางยัยมิ้งค์กับพี่พีที่กำลังคุยกันถูกคอ แล้วฉันก็
ลุกออก ไม่รู้ว่าพวกที่เหลือคุยอะไรตั้งนานพอคุยกันเสร็จฉันก็รู้สึกว่ากว่าพวกนั้น
จะเข้ามาในเต้นท์ก็เกือบจะเช้าแล้ว แถมฉันถามว่าคุยอะไรกันก็ไม่ยอมบอก ไม่รู้ว่า
มีความลับอะไรกันนักหนา
“ไปกันได้รึยังจ้ะสาวๆ”เสียงพี่พีที่กำลังขนของขึ้นเรือตะโกนมาทางพวกฉัน
ที่กำลังวิ่งเล่นไล่จับกันอยู่ “ไปแล้วค่า...”เสียงยัยกิมตะโกนบอกกลับไปแล้งพวกเรา
ก็รีบกลับขึ้นเรือไปโดยมีพี่พีติดไปด้วย เพราะพี่พีจะอยู่พักกับเราด้วย
เมื่อถึงฝั่งพวกฉันก็ลงจากเรือแล้วเตรียมตัวขนของไปยังบ้านพัก “นี่...
พวกพี่พี รอด้วย....”เสียงตะโกนแปร๋นๆแสบหูดังมาแต่ไกล แล้วเห็นเป็นยัยคุรหนู
ไฮโซสองคนวิ่งหอบข้างหอบของตรงมายังพวกเรา ฉันก็แปลกใจเหมือนกันว่าใคร
จุดธูปเรียกยัยผีสองตัวนี้มาช่างวันที่แสนซวย ไปเที่ยวกันก็ยังไม่พ้นจากยัยพวกนี้
เลย ฉันล่ะเซ็ง
“พี่พีมาเที่ยวไม่ชวนกี้เลยนะ นี่ถ้าไม่ถามคุณแม่ก็คงไม่รู้ใช่มั้ยว่าพี่มาเที่ยว
ที่นี่ เนี่ยกี้ก็เลยชวนเชอร์รี่มาเป็นเพื่อน” ยัยพิ้งกี้พูดขึ้นแบบดูสนิทสนมกับพี่พีจนน่า
หมั่นไส้ แต่ทำไมพูดว่า คุรแม่ล่ะ เค้าเป็นอะไรกันเหรอเนี่ย “เอ่อคือยัยกี้เป็นน้องสาว
พี่เองน่ะ” หา!ยัยสีชมพูเนี่ยนะเป็นน้องสาวของพี่พีสุดหล่อ ไม่อยากจะเชื่อ คำพูดนี้
มันทำซะพวกฉันอึ้งไปตามๆกัน แต่รู้สึกว่านายนั่นจะรู้อยู่แล้วนะ แหม...ฉันเห็นสาย
ตาที่ยัยเชอร์รี่เน่านั่นมองนายอาร์ทนะฉันล่ะหมั่นไส้ แหวะ สวยตายแหละเธอ ทำ
เป็นสายตาหยาดเยิ้มแนนางเอกละครแสนหวาน น่าถีบให้ตกทะเลไปเลย
“อ้าวสวัสดีจ่ะพวกเธอ”ยัยเชอร์รี่เน่าพูดเหมือนกับเสแสร้งแต่พวกฉันก็ทำ
เป็นยิ้มพอเป็นมารยาทให้ยัยนั่น ส่วนยัยพิ้งกี้น่ะเหรอ โน่นยืนหิ้วพี่ชายสุดที่รักไป
โน่นแล้ว ฉันจะกลับบ้านดีมั้ยเนี่ยอุตส่าห์ว่าจะได้มาเที่ยวสนุกๆแล้วเชียวไม่น่ามียัย
คุณหนูไฮโซสองคนนี่พ่วงมาด้วยเลย เฮ้อ...
“ไปที่พักกันเถอะ”นายนั่นพูดพลางคว้ามือฉันไปด้วยเล่นซะฉันงงไป
หมด “นี่นายปล่อยนะ”ฉันโวยวายออกมา “เฉยๆเถอะน่า จำที่สัญญากันไว้ไม่ได้รึ
ไง”นายนั่นยื่นหน้าลงมากระซิบข้างหูฉัน ก็ฉันแค่เตี้ยกว่านายนั่นแค่ 10 เซ็นเองแต่
ฉันว่าฉันสูงแล้วนะแต่ทำไมฉันยังเตี้ยที่สุดในกลุ่มอยู่ดีล่ะเนี่ย แล้วฉันก็เดินตามนาย
นั่นไปโดยดีจนถึงที่พัก โดยรู้สึกได้ถึงสายตาอาฆาตสุดๆของยัยเชอร์รี่เน่าที่ส่งตาม
หลังมาอย่างติดๆ ฉันนะสะใจเป็นบ้าเลย สงสัยจะนอนชักตายกลิ้งตกลงทะเลไป
แล้วมั้ง แกล้งต่อแกล้งต่อ หัวของฉันมันเรียกร้องแบบนั้น ฉันเอื้อมมือไปเกาะแขน
นายนั่นแน่นจนยัยเชอร์รี่เน่าต้องรีบเดินตามมาติดๆฉันชักจะสนุกกับการเล่นละคร
ครั้งนี้แล้วสิ
เช้าวันที่สี่ของการมาเที่ยว ฉันตื่นขึ้นมาเตรียมตัวเล่นน้ำ วันนี้ฉันไปขอให้
นายนั่นสอนเล่นเจสกีด้วยเพราะจงใจจะยั่วยัยเชอร์รี่เน่านั่น แต่มันก็ได้ผลจริง ยัยนั่น
พยายามจะแกล้งเรียกร้องความสนใจจากนายอาร์ทโดยการแกล้งทำเป็นจมน้ำ แต่ก็
เสียแรงปล่าวเพราะฉันหันไปเห็นก่อน ฉันก็เลยพยายามทำเสียงดังๆแล้วหักเหความ
สนใจของนายนั่นให้นายนั่นพาไปทางโน้นทางนี้ไปให้ห่างๆจากยัยเชอร์รี่เน่า และ
มันก็ทำให้ฉันสนุกเป็นบ้า ฉันสนุกอยู่กับการเล่นน้ำและการเล่นเจสกีทั้งวันจน
กระทั่งเย็นเพราะวันนี้เราจะมีปาร์ตี้ริมชายหาดกัน
พี่พีนั่งดีดกีต้าร้องเพลงอยู่โดยมียัยมิ้งค์นั่งมองอยู่ห่างๆเพราะยัยสีชมพูนั่น
นั่งประกบติดพี่ชายตัวเองแจเลย ไม่รู้จะหวงอะไรกันนักหนา แต่ฉันก็เห็นสายตาที่
พี่พีส่งมาให้ยัยมิ้งค์แบบหยาดเยิ้มเป็นพักๆ ส่วนยัยเชอร์รี่เน่านั่น่ะเหรอ กำลังง่วนอยู่
กับการเสิร์ฟน้ำเสิร์ฟข้าวบริการนายนั่นเต็มที่เลย เห็นแล้วหมั่นไส้ชะมัดเลย ส่วนยัย
กิมก็ง่วนอยู่กับการเผากุ้งเผาอาหารทะเลอยู่ ก็เหลือฉันกับยัยก้านที่ไม่มีอะไรทำ ก็
เลยเล่นเป่ายิงฉุบกินน้ำอัดลมกัน ฉันเนี่ยนะเป่ายิงฉุบแพ้เกือบทุกตาเลย เล่นเอาจะ
พุงกางอืดจนท้องป่องไปหมด มันก็เลยส่งผลให้ฉัน วิ่งเข้าห้องน้ำทั้งคืนเลย แต่ก็ดี
นะที่ฉันออกมาเข้าห้องน้ำเลยได้เห็นอะไรดีๆ อยากรู้ใช่มั้ยล่ะ ว่าฉันเห็นอะไร ก็เห็น
พี่พีกับยัยมิ้งค์สิ เดินชมวิวริมหาดยามค่ำคืน ทามกลางแสงจันทร์สลัวๆ โรแมนติก
สุดๆ ฉันก็เลยยืนมองดูซะนานเลยจนยุงเนี่ยกัดขาลายแถมหนาวอีกต่างหาก
แต่อยู่ๆเสื้อใครก็ไม่รู่มาอยู่ที่หลังฉัน แล้วใครกันล่ะ ก็ต้องหันไปดูสิ
“นาย”ใช่แล้วแล้วมันเป็นนายนั่น มาทำอย่างนี้ฉันขนลุกนะเนี่ย ฉันไม่ใช่นางเอก
ละครน้ำเน่านะ แล้วนายก็ไม่ใช่พระเอกด้วย “นายยังไม่นอนเหรอ”ฉันถามตามมาร
ยาทอ่ะนะ “ถ้านอนแล้วจะเห็นมายืนอยู่ตรงนี้เหรอยัยเอ๋อ” อึ๋ย คำนี้มาอีกแล้วฉันล่ะ
ไม่ชอบคำนี้เลยนายช่วยเอาคำนี้ออกไปจากชีวิตฉันซะทีได้มั้ย “นี่นายขืนนายพูดว่า
ฉันเอ๋ออีกคำเดียว นายตายแน่”ฉันตะวาดออกไป “โห...โหดเป็นด้วยเหรอฮะเรา คน
อุตส่าห์เป็นห่วง ก็เห็นว่ายืนหนาวอยู่” นายนั่นเอามือมาขยี้หัวฉันนเบาๆ แต่เรื่อง
อะไรฉันจะยอมล่ะ ฉันก็ต้องเอามือปัดหนีสิเดี๋ยวยัยกิมมาเห็นเข้าใจผิดก็แย่น่ะสิ
“หา?..เมื่อกี้นายบอกว่าเป็นห่วงฉันเหรอ” ฉันนึกได้แล้วถามออกไป นายนั่นนิ่งไป
ซักพักนึงแล้วก็หันมาตอบข้างๆหูฉันว่า “ก็เราเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ”นายนั่นพูด
จบแล้วก็เดินไป ทิ้งให้ฉันงงอยู่คนเดียว อะไรของนายกันแน่ฉันล่ะงงไปหมด ‘ก็มัน
เป็นแค่ละครไม่ใช่เหรอ’ ฉันคิดไปอย่างนี้แล้วฉันก็รีบเข้าห้องนอนไปทันทีเพราะ
พรุ่งนี้เป็นวันเดินทางกลับฉันก็กะว่าจะตื่นแต่เช้ามาเดินชมวิวเป็นวันสุดท้ายก่อน
กลับบ้าน ก็ที่นี่มันสวยจริงๆนี่
เช้าวันสุดท้ายแล้วสินะฉันออมาเดินเล่นแล้วก็พ่วงยัยมิ้งค์มาอีกคน ฉัน
เดินเลียบตามแนวชายหาดคุยเรื่อยเปื่อยกับยัยมิ้งค์คุยไปคุยมาฉันก็ตัดสินใจปรึกษา
ยัยมิ้งค์เรื่องที่ยัยกิมพูดกับฉันเมื่อเช้าวันก่อน “ก็ไม่รู้สิ บางทีมันอาจจะมีหลายเรื่องที่
แกไม่เข้าใจมีหลายเรื่องที่แกยังไม่เคยรู้ แต่ซักวันนะ ซักวัน ฉันคิดว่าแกคงจะรู้เอง
เข้าใจมั้ยจ๊ะน้องเอ๋อ” ยัยมิ้งค์พูดพลางทำหน้าล้อเลียนฉันยัยพวกนี้นี่นับวันยิ่งแปลก
คอยดูนะฉันจะต้องรู้ให้ได้เลยว่าพวกแกวางแผนอะไรกันคอยดูเถอะคอยดู
หลังจากที่เก็บข้าวเก็บของสัมภาระเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็เดิน
ทางกลับกันโดยรถตู้คันที่มา ส่วนยัยคุณหนูไฮโซกับพี่พีก็กลับไปกับรถอีกคันนึง
ซึ่งเป็นรถของพี่พี และเมื่อมาถึงที่โรงเรียนทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้านกันหมด
นี่ก็เหลือเวลาอีกตั้ง 2 อาทิตย์กว่าจะเปิดเทอม ฉันก็คงจะต้องกลับบ้านสินะ แต่ฉัน
กะว่าอีก 2 วันจะไปเพราะขอนอนพักก่อน มันเหนื่อยมากน่ะสิ
เฮ้อ....จบตอนซะทีนะคะเหนื่อยจัง แต่นางเอกเนี่ยสิไม่ใช่ตัวเราซักกะติ๊อนึง(หุหุ แต่เพื่อนเค้าเรียกเราว่ายัยเอ๋ออ่ะ ไม่เห็นว่าเอ๋อตรงไหน เรียกกันอยู่ได้) แต่ภูมิใจสุดๆเพราะเพื่อนๆที่โรงเรียนอ่านกันใหญ่เลย แล้วก็ชมว่าสนุกด้วยนะ
By...Strawberry Ink
ความคิดเห็น