ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นี่เหรอวันสิ้นโลก ?

    ลำดับตอนที่ #1 : เข้าร่วมกลุ่ม

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.31K
      76
      12 ก.พ. 66

    ณ ร้านอาหารเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในตอนกลางคืนที่เงียบสงัด ถนนด้านหน้าของร้านจะเห็นร่าง‘มนุษย์’มากมายที่นอนเกลื่อนสิ่งที่เห็นได้ชัดคือศีรษะของพวกเขาล้วนถูกทำลาย

    “เรียบร้อยหรือยัง”

    “เรียบร้อยหมดแล้วพี่ใหญ่”

    “พี่ใหญ่ในโกดังไม่มีเสบียงเหลืออยู่เลย”

    “ให้มันได้อย่างนี้สิวะ”

    เสียงพูดคุยเริ่มดังเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ชายฉกรรจ์สามคนเดินเข้ามาทางหน้าประตูในมือแต่ละคนถืออาวุธที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดยิ่งชวนน่าหวาดกลัว

    “พี่ใหญ่เราจะเอายังไงกับคนเหล่านี้ดี” ชายที่ถือขวานในมือชี้นิ้วไปข้างหน้า ด้านหน้าของพวกเขามีคนห้าคนถูกมัดมือมัดเท้าและถูกผ้าปิดปากไว้เพื่อไม่ให้หนีและส่งเสียง

    “เอาผ้าปิดปากพวกมันออกก่อน” ชายที่มีแผลเป็นกากบาทบนใบหน้าที่ถูกเรียกพี่ใหญ่สั่งขณะกวาดตามองคนเหล่านั้น ในกลุ่มนั้นมีผู้ชายสามคนและผู้หญิงอีกสอง

    ทันทีที่ผ้าปิดปากถูกถอดออกถ้อยคำมากมายก็ลั่วไหลออกมา

    “อย่าฆ่าเราเลย ได้โปรด ถ้าพวกคุณต้องการเหยื่อล่อซอมบี้ ก็ … พาเธอไป” ชายร่างผอมกล่าวขึ้นและใช้มือที่ถูกมัดดันหญิงสาวข้างกายออกไปข้างหน้า หญิงสาวมีท่าทีตกใจอละจ้องมองแฟนหนุ่มด้วยสายตาไม่เชื่อก่อนจะเปลี่ยนเป็นความโกรธ

    “นายพูดอย่างนี้ได้ยังไง ฉันไม่น่าคบกับนายตั้งแต่แรกเลยไอ้สารเลว” แฟนสาวพยายามทุบตีแฟนหนุ่มด้วยความโกรธ คนที่ถูกจับคนอื่นพากันถอยหนีการต่อสู้ของคู่รัก

    “เงียบ พวกแกต้องการเรียกซอมบี้มาที่นี่หรือไง” คนถือขวานกล่าวด้วยใบหน้าที่น่ากลัวคู่รักพากันหุบปากและตัวสั่นด้วยความกลัว

    “พี่ใหญ่หรือเราจะโยนพวกมันออกไปให้ซอมบี้ทั้งหมด” ชายที่สวมหมวกเบสบอลที่ยืนอยู่ด้านหลังพี่ใหญ่เสนอ คนที่ถูกจับทั้งสี่สั่นกลัวและร้องขอความเมตตา

    “พี่ใหญ่คุณยังขาดสมาชิกหรือไม่” เสียงหวานที่ดูร่าเริงผิดปกติดังขึ้นจากมุมหนึ่งทุกสายตาหันไปมองเด็กสาวในชุดนักเรียนม.ปลายที่ดูสะอาดไม่เข้ากับวันสิ้นโลกยืนอยู่ตรงนั้นด้วยรอยยิ้ม

    เด็กสาวมีใบหน้าอ่อนหวานและก้อนไขมันที่แก้มเล็กน้อยดวงตากลมโตจมูกนิดปากหน่อยดูน่ารักน่าชังเหมือนกระต่ายที่ควรได้รับการปกป้อง

    แต่ … พวกเขารู้สึกว่ามันแปลก ๆ

    “เธอต้องการอะไร” พี่ใหญ่เลิกคิ้วถามเด็กสาวที่สงบอย่างน่าประหลาดใจ

    “ฉันอยากจะเข้าร่วมด้วย” เธอยิ้มจนเห็นฟันขาวลักยิ้มข้างแก้มปรากฎขึ้น

    “ฉันสามารถพิสูจน์ได้ว่าฉันคู่ควรกับการเป็นครอบครัวของคุณ” น้ำเสียงของเธอหวานและดูขี้เล่น ดวงตาเป็นประกายเหมือนมีดาวอยู่ในนั้นมันทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะมองซ้ำ

    “ยังไง”

    “ฉันรู้ว่าที่ไหนมีเสบียง ฉันสามารถพาพวกคุณไปได้”

    “พี่ใหญ่เธอต้องการหลอกเราหรือเปล่า” ชายถือขวานมองเด็กสาวด้วยสายตาระแวง เขามีลางสังหรณ์ไม่ดีในใจ ยิ่งรอยยิ้มบนหน้าของเธอ … เขารู้สึกอันตราย

    “ฉันจะไม่หลอก ถ้าพี่ใหญ่ตกลงรับฉันเข้ากลุ่มฉันจะพาไป”

    พี่ใหญ่เลิกคิ้วมุมปากยกยิ้มส่งเสริมใบหน้าของเขาให้ดูเหี้ยม “สาวน้อยเธอมีความกล้าที่จะต่อรอง”

    “พี่ใหญ่ตกลงรับฉันใช่ไหม” เด็กสาวยิ้มจนเห็นฟันขาว บริเวณโดยรอบดูสดใสขึ้นมาเพียงยิ้มเดียวของเธอ แต่ถึงอย่างไรก็ตามพวกเขายิ่งรู้สึกแปลกมากขึ้นในใจ

    “อยู่ที่ว่าเสบียงที่คุณหามาจะคู่ควรหรือไม่”

    “ถ้ามันไม่พอไม่เป็นไรที่เราจะลิ้มลองรสชาติแปลกใหม่” นิ้วเรียวชี้ไปที่กลุ่มคนที่ถูกจับมัด

    “!!!” ไม่ใช่อย่างที่พวกเขาคิดใช่ไหม คนที่ถูกจับถอยหนีอย่างหวาดกลัว

    “...” ไม่ พวกเขายังไม่ไร้มนุษยธรรมขนาดนั้น ชายฉกรรจ์ทั้งสามกุมอาวุธในมือแน่น

    “ฉันทำอาหารอร่อยนะ”

    “ไม่ ไม่จำเป็น” พี่ใหญ่รีบปฏิเสธ เขาไม่ต้องการมัน

    เด็กสาวมองไปที่คนกลุ่มนั้นด้วยความเสียใจอย่างมาก

    “...” คุณเสียใจอะไร!! คนเหล่านั้นตะโกนก้องในใจและอยากจะขอให้ชายฉกรรจ์พาพวกเขาหนีไปจากสาวน้อยคนนี้ ความคิดของเธออันตรายเกินไป

    “พี่ใหญ่เราจะเอาพวกเขาไปด้วยหรือไม่” ชายสวมหมวกเบสบอลถามขึ้นมาเขาเมินเฉยต่อเด็กสาวประหลาดคนนั้น

    “เราสามารถพาไปได้เพียงสองคนเท่านั้น” ยิ่งคนเยอะมันยิ่งยุ่งยากที่จะพาไป

    “สู้กันเองใครชนะฉันจะพาคุณไป” พี่ใหญ่หันไปพูดกับคนที่ถูกจับ พวกเขามองหน้ากันเริ่มต่อสู้กันอย่างยากลำบากทั้งสี่คนที่พยายามตีกันไม่มีใครสนใจเด็กสาวแม้แต่คนเดียว

    “ทำไมคุณไม่แก้มัดพวกเขาล่ะแบบนั้นมันสนุกกว่านะ” เด็กสาวออกความเห็นด้วยรอยยิ้ม บรรยากาศหยุดนิ่งไปชั่วครู่

    “ถ้าเธอเอาชนะได้หนึ่งคนฉันจะรับคุณเข้ากลุ่ม” พี่ใหญ่พูดด้วยรอยยิ้ม

    “ตกลง งั้นก็แก้มัดสิ” เด็กสาวยกมือที่ถูกมัดขึ้นมา พี่ใหญ่หันไปส่งสัญญาณในชายสวมหมวก

    ชายคนนั้นเดินเข้ามาแก้มัดเด็กสาวหลังมือและเท้าหลุดพ้นพันธนาการเธอขยับข้อมือสองสามทีและยิ้มให้เขา “ขอบคุณ”

    “แก้มัดพวกมัน” ชายใส่หมวกเดินไปแก้มัดคนกลุ่มนั้นจนเสร็จและเดินกลับไปที่เดิม

    ไม่ต้องรอให้ใครพูดมากความทั้งสี่คนเริ่มสู้กันเองเพียงพริบตาเดียวแต่ละคนล้วนมีบาดแผลอยู่บนตัว พวกเขามองกันและหอบหายใจหนักราวกับความคิดบางอย่างตรงกันทั้งสี่หันไปมองเด็กสาวที่อยู่ตัวคนเดียวและพุ่งเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง

    ปัง ปัง ปัง ปัง

    เสียงปืนดังขึ้นสี่นัดคนทั้งสี่ล้มลงไปกองกับพื้น

    “...”

    “ฉันชนะ!” น้ำเสียงของเธอร่าเริงอย่างผิดปกติ

    “เธอใช้อาวุธ” ชายถือขวานมองอย่างระวัง เธอฆ่าคนโดยไม่แม้แต่จะกะพริบตาด้วยซ้ำ!

    “ไม่มีกฎว่าห้ามใช้อาวุธนี่” เด็กสาวโบกปืนในมือไปมาก่อนยิ้มให้พี่ใหญ่

    “แต่ยังไงก็ตาม ตอนนี้ฉันชนะ พี่ใหญ่รับฉันเข้ากลุ่มแล้วใช่ไหม”

    “เธอเอาอาวุธมาจากไหน” เขาไม่ต้องการตอบเธอแต่มองเเธอด้วยความสงสัยพวกเขาไม่เคยสังเกตมาก่อนด้วยซ้ำว่ามีอาวุธในมือของเธอ

    “จากเขา” เด็กสาวชี้ไปที่ชายสวมหมวก ชายคนนั้นก้มมองที่เอวและพบว่าปืนกระบอกหนึ่งของเขาหายไป

    “ตั้งแต่เมื่อไหร่!”

    “หลังคุณแก้มัดฉัน” เธอยิ้มอย่างไร้เดียงสา

    “ตอนนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ฉันจะพาพวกคุณไปหาเสบียง” เด็กสาวเดินนำออกไปจากร้าน พวกเขามองตามหลังเธออย่างไม่สามารถทำอะไรได้ ชายถือขวานเดินเข้าไปตรวจศพทั้งสี่มีความประหลาดใจวาบผ่านตา

    “มันเข้ากลางหน้าผากหมด”

    พี่ใหญ่ก้มลงมองเขามีความสนใจเล็กน้อย “สี่นัดติดต่อกันไม่มีทางเป็นเรื่องบังเอิญ”

    “มือของเธอไม่เหมือนคนที่เคยจับอาวุธมาก่อน” ชายสวมหมวกพูดขึ้นมา

    ทั้งสามมองหน้ากันทุกคนมีความคิดในใจก่อนจะพากันออกไปขึ้นรถ

    “พี่ใหญ่!” พี่ใหญ่หันไปมองตามเสียงเห็นเด็กสาวยืนเท้าเอวอยู่ข้างหน้าคนในกลุ่มของเขา

    “เกิดอะไรขึ้น”

    “ผู้หญิงคนนี้อยู่ ๆ ก็วิ่งมาบอกว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน เธอป่วยหรือเปล่า” หนึ่งในน้องชายของกลุ่มถามขึ้นมาดวงตาที่มองไปที่เด็กสาวเหมือนมองคนบ้า

    “พี่ใหญ่รับฉันเป็นครอบครัวแล้ว ใช่ไหมพี่ใหญ่!” เด็กสาวรีบวิ่งมาประกบ

    “...” ใครเป็นครอบครัวของคุณ! พี่ใหญ่ขลึงขมับด้วยความปวดหัว

    “เธอจะไปกับเรา เธอรู้ว่าเสบียงอยู่ที่ไหน” หลังเขาพูดจบก็เดินขึ้นรถคันหลังไปเด็กสาวเชิดหน้ายิ้มอย่างภาคภูมิใจและตามพี่ใหญ่ขึ้นรถไป

    “...”

    ทุกคนพากันขึ้นรถและออกเดินทางเพื่อตามหาเสบียงโดยมีเด็กสาวคอยเป็นคนนำทาง

    ระหว่างทางทุกคนก็ได้(โดนบังคับ)แนะนำตัวกันและกัน

    กลุ่มของพี่ใหญ่มีคนทั้งหมดเจ็ดคน ทุกคนเรียกชื่อกันตามเลขลำดับ พี่ใหญ่ก็คือพี่ใหญ่ คนถือขวานคือพี่รอง คนสวมหมวกเบสบอลคือพี่สาม คนที่มีเรื่องกับเธอก่อนหน้าคือพี่ห้า คนที่ดูเงียบขรึมคือพี่หก และคนที่ใจดีคือพี่เจ็ด ส่วนเธอคือน้องเล็กสุดถูกเรียกว่า ฮวาฮวา

    “แล้วพี่สี่ล่ะ” แม้จะรู้แล้วว่าคนในกลุ่มมีแต่ชายที่สามารถเป็นพ่อเธอได้เธอก็ยังคงเรียกพี่อย่างไม่รู้สึกละอายใจ

    “เขาออกไปสำรวจพื้นที่ยังไม่กลับมา”

    “พี่สี่ขยันมาก!”

    จากนั้นทุกคนก็เงียบลง ในกลุ่มของพี่ใหญ่มีรถด้วยกันสองคัน คันแรกมีพี่สาม พี่ห้า และพี่เจ็ด ส่วนคันหลังมี พี่รองเป็นคนขับ ข้างคนขับคือพี่ใหญ่ และเบาะหลังถูกจับจองโดยพี่หกกับฮวาฮวา

    เมื่อเห็นว่าไม่มีใครพูดอะไรเด็กสาวจึงเอนพิงเบาะและไม่นานก็หลับไป

    “...” ชายทั้งสามมองตากันและกันด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ในใจพวกเขามีแต่ความสงสัยว่าคิดถูกหรือผิดที่พาเธอมาด้วย

    กลุ่มของพี่ใหญ่ใช้เวลาตามหาเสบียงตามร้านค้าและบ้านเรือนต่าง ๆ อยู่สามวัน เสบียงที่พวกเขาได้มาไม่นับว่ามากแต่ก็พอให้มีชีวิตอยู่รอดได้เกือบอาทิตย์ พวกเขาวางแผนที่จะไปเมืองต่อไปก่อนออกเดินทางชายในชุดทหารก็ปรากฎตัว

    “สวัสดีพี่สี่!” ฮวาฮวากล่าวทักทายชายตรงหน้าอย่างเป็นมิตร พี่สี่หันไปมองพี่ใหญ่ราวกับขอคำอธิบาย

    “เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ฉันเป็นน้องสาวคนเล็กของคุณ!” พี่ใหญ่ไม่ทันพูดก็ถูกพูดแทรกเสียก่อน

    “... อ๋อ” เขามีน้องสาวตั้งแต่เมื่อไหร่? พี่สี่มีความสงสัยในใจ

    “...” ใครเป็นครอบครัวของคุณ! คนอื่นไม่เต็มใจที่จะยอมรับ

    หลังพบปะพูดคุยวางแผนกันเสร็จทุกคนก็พากันขึ้นรถเพื่อออกเดินทาง

    “พี่ใหญ่เราจะไปที่ไหนกัน”

    พี่ใหญ่เงียบก่อนจะชี้นิ้วไปที่แผนที่ “เราจะไปทางเหนือ ที่นั่นมีฐานตั้งอยู่”

    “เราผ่านเมืองนี้ใช่ไหม” ฮวาฮวาถามขณะชี้ไปยังสถานที่หนึ่ง พี่ใหญ่พยักหน้าตอบ

    รอยยิ้มเจิดจ้าเผยออกมาทุกคนในรถมีความรู้สึกไม่ดีในใจ

    “ฉันได้ข่าวว่าที่นี่มีบ่อน้ำพุร้อน ฉันอยากแช่น้ำ!”

    “...” นี่มันวันสิ้นโลกเธอยังมีใจอยากจะแช่น้ำ!?

    “ไม่” พี่ใหญ่ปฏิเสธเสียงแข็ง เด็กสาวพองลมในแก้มกลับไปนั่งที่ดี ๆ อย่างแง่งอน

    “...” พี่ใหญ่เริ่มวิตกกับการตัดสินใจที่รับเธอเข้ามา ใครก็ได้บอกเขาทีว่าเขาคิดถูกใช่ไหม?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×