คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : Vol.1 Ch.31 การล่ำลาอันน่าเศร้า
ในมุมมองผู้สร้างต่างโลก Vol.1 Ch.31 การล่ำลาอันน่าเศร้า
พระราชาแอนดิสขมวดคิ้ว มุมปากบิดเคร่งเครียดครู่หนึ่งก่อนเผยอยิ้ม
เขายกระบอกทรงสูงขึ้น ดึงเชือกด้านล่าง
หวิ่ว— ปุ้ง—!
ก้อนบอลเพลินสีแดงลอยขึ้นเสียดฟ้าไม่นานมันก็ระเบิด สะเก็ตหลากสีลอยเต็มกระจาย
ทหารกระทำตามแอนดิส พวกเขาคุกเข่าลงกับพื้น หันปากแท่งกระบอกขึ้นฟ้า
ปุ้ง— ปุ้ง— ปุ้ง— ปุ้ง— ปุ้ง—
ด้วยความคุ้นชิน ทั้งห้าเข้าใจทันที มันคือพลุในโลกของพวกเขานั่นเอง
“นี่คือสิ่งที่ผู้กล้ารุ่นก่อนหลงเหลือเวลาในการสร้างน่ะ” แอนดิสกล่าวอ่อนโยน
“ยินดีด้วยท่านผู้กล้า” พระราชาตบมือเสียงดังลั่น “ในที่สุดก็ปราบจอมมารลงสำเร็จ”
““““ยินดีแก่ท่านผู้กล้า—!!!!””””
พวกทหารทั้งน้อยใหญ่ กล่าวสรรเสิญตาม
“โห่ แบบนี้ตื้นตันใจไม่เบานะเนี่ย” ธีร์เบิกตา
เมรินทร์ถอนหายใจโล่งอก เฮ้อ— “อะไรกัน แค่แสดงความยินดีเองเหรอ....”
“เป็นอะไรรึเปล่า หน้าของเธอดูไม่ค่อยดีนะ อยากพักซักหน่อยไหม?” ปริญที่สักเกตเห็นถึงความผิดปรกติเข้าทัก
เธอรีบยกมือป้อง ยิ้มหน้าแหยตอบ “เปล่าๆ แค่คิดไปเองน่ะ”
เขาอยากถามเธอต่อ แต่ก็ถูกดึงดูดความสนใจด้วยคริสที่กระโดดโดลดตกเต้นใจจนทุกคนอดขำไม่ได้
“ท่านผู้กล้า โปรดโดยสารมากับพวกเรา” แอดดิสเย้อมือหันยังรถม้า
เมื่อประตูเมืองหลวงเปิดออก ขบวนของเหล่าผู้กล้ากลับมาถึง
เสียงของผู้คนต่างแห่ร้องสรรเสิญ เมรินทร์มองออกนอกหน้าต่างด้วยความประหลาดใจ ทั้งเด็กน้อยหรือผู้ใหญ่ต่างยิ้มหน้าเบิกบานตลอดทางกว้าง ต้องการขอบคุณผู้กอบกู้โลกนี้อย่างแท้จริง
ดวงตาของสาวน้อยจดจ้องตื่นเต้นลึก นี่เราคือผู้ช่วยโลกนี้จริงๆ สินะ เธออดคิดไม่ได้
“อืบบบบบบ—”
เมรินทร์นั่งเหยียดแขนเหยียดขาในห้องพักรับรองเดิมของตนเหมือนที่มายังโลกนี้ครั้งแรก
“เหนื่อยจัง”
เป็นเวลากว่าสามวันแล้วที่กลับมาถึงยังเมืองหลวง ตอนนี้เพียงแค่รอพวกพระราชาและลูกสาวเตรียมการสำหรับเวทย์เคลื่อนย้ายเพื่อกลับยังโลกเดิม
“จะเป็นอะไรไหมนะ?” อีกเพียงก้าวเดียวพวกเธอจะถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้
จากที่ฟังเขาเล่ามา พวกผู้กล้ารุ่นก่อนๆ ก็เหมือนไม่มีปัญหา คงไม่เป็นอะไรล่ะมั้ง
เธออยู่ที่นี่มานานเกือบครบปี จนอดห่วงแม่ไม่ได้เลย
ก๊อก ก๊อก—
เสียงเคาะประตูดังแทรก ขณะที่กำลังคิดอย่างกังวล
“ท่านผู้กล้า งานเลี้ยงอำลาได้เริ่มต้นขึ้นแล้วขอรับ” คนรับใช้จากด้านหลังบานเหล็ก กล่าว
“ค่ะ จะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ”
เมรินทร์รีบลุกขึ้น ชุดเดรสราตรีกระโปรงยาวสวย ถูกับพื้น ตามธรรมเนียมของเหล่าผู้กล้า พวกเขามักจัดงานเลี้ยงส่งเมื่อครบวันสุดท้ายก่อนกลับ
“มาแล้วเหรอ”
ปริญในชุดขุนนางสีดำเข้ม ยิ้มอ่อน
เมรินทร์มองกว้าง คริส ธีร์ ชิลิน ยืนอยู่ก่อนแล้ว
“นี่ฉันมาถึงเป็นคนสุดท้ายเหรอเนี่ย?” เธอกล่าวเจื่อนๆ
เขาหัวเราะแหบแห้ง “งานเลี้ยงมันพึ่งเริ่มต้นต่างหาก” เด็กหนุ่มยื่นมือมาทางนี้ “มาเต้นรำด้วยกันหน่อยไหม?”
“เอ๋ แต่ฉันเต้นไม่เก่งนะ” เธอหน้าแดงตอบ
เขาส่ายหน้าสะบัด “ไม่เป็นไร ผมเองก็เต้นได้นิดหน่อยเท่านั้นเอง”
ทั้งคู่ผสานมือเข้าด้วยกัน เมรินทร์ตัดสินใจเอ็นจอยกับปาร์ตี้ครั้งสุดท้าย ปล่อยตัวให้ถึงที่สุด
สองคนพยายามเต้นกันให้เข้าจังหวะดนตรีที่สุด ถึงจะดูเก้งๆ กัง แต่ก็งดงามในสายตาคนรอบข้าง
“เอาล่ะทุกท่าน”
เครื่องดนตรีหยุดลง การกล่าวปราศรัยของแอนดิสเริ่มต้น
“ก่อนอื่นเลยต้องขอขอบคุณเหล่าผู้กล้า”
“เริ่มจากท่านผู้กล้าดาบ ท่านคือคนที่สามารถปิดฉากลงได้ แน่นอนว่าพวกเราทราบซึ้งต่อท่านผู้กล้าท่านอื่นด้วย หากไม่ได้ความกล้าหาญและความอ่อนโยนของท่าน โลกของเราคงสูญเสียมากกว่านี้”
พวกแขกในงานเริ่มปรบมือ ทุกครั้งที่ราชาแอนดิสท่อนจบ
“ท่านผู้กล้าทวน ความฉลาดหลักแหลมของท่าน พาพวกเรามาถึงจุดนี้”
“ท่านผู้กล้าคทา ความอ่อนน้อม และความสุขของท่านส่งผ่านมายังพวกเราทุกคน”
“ท่านผู้กล้าไม้เท้า ความเสียสละของท่าน จึงนำพามาซึ่งยุคสมัยของความสงบสุขอีกครา”
“และคนที่สำคัญที่สุดของคำคืนนี้ ท่านผู้กล้ากระเป๋า หากขาดท่าน โลกของเราคงไม่ผ่านพ้นหายนะที่ยิ่งกว่าอดีตใดๆ มาได้ กับจอมมารที่แข็งแกร่งที่สุด ทั้ง สติปัญญา ความกล้าหาญ ความเสียสละ ความมีเมตตาของท่าน พวกเราจะนำบทเรียนนี้มามอบให้แก่ลูกหลานของเราชั่วรุ่นตราบเท่านาน”
เสียงปรบมือที่ดังกว่าไหนๆ แล่นเข้าหู เมรินทร์หน้าแดงด้วยความเขินอาย
“พวกเราขอขอบคุณพวกท่านอย่างสัจจริง”
สีหน้าของเมิรนทร์ คริส ธีร์ ปริญ อ่อนลง มีเพียงแต่ชิลินที่ทำสีหน้าอึดอัด
“นี่เป็นอะไรไปเหรอ?” เมรินทร์หันมายิ้มถามใกล้
“เอาน่า ถ้าไม่ได้เธอ เมรินทร์คงไปไม่ถึงดาบแน่” ธีร์ดันแว่น
“ใช่ใช่ ผมเกือบหัวใจวายตายแน่ะตอนที่เธอมารับการโจมตีนั่น” ปริญหัวเราะแห้ง
“สุดยอดเลยนะ ชิลินเธอเป็นคนดีกว่าที่พวกเราเห็นจริงๆ” คริสตบหลังเปาะแปะ
ชิลินเงียบลง ฟังถ้อยคำพูดเหล่านั่นชั่วครู่หนึ่ง
น้ำตาของเธอคลอเบ้า ริมฝีปากงับแน่น ทั้งสี่ต่างตกตะลึงเมื่อเห็นภาพนั้น จากนั้นความในใจของชิลินก็ถูกเปิดออก
“ฉ ฉันไม่อยากจากทุกคนไป อึก—” น้ำตาไหลอาบ สะอื้น
“ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ฉันนึกว่าผู้คนรอบตัวมีแต่คนแย่ๆ มาตลอด” น้ำเสียงสั่นไหว ลั่นกล่าว ผู้คนตั้งใจฟังถ้อยคำเหล่านั้น “พวกเธอคือเพื่อนที่ดีจริงๆ ขอบคุณนะ”
“ขอบคุณที่ทำให้ฉันรู้สึกดี” สังคมที่เธอเคยอยู่อาศัยมีแต่เรื่องโหดร้าย พ่อแม่ของเธอก็ทะเลาะทุบตีกันทุกวัน ลามมาทำร้ายร่างกายเธอ ที่โรงเรียนก็โดนกลั่นแกล้งเสมอ
มวลน้ำหยดจากดวงแก้มไหลริน “ฉัน..... ฉันสนุกมากๆ เลยล่ะ”
“การเดินทางกับพวกเธอมันสนุกมากๆๆๆๆ จนฉันไม่อยากให้มันจบลง”
เมรินทร์เดินเข้าใกล้ ซับน้ำตาให้แก่เด็กสาวผู้ชอบทำตัวมืดหม่นเสมอมา
“เมรินทร์...... ฉันขอโทษนะ ที่ฉันคิดจะฆ่าเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ” เธอจับไหล่อีกฝ่ายแน่น “พ พอจะยกโทษให้ฉันได้ไหม?..... ฮึก อือ—”
เมรินทร์ค่อยๆ ลูบหัว “แน่นอนอยู่แล้ว”
ชิลินเงยหน้าขึ้นมอง เห็นรอยยิ้มอันอ่อนโยน บ่อน้ำตาเธอแตก และเข้าโผลกอดซับหน้า
“เมรินทร์ ธีร์ คริส ปริญ..... ข ขอบคุณนะ ขอบคุณจริงๆ ที่พวกเธอมอบความสุขให้ฉันมากถึงขนาดนี้” ภาพหวนอดีตอันใกล้ย้อนกลับมา ชั่วชีวิตนี้เธอคงไม่ลืมมันอีกแล้ว
สายตาของคนรอบข้างที่มอง ต่างจดจ้องด้วยความประทับใจ การเดินทางของผู้กล้าในครั้งนี้ ช่างน่าดีใจเสียจริง
ทุกอย่างมันช่างลงเอยด้วยดีอย่างมีความสุข
ธีร์สะกิดไหล่ปริญข้างๆ ด้วยแขน ใต้ฝ่าเท้าของพวกเขามีวงแหวนเวทขนาดใหญ่กำลังเปล่งแสง
“ว่าไง?” เด็กหนุ่มกระซิบถาม
“ฉันเห็นนะ เมื่อคืนนายกับคุณอีวาร์อยู่ด้วยกันตอนกลางคืนน่ะ ไปถึงขั้นไหนแล้วล่ะ?”
เขาแทบพ่นน้ำลายออกมาเมื่อได้ยินคำนั้น
“ม ไม่ใช่อย่างที่คิดนะ” ปริญลนลานตอบ “อุ๊” สัมผัสสายตาของใครบางคนที่มองเขม็งด้านหลังเลย
“เธอชวนมาชวนก็จริง แต่ผมปฏิเสธไปแล้ว”
“หือ....” ธีร์น้ำส่งน้ำเสียงไม่วางใจ แต่พอเห็นหน้าของอีวาร์ ลูกสาวของพระราชาที่มองเจื่อนๆ ด้วยความผิดหวังมาทางนี้ คงใช่ล่ะมั้ง
“ท่านผู้กล้าคะ จะเริ่มการส่งตัว ณ บัดนี้ค่ะ” อีวาร์ สาวผู้สืบเชื้อสายจากผู้กล้ารุ่นก่อนๆ ยกไม้เท้าของตัวเองขึ้นเหนือหัว
“จะได้กลับบ้านแล้วสินะ.....” เมรินทร์พึมพำอย่างไม่น่าเชื่อ พลางมองเหล่าเพื่อนๆ รอบข้าง ทุกคนต่างมีสีหน้าใจหายเมื่อต้องจากลา
“เอาไว้เจอกันใหม่นะ” ปริญโพล่พูดขึ้น
ธีร์ใช้นิ้วดันแว่นตัว “นายนี่นะ อย่าพูดเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สิ แต่ก็เอาเถอะ...... เอาไว้เจอกันใหม่ล่ะทุกคน”
“อือ! เอาไว้เจอกันใหม่” คริสยิ้มแย้ม ใบหน้าของเธอเศร้าหมองลง
“ต ต้องเจอกันให้ได้จริงๆ นะ” ชิลินที่ขอบตาคล้ำบวม เพราะร้องห่มร้องไห้ตลอดคืน สะอื้นพูด
“สักวันหนึ่ง พวกเราต้องได้เจอกันแน่”
ในความรู้สึกของเมรินทร์ เธอคิดว่ามันอาจเป็นเช่นนั้น พวกเราทั้งห้า ถึงแม้จะเพียงเวลาอันสั้น แต่ก็ผูกพันกันมาก จนสายสัมพันธ์นี้ราวกับไม่มีวันขาด
“ขอบคุณ การเดินทางกับพวกเธอ ฉันสนุกมากๆ เลยล่ะ”
แสงสว่างเจิดจ้า กลบร่างของทั้งห้าหายมิด มันเจือจางหายในเวลาเพียงชั่วครู่ ปรากฏเพียงแค่ความว่างเปล่า
อาการสลึมสลือ ดวงตาค่อยๆ เปิดออก ในท่านั่งหลับมือทับแขน นานจนรู้สึกว่าเลือดไม่หล่อเลี้ยง เหน็บชาเกาะกินชั่วครู่ หัวเงิยเงน
กรุ้ง— กริ๊งง— กรุ้งงง— กริ๊งงงง—
เสียงเหรียญโลหะสามสี่เหรียญตกกระทบพื้น
หน้าตั้งฉากตรงกับพื้น มองเชื่องช้า อมยิ้มรอบมุมปาก มองภาพเหล่านั้น
ในมุมมองผู้สร้างต่างโลก Vol.1 Ch.31 การล่ำลาอันน่าเศร้า จบ
ความคิดเห็น