ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ในมุมมองผู้สร้างต่างโลก

    ลำดับตอนที่ #28 : Vol.1 Ch.28 ดาบแห่งความปราถนา

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ค. 67


    ในมุมมองผู้สร้างต่างโลก Vol.1 Ch.28 ดาบแห่งความปราถนา

     

     

    ฝูงการ์กอยล์สยายปีก โผลเข้ามาจู่โจมจากด้านบนพุ่งจำนวนมาก ราวกับฝูงนกจับปลา

     

    “ไม่ให้ทำหรอก” ละอองเพลิงของชิลินกระจายทั่วผืนฟ้า แผดเผาร่างลอยฟ้าที่กำลังเข้ามาใกล้ พวกมันแทบแตกกระเจิง ต้องบินต่ำลงเพื่อไม่ให้โดนการโจมตีวงกว้างนั่น

     

    คลื่นดาบสีทองของปริญกวัดแกว่งทั่ว ตัดผ่านการ์กอยล์ที่พยาลอบบินโฉบด้านข้าง

     

    เมรินทร์มองภาพเหล่านั้นด้วยความดีใจ อย่างที่คิด มีสองคนในพวกเธอสามารถใช้การโจมตีระยะไกลกลางอากาศได้ จึงไม่น่าห่วงเท่าไหร่นัก ตอนนี้พวกมันเริ่มปรับตัวมาเดินบนพื้นแทนแล้ว เนื่องด้วยข้างบนหลบยากกว่า แต่พวกมันก็เคลื่อนรวดเร็วกว่าพวกที่ผ่านมาจริงๆ ตอนแรกคิดว่าจะเก็บพวกมันเกือบหมดจากการโจมตีครั้งแรก ทว่ากลับฆ่าได้เพียงไม่กี่สิบตัวเท่านั้น

     

    แน่นอนว่าการต่อสู้บนพื้นนั้นรับมือยากกว่า แต่นั่นก็สามารถทำให้ธีร์และคริสเป็นกำลังได้ แถมเธอยังสนับสนุนพวกเขาด้วยขวดยาได้อีกต่างหาก

     

    เมรินทร์กว้านสายตากว้าง พยายามมองหาจังหวะที่จะใช้ขวดยา ทันใดนั้นบังเอิญสังเหตเห็นการ์กอยล์ตัวหนึ่งที่มีท่าทีแปลๆ แตกต่างจากตัวอื่นไม่รวมฝูง มันจ้องชิลินจากมุมอับไม่วางตา

     

    “ระวัง!!!” แม้ยังคาดเดาไม่ได้ว่ามันจะทำอะไร แต่มือข้างหนึ่งไวกว่าความคิด ขว้างขวดยาที่ทำให้ผิวแข็งไว้ก่อน

     

    เพล้ง—

     

    วินาทีเดียวกับที่ขวดยาแตกออก กรงเล็บพุ่งกระชากไล่ของชิลินจนเกือบขาด “อ๊า—!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

     

    เธอกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เหลือไหลพวยพุ่ง

     

    การ์กอยล์ตัวนั้นหันกลับมามอง เบ้ปาก ทำอย่างกับหัวเสียที่จัดการไม่ได้ในทีเดียว มันตั้งท่าจะบินวนกลับอีกรอบ ทว่าก็โดนคลื่นดาบสีทองขวางกั้นหน้าเฉี่ยวหน้าเพียงนิดเดียว

     

    ปริญยักคิ้วหน้าตึงเครียดเมื่อเห็นพรรคพวกโดนทำร้ายกระโจนเข้าวิ่งใส่เพื่อรับมือกับมัน เคร้ง—! เสียงโลหะเสียดสี กรงเล็บของมันแข็งพอจะประกับดาบสีทองได้เลย

     

    “ชิลิน!!!” อึดใจที่สาวน้อยผู้มืดหม่นจะสิ้นใจจากการเสียเลือดตาย ขวดแก้วน้ำยาสีทองลอยผ่านหน้า แตกออก น้ำยาสีทองเปล่งแสงสัมผัสกับผิว

     

    ส่วนที่ฉีกกรชากผสานเข้าด้วยกัน เมรินทร์เข้าประคองร่างก่อนล้มลงในท่าหัวฟาดพื้น

     

    ฟู่ว— เธอพ่นลมหายใจด้วยความโล่งอก ทันเวลาพอดี “ทำใจดีๆ ไว้นะ” เมรินทร์พูดปลอบกับเด็กสาวบนตัก สีหน้าม่วงซีดเผือก จวนตาย

     

    พอเงยหน้ามองบน ก็เผอิญสบสายตาเข้ากับการ์กอยล์กระพืบปีกที่ลอบเล่นงานตัวนั้น มันเร็วมาก เร็วกว่าทุกตัว ขนาดใช้น้ำยาช่วยป้องกันการโจมตีนั่นแล้วยังแทบไม่เห็นผล แต่หากไม่ขว้างไปละก็ กรงเล็บนั่นอาจผ่าร่างของชิลินเป็นสองซีกแล้วก็ได้

     

    ถ้าโดนขนาดนั้น แม้แต่น้ำยาสีทองคงไม่มีประโยชน์

     

    เธอวางชิลินนอนลงกับพื้น คงซักพักกว่าจะกลับมาสู้ต่อได้ ตอนนี้สูญเสียผู้ใช้เวทเพลิงที่คอยลดมอนสเตอร์กลางอากาศแล้ว

     

    เมรินทร์แหงนหน้ามองเหงื่อเย็นไหล พวกมันเริ่มกลับมาบิน “แย่แล้วทุกคนมารวมกันไว้เร็ว!”

     

    ธีร์เหลียวมองหลัง ค่อยๆ ถอยขยับเข้ามาใกล้ คริสเองก็ทำเช่นเดียวกัน มีเพียงปริญที่ติดพันการต่อสู้ดุเดือด

     

    “ทำยังไงกันดีล่ะทีนี้” ระหว่างพูด ธีร์ใช้ทวนในมือแทงการ์กอยล์ที่เข้ามาใกล้ “พวกมันไม่หมดไม่สิ้นกันซักที”

     

    เพราะกำลังรบคนสำคัญอย่างชิลินถูกทำให้หมดสภาพจึงกลับกลายมาเสียเปรียบ เมรินทร์เหลือบมองไกลยังปริญ เขาสลัดพวกมันไม่หมด

     

    “อ๊าย!!!” คริสหลบการโจทตีจากกรงเล็บหนึ่งที่พุ่งเข้าใส่จากทุกทิศทางไม่ทัน บาดไหล่ซ้าย บาดแผลไม่ลึกเท่าไหร่ แต่ขยับตัวยากกว่าเดิม

     

    “หมอบลงไว้นะคะ” เมรินทร์ตัดสินใจทำบางอย่าง เธอหยิบขวดยาควันจากในกระเป๋าขึ้นมาบนมือ กระจายปาทุกทิศทาง เธอทำเช่นนั้นจนขวดยาควันหมด เกินควันสีเขาหนาทึบ บดบังทัศนวิสัย

     

    “ดีล่ะแค่นี้ก็รอให้หมอนั่นจัดการกับไอ้การ์กอยล์แปลกๆ นั่นให้จบก็พอ” ธีร์ก้มต่ำลง พวกมันไม่สามารถมองเห็นพวกเขาที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหมอกควันได้ นี่เป็นการถ่วงเวลารอชิลินฟื้น และปริญย้อนกลับมาสมทบ

     

    เด็กหนุ่มที่กำลังเข้าฟาดฟันกับการ์กอยล์ตัวพิเศษยิ้มมุมปาก หันมองกลุ่มเพื่อน เขาเข้าใจในทันที แผนการนี้เข้าเท่าไม่เบา

     

    ทว่าเพียงเสี้ยววิที่ละสายตา การ์กอยล์ตัวนั้นไม่ปล่อยโอกาส ใส่แรงทั้งหมดบินโฉบดิ่งลงพื้น กรงเล็บแหลมคมเล็งเป้าที่หัวใจ

     

    “อั่ก!!!” เขายกดาบมาป้องกันทันเฉียวฉิว ทว่าแรกกระแทกมหาศาลนั้นก็ดันอัดเข้าผนังอย่างแรง

     

    การ์กอยล์บินขึ้นสูง ส่งสีหน้าหงุดหงิด มันทำพลาดอีกครั้ง

     

    “แกเนี่ย.... ช่างน่ารำคาญ” ส่งแหบทุ้มต่ำ ผ่านลำคอการ์กอยล์

     

    “พูดได้ด้วย!?” ปริญตกใจ เป็นครั้งแรกที่เห็นมอนสเตอร์พูด ที่ผ่านมาต่อให้จะฉลาดแค่ไหน ก็สื่อสารกันด้วยภาษาไม่ได้แท้ๆ

     

    “หึ พวกมนุษย์คิดจะเทียบกับจอมมารอย่างข้างั้นรึ”

     

    เขาตั้งใจฟังจดจ่อ พลางเอาดาบตั้งฉากกับพื้นพยุงตัวเองกุมหน้าท้องไปด้วย

     

    “ข้าผู้ซึ่งอยู่เหนือจอมมารทั้งมวล จะทำลายล้างพวกเจ้าเพียงแค่ร่างภาชนะให้ดู”

     

    มันแสยะยิ้มหัน เบนหน้าทางกลุ่มหมอกควัน

     

    “ทางนั้นมัน!?” ปริญยกดาบตัวเองขึ้น ทว่าไม่ทันการ การบินสยายปีกรวดเร็วกว่าหลายเท่าตัว

     

    เหล่าการ์กอยล์รวมฝูงกัน ตามตัวจ่าเป็นเงา พลันบินวงกลม เกิดลมหมุนขนาดใหญ่ พัดหมอกควันฟุ้งกระจาย วิสัยทัศน์เปิดกว้าง ร่างของทั้งสี่ปรากฏเด่นชัด

     

    ชิลินพอเริ่มลืมตาได้แล้ว ทว่าภาพแรกที่เธอเห็นคือการ์กอยล์จำนวนมากที่กำลังพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง รวมทั้งพรรคพวกที่ต่างพลันสีหน้าวิตก

     

    เมรินทร์มีสีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความกลัว ทำยังไงดี ต้องคิด ต้องทำอะไรสักอย่าง มีวิธีไหนบ้างที่จุดหลุดพ้นจากสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวางนี้

     

    ความคิดประเดประดังมากมายเข้ามาในหัว ไม่ไหวแล้ว แค่ยื่นมือล้วงกระเป๋าก็ยังไม่ทันการเลย

     

    จบสิ้นแล้ว ทุกอย่างเลย

     

    “หยุดเดี๋ยวนี้!!!!!!”

     

    ปริญตะโกนกร้าว

     

    “แก!!! อย่ามาทำเพื่อนของฉันนะ!!!!!!!!”

     

    มือง้างฝักสีทอง กระแสลมเชี่ยวกราดล้อมคมดาบ เกลียวคลื่นขนาดใหญ่หมุนทวน เกิดเสียงเสียดลมหวือลั่น

     

    “หือ?” จอมมารในร่างการ์กอยล์เหลียวหลังเบิกตา ผู้ใช้ดาบกำลังจะทำสิ่งใดขึ้นกัน มันคิด “แต่ยังไงทางนี้ก็ระยะสั้นกว่า”

     

    ร่างเล็กของปีศาจสีเทาดำ นำฝูงการ์กอยล์เข้าโฉบ

     

    “ซอร์ด บีเฮฟวิเออร์!!!(ปณิธานดาบ)”

     

    เด็กหนุ่มวิ่งสุดแรงพร้อมนำแสงสว่างสีทองเจรัส จับสองมือ กระโดดสูง ฟาดมันออกสุดกำลัง

     

    เปรี้ยง—!!!

     

    “ฮว๊ากกกกก!!!!!” เหล่าการ์กอยล์กรีดร้องเมื่อไอร้อนตกกระทบ มอนสเตอร์ที่บินวนรอบถูกพัดเป่าด้วยไอสีทองราวกับแมลงตัวเล็กๆ ร่วงสู่พื้น

     

    ทั้งสี่มองอย่างตกตะลึง เกิดอะไรขึ้น แสงพวกนี้มันมาจากไหน พอมองปลายสายตาก็พบเข้ากับเด็กหนุ่ม

     

    ปริญหอบเหนื่อยอย่างหนัก จับด้ามดาบ สภาพอาวุธตอนนี้พังแหลกเละ คล้ายกับเศษเหล็ก ดูเหมือนการโจมตีนี่จะกัดกินดาบของเขา

     

    “ปริญ!!!!” เธอเรียก วิ่งเข้าหาเด็กหนุ่ม “เมื่อกี้ฝีมือนายเหรอ!?”

     

    “ใช่.... น่าจะละมั้ง” เขาตอบพลางหัวเราะแห้ง หายใจแทบไม่ทัน ท่านี้ใช้พละกำลังอย่างหนักทีเดียว

     

    “สุดยอดเลย!” เมรินทร์มองกว้าง เศษซากของมอนสเตอร์ตายแล้วตกกระทบเกลื่อนพื้น ไม่หลงเหลือสัญญาของศัตรู

     

    ธีร์และคริสที่ประคองชิลินเดินเข้ามาใกล้

     

    “นายเนี่ยอย่างกับซุปเปอร์ฮีโร่เลยนะ” ธีร์พูดเชิงล้อเล่น

     

    “พวกเรารอดไปที ว่าแต่นายทำได้ยังไงน่ะ?” คริสหายใจโล่งอก พร้อมกับมองดูหน้าตาของชิลินที่ไม่ไหวติงข้าวไหล่เป็นพักๆ

     

    เขายิ้มตลกเฝื่อน “แค่พอมุ่งมั่นอยากช่วยเพื่อน ดาบก็พาร่างกายขยับไปเองน่ะ”

     

    “โหว! นายคือฮีโร่ของจริงเลย!” เมรินทร์ยิ้มกว่าง ยื่นหน้ากล่าวชื่นชม

     

    “ไม่ขนาดนั้นหรอก” เขาเกาหัว แกรก แกรก หน้าแดงเล็กน้อย เบือนหลบซ้าย

     

    ขณะนั้นเองที่คิดว่าปลอดภัยแล้ว น้ำเสียงอันน่าหวาดกลัวพลันดังไม่ไกล

     

    “.........พวกแกอย่าคิดว่ามันจะจบแล้วล่ะ”

     

    ทั้งห้าหันตามเสียงนั่นเป็นตาเดียว สีหน้าซีดเผือก กลับมาตั้งท่าป้องกัน ปริญคิดอต่อให้ดาบจะมีสภาพบิ่นเละขนาดนี้ แต่น่าจะพอใช้ฟาดได้อยู่

     

    ร่างที่เหลือเพียงแค่หัวของการ์กอยล์ขยับปาก

     

    “หึหึ ข้าเห็นความสามารถทุกอย่างของพวกเจ้าแล้ว.....” มันหัวเราะดังลั่น “รวมทั้งดาบที่พังเละในตอนนี้ของแกแล้วด้วย ผู้กล้า”

     

    “เจอกันหนสองที่ปราสาทของข้า” ศีรษะการ์กอยล์ส่งทิ้งท้าย

     

    “เมื่อนั้นข้าจะมอบจุดจบอันเลวร้ายให้พวกเจ้า”

     

    ทันทีที่พูดจบ หัวนั่นก็สลายเป็นฝุ่นผง ปลิวลอยตามกระแสลม

     

     

     

    ในมุมมองผู้สร้างต่างโลก Vol.1 Ch.27 ศึกกองทัพปีศาจ จบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×