คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : Vol.1 Ch.24 ลมหายใจอันรวยริน
ในมุมมองผู้สร้างต่างโลก Vol.1 Ch.24 ลมหายใจอันรวยริน
“หลบหลังฉันไว้นะ!” คริสเข้ามาบังหน้า
เมรินทร์สะบัดหน้า อย่าพึ่งลนลานตัวเรา “อือ!”
ยอมรับเลยว่าครั้งนี้ผิดคาดมาก การที่บอลเพลิงขนาดใหญ่กว่าหลายสิบลูกบอยเคว้งกลางอากาศเวลานานคิดว่าจะดึงความสนใจของพวกมันทั้งหมดได้ ทว่ากลับผิดคลาด พวกมันใช้กำลังลาดตะเวรถึงขนาดนี้เลย หรือว่าจะบังเอิญเจอตอนที่พวกมันกลับมากัน
ยังไงก็ตามแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดมาก ต้องแก้ปัญหาตรงหน้าก่อน
เมรินทร์ยืนมองดูสถานการณ์อย่างหวาดหวั่น
คริสหลับตาฟาดคฑาเหล็กไปมา หวืดลมไม่น่าเชื่อ “นี่แน่ะ นี่แน่ะ” ตะโกนขู่อย่างวิตก “ถ ถอยไปนะ!”
เมรินทร์แทบตาเหลือก เข้าใจว่าคริสไม่ค่อยถนัดการต่อสู้นัก นึกไม่ถึงว่าจะขนาด เธอต้องเข้าช่วยเหลือ ก่อนการโจมตีสุดน่ารักนั่นจะทำให้หัวใจวายซะก่อน
เพล้ง—
ขวดแตกกลางพื้น น้ำยาสีน้ำตาลอ่อนหกเลอะเทอะ เรดก็อบลินสองตัวที่อยู่หน้าสุดขยับเขยื้อนไม่ได้เพราะน้ำเหนียวเหนอะหนะเกินกว่าจะดึงขาออก ตึง—! คฑาของคริสฟาดกระทบร่างโดยง่าย
เมรินทร์ยิ้มมุมปาก ดีล่ะ ถ้าเป็นเป้านิ่งต่อให้เป็นคริสก็ฟันถูกสบายๆ
เหล่าเรดก็อบลินขบฟันกรอดเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองตายต่อหน้าต่อตา พวกมันเริ่มหันมาสนใจเมรินทร์ และอ้อมจู่โจมจากด้านหลัง
“กี้—!!!” เรดก็อบลินสามตัวกระโจนจากมุมอับพร้อมกัน แยกเขี้ยวยิงฟันโกธา
เมรินทร์ล้วงขวดน้ำยาสีดำเข้มขึ้นมาบนฝ่ามือ “เข้ามาใกล้ก็สวยสิคะ!”
ขวดกลมลอผผ่านกลางอากาศหยุดตรงหน้า ตู้ม—! เสียงระเบิดลั่น ปัดเป่าร่างที่เข้ามาใกล้แหลกกระจาย
พวกเรดก็อบลินที่เหลือเห็นอย่างนั้นก็เริ่มถอยออกห่าง
เมรินทร์เหงื่อเย็นไหล ยิ้มอย่างผู้ชนะ ความฉลาดของพวกมันทำให้รู้ว่าสิ่งนี้คืออันตรายจนไม่กล้าเข้าใกล้
อีกทั้งพวกมันยังไม่รับรู้ถึงจำนวนครั้งอันจำกัดที่เหลืออยู่เพียงแค่สองขวด หากพวกมันบุกมาอย่างต่อเนื่องถี่ๆ เธอต้องจนมุมนอนรอความตายแน่นอน
เพล้ง— จังหวะเดียวกันเธอก็ขว้างขวดน้ำยาเหนียวเพื่อให้คริสกำจัดศัตรูอีกด้วย ยิ่งเวลาเลยผ่านจำนวนของอีกฝั่งลดลง ไม่นานต้องฆ่าพวกมอนสเตอร์หมดแน่
สองสาวหลังชนกัน ทำงานอย่างเป็นทีม ศัตรูที่รุมล้อมช่างน่ากลัว แต่พวกเธอต้องฝ่ามันไปให้ได้
ขณะเดียวกันที่ทั้งคู่เป็นต่ออยู่ เมรินทร์สังเกตถึงเรดก็อบลินตัวหนึ่ง มันก็ดูเหมือนเป็นแค่เรดก็อบลินธรรมดาๆ ทว่าจากที่มันกำลังจ้องมาด้วยแววตาโกรธเคืองขู่คำราม ทั้งร่างก็สงบนิ่งลง ตาค้าง ลอยเต่ง อ้าปากเหวอ ราวกับมีตัวอะไรกำลังเข้าสิง
“โก๋—ว —” จากนั้นมันชี้มาทางนี้ คำพูดภาษาแปลกประหลาด สื่อสารร้องลั่นด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบเกินกว่าจะคิดว่าเป็นมอนสเตอร์
แววตาของมันเต็มไปด้วยความน่ากลัวสบกับเมรินทร์ เหงื่อออกไหล หน้าซีดเผือก ออร่าอะไรกันน่ากลัวถึงเพียงนี้
“พวกมันดูแปลกไป!” คริสเสียงสั่น
“เกิดอะไรขึ้นกับพวกเรดก็อบลิน แล้วนั่นมัน.....” เมรินทร์จ้องเรดก็อบลินตัวแปลกๆ นั่นไม่กระพริบตา ก่อนมันสลบเหมือดล้มลงกับพื้น “เอ๊ะ ทำไมมันหมดสติแบบนั้น” เธอตงิดใจ
ทว่าไม่มีเวลาให้คิด หลังร่างอันนั่นสิ้นลมลง พวกเรดก็อบลินต่างกรูโถมเข้ามาอย่างบ้าละห่ำ
“แย่แล้ว!!!” เมรินทร์ร้อนลนรีบปาขวดน้ำยาระเบิด ทว่าก็หยุดพวกมันได้เพียงแค่แป๊บเดียว น้ำยาระเบิดของเธอก็หมดลง
“กรี๊ด—!!!” คริสโดนจู่โจมจากด้านหลังที่เป็นมุมอับสายตา
“คริส— อ้า!!!” เมรินทร์กล่าวด้วยความเป็นห่วงทว่าตัวเธอเองก็ไม่พ้นเงื้อมือของพวกมัน โดนจับกระแทกพื้นอย่างรุนแรง
“ปล่อยนะ!” เธอดิ้นอย่างทุรนทุรายขวดน้ำยาบนพื้นหกแตกกระจาย
“ม่ายยย คฑาของฉัน อย่าเอาคฑาของฉันไป” เรดก็อบลินที่รุมล้อมร่าของคริสฉุดดึงคฑาของเธอด้วยกำลังจากมือ
“อั่ก—” ตัวที่แย่งคฑาได้ใช้สิ่งนั้นฟาดเข้าที่หน้าท้องของคริส เสียงกรีดร้องขัดขืนเงียบหยุดลง
“คริส!!!!!!!” เมรินทร์ตะโกนร้องเรียกเพื่อนสุดเสียง
“ไม่นะ” ดวงตาสบเข้ากับก็อบลินที่ยืนอยู่บนลำตัวของเธอ มันถือตะบองไม้หนาง้างขึ้น
หลับตาปรี๋นึกถึงใบหน้าสุดท้ายของพ่อแม่ จะจบลงทั้งแบบนี้เหรอชีวิตของเรา
วิ้งงง—ฉั่วะ!!!
เสียงลมแหวกว่ายอากาศ มวลของเหลวมหาศาลไหลท่วมตัว เมรินทร์ลืมตา เฮือก เป็นเลือดเหม็นสาปของเรดก็อบลินที่ไหลริน เบื้องหน้าเธอคือร่างของเหล่าก็อบลินที่ขาดครึ่ง
“เป็นอะไรไหม!!!”
เสียงของปริญแว่วเข้าหู ราวกับระฆังช่วยชีวิต นี่เขาย้อนกลับมาช่วยเรางั้นเหรอ
เธอร้องไห้สะเอื้อนออกมา “ฮือ—” รอยยิ้มของเด็กหนุ่มตรงหน้า เมรินทร์กล่าวอย่างกระวนกระวายลิ้นพันกัน “นึกว่าจะตายซะแล้ว”
“ไม่เป็นอะไรแล้ว พวกมันโดนผมจัดการทั้งหมด” เขากล่าวปลอบโยน
เมรินทร์มองหลัง ธีร์กับชิลินก็ตามมาด้วย พอสังเกตดูดีเขามีอาการหอบเหนื่อยกว่าคนอื่น แสดงว่าเร่งรีบมายังที่นี่
“คริสล่ะ คริสเป็นอะไรไหม!” ทันใดที่รับรู้ถึงความปลอดภัยเธอรีบควานหาคนใกล้เคียง
“คริส.....” เมรินทร์รีบให้ร่างของคริสหนุนตัก น้ำตาไหลตกแก้ม ปากของเธอมีเลือดไหลกรอก อวัยวะภายในบางส่วนคนถูกทำลาย
เมรินทร์รีบคว้าหาขวดยาในกระเป๋า “ไม่มี..... ไม่มีเหลือเลย” น้ำเสียงสั่นเครือ หันมองดูขวดยาที่แตกกระจายบนพื้น เพราะเมื่อกี้โดนกระชากไปมาขวดยาในกระเป๋าเลยหล่นลงพื้น หลงเหลือเพียงความว่างเปล่า
“ท ทำไงดี” ถึงการรักษาของเมรินทร์จะไม่เท่ากับคริสที่ถึงขนาดรักษาบาดแผลฉกรรณ์ได้ แต่ถ้ายังมียาสีเขียวเหลือซักขวดน่าจะพอช่วยบรรเทาอาการลงบ้าง
“อาการหนักเอาเรื่องแฮะ” ธีร์ที่มาถึงหลังสุดเหลียวมองหลัง ร่างของเรดก็อบลินที่เหลือเพียงเศษเนื้อบนพื้น “โชคดีที่เอะใจกับเสียงระเบิดเมื่อครู่เลยย้อนกับมา” น้ำเสียงเขาอาจฟังดูโล่งอก ทว่าอีกใจหนึ่งเขาไม่คิดอย่างนั้น บางทีมันอาจสายเกินไป
ร่างของคริสหอบหายใจรวยริน ความตายกำลังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
เมรินทร์ที่ทำอะไรไม่ได้เลย สมเพชตัวเอง อยากช่วยคริส ไม่อยากให้เธอตาย อยากให้เธอกลับบ้านพร้อบกับพวกเรา ทว่าหากรออีกครึ่งชั่วโมงให้กระเป๋าสร้างน้ำยาฟื้นฟูเสร็จ ก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นคริสจะยังมีชีวิตอยู่ไหม
ทันใดนั้นเอง ปลายหางตาพบเข้ากับก้นขวดของน้ำยาสีทอง แววตาเปล่งประกาบด้วยความหวัง
เธอยืดตัวใช้แขนคว้านมันไว้ น้ำยาสีทองเหลือเพียงหนึ่งในสิบของขวด ถึงแม้จะริบหรี่แต่ก็ต้องภาวนาสุดหัวใจ
มือข้างหนึ่งค่อยๆ จับปากของคริสอ้าออก กรอกน้ำยาอย่างช้าๆ ไม่ให้พลาดแม้แต่หยดเดียว
“ขอให้ได้ผลด้วยเถอะ”
ทั้งสี่คนจ้องอย่างมีความหวัง ใบหน้าที่กำลังทนทุกข์ทรมาณของคริส ค่อยๆ ผ่อนคลาย การหายใจเริ่มกลับมาเป็นปรกติ
“มันได้ผลใช่ไหม” ธีร์กล่าว ตกใจ
เมรินทร์ส่ายหน้า “ฉันเองก็ไม่รู้ค่ะ.....” น้ำเสียงแผ่วเบา “เพียงแค่ต้องภาวนาเท่านั้น”
ปริญจับไหล่เบา “พาเธอไปที่สบายกว่านี้เถอะ”
เด็กสาวพยักหน้า ปล่อยให้เขาอุ้มตัวของคริสไป
พวกเขาตัดสินใจถอยกับการบุกฐานเรดก็อบลินครั้งนี้ แม้ว่าเกือบทั้งหมดจะถูกขจัดสิ้น สัญญาณของชาวบ้านที่ถูกจับจะยังไม่แน่ชัด ทว่าทั้งสี่คนก็ให้ความสนใจกับพื้นร่วมกลุ่มมากว่า
แคมป์ถูกตั้งขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยคริสถูกพาตัวนอนพักรักษาในเต้นท์อย่างทะนุถนอม เมรินทร์กุมมือเธออยู่ข้างๆ ไม่ห่าง
“ขอร้องล่ะค่ะ อย่าพึ่งจากพวกเราไปเลย” น้ำตาของเธอไหล ร่ำไห้ข้างๆ “คริส”
อาการของเธอยังไม่ดีขึ้น จนเวลาล่วงเลยผ่านสามสิบนาที เมรินทร์ยกขวดน้ำยาฟื้นฟูสีเขียวขวดแรกที่กระเป๋าสร้างเสร็จยกดื่มไหลผ่านปาก เข้าสู่ลำคอให้
คริสยังคงนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง ไร้ปฏิริยาตอบสนอง ลมหายใจแผ่วเบา
ขวดที่สอง ขวดที่สามถูกป้อมให้ ทว่าดวงตาของคริสไม่แม้แต่ลืมขึ้น ทั้งคืนนี้เมรินทร์เฝ้าคริสไม่ห่าง ธีร์และปริญมองด้วยความเป็นห่วง อยากให้พักผ่อนบ้าง ทว่าหากสิ่งที่เธอทำนั้นสบายใจ คงห้ามไม่ได้
รุ่งสางมาถึง ขอบตาของเมรินทร์ดำมิด ขวดยาที่ว่าจะป้อนให้ เธอชักมือกลับ ไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้ว
ให้มากกว่านี้ก็ไม่ส่งผลอะไร ดวงตาของเมรินทร์หลับลงด้วยความผิดหวัง
“ขอโทษนะคะ ช่วยอะไรไม่ได้เลย”
เสียงสะอื้นผ่านลำคอ
“. . . . . . . . . อ อะไรเล่า ย ยังไม่ตายซะหน่อยน้า”
เมรินทร์เบิกตาโต น้ำเสียงของอ่อนของคริสแว่วเข้าหู่ เธอดีใจสุดขีดเมื่อดวงตาลืมเล็กของอีกฝ่ายสบตากัน
“คริส!” เมรินทร์แทบโผลกอด ดีใจสุดขีดเมื่ออีกฝั่งตอบสนองด้วยอาการโคม่า
“อะไร อะไร!? เธอฟื้นแล้วงั้นเหรอ!?” ธีร์เปิดม่านเต้นท์ พบเข้ากับคริสที่พูดคุยได้ อาการดีขึ้นอย่างเห็นชัด “น่าดีใจจริงๆ”
ปริญยิ้มมุมปาก มองจากภายนอกแคมป์ห่างๆ มือข้างหนึ่งกำลังตระเตรียมอาหารมื้อเช้า
“โอ๊ะ เหมือนว่าเธอเองก็ดีใจกับเขาด้วยนะ” เขาหัวเราะ เผลอเห็นภาพชิลินที่ยิ้มกว้างโดยไม่รู้ตัว
“เงียบน่า” ใบหน้าเขินอาย แดงรื่นของเด็กสาวผู้มืดหม่นเบือนหน้าหนีอย่างไว
ปริญมีอารมณ์ขันท์พอสมควร พวกเราในกลุ่มมีสัมพันธ์อันดีต่อกัน ช่างเป็นเรื่องที่แสนวิเศษ
เขาแหงนหน้ามองทางทิศอื่น ฐานของก็อบลินเมื่อวานที่ยังคงเคลียร์ไม่เรียบร้อยดี นั่นคือปัญหาของเราในตอนนี้แล้ว ไหนยังเรดก็อบลินปริศนาที่เมรินทร์เล่าอีก ถ้าจำไม่ผิดเขาเองก็เห็นกลับตา มีอยู่ตัวหนึ่งที่ไม่ได้ตายด้วยคลื่นดาบสีทองของเขา มันสิ้นลมหายใจอยู่ก่อนหน้า ไม่ใช่ร่องรอยฝีมือของคริส หรือเมรินทร์ แปลกประหลาดเกินกว่าทำความเข้าใจ
สิ่งนี้ทำให้เขารับรู้ดีว่ายังมีภัยอันตรายอื่นเกินกว่าที่พวกเราเห็น หากไม่คอยระวังอาจต้องสูญเสียสมาชิกแน่ วันนี้ก็เกือบไป วันหน้าอาจไม่โชคดีอีกก็ได้
“จอมมาร” การกำจัดสิ่งนั้นลงคงไม่ง่ายเสียแล้ว
ในมุมมองผู้สร้างต่างโลก Vol.1 Ch.24 ลมหายใจอันรวยริน จบ
ความคิดเห็น