คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : Vol.1 Ch.23 ชายแดนอันย่อยยับ
ในมุมมองผู้สร้างต่างโลก Vol.1 Ch.23 ชายแดนอันย่อยยับ
ธีร์เปิดซองจดหมายสีขาว ตราด้วยผนึกกาวสีแดง สัญลักษร์ของราชาแอนดิส เขาดูเนื้อหาภายในก่อนถอนหายใจยาว เฮ้อ—
“แผนที่พวกนี้มันอะไรล่ะเนี่ย?” จุดมากมายมหาศาลแต้มแดงเข้มบนกระดาษ
“พวกเราต้องไปปราบฐานของก็อบลินมากมายขนาดนี้เลยเหรอคะ!?” เมรินทร์เบิกตาโพลง โผล่หน้ามองกระดาษนั่นด้วย
“พวกเขาทำอะไรกับมันไม่ได้เลยเหรอ?” เสียงเหนื่อยของปริญแว่วใกล้
สีหน้าสิ้นหวังของเมรินทร์เด่นชัด “ไม่เลยค่ะ ต่อให้พวกเขาส่งทหารออกไปแค่ไหนก็ไม่มีใครกลับมา” ดวงตาตกลง “มีแค่พวกเราเท่านั้น ฉันเลยบอกราชาแอนดิสให้เขาไม่ต้องส่งใครไปอีก”
“เหรอ” ปริญสนใจต่อบทสนทนานั่น “ช่วยไม่ได้ล่ะนะ มีแต่พวกเราแล้วตอนนี้”
ธีร์ยิ้มมุมปาก พวกเขาทั้งห้าหันหน้าเข้าหากัน “จากนี้พวกเราคงเหนื่อยกันแน่ แต่เธอล่ะมีใจสู้ไหมเมรินทร์”
“ค่ะ” เธอกำมือสู้ “พวกเราไปกันเถอะค่ะ กอบกู้อาณาจักรนี้”
การเดินทางของพวกเขาเริ่มขึ้น โดยมีสายตาของราชาแอนดิสและลูกสาวอีวาร์ส่งบอกลาจากด้านหลัง
“ว่าแต่เธอหนักไหมนั่น” ธีร์หันมองเมรินทร์อย่างเป็นกังวล
เธอแบกกระเป๋าเป้ใบใหญ่ซึ่งบรรจุเต้นสองอันและสิ่งของจำเป็นพะรุงพะรัง โดยคนทีเหลือแทบไม่ต้องขนสิ่งใดเลย
“ไม่เป็นไรค่ะ” ใบหน้าซีดเขียวของเมรินทร์ ก่ำไม่ไหวติง “ค แค่นี้สบายมาก”
ขณะที่เธอกำลังจะล้งลมเพราะความหนัก ปริญจับจากด้านหลัง แบ่งบางส่วนมาให้เขาถือ
เมรินทร์มองด้วยแววตาสงสัย “เอ่อ ให้เป็นหน้าที่ของฉัน.....” เสียงช่วงท้ายหยุดลง หอบเหนื่อยพักหายใจ
“ไม่ต้องฟังคำแนะนำของราชาแอนดิสที่ให้เธอรับภาระจิบปาถะนั่นหรอก” น้ำเสียงเขาปนความเป็นห่วง
สายตาของเมรินทร์ต่ำลง “.....ฉันเองก็เห็นด้วยกับคำพูดของราชาแอนดิสตอนก่อนออกเดินทาง” น้ำเสียงสั่นเครือเจือสับสน “ซัพพอตเตอร์หรือผู้ใช้กระเป๋าคือคนที่คอยอำนวนความสะดวกแก่ผู้กล้าคนอื่น....”
“ก็ช่างมันสิ” ปริญหัวเราะ “ให้คนที่เป็นดั่งหัวหน้ากลุ่มอย่างเธอไม่เหมาะกับแบกของหนักหรอกนะ”
“ฉันเองก็เห็นด้วย” ธีร์หยิบสัมภาระส่วนหนึ่งจากด้านหลัง “ยังไงตอนนี้พวกเราก็เป็นทีมเดียวกัน ต้องช่วยๆ กันไว้สิ”
เมรินทร์มองด้วยดวงตาประหลาดใจ ก่อนสัมผัสได้ว่ามีของบางอย่างถูกดึงออกจากหลังกระเป๋า “ชิลิน” เด็กสาวผู้มืดหม่นแม้เธอจะไม่คุยใดๆ แต่การกระทำของเธอบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าต้องการช่วย
“โธ่ ทุกคนไม่เหลือให้ฉันช่วยเลยนะ” คริสโวยวายจากด้านหลัง “เอ้า ชิลินเธอแบกเยอะเกินไปไหมนั่น ตัวก็นิดเดียว มาให้ฉันช่วยเถอะ” เธอคว้าของหลายสิ่งจากในมือของชิลินที่กำลังซีดเผือกจากความหนัก กระทั่งคนที่มีพละกำลังเยอะยังรู้สึกหนัก
“ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าจะทนแบกมาจนถึงตอนนี้” สายตาของปริญมองด้วยความอ่อนโยน “มีอะไรก็ให้ช่วยก็บอกพวกเราเลยนะ”
“ค่ะ” เมรินทร์พยักหน้าด้วยความดีใจ พวกเขาเป็นพรรคพวกที่ดีสำหรับเธอ
หลังเดินทางลำพังห้าคน จนพวกเขามาหยุดอยู่ใต้ร่มไม้หนึ่งริมแม่น้ำ
“เรามาถึงจุดพักค้างแรมแล้ว” ธีร์หยิบแผนที่กางขึ้นมาดู
พวกเขาเริ่มช่วยกันตั้งเต้นท์สองอัน แยกชายหญิง โดยเริ่มทำอาหารจากเสบียงที่เตรียมมา เป็นเนื้อตากแห้งรสชาติจืดชื่น
“มันออกจะไร้ชาติไปหน่อย” ธีร์ลุกขึ้นยืน “เดี๋ยวลองไปจับปลาที่ริมแม่น้ำนั่นดีกว่า”
“ผมไปด้วยสิ” ปริญกล่าวขึ้นเสียงร่าเริง
“ระวังตัวด้วยนะคะ” คริสโบกมือใบหน้ายิ้มแย้ม พวกเขาพยักหน้ารับตอบกลับ
สองหนุ่มออกล่าจับปลามาเป็นเมนูพิเศษ ส่วนชิลินเก็บตัวในแคมป์คนเดียว เหลือเพียงคริสและเมรินทร์ที่นั่งผิงไฟ พวกเธอเริ่มคุยกันเองเพื่อไม่ให้บรรยากาศน่าอึดอัด
“จะว่าไปแล้วพวกเราไม่เคยคุยเรื่องส่วนตัวกันเลย มาแลกเปลี่ยนกันไหม?” คริสถามด้วยพลางยิ้มหน้าเป็นมิตร
“ค่ะ ด้วยความยินดีเลย” เมรินทร์ผุดยิ้ม ได้เพื่อนคุยก็ไม่เลว
“ว่าแต่เธอมาจากไหนเหรอ? ฉันมาจากตัวเมืองเล็กๆ ในเขตบ้านนอกหน่อยๆ”
“เหรอดีจังนะคะ” สองมือของเมรินทร์ประกบกัน “หนูเกิดที่เมืองน่ะค่ะ มีความฝันอยากเที่ยวชนบทสักวัน”
“ฮ่ะ ฮ่า งั้นฉันมีที่ท่องเที่ยวแนะนำเลยล่ะ แต่ไม่รู้ว่าโลกของเราจะเหมือนกันไหม อย่างน้ำตก....”
สองสาวแลกบทสนทนากันสนุกปาก พอลองคิดเกี่ยวกับสถานที่ของกันและกันแล้วช่างเป็นโลกที่คล้ายเหลือเกิน เพียงแค่ต่างกันคนละช่วงเวลา
“......โห ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าตลกคนนั้นจะเสียช่วงโรคละบาด น่าเศร้าจังเลย” คริสตั้งใจฟังอย่างใจจดจ่อ เกี่ยวกับเรื่องราวที่อาจเกิดในอนาคต
“ใช่ไหมล่ะคะ ใครๆ ก็เสียใจทั้งนั้นแหละ ถึงหนูจะเกิดไม่ทันเขาแต่มุกเขาใช้ได้กับทุกยุคสมัย”
เวลาผ่านมานานขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มถามเรื่องส่วนตัว กระทั่งเมรินทร์เผลอหลุดปากเรื่องพ่อและสถานการณ์ปัจจุบันของตัวเอง
“หืม เมรินทร์น่างสงสารจังเลยนะ ครอบครัวของเธอกำลังอยู่ในช่วงยากลำบาก” เธอยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง “ฉันเอาใจช่วยนะ”
“ขอบคุณค่ะ” เมรินทร์ก้มหัวด้วยสีหน้าเบิกบาน “ว่าแต่ครอบครัวของคริสเป็นไงบ้างคะ สบายดีกันหรือเปล่า”
ทันใดที่คำนั้นหลุดเข้าหู สีหน้าของคริสพลันเศร้าหมอง เธอรู้ตัวแล้วว่าทำพลาดเข้าจนได้ “ฉันไม่มีครอบครัวหรอก พอจำความได้ก็อยู่ในบ้านกำพร้าแล้ว” คริสหยิบกิ่งไม่ยาว วาดๆ ขีดๆ บนดิน
“ขอโทษนะคะ” เสียงเธอแผ่วลง
คริสรีบโบกมือห้าม “ไม่หรอก ไม่ใช่ความผิดของเธอเลย” ยิ้มเจื่อน “ถึงฉันจะไม่มีพ่อแม่ แต่ก็มีคนที่เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวอยู่นะ”
สีหน้าของคริสอ่อนลง “อย่างน้อยฉันก็นับถือผู้ดูแลว่าเป็นแม่ ป่านนี้เธอคงเป็นห่วงฉันแย่ เธอมาเฝ้าฉันไม่ห่างเลยตั้งแต่ป่วยเป็นโรคระบาด”
เมรินทร์ดวงตาเบิกโต “คริสคะ” เธอยิ้มบานออก “พวกเราต้องร่วมมือกันและกลับไปหาผู้ดูแลของคริสได้เร็วแน่ค่ะ ไม่ต้องกังวลนะคะ”
ใบหน้าของคริสเจือจางด้วยความอิ่มเอิม “ขอบคุณนะ เธอทำให้ฉันมีความหวัง ถ้าไม่ได้เธอพวกเราคงไม่รอดตั้งแต่สองวันแรก”
คำพูดเหล่านั้นจริงใจ ซื่อสัตย์ เป็นเวลาเดียวกับที่ธีร์และปริญที่ตัวเปียกปอนกลับมา พวกเขาทันฟังบทสนทนานั่นโดยบังเอิญ
“เห๋ สาวๆ คุยกันเหรอเนี่ย ให้ฉันแจมด้วยสิ” มือข้างหนึ่งกำปลาหลายตัวใส่ถุงผ้า
“ธีร์ไม่มีมารยาทเลยนะ” คริสทำหน้าแหย
เมรินทร์หันถามพวกเขาด้วยความตกใจ “ปริญตัวเปียกเชียว เกิดอะไรขึ้น?”
เขารีบเข้าผ้า เผ่นเช็ดตัวด้านหลังด้วยความอับอายที่ให้เห็นในสภาพไม่น่าดู
ธีร์หัวเราะ ชี้นิ้วโป้งด้านหลัง “หมอนี่มันพลาดลื่นตกน้ำน่ะสิ”
“ซุ่มซ่ามจังน้า” คริสอดบ่นไม่ได้
เมรินทร์หัวเราะแหบแห้ง
“ว่าแต่ที่พวกเธอคุยกันเมื่อกี้น่าสนใจนะ” ธีร์นั่งลงฝั่งตรงข้าง ผิงกองไฟอุ่น “ผมเองก็มีพี่สาวเหมือนกัน”
ใบหน้าของเขาย้อนลำรึกความหลัง “พ่อแม่ของฉันแยกทางกันตั้งแต่เด็กก็มีแต่พี่สาวเนี่ยแหละที่คอยเลี้ยงดูมาตลอด”
เขามองบนฟากฟ้า ดวงดาวเปล่งประกายยามค่ำคืน “ท้องฟ้านี่สวยกว่าในเมืองยามค่ำคืนที่มองแทบไม่เห็นอะไรเลยนะ” ตำแหน่งของดาวเหนือที่แตกต่างยิ่งตอกย้ำว่านี่ไม่ใช่โลกของพวกเขา “มาพยายามเพื่อกลับบ้านของพวกเรากันเถอะ”
ทั้งสองคนแหงนหน้ามองเหล่าดวงดาวตามคำพูดของธีร์ นี่คือการรวมตัวของเด็กผู้มีปัญหาทางครอบครัวหรือยังไงกัน ช่างตลกร้าย ทว่าแต่ละคนต่างก็มีเหตุผลให้กลับบ้านของตัวเอง การคุยปรับทุกข์ยิ่งทำให้หวนระลึกความหลังอันน่าจดจำ อาจส่งผลร้ายก็ได้ แต่รู้สึกดีที่ได้ระบาย
รุ่งสางของวัน การบุกโจมตีเริ่มขึ้น ปลายสายตาสุดลูกหูไกลคือฐานของเรดก็อบลิน ครั้งนี้แตกต่างจากตอนแรก พวกนักรบอยู่กับครบ แถมมีอาวุธเต็มมือ อยู่ในฐานที่มั่นก่ออิฐอย่างเข้มแข็ง ไม่ง่ายเลยที่จะบุกฝ่าอย่างไม่คิดอะไร
เมรินทร์พยักหน้าให้กับชิลินซึ่งหมอบคลานฝั่งตรงข้าม
ตัวเธอเปรอะเปื้อนโคลนหมด เพราะดินอันชื้นแฉะที่ถูกฝนโหมกระหน่ำ ช่างสปรกและเหนียวเหนอะ แต่ก็ช่วยไม่ได้ทางนี้คือจุดอับสายตาของเรดก็อบลิน หากอยากเข้าใกล้ให้มากที่สุดก็มีทางนี้ทางเดียว
ชิลินชูไม้เท้าขึ้น ลูกบอลเพลิงลอยกลางฟากฟ้า เหล่าเรดก็อบลินตื่นตะหนก เป่าแตรลมดังลั่น หาตัวต้นเหตุ ทว่าต่อให้พวกมันวิ่งร้อนลนหาเท่าไหร่อย่าไรก็ไม่เจอ ตัวของเด็กสาวผู้มืดหม่น ตอนนี้พลางตัวกับสีของโคลนแนบสนิท ใช้เวลานานกว่าจะแยกออก
เมือถึงจุดนั้นก็สายไปเสียแล้ว เหล่าบอลเพลิงลูกใหญ่กว่าสิบลูกที่ใช้ช่วงร่างยาวนานกว่าสิบนาทีล่วงหล่นลงสู่พื้น
เสียงกรีดร้องหวยโหนของเหล่า เรดก็อบลินดังระงม
เมรินทร์หวังว่าจะไม่โดนคนที่จับเอาไว้ พวกเธอรู้มาว่าเหล่าเหยื่อที่ถูกจับมาผสมพันธุ์นั้นจะถูกฝังในทางใต้ดินอย่างดี จึงไม่กังวลมกนัก ทว่าก็ยังห่วงกลายๆ
เหล่าคนน่าสงสารที่ถูกจับมานั้น ไม่เพียงแค่เพศหญิงยังมีเพศชาย หากเป็นก็อบลินปกติที่มีผิวสีเขียวพวกมันจะจับเฉพาะผู้หญิงมาเพิ่มเผ่าพันธุ์ แต่ในเรดก็อบลิน ตัวเมียมีความแข็งแรงและฉลาดพอจะจับผู้ชายตัวโตๆ มาผผสมพันธุ์อย่างป่าเถื่อนด้วยการให้กินยาชูกำลัง ลูกที่ออกมาก็จะแข็งแกร่งกว่าปรกติ
เรดก็อบลินจึงเป็นอุสรรค์แรกที่ต้องกำจัดโดยเร็วที่สุด มิเช่นนั้นมันจะมีกำลังมากเกินไป
“ตอนนี้ล่ะค่ะลุยเลย!!!” เมรินทร์ตะโกน
ปริญกับธีร์ลุกขึ้นจากการหมอบคลานซ่อนตัวในโคลนตม แช่ในนี้นานๆ ไม่เรื่องตลกเลย ในที่สุดพวกเขาจะได้ออกมาขยับตัวเสียที
เมรินท์กับคริส ตอนนี้ทำเพียงแค่ยืนดูห่างๆ การต่อสู้มันดุเดือดมากเกินสำหรับเธอ และยังอันตรายกับการอยู่ลำพัง คริสจึงไม่เข้าร่วมแนวหน้าได้ ทว่าสิ่งที่เธอทำได้ตอนนี้ก็ทำไปหมดแล้ว
ชิลินกลืนน้ำยาขวดสีเงิน เอือก เอือก ไหลผ่านลงลำคอ ไม่นานพละกำลังที่สูญเสียจากการร่ายเวทก็กลับคืนมา เธอพร้อมสนับสนุนทั้งคู่แล้ว
เมรินทร์โล่งอกที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ทั้งสามคนกำลังไล่ต้อนเหล่าเรดก็อบลินนับร้อยให้จนมุม ผลจากกการฝึกฝนตลอดการเดินทางมายังที่นี่ออกมาไม่เลว พวกเขาดูคล่องตัวกว่าแต่ก่อนมาก ทำเอาตัวตนของเมรินทร์ถูกกลบลงเรื่อยๆ เลย
“เมรินทร์ระวัง!” คริสตะโกนเรียกตื่นตะหนก โผ๊ละ! สีฝาดคฑาเหล็กกระทบส่วนหัวดังลั่น
เธอหันมองหลัง หน้าซีดเผือก ตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็อบลินนับสิบกำลังล้อมรอบทั้งสองคน
มือข้างหนึ่งลูบใบหน้าของตัวเอง เลือดม่วงเข้มของเรดก็อบลินเปรอะเปื้อนนิ้ว สัมผัสความตายเย็นเฉียบเข้ามาใกล้
ในมุมมองผู้สร้างต่างโลก Vol.1 Ch.23 ชายแดนอันย่อยยับ จบ
ความคิดเห็น