คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : Vol.1 Ch.19 บทเวทีแห่งการละเลงเลือด
ในมุมมองผู้สร้างต่างโลก Vol.1 Ch.19 บทเวทีแห่งการละเลงเลือด
“ทำไมทุกคนถึงทำสีหน้าแบบนั้น?” เมรินทร์ถามสงสัยเสียงเบา แม้กระทั่งกลุ่มที่โดนอัญเชิญมาด้วยกันยังมึนงง
“นี่ กระเป๋านั่นมันทำไมงั้นเหรอ?” ธีร์ดันแว่นของตัวเองขึ้น ใช้นำเสียงอันดัง กล่าวกับพระราชา
“ซะ ซัพพอตเตอร์ ผู้ใช้กระเป๋าคือซัพพอตเตอร์ต้องสาป” แอนดิสน้ำเสียงสั่นเครือ เค้นตัวเองเล่าอธิบายต่อ “ซัพพอตเตอร์ไม่มีค่าอะไร เหล่าผู้ใช้กระเป๋ามีความสามารถในการสร้างหลอดยาชนิดต่างๆ ก็จริง” เขากลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ “ทว่ากำลังกายเหมือนคนทั่วไป สัมผัสพิเศษก็ไม่มี เป็นตัวถ่วงอย่างแท้จริง”
ปริญเขารู้สึกไม่พอใจกับคำตอบของราชา ขมวดคิ้วลง “เธอเองก็เป็นผู้ถูกอัญเชิญเหมือนพวกเรา นั่นไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
แอนดิสหันควับกลับมาอย่างร้อนรน “ไม่ ไม่ ไม่” ส่ายหัวปฏิเสธรุนแรง “หากมีซัพพอตเตอร์อยู่ในกลุ่ม พวกเขาจะกลายเป็นตัวถ่วง” สีหน้าพลันนึกถึงเรื่องเลวร้าย “ในอดีตหากกลุ่มผู้ถูกอัญเชิญตายทั้งหมด จึงจะสามารถอัญเชิญกลุ่มใหม่ได้”
แอนดิสยืนขึ้น เดินเข้าหาเมรินทร์ “เพราะว่าเหล่าซัพพอตเตอร์ไร้ความสามารถในการต่อสู้ จึงทำให้เกิดการตายยกกลุ่มทุกครั้ง” แตะไหล่เธอ “เข้าใจพวกเราใช่ไหม? ในประวัติศาสตร์มีครั้งนึงที่อัญเชิญซัพพอตเตอร์ติดกันถึงสามครั้ง จนโลกเกือบถึงคราล่มสลาย”
เมรินทร์ขบฟันแน่ หน้าซีดเผือกไร้เลือด ต่อหน้าราชาแอนดิส
“กลุ่มที่มีซัพพอตเตอร์ ไม่เคยมีครั้งไหนฆ่าจอมมารสำเร็จ” น้ำเสียงเย็นยะเยือกแล่นเข้าหู กายใจแข็งทื่อไปหมด “เจ้าจะต้องไม่ไปกับพวกเขา”
มือนั่นสั่นไหวตัวเธอไปมา ราวกับตอกย้ำ
“ไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนั้น คุณราชา”
ดวงตาของพวกเขาเบิกโพลง ปริญแยกเข้าคั่นกลางทั้งคู่ “เธอจะอยู่อย่างสงบในปราสาท แค่นี้ก็พอใช่ไหม?”
เมรินทร์ถอนหายใจโล่งอก ถึงดูเอาเปรียบไปบ้าง หากไม่ต้องออกไปเสี่ยงภัยข้างนอกกับคนอื่นอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
แอนดิสหันมองอย่างสิ้นหวัง “ไม่ท่านผู้ใช้ดาบ” เขาส่ายหัวหนัก “บัดนี้ราษฎรต่างอดอยาก พวกเราไม่อาจเลี้ยงคนงอมืองอเท้าไปวันๆ ได้”
เขาชี้มายังเมรินทร์ราวกับเป็นคำสั่งตาย “ยิ่งเป็นตัวตนดั่งคำสาป เจ้ายิ่งไม่ควรอยู่ที่นี่ แม้ข้าจะปล่อยเจ้าไป แต่หากเป็นคนที่คลั่งตำนานโบราณล่ะก็ เจ้าจะถูกลอบสังหารเข้าสักวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
เมรินทร์สั่นสะท้าน เมื่อรับรู้ชะตากรรมของตัวเอง “ล แล้วอย่างนั้นฉันจะไปอยู่ที่ไหน?”
เหล่าผู้คนบนโลกนี้มองเป็นตาเดียว เวทนาถึงความน่าสมเพซต่อชะตากรรมที่ฟ้ามอบให้เธอ
“ถึงโลกภายนอกพวกสมุนจอมมารยังเดินเพ่นพ่านทุกที่ แต่หากเป็นผู้ถูกอัญเชิญเรามั่นใจว่าเจ้าจะเอาตัวรอดได้อย่างแน่นอน” สีหน้าแข็งกระด้างราวกับกำลังฝืนโป้ปด
“ข้าหวังอย่างนั้น”
เมรินทร์เข่าอ่อนทรุดลงกับพื้น เมื่อสักครู่ยังบอกว่าลูกสมุนจอมมารอันตรายอยู่เลยไม่ใช่หรือไง ไหนจะยังผู้ใช้กระเป๋าที่มีแค่พละกำลังเช่นคนธรรมดา ให้เอาตัวรอดด้วยตัวเองในสภาพอย่างนี้งั้นเหรอ
ธีร์ใช้นิ้วดันแว่นขึ้น ดวงตาหลังเลนส์มองเด็กสาวผู้น่าสงสาร “ถ้ามันเป็นอย่างที่ว่าคงช่วยไม่ได้”
คริสเองก็เบือนหน้าหนีไม่กล้าสู้ต่อปากต่อคำกับเขา ส่วนชิลินไม่แม้แต่สนใจมองมาทางนี้ด้วยซ้ำ
จะจบลงแบบนี้งั้นเหรอ ชีวิตที่สองบนโลกอื่นของเรา เมรินทร์ไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดมาช่วยกู้สถานการณ์ ทุกอย่างมันถึงทางตัน
“ผมคงยอมไม่ได้หรอก”
ดวงตามีความหวังของเมรินทร์เหลือบมองเด็กหนุ่มที่ย่างก้าวขึ้นมาใจกลางห้องโถง ตะโกนต่อหน้าทุกคน
“เธอจะไปกับพวกเรา” เขายิ้มมุมปาก “กำจัดจอมมารลงและกลับโลกเดิมด้วยกัน” มือของปริญยื่นมาทางนี้
ธีร์ขบฟันพูดเบา “ให้ตายสิอะไรของนายกัน”
คริสเบิกตาขึ้นเปล่งประกาย
ชิลินเหลือบมองเล็กน้อย
แอนดิสสิ้นคำจะกล่าว ทำไมเขาถึงได้โง่งมถึงเพียงนี้ “ท่านผู้ใช้ดาบ ท่านควรฟังคำพูดของข้าด้วยความหวังดีจากใจจริง”
“ผมว่าผมพูดไปแล้วนะ หากอาณาจักรหรือโลกใบนี้ไม่ต้อนรับเธอ ผมจะเป็นคนพาเธอไปเอง” เขาเผยลักยิ้ม
“อย่างน้อยเธอก็เป็นพรรคพวกที่โดนลากมาเหมือนพวกเรา”
พระราชาแอนดิสปรากฏใบหน้าบิดเบี้ยว แดงก่ำด้วยความโกรธ คำพูดของเขาโดนฉีกทิ้งอย่างไม่ใยดี “ท่านผู้ใช้ดาบ ท่านกำลังทำผิดมหันต์”
ส่งสัญญาณมือให้ทหารด้านหลัง “ฆ่าผู้หญิงคนนั้นซะ เราจะปล่อยให้เธอเข้าร่วมกลุ่มผู้กล้าไม่ได้”
ทหารฉกรรณ์ต่างกรูลุมล้อมเข้ามา หอกยาวสีเงินหันชูทางเมรินทร์ สัมผัสแห่งความตายคืบคลาน
ด้วยความเกรี้ยวกราด ปริญกำดาบในมือแน่น ปลายแหลมส่องแสงสว่างสีทองเจิดจ้า “บอกแล้วว่าไม่ไงล่ะ!”
ตึ่ง!
คลืนดาบสีทอง ฟันพ้นหัวของเหล่าทหาร พวกเขาหยุดกึก มองดูเพดาน ปรากฏรูโหว่รอยฟันดาบขนาดใหญ่ ความกลัวทำให้พวกเขาไม่กล้าเข้าใกล้อีก
มุมปากของแอนดิสหมุนบิดอย่างผิดรูป “ท ท่านผู้ใช้ดาบ! ได้โปรด!”
ธีร์มองดูปริญที่ตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับราชา “เอาแล้วไง ทำอะไรบุ่มบ่ามชะมัด” เขายังคงยืนอยู่เฉย ลังเลไม่รู้จะเข้าข้างใครดี ทันใดนั้นพลันสายตามองซ้ายโดยบังเอิญ อ้าปากเหวอ
“ทำอะไรของเธอน่ะ!?”
ชิลินชูไม้เท้า มวลก้อนหินหลอมรวมเป็นทรงกลม หมุนด้วยความเร็วสูงพุ่งไปยังด้านหลังของปริญ
“อั่ก!” การโจมตีไม่ทันตั้งตัว ไม่คิดว่าจะมาจากด้านหลัง กระแทกเข้าใส่กลางลำร่าง ล้มลงด้วยความเจ็บปวด ดาบที่หลุดมือตกพื้นแตกกระจายคล้ายเศษแก้วเรืองแสง
ทุกคนในห้องต่างตกอยู่ในความตกตะลึง มองดูการกระทำอันไม่คาดฝันของชิลิน
“ฉันอยากกลับบ้าน” น้ำเสียงเย็นเยือกตะโกนออกมา “ไม่เอาด้วยหรอก ตัวต้องคำสาปอะไรนั่น”
“เธอ!” ธีร์ขมวดคิ้ว เขาไม่ไหวอีกแล้วกับการฆ่าแกงกันเอง ยกทวนบนฝ่ามือสูงขึ้น ตั้งลำเพื่อหยุดยั้งโดยไม่หวังถึงตาย “เอาไงเอากัน!” เขาไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน แต่ทั้งปริญและชิลินยังดึงพลังออกมาได้ เขาก็ต้องทำมันได้เช่นกัน
ฝีเท้าเรืองแสง พุ่งทยานด้วยความรวดเร็ว เป้าหมายคือถล่มพื้นตรงที่ชิลินยืน
“อึก! โคลนนี้มันอะไรกัน!?”
โคลนดูดปริศนาใต้ฝ่าเท้ารั้งตัวเขาไว้ ขยับไม่ได้ ยิ่งดิ้นมันยิ่งดูดลึกขึ้น “โธ่เว้ย!”
ปลายไม้เท้าของชิลินเรืองแสง นั่นคือฝีมือของเธอ
คริสมองเห็นสถานการณ์ย่ำแย่ เธอเองก็อยู่ข้างธีร์ที่ไม่อยากเห็นการเข่นฆ่าเช่นกัน อาศัยจังหวะนั้นรีบรุดไปยังตรงที่ปริญนอนเจ็บอยู่
“ร รักษาใช่ไหมคะ ว่าแต่มันทำยังไงกันล่ะเนี่ย??” เธอลุกลี้ลุก ทว่าพอลองยื่นคฑาของตัวเองเข้าใกล้ผู้บาดเจ็บ แสงสีเขียวพลันปรากฎ ยิ้มอย่างดีใจมันได้ผล
“ไม่ยอมหรอกน่า” ชิลินสะบัดไม้เท้าของตน เกิดกำแพงหินคั่นกลางทั้งคู่
“กรี๊ด—!!!” คริสยกแขนมาบังตัวเอง กระเด็นลอยไกล
เมรินทร์มองไม่วางตา พลังของชิลินไม่ได้มากน้อยกว่าธีร์หรือปริญ แต่ไหวพริบของเธอดีกว่าอย่างมาก ครั้งแรกก็เอาชนะทั้งสามคนได้แล้ว ช่างน่าเหลือเชื่อ
ถ้าไม่ทำอะไรล่ะก็เธอคงตกเป็นเป้าหมายต่อไปแน่ เมรินทร์เปิดกระเป๋าหนังของตัวอย่างเร่งรีบ ตรวจสอบด้วยความร้อนรน “อะไรกันขวดยาพวกนี้?” มีแต่ขวดยาแปลกประหลาดเต็มไปหมด ทว่ามันกลับคุ้นตามาก “เหมือนไอเทมในเกมที่เราเคยเล่นเลย” ถ้าคุณสมบัติมันเป็นแบบเดียวกันล่ะก็ น่าจะทำอะไรสักอย่างได้
“ถึงตาเธอแล้วนะ”
ชิลินยกไม้เท้าตัวเองขึ้น ก้อนหินรูปลิ่มแหลมคมปรากฎ การโจมตีเช่นเดียวกับที่ทำกับปริญ ทว่าครานี้กะเอาถึงชีวิต
“ขอโทษด้วยที่ให้เธอต้องตายตรงนี้ แต่ฉันเองก็อยากกลับบ้านเหมือนกัน” ลิ่มหมุนบิดความเร็วสูง แหวกผ่านอากาศมุ่งตรงหาเมรินทร์ เสียงเสียดสีอากาศดังครืน
“หลบได้?”
ชิลินเบิกตาโต เสี้ยววินาทีเป้าหมายกลับโค้งตัวหลบอย่างเฉียดฉิว บังเอิญหรอกหรือ
เธอไม่สนมัน ชูไม้เท้าขึ้น เรียกลูกไฟสีแดงชาด สี่ลูกกลางอากาศ “ลองดูไหมว่าจะหลบมันยังไง”
ชิลินไม่กังวลนัก การโจมตีครั้งนี้คงรุนแรงพอปิดฉากได้ ถึงจะทำความเสียหายให้ห้องโถงพระราชามากหน่อย หวังว่าพวกเขาคงหยวนๆ กับผลลัพธ์นะ
โดยไม่คาดคิด เมรินทร์หยิบขวดยาสีเทาขุ่นจากในกระเป๋า ดึงสลักออก ค้างสองวินาทีก่อนปามัน ขวดแตกกลางอากาศ เกิดควันพวยพุ่ง บังทัศนวิสัยการมองเห็นสองฝ่าย
“ลูกเล่นอะไรเนี่ย?”
ชิลินเลิกคิ้ว ครุ่นคิด ลองปาลูกไฟไปมั่วๆ ดีไหม ไม่สิ คงแย่แน่หากโดนคนอื่น หรือเลวร้ายที่สุดอาจทำร้ายสมาชิกของกลุ่มผู้ถูกอัญเชิญทำให้การกลับโลกของเธอยากลำบากขึ้น ควรรอให้ควันนี้จางหายเองดีไหม อีกฝ่ายดูจะมองไม่เห็นด้วยสิ
ขณะกำลังดูสถานการณ์ โดยไม่ทันตั้งตัว ขวดยาสีม่วงฝ่าม่านหมอกถูกขว้างมาทางนี้
“แย่แล้ว เราไม่ได้เคลื่อนที่!” เพราะการเสกลูกไฟของเธอทำให้ขยับไม่ได้กลายเป็นเป้านิ่งให้อีกฝ่าย
พอนึกขยับเท้าก็สายไปเสียแล้ว ขวดยาสีม่วงแตกออกกลางหน้าผากเธอ เกิดควันม่วงจางรอบๆ
“แค่ก แค่ก” ปิดปากไอสำลัก เส้นเลือดปูดโปนขึ้นบนหน้าผาก สีหน้าเขียวซีดเซียว มันคือควันพิษ
“อออออออออออออ๊า!!!!!!!!!!!!!!!!!”
ชิลินปวดแสบปวดร้อนพุพองตามผิวหนัง เกิดมาไม่เคยเจ็บปวดขนาดนี้มาก่อนเลย เธอไม่อาจควบคุมสติได้อีก ความบ้าคลั่งครอบงำหัวสมอง ปล่อยลูกไฟเพลิงสาดทั่วห้อง เกิดเสียงระเบิดขึ้นทั่วทุกสารทิศ
“หมอบลง!” ราชาแอนดิสก้มลงกับพื้น หวาดหวั่นกับการการโจมตีมั่วซั่วตรงหน้า
“กรี๊ด—! ท่านพ่อช่วยด้วย!”
“หนีเร็ว!!!!!!!!”
เหล่าผู้คนในห้องโถงตกอยู่ภายใต้ความโกลาหล
มีเพียงเมรินทร์ที่ยังคงควบคุมอารมณ์เยือกเย็นของตน ลูกไฟพวกนี้ไม่น่ากลัวสักนิด แต่ละอันต่างไม่เข้าใกล้เธอเลย มองเห็นทะลุปรุโปร่ง เทียบกับโหมด [นรก] นั่น นี่ก็แค่ความเร็วเต่าคลาน
ร่างของเด็กสาวผู้สวมกระเป๋าหนังสะพายเข้ามาใกล้
ชิลินรวบรวมลูกไฟก้อนใหญ่กว่าที่แล้วมาถึงห้าเท่าเหนือหัว ปาเข้าใส่ด้วยความเดือดดาน “ยัยตัวดี!”
เมรินทร์จ้องมองเหงื่อเย็นไหล ยิ่งลูกไฟใหญ่เท่าไหร่ความเร็วยิ่งช้า ถ้าแค่นี้ละก็หลบได้แน่
เมรินทร์ถไลครูดกับพื้น ตู้ม!พ้นแรงระเบิดกลางหลังอย่างเฉียดฉิว ส่งแรงเคลื่อนตัวให้เร็วขึ้น
เธอหยิบขวดยากลมสีดำเข้มออกมา เปิดฝาสลักออก ด้วยระยะใกล้เพียงแค่นี้ไม่พลาดแน่ “เลิกทำอะไรบ้าๆ แบบนี้สักที......”
ตู้ม! เกิดระเบิดบนขวดนั้น เหมือนมีอะไรกระแทกแรงเข้าจังๆ จนล้มลง ไม้เท้าหลุดจากมือ ชิลินนอนลงแนบพื้น
เมรินทร์หยิบขวดยาสีฟ้าอ่อนสองขวดขึ้นบนฝ่ามือทั้งสอง บีบมันแตกออก สิ่งนี้คือน้ำยาที่ช่วยเพิ่มความแข็งชั่วคราวให้กับสิ่งที่ถูกสัมผัส กำปั้นถูกล็อคไว้ นี่คือความต้องการของตัวเธอเอง
นั่งขึ้นคร่อมบนตัวชิลิน สีหน้าดาดเดือด
“….แล้วรับฉันเข้ากลุ่มผู้กล้ากับคุณเดี๋ยวนี้!!!”
ตึ่ง!!!!!!
ฝ่ามือทั้งสองทุบรุนแรง กำปั้นซ้ายขวาเฉียดหัวของชิลินเพียงนิดเดียว รอยร้าวแตกกร้านขนาดใหญ่ปรากฎบนพื้นหินอ่อน
สีหน้าของชิลินไม่ไหวติง ความกลัวตายกับพิษที่กำลังกัดกินตัวเธอทำเอาขยับไม่ไหว
เป็นเวลาเดียวกับที่ธีร์ออกมาจากโคลนดูด และคริสรักษาปริญจนสำเร็จ เขาเรียกดาบขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งสามจ้องเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างตกตะลึง โดยมีพระราชากับเหล่าคนของเขาเป็นประจักษ์พยาน
ในมุมมองผู้สร้างต่างโลก Vol.1 Ch.19 บทเวทีแห่งการละเลงเลือด จบ
ความคิดเห็น