ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ในมุมมองผู้สร้างต่างโลก

    ลำดับตอนที่ #16 : Vol.1 Ch.16 วางแผนเดินหมาก

    • อัปเดตล่าสุด 30 เม.ย. 67


    ในมุมมองผู้สร้างต่างโลก Vol.1 Ch.16 วางแผนเดินหมาก

     

     

     

    เมรินทร์นำแผ่นไม้จำนวนมากมาเรียงกันบนโต๊ะ “วิธีการใช้งานมันจะน้อยไปไหน” เกิดมาไม่เคยเล่นบอร์ดเกมที่มีคู่มือน้อยขนาดนี้มาก่อนเลย จากที่เธอเคยชอบเล่นเกมกระดาน ตอนนี้ชักเกลียดมันแล้ว

     

    เธอต้องคาดเดาจากคำใบ้ต่างๆ อันน้อยนิด คราวนี้ลองมาพิจารณาวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วนกันดู เอาที่สำคัญก่อนอย่าง [ประเภทสร้างโลก] ดูเหมือนว่ากระดานไม้ประเภทสร้างโลกจะเป็นตัวกำหนดตรีม หากนี่เป็นบอร์ดเกมแฟนตาซี คงเอาไว้กำหนดเซ็ทติ้งหรือฉากหลัง

     

    ที่ต้องโฟกัสเลยคือ [ ประเภทการป้องกันโลก ] กับ [ ประเภทระดับการป้องกันโลก ] น่าสงสัยว่าหากระดับการป้องกันระดับสูงขึ้น พลังของโลกเหล่านั้นจะถูกยกระดับตามหรือเปล่า

     

    “ไม่สิ” จากที่ฟังปรมาจารย์กู่เล่า ระดับที่สูงกว่าขั้นเจ็ดลิขิตสวรรค์อาจมีอยู่ ไม่แน่ว่าบางทีอาจมีตัวตนที่สูงส่งเหนือยิ่งกว่าขั้นแปดหรือขั้นเก้าขั้นสิบอยู่อีกก็ได้

     

    [ ประเภทระดับการป้องกันโลก ] อาจสัมพันธ์กับพลังเริ่มต้นที่คนบนโลกมิติมีอยู่ การขวานขวายทำได้ง่ายกว่าหากมีผู้เชี่ยวชาญคอยสอน

     

    “อย่างนี้ไม่ดีแน่” การฝึกใช้เวลานาน และค่อนข้างใช้ดวงสูง มีโอกาสเยอะทีเดียวที่อาจไม่เจอกับคนจิตใจดีให้โอกาสอย่างพวกเหลียงเค่อหรือเหรี๋ยนซาน มิหนำซ้ำเลวร้ายที่สุดอาจเจอคนประเภทเดียวกับหลงสั่ว หรือไม่ก็ฆ่าตั้งแต่แรกเห็น มันคงเป็นการเสียเวลาโดยใช่เหตุ หากมัวแต่ลองผิดถูกไปทั่ว

     

    หรือจะไม่เข้าไปยังโลกมิติดูล่ะ ตามกฎ หากปล่อยเวลาเลยผ่านถึงช่วงหนึ่ง โลกมิติจะดำเนินการต่อ เธอไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น ยังไม่แน่ใจถึงการเร่งเวลาหรือย้อนกลับดั่งที่เขียนด้วย

     

    ถ้านึกตามสามัญสำนึก พวกตัวละครต่างๆ ประกอบฉากที่ไม่ใช่ผู้เล่นมักไม่สามารถเอาชนะฝ่ายร้ายได้เองอยู่แล้วหากไม่ใช่ตัวละครหลัก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ต้องส่งตัวละครเอกไปช่วยกอบกู้หรือเรียกว่าเป็นเหตุการณ์ในเกม

     

    ถ้าในมุมมองคนนอกอย่างเธอสามารถทำอะไรได้บ้างล่ะ กระดานไม้ [ ประเภทเหตุการณ์ ] คือสิ่งเดียวที่เธอทำได้ แต่ว่า

     

    เมรินทร์เหลือบมองกล่อง เหงื่อไหลหน้าผาก “ไม่มีของแบบนั้นแถมมาให้เลยนี่สิ” บางทีเธออาจลองกลับไปดูที่ [ ร้านค้าผู้สร้างต่างโลก ] นั่น ข้อมูลในตอนนี้ยังคงมีน้อย เกินว่าจะตัดสินใจ

     

    กระดานไม้ดีๆ มีจำกัด หากสูญเสียล่ะก็ การเคลียร์โลกที่ยังไม่เคยทำสำเร็จจะยิ่งยากว่าเดิม ตอนนี้ [ ประเภทช่วยเหลือ : สาสน์จากผู้สร้างต่างโลก ] หมดแล้วด้วยสิ เธอไม่อาจมีแต้มต่อที่ดีๆ อีก จากที่มองผ่านๆ ดูเหมือนจะมีในร้านค้า แต่ว่าต้องใช้เหรียญซื้อ ซึ่งเธอไม่มีมันเลย

     

    “ลองไปดูก่อนดีกว่า” เมรินทร์ยืนขึ้น หอบสะพายกระเป๋าเป้ ออกนอกบ้านตอนตีสอง

     

    “บรรยากาศวังเวเหมือนเดิมเลย....” ตรอกซอกซอยอันน่าสงสัยปรากฏตรงหน้าอีกครา นี่คือจุดที่เริ่มต้นทุกสิ่ง เมรินทร์กลั้นหายใจเดินฝ่าความมืด ใจหนึ่งก็อยากให้เจอ อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากให้เจอ ร้านค้าลึกลับนั่น

     

    ครืดดด..............ครืดดดดดดด.............ครืดดดดดดดดดด.............................

     

    ม่านหมอกหนาทมิฬปรากฏ ราวกับอยู่กันคนละโลกเลย เมื่อกี้ทั้งมืดและหนาวแท้ๆ ตอนนี้กลับสว่างสลัว วังเวงเย็นยะเยือกน่าประหลาด

     

    เดินมาหยุดตรงที่แห่งหนึ่ง

     

    ป้ายร้านตัวโตๆ เขียนว่า [ ร้านค้าผู้สร้างต่างโลก ]

     

    เมรินทร์เหงื่อไหลเย็นเฉียบ ดันประตูบานไม้เก่าแก่ ยังไร้เงาผู้คนเช่นเดิม

     

    “หืม มันเปลี่ยนไปนิดหน่อยหรือเปล่า?” เลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ ตอนแรกที่ลองจับแผ่นไม้กระดานอันเล็กที่เรียงขาย ตอนนั้นเธอวางกลับด้วยความไม่เป็นระเบียบมากกว่านี้ ราวกับว่ามีใครมาจัดร้านใหม่เลย

     

    เฮ้อ— เธอถอนหายใจ มาหาคำตอบเอาป่านนี้มันไม่มีประโยชน์

     

    เมรินทร์เลิกสนใจพวกชั้นวาง หันหน้าเดินไปยังกล่องที่เขียนว่า [ หยิบฟรี ] กระดานไม้ต่างๆ ถูกกองทับถมกัน ส่วนตรงนี้ยังเละเทะเหมือนเดิม เธอขุดคุ้ยมันขึ้นมาดูทีละอัน พอมี [ ประเภทเหตุการณ์ ] ให้ลองใช้งานได้หรือเปล่านะ 

     

    [ ประเภทเหตุการณ์ : ความอ่อนแอของผู้มายังโลก ]

     

    [ ผลลัพธ์ของความหวาดกลัว ประจักแก่ผู้ขี้ขลาดตรงหน้า สร้างภาพหลอนที่รวบรวมความกลัวใส่จิตใต้สำนึกแก่เป้าหมาย กำหนดเฉพาะเหล่าผู้มาจากต่างโลกเท่านั้น ไม่จำกัดการใช้งานต่อหนึ่งโลก ช่วงคลูดาวน์สามวันในโลกมิติ ]

     

    เมรินทร์สะบัดหน้า หากใช้งานสิ่งนี้รังแต่จะเพิ่มอุปสรรคเปล่าๆ คลูดาวน์คงหมายถึงระยะเวลาที่ถูกจำกัดการใช้งานต่อครั้ง ในบอร์ดเกมสิ่งนี้ถูกใช้เพื่อป้องกันไม่ให้ใช้ความสามารถถี่เกินไป

     

    เธอลองหยิบมาอีกอัน

     

    [ ประเภทเหตุการณ์ : ถูกตัดขาดจากพลังงาน ]

     

    [ เป้าหมายจะไม่สามารถใช้พลังของโลกมิติได้เป็นการชั่วคราว ระยะเวลาคือสามนาที เป้าหมายเฉพาะผู้มาจากต่างโลก ไม่จำกัดการใช้งานต่อหนึ่งโลก ไม่จำกัดคลูดาวน์ ]

     

    ใช้การไม่ได้เลย มีแต่อันแย่ๆ เลิกคิดเรื่องการไม่เข้าไปในโลกมิติได้เลย ถ้ายังไม่มีสักเหรียญ “จะทำยังไงดีนะ”

     

    พลังการรักษาที่ราวกับปาฏิหาริย์ต้องอยู่ที่ไหนซักแห่งแน่ ทว่าไม่ใช่กับของฟรีพวกนี้ จากการดูภาพรวมแล้ว มันมีแต่ประเภทการป้องกันโลกที่เน้นการต่อสู้เอาชีวิตเข้าแลก รายละเอียดก็น้อย ไม่มีทางเลือกอื่นเลย นอกจากการค่อยๆ เคลียร์ยังทีละโลก เพื่อหาพลังอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับการฟื้นฟู

     

    “ไม่มีเวลาแล้วแท้ๆ” ยิ่งปล่อยให้วันล่วงเลยผ่าน ไม่รู้ว่าแม่จะถึงขีดจำกัดเมื่อใด เมรินทร์จับคางครุ่นคิด นึกเพียงหนทางเดียว อย่างน้อยๆ ต้องลองเคลียร์สักโลกก่อน

     

    “คิดสิ...... อะไรกันนะที่สามารถทำได้เพื่อช่วยให้ตัวเราเก่งขึ้นในโลกมิติ” เพราะความทรงจำเดิมสูญหาย การไปยังโลกแต่ละครั้งเลยมีข้อจำกัดมากมาย ราวกับเริ่มต้นใหม่ทุกครั้ง

     

    “ใช่! ถึงจะเริ่มต้นใหม่เสมอ แต่ฉันสามารถเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางก่อนได้” การรู้ล่วงหน้าว่าโลกแบบไหนที่จะไปคือโอกาส ถึงตัวเธอในโลกมิติจะไม่รู้ แต่ก่อนเข้าสู่โลกสามารถกระทำอะไรหลายอย่าง

     

    สมมุติดูสิ ถ้าเป้าหมายที่จะไปคือมิติที่เกิดสงครามโลกครั้งที่สาม แล้วเรามีทักษะการยิงปืนกับเอาตัวรอด ไม่ใช่ว่าจะเป็นกลายเป็นสุดยอดในโลกนั้นเลยหรือ

     

    “ประเด็นคือเราควรไปโลกแบบไหนเนี่ยสิ....” โลกแบบหนังจีนหรือกำลังภายในไม่ค่อยถนัดด้วยสิ ที่อุตส่าห์ฝึกๆ มาจนสำเร็จวิชา เพราะอาจารย์ดี คราวนี้ลองไม่หวังโชคดูสิคงจบไม่สวย

     

    “ถ้าเป็นพวกโลกที่คล้ายเกมหรืออะไรประมาณนั้นล่ะ?” เมรินทร์คิ้วกระตุก ควานหาไม้กระดานในกล่องหยิบฟรี ไล่เปิดหาดูทีละ อันที่ดูใช้ไม่ได้ก็โยนทิ้ง ส่วนอันที่น่าสนใจเธอก็วางไว้บนโต๊ะเคาเตอร์

     

    “อืม..... ไม่ไหวเลย อันนี้ดูยากเกินไป” คัดแต่ละอย่างทิ้งเหลือเพียงไม่กี่อัน

     

    “จัดกลุ่มนี่มัน.....เหมือนโลกในเกมแฟนตาซีชื่อดังเลยนะเนี่ย”

     

    [ ประเภทการสร้างโลก : ยุโรป-ยุคกลางเก่า ] , [ ประเภทหายนะ : จอมมาร ] , [ ประเภทการป้องกันโลก : เหล่าผู้ถูกอัญเชิญพร้อมกับอาวุธประจำกาย ]

     

    เมรินทร์มองดูรายละเอียดของแผ่นไม้กระดานประเภทป้องกันโลก

     

    [ ประเภทการป้องกันโลก : เหล่าผู้ถูกอัญเชิญพร้อมกับอุปกรณ์ประจำกาย ]

     

    [ เหล่าผู้กล้าจากต่างโลก ถูกอัญเชิญมาจากโลกคู่ขนาน พวกเขาจะได้รับอุปกรณ์เวทมนตร์ทันทีเมื่อมาถึง โดยการสุ่มจากทั้งสามสิบสองชนิด มีพลังและการใช้งานที่แตกต่างกัน หากผู้มาจากต่างโลกถูกอัญเชิญกลับด้วยวงแหวนเดิม จะได้รับอุปกรณ์เวทมนตร์นั้น ]

     

    เมรินทร์ยิ้มมุมปาก หมายความว่าเธออาจไม่ต้องทำการฝึกให้ยุ่งยาก ด้วยความสามารถที่ถูกมอบมาให้ กำหนดตายตัวแล้วตามแต่ประเภทอุปกรณ์ บางที่อาจพ้นข้อจำกัดของกฎที่ว่า [ หากเป็นผู้เข้าสู่โลกจะได้รับพลังต่ำสุดเสมอ ] ก็เป็นได้ เธอจะไม่ใช่คนอ่อนแอที่ถูกมองข้ามอีกต่อไป

     

    “ปัญหาคืออุปกรณ์มีอะไรบ้างล่ะ” ถ้าให้เดาๆ เลยคือดาบไม่ก็คฑา หัวข้อนี้ช่างคล้ายคลึงกับเกมดังที่เคยเป็นกระแสเมื่อหลายสิบปีก่อน ศัตรูคือจอมมารที่มีลูกน้องเป็นมอนสเตอร์ จะทำอย่างไรเพื่อเพิ่มทักษะในโลกแสนแฟนตาซีนี่ดีล่ะ

     

    “ต้องลองเล่นมัน” อาจฟังดูบ้าระห่ำ สิ้นคิด เล่นเกมเพื่อเอาไปใช้ในโลกแฟนตาซีเนี่ยนะ ทว่าหากลองคิดมุมกลับกันดู ถ้าเราคุ้นเคยกับมอนสเตอร์น่ากลัวก็ไม่จะยืนแข็งทื่อ สามารถเผชิญหน้าอย่างห้าวหาญ ทั้งจังหวะการเข้าจู่โจมหรือตั้งรับ หากในโลกมิติความยากของเกมคือระดับโนมอล แต่เคยเล่นเกมระดับเวรี่ฮาร์ดมาจนชิน อาจเป็นแต้มต่ออย่างคาดไม่ถึง

     

    “แต่จะให้เล่นเกมคอมพิวเตอร์เหรอ.....” ช่วงสองปีที่ผ่านมานี่ ถึงมันอาจข่มขื่น ทว่าก็เป็นเวลาที่โลกกระทัดรัดของเธอถูกเปิดออก แม่ที่ไม่ค่อยอยู่บ้าน ทำให้เธอแอบเล่นเกมตามกระแสทันแบบเพื่อนๆ ในห้อง จนรู้จักกับเกมมากมาย นอกจากบอร์ดเกมเก่าๆ

     

    ทว่าปัญหาหลักเลยคือเธอไม่อิน เล่นแค่แป๊บเดียวก็เลิก ตัวเธอเหมาะกับเกมที่ใช้เวลาคิดเชื่องช้า เข้าใจง่าย เหมือนพวกบอร์ดเกมมากว่า ติดตรงมันไม่มีโลกในกล่องหยิบฟรีที่เกี่ยวข้องกับเกมกระดานเนี่ยสิ ตัวเลือกที่ง่ายที่สุดคืออันที่วางไว้บนเคาเตอร์ด้านหน้า โลกที่คล้ายกับเกมแฟนตาซีเก่าๆ ชื่อดัง

     

    “ไม่มีทางเลือกแล้ว ต้องเอาอันนี้แหละ” ในที่สุดก็ตัดสินใจได้ โลกที่สามของเธอคือแฟนตาซียุโรปยุคเก่า มีจอมมารคือหายนะ เป้าประสงค์คือทดลองเคลียร์โลก อาจไม่จบในครั้งแรก แต่เธอสามารถลองครั้งที่สองหรือสามได้ตลอด หวังว่าจิตใจจะไม่แตกสลายซะก่อนนะ

     

    พลันสัมผัสของความตาย ภาพการโดนพวกผู้ชายกระทำมิดีมิร้ายแล่นเข้าหัว เธอเผลอกอดอก หน้าซีดเผือดไร้เลือด ตัวสั่นเทา บางทีอาจโชคไม่ดีเหมือนครั้งที่แล้วมา

     

    เพี๊ยะ เพี๊ยะ เมรินทร์ตบหน้าตัวเองฉาดๆ “ท่องไว้เรา ท่องไว่เรา มันก็แค่โลกสมมุติ” ต่อให้ฆ่าจนตายก็แค่กลับมายังโลกเดิม ลองอะไรใหม่ๆ ต่อได้อีก ไม่คาดหวังในโลกแรกจะดีที่สุด

     

    เงื่อนไขการเปิดใช้งานวงแหวนอาจเหมือนที่เหลียงเค่อบอก คือการกำจัดหายนะ ไม่แน่ว่าจะเป็นอย่างเดิมเสมอด้วยสิ แม้เคลียร์หายนะสำเร็จ แต่สำหรับประเภทการป้องกันโลกอันนี้ หากไม่กลับมาด้วยวงแหวนอันเดิมดูเหมือนจะเปล่าประโยชน์

     

    “ต้องลองกันซักตั้ง” เธอกว้านกระดานไม้หลายๆ แผ่นแบบเดียวกันเยอะๆ ใส่กระเป๋าเป้ เผื่อสำรองไม่ต้องมาที่นี่อีกบ่อยๆ ยิ่งรู้สึกไม่ค่อยดีด้วยสิ 

     

    เมรินทร์กลืนน้ำลาย เฮือก— ม่านหมอกทมิฬตรงหน้า ยังน่าขนลุกไม่เปลี่ยน

     

    “ไปล่ะนะคะ!” กลั้นใจหลับตาวิ่ง ผ่านทะลุควันสีดำ ออกสู่โลกภายนอก โลกเดิมของเธอ ครั้งนี้จะเปลี่ยนมัน จะลองทำทุกวิถีทาง ใช่แล้ว ทุกอย่างต้องลงเอยด้วยดี

     

     

     

    ในมุมมองผู้สร้างต่างโลก Vol.1 Ch.16 วางแผนเดินหมาก จบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×