คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #42 : Special : มิเคยลืมเลือน (4)
ตกกลางคืน
ห้องขังพิเศษ
“น่าเบื่อจัง ไม่มีอะไรทำเลยเนี่ย…”
“เห้ย เมื่อไหร่กำลังเสริมจะไปถึงที่นั่นล่ะ!!”
“โธ่เว้ย!? คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะหนักขนาดนี้!!!”
“?” เวลาล่วงเลยมาจนถึงกลางคืน เรียวตะที่ยังคงเบื่อไม่มีอะไรทำก็ได้ยินเสียงโวยวายมาจากด้านนอกจนเขาได้แต่สงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่จึงลองถามผู้คุมที่อยู่ข้างนอกดู
“นี่! ข้างนอกเกิดอะไรขึ้นเหรอ ขอรู้ด้วยได้มั้ย”
“มีคำสาประดับสูงบุกเข้ามาทำร้ายผู้คน แต่ไม่ใช่ที่โรงเรียน!” ผู้คุมตอบด้วยความร้อนรน ทำให้คนฟังยิ่งสงสัยขึ้นไปอีกว่าถ้าไม่ใช่โรงเรียนแล้วเป็นที่ไหน
“แล้วเรื่องมันเกิดที่ไหน”
“ย่านโยชิวาระ! กำลังเสริมก็ยังไปไม่ถึงที่นั่นเลย!”
“!?” สิ้นประโยคของผู้คุม เรียวตะเกิดหน้าซีดเพราะเรียวมะเป็นคนพูดเองว่าตัวเองต้องไปทำภารกิจที่โยชิวาระทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเลยที่เกิดเรื่องที่นั่น
“เฮ้!! ส่งฉันไปที่นั่นได้มั้ย!? ไหนๆไอ้พวกเบื้องบนชอบส่งฉันเป็นหน่วยเดนตายอยู่แล้ว เอาฉันไปปล่อยทิ้งไว้ที่นั่นก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนี่!!”
“ไม่ได้! ทางเบื้องบนไม่มีคำสั่งถึงนายเพราะงั้นนายห้ามออกไป!!”
“แต่ฉันจะไป! ฉันจะไปช่วยเรียวมะ!!?”
“คำสั่งของเบื้องบนถือเป็นที่สุด!! ห้ามออก!!”
‘ไอ้พวกเบื้องบนหัว*** เป็นบ้าอะไรของมันวะเนี่ย!!!’ เด็กหนุ่มผมดำกัดฟันกรอดด้วยความโมโหและกร่นด่าเบื้องบนในใจที่ไม่รู้ว่าเป็นบ้าอะไรถึงไม่มีคำสั่งให้เขาออกไปช่วยทั้งๆที่ก่อนได้คำสั่งปล่อยตัวออกมา2ชั่วโมงแล้วกลับเข้าห้องขังนั้น เขาเคยออกไปทำภารกิจที่เรียกได้ว่าโอกาสรอดแทบจะเป็นศูนย์แต่เขาก็รอดมาได้เพราะพลังน้ำแข็งที่ยังควบคุมไม่ได้เลยทำให้เขาใช้เวลาเคลียร์ภารกิจที่ว่านั้นไม่นานมาก
‘สงสัยงานนี้ต้องแหกคุกเองซะแล้ว…แต่จะทำยังไงก่อน’ เรียวตะเดินไปเดินมาหาวิธีแหกคุก
‘ถ้าจำไม่ผิดตอนที่สู้กับยัยนั่นเห็นว่าสร้างสัตว์ประหลาดที่ทำจากน้ำแข็งได้ด้วยแต่ว่าพลังที่ฉันมีอยู่มันไม่ได้สร้างได้ถึงขนาดนั้น เอาเป็นว่าลองเป็นสัตว์ตัวเล็กๆที่ลอดผ่านช่องประตูตรงนั้นได้แล้วก็ทำพวกผู้คุมหลับจากนั้นก็ปลดกุญแจจากด้านนอก…’ เขาคิดแล้วลองสร้างผลึกน้ำแข็งออกมา
“ว่าแต่…ยัยนั่นมันสร้างได้ยังไงกันก่อน จากจินตนาการของตัวเองเหรอ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงขอแค่จินตนาการว่าฉันต้องการสร้างผีเสื้อ-”
ฟู่วววว~ กึกๆๆๆ
“?!” ทันใดนั้นเอง ผลึกน้ำแข็งก้อนนั้นก็กลายเป็นผีเสื้อน้ำแข็งและบินไปรอบๆตัวเขาจนเขาเองยังตกใจ
“ฝากทำผู้คุมที่อยู่ข้างนอกหลับไปที แล้วก็ปลดประตูจากด้านนอกด้วยได้มั้ย” แล้วผีเสื้อตนนั้นก็บินออกลอดผ่านช่องประตู ทางเรียวตะก็ได้แต่รอว่าที่เขาสั่งไปมันจะได้ผลรึเปล่า แต่พอเวลาผ่านไปได้สองนาทีประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของผู้คุมห้องขังสองคนที่นอนสลบอยู่ที่พื้น
“พระเจ้า…ทำได้จริงเหรอเนี่ย” เขาอุทานตกใจ ซักพักผีเสื้อตัวนั้นก็แตกสลายหายไปกับอากาศ
‘คงสภาพได้ไม่นาน…แต่ช่างเถอะตอนนี้ต้องรีบไปที่โยชิวาระก่อน’ แล้วเขาก็รีบออกจากโรงเรียนและไปที่โยชิวาระทันที
“เห้ยแก! ออกมาได้ยังไง!!”
“เวรแล้ว!?” แต่ไม่นานเขาก็มีคนมาเจอพอดี ทำให้เรียวตะต้องรีบชิ่งหนีก่อนโดยไม่ให้โดนจับได้ พอทหารยามเห็นว่ามีนักโทษหลบหนีออกมาได้จึงรวบรวมกำลังพลและสั่งไล่จับเรียวตะ
“มีนักโทษแหกคุก ไปจับตัวมันมาให้ได้!!!!!”
.
.
.
โยชิวาระ โตเกียว
“โฮกกกกกกก!!!!!!”
“กรี๊ดดดดดดดดด!!!!”
“ปีศาจบุกกกก!!!! ช่วยด้วยยยยยยย!!!!!”
แกร็งๆๆๆๆ!!!
ฉัวะๆๆๆๆๆๆ!!!!
“?!”
“โฮกกกก?!!!!” ณ ย่านโยชิวาระที่ตอนนี้เกิดความวุ่นวายอย่างหนักเพราะมีคำสาปอะลาวาดมาทำร้ายและกินผู้คนไปมากมายทำให้ประชาชนที่อยู่ที่นั่นต่างกรีดร้องและร้องขอความชั่วยเหลือ แต่ในตอนที่คำสาปมันจะถึงตัวชาวบ้าน เรียวตะก็มาถึงทันเวลาพอดีจึงใช้โซ่มามัดตัวมันและฟันออกเป็นชิ้นๆ
“รีบหนีออกไปจากที่นี่เร็ว!”
“ค-ครับ!! ขอบพระคุณมากครับ!!” ชาวบ้านคนนั้นพูดขอบคุณแล้วรีบหนีออกไปตามคำสั่ง ส่วนคนผมดำก็ไล่จัดการคำสาปที่มาป้วนเปี้ยนโดยใช้ดาบและโซ่สลับกันไป
‘สถานการณ์แย่เกิน…กางม่านไปก็เท่านั้นเพราะมันไล่ฆ่าพวกคนธรรมดากันหมดแล้ว’ เด็กหนุ่มคิดในใจ ‘ก่อนอื่นต้องหาคนให้เจอแล้วอพยพ-’
ตุบ!
“อาเระ?”
โครม!
“โอ๊ย?!” แต่ในระหว่างที่วิ่งอยู่เขาก็ไปสะดุดกับบางอย่างเข้าจนล้มหน้าคะมำกับพื้น
“เจ็บๆๆ…ชนอะไร-!?” พอหันไปดูก็พบว่าที่ตัวเองสะดุดไปนั้นคือศพคนแขนขวาขาดที่นอนหน้าคว่ำกับพื้นที่เต็มไปเลือด แต่สิ่งที่ตกใจกว่าคือตัวศพนั้นเหมือนกับเรียวมะไม่มีผิด
“…” เรียวตะยื่นมือที่สั่นเทาของตัวเองไปจับศพนั้นให้พลิกนอนหงาย พอได้เห็นใบหน้าของศพแล้ว เขาก็หน้าซีดอ้าปากพะงาบๆอย่างไม่เชื่อสายตา
“…ร…เรียวมะ…”
“ม-มนุษย์!!” แต่ทันใดนั้นเองก็มีวิญญาณคำสาปมาเจอเรียวตะที่สติหลุดกับสิ่งที่ตัวเองเจอไปแล้ว วิญญาณตนนั้นยกยิ้มอย่างชั่วร้ายที่มีเหยื่อเข้ามาหาตนถึงที่แล้วพุ่งเข้าไปหาเพื่อเขมือบอีกฝ่ายทันที
“น่าอร่อย…มนุษย์…น่าอร่อยยยยยย!!”
แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่มันกำลังทำนั้นคือการเรียกความตายอันหนาวเหน็บมาสู่ตน
และทุกคนที่อยู่ในย่านนี้
“…เฮงซวย”
ฟู่ว~~!!
กึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!!!!!
“!?!!!” และแล้วก็มีน้ำแข็งแผ่ออกมาเป็นวงกว้างจากตัวเรียวตะจากนั้นก็ไล่แช่แข็งทุกอย่างที่ขวางหน้าด้วยความรวดเร็ว ทำให้คำสาปตนนั้นถูกแช่แข็งทันทีและยังลามไปถึงคนทั่วไปที่อยู่ในย่านนี้ด้วย
“เดี๋ยว!? นั่นอะ-!?”
“น้ำแข็-!?”
“กรี๊ดดด!!-”
“ช่วยด้-!!!” เสียงกรีดร้องของประชาชนดังระงมไปทั่วโยชิวาระ จากย่านที่เคยเต็มไปแสงไฟและผู้คนกลับกลายเป็นย่านที่เต็มด้วยน้ำแข็งและความหนาวเย็น คนทุกคนกลายเป็นน้ำแข็งยกเว้นเรียวตะที่ยังสติหลุดจนไม่มีน้ำแข็งเกิดขึ้นมาอีก
“…?!” สุดท้ายเขาได้สติขึ้นมาจากอากาศหนาวเย็นที่ตัวเองรู้สึกได้ พอเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าทุกอย่างรอบตัวกลายเป็นน้ำแข็งหมดแล้ว เด็กหนุ่มที่เห็นก็ช็อกจนพูดติดอ่างว่าที่ตัวเองสติหลุดกับศพแฝดตัวเองกลับปล่อยพลังออกมาอย่างมหาศาลโดยไม่รู้ตัว และได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากมายด้วย
“เกิดอะไร…ขึ้น…นี่ฝีมือ…ฉัน…เหรอ…”
“เห้ย!? อยู่นั่นไง!!”
“หลักฐานแน่หนาขนาดนี้ โทษของแกไม่ใช่แค่กักบริเวณแล้ว!!?”
“!?!” แต่ความซวยก็เข้ามาเยือนไม่หยุดเมื่อมีกลุ่มคนจากเบื้องบนที่ได้คำสั่งมาตามจับเรียวตะมาเจอพอดี แน่นอนว่าพวกนั้นได้รับรู้เรื่องที่เรียวตะมีพลังน้ำแข็งแล้วพอมีหลักฐานแน่นหนาขนาดนี้หากทางเบื้องบนรู้คงไม่นิ่งเฉยแน่นอน
“...โธ่เว้ย!!!”
“จะหนีไปไหน!?!!” สุดท้ายเขาก็ต้องหนีออกมาอย่างเอาเป็นเอาตายและพวกที่ได้คำสั่งตามจับเรียวตะก็ต้องไล่ตามไปจับจนไปถึงนอกเมืองโดยที่พวกเขาทุกคนรวมถึงเรียวตะเองไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครตามพวกเขามาด้วย
.
.
.
ป่าลึกนอกเมือง
“หายไปไหนแล้ว?!”
“นี่ขนาดโดนยิงไปสามนัดแต่ยังมีแรงหนีได้อีก มันเป็นตัวอะไรวะเนี่ย?!” ณ ป่าลึกนอกเมืองโตเกียว ตอนนี้คนของเบื้องบนก็ยังคงตามหาเรียวตะที่หลบหนีอยู่ ถึงจะเอาปืนยิงใส่ไปแล้วสามนัดแต่อีกฝ่ายก็ยังหลบหนีในสภาพสะบักสะบอมอยู่อย่างนั้นจนพวกเขาหัวเสียอย่างหนัก
“แฮ่ก…แฮ่ก…” ส่วนเรียวตะที่บาดเจ็บจากการโดนยิงนั้นก็นั่งหลบอยู่หลังต้นไม้และพยายามไม่ให้เสียงหอบตัวเองดังไปถึงหูของคนของเบื้องบน
‘ไม่…ไหว…’ และด้วยอาการบาดเจ็บทำให้สติของเขาเริ่มพร่าเลือน หนักตาหนักอึ้งจนไม่สามารถลืมตาต่อได้ ‘จะตาย…เหรอ…ดี…แล้ว…แหละ-’
ตุบ!
“หือ? มีเสียงจากตรงนั้น-”
พั่บๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!
“!? อะไรวะเนี่ย?!” แต่จู่ๆก็มีฝูงแมลงมากมายบินมาหาและขวางพวกเขาไม่ให้ไปหาคนที่ตัวเองไล่จับ
“แมลงมันมาจากไหนกัน!”
“ใครจะไปรู้ฟะ!?”
“ตอมอยู่นั่นแหละ! น่ารำคาญเป็นบ้า!?” และในช่วงที่ฝูงแมลงตามรังควาญพวกเขาอยู่
ก็มีใครบางคนชิงตัดหน้าเอาตัวเด็กหนุ่มผมดำไปก่อนแล้ว
.
.
.
‘…นี่ฉัน…ตายอีกแล้วเหรอ’ เรียวตะลืมตาขึ้นมาในสถานที่ที่เต็มไปด้วยความว่างเปล่าและสีขาวโพลนทำให้เขาคิดว่าคราวนี้ตัวเองได้ตายจริงๆแล้ว
‘เรียวตะ’ แต่ในตอนนั้นเองก็มีเสียงของคนคุ้นเคยดังมาจากด้านหลัง พอเขาหันไปก็พบร่างของเรียวมะที่ยืนอยู่ห่างออกไป
‘!? เรียวมะ-’
‘อย่าเข้ามา!!’ แต่ในตอนที่แฝดคุโจคนน้องจะวิ่งไปหา แฝดคนพี่กลับตวาดอีกฝ่ายไม่ให้มาหาตน
‘!? ทำไม-’
‘…แกยังมาตรงนี้ไม่ได้’ เรียวมะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ‘แกยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องมาตรงนี้ เพราะงั้นไปซะ’
‘แต่ว่า…’
‘ถึงจะใจร้ายที่ต้องพูดแบบนี้ แต่หลังจากนี้แกต้องอยู่โดยไม่มีฉันแล้วล่ะ’ แล้วเรียวมะก็หันหลังและเดินจากไป เรียวตะที่เกิดคงามรู้สึกไม่ยอมรับกับสิ่งที่ได้ยินก็พยายามวิ่งไล่ตามแต่ยิ่งวิ่งตามอีกฝ่ายก็ยิ่งอยู่ห่างไกลอีก
‘เดี๋ยวเรียวมะ!? อย่าเพิ่งไป!?’
‘…มีชีวิตต่อไปเผื่อฉันด้วยนะ เจ้าน้องชาย’
‘อย่าทิ้งผมไปนะ!!!! พี่เรียวมะ!?!!!’
“อย่าเพิ่งไป-!?” คนผมดำลืมตาตะโกนจนสุดเสียงและยื่นมือออกมาด้านหน้าราวกับจะคว้าตัวอีกฝ่ายแต่สุดท้ายก็ว่างเปล่า วิสัยทัศน์ที่มองเห็นนั้นเป็นเพดานที่ทำมาจากหินเขาเลยลุกขึ้นมานั่งแล้วพบว่าตัวเองอยู่ตรงหน้าตัวเองมีกองไฟอยู่
“เจ้าจะละเมอข้าไม่ว่าหรอก แต่ช่วยลดเสียงหน่อยเถอะ”
“?!” แต่แล้วก็มีเสียงไม่คุ้นหูโพล่งขึ้นมาเมื่อเขาหันไปก็พบกับชายหนุ่มผมสีน้ำเงินเข้มหรือก็คือชิองนั่นเอง
“ใคร?”
“วิญญาณคำสาปไง เป็นผู้ใช้คุณไสยแท้ๆทำไมถึงดูไม่ออกกันล่ะ”
“?!” ประโยคของวิญญาณคำสาปหนุ่มทำเอาอีกฝ่ายชักดาบออกมาแล้วจ่อไปที่คอของชิอง
“นายต้องการอะไร”
“ไม่เอะใจหน่อยรึไงทั้งๆที่ตัวเองบาดเจ็บอยู่แต่ทำไมยังขยับตัวได้อยู่”
“เรื่องนั้น-?!” คนผมดำชะงักไปครู่นึงเพราะพึ่งมานึกได้ว่าตอนที่หนีอยู่ตัวเองโดนยิงจนบาดเจ็บสาหัส แต่ตอนนี้เขากลับไม่มีแผลและสามารถขยับตัวได้ราวไม่เคยถูกโจมตีมาก่อน “แก…ช่วยฉัน?”
“เรียกว่าช่วยพามาซ่อนที่นี่จะถูกกว่า เพราะคนที่ช่วยรักษาเจ้าจริงๆคือท่านยูกิฮิเมะ”
“หา?”
“ไม่ต้องมาทำหน้างงแล้วก็ขอบคุณท่านผู้นั้นซะ ไม่งั้นข้าจะฆ่าเจ้าตรงนี้”
“ชิอง ข้าบอกเจ้าไปว่าอะไร” แต่แล้วก็มีเสียงของยูกิฮิเมะดังออกมาจากด้านนอก เมื่อคำสาปรับใช้ได้ยินแบบนั้นก็เงียบปากทันที
“ขออภัยด้วยขอรับ ท่านยูกิฮิเมะ”
“นี่แก…อยู่ข้างนอกเหรอ” เรียวตะถาม
“ก็พวกคนที่ไล่ตามเจ้ามันน่ารำคาญ พวกข้าเลยต้องเอาเจ้ามาซ่อนไว้ที่นี่เป็นการชั่วคราว ส่วนที่ข้าอยู่ข้างนอกก็เพื่อสอดส่องว่าเจ้าพวกนั้นมันจะตามมาอีกรึเปล่า” ยูกิฮิเมะที่นั่งอยู่บนต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากถ้ำตอบ
“แล้วที่บอกว่าช่วย-”
“ข้าใช้ไสยเวทย้อนกลับรักษาให้ ถึงชิองจะบอกให้เจ้ามาขอบคุณข้า แต่ข้าก็ไม่ได้หวังให้เจ้ามาขอบคุณหรอก”
“ทำไม…ถึงช่วยฉันล่ะ ฉันกับเรียวมะ…เคยคิดจะฆ่าแกนะ?”
“...” คำถามของคนผมดำทำเอาคำสาปเงียบไปพักนึง “...ข้าอยากรู้”
“?”
“ข้าอยากรู้…ว่าหลังจากวันนั้นทำไมเจ้าถึงสามารถใช้พลังของข้าได้แต่ก็จะปล่อยเจ้าไปไม่ได้ เพราะหากเจ้ายังควบคุมพลังไม่ได้อาจจะเกิดเหตุการณ์เหมือนกับที่โยชิวาระก็ได้”
“...” เด็กหนุ่มหน้าซีดเพราะเมื่อพูดถึงโยชิวาระ สาเหตุที่ที่นั่นกลายเป็นน้ำแข็งมันมาจากเขาทั้งนั้น
“ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ข้าจำเป็นต้องสอนเจ้าในการควบคุมพลังนี้ให้อยู่ในขั้นพื้นฐานให้ได้ก่อน อ้อ! แล้วก็หากเจ้าคิดเล่นตุกติก ข้าอนุญาตให้ชิองฝากตบเจ้าซักทีสองทีก็แล้วกันแต่อย่าให้ถึงตายก็พอ ได้ยินแล้วนะชิอง?”
“น้อมรับคำสั่งขอรับ”
“เอาจริงดิ…” สุดท้ายเรียวตะก็ต้องมาอยู่กับสองวิญญาณคำสาปอย่างช่วยไม่ได้ แต่ในเมื่อเรียวมะฝากฝังให้เขามีชีวิตต่อไปรวมถึงไม่รู้ว่าคนจากเบื้องบนจะตามล่าเขาอีกเมื่อไหร่ก็มีแต่ต้องอยู่กับคำสาปสองตนนี้ไปก่อนนี่แหละ
.
.
.
Talkๆ desu: ตอนใหม่มาแล้วค่าทุกโคนนนนนนน หัวเราเริ่มตันละแต่ก็จะพยายามเอาตอนพิเศษไม่ให้เกิน 10 ตอนนะคะ
สนุกไม่สนุกยังไงก็เม้นมาได้ จะได้มีกำลังใจแต่งต่อ
เจอกันตอนหน้า บ๊ายบายยยยยยยยยยย
ความคิดเห็น