NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (ss1+2+3) | Fic Jujutsu Kaisen x OC | The Grim reaper eye

    ลำดับตอนที่ #39 : Special : มิเคยลืมเลือน (1)

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 67


    11 ธันวาคม 1922

    ณ คฤหาสน์ร้างแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น

    “ตั้งคฤหาสน์ในป่าแบบนี้ เจ้าของเก่าต้องเป็นคนยังไงกันเนี่ย”

    “อาจจะเป็นคนรักสงบล่ะมั้ง” 

    “แบบนี้ไม่น่าเรียกสงบมั้งคะ…” ณ คฤหาสน์ร้างแห่งหนึ่งในป่ารกร้าง มีหญิงสาวสองคนที่มาทำภารกิจปัดเป่าคำสาปที่นี่ โดยมีหญิงสาวเรือนผมสีน้ำเงินเข้มยาวทรงแมงกระพรุนในกิโมโนลายตารางสีแดงและฮากามะสีกรมท่าพูดด้วยความไม่ไว้วางใจ ต่อมาก็มีหญิงสาวผมสั้นสีน้ำตาลแดงทรงวูลฟ์คัทในชุดกิโมโนสีฟ้าอ่อนลายนกกระเรียนกับฮากาเมะสีขาวพูดติดตลก

    “เอาเป็นว่าเราไปสำรวจกันก่อนเถอะ ริริจิโยะ” หญิงสาวผมสั้นพูดแล้วเดินเข้าไปในคฤหาสน์ก่อน ตามมาด้วยสาวผมยาว

    “เฮ้อ~ ขอความกรุณาด้วยนะคะคุณซาจิโกะ”

     

     

    .

    .

    .

    ‘พอเดินไปเรื่อยๆก็รู้สึกได้ถึงพลังคำสาปแต่มองไม่เห็นตัวเลย…’ หญิงสาวผมยาวนามอิจิโนเสะ ริริจิโยะคิดในใจระหว่างที่เดินสำรวจไปด้วย โดยในตอนนี้เธอก็มาสำรวจที่ห้องนอน

    “แปลว่าเราอยู่ในเขตแดนคำสาปงั้นเหรอ” พอเธอสำรวจจนเสร็จก็ออกมาจากห้องแล้วปิดประตู ระหว่างนั้นก็เจอกับหญิงสาวอีกคนที่มาด้วยกันอย่างโมริ ซาจิโกะตรงทางเดินพอดี

    “อ้าวคุณซาจิโกะสำรวจเสร็จแล้วเหรอคะ ฉันเพิ่งตรวจห้องนอนนี่เสร็จพอดีเลย”

    “หือ? ที่นั่นเป็นห้องนอนเหรอ”

    “เอ๋?” ประโยคของซาจิโกะทำเอาริริจิโยะทำหน้างง “ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะคะ”

    “ก็ก่อนที่เธอจะเข้ามา ฉันเข้าไปตรวจสอบก่อนแล้วเห็นเป็นห้องอาบน้ำนะ”

    “แต่ที่ฉันเห็นมันเป็นห้องนอ-” ริริจิโยะไม่เชื่อและเปิดประตูใหม่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือข้างในห้องนั้นกลับเต็มไปด้วยเครื่องครัวต่างๆราวกับว่าที่ห้องนี้คือห้องครัว

    “อาเระ? ได้ไงกัน”

    “ดูเหมือนว่าพวกเราจะโดนเขตแดนที่มีพลังภาพลวงตาเล่นงานแล้วล่ะ” ซาจิโกะพูด “แบบนี้ทางเข้าที่พวกเราเข้ามาอาจจะโดนทำให้เป็นอย่างอื่นแล้วก็ได้”

    “เอ๋!? ไม่จริงน่า!” ริริจิโยะร้อง “แล้วเราจะปัดเป่ายังไงดีล่ะคะเนี่ย”

    “นั่นสินะ…” ซาจิโกะจับคางครุ่นคิดพลางเหลือบตามองหน้าต่างไปด้วย “ตั้งแต่ที่เราเข้ามาจนถึงตอนนี้ เราจะยังไม่เจอต้นตอของคำสาปเลยใช่มั้ย”

    “ใช่ค่ะ แต่ตอนที่ฉันสำรวจฉันกลับได้กลิ่นอายคำสาปอยู่หลายครั้งด้วย”

    “เป็นไปได้ว่าที่นี่อาจจะเป็นทั้งเขตแดนและเป็นตัวคำสาปเอง” หญิงสาวผมสั้นอธิบาย “เราต้องหาห้องที่เป็นแกนกลางของมันให้เจอแล้วปัดเป่ามันซะ ภาพลวงตาจะได้หายไป”

    “ประเด็นคือ-”

    ครืนนนนนน!!!

    “!?”

    “โอยะ? ดูเหมือนจะโดนด้วยแฮะ” ทันใดนั้นเองคฤหาสน์ก็เกิดการบิดเบี้ยวขึ้นมา แต่ซาจิโกะกลับไม่ได้รู้สึกตกใจแต่อย่างใด

    “นี่คุณไปทำอะไรกันมาล่ะเนี่ย!?”

    “ก็แปะยันต์ระเบิดไว้ทุกที่ที่ฉันไปสำรวจมาไง แต่ฉันตั้งเวลาไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วให้มันระเบิดน่ะ”

    “เอ๋!?!!”

    “แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาตกใจนะ รีบออกไปข้างนอกแล้วไปกางม่านก่อนเถอะ” แล้วซาจิโกะก็วิ่งนำออกไปก่อนทันที

    “เดี๋ยว!? รอด้วยสิ!!!”


    ตู้มๆๆๆๆๆ!!!


    “กร๊าซซซซซ!!”

    “!?” ระหว่างที่วิ่งหาทางออกอยู่ เสียงระเบิดก็ยังคงดังขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งที่มีวิญญาณคำสาปขนาดยักษ์หน้าตาน่าเกลียดที่ตัวของมันแหว่งจากการถูกระเบิดวิ่งไล่ตามพวกเธออยู่

    “ทางออกอยู่นี่นะ” 

    “เอ๊ะ!?” ซาจิโกะวิ่งเข้าไปในห้องๆหนึ่งด้วยความรวดเร็วแล้วกระโดดทะลุผ่านไป ทำเอาอีกฝ่ายช็อกตาโตแต่ถ้าหากอยากจะหนีเจ้าคำสาปที่กำลังตามมาก็ต้องทำตามอีกฝ่าย

    ‘โอ๊ย?! เป็นไงเป็นกัน!!’ ริริจิโยะคิดในใจแล้วกระโดดทะลุกำแพงทันที และสิ่งที่เกิดขึ้นคือเธอออกมาจากตัวคฤหาสน์ได้จริงๆ

    “ออกมาได้แล้ว!?”

    “กร๊าซซซซซ!!!” แต่ทว่าเจ้าคำสาปนั่นก็ตามทันแถมหลอมรวมกับตัวคฤหาสน์แล้วก็กำลังจะเขมือบเธอ

    ‘ยังจะตามทันอีกเหรอ!?’


    แกร๊งๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!


    ฉัวะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!


    “!?” ทันใดนั้นเองก็มีโซ่มามัดเจ้าคำสาปรวมทั้งมีเงาดำตะคุ่มๆเคลื่อนไหวด้วยความว่องไวและหั่นมันออกเป็นชิ้นๆ เศษชิ้นส่วนของมันกระจายไปทั่วและเลอะไปยังเสื้อผ้าของริริจิโยะด้วย

    “เสื้อฉัน!? ฉันซื้อมาแพงนะ!!”

    “ไม่ใช่ว่าคุณหลบไม่ทันเองหรอกเหรอ เพราะท่าเมื่อกี้แม้แต่เด็ก 3 ขวบยังหลบทันเลยนะ” ในตอนนั้นเอง ก็มีร่างของเด็กหนุ่มในเครื่องแบบกักคุรันพูดเย้ยหยันพลางเก็บดาบคาตานะเข้าฝัก

    “นึกไม่ถึงเลยนะเนี่ยว่าคุณจะกากขนาดนี้น่ะ คุณริริ~”

    “ใครอนุญาตให้ตั้งชื่อเล่นกันห๊ะ คุโจ เรียวตะ?!!” ริริจิโยะแหวใส่เด็กหนุ่มเรือนผมสีหมึกจีนตรงหน้าเธอ เขาคือนักเรียนปีสองแห่งโรงเรียนไสยเวทโตเกียว คุโจ เรียวตะนั่นเอง

    “แต่ดูเหมือนการเคลื่อนไหวของโซ่จะเร็วกว่าทุกทีนะ” ระหว่างนั้นเองซาจิโกะก็พูดทักขึ้นมาโดยที่สภาพเจ้าตัวไม่ได้มอมแมมเหมือนริริจิโยะ “แปลว่าเรียวตะคุงมีพัฒนาการแล้วเหรอ สนใจอยากได้คำชมซักหน่อยมั้ย”

    “ไม่เป็นไรครับคุณโมริ ถ้าสามีคุณมาได้ยินล่ะก็ผมก็ซวยน่ะสิ” เรียวตะตอบปฏิเสธทำเอาซาจิโกะขำในลำคอ

    “ฮึๆ สามีฉันไม่ใช่คนน่ากลัวซักหน่อย”

    “ไม่น่ากลัวแค่กับคุณคนเดียวเถอะ”

    “ไอ้เด็กเวรนี่!?! อย่ามาเมินกันนะ-”


    ตู้ม!!


    “กี้!!!!” 

    “?!” ในตอนที่หญิงสาวทรงผมแมงกระพรุนชี้หน้าด่าเรียวตะอย่างไม่พอใจอยู่ ก็มีคำสาปไส้เดือนตัวใหญ่ผุดขึ้นมาจากพื้น


    แต่ทว่า


    “กี้!?” จู่ๆก็มีวิญญาณสีทองขนาดใหญ่กว่าเจ้าไส้เดือนยักษ์ใช้ง้าวฟันขาดครึ่งแล้วศพของมันก็หล่นออกไปคนละทางพร้อมกับวิญญาณสีทองสลายหายไป

    “ไม่พูดจาหมาไม่รับประทานซักวันนายจะตายรึไง เรียวตะ” ในตอนนั้นเองก็มีเด็กหนุ่มผู้มีหน้าตาเหมือนกับเรียวตะมาหา แต่ถึงจะมีหน้าตาเหมือนเรียวตะแต่อีกฝ่ายนั้นมีผมสีเขียวหม่นสวมแว่นตาข้างเดียวและมีท่าทางที่จริงจังกว่า

    “อีกอย่าง คุณอิจิโนเสะเขาเป็นรุ่นพี่พวกเรานะ เคารพกันซักนิดก็ยังดี”

    เรียวมะ! ขอบคุณมากที่พูดแทนฉัน!” ริริจิโยะพูดด้วยความปลื้มปิติที่ฝาแฝดของเรียวตะอย่างคุโจ เรียวมะนั้นยังมีความเคารพเธอบ้าง 

    “เหรอออออออ แล้วระหว่างทางที่มาที่นี่ใครกันนะที่มันบ่นว่า ทำงานกันภาษาอะไรถึงต้องเรียกให้คนอื่นมาช่วยเนี่ย ภาระจริงๆ” พอเรียวตะเห็นท่าทางของแฝดตัวเองก็เกิดหมั่นไส้จึงทำการแฉกลับด้วยบทสนทนาของพวกเขาระหว่างทางแล้วเลียนเสียงฝาแฝดของตัวเองด้วย 

    “ตอแหลไม่เนียน ไปเรียนมาใหม่นะเรียวมะ!”

    “คึๆๆๆ โดนแฉกลับแล้วนะเรียวมะคุง” ส่วนซาจิโกะก็หัวเราะด้วยความชอบใจ เพราะเวลาที่แฝดคู่นี้ทะเลาะกันในฐานะคนดูแล้วมันสนุกดี ส่วนคนโดนแฉก็ตวาดใส่ด้วยความโมโห

    “ฉันพี่แกนะเรียวตะ!”

    “เกิดห่างกัน 1 นาทีไม่นับโว้ย!”

    “รุ่นพี่อิจิโนเสะ เป็นอะไรมั้ยคะ” ในตอนนั้นเองก็มีหญิงสาวเรือนผมสีแดงไวน์ทรงฮิเมะคัทในชุดกักคุรันเหมือนกับสองแฝดแต่ท่อนล่างเป็นกระโปรงยาวเหนือเข่าเล็กน้อยมาพอดี เสียงของเธอทำให้หญิงสาวผมแมงกระพรุนรู้สึกว่าสวรรค์ยังเมตตาเธออยู่ 

    เรียวโกะจัง!!”

    “เห็นว่าหายไปตั้งสามวันก็เลยเป็นห่วงน่ะค่ะ” แล้วริริจิโยะวิ่งเข้าไปกอดรุ่นน้องสาวสุดที่รักของเธอ ชิมิสึ เรียวโกะทันที

    “เรียวโกะจัง! เธออย่าเป็นแบบเจ้าพวกแฝดนรกนั่นนะ!”

    “ฮะๆไม่หรอกค่ะ ไอ้พวกสันดานเสียแบบนั้นฉันไม่เป็นหรอกค่ะ”

    “เรียวโกะ ที่แซะเมื่อกี้น่ะใช้กับเรียวตะคนเดียวก็พอ อย่าเหมารวมฉันด้วย” เรียวมะพูด

    “อย่าฉวยโอกาสเอาฉันเป็นสนามอารมณ์สิเห้ย!” เรียวตะทำหน้ามุ่ย

    “หือ? สามวันเหรอ” ริริจิโยะที่เพิ่งได้ยินว่าหายไปสามวันก็ทำหน้าสงสัย

    “ก็วันนี้วันที่ 13 คุณโมริกับคุณริริได้ภารกิจนี้วันที่ 11 ถ้านับรวมวันแรกก็เท่ากับว่าพวกคุณหายไปแล้ว 3 วันไง” เรียวตะพูด “คุณโมริไม่รู้สึกตัวเลยเหรอครับ ผมว่าเรื่องเวลาคลาดเคลื่อนคุณไม่น่าจะพลาดนะ”

    “เหรอ ไม่รู้ตัวเลยนะเพราะตอนที่อยู่ข้างในนอกจากเจอภาพลวงตาแล้วก็ไม่รู้สึกผิดปกติตรงไหนเลย” ซาจิโกะเอ่ยเสียงเรียบ “แต่เมื่อกี้บอกว่าหายไป 3 วัน…แบบนี้มาโคโตะเขาก็อยู่ไม่สุขแล้วน่ะสิ”

    “ใช่เลยค่ะก่อนจะมาที่นี่เขาก็มาโวยกับพวกเรานี่แหละค่ะ…” เรียวโกะพูดด้วยความเหนื่อยใจเพราะก่อนที่จะมาที่นี่ สามีของซาจิโกะอย่างโมริ มาโคโตะได้มาโวยวายกับพวกเขาที่ภรรยาหายไปตั้งสามวันจนเหล่าปีสองทั้งสามคนรู้สึกเอือม

    “แล้วที่จัดการไปเมื่อกี้…ได้กางม่านกันรึยัง”

    “...” แล้วเด็กนักเรียนทั้งสามก็ทำหน้าเลิกลั่กจนริริจิโยะที่ยังคงกอดเรียวโกะอยู่หันไปมองด้วยความสงสัยว่าทำไมถึงได้ทำหน้าแบบนั้น

     

     

     

     

    .

    .

    .

    “นอกจากจะชิ่งหนีไม่ฟังรายงานของผู้ช่วยผู้ควบคุมไม่พอ ในนี้มีคนบอกว่าเดี๋ยวจะกางม่านให้แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กาง” ณ ห้องเรียนของโรงเรียนไสยเวท เหล่าปีสองทั้งสามคนได้แต่นั่งคุกเข่าโดนอาจารย์ประจำชั้นเทศน์ใส่ “หนีจากผู้ช่วยไม่เท่าไหร่แต่ไม่ได้กางม่านนี่ถือเป็นเรื่องใหญ่ แล้วคนที่บอกว่าจะกางม่านนี่ใคร”

    “…” แล้วเรียวมะกับเรียวโกะชี้ไปที่เรียวตะที่นั่งริมซ้ายและทำหน้าเลิกลั่กมากกว่าใครเพื่อนเพราะตัวเองเป็นคนบอกจะกางม่านเองจนต้องยอมรับความผิดแต่โดยดี

    “อาจารย์! มันเป็นเหตุสุดวิสัย!”

    “ยังไง”

    “ผมลืม!!” สุดท้ายเรียวตะก็โดนอาจารย์ทุบกะโหลกแบบเน้นๆหนึ่งดอกก่อนอาจารย์จะออกจากห้องไปเนื่องจากดุเสร็จแล้วและปล่อยให้ทั้งสามพักผ่อนตามอัธยาศัย

    “โห…โนเลยนะนั่น รอเดี๋ยวนะ” หญิงสาวคนเดียวของกลุ่มดูแผลที่โดนทุบและทำการรักษา “อะ เสร็จแล้ว”

    “ขอบใจ โดนทีนี่กลัวว่าหัวมันจะบุบซักวันจริงๆ” คนผมดำยู่ปากบ่นแต่ก็ยังไม่ลืมที่จะเอ่ยขอบคุณ “ที่ลืมกางนั่นก็ไม่ได้ตั้งใจลืมซักหน่อย แต่ว่าแถวนั้นมันไม่มีคนมาอยู่แล้ว ไม่ได้กางก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนี่?”

    “ไม่มีปัญหาก็แย่แล้วเถอะ” เรียวมะแย้ง “ต่อให้ไม่มีใครมามันก็ต้องกางเพื่อซ่อนภัยที่มองไม่เห็นให้เป็นความลับสุดยอดไง แล้วก็-”

    “แล้วก็การปัดเป่าภัยร้ายคือหนทางแห่งความสงบสุขของผู้คนทั่วไป นายพูดประโยคนี้เป็นรอบที่ร้อยแล้ว” เรียวตะพูดแทรกด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย “แต่ตะกี้เสียงนายดูโกรธๆนะ อย่าบอกนะว่างอนที่ฉันแฉนาย?”

    “เปล่า”

    “ตอแหล”

    “ก็แกเป็นแบบนี้จะไม่ให้ฉันโกรธได้ไง” แฝดผู้พี่เอ่ยน้ำเสียงขุ่นมัว “แฉตอนไหนไม่แฉ มาแฉกันต่อหน้าคุณโมริกับคุณอิจิโนเสะนี่แกตั้งใจจะหักหน้าฉันใช่มั้ย”

    “ฉันแค่พูดความจริงเฉยๆเถอะ นายเป็นคนพูดเองนี่ว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย?”

    ‘เผ่นดีกว่า’ เรียวโกะเห็นว่าสองคนนี้เตรียมทะเลาะกันแทนที่เธอจะห้ามเธอกลับชิ่งหนีออกห้องก่อนทันที

    “ต้องโดนซักทีใช่มั้ยถึงจะพอใจ เห็นหัวฉันที่เป็นพี่แกหน่อยเถอะ” เรียวมะเดินไปตรงโต๊ะของเรียวตะก็ขู่ใส่พร้อมทุบโต๊ะไปหนึ่งที ด้านเรียวตะที่เอาขาพาดโต๊ะอยู่ก่อนแล้วกลับไม่ได้รู้สึกกลัวแต่อย่างใดและยังยิ้มกวนประสาทใส่

    “ก็บอกไปแล้วนี่ว่าเกิดห่างกัน 1 นาที ฉัน-ไม่-นับ”


    ครืด!!


    “ไอ้พวกแฝด! ถ้าจะทะเลาะกันก็ไปทะเลาะกันข้างนอก” ในตอนนั้นเอง ครูประจำชั้นคนเดิมก็กลับมาพร้อมกับแฟ้มบันทึกในมือพอดี “แล้วเรียวโกะไปไหน”

    “ไม่รู้จ้า” เรียวตะตอบ

    “ไปห้องน้ำมั้งครับ” ตามมาด้วยเรียวมะ

    “เฮ้อ~ งั้นไม่เป็นไร ตอนนี้มีภารกิจใหม่ที่ทางเบื้องบนสั่งมาให้พวกนายสองคนทำ”

    “จิกหัวใช้งานเก่งจริ๊งงง ขยันสั่งแบบนี้ทำไมไม่มาทำงานเองบ้างล่ะเนี่ย”

    “เรียวตะ ปาก” แฝดพี่เอ็ดใส่แฝดน้องแล้วหันไปถามอาจารย์เรื่องภารกิจ “เป็นภารกิจแบบไหนอีกล่ะครับ”

    “ภารกิจรอบนี้เป็นการปัดเป่าคำสาปที่มีถิ่นฐานอยู่ในป่าหิมะ และมีข่าวลือว่าชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นมีความศรัทธาในตัวคำสาปที่ว่า”

    “คือแสร้งเป็นเทพให้พวกชาวบ้านศรัทธา? ถ้าบอกว่ามีถิ่นฐานอยู่ป่าหิมะแบบนี้ก็เป็นคำสาปที่มีพลังเกี่ยวกับน้ำแข็งน่ะสิ?” เรียวตะวิเคราะห์ และนั่นทำให้เรียวมะตาโตมองแฝดตัวเองด้วยความเหลือเชื่อ

    “สมองยังอยู่ดีอีกเหรอ นึกว่าจะหายไปตอนโดนอาจารย์ทุบซะแล้ว”

    “ก่อนจะให้ฉันเลิกปากหมา นายเลิกแซะฉันก่อนเลยเรียวมะ”

    “อะแฮ่ม!” เสียงกระแอมของอาจารย์ทำให้สองแฝดหยุดการวิวาทะทันที เรียวมะเลยถามอาจารย์ต่อ

    “แล้วมีรายละเอียดอย่างอื่นอีกมั้ยครับ อย่างรูปพรรณสัณฐานหรือพลังที่ใช้อะไรแบบนี้น่ะ”

    “…ไม่มี”

    “ครับ?/หา?” สองแฝดร้องอุทาน

    “ที่ฉันอธิบายไปคือรายละเอียดทั้งหมดที่พวกเราหามาได้แล้ว”

    “เดี๋ยวสิ! ข้อมูลมันน้อยเกินไปแต่ก็ยังส่งมาให้พวกเราทำแบบนี้ทางนั้นใช้อะไรคิดกันก่อน!?” เรียวตะโวย “แต่ตอนรับภารกิจมาอาจารย์ไม่แย้งอะไรหน่อยเหรอ ปฏิเสธไม่รับทำก็ได้นี่?”

    “ฉันก็ตอบปฏิเสธไปแล้วว่าไม่รับ แต่ทางนั้นบังคับว่าต้องรับ เพราะคำสาปตนนี้มีอายุยืนยาวมาตั้งแต่สมัยเฮอันจนถึงปัจจุบัน หากปล่อยไว้นานกว่านี้อาจจะเป็นอันตรายกับประชาชนก็ได้”

    “…” สองแฝดคุโจมองหน้ากันถามเป็นนัยๆว่าจะเอายังไง ซักพักก็หันกลับมาหาอาจารย์ตัวเอง

    “รับก็ได้ แต่อาจารย์ฝากไปบอกทางนั้นหน่อยนะว่าถ้าจะเอาภารกิจมาให้ทำก็ช่วยไปหาข้อมูลมาให้เยอะกว่านี้ด้วย” คนผมดำตอบ ทางเรียวมะเองก็ไม่ปฏิเสธเช่นกัน

    “จะพยายามนะครับ” แต่หารู้ไม่ว่าภารกิจที่พวกเขาได้รับมามันจะทำให้ชีวิตของทั้งคู่เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแฝดคนเล็กแห่งบ้านคุโจผู้มีนิสัยปากเสียมากกว่าใคร

     

    ชะตากรรมของคุโจ เรียวตะนั้นถูกพลิกผันไปอย่างไม่มีวันหวนคืนกับภารกิจปัดเป่าคำสาป




    คำสาปที่มีชื่อว่าราชินีหิมะ ยูกิฮิเมะ

     

     

     

    .

    .

    .

    Talkๆ desu: สรุปคือไม่ได้เล่นq&a เลยต้องเอาตอนพิเศษมาต่อเลย ซึ่งตอนพิเศษนี้คือย้อนอดีตของเรียวตะที่เจ้าตัวมีชีวิตอยู่ช่วงยุคไทโชนะค้าบบบบบบบบบ (เรฟ from อดีตอาจารย์โกโจนั่นแหละ) ที่ยูกิฮิเมะบอกว่าสมัยก่อนเรียวตะเป็นเด็กเวรคือไม่เกินจริง5555555555555 

    ปล.พลังเรียวมะนี่ได้เรฟมาจากจิ่งหยวนรางดาวนะ แต่ลดไซส์ลงมาครึ่งนึง

    https://www.hoyolab.com/article/4946488

    คือจริงๆสตอรี่อดีตของเรียวตะแอบยาวจนสามารถแยกไปเป็นเรื่องแยกside story ได้เลย แต่จะพยายามทำให้สั้นไม่เกิน10ตอนนะคะทุกคน หรือถ้าใครอยากให้เปิดเป็นเรื่องแยกเลยก็เม้นกันเข้ามาได้นะ

    เอาจริงๆตอนเราแต่งเรื่องนี้มันก็รู้สึกสนุกดีจนเกิดความคิดแปลกๆในหัวว่า

    หรือชั้นจะลองฟิคแชทแบบไม่มีสาระของเรื่องนี้ไปเลยดีมั้ย ในหัวคือแพลนไว้ว่าเป็นฟิคแชท เซตติ้งรร.ไทย อิมเมจตัวละครก็ยังคงเป็นสามหน่อบ้านหิมะนี่แหละแต่นิสัยนี่ ooc แน่นอน

    สนุกไม่สนุกยังไงก็เม้นกันเข้ามาได้นะคะ จะได้กำลังใจแต่งต่อ

    เจอกันตอนหน้าค่าาาาาาาาาาาา

            
    Z K T
       
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×