NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (ss1+2+3) | Fic Jujutsu Kaisen x OC | The Grim reaper eye

    ลำดับตอนที่ #29 : ควันหลงหลังงานแข่ง

    • อัปเดตล่าสุด 17 มิ.ย. 67


    “…เฮ้อ” หลังจากปัญหาเรื่องคำสาประดับพิเศษบุกเข้ามาคลี่คลายลง เหล่าคณะอาจารย์ต่างมาฟังรายงานความเสียหายจากเหตุการณ์นี้ที่นอกจากจะมีคนบาดเจ็บและเสียชีวิตแล้ว วัตถุต้องสาประดับพิเศษที่ทางโรงเรียนเก็บไว้อย่างนิ้วของเรียวเมน สุคุนะและแผนภาพมรณะครรภ์คำสาปหมายเลข1ถึง3ก็ถูกขโมยไปอีก โดยนักสาปแช่งที่ทางโรงเรียนจับมาได้ชื่อจูโซสารภาพออกมาว่าที่ตัวเองบุกมาก็แค่ทำตามคำสั่งจากสัญญาแลกเปลี่ยนกับพระเด็กผมสีขาวทรงกะลาครอบคนหนึ่งที่ไม่รู้ชื่อและเพศที่แท้จริง แล้วก็พวกสัตว์ประหลาดอย่างกิ้งกือยักษ์ งูมีขา หรืออีกายักษ์นั่นก็เป็นของที่มีคนให้ฝากเอาไปฆ่าเด็กที่ชื่อฟุบูกิ อากาเนะที ถึงจูโซจะไม่รู้ชื่อแต่ก็บอกรูปพรรณสัณฐานไว้ว่าเป็นผู้ชายผมบลอนด์และมีตาสีแดง ทำให้โกโจรู้ว่าเจ้าของที่ว่านั่นคือคนจากบ้านฮิรามารุที่เขาและเรียวตะเคยเจอแน่ๆ จนสุดท้ายจากที่ครูใหญ่ทั้งสองคิดจะยกเลิกงานแข่งก็โดนโกโจแย้งไปว่ามันไม่ใช่พวกเขาจะตัดสินกันเองและสรุปกันว่าให้ถามความเห็นของพวกนักเรียนจะดีกว่าเป็นการจบการประชุม ทางฮิโตมิที่กำลังจะกลับก็ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้าก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วพิมพ์บางอย่างลงไป

    “ขอบคุณที่ทำงานหนักนะครับคุณฮิโตมิ~”

    “!? โกโจไอ้เวร!” แต่จู่ๆโกโจก็ทักอย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียงจนเธอสะดุ้งและหันเอามือไปสับกระโหลกอีกฝ่ายแต่ก็โดนมุเก็นกันไว้ได้ก่อน เธอเลยลดมือลงแล้วกอดอกมองด้วยความรำคาญ “ไม่แกล้งคนซักวันนี่นายจะตายใช่มั้ย”

    “พูดอะไรแบบนั้นกันล่ะครับคุณฮิโตมิ แล้วนี่จะกลับแล้วเหรอ”

    “อืม”

    “ตอบห้วนจังเลยนะ แค่แกล้งกันขำๆเอง”

    “แต่ฉันไม่ขำไง” หญิงสาวเรือนผมสีม่วงกุมขมับ “เออโกโจ”

    “ครับ?”

    “ที่นายส่งภาพป่าน้ำแข็งแล้วก็บอกว่ารู้สึกได้ถึงพลังไสยเวทรุนแรงจากอากาเนะจังนี่คือ?” เธอถามด้วยความสงสัยเพราะตอนที่โกโจส่งรูปป่าน้ำแข็งมาให้ เขาบอกว่าเขารู้สึกได้ถึงพลังไสยเวทรุนแรงกว่าปกติจากอากาเนะ

    “ก็ตอนแรกที่ปล่อยห้วงสุญญตาไป ผมรู้สึกได้ถึงไอพลังไสยเวทที่รุนแรงมาจากที่ไกลๆแต่ไม่รู้ว่าเป็นของใคร พอจัดการเสร็จก็เลยขึ้นไปดูจากด้านบนก็เจอกับป่าน้ำแข็งแบบที่ส่งให้เลยแล้วก็ต้นตอของไอนั่นก็มาจากอากาเนะนี่แหละ” คนผมขาวตอบ “แล้วทางคุณล่ะ ไปเจออากาเนะมาแล้วก็คุยอะไรกันด้วยไม่ใช่เหรอ”

    “ก็ได้คุยกันจริงๆนั่นแหละ แต่เหมือนเขาจะไม่รู้ว่าพลังที่ตัวเองปล่อยมันรุนแรงกว่าที่คิดนี่สิ”

    “ยังไงนะ?”

    “ตอนที่เอาภาพให้ดู หน้าอากาเนะคือช็อกแบบนี่ฝีมือฉันเหรอ มันกินพื้นที่เยอะกว่าที่คิดอีก อะไรประมาณนี้”

    “เห…” คนผมขาวร้องด้วยความสนใจ “ดูท่าว่าหลานคุณนี่น่าจะมีอะไรมากกว่าที่พวกเราคิดอีกนะเนี่ย”

    “ก็จริง ฉันเลยกะว่าจะให้ฮิโรโตะช่วยหาข้อมูลเพิ่มอยู่” ฮิโตมิว่า “แต่มีอย่างนึงที่ฉันรู้สึกสงสัยอยู่”

    “คือ?”

    “อากาเนะจังมีไสยเวทย้อนกลับด้วยเหรอ”

    “…ห๊ะ?”

     

     

     

    .

    .

    .

    ในส่วนของเด็กนักเรียนก็ให้เวลาหยุดพักกันไปหนึ่งวันเพื่อพักฟื้นอาการบาดเจ็บ ในส่วนของแก๊งค์ปีหนึ่งก็ได้ไปเยี่ยมฟุชิงุโระที่อาการดีขึ้นจากการสู้กับฮานามิ อากาเนะก็ขอโทษทุกคนที่ตัวเองไม่ได้ช่วยอะไรเยอะพร้อมกับบอกความจริงเรื่องตาซ้ายของเธอและข้อแลกเปลี่ยนของเรียวตะ ตอนแรกก็โดนเทศน์จากทั้งสามคนแต่สุดท้ายก็ปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุดรวมถึงมีการเรียกประชุมเหล่านักเรียนถึงงานเชื่อมสัมพันธ์และผลที่ได้คือทุกคนอยากให้จัดต่อ จนกระทั่งวันต่อมางานเชื่อมสัมพันธ์ก็ได้ดำเนินต่อไปด้วยการแข่งเบสบอลแทนการประลองเดี่ยวเนื่องจากฉลากการแข่งเดี่ยวที่ใส่ในกล่องโดนโกโจแอบไปเปลี่ยนเป็นเบสบอลแทน พอครูใหญ่ทั้งสองเห็นก็ช็อกกันว่าทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้กันแต่พอผลออกมาเป็นแบบนี้แล้วก็ต้องจัดแข่งเบสบอลกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อากาเนะอยู่ตำแหน่งเอ้าท์ฟิลด์เดอร์ตัวสำรองแต่ไม่ได้ลงแข่งเลยซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้ติดใจอะไรนักเพราะเป็นคนดูสนุกกว่า แถมภาพโทโดโดนมากิขว้างบอลอัดหน้าแบบจังๆถือเป็นไฮไลท์ของงานโดยเฉพาะเพราะไม่มีใครเป็นห่วงเขาเลยซักคนแม้กระทั่งฝั่งเกียวโตและทุกคนต่างชมมากิว่าขว้างสวยอีก

     

    รู้เลยว่าไม่มีใครรักโทโดเลยซักคน

     

    จนกระทั่งการแข่งขันจบลง ผลที่ได้ก็คือทางโรงเรียนไสยเวทโตเกียวชนะไปที่2-0 คะแนน เมื่อรวมการแข่งทั้งสองวันแล้วผู้ชนะงานเชื่อมสัมพันธ์ครั้งที่ 30 ก็คือโรงเรียนไสยเวทโตเกียว และงานก็จบลงด้วยประการฉะนี้แล

     


     



    .

    .

    .

    “ในที่สุดงานแข่งก็จบซักที…” ตกกลางคืน อากาเนะที่เพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็บิดตัวขี้เกียจและบ่น

    “ข้ายังเสียดายที่ไม่ได้เห็นการแข่งเดี่ยวอยู่ดี” เรียวตะทำหน้ามุ่ยในขณะที่เล่นโทรศัพท์อากาเนะ

    “เอาเถอะน่า อย่างน้อยก็ได้ถ่ายภาพโทโดโดนคุณมากิขว้างบอลแบบ4k แค่นี้ฉันก็พอใจแล้ว” 

    “เจ้านี่มักน้อยจริงๆ”

    ♫♪♩~

    “หือ? ฮิโตมิ?” ในตอนนั้นเองก็มีคนโทรเข้าพอดี ซึ่งคนที่โทรหาก็คือฟุบูกิ ฮิโตมิ เรียวตะเลยยื่นโทรศัพท์คืนให้อากาเนะให้เธอกดรับเอง

    “ฮัลโหลค่ะ คุณฮิโตมิ”

    ฮัลโหลอากาเนะจัง ตอนนี้ว่างคุยรึเปล่า

    “ทำไมเหรอคะ”

    ที่โทรมามีเรื่องจะอยากจะถามนิดหน่อยน่ะ พอจะมีวันว่างซักวันมั้ย” คนปลายสายถาม

    “วันว่างเหรอ…”

    คือที่บ้านใหญ่อยากจะเจอเธอน่ะ

    “?!” ประโยคของฮิโตมิทำเอาเด็กสาวอึ้ง 

    ฟังดูตลกดีใช่มั้ย ตั้งแต่จบคดีเมื่อตอนนั้นถึงจะมีส่งค่าใช้จ่ายต่างๆนาๆมาให้เราก็เถอะแต่ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกันเลย

    “ที่ไม่ค่อยได้ติดต่อกันก็เพื่อรับประกันความปลอดภัยของหนูเถอะ คุณมิซาเอะบอกหนูนานแล้ว”

    อ้าว?” หญิงสาวร้องเพราะนึกว่าอากาเนะยังไม่รู้เหตุผลที่ทางบ้านใหญ่ไม่ค่อยได้ติดต่อหาสู่กัน แต่จริงๆเด็กสาวรู้มานานแล้วเนื่องจากมิซาเอะเป็นคนบอกเอง

    “ตอนแรกหนูก็งงว่าทำไม จนกระทั่งหนูเกือบโดนคนจากตระกูลฮิรามารุฆ่าตายเท่านั้นแหละ หนูเก็ทเลย”

    “…”

    “คุณฮิโตมิ?” เด็กสาวทักเพราะจู่ๆปลายสายเงียบไป

    อะ!? โทษทีๆ เมื่อกี้เหม่อน่ะ” หญิงสาวที่เพิ่งรู้สึกตัวก็เอ่ยขอโทษ “แล้วเราจะไปมั้ยล่ะ ถ้าไม่ไปก็ไม่เป็นไรนะ เราตัดสินใจเองเลย

    “…” ครั้งนี้เด็กสาวเงียบบ้าง ถึงเธอจะเป็นคนจากตระกูลฟุบูกิแต่เธอก็ไม่เคยไปบ้านนั้นเลยซักครั้ง

    แต่จู่ๆก็โดนขอให้ไปแบบนี้ ทางนั้นคิดอะไรอยู่กันแน่

    “…ถ้าหาวันได้ เดี๋ยวจะติดต่อไปนะคะ”

    เข้าใจแล้วล่ะ หลังจากนี้มีอะไรก็โทรมาคุยกันได้นะ” ฮิโตมิได้ยินแล้วรู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดนึง

    “งั้นก่อนวางขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยคะ”

    ได้นะ จะถามอะไรเหรอ

    “ที่บ้านใหญ่เรียกหนูให้ไป-”

    ไปคุยกันเรื่องผู้นำตระกูลฟุบูกิน่ะ พินัยกรรมมันล็อคมงให้เราเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไป

    “…ห๊ะ!?” สิ้นประโยคของฮิโตมิ อากาเนะถึงกับร้องเสียงดังจนเรียวตะหันมาหาด้วยความตกใจ “เดี๋ยวก่อนนะคะ ล็อคมงที่ว่านี่-”

    จริงๆมันบอกว่าจะเอาคนที่มีวิชาน้ำแข็งพันปีเป็นผู้นำตระกูลหวยมันเลยมาลงที่เรา ส่วนคนที่เขียนนี่เป็นคุณย่าน่ะนะฉันเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเขียนแบบนั้น อ้อ! คุณย่าที่ว่านี่คือคุณย่าทวดเรานะอากาเนะ

    “ย่าทวดหนู?”

    “?!” เด็กสาวทวนด้วยความสงสัยแต่หารู้ไม่ว่ามันทำให้ยมทูตหนุ่มชะงักขึ้นมา

    ใช่ จะเอาแบบละเอียดเลยมั้ยหรือเอาไว้ทีหลัง?”

    “…เอาไว้ทีหลังก็ได้ค่ะ”

    โอเคงั้นไม่กวนเราแล้วล่ะ แค่นี้นะ

    ตู๊ด!

    “…ผู้นำตระกูล…”

    “ทางนั้นโทรมาเพราะเรื่องผู้นำตระกูลเหรอ” เรียวตะถาม

    “ใช่ คุณฮิโตมิบอกว่าอยากให้ฉันไปบ้านใหญ่เพราะจะคุยกันเรื่องผู้นำตระกูลเพราะพินัยกรรมมันล็อคมงให้คนที่มีวิชาน้ำแข็งพันปีเป็นคนรับตำแหน่งนี้ แล้วคนที่เขียนก็เหมือนจะเป็นย่าทวดฉันอะไรนี่แหละ”

    “…” ชายหนุ่มที่ได้ยินแบบนั้นก็เงียบไปอีกรอบก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่นและพึมพำเสียงเบา “ทำอะไรไม่ปรึกษาข้าอีกแล้วนะยูอิ…”

    “หือ? เมื่อกี้พูดอะไรรึเปล่า”

    “ไม่มีอะไร แค่บ่นไปเรื่อย” แต่พอเห็นว่าอากาเนะเหมือนจะได้ยินก็ตอบปฏิเสธไปและหาเรื่องอื่นมาคุยแทน “แล้วเจ้าจะไปบ้านใหญ่เหรอ”

    “ถ้าหาวันได้อ่ะนะ”

    ติ๊ง!

    “ไม่ใช่ว่าฮิโตมิโทรเสร็จแล้วทักข้อความมาหานะ?” ในตอนนั้นเองก็มีเสียงข้อความเข้ามาต่อ เรียวตะจึงแซวไปขำๆว่าอาจจะเป็นฮิโตมิที่เพิ่งโทรคุยกันไปก็ได้

    “ไม่ ไม่ใช่คุณฮิโตมิ”

    “แล้วใครทัก”

    “อาจารย์โกโจ”

    “…ห๊ะ!?”

    五条先生

    อากาเนะ ว่างคุยมั้ยครับ

    อาจารย์โกโจ?

    มีอะไรรึเปล่าคะ

    คือผมมีเรื่องอยากจะถามน่ะ

     

    “วันนี้มันวันอะไรทำไมถึงมีแต่คนอยากมาคุยกับเจ้าเนี่ยอากาเนะ” เรียวตะว่า

    “วันนี้เพิ่งมีแค่สองคนเถอะ”


    ถามเรื่องอะไรล่ะคะ

    อยากจะถามเรื่องอาการหลังจากที่ใช้คุณไสย

    ทำป่าไม้เป็นป่าน้ำแข็งน่ะครับ

    (สติ๊กเกอร์ทำหน้างง)

    คือคุณฮิโตมิบอกผมมาว่าตอนที่เจอเธอน่ะ

    เธอนอนสลบแล้วเหมือนจะมีเลือดกำเดากับ

    อ้วกเป็นเลือดด้วย แต่พอเห็นว่าเธอฟื้นมาแล้ว

    ก็ถามอาการบาดเจ็บ เธอกลับตอบว่าสบายดี 

    ผมขอถามสาเหตุได้มั้ยว่าเพราะอะไร

     

    “…” อากาเนะเงียบเป็นรอบที่สามเพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมอาการบาดเจ็บหลังจากที่ใช้สูญสิ้นโลกาไปมันถึงหายเร็วขนาดนั้น ส่วนเรียวตะก็มีแอบเหล่มองเธอราวกับรู้ว่าเธอมีอะไรเพียงแต่ไม่มั่นใจว่ามันจะใช่เหมือนกับที่ตัวเองคิดมั้ย


    เรื่องนั้นฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ

    รู้แค่ว่าตอนนั้นมันเจ็บเหมือนจะตายอีกรอบ

    แถมสภาพตอนนั้นก็เรียกชิกิงามิมารักษา

    ไม่ได้ด้วยเพราะไม่มีแรงเรียก

    แต่ซักพักก็หายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    ฉันยังงงๆอยู่เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น

    ผมว่าน่าจะต้องคุยกันตัวต่อตัวแล้วล่ะ

    เดี๋ยวไปหานะครับ

     

    “ห๊ะเดี๋ยว-”

    “สวัสดีตอนเย็นคร้าบบบบ~”

    “แว้ก!?” อากาเนะยังไม่ทันจะได้พิมพ์ตอบ โกโจก็วาร์ปมาที่ห้องเธอแล้วจนเธอร้องตกใจ

    “มาทำไม! ออกไป๊!” ยมทูตเห็นแขกผู้มาใหม่ก็แยกเขี้ยวใส่และออกปากไล่กันทันที

    “ผมแค่จะมาคุยกับอากาเนะแค่นี้ถึงขั้นต้องแยกเขี้ยวใส่กันแล้วเหรอครับเรียวตะ” 

    “สาระแน”

    “อ่ะด่าเหมือนยูกิฮิเมะอีก” อากาเนะได้ยินแล้วกุมขมับปวดหัว “อาจารย์อยากคุยเรื่องอะไรคะ”

    “ผมจะบอกว่าผมรู้สาเหตุที่อาการบาดเจ็บของเธอมันหายเป็นปลิดทิ้งหลังจากที่ใช้พลังไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไงล่ะครับ”

    “?” ประโยคของอาจารย์หนุ่มทำเอาอากาเนะทำหน้างง

    “ทำหน้าไม่เข้าใจด้วย?” โกโจเห็นแบบนั้นก็หันไปหาเรียวตะที่ตอนนี้กอดอกก้มหน้างุดอยู่ “เธอเคยบอกอากาเนะเกี่ยวกับเจ้านั่นรึเปล่า”

    “เคยบอกมั้ยมันก็เคยหรอก” เรียวตะตอบ “แต่…”

    “แต่?”

    “…บอกตามตรงว่าข้าอิจฉาแล้วก็น้อยใจด้วย”

    “ห๊ะ?”

    “โอยะ?” อากาเนะทำหน้างงกว่าเดิมในขณะที่โกโจยกยิ้มด้วยความสนใจที่เรียวตะจะเกิดความรู้สึกอิจฉา “คือรู้อยู่แล้วแต่ไม่อยากยอมรับเหรอครับ”

    “ก็…อืม”

    ‘? ทำไมวันนี้ดูยอมรับง่ายแปลกๆ’ คนผมขาวรู้สึกแปลกๆกับท่าทีของอีกฝ่าย

    “นายพูดอะไรให้ฉันเข้าใจด้วย ตอนนี้ฉันตามไม่ทันแล้ว” อากาเนะที่ตามเรื่องไม่ทันก็รีบท้วง

    “คืองี้นะครับอากาเนะ สาเหตุที่อาการบาดเจ็บของเธอหายไปที่ว่านี่มาจากตัวเธอเองนั่นแหละครับ” โกโจอธิบาย

    “มาจากฉัน?”

    “เธอมีไสยเวทย้อนกลับ”

    “?!!” สิ้นประโยคของคนเป็นอาจารย์ เด็กสาวก็ทำหน้าตกใจเพราะในบรรดาผู้ใช้คุณไสยทั้งหมด คนที่มีไสยเวทนี้จะเป็นพวกผู้ใช้คุณไสยระดับพิเศษเกือบทุกคนรวมถึงคุณหมออิเอย์ริ โชโกะที่เป็นแพทย์ประจำโรงเรียนไสยเวทโตเกียวด้วย

    “ฟังดูไม่น่าเชื่อใช่มั้ยล่ะครับ แต่ว่าคุณฮิโตมิเขาเล่าช่วงตอนที่ไปเจอเธอในป่าให้ผมฟังแล้วก็เกิดความสงสัยขึ้นมา ถ้าไม่เชื่อจะลองพิสูจน์ตอนนี้เลยก็ได้นะ”

    “คะ?”

    “พิสูจน์ว่าตัวเจ้ามีไสยเวทย้อนกลับจริงๆไง” เรียวตะอธิบายอากาเนะที่ยังงอยู่ “ลองเอาคัตเตอร์นั่นกรีดบนฝ่ามือเป็นแผลยาวๆสิ ข้าแนะนำให้ทำทั้งสองข้างแล้วก็เอาข้างไหนก็ได้หันไปให้เจ้าโกโจดู”

    “เอางี้เลยเหรอ”

    “อืม”

    “…” อากาเนะแลบลิ้นเลียริมฝีปากด้วยความหนักใจ ซักพักเธอก็หยิบคัตเตอร์บนโต๊ะแล้วกรีดมันบนฝ่ามือทั้งสองข้างเป็นแนวขวางและหันมือข้างขวาไปทางคนผมขาว ส่วนมืออีกข้างก็หันเข้าหาตัวเอง ทางยมทูตหนุ่มก็ย้ายตัวเองไปอยู่ฝั่งเดียวกับโกโจ

    “มีจริงๆด้วยแฮะ”

    “เพราะงี้ไงข้าถึงได้บอกแบบนั้น”

    “…?!” สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือรอยแผลทั้งสองเกิดการรักษาด้วยตัวเอง ทางสองหนุ่มที่เห็นภาพนั้นก็รู้สึกไม่ได้ตกใจเท่าอากาเนะที่ตอนนี้ช็อกตาโตเท่าไข่ห่านไปแล้ว

    “ที่พูดว่าอิจฉากับน้อยใจนี่ตอนแรกผมนึกว่าเธอพูดเล่นๆนะ” โกโจแซว

    “ก็ใครจะไปคิดล่ะคนที่มีไสยเวทโคตรโกงนั่นดันเป็นคนใกล้ตัวข้าซะเอง พอมาเจอแบบนี้มันก็เกิดอิจฉาไม่ได้รึไง”

    “ไม่ใช่แค่ใกล้ตัวด้วย แต่เป็นสายเลือดเดียวกันเลยต่างหาก”

    “…” ในขณะที่สองคนนั้นกำลังคุยกันอยู่ อากาเนะตอนนี้คือนิ่งเงียบผิดปกติจนเรียวตะต้องหยุดคุยแล้วทักเรียกสติเธอ

    “อากาเนะ เจ้าไหวมั้ยเนี่ย”

    “…ขอโทษที ฉันแค่ยังไม่อยากเชื่อตัวเองเท่าไหร่” เด็กสาวตอบเสียงแผ่วเหมือนไม่อยากจะยอมรับว่าตัวเองจะมีไสยเวทที่ขี้โกงแบบนี้ด้วย 

    “…อ้อจริงสิ เรียวตะ” ส่วนโกโจจากที่ไม่พูดอะไรก็มานึกอะไรขึ้นมาได้ “แล้วยูกิฮิเมะรู้เรื่องนี้รึยังครับ ไหนๆก็มาแล้วผมขอคุยกับเธอคนนั้นด้วยละกัน”

    “แม่เหรอ ข้าว่านางน่าจะรู้แล้วแหละ” ยมทูตหนุ่มว่า “แต่ว่านะโกโจ วันนี้แม่ไม่ออกมาคุยพวกเราเลย”

    “หือ?”

    “คือวันนี้ทั้งวันยูกิฮิเมะไม่ออกมาเลยค่ะ มีไปเรียกผ่านโทรจิตแล้วแต่เจ้าตัวก็ไม่ตอบ” อากาเนะอธิบายให้คนเป็นอาจารย์เข้าใจ เพราะตลอดวันนี้ยูกิฮิเมะไม่ออกมาคุยกับพวกเขาเลย นิดๆหน่อยๆก็ไม่มาจนพวกเขางงว่าหายไปไหน

    “แปลกๆนะโกโจ เจ้าจะถามหาแม่ไปทำไม” เรียวตะจ้องคนผมขาวด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ

    “น่าๆ ก็ผมมีเรื่องจะคุยกับเขาจริงๆนี่ แต่ถ้าวันนี้ไม่ได้-”

    “งั้นลองวิธีนี้มั้ยล่ะคะ ถึงไม่ได้เรียกให้ยูกิฮิเมะมาใช้ร่างฉันแต่อาจารย์ก็สามารถไปคุยกับเขาได้เลย” ในตอนนั้นเองอากาเนะก็พูดอะไรแปลกๆออกมาจนสองหนุ่มทำหน้างง

    “นี่เจ้ามีวิธีอื่นด้วยเหรอ!?”

    “หมายความว่าไงครับ”

    “เพิ่งมานึกขึ้นได้เมื่อกี้น่ะค่ะว่าชิกิงามิของฉันชื่อโดเมกิที่จริงเขาเป็นพวกสองบุคลิก เขาเลยบอกว่าถ้าจะคุยกับตัวเขาอีกคนนึงให้ใช้วิธีนี้ก็เลยมีบางครั้งที่ฉันคุยกับโดเมกิผ่านวิธีนี้เอาเป็นการพาตัวเองเข้าไปหาวิญญาณอีกดวงที่อยู่ในร่างน่ะค่ะ” เด็กสาวผมแดงว่าแล้วเอานิ้วชี้กับนิ้วกลางจรดระหว่างคิ้วตัวเอง “อาจารย์ช่วยหลับตาด้วยนะคะ เดี๋ยวจะพาไปหายูกิฮิเมะแล้ว”

    “เธอนี่ก็สรรหามาได้นะเนี่ย…” 

    “อาจารย์”

    “คร้าบๆ หลับตาแล้วๆ” ชายผมขาวหลับตาตามคำสั่งจากนั้นเธอก็เอานิ้วทั้งสองของตัวเองมาแตะบนหน้าผากของอาจารย์

    “งั้น…เริ่มเลยนะคะ”

     

     



    .

    .

    .

    Talkๆdesu : เอาตอนใหม่มาเสิร์ฟแล้วค่าาา จริงๆมันยาวกว่านี้แต่พอเช็คแล้วมันกินไป22หน้าเลยต้องยกยอดไปอีกตอน ทั้งสองตอนเนื้อหาจะไม่ได้มีอะไรมาก อย่างตอนนี้เราก็เฉลยเลยว่าอากาเนะมีไสยเวทย้อนกลับแล้ว แต่เอาจริงพอมาดูสกิลทุกอย่างที่น้อนมีก็แอบโกงอยู่นะ

    เรียกชิกิงามิได้ เป็นภาชนะคำสาประดับพิเศษ ใช้อาวุธก็เป็น ล่าสุดคือมีไสยเวทย้อนกลับที่ส่วนใหญ่จะมีอยู่แค่ในระดับพิเศษ (อฟช.บอกว่าผู้ใช้คุณไสยระดับพิเศษมี 4 คน) แต่เรายังเหลือกางอาณาเขตที่เป็นวิชาขั้นสูงสุดอีกนะ เราเคยเขียนไปแล้วในตอนต้นๆแต่อันนั้นคือเรียวตะสิงร่างแล้วกางอาณาเขตโชว์

    ถ้าเกิดว่าน้อนใช้แบบไม่โดนสิงได้ล่ะก็… งานนี้มีมันส์แน่พะย่ะค่ะ55555555555555555

    ตอนหน้าก็จะเป็นตอนของอาจารย์โกโจกับยูกิฮิเมะ ใครคิดว่าสองคนนี้มีซัมติงเตรียมตัวกันได้เลยค่ะ

     

    สนุกไม่สนุกยังไงก็เม้นกันเข้ามาได้นะคะ จะมีได้มีกำลังใจในการแต่งต่อไป

    เจอกันตอนหน้า บ๊ายบายยยยยยยยยยยยยยย

    Twitter : @bdm1228
     

            
    Z K T
       
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×