คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : ปลดพันธนาการ
“…เมื่อกี้นี้?”
“วิชาคุณไสยน้ำแข็งพันปี หวนคืนสู่โลกันตร์” หลังจากที่ยูกิฮิเมะจัดการกิ้งกือยักษ์นั่นได้พริบตาเดียวแล้วเรียวตะก็ยังคงอึ้งไม่หายกับท่าไม้ตายเมื่อครู่เธอจึงเริ่มอธิบายให้ฟัง “เป็นท่าที่ใช้จัดการศัตรูภายในดาบเดียว แต่อานุภาพการทำลายล้างจัดอยู่ในระดับกลางๆไม่ได้สูงจนอลังการ ข้าจึงแก้จุดอ่อนของท่านี้โดยใช้แผลของศัตรูให้เป็นประโยชน์ เมื่อศัตรูถูกฟันโดยท่านี้แผลที่ถูกฟันก็จะมีน้ำแข็งเกิดมาแล้วห่อหุ้มร่างรวมถึงเข้าไปกัดกินถึงเซลล์ข้างในเป็นการปิดจบและป้องกันไม่ให้เลือดมันไหลทะลักออกมา”
“มันก็คืออิไอแต่เป็นเวอร์ชั่นอัพเกรดเถอะ ว่างั้น?”
“นิยามซะสั้นเชียว แต่ตามหลักการแล้วก็ถือว่าใช่” คำนิยามของเรียวตะทำเอาคำสาปสาวเสียความมั่นใจไปเล็กน้อย เพราะช่วงที่เธอฝึกท่านี้ เธอต้องคำนวณหลายต่อหลายรอบว่าต้องทำยังไงถึงจะรีดประสิทธิภาพของพลังได้ดีที่สุด
“แต่อิไอปกติพอเราฟันเสร็จก็เก็บดาบกลับเข้าฝักใช่มั้ยแต่ของข้าคือไม่ต้อง แล้วก็ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้อานุภาพการทำลายของท่านี้เพิ่มขึ้นคือพลังที่ใช้ จะใช้คุณไสยฟันฉับเดียวแบบเพียวๆก็ได้ หรือจะใช้อาวุธเป็นสื่อกลางแล้วส่งพลังเข้าไปในนั้นก็ได้ ซึ่งข้าชอบใช้แบบหลังมากกว่าเพราะมันเหนื่อยน้อยกว่าแบบแรก”
“ตอนอยู่ด้วยกันก็คือไม่คิดจะโชว์กันบ้างเลย…” ยมทูตหนุ่มกอดอกพลางยู่ปากด้วยความน้อยใจ
“ก็มันยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เจ้าก็น่าจะรู้นี่ว่าข้าไม่ชอบอะไรที่มันครึ่งๆกลางๆด้วย”
‘ยูกิฮิเมะ’ ในระหว่างนั้นเอง อากาเนะก็เรียกเธอพอดี
‘มีอะไร?’
‘เอ่อ…คือท่าเมื่อกี้…ทำได้ยังไ-’
‘เดี๋ยวข้าสอนให้ ไม่ต้องห่วงหรอก’ ไม่ทันที่เด็กสาวจะพูดจบ ยูกิฮิเมะก็รับรู้ได้ทันทีอีกฝ่ายต้องการอะไร
‘จริงเหรอ!? ใจดีที่สุด’ เด็กสาวร้องด้วยความดีใจ
“คุยกับอากาเนะอยู่เหรอแม่” เรียวตะที่เห็นว่ายูกิฮิเมะเงียบไปพักนึงก็ทักถาม
“ใช่ จบเรื่องวันนี้เมื่อไหร่เดี๋ยวข้าสอนท่านี้ให้อากาเนะ จะมาดูก็ได้นะ”
“มันก็ต้องไปดูอยู่แล้วป้ะ-”
“ฟ่ออออ!!”
“!?” ทันใดนั้นเองก็มีฝูงสัตว์ประหลาดในรูปลักษณ์ของูที่มีขาถึง4 ขามาล้อมหน้าล้อมหลังไว้ สองหนุ่มสาวเห็นแบบนั้นก็หันหลังชนกันทันที
“ฝากด้านหลังทีนะ”
“แม่ก็ด้วยล่ะ” ไม่รอช้าทั้งคู่ก็พุ่งเข้าไปจัดเหล่าสัตว์ประหลาดตรงหน้าตัวเอง
“ไม่จบไม่สิ้นซักทีนะ พวกเจ้าเนี่ย!!”
แกร๊งๆๆๆๆ
“ฟ่อ!?!!!” ทางเรียวตะก็เรียกโซ่มาพันธการฝูงสัตว์ประหลาดฝั่งตัวเองทั้งหมดภายในพริบตา
“ทิ่มแทง”
ฉัวะ!!!
“!!?” สิ้นคำพูดของยมทูตหนุ่ม โซ่จากที่เคยมีผิวเรียบลื่นก็กลายเป็นหนามเหล็กแทงพวกมันจนพรุน
“20…30…น้อยกว่าที่คิดแฮะ สงสัยไปอยู่ฝั่งเรียวตะเยอะกว่า” ส่วนยูกิฮิเมะเองก็จัดการฟันศัตรูออกเป็นท่อนๆไปพลางนับจำนวนฝั่งตัวเองไปด้วย แต่ไม่นานก็มีฝูงงูมีขาปรากฎตัวออกมาเยอะกว่าเดิม
“60…70…งั้นเอาอันนี้ดีกว่า” แล้วเธอก็ปักดาบลงกับพื้นก่อนจะยื่นมือออกมาข้างหน้า จากนั้นก็มีก้อนพลังงานสีขาวเรืองแสงขึ้นแล้วแปรเปลี่ยนเป็นธนูและลูกธนูน้ำแข็ง เธอจึงง้างลูกธนูกับสายให้ชี้ไปบนฟ้า
วิชาน้ำแข็งพันปี ฝนน้ำแข็งดาวตก
ฟิ้ว!
ฉัวะๆๆๆ!!!!
“ฟ่อ!!!?” ทันทีที่เธอยิงธนูขึ้นไปบนฟ้า จากลูกธนูเพียงหนึ่งดอกก็เกิดเป็นห่าฝนน้ำแข็งตกลงใส่ฝูงสัตว์ประหลาดและทำให้พวกมันเป็นน้ำแข็งทุกตัว
“ฟ่อ!!” แต่ดูเหมือนจะมีตัวนึงที่ไม่โดนฝนน้ำแข็งตกใส่แล้ววิ่งหนีไปด้วยความร้อนรน
“หลุดเหรอ”
ฉัวะ!!
“สงสัยไม่ได้ใช้นาน ขอบเขตเลยไม่ได้กว้างเท่าเมื่อก่อน” แต่คำสาปสาวกลับไม่ได้เดือดร้อนอะไร มิหนำซ้ำเธอยังยิงธนูเข้ากลางหัวของมันด้วยความแม่นยำประหนึ่งจับวางพลางบ่นพึมพำไปด้วย
‘ถามจริงนะยูกิฮิเมะ มีอะไรที่เธอทำไม่ได้บ้างเนี่ย’ อากาเนะถามด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เพราะนึกไม่ถึงว่าเธอยังยิงธนูได้ด้วย
“มีสิ”
‘คือ?’
“ถ้าเป็นภาษาของยุคนี้ก็คงจะเป็นมีแฟนเป็นตัวเป็นตน ล่ะมั้ง?”
‘ถามจริง!?’ เด็กสาวที่ได้ยินคำตอบก็ตาลุกวาวแล้วถามต่อด้วยความอยากรู้ ‘ไม่เคยมีแฟนเลยเหรอ เคยแอบชอบใครอะไรแบบนี้นี่เคยมีบ้างมั้ยอ่ะ’
“เคยแอบชอบเหรอ…เมื่อก่อนน่ะมี”
‘เรียวตะเหรอ!?’ อากาเนะตาลุกวาวกว่าเดิม
“ไม่ใช่มัน” หญิงสาวตอบเสียงเนือย “แต่ความแย่มันตรงที่เวลาที่ข้าเกิดความรู้สึกชอบหรือรักใคร ไม่ว่าจะชายหรือหญิงคนๆนั้นก็มักจะมีอันเป็นไปตลอด ข้าเลยไม่คิดจะชอบหรือรักใครอีก”
‘อ่า…ขอโทษด้วยนะ’ เด็กสาวเอ่ยด้วยความรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรหรอก เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว” ยูกิฮิเมะพูดแล้วเดินกลับไปที่ตัวเองปักดาบทิ้งไว้และดึงมันออกมาเก็บเข้าฝัก “แต่พวกเจ้าสองคนสำคัญกับข้ามากนะ ตอนที่มีเรียวตะชีวิตข้าก็มีสีสันกว่าเดิม พอมีเจ้าด้วยแล้วยิ่งแล้วใหญ่”
‘จริงเหรอ ได้ยินแบบนี้แล้วใจฟูแฮะ’ เด็กสาวว่า ‘แต่ก็นึกไม่ถึงเลยนะว่าเธอจะรู้จักรักใครเป็นด้วย’
“ฮึๆ หน้าข้าดูเป็นคนไร้หัวใจขนาดนั้น?” คำสาปสาวขำในลำคอแล้วถามกลับ
‘เปล่าซักหน่อย’ อากาเนะตอบปฏิเสธ ‘อ้อจริงสิ ยูกิฮิเมะ’
“ว่า?”
‘เธอเคยบอกว่าเธอมีท่าไม้ตายนึงที่จนถึงตอนนี้เธอก็ยังทำไม่เสร็จเลยใช่มั้ย’
“...” ยูกิฮิเมะได้ยินแบบนั้นก็เงียบไป เพราะที่จริงแล้วเธอยังมีไพ่ลับอยู่อย่างหนึ่งที่จนถึงตอนนี้เธอยังทำไม่เสร็จเสียที แต่วันนี้อากาเนะอยู่ๆก็พูดถึงมันขึ้นมา “...แล้ว?”
‘ฉันขอใช้เลยได้มั้ย ไหนๆก็มีคำสาประดับพิเศษบุกเข้ามาแล้ว’
“...” คำสาปสาวเงียบเป็นรอบที่สอง “มันจะกินพลังไสยเวทไปเยอะมากเลยนะ แน่ใจแล้วเหรอ”
‘อือ’
“...ข้าห้ามเจ้าได้มั้ย”
“อะไรๆๆ คุยอะไรกันสองคนอีกแล้วล่ะเนี่ย” ในตอนนั้นเอง เรียวตะที่จัดการศัตรูฝั่งตัวเองเสร็จแล้วก็แวะมาหาพอดี
“จัดการเสร็จแล้วเหรอ”
“อือฮึ แล้วนี่เม้าท์อะไรกันอยู่”
“เรื่อยเปื่อยน่ะ แล้วเจ้าเจอเจ้านั่นรึเปล่า”
“เจ้านั่น? หมายถึงไอ้คำสาประดับพิเศษนั่นอ่ะนะ?” คำถามของหญิงสาวทำเอาเรียวตะงงนิดหน่อยแต่ไม่นานก็เข้าใจ
“เห็นว่าสู้กับอิตาโดริแล้วก็โทโดอยู่”
‘…นี่ ยูกิฮิเมะ’ ระหว่างนั้นเอง อากาเนะก็ทักเธออีกรอบ
“อะไรอีกอากาเนะ”
‘ที่ถามไปเธอยังไม่ตอบเลยนะ’
“…” คำสาปสาวเงียบเป็นรอบที่สอง “ถ้าจะใช้จริงๆ เจ้าต้องเตรียมใจกับพลังไสยเวทเจ้าให้พร้อม”
‘ฉันเคยเกือบตายมาแล้วนะ เรื่องแค่นี้ฉันรับมือไหวน่า’
“…เฮ้อ~” ประโยคของเด็กสาวทำเอาเธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ “อยากจะทำอะไรก็ทำแต่อย่าฝืนตัวเองก็พอ แล้วก็ข้าแนะนำว่าให้สังเกตการณ์จากบนฟ้ามันจะได้หาจุดปล่อยพลังได้ง่าย”
‘แต๊งกิ้ว~’
“อากาเนะคิดอะไรแผลงๆอีกแล้วเหรอ” เรียวตะถาม
“ไม่ใช่แค่คิด แต่จะทำเลย-”
ตู้ม!!
“?!” แต่ทันใดนั้นเอง ม่านที่ถูกกางอยู่ก็พังทลายโดยฝีมือของคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ทางเรียวตะก็รีบดำเข้าไปเงาเพื่อหลบแดดส่วนอากาเนะที่ทำจิตให้กลับร่างตลอดเวลาก็กลับเข้าร่างเดิมได้ซักที
“กลับเข้าร่างได้แล้ว!”
“โอ้โหดูมัน เห็นแล้วน่าหมั่นไส้จริงๆ” ยมทูตหนุ่มพูดด้วยความหมั่นไส้ เพราะคนที่เพิ่งทำลายม่านไปตอนนี้กำลังสังเกตการณ์จากบนฟ้าอยู่จนกระทั่งยูกิฮิเมะแทรกขึ้น
‘!? อากาเนะ ข้าขอยืมร่างแปบนึง’
“ห๊ะเดี๋ยว-”
.
.
.
“เอาล่ะ เริ่มจากตรงไหนดีล่ะ” ทางโกโจที่ตอนนี้ทำลายม่านเรียบร้อยแล้ว แถมยังเอาผ้าปิดตาออกใช้ริคุกันพิจารณาสถานการณ์ของแต่ละคน
แต่แล้ว
“แฮ่!!!!-”
ฉัวะ!! กึกๆๆๆๆๆ!!
“?” จู่ๆก็มีอีกายักษ์ที่มีลำตัวคล้ายมนุษย์แต่มีขนปีกปกคลุมเฉกเช่นอีกาทั่วไปโผล่มาจากไหนหวังพุ่งโจมตีใส่เขา แต่ก็มีลูกธนูยิงเข้าข้างลำตัวและแช่แข็งร่างมันจนร่วงลงพื้น ส่วนโกโจก็ยังคงงงๆกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เพราะมันไวมากจนเขาไม่ทันจะใช้พลังของตัวเองจัดการเลย
“อาจารย์โกโจ?” ในตอนนั้นเอง อากาเนะก็ขี่คุดะคิทสึเนะบินมาหาพอดี
“เมื่อกี้ฝีมือเธอเหรออากาเนะ”
“เอ่อ…ไม่ค่ะ ยูกิฮิเมะเป็นคนทำ” เด็กสาวตอบตามความจริงเพราะเหตุการณ์เมื่อครู่เป็นฝีมือของยูกิฮิเมะ แถมเธอยังเพิ่งเคยเห็นเขาตอนไม่มีผ้าปิดตาเป็นครั้งแรกก็อึ้งไปนิดนึง “ก็งงอยู่ว่าจะยืมร่างทำไม ที่แท้ก็มีศัตรูเหลืออยู่แถมยังคิดจะจัดการอาจารย์อีก”
“อันที่จริงไม่ต้องถึงมือยูกิฮิเมะ ผมก็จัดการเองได้นะ” โกโจว่า
“ข้าเองก็คิดแบบนั้น แต่ข้าก็ไม่รู้นะว่าทำไมแม่ถึงทำแบบนั้น” เรียวตะออกความเห็น “จะไปเค้นถามก็ไม่ได้ด้วยเพราะแม่ชิ่งหนีไปหลับแล้ว”
“หนีไปหลับ…เหลือจะเชื่อเลย” คนผมขาวได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่ “พูดซะอยากเห็นยูกิฮิเมะตอนที่ไม่ได้สิงร่างอากาเนะเลยนะครับ”
“สวย”
“หือ?” คำพูดของยมทูตหนุ่มทำเอาโกโจเลิกคิ้วสงสัย
“ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าจินตนาการหน้าตายูกิฮิเมะยังไง แต่นางสวยกว่าที่เจ้าคิด”
“ขอยืนยันอีกเสียงค่ะ ยูกิฮิเมะสวยมาก” อากาเนะเองก็เห็นด้วยเช่นกัน โกโจจากที่แค่แซวขำๆไปเมื่อครู่พอได้ยินแบบนี้ก็ทำให้ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของเขาเพิ่มขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ต้องเก็บความอยากรู้นี้ไว้ก่อน
“แล้วนี่เธอบินขึ้นมานี่มีอะไรรึเปล่าครับอากาเนะ”
“เล็งหาที่เหมาะๆไว้ฟรีซคำสาประดับพิเศษค่ะ”
“ฮะๆ ดูท่าพวกเราจะเล็งเป้าหมายเดียวกันนะ” ชายหนุ่มเจ้าของเนตรริคุกันขำเล็กน้อย
“แล้วอาจารย์ทำอะไรอยู่เหรอคะ”
“ก็ดูสถานการณ์แล้วก็เรียงลำดับความสำคัญ ทางยูจิตอนนี้พลังเพิ่มสูงขึ้นเพราะอาโออิ คิดว่าทางนั้นไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
“…งั้นฉันไปก่อนนะคะ หาที่ดีๆเจอแล้ว”
“คร้าบๆ แล้วเจอกันนะ” แล้วอากาเนะก็บินลงหาที่ที่ตัวเองเตรียมใช้ไพ่ลับที่ว่าพร้อมกับให้คุดะคิทสึเนะกลับเข้าลูกแก้วและเก็บใส่กระเป๋า
“…เฮ้อ” เด็กสาวสูดลมหายใจแล้วผ่อนออกมาเพื่อทำสมาธิ จากนั้นก็ยื่นมือออกมาด้านหน้าหนึ่งข้าง ส่วนอีกข้างก็เอานิ้วชี้และนิ้วกลางจรดหน้าผากแล้วหลับตาลง “เอาล่ะนะ”
ฟู่ววววว~~!
“…” เธอใช้พลังสร้างก้อนพลังสีฟ้าพาสเทลและใช้สมาธิรวบรวมพลังจากรอบด้านอยู่
‘…’ ยูกิฮิเมะที่หลับอยู่ก็ยอมตื่นมาดูสิ่งที่อากาเนะจะทำอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้และคิดอยู่ในใจ
เพราะท่าไม้ตายที่อากาเนะใช้อยู่นั้นมันเป็นท่าที่มีการทำลายล้างรุนแรงที่สุดเท่าที่เธอเคยทำมา เพียงแต่เธอยังทำไม่เสร็จสมบูรณ์เท่านั้นแถมตอนที่ใช้ครั้งแรกก็ยังกินพลังไสยเวทเธอไปเยอะมากจนแทบจะยืนไม่อยู่ด้วย
“…สุริยันดับแสง จันทรามัวหมอง”
‘หือ? อากาเนะ?’ ในตอนนั้นเอง เด็กสาวผมแดงก็พูดอะไรแปลกๆออกมาจนคำสาปสวต้องทักแต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้สนใจ
“บุปผาร่วงโรย นคราวินาศ”
‘อากาเนะ?! ท่านี้มันไม่มีโปรย-’
“โซ่ตรวนที่พันธนาการตัวเรา จงปลดออก”
ครืนนน!!!
‘?!’
‘เดี๋ยว! ทำไมพลังดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเลยวะ!?’ ตอนนี้ไม่ใช่มีแค่ยูกิฮิเมะที่รู้สึกร้อนรนแล้ว เรียวตะเองก็รู้สึกว่าก้อนพลังงานนั้นมีพลังมากกว่าเดิม ทางเด็กสาวในตอนนี้ก็ลืมตาขึ้นมาโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเผลอพูดอะไรออกไป หนึ่งยมทูตและหนึ่งคำสาปต่างตะโกนเรียกสติเธอทันที
‘เห้ยอากาเนะ! เจ้าเป็นอะไรเนี่ย!?’
‘อากาเนะ ข้าขอสั่งให้เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้!’
“วอดวายมลายสิ้น สูญสิ้นโลกา”
ตู้ม!!
กึกๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!
“!? แกว้ก-!?” ทันที่ที่อากาเนะเขวี้ยงก้อนพลังลงพื้น พื้นที่ที่เธออยู่ก็ถูกทำเป็นน้ำแข็งและไล่แช่แข็งทุกอย่างที่ขวางหน้าแม้กระทั่งนกกระจอกผู้โชคร้ายตัวนั้น และมันก็ไล่แช่แข็งทุกอย่างเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆจนไม่น่าจะมีใครหยุดได้เลยทำให้ป่าในโรงเรียนตอนนี้เป็นป่าน้ำแข็งเรียบร้อย
‘นี่มันท่าต้องห้ามของแม่ไม่ใช่เหรอ!? ทำไมถึงให้อากาเนะใช้ล่ะ!!’ ยมทูตหนุ่มร้องโวยวายเพราะไพ่ลับที่อากาเนะใช้อยู่นั้นมีชื่อว่าสูญสิ้นโลกา เป็นไม้ตายต้องห้ามของยูกิฮิเมะเพราะมันจะแช่แข็งทุกอย่างที่ขวางหน้าอย่างไร้ปราณี
และที่สำคัญที่สุดก็คือ
หากหยุดใช้เมื่อไหร่ มันก็จะสะท้อนเข้าตัวเอง
‘ก็นางตื๊อว่าจะใช้ให้ได้ แต่ข้าไม่คิดว่ามันจะกินพื้นที่เยอะกว่าที่ข้าเคยทำอีก’ คำสาปสาวว่าด้วยกังวล
“…แฮ่ก…แฮ่ก…” ในตอนนั้นเอง ก้อนพลังงานก็ค่อยๆจางลงพร้อมกับเสียงหอบหายใจของเด็กสาวจนกระทั่งมันหายไป
‘อากาเนะ!! รู้รึเปล่าว่าทำอะไรลงไป!!’ เรียวตะตวาดใส่
“…หา? ก็ปั-อุ๊บ!? แหวะ!!!!” แต่จู่ๆเธอก็อ้วกเป็นเลือดและเลือดกำเดาไหลออกมาและทรุดลงกับพื้น
‘อากาเนะ!?!!’ หนึ่งยมทูตและคำสาปสาวร้องตกใจกับอาการของเธอ เพราะไม่คิดว่ามันจะสะท้อนเข้าตัวหนักขนาดนี้
‘แม่!? แม่ไปสิงแล้วรักษานางได้มั้ย!’
‘ก็อยากจะทำแบบนั้นอยู่หรอก แต่ข้าเข้าไปสิงไม่ได้เลย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน’
“…ฉัน…ไม่เป็นไร-” เสียงของเด็กสาวช่างแผ่วเบาและสลบไปทั้งอย่างนั้นจนทั้งคู่ต่างตะโกนเรียกด้วยความร้อนใจ
‘อากาเนะ!?!!!’
.
.
.
‘นี่เรียวตะ ฉันสงสัยอ่ะ’
‘หือ? เจ้าสงสัยอะไร’
‘ไสยเวทย้อนกลับคืออะไรเหรอ’
‘ไสยเวทย้อนกลับเป็นไสยเวทที่ใช้พลังไสยเวทด้านลบสองอันรวมเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นพลังไสยเวทด้านบวก ความสามารถของมันก็ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้แบบอีซี่ แต่คนที่มีไสยเวทนี้ดันมีน้อย เรียกได้ว่าใครมีก็คือมีชัยไปกว่าครึ่ง’
‘…ฟังดูเป็นพลังที่โกงจังนะ’
‘ใช่มั้ยล่ะ ข้าเคยพยายามแล้วนะแต่ทำเท่าไหร่ก็ทำไม่ได้ซักที’
‘ถ้านายทำไม่ได้ ฉันก็คงหมดหวังแล้วล่ะ’
พลังไสยเวทด้านลบสองอันรวมกันจนเกิดเป็นพลังไสยเวทด้านบวก…เหรอ
.
.
.
“...ง! อากาเนะจัง!!”
“…เฮือก!?”
“อากาเนะจัง!!? ค่อยยังชั่ว นึกว่าจะอาการหนักจนต้องให้โชโกะช่วยแล้วเนี่ย”
“คุณ…ฮิโตมิ?” ในที่สุดอากาเนะก็ฟื้นขึ้นมาจนได้ และเจอกับฮิโตมิที่มีสีหน้าโล่งใจที่เห็นว่าเธอฟื้นซักที
‘คุณพระคุณเจ้า นึกว่าเจ้าจะตายรอบสองแล้ว’
‘ใจหายใจคว่ำหมด…’ รวมถึงเรียวตะและยูกิฮิเมะด้วย
“ดูเหมือนจะยังจำกันได้อยู่นะ-เดี๋ยว? ทำไมตรงมุมปากกับจมูกมันเลอะเลือดล่ะ” แต่พอเห็นว่าสภาพเด็กสาวตรงหน้ามีคราบเลือดเลอะตรงมุมปากยาวไปถึงคางและตรงจมูกก็ตกใจ “ร่างกายไม่เป็นไรใช่มั้ย!? มีปวดหัวอะไรรึเปล่า”
“เอ๊ะ? เอ่อ…” เด็กสาวอ้ำอึ้งงงเป็นไก่ตาแตก เพราะหลังจากที่เธอปล่อยพลังทำให้ป่าไม้เป็นป่าน้ำแข็งแล้ว เธอก็รู้สึกเจ็บปวดจนทรมานไปทั่วร่างกายแถมรู้สึกได้ถึงอวัยวะภายในที่เสียหายหนักอีก
แต่ตอนนี้เธอกลับไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว แถมร่างกายก็ยังแข็งแรงดีทั้งๆที่เหนื่อยจากการแข่งไปขนาดนั้น
“…ไม่ค่ะ…หนูสบายดี”
“เหรอ…” หญิงสาวผมม่วงมองด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่คิดจะเค้นอะไร เธอจึงยื่นทิชชู่เปียกพกพามาให้เด็กสาวเช็ดคราบเลือดตัวเอง “เอานี่ทิชชู่”
“ขอบคุณค่ะ” อากาเนะรับมาแล้วเช็ดคราบเลือดออก “แล้วคุณฮิโตมิมาอยู่ที่นี่ได้ไงคะ”
“ก็มาดูงานแข่งนี่แหละ แต่คิดไม่ถึงเหมือนกันนะว่าจะมีคำสาประดับพิเศษบุกเข้ามาแบบนี้ด้วย”
“นั่นสินะคะ คิดไม่ถึงจริงๆ”
“แล้วป่าน้ำแข็งนี่เป็นฝีมือเราใช่มั้ย”
“ค่ะ”
“…ห๊ะ?” แต่พอฮิโตมิถามถึงป่าน้ำแข็งและได้ยินว่าเป็นฝีมือของเด็กสาวก็ช็อกไป “เดี๋ยว? เราทำได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ”
“คะ?”
“คือว่านะอากาเนะจัง โกโจบอกฉันมาว่าเขตป่าในโรงเรียนเกือบจะครึ่งนึงตอนนี้มันเป็นน้ำแข็งน่ะ”
“…คะ!?!!!” ประโยคของหญิงสาวเรือนผมสีม่วงทำเอาอากาเนะไปไม่เป็นเลยทีเดียว
“จริงๆนะ หมอนั่นถ่ายรูปจากบนฟ้าแล้วส่งมาให้ฉันดูด้วย โคตรลงทุน” ฮิโตมิว่าแล้วยื่นโทรศัพท์ที่เปิดภาพถ่ายที่โกโจส่งมาให้ดู
“…” อากาเนะที่เห็นภาพนั้นก็พูดไม่ออก เพราะในรูปมันแบ่งเป็นโซนป่าที่แห้งเหี่ยวเพราะฝีมือของฮานามิกับป่าน้ำแข็งอย่างชัดเจนโดยมีรอยแยกขนาดใหญ่คั่นกลาง
‘บ้าบอคอแตก มันฟรีซเยอะขนาดนั้นเลยเรอะ!?’ เรียวตะช็อก
‘แม้แต่ข้าเองก็ไม่เคยทำได้ถึงขนาดนี้…ว่าแต่รอยแยกนี่ฝีมือซาโตรุใช่มั้ย’ กระทั่งยันเจ้าของวิชาอย่างยูกิฮิเมะถึงขั้นบอกว่าตัวเองยังทำได้ไม่เท่าเด็กสาวเลย
“รอยแยกในภาพอันนั้นเป็นฝีมือโกโจนะ ถ้าเกิดไม่ได้ห้วงสุญญตาของเจ้านั่นเผลอๆได้มีป่าน้ำแข็งเยอะกว่าเดิมแน่”
“งั้นเหรอคะ…”
“…” ฮิโตมิมองท่าทางของเด็กสาวที่ตอนนี้เหมือนจะยังงงๆกับสิ่งที่เห็นอยู่ เธอจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาก่อน “งั้นไปหาเพื่อนก่อนมั้ย เดี๋ยวฉันพาไปส่ง”
“รบกวนด้วยนะคะ” แล้วทั้งคู่ก็ออกจากป่าไปยังอาคารรวมของโรงเรียน พอส่งเสร็จฮิโตมิก็รีบวิ่งไปที่ห้องพักด้วยความไวแสงเพราะโกโจส่งข้อความมาบอกว่าตอนนี้พวกอาจารย์กับเมย์เมย์อยู่ที่นี่กันและด้วยความเธอแอบหนีออกมาถ้าโดนครูใหญ่ยากะจับได้คือซวยแน่นอน
ครืด!
“หายไปไหนมาฮิโตมิ”
‘!? ชิบหาย’ แต่ทันทีที่เลื่อนประตูออก ครูใหญ่ยากะก็ถามเธอเสียงแข็งจนเธอรู้สึกเสียวสันหลัง
“ฮิโตมิเขาไปห้องน้ำมาค่ะ ใช่มั้ยล่ะฮิโตมิ” ราวกับมีแสงสวรรค์เข้ามาช่วยชีวิต เมย์เมย์พูดแก้ต่างให้จากการที่เธอโอนเงินเป็นค่าปิดปากไม่ให้บอกครูใหญ่ยากะ
“ใช่ค่ะๆฉันไปห้องน้ำมา แหะๆๆ”
“…” ครูใหญ่ยากะจ้องหน้าหญิงสาวเรือนผมสีม่วงราวกับจะจับผิดให้ได้ “…แน่ใจนะว่าไปห้องน้ำ?”
“ค่ะ”
“…”
“…”
“…จะเชื่อแบบนั้นก็แล้วกัน”
“เฮ้อ~ ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วไปนั่งตรงระหว่างโกโจและเมย์เมย์
“เกือบแล้วนะ~” คนผมขาวแซว
“หุบปากไปเลยโกโจ”
.
.
.
‘อากาเนะ ที่บอกว่าตัวเองสบายดีนี่เรื่องจริงเหรอ’ ด้านอากาเนะที่แยกกับฮิโตมิมาแล้ว เรียวตะก็ยังคงซักถามเธอไม่เลิก
“ก็จริงน่ะสิ แต่ฉันงงมากนะว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้”
‘แล้วรู้ตัวรึเปล่าว่าเจ้าโปรยคำพูดแปลกๆออกมาตอนใช้ท่านั้นน่ะ’
“ห๊ะ? ฉันพูดอะไร?” ประโยคของยมทูตหนุ่มทำเอาเด็กสาวงงกว่าเดิม
‘พูดว่าสุริยันดับแสง จันทรามัวหมอง บุปผาร่วงโรย อะไรประมาณนี้ นี่เจ้าจำไม่ได้เลยเหรอ’
“ฉันพูดอะไรแบบนั้นด้วยเหรอ ฉันว่าฉันตั้งสมาธิรวมพลังอยู่ไม่ได้พูดอะไรเลยนะ”
‘…’ คำตอบของเด็กสาวทำเอาเรียวตะงงกว่าเดิม ดูท่าว่าเธอคงไม่รู้ตัวจริงว่าทำอะไรลงไปบ้างจนเขาคิดว่าเธอโดนผีตัวอื่นสิงเธอเหรอ
‘ตอนนางพูดโปรย ข้าตรวจดูแล้วไม่มีวิญญาณตนอื่นมาสิงนะ’ เหมือนยูกิฮิเมะจะรู้ว่ายมทูตหนุ่มคิดอะไรอยู่ก็ตอบกลับไป
‘ถ้าแม่พูดแบบนี้แล้วอะไรดลใจให้อากาเนะพูดแบบนั้นล่ะเนี่ย…’
‘…’ ไม่ใช่แค่เรียวตะที่สงสัยกับท่าทางของเด็กสาวในตอนนั้นเพียงคนเดียว เธอเองก็รู้สึกสงสัยไม่ต่างกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักสำหรับเธอ เพราะสิ่งที่เธอสงสัยจริงๆคืออาการบาดเจ็บปางตายของอากาเนะที่มาจากผลของการใช้สูญสิ้นโลกาต่างหาก ตอนแรกก็เห็นเหมือนว่าอากาเนะนั้นทรมานมากแค่ไหนจนเธออยากสิงร่างไปช่วยรักษาแต่กลับทำไม่ได้ราวกับมีบางอย่างมาขวางเธอไว้
แต่ไม่นานอาการของอากาเนะก็กลับมาดีขึ้นแถมเท่าที่เธอไปตรวจมาอวัยวะภายในเองที่เคยเสียหายก็ถูกฟื้นฟูกลับมาเหมือนเดิม
อวัยวะภายในจากที่เคยเสียหายอยู่ๆกลับมาดีขึ้นได้ด้วยตัวเอง…
เดี๋ยวนะ
‘…หรือว่า!?’
.
.
.
Talkๆ desu: ตัดจบแบบละครไทยอีกแล้ว!!!! ไอ่ช่วงท้ายๆตอนนี่เหมือนจะคุ้นๆเลยว่ามั้ยคะทุกคน5555555555 จริงๆมันก็พอจะเดาได้แล้วแหละว่ามันคืออะไร ถ้าอิงตามสตอรี่อนิเมะก็คือฟิคเริ่มเข้าใกล้ช่วงท้ายอนิเมะซีซั่น 1 แล้วนะคะทุกคน อนิเมะซีซั่น 2คืออย่างเดือดเลย
สนุกไม่สนุกยังไงก็เม้นกันเข้ามาได้นะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งต่อ
เจอกันตอนหน้า บ๊ายบายยยยยยยยยยยย
twitter: @bdm1228
ความคิดเห็น