คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : เมื่อม่านถูกกาง ความวุ่นวายจึงบังเกิด
ตึกๆๆๆๆๆๆ
“โกโจ ก่อนที่ม่านจะกางสมบูรณ์นายรีบเข้าไปก่อนเลย!” ทางด้านอุตะฮิเมะ โกโจะครูใหญ่กาคุคันจิ ตอนนี้พวกเขาก็รีบวิ่งมาที่สนามประลองก็พบว่ามีคนกางม่าน อุตะฮิเมะจึงรีบบอกให้โกโจที่วิ่งอยู่บนหลังคาให้เข้าไปก่อน
“…ทำไม่ได้หรอก” แต่คนผมขาวตอบปฏิเสธจนหญิงสาวตกใจ
“อะไรนะ!?”
“ความจริงม่านนั่นถูกกางเสร็จสมบูรณ์แล้วต่างหาก” เขาอธิบาย “ดูเหมือนจะเน้นทำให้ผลสัมฤทธิ์ก่อนการมองเห็น เก่งนะเนี่ย…”
พรึ่บ!
“แต่ว่านะ ในเมื่อกางแล้วก็แค่พังเข้าไปก็พอ” คนผมขาวโดดลงจากหลังคาแล้วลองยื่นมือเข้าไปเพื่อตรวจดูว่าสามารถเข้าไปได้รึเปล่า
“?!” แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือตัวม่านเกิดการต่อต้านใส่จนเขาต้องชักมือกลับ
‘อะไรกัน ความรู้สึกแปลกประหลาดนี่?’
“เดี๋ยวสิ” ในตอนนั้นเองอุตะฮิเมะก็พูดขึ้นมา “ทำไมนายถูกดีดออกแต่ฉันเข้าได้ล่ะ”
“…แบบนี้นี่เอง อุตะฮิเมะ คุณปู่เข้าไปก่อนเลย” ภาพที่หญิงสาวสามารถยื่นมือเข้าม่านโดยไม่ถูกต่อต้าน ทำให้คนผมขาวเข้าใจเงื่อนไขของม่านนี้จึงบอกให้อีกสองคนเข้าไปข้างในเลย “ม่านนี่ถูกสร้างเพื่อกันการบุกรุกของโกโจ ซาโตรุ โดยแลกกับให้คนอื่นทุกคนเข้าไปได้”
‘!? แบบนี้ก็เข้าทางกันพอดี’ อุตะฮิเมะคิด ‘แต่เขตอาคมที่มีผลเฉพาะบุคคลแบบนี้ก็เท่ากับว่า…’
“เท่ากับว่ามีนักสาปแช่งที่มีฝีมืออยู่” เหมือนโกโจจะรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่จึงตอบกลับไป “ไม่ใช่แค่นั้น พวกมันยังรู้ข้อมูลของฝั่งเราในระดับนึงเลย”
‘มีทั้งคำสาประดับพิเศษกับนักสาปแช่ง สถานการณ์แย่เกิน…’ เรียวตะที่เงียบมานานพูดบ้าง
“เอาล่ะ รีบเข้าไปข้างในเถอะ ถึงจะยังไม่รู้เป้าหมายของอีกฝ่ายแต่ถ้ามีคนตายก็เท่ากับว่าเราแพ้” โกโจบอกให้อีกสองคนเข้าไปได้เลย ทางอุตะฮิเมะและครูใหญ่กาคุคันจิมองหน้ากันพักนึงแล้วเข้าไปในม่านด้วยกันทันที
“เออข้าก็ลืมถามเจ้าเลย”
“หือ? อะไรเหรอครับเรียวตะ”
“ถึงเจ้าจะเข้าไปไม่ได้ แต่ถ้าโยนข้าเข้าไปมันจะเข้าได้รึเปล่า”
“…นั่นสินะ…อันนี้ผมยังไม่เคยลองด้วย”
“นี่นายพูดกับใคร”
“?! คุณฮิโตมิ?” ในตอนนั้นเองฮิโตมิที่แอบหนีงานก็เจอกับโกโจพอดี เขาสะดุ้งเล็กน้อยแล้วทำท่าทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ก็คุยคนเดียวนี่แหละครับ แค่หาวิธีทำลายม่านจากด้านนอกอยู่”
“เหรอ…” หญิงสาวผมสีม่วงมองด้วยความไม่ไว้ใจ “นายบอกว่าหาวิธีทำลายจากด้านนอก แปลว่านายเข้าไปไม่ได้เหรอ”
“ครับ แค่ผมคนเดียวนะแต่คนอื่นเข้าได้หมด”
“เขตอาคมที่มีผลเฉพาะบุคคล…เอาเรื่องเหมือนกันแฮะ” ฮิโตมิว่าก่อนที่เข้าไปข้างในม่าน “งั้นฝากจัดการม่านด้วยนะ ฉันไปหาอากาเนะจังก่อนล่ะ”
“ก็ว่าทำไมถึงออกมา…” โกโจที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มแห้งไปเลย
“ว่าแต่เมื่อกี้เขาได้ยินที่พวกเราพูดรึเปล่า” เรียวตะถาม
“ไม่รู้สิ อาจจะได้ยินก็ได้มั้งครับ”
“อย่าเถอะขอร้อง ข้ายังไม่พร้อมเปิดตัว”
“แล้วผมกับพวกเบื้องบนคือยังไง?”
“ไม่ใช่เจ้ากับเจ้าพวกนั้นโว้ย ข้าหมายถึงฮิโตมิ!” ยมทูตหนุ่มโวย “โอ๊ยช่างมัน! โยนข้าเข้าไปซักทีเถอะ ข้าต้องไปหาแม่กับอากาเนะ”
“คร้าบๆๆๆ ขอลองโยนเศษหินนี่ก่อนนะ” โกโจว่าและลองโยนเศษหินเข้าไปในม่านซึ่งมันก็เข้าได้ตามปกติ พอเห็นว่ามันโยนเข้าไปได้แล้วก็ทำท่าเตรียมโยนลูกแก้ว “พร้อมยังครับเรียวตะ”
“เลิกพล่ามแล้วรีบโยนซักที”
“งั้นก็จัดให้” แล้วโกโจก็โยนลูกแก้วเข้าไปด้านในทันที “เอาล่ะ ต่อไป-”
กริ๊งงง~
“หือ?” แต่แล้วจู่ๆเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น พอยกขึ้นมาดูว่าใครโทรมาก็เลิกคิ้วแปลกใจจนกระทั่งกดรับสาย
“ฮัลโหลครับ-”
…
“!?”
.
.
.
“ดยุหด้ไวล้แ…หยุดได้แล้ว เหล่าเด็กน้อยผู้โง่เขลาเอ๋ย”
“!?!!!” ทางด้านฟุชิงุโระ คาโมะและอินุมากิที่ตอนนี้กำลังสู้กับคำสาประดับพิเศษอย่างฮานามิอยู่ มันได้ใช้พลังให้สามคนนั้นสามารถจับใจความได้ว่ามันต้องการสื่อสารอะไร
‘เกิดอะไรขึ้น!? ทั้งๆที่ฟังมันไม่ออกแท้ๆแต่กลับเข้าใจความหมาย ขนลุกชะมัด!’ ฟุชิงุโระคิด
“ข้าเพียงแค่อยากจะปกป้องดาวดวงนี้ก็เท่านั้น” ฮานามิพูดต่อ
“อย่าไปฟังเรื่องไร้สาระของเจ้าคำสาปนั่น!” คาโมะเตือน
“เจ้านี่แตกต่างจากวิญญาณคำสาประดับล่างเลยนะครับ” ฟุชิงุโระว่า เพราะโกโจเคยวาดรูปฮานามิและโจโกะแล้วเอาไปบอกกับเด็กนักเรียนโตเกียวว่าสองตัวนี้เป็นคำสาประดับพิเศษที่ไม่ได้ลงทะเบียน หากเจอมันก็ให้ระวังตัวไว้ด้วย
“ผืนป่า มหาสมุทร ท้องฟ้าต่างร่ำไห้เพราะหมดความอดทนอยู่ร่วมกับมนุษย์อีกต่อไปไม่ได้แล้ว” ฮานามิยังคงพูดต่อ “พวกเขารู้ดีว่ายังมีมนุษย์บางคนที่เป็นมิตรต่อโลกใบนี้ แต่ความรักและความเมตตาจะทดแทนได้ซักเท่าไหร่เชียว”
‘มีระบบภาษาเป็นของตัวเอง’ ฟุชิงุโระวิตกกังวล
“พวกเขาแค่ต้องการเวลา”
‘บอกให้อินุมากิถอยไปซะ’ คาโมะคิด
“ขอแค่มีเวลามากพอ โลกใบนี้ก็จะส่องประกายแสงสีครามอีกครั้ง”
ครืนนนน
“เวลาของมนุษย์ได้หมดลงแล้ว” เจ้าคำสาปเรียกรากไม้ผุดขึ้นจากบนพื้น “จงตายแล้วกลายเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมเถิด”
ครืนนนน!!!
พรึ่บ!!
กึกๆๆๆๆ!!!
“!!?”
“?!!” แต่ในช่วงที่รากไม้กำลังจะพุ่งเข้าใส่เด็กหนุ่มทั้งสาม ก็มีบางอย่างโดดลงมาจากด้านบนและพอเท้าได้สัมผัสกับรากไม้เหล่านั้นมันก็หยุดพุ่งและถูกแช่แข็งทันที แถมยังฟุชิงุโระนึกออกทันทีว่าคนที่มาใหม่ตอนนี้คือใคร
“ฟุบูกิ?!”
“…” เด็กหนุ่มเรียกเด็กสาวผู้มาใหม่ แต่เธอกลับไม่โต้ตอบอะไรอีกทั้งยังเอาฮู้ดคลุมหัวจนเขาเกิดความสงสัย
‘แปลกๆ ปกติฟุบูกิต้องมีทักบ้าง-’
“หงุดหงิดชะมัด”
“?!!” น้ำเสียงเด็กสาวต่ำกว่าปกติและเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือกที่ทำทั้งสามหนุ่มและฮานามิรู้สึกเสียวสันหลัง ส่วนอากาเนะ(?)ก็ย่ำเท้ากับรากไม้ไปสองทีแล้วรากไม้ก็แตกกระจายเป็นชิ้นๆ
“แกคือยูกิฮิเมะเหรอ!?” คาโมะตวาดถาม ส่วนคนที่ถูกเรียกว่ายูกิฮิเมะก็ตวัดหางตามองเขาไปหนึ่งทีก่อนจะร่นฮู้ดลงมา
“ความรู้สึกไวดีนี่ แต่ข้าไม่ได้มาเป็นศัตรูกับพวกเจ้าหรอก”
“ปลาโอแห้ง!” อินุมากิพูด
“หือ? ไม่เชื่อ? แล้วแต่เลยข้าก็ไม่ได้บังคับให้พวกเจ้าเชื่อข้านี่” ยูกิฮิเมะในร่างอากาเนะพูดพลางแคะหูไปด้วยจนเด็กหนุ่มทั้งสามไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ตัวเองได้ยิน
“ดูท่านี่จะเป็นการพบกันครั้งแรกของเราสินะ ราชินีหิมะ” ฮานามิพูดแล้วโค้งตัวเหมือนทำความเคารพ “เหตุใดเจ้าถึงได้ออกมากันล่ะ”
“…พวกเจ้ามาด้วยกันจริงรึเปล่าเนี่ย”
“หา?” ประโยคของหญิงสาวทำเอาเจ้าคำสาปสงสัย
“ก็คนของเจ้ากางม่านที่นอกจากจะมีผลให้เจ้าเด็กแสบนั่นเข้าไม่ได้ไม่พอ ยังบังคับให้จิตของข้าสิงร่างอากาเนะอัตโนมัติอีก ท่าทางแบบนั้นคือไม่รู้เรื่องเลยใช่มั้ย”
.
.
.
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้
“คำสาปนั่น…เหมือนอาจารย์โกโจเคยบอกว่าเป็นระดับพิเศษที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนนะ”
‘แปลว่าหลบสายตาผู้ใช้คุณไสยได้นานอยู่ ระวังตัวด้วยล่ะ’ ช่วงที่ก่อนม่านจะถูกกาง อากาเนะก็เคลื่อนตัวด้วยการกระโดดข้ามต้นไม้และคุยกับยูกิฮิเมะไปด้วย
“มีคนกางม่าน?” ระหว่างนั้นม่านก็ถูกกางขึ้นจนพวกเธอสงสัย
‘ความรู้สึกข้าบอกว่าไม่ใช่คนของพวกเจ้า’
“แปลว่าเป็นศัต-โอ๊ย!?”
‘อากาเน-อึก?!’ แต่ในช่วงที่ม่านถูกกางอยู่นั้น ทั้งอากาเนะและยูกิฮิเมะก็เกิดปวดหัวขึ้นมาดื้อๆพร้อมกันจนเด็กสาวโซเซและร่วงลงพื้น
“เจ็บๆๆ…เอ๋?” แต่อาการปวดหัวนั้นมาแค่ครู่เดียว พออากาเนะลืมตาก็พบว่าพื้นจากที่เคยเป็นพื้นหญ้าสีเขียวมันกลับกลายเป็นหิมะแทน และเมื่อเธอหันไปดูรอบๆก็พบว่าที่ๆเธออย฿ตอนนี้มันคืออาณาเขตป่าหิมะของยูกิฮิเมะ
“อะไรวะเนี่ย!? ยูกิฮิเมะ!”
“เดี๋ยว!? ทำไมข้าถึงสิงร่างเจ้าได้ทั้งๆที่ไม่ได้คิดจะใช้ล่ะ” ส่วนยูกิฮิเมะเองก็ช็อกไม่ต่างกันกับเด็กสาวถึงขั้นต้องยืมโทรศัพท์มาเช็คสภาพตัวเองที่ปกติแล้วเวลาที่เธอยืมร่างอากาเนะจะมีสีผมกับสีตาที่เปลี่ยนไป แต่รอบนี้มีแค่สีตาเท่านั้นที่เปลี่ยนสีจากสีม่วงเป็นสีเทา “เปลี่ยนแค่สีตา…อากาเนะสลับร่างกลับเดี๋ยวนี้”
‘…ไม่ได้’
“ห๊ะ?”
‘สลับกลับไม่ได้! ลองเท่าไหร่ทำไม่ได้เลย’ เด็กสาวร้องด้วยความวิตกกังวล ทางคำสาปสาวเองก็รู้สึกไม่ต่างกันแต่เธอต้องตั้งสติและวิเคราะห์สถานการณ์ตอนนี้ก่อน ตอนแรกเห็นภาพคำสาปบุกเข้ามาโรงเรียน ซึ่งยังไม่เกิดความผิดปกติกับพวกเธอ
จนกระทั่งมีคนกางม่านขึ้นมา
“…อากาเนะ ตอนนี้เจ้าพยายามให้จิตตัวเองกลับร่างอยู่ใช่มั้ย”
‘อื้อ’
“ทำแบบนั้นไปเรื่อยๆเลย ที่พวกเรากลายเป็นแบบนี้น่าจะเป็นเพราะเจ้าม่านนี่ ความคิดที่จะไปจัดการคำสาปนั่นเจ้าจะยกเลิกมั้ย”
‘…’ ประโยคของหญิงสาวทำเอาอากาเนะคิดหนัก เพราะเธอคิดว่านอกจากเรียวตะแล้วก็ไม่น่ามีใครญาติดีกับยูกิฮิเมะแน่
แต่ถึงอย่างนั้น
‘ไม่ ฝากไปช่วยคนอื่นทีนะ’ เธอไม่สามารถเมินคนอื่นที่เผลอๆอาจจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากกว่าเธอ เพราะงั้นเธอจึงไม่ล้มเลิกความตั้งใจนี้
“สมกับเป็นเจ้าจริงๆ งั้นข้ายืมโทรศัพท์เจ้าได้มั้ย”
‘? จะเอาไปทำอะไร’
“แค่อยากยืนยันอะไรนิดหน่อยน่ะ”
.
.
.
“แต่ดูแล้วเจ้าน่าจะไม่รู้เรื่องจริงๆ ช่างเถอะ คิดซะว่าข้าไม่เคยพูดละกัน”
“…” ทั้งฮานามิและสามหนุ่มก็ได้แต่มองยูกิฮิเมะด้วยความไม่เข้าใจ
“สรุปแกอยู่ฝั่งไหนกันแน่” ฟุชิงุโระถาม
“ก็บอกแล้วไงว่าข้าไม่ใช่ศัตรูของพวกเจ้า ไม่คิดจะฟังกันสินะ”
“แต่แกเป็นคนบอกเองนะว่าไม่ได้บังคับให้พวกฉันเชื่อแก”
“อืม…ก็จริง”
“พูดคุยกันเสร็จแล้วสินะ?”
ครืน!!
‘ซวยแล้ว!?’ ในตอนนั้นเองฮานามิก็เสกต้นไม้พุ่งเข้าหาใส่ทั้งสี่คน เด็กหนุ่มทั้งสามเห็นแบบนั้นจึงเตรียมใช้วิชาคุณไสยของตัวเองสวนกลับ
“…”
เป๊าะ!!
“!!?!” แต่พอยูกิฮิเมะยกแขนมาข้างหน้าและดีดนิ้วไปหนึ่งที ต้นไม้นั่นก็ถูกทำให้กลายเป็นน้ำแข็งภายในชั่วพริบตา อีกทั้งย้ายตัวเองไปอยู่ในระยะประชิดกับฮานามิด้วยความรวดเร็วและใช้ดาบฟันที่ท้องทันที
ฉัวะ!!
‘ยังลึกไม่พอ’ เธอคิด
ครืน!!
“อย่าขยับ!” ฮานามิถึงจะบาดเจ็บแต่ก็ยังโจมตีต่อ แต่อินุมากิก็ใช้วจีสาปมาหยุดการเคลื่อนไหวไว้
“ช่วยได้เยอะเลย ขอบใจนะ”
แปะ!
“อสูรน้ำแข็ง”
ครืนนนนนน
“กรรรรรร!!!!” ยูกิฮิเมะเอ่ยขอบคุณเสร็จก็ปรบมือเรียกอสูรน้ำแข็ง จากนั้นก็เกิดวงเวทย์ข้างตัวเธอ2วงพร้อมกับร่างของอสูรน้ำแข็งในร่างหมาป่าออกมาจากวงนั้น
‘เรียกสิ่งมีชีวิตที่ทำจากน้ำแข็งออกมาได้? มีความสามารถหลากหลายเสียจริง’ ฮานามิคิด
“จัดการซะ”
“กรรร!!!!” แล้วหมาป่าน้ำแข็งสองตัวก็วิ่งกระโจนเข้าหาใส่ฮานามิทันทีส่วนเธอก็หันไปคุยกับสามหนุ่ม
“ไม่ไปจัดการต่อเหรอ อุตส่าห์เปิดทางให้แล้วนะ”
“เธอตั้งใจจะทำอะไรกันแน่” คาโมะถามด้วยความเคร่งเครียด
“ข้าจะทำอะไรมันก็เรื่องของข้า ที่มาช่วยพวกเจ้าก็เพราะอากาเนะขอมา”
ครืนนน!!!
“?!” ระหว่างนั้นเองก็มีรากไม้พุ่งมาทางพวกเขาพอดีแต่ยังดีที่ทุกคนหลบได้ทัน
‘ระดับพิเศษนี่มันจะโหดไปไหนเนี่ย!?’ อากาเนะที่ยังคงเรียกจิตให้สลับร่างกลับพูดด้วยความหัวเสีย
‘อันนี้เจ้าด่าอยู่ใช่มั้ย’
‘อุ่ย?!’ ประโยคของยูกิฮิเมะทำเอาเด็กสาวสะดุ้ง ‘เอ่อ คือ ถึงจะใช่แต่ไม่ได้-’
‘จะด่าแบบนั้นก็ไม่ผิดหรอก เพราะระดับพิเศษมันเป็นแบบนั้นจริงๆ’ คำสาปสาวว่าแล้วกระโจนตัวเองให้ลอยขึ้นไปบนฟ้า ฮานามิไม่ปล่อยให้เธอรอดจึงเรียกต้นไม้ยักษ์พุ่งไปหาเธอ
วิชาน้ำแข็งพันปี
“ตัดพสุธา” ยูกิฮิเมะฟันดาบไปทางต้นไม้ จากนั้นก็เกิดก้อนพลังงานสีขาวทรงพระจันทร์เสี้ยวขนาดใหญ่ผ่าต้นไม้ยักษ์ขาดครึ่งลากยันไปถึงข้างล่าง
“…น่าสนใจจริงๆ”
“พื้น…โดนตัด?” จากการโจมตีของคำสาปสาวทำให้เกิดกลุ่มควันฟุ้งกระจาย แต่พอมันจางลงก็พบว่าพื้นมีรอยผ่ายาวคั่นกลางระหว่างเด็กหนุ่มทั้งสามและฮานามิ ทำให้ฮานามิเกิดความรู้สึกสนใจในขณะที่คาโมะรู้สึกไม่อยากเชื่อสายตา
“ข้านึกว่าพลังของท่านจะเป็นแค่การแช่แข็งเสียอีก” ฮานามิพูด
“มันก็ต้องมีการพัฒนากันบ้างสิ ไม่ใช่ยึดอยู่กับของเดิม” คำสาปสาวหิมะกลับมายืนบนพื้น “ขออย่างอื่นที่ไม่ใช่เสกต้นไม้บ้างได้มั้ย ข้าเห็นจนเบื่อแล้ว”
‘พูดกันตรงๆแบบนี้เลยเรอะ!!!?’ อากาเนะช็อก
“ตามปรารถ-”
“หือ? ซักทีนะ”
แกร๊งๆๆๆๆ!!!!!!
“!?!!” แต่คำสาปต้นไม้ยังไม่ทันจะได้ใช้พลัง จู่ๆก็มีโซ่ตรวนที่งอกออกมาจากผนังและพื้นมาล่ามแขนและขามันไว้
“แต่ข้าไม่ให้ทำ!!”
โครม!!!
จากนั้นก็ถูกส้นเท้าของใครบางคนฟาดเข้าหัวอย่างจังๆจนหน้าแนบลงกับพื้น
“…นี่นาย!?” ฟุชิงุโระที่ลางๆว่าผู้มาใหม่เมื่อครู่คือใครก็ตกใจ
“หือ? ฟุชิงุโระเองหรอกเหรอ” ผู้มาใหม่ที่ว่านั่นก็คือเรียวตะนั่นเอง “ตายละ อินุมากิกับเจ้าเด็กคาโมะก็อยู่-”
ผัวะ!
“โอ๊ย!?” แต่ยังทักทายได้ไม่เสร็จก็โดนยูกิฮิเมะถีบหลังจนหน้าคะมำกับพื้น
“มาช้า” หญิงสาวพูดเสียงเรียบทำเอายมทูตต้องลุกขึ้นมาแว้ดกลับ
“เดี๋ยวสิ?! อุตส่าห์มาช่วย-แม่?” แต่พอเห็นท่าทางบวกกับรูปลักษณ์วิญญาณแล้วก็ชะงักเพราะคิดว่าเมื่อครู่เป็นอากาเนะเอง
แกร๊ง!!
ครืน!!!
“!?” โซ่ที่เรียวตะล่ามไว้คุมฮานามิไม่อยู่ มันจึงสามารถเรียกต้นไม้พุ่งใส่พวกเขาได้อีกรอบแต่ก็ยังหลบทันอยู่ สุดท้ายฮานามิก็ใช้ท่านั้นอย่างต่อเนื่องจนเหล่าผู้ใช้คุณไสยต้องวิ่งหลบแทน
“ทูน่ามาโย” อินุมากิถาม
“โกโจเหรอ หมอนั่นเข้ามาไม่ได้” เรียวตะที่เริ่มชินกับวจีสาปแล้วก็ตอบกลับไปเพราะเมื่อครู่อีกฝ่ายถามถึงโกโจ
“ว่าไงนะ!?” คาโมะและฟุชิงุโระตกใจ
“ม่านนี่เป็นฝีมือของนักสาปแช่งที่มีฝีมือ แถมยังกันแค่โกโจคนเดียวแต่คนอื่นยังเข้าไปได้อยู่ ตอนนี้อาจารย์คนอื่นๆก็แยกย้ายกันตามหาพวกนักเรียนกับนักสาปแช่งอยู่นี่แหละ” ยมทูตหนุ่มรายงาน “เชื่อเถอะ เดี๋ยวเจ้าหมอนั่นหาทางได้เอง เพราะงั้นสบายใจได้-”
“กร๊าซซซ!!!!”
“!?” แต่ทันใดนั้นเองก็มีกิ้งกือยักษ์สูงประมาณ 5 เมตรโผล่ขึ้นมาจากบนพื้น เรียวตะไม่รอช้าจึงใช้พลังเรียกโซ่มาล่ามมันไว้ก่อน แต่มันก็สลัดหลุดออกได้
“อะไรวะเนี่ย!?”
“ชิ!” คำสาปสาวเดาะลิ้นขัดใจจึงวาร์ปอ้อมไปด้านหลังเตรียมฟันเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนี้ แต่มันก็รู้ทันก่อนมันจึงหันไปหาและอ้าปากเตรียมกินเธอแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะยมทูตหนุ่มดึงตัวเธอออกมาได้ทันและพาบินหนีไปเรื่อยๆ แต่เจ้ากิ้งกือก็ไล่ตามทั้งคู่ไปโดยที่ไม่สนใจเหล่านักเรียนเลย
“เดี๋ยว! ทำไมมันตามแต่พวกเราวะ!?” เรียวตะว่าด้วยความหัวเสีย
“เป็นของขวัญที่เตรียมเพื่อพวกเจ้าโดยเฉพาะเลย ชอบรึเปล่าล่ะ” ฮานามิถามและใช้พลังของตัวเองไปโจมตีใส่สามหนุ่มต่อ
‘โคตรเกลียดเลยเถอะ!! ทำไมไอ้กิ้งกือนี่มันถึงตามแต่พวกเรากันล่ะเนี่ย!’ อากาเนะโวย
“…แม่”
“ข้าว่าใช่” ในระหว่างนั้นเรียวตะกับยูกิฮิเมะก็มองตากันพักนึงราวกับว่านึกอะไรออกแถมต่างฝ่ายต่างคิดเหมือนกันด้วย พวกเขาจึงหยุดบินและยืนอยู่บนหลังคาอาคาร
“ไอ้กิ้งกือนี่น่ะ เจ้านายของมันไม่อยู่ที่นี่แต่บอกให้เจ้าพามันมาด้วยใช่มั้ย!” ยมทูตหนุ่มตะโกนถาม
“ทำไมเจ้าถึงไม่คิดว่าเป็นข้าล่ะ” ฮานามิย้อนถามกลับ
“ข้าไม่รู้สึกถึงพลังของเจ้าจากตัวกิ้งกือนี่เลย” ยูกิฮิเมะตอบแทน “แถมเอาแต่เล่นงานพวกเราไม่หยุด แปลว่าเจ้าของกิ้งกือนี่ต้องมีความแค้นกับพวกเราโดยเฉพาะ ดูไม่ออกเลยว่าฝีมือใคร”
“ช่ายยย ดูไม่ออกเล๊ยยยย~!” ยมทูตหนุ่มประชดด้วยน้ำเสียงยียวนและกวนประสาทที่สุดเท่าที่จะทำได้จนเจ้ากิ้งกืออะลาวาดหนักกว่าเดิม “โฮ่ย! สามคนนั้นน่ะ เจ้าระดับพิเศษนั่นพวกเจ้าจัดการกันเองเลยนะ!”
“หา!?!!”
“ปลาโอแห้ง!?” ฟุชิงุโระ คาโมะและอินุมากิช็อก
“ก็แบ่งภาระไง! เจ้ากิ้งกือนี่มันโฟกัสแต่พวกข้าเพราะงั้นไปจัดการเจ้าระดับพิเศษนั่นแบบจัดหนักจัดเต็มซะนะ!”
“อย่าตายกันล่ะ” ยูกิฮิเมะพูดทิ้งท้ายแล้วทั้งคู่ก็บินหนีไปทางป่าทำให้เจ้ากิ้งกือมุดลงดินและตามไปปล่อยให้ฮานามิสู้กับสามหนุ่มแทน
“ว่าแต่ทำไมแม่ถึงได้มาสิงอากาเนะล่ะ” เรียวตะถาม
“ม่านมันบังคับให้จิตข้าสลับกับอากาเนะก็เลยเป็นแบบที่เห็น อากาเนะตอนนี้ก็พยายามทำให้จิตตัวเองกลับร่างตัวเองเรื่อยๆอยู่”
“เหรอ…” ยมทูตหนุ่มคิดภาพตาม “จะว่าไป ตอนที่ข้าบอกสามคนนั้นเรื่องโกโจแม่ดูไม่เห็นตกใจเลย”
“ก็โทรไปถามมาก่อนแล้วไง”
“ห๊ะ!?” ประโยคของคำสาปสาวทำเอาเขาอึ้ง “เดี๋ยวๆๆๆ!? ที่บอกว่าโทรหาก็คือโทรหาโกโจทั้งๆแบบนี้เลยเหรอ!?”
“ก็ใช่ไง”
.
.
.
ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น
“ฮัลโหลครับ-”
“ซาโตรุ”
“!?” ด้านโกโจที่หลังจากโยนเรียวตะเข้าไปแล้วก็มีคนโทรหาพอดี เมื่อเช็คว่าคนที่โทรมานั้นคืออากาเนะเขาก็เกิดความสงสัยจึงกดรับไป แต่พอได้ยินคำสรรพนามที่ปลายสายเรียกนั้นก็ทำให้รู้ทันทีว่าที่ปลายสายนั่นคือยูกิฮิเมะ
“อย่าพึ่งพูดอะไรทั้งนั้นขอข้าอธิบายก่อน ฟังให้ทันด้วยล่ะ” หญิงสาวสูดลมหายใจลึกๆแล้วพูดแร็ปสถานการณ์ของตัวเองทันที
“ตอนแรกข้าก็อยู่ของข้าดีๆแต่ดวงตายมทูตก็แสดงภาพคำสาประดับพิเศษมาเข้าหัวพวกข้า อากาเนะเลยจะไปตามหาคำสาปนั่น จากนั้นม่านก็โดนกางแล้วก็ทำข้ากับอากาเนะสลับจิตกันกลายเป็นข้าต้องมาสิงร่างนางแบบนี้ ข้าถามนางแล้วนะว่าจะเอาไงต่อนางบอกฝากให้ข้าไปช่วยคนอื่นด้วย แต่ที่ข้าโทรมาหาเจ้าเพราะจะถามหาเรียวตะนี่แหละ เอาล่ะเชิญเจ้าพูดต่อได้”
“อธิบายซะละเอียดเลยนะ…” โกโจยิ้มแห้ง “เรียวตะนี่ผมเพิ่งโยนเข้าไปเมื่อกี้นี้ครับ เดี๋ยวก็คงหาพวกเธอเจอแหละ”
“แล้วเจ้าไม่เข้ามา?”
“ผมเข้าไปไม่ได้ครับ ม่านนี่มันกันผมไม่ให้เข้าไปคนเดียว แต่นึกไม่ถึงเลยนะครับว่ามันจะมีผลกับเธอด้วย”
“…แปลกๆ” คำสาปสาวพึมพำ “ศัตรูไม่ได้มีแค่คนเดียว?”
“ครับ มีนักสาปแช่งที่มีฝีมือบุกเข้ามาด้วย เรียวตะบอกผมแล้วว่ามีคำสาประดับพิเศษอยู่ที่นี่ ก็เลยคิดว่าคำสาปที่ว่านั่นร่วมมือกับนักสาปแช่งแล้วก็น่าจะเป็นตัวเดียวกันกับที่ผมเคยเจอน่ะนะ”
“งั้นเหรอ…” ยูกิฮิเมะพูดแล้วเงียบไปพักนึงจนคนผมขาวชวนคุย
“แต่บอกตามตรงว่าเซอร์ไพรซ์เหมือนกันนะครับที่คนโทรมาเป็นเธอ”
“…” ยูกิฮิเมะเงียบอีกรอบก่อนหลุดยิ้มบางๆ “ทำไงได้ล่ะ เจ้าเป็นคนเอาเรียวตะไปแล้วพอเกิดสถานการณ์แบบนี้มันก็ต้องโทรหาแค่เจ้าไง”
“รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนพิเศษยังไงอย่างนั้นเลยแฮะ~”
“ซาโตรุ อย่าเว่อร์”
“ไม่ได้เว่อร์ เรื่องจริงทั้งนั้น”
“เฮ้อออ…” คำสาปสาวถอนหายใจอย่างเอือมระอา “ที่โทรมาก็มีแค่นี้แหละ เดี๋ยวเจ้าจะจัดการม่านจากด้านนอกใช่มั้ย”
“ครับ ถ้าทำลายจากด้านในไม่ได้ก็มีแค่ทำจากด้านนอกนี่แหละ”
“ระวังตัวด้วยนะ”
“โอยะ? เป็นห่วง?” ประโยคของปลายสายทำเอาโกโจอดแซวไม่ได้เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรแบบนี้เป็นด้วย
“อืม เป็นห่วง”
“?!” แต่คำตอบที่ได้รับกลับเกินคาดจนชายหนุ่มชะงัก “…คิดอะไรกับผมรึเปล่าเนี่ย”
“…” ยูกิฮิเมะเงียบเป็นรอบที่สาม “…ซาโตรุ”
“ครับ?”
“สาระแน”
ตู๊ด!!
“…ห๊ะ?”
.
.
.
“ข้าถามจริงเลยนะแม่”
“ว่า?”
“แม่คิดอะไรกับโกโจใช่มั้ย”
“ไม่เสือกสิ”
“ทำไมสองมาตรฐานอ่ะ!?!” ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน เมื่อเรียวตะได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดก็ถามด้วยความสงสัย แต่ก็โดนด่ากลับมาจนเขาแว้ดใส่ “ทีโกโจแม่ด่ามันสาระแน แล้วทำไมข้าถึงเป็นคำว่าเสือกล่ะ!?”
“มันใช่ประเด็นที่ต้องสนใจรึไง!!” ยูกิฮิเมะตวาด “เอาเป็นว่าช่างมันก่อน ที่ฝากไว้เมื่อเช้านั่นยังอยู่ใช่มั้ย”
“ยังอยู่ๆ”
“งั้นหาที่ลงแถวนี้เลย” แล้วทั้งคู่ก็หาที่ลงจอด พอเจอแล้วก็หยุดบินมาไปยืนบนพื้นพร้อมกับยื่นมือขอของที่ฝากไว้
“เอามา เดี๋ยวจะแสดงอะไรให้ดู”
“หา?” เรียวตะทำหน้างงแต่ก็เสกของที่ฝากไว้ซึ่งก็คือดาบคาตานะอีกเล่มนึงแล้วให้อีกฝ่ายไป
“มาเริ่มกันเลยมั้ย” หญิงสาวพึมพำก่อนจะตั้งท่าเตรียมชักดาบออกจากฝัก จากนั้นเจ้ากิ้งกือยักษ์ก็โผล่ขึ้นมาจากพื้น
“กร๊าซซซซ!!!”
วิชาน้ำแข็งพันปี
“…หวนคืนสู่โลกันตร์”
ฉับ!!!!!!
“กร๊าซซซ?!!!!” สิ้นเสียงของหญิงสาว เธอชักดาบออกมาและปาดใส่เจ้ากิ้งกือยักษ์ได้ในเพียงฉับเดียว ร่างของมันที่ถูกตัดแบ่งท่อนบนล่างก็ถูกน้ำแข็งเคลื่อนตัวกัดกินร่างของมันจนตายในที่สุด
“…” ทางเรียวตะที่เจอท่าไม้ตายนี้ก็อึ้งจนพูดอะไรไม่ออกเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ตัวเองเคยเห็นท่าไม้ตายนี้ ส่วนยูกิฮิเมะที่เพิ่งจัดการเจ้ากิ้งกือไปเมื่อหันมาเห็นสีหน้าของยมทูตหนุ่มก็นึกขำอยู่ในใจ
เพราะสีหน้าของเขาในตอนนี้มันยังคงเหมือนกับตอนที่เธอไปช่วยเขาจากพวกเบื้องบนไม่เปลี่ยนเลย
.
.
.
Talkๆ desu: มาละลูกจ๋าาาาา ฟิคจจส.ที่หนูอยากได้~~~~ มาอัพตอนใหม่แล้วนะคะทุกคน อากาเนะในตอนนี้คือโดนสกัดดาวรุ่งแล้วยูกิฮิเมะได้โชว์เทพแทน55555555555 แต่จะมีตอนที่ให้น้องโชว์เทพแน่นอนเพราะงั้นสบายใจได้ สารภาพเลยว่าตอนนี้ยากตรงคิดชื่อท่านี่แหละ คำอาจจะไม่สวยเท่าไหร่นะคะเพราะคลังศัพท์เราน้อยต้องขออภัยด้วย
สนุกไม่สนุกยังไงก็เม้นกันเข้ามาได้นะคะจะได้มีกำลังใจในการแต่งต่อ
เจอกันตอนหน้า บ๊ายบายยยยยยยยยย
Twitter: @bdm1228
ความคิดเห็น