คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : งานเชื่อมสัมพันธ์โรงเรียนพี่น้องเกียวโต (0)
เช้าวันต่อมา
“ ♪ ♩~”
“อารมณ์ดีจังนะ”
“ก็อีเว้นท์ที่ข้ารอมันมาถึงแล้วนี่ ข้าจะอารมณ์ดีมันก็ไม่แปลกหรอก” เช้าอันสดใสที่โรงเรียนไสยเวท อากาเนะที่กินข้าวอยู่ในห้องก็แซวเรียวตะที่ฮัมเพลงไปในขณะทำผมให้เธออยู่
‘อารมณ์ดีจนน่าขนลุกยังไงก็ไม่รู้’ ยูกิฮิเมะพูด ‘วันนี้มีงานอะไรถึงทำให้หมอนั่นเป็นแบบนี้ล่ะ’
‘วันนี้มีงานเชื่อมสัมพันธ์กับโรงเรียนเกียวโตน่ะ’ เด็กสาวตอบ ‘ปีนี้จัดที่นี่เพราะงานปีที่แล้วฝั่งโตเกียวเป็นคนชนะด้วย’
‘เหรอ…ข้ายืมร่างเจ้าแป๊บนึงได้มั้ย ขอคุยกับหมอนี่ก่อน’
‘ก็ได้ๆ อย่านานนะเพราะฉันจะกินข้าวต่อ’ สิ้นประโยคของเด็กสาว ยูกิฮิเมะก็เข้าร่างเธอทันทีแต่ครั้งนี้ยมทูตหนุ่มไม่ได้มีอาการสะดุ้งตกใจแล้ว
“แม่มีอะไรรึเปล่าเนี่ย”
“เห็นเจ้าฮัมเพลงแบบนี้มันน่าสงสัยไงว่าวันนี้มันมีอะไร-” หญิงสาวหันหน้าไปหาชายหนุ่มเพื่อพูดคุย แต่ก็ชะงักเมื่อได้เห็นสภาพคนตรงหน้า
“แม่?”
“…เจ้าเป็นใคร?”
“เดี๋ยว?!! นี่ข้าไง!” ยมทูตหนุ่มร้องโวยวาย “แม่ แม่จะมาลืมลูกศิษย์ตัวเองแบบนี้ไม่ได้นะ”
“อะไรดลใจให้เจ้าทำผมใหม่ก่อน ห้ะ?” หญิงสาวถาม เพราะทรงผมของเรียวตะวันนี้แทนที่จะเป็นเอาผมหน้าม้าลงตามปกติ แต่เป็นแสกกลางและจัดผมนิดหน่อยซึ่งมันแปลกตาสำหรับเธอทีเดียว
‘ไปทำตอนไหนทำไมฉันเพิ่งเห็น’ รวมถึงอากาเนะด้วย
“วันพิเศษทั้งทีจะเปลี่ยนบ้างไม่ได้เหรอ” ยมทูตหนุ่มย้อน
“ไม่ใช่ว่าไม่ได้ แต่ร้อยวันพันปีตั้งแต่ที่รู้จักกัน เจ้าไม่เคยทำผมแบบอื่นเลย” ยูกิฮิเมะเท้าคางพนักเก้าอี้ “ถ้ายูอิมาเห็น-!?”
“?!” หญิงสาวปิดปากเพราะเผลอพูดชื่อที่ไม่ควรขึ้นมา ส่วนเรียวตะก็นิ่งเงียบไปจนเธอต้องเอ่ยปากขอโทษก่อน
“ข้าขอโทษ”
“...ไม่เป็นไรแม่ ข้าเองก็อยากเห็นเหมือนกัน” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยรอยยิ้ม แต่มันเป็นรอยยิ้มที่น่าเศร้าในสายตาของเธอ เธอจึงเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้บรรยากาศมันเศร้าไปกว่านี้
“เออนี่ เจ้าว่าข้าคิดไปเองรึเปล่า”
“?”
“ข้ารู้สึกว่าวันนี้มันไม่ได้แข่งกันราบรื่นแน่ๆ”
“ยังไงนะแม่ ขออีกที”
“มันรู้สึกแปลกๆว่าวันนี้มีอะไรมารบกวนงานแข่งนี้น่ะ เพราะงั้น…” เธอเว้นช่วงพูดไว้แล้วชี้ไปที่ตู้เสื้อผ้า “ข้าจะเอาไปด้วย”
พอยมทูตหนุ่มเห็นแบบนั้นถึงกับมองตู้เสื้อผ้าสลับกับหญิงสาวไปมาและถามด้วยน้ำเสียงเลิ่กลั่ก
“เดี๋ยวๆๆๆๆๆ จะเอาไอ้นั่นไปด้วยเหรอ”
“อือ”
“มันเร็วไปมั้ยที่จะใช้เนี่ย” เรียวตะเลิ่กลั่กกว่าเดิม แต่ยูกิฮิเมะไม่ได้สนใจอีกฝ่ายแล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าและเปิดประตู
“คิดว่าไม่นะ เอาไปก่อนก็ไม่เสียหายนี่” เธอพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบก่อนยื่นมือเพื่อไปหยิบของที่ว่า “แต่เพื่อความปลอดภัย ข้าจะฝากไว้ที่เจ้าก่อนแล้วกันเรียวตะ”
.
.
.
“อรุณสวัสดิ์ อากาเนะ”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ รุ่นพี่แพนด้า” ในเวลาต่อมา อากาเนะก็ออกมาที่จุดนัดพบที่พวกรุ่นพี่ปีสองนัดไว้ พอเธอมาถึงแพนด้าก็ทักสวัสดีเธอทันที
“มาช้านะ” มากิพูด
“ช้าเพราะเรียวตะค่ะ”
“เดี๋ยวๆๆ ข้าเกี่ยวอะไรก่อน!” เรียวตะที่อยู่ในลูกแก้วตะโกนแย้ง
“อยากโดนแฉมั้ย” เด็กสาวยิ้มขู่
“เอ่อ…ไม่จ้า”
“ก็แค่นี้”
‘น่ากลัว…’ พวกปีสองรวมถึงฟุชิงุโระที่เห็นแบบนั้นต่างคิดเป็นเสียงเดียวกัน
“ท…ทำไมทุกคนถึงมาตัวเปล่ากันหมดล่ะ” ในตอนนั้นเอง คุงิซากิก็มาพอดีแต่เธอดันเอากระเป๋าสัมภาระมาด้วย พอเธอเห็นว่าคนอื่นมากันตัวเปล่าก็ได้ถามด้วยความไม่เข้าใจ
“พวกเราสิต้องถาม เธอขนอะไรมาขนาดนั้น” แพนด้าพูด
“ก็เราจะไปเกียวโตกันไม่ใช่เหรอ งานเชื่อมสัมพันธ์พี่น้องที่เกียวโต”
“ร่วมงานสานสัมพันธ์พี่น้องเกียวโตที่จัดในโตเกียวนะ”
“โกหกใช่มั้ย?!!!” คนผมน้ำตาลที่ได้ยินแบบนั้นก็ร้องโวยวายยกใหญ่
“ถึงว่าทำไมพักนี้ถึงคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง” มากิพูด
“นั่นสินะครับ” ฟุชิงุโระเห็นด้วย
“แซลมอน” อินุมากิเองก็เหมือนกัน
‘ดีนะ ที่เมื่อคืนถามพวกรุ่นพี่ก่อน’ อากาเนะคิดในใจ เพราะช่วงเมื่อคืนเธอได้มีการทักข้อความไปหามากิเรื่องสถานที่ที่จัดงาน เพราะไม่อย่างนั้นวันนี้เธอคงหอบสัมภาระเหมือนคุงิซากิแน่ๆ
“โรงเรียนที่ชนะเมื่อปีก่อนเป็นฝ่ายจัดงาน-”
“แล้วจะชนะทำเบื๊อกอะไร เจ้าบ้า!” แพนด้าอธิบายยังไม่จบก็ถูกคุงิซากิกระชากคอเรียบร้อย
“ปีที่แล้วเราไม่ได้ลงแข่งซะหน่อย ปีที่แล้วยูตะลงแข่งคนเดียวเพื่อให้ครบทีมนะ”
“ก็เป็นก่อนที่จะถอนคำสาปริกะนี่” มากิพูด “เห็นว่าชนะขาดลอยเลย แต่เราไม่ได้ไปดูเพราะงานมันจัดที่เกียวโต”
“ไม่ยกโทษให้แน่ อคคทสึ ยูตะ ถึงจะไม่เคยเจอกันก็เหอะ!!” คุงิซากิตะโกนด้วยความเจ็บใจ
“แค้นส่งเดชสินะ” แพนด้าเห็นแล้วเหนื่อยใจแทน
“แซลมอน”
“นี่แพนด้า” ระหว่างนั้นเอง เรียวตะก็ทักแพนด้า
“หือ? มีอะไรเหรอเรียวตะ”
“อคคทสึ ยูตะนี่เก่งขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ใช่ หมอนั่นเป็นถึงผู้ใช้คุณไสยระดับพิเศษด้วยนะ”
“ถามจริง!?”
“หือ?” ในตอนนั้นเอง มากิก็หันหน้าไปอีกทางเพราะได้ยินเสียงคนเดิน “เฮ้ มากันแล้ว”
“ตายแล้ว ทุกคนจากโรงเรียนโตเกียวอยู่กันพร้อมหน้าเลย” ซึ่งกลุ่มคนที่มาใหม่นั้นเป็นกลุ่มนักเรียนจากโรงเรียงเกียวโต โดยมีไมเป็นเอ่ยปากพูดคุยก่อนคนแรก “อุตส่าห์ออกมาต้อนรับเหรอ อยากจะอ้วกชะมัด”
‘ข้าตบเด็กนั่นได้มั้ย’
‘ใจเย็นเรียวตะ เดี๋ยวฉันฝากตบให้ถ้าเจอกันตอนแข่งนะ’
“อคคทสึ ไม่มานี่” โทโดพูดออกมาด้วยความเสียดาย
“หุบปากแล้วรีบเอากล่องขนมออกมาซะ” คุงิซากิกวนประสาทใส่ “ขอยัตสึฮาชิ คุซึกิริแล้วก็คุกกี้โซบะด้วย”
“แซลมอน” อินุมากิเสริม
“เด็กปีหนึ่งคนนั้นอะไรกันน่ะ? น่ากลัว” หญิงสาวตัวเล็กนามนิชิมิยะ โมโมะเอ่ยด้วยความระแวงกับทาทีของคนผมน้ำตาล
“อคคทสึไม่อยู่ยังพอว่า แต่เล่นส่งเด็กปีหนึ่งมาสามคนแบบนี้ไม่อ่อนข้อไปหน่อยเหรอ” หุ่นยนต์พูดได้นามอัลทิเมท เมกะมารุพูด
“หุ่นยนต์ล่ะ มีหุ่นยนต์ด้วย!?” คุงิซากิถึงกับอึ้งไปเลย
“ความแข็งแกร่งของผู้ใช้คุณไสยไม่เกี่ยวกับอายุหรอกนะ” ชายผมดำตาตี่นามคาโมะ โนริโทชิพูด “โดยเฉพาะฟุชิงุโระคุง เขามีสายเลือดของตระกูลเซ็นอิงแต่ฝีมือเก่งกว่าคนจากตระกูลหลักอีก”
“ชิ!” ไมเดาะลิ้นอย่างไม่พอใจ
“มีอะไร”
“เปล่านี่”
“เอาน่าๆ ทั้งสองคนใจเย็นก่อนนะคะ” หญิงสาวผมสีฟ้านามมิวะ คาสุมิออกมาห้ามไว้
แปะๆ
“เอ้า อย่าทะเลาะกันเองสิ ให้ตายเถอะเด็กพวกนี้” ในตอนนั้นเองก็มีหญิงสาวในชุดมิโกะนามอิโอริ อุตะฮิเมะตามมาทีหลังและเอ่ยปากห้ามเหล่านักเรียนทันที “แล้วเจ้าบ้านั่นล่ะ?”
“ซาโตรุมาสายน่ะ” แพนด้าตอบ
“คนบ้าจะมาตรงเวลาได้ไง” มากิเอ่ยด้วยน้ำเสียงรำคาญ
“ยังไม่มีใครพูดเลยนะครับว่าเจ้าบ้านั่นหมายถึงอาจารย์โกโจ”
“แต่ถ้าได้ยินคำว่าเจ้าบ้า คนแรกที่เข้ามาในหัวเลยก็อาจารย์โกโจนะ” อากาเนะแย้งฟุชิงุโระ
ครืดๆๆๆ
“โทษทีที่ให้รอ~”
‘พูดถึงก็มาเลย’ เรียวตะพูดด้วยน้ำเสียงเอือมระอาคนที่ถูกกล่าวถึงนั้นมาแล้ว แถมยังเข็นกล่องอะไรไม่รู้มาด้วย
“แหมๆทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าเลย พอดีผมไปทำงานที่ต่างประเทศมาก็เลยเอาของฝากมาให้ทุกคนไงล่ะครับ~” โกโจเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงเริงร่าผิดกับนักเรียนโตเกียวที่มองด้วยความเหนื่อยใจ
“กะทันหันจังนะ”
“เจ็ตแล็กล่ะสิไม่ว่า” แพนด้าและคุงิซากิบ่น แล้วโกโจก็แจกตุ๊กตาที่เป็นเครื่องรางของชนเผ่าหนึ่งให้นักเรียนฝั่งเกียวโต แต่กลับไม่ได้ให้คุณครูสาวเพราะมันหมดก่อน
“ไม่มีให้อุตะฮิเมะหรอกนะ”
“ไม่เอาหรอกย่ะ!”
“และสำหรับทุกคนจากโตเกียวคือทางนี้!” ชายหนุ่มย้ายรถเข็นไปไว้หน้านักเรียนโตเกียวเพื่อเซอร์ไพรซ์สิ่งที่อยู่ข้างในกล่อง
ปึง!!
“ครับ! อบปั๊บปี้!”
“อิตาโดริ ยูจิที่ตายไปแล้วนั่นเองคร้าบบบบ!” และนั่นก็คืออิตาโดริ ยูจินั่นเอง แต่ทุกคนไม่มีท่าทีอะไรตอบกลับมาเลยจนเด็กหนุ่มผมชมพูหน้าเสีย
‘ข้าถามจริงนะโกโจ เล่นเอาคนที่ถูกเข้าใจว่าตายแล้วมาโชว์ตัวกันแบบนี้เจ้าหวังอะไร?!!’ เรียวตะด่าผ่านโทรจิตของเด็กสาว
‘มุขนี้ข้าไม่ซื้อนะ’ รวมถึงยูกิฮิเมะเองก็ด้วย
“ภาชนะของสุคุนะ? มันหมายความว่ายังไง” ระหว่างนั้นเอง ครูใหญ่จากโรงเรียนทั้งสองฝั่งก็มาถึงแล้ว และคนที่ดูตกใจที่สุดคือครูใหญ่จากฝั่งเกียวโตอย่างกาคุคันจิ โยชิโนบุ
“ครูใหญ่กาคุกันจิ!” คนผมขาวได้ยินเสียงของกาคุคันจิก็ทักทายและเดินมาหา “แหม ค่อยยังชั่วๆ เป็นห่วงอยู่เลยว่าถ้าช็อกจนเดี้ยงไปจะทำยังไงดีนะ~”
‘ไอ้เด็กนรกนี่…’ ชายแก่ด่าในใจ
“แต่ว่ามันยังไม่หมดแค่นี้หรอกนะครับ”
“?”
“และนี่คือเซอร์ไพรซ์อีกอย่างจากผมเอง” แล้วโกโจก็เดินไปหากลุ่มนักเรียนโตเกียวและพาอากาเนะออกมาจนคนอื่นๆได้แต่งงว่าทำไม
“!? เดี๋ยวอาจารย์ อย่าพึ่ง-?!” อากาเนะที่เห็นว่าอีกเดี๋ยวอีกฝ่ายเตรียมเผยความลับของเธอก็รีบห้ามไว้แต่ก็ไม่ทันแล้ว
“ภาชนะของคำสาประดับพิเศษราชินีหิมะยูกิฮิเมะ ฟุบูกิ อากาเนะคร้าบบบบบบ อ้อ! ฟุบูกิเดียวกันที่พวกเบื้องบนชอบไปหาเรื่องนั่นแหละ”
“?!!!” สิ้นเสียงของคนผมขาว ทุกคนต่างหันมามองเธอกันเป็นตาเดียว เพราะนามสกุลของเธอมันมาจากตระกูลที่ขึ้นว่าเป็นตระกูลแรกและตระกูลเดียวในวงการผู้ใช้คุณไสยที่พวกเบื้องบนไม่ชอบขี้หน้าอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่คิดว่าเธอจะเป็นภาชนะของคำสาประดับพิเศษที่เรียกได้ว่ามีข้อมูลน้อยที่สุดในบรรดาคำสาปด้วยกันอย่างยูกิฮิเมะด้วย
“อาจารย์คะ…”
“ครับ?”
“อาจารย์เล่นประกาศไปแบบนี้ ฉันก็โดนหมายหัวมากกว่าเดิมอีกน่ะสิ!!!” อากาเนะร้องโวยวายเพราะตั้งใจจะเก็บเรื่องนี้ไว้เงียบๆ
“น่าๆอากาเนะ ถึงเธอจะตั้งใจเก็บไว้เงียบๆแต่เดี๋ยวมันก็หลุดออกมาอยู่ดีนะ”
“เอาที่สบายใจเลยค่ะ…” เด็กสาวได้แต่กุมขมับเหนื่อยใจ ทางด้านกาคุกันจิก็เงียบผิดปกติจนเธอรู้สึกไม่สบายใจ เธอจึงเรียกโกโจเบาๆ
“อาจารย์คะ”
“?”
“ขอตัวก่อนได้มั้ยคะ คนๆนั้นเงียบจนฉันไม่ไว้ใจเลยค่ะ” เธออธิบายให้อีกฝ่ายฟัง
“ก็ได้ครับ” พอเขาได้ฟังก็เข้าใจแล้วปล่อยให้เธอกลับไปหาคนอื่นๆ “อ้อ อากาเนะ”
“?” แต่ก่อนหน้านั้นเขาก็เรียกเธอก่อน
“ผมขอเก็บไอ้นั่นก่อนได้มั้ย” ชายหนุ่มพูด ทางอากาเนะก็นึกไปพักนึงก่อนที่จะยื่นลูกแก้วให้และกลับไปหาทุกคน
“อากาเนะ หลังจากนี้เราต้องคุยกันยาวนะ” คุงิซากิขู่
“แหะๆๆ…” อากาเนะขำแห้ง เพราะเธอว่าหลังจากนี้เธอคงโดนซักยาวแน่นอน
.
.
.
ณ ห้องประชุมนักเรียนโรงเรียนโตเกียว
“เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ”
“ก็คือเธอเป็นคนจากตระกูลฟุบูกิจริง แต่ว่าไม่ได้อยู่ในบ้านใหญ่เพราะเจ้าบ้านเขาขอไว้เพื่ออยากให้เธอปลอดภัย ส่วนยูกิฮิเมะนี่มาตื่นทีหลังจากการไปทำภารกิจคนเดียว ใช่มั้ย?” หลังจากที่ครูใหญ่ยากะได้อธิบายกฏการแข่งขันให้ฟังเสร็จแล้ว เหล่านักเรียนก็แยกย้ายไปที่ห้องประชุมที่ทางโรงเรียนได้เตรียมไว้ ส่วนฝั่งคุณครูก็ไปที่ห้องผู้ชมเพื่อดูการแข่งขัน ต่อมาอากาเนะก็โดนทั้งคุงิซากิและกลุ่มปีสองซักถามกันยกใหญ่ว่าทำไมไม่บอกกัน รวมถึงต้องอธิบายทุกอย่างให้ฟังด้วย พอเธออธิบายให้ฟังเรียบร้อยแล้ว แพนด้าก็มาสรุปให้ต่อ
“ค่ะ”
“แต่ก็ถือว่าแปลกมากนะ เพราะคำสาปของเธอตื่นมาทั้งๆที่ไม่มีวัตถุต้องสาปไปกระตุ้นเลย” มากิพูด
“แซลมอน” อินุมากิเสริม
“แต่ยูกิฮิเมะไม่ได้ทำอะไรเธอใช่มั้ย” ฟุชิงุโระถาม
“อื้อ ถ้าไม่นับเรื่องยืมร่างเพราะไปสู้ให้ก็ไม่ได้ทำอะไรฉันนะ”
“ใจดีกว่าสุคุนะเยอะเลย…” อิตาโดริที่โดนทำโทษให้นั่งคุกเข่าและถือกรอบรูปประหนึ่งเป็นรูปงานศพตัวเองก็รู้สึกอิจฉานิดๆ “จะว่าไป ฉันไม่ได้ยินเสียงเรียวตะเลย ปกติหมอนั่นต้องมีแว้ดๆอะไรมาบ้างนี่”
“อ๋อ ที่จริง…”
“?”
“อาจารย์โกโจเอาไปแล้วน่ะ”
.
.
.
“แล้วนายอยากคุยเรื่องอะไร”
“หา? แล้วโกรธทำไมน่ะ”
“ไม่ได้โกรธซักหน่อย”
“นั่นสิเนอะ ผมยังไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำนี่?” ทางห้องผู้ชมที่ภายในห้องนั้นมีแค่โกโจและอุตะฮิเมะ และประโยคล่าสุดของโกโจที่พูดมาทำเอาอุตะฮิเมะถึงกับคิ้วกระตุก
“มีคนในโรงเรียนไสยเวทร่วมมือกับนักสาปแช่งหรือวิญญาณคำสาปอยู่”
“เป็นไปไม่ได้?!” หญิงสาวร้องด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “นักสาปแช่งยังพอว่า แต่กับวิญญาณคำสาปเนี่ยนะ?”
“ก็ระดับนั้นพักนี้มันออกมากันเพียบเลยน่ะสิ ไม่ได้แค่พูดคุยกันได้แต่ยังร่วมมือทำงานกันเป็นกลุ่ม ถึงเจ้าตัวอาจจะตั้งใจติดต่อกับแค่นักสาปแช่งก็เถอะ” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ผมอยากไหว้วานอุตะฮิเมะช่วยสืบเรื่องฝั่งเกียวโตให้หน่อย”
“แล้วถ้าฉันเป็นไส้ศึกขึ้นมาล่ะ” อุตะฮิเมะถาม
“ไม่มีทางๆ อุตะฮิเมะอ่อนแอจะตายแถมยังขี้ป๊อด-”
ซ่า!!
‘โกโจ!!’ เรียวตะแหว เพราะโกโจดันพูดจาแทงใจดำใส่จนเจ้าของชื่อถึงกับสาดน้ำชาใส่ แต่เขากันได้ด้วยมุเก็น
“น่ากลัว พวกขี้โมโหไม่ป็อบหรอกนะ”
“ฉันเป็น! รุ่นพี่! นายนะยะ!!!”
‘เจ้าก็อย่าไปกวนบาทาใส่เขาสิโว้ยยยยยยยย’ อุตะฮิเมะตวาดใส่ แม้กระทั่งยันเรียวตะก็ด้วย
'เธอเองก็เป็นด้วยเหรอ’
‘หุบปากไปเลย’ ยมทูตหนุ่มตอบด้วยความรำคาญ ‘เออโกโจ’
‘ครับ?’
‘ที่พูดมาเมื่อกี้น่ะ เจ้าคิดว่าพวกเบื้องบนมีส่วนด้วยมั้ย’
‘...’ คนผมขาวเงียบไปพักนึง ‘ก็มีความเป็นไปได้ครับ’
ก๊อกๆ
“ครับ เข้ามาได้เลย” ในตอนนั้นเองก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เสียงดังไปถึงข้างนอกเลยนะ นายแกล้งอะไรอุตะฮิเมะอีกล่ะ”
“ฮิโตมิ!”
“อ้าวมาด้วยเหรอครับคุณฮิโตมิ” ซึ่งคนที่มาใหม่นั้นก็คือฟุบูกิ ฮิโตมินั่นเอง
“ก็เออน่ะสิ หวัดดีจ้าอุตะฮิเมะ” หญิงสาวผมสีม่วงตอบเนือยๆก่อนจะเปลี่ยนโทนเสียงเป็นเริงร่าเมื่อทักทายเพื่อนสาวของเธอ
“เธอมาแบบนี้ไม่กลัวครูใหญ่กาคุคันจิเขม่นใส่เหรอ” อุตะฮิเมะถามด้วยความกังวล
“ไม่อ่ะ ฉันไม่สนใจตาแก่นั่นหรอก” ฮิโตมิตอบแล้วไปนั่งที่นั่งของตัวเอง “ฉันสนเด็กๆที่ลงแข่งปีนี้มากกว่าว่ามีใครเตะตาบ้าง”
“ไม่ใช่มาดูแค่อากาเนะเหรอครับ” โกโจแหย่
“ฉัน ดู ทุก คน จ้ะ!” หญิงสาวตอบอีกฝ่ายอย่างชัดถ้อยชัดคำแล้วหันไปเล่นโทรศัพท์ของตัวเองเพื่อฆ่าเวลา
‘นี่โกโจ’
‘มีอะไรอีกครับ’ ในตอนนั้นเอง เรียวตะก็ได้เรียกโกโจพอดี
‘คนๆนั้น…’
‘เธอหมายถึงคุณฮิโตมิเหรอครับ ไม่ใช่ว่าเคยเจอกันแล้วเหรอ’ คนผมขาวถามด้วยความสงสัย
‘ก็เคยเจอแล้ว แต่ข้าขอถามอะไรแปลกๆหน่อย’
‘ว่า?’
‘นายรู้ชื่อพ่อเขามั้ย’ คำถามของยมทูตหนุ่มทำเอาโกโจสงสัยว่าจะถามไปทำไมกัน แต่เขาก็ตอบคำถามที่ว่าให้
‘รู้สิครับ ฟุบูกิ เซย์จิไง’
‘!!?’ สิ้นคำตอบคนผมขาว เรียวตะก็ช็อกจนเงียบไปจนอีกคนต้องเรียกสติ
‘เรียวตะ ฮัลโหลลลล ยังอยู่รึเปล่าาาา’
‘ไม่อยู่มั้ง ไอ้นี่’ ยมทูตหนุ่มประชด
‘แล้วทำไมเธอถึงถามแบบนี้ล่ะครับ มีอะไรรึเปล่า’
‘ไม่มีหรอก ข้าถามเฉยๆ’
‘แน่ใจนะว่าไม่มี?’
‘ไม่มีก็คือไม่มีสิ ข้าไม่คุยด้วยแล้ว’
‘คร้าบๆ แล้วแต่เธอเลย’ แล้วชายหนุ่มทั้งสองก็ไม่คุยอะไรต่อ ในหัวของเรียวตะตอนนี้มีชื่อของฟุบูกิ เซย์จิอยู่ในหัวตลอดเวลา เพราะช่วงวันตัดสินคดีของอากาเนะ เขาและอากาเนะเจอแค่ฮิโตมิกับฮิโรโตะเท่านั้น เขาจึงไม่รู้ว่าชายคนนั้นมาวันตัดสินคดีของเด็กสาวด้วย ทำให้เขาเกิดความคิดบางอย่างอยู่ในใจ
‘ป่านนี้แล้วเจ้าจะยังจำข้าได้อยู่มั้ย เซย์จิ…’
.
.
.
ต็อกๆ : อาร์คงานเชื่อมสัมพันธ์มาแล้วนะค้าบบบบบบบบบบบ ถ้าบรรยายงงๆยังไงต้องขออภัยด้วยนะค้าบ ส่วนอิมเมจผมเรียวตะที่ทำใหม่จะเป็นแบบนี้ เผื่อใครนึกภาพไม่ออก
สารภาพเลยว่าที่ดองฟิคเพราะติดวงนี้งอมแงมจนเป็นแฟนคลับเรียบร้อยแล้ว55555555555 ขอยาดขายนิดนึงนะคะสำหรับใครที่อยากตามวงkpop ที่มีเพลงบีทหนักๆ เพอร์ฟอแมนซ์โหด facial expression ดี เราขอเสนอateez ไว้เป็นตัวเลือกให้พิจารณานะค้าบถ้าตามรับรองจะไม่จะผิดหวัง ส่วนคนในภาพชื่อจองยุนโฮ เป็นเมนเราเอง55555555 เดี๋ยวเราแปะเพลงให้ทุกคนไปลองฟังก่อนนะค้าบ https://www.youtube.com/watch?v=yxfCbV21ck8
ส่วนผมนี่เราไม่แน่ใจว่าในรูปมันแสกข้างหรือแสกกลาง แต่เราคิดว่าแสกข้างถ้าผิดยังไงก็บอกกันได้นะคะ
**มีคนมาเม้นว่าเป็นแสกกลาง เราแก้เรียบร้อยแล้ว ขอบคุณคนเม้นนะคะ**
สนุกไม่สนุกยังไงก็เม้นกันเข้ามาได้นะค้าบ
เจอกันตอนหน้า see yaaaaaaaaaaaaa
twitter : @bdm1228
Cr.
ความคิดเห็น