NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (ss1+2+3) | Fic Jujutsu Kaisen x OC | The Grim reaper eye

    ลำดับตอนที่ #20 : เข้าใจผิด

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ย. 66


    วันต่อมา

     

     

    ♫♪♩~

    “ฮัลโหลค่ะ ใครคะ”

    ฟุบูกิคุง ผมนานามินะครับ” เช้าวันต่อมา โทรศัพท์ของอากาเนะก็ดังขึ้นและโชว์เบอร์ที่ไม่คุ้นตา พอเธอรับสายและถามไปว่าใครก็ปรากฏว่าเป็นนานามิ เคนโตะนั่นเอง

    “อ๋อคุณนานามิน มีอะไรรึเปล่าคะ”

    มะเหงกนะครับ” คนปลายสายทำเสียงดุเล็กน้อย “ที่ผมโทรมาหาเธอเพราะเรื่องโยชิโนะ จุนเปย์ คือแม่ของเขา-”

    เขาตายแล้ว เรื่องนั้นฉันรู้แล้วค่ะ”

    “…” นานามิเงียบไปพักนึงก่อนที่จะพูดต่อ “ตอนนี้ที่โรงเรียนซาโต้ซากุระมีการกางม่านที่ไม่มีการบอกล่วงหน้าก่อน เป็นไปได้ว่าเจ้านั่นยังไม่ตาย ฟุบูกิคุงช่วยสแตนบายรอด้วยนะครับเดี๋ยวผมจะรีบกลับไป

    “…นี่คุณนานามิน” เด็กสาวเงียบไปพักนึงแล้วเอ่ยปากพูด

    “ครับ?”

    “ขอโทษนะคะ คือฉัน…” เธอเว้นช่วงไปอีกรอบแล้วพูดออกมา “ฉันถึงคาวาซากิได้ซักพักแล้วค่ะเดี๋ยวจะไปโรงเรียนซาโต้ซากุระหาตัวจุนเปย์คุง ขอไปหาตัวเค้าก่อนนะคะ”

     

     

    ตู๊ด!!

     

     

    “ทำไมไม่บอกนานามิไปล่ะว่าตอนนี้เจ้าอยู่หน้าโรงเรียนซาโต้ซากุระแล้ว?” เรียวตะถาม

    “ถ้าคุณนานามินรู้มีหวังโดนเทศน์ยับแน่นอน แค่บอกว่าอยู่คาวาซากิทั้งๆที่ไม่ได้มีคำสั่งฉันก็เสียวสันหลังแล้ว” เด็กสาวกัดฟันตอบ เพราะก่อนหน้านั้นประมาณชั่วโมงนึง อากาเนะที่นอนหลับสบายอยู่ก็ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโวยวายของเรียวตะ พอเธอถามอีกฝ่ายว่าเป็นอะไรคำตอบที่ได้ก็คือโยชิโนะ นางิหรือแม่ของจุนเปย์นั้นได้เสียชีวิตจากการถูกคำสาปทำร้าย ทำเอาอากาเนะที่สะลึมสะลืออยู่ถึงกับหายง่วงและรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและไปที่คาวาซากิอย่างไวโดยที่ไม่ได้มีคำสั่งจากอิจิจิหรือนานามิมาเลย

     

     

    พูดง่ายๆคือ ไปเองทั้งๆที่ไม่มีใครสั่งและไม่ได้บอกอิตาโดริด้วย

     

     

     

    แถมตอนนี้เธอก็อยู่หน้าโรงเรียนซาโต้ซากุระที่ถูกกางม่านโดยฝีมือของใครบางคนอีก

    “อาเร้ะ? อากาเนะ?” ในตอนนั้นเอง อิตาโดริก็มาถึงพอดี “นี่เธอมาถึงตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย ไม่เข้าไปเหรอ”

    “ที่ไม่เข้าไปเพราะฉันรอนายนี่แหละ” เด็กสาวปัดตอบคำถามแรก “รีบไปหาจุนเปย์คุงกันเลยมั้ย”

    “โอ้!!” แล้วทั้งสองคนก็เข้าไปในม่านและแยกตัวไปหาเด็กหนุ่มผมดำ

     

     

     

     

    แต่แล้ว

     

     

     

    “เจอตัวแล้ว~”

    “!?!!”

     

     

    ฟึบ!!

     

     

    “หลบได้เหรอเนี่ย น่าเสียดายจัง”

    ‘คำสาป?! โผล่มาจากไหนวะ!’ ในระหว่างที่อากาเนะตามหาจุนเปย์อยู่ จู่ๆก็มีบุคคลปริศนาได้พุ่งเข้ามาโจมตีเธอจากด้านหลัง แต่โชคดีที่เธอหลบได้ก่อนและเว้นระยะห่างออกมาให้ได้มากที่สุดแล้วหันหน้ามาหา ซึ่งคนที่โจมตีใส่เธอเมื่อครู่นี้ก็คือมาฮิโตะที่ทำแขนของเขาให้กลายเป็นใบมีดนั่นเอง

    “นายเป็นใคร” เด็กสาวถามคำสาปตรงหน้าด้วยน้ำเสียง

    “อยากรู้จักฉันเหรอ?”

    “แค่ถามเป็นมารยาทเถอะ”

    “ฮึๆๆ เธอนี่น่าสนใจดีแฮะ” มาฮิโตะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ “ฉันชื่อมาฮิโตะ เธอคงจะเป็นฟุบูกิ อากาเนะใช่มั้ย”

    “ห้ะ?”

    ‘อากาเนะ ไอ้หมอนี่อันตราย รีบถอยออกมา-’

    “ไม่ตอบจะถือว่าใช่นะ”

    “!!?” เรียวตะที่ยังไม่ทันได้พูดจบ มาฮิโตะก็ยื่นหน้าเข้าใกล้อากาเนะจนเธอไม่ทันได้ตั้งตัวเลยซักนิด ยมทูตหนุ่มที่เห็นว่าอันตรายก็รีบออกมาจากเงาของเด็กสาวแล้วดึงตัวอากาเนะออกมาให้ห่างจากอีกฝ่าย

    “เดี๋ยว?! เจ้านี่มันระดับพิเศษเหรอ!!” เรียวตะที่สัมผัสได้ถึงพลังคำสาปของมาฮิโตะก็เอ่ยออกมาด้วยความตกใจ

    “อะไรกัน~ มีมนุษย์คนอื่น-ไม่สิ ไม่ใช่มนุษย์นี่” มาฮิโตะที่กำลังจะบ่นอยู่นั้นก็สัมผัสได้ว่าคนผมดำตรงหน้านั้นไม่ใช่มนุษย์เลยทักถามไป “แต่ก็ไม่ใช่คำสาปด้วย นี่เธอเป็นตัวอะไรเหรอ”

    “ข้าจะเป็นตัวอะไรมันก็ไม่ใช่เรื่องของเจ้าหรอก”

     

     

    ♫♪♩~

     

     

    “…อา-กา-เนะ”

    “ดุจังพ่อ” ท่ามกลางสถานการณ์สุดแสนจะตึงเครียด โทรศัพท์ของอากาเนะก็ดังขึ้นผิดเวลาจนได้ เด็กสาวผู้เป็นเจ้าของโทรศัพท์จึงรีบรับสายและคุยให้เร็วที่สุด

    “ฮัลโหล-”

    อากาเนะฉันเจอจุนเปย์แล้วนะ!!” ซึ่งคนที่โทรมาหานั้นก็คืออิตาโดรินั่นเอง และเขาก็เจอตัวจุนเปย์แล้วด้วย

    “เจอที่ไหน!?!”

    เจอที่โรงยิมแต่หมอนั่นอารมณ์ไม่ดีมากเลยล่ะ ขอวางสายเลยนะ!!”

    “เห้ยเดี๋ยว-!?”

     

     

    ตู๊ด!!

     

    “ไปซะแล้ว…”

    “อิตาโดริโทรมารึไง” ยมทูตหนุ่มถาม

    “อืม เค้าเจอจุนเปย์คุงแล้วแต่ดูเหมือนจะมีเรื่องกันอยู่” เด็กสาวตอบเสียงเอื่อย “พาฉันไปหาจุนเปย์คุงได้มั้ย”

    “ของแบบนี้มันก็ต้องได้อยู่แล้วนี่ ข้าเองก็ไม่อยากยุ่งกับไอ่คำสาปเวรนี่ด้วย” เรียวตะเองที่ไม่อยากยุ่งกับมาฮิโตะก็เตรียมตัวหนีไปหาจุนเปย์พร้อมกับอากาเนะ

    “ฮึๆ ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดูสิ” แล้วมาฮิโตะก็พุ่งเข้ามาโจมตีโดยเปลี่ยนแขนทั้งสองข้างให้เป็นมีดแล้วฟันใส่ แต่ช่วงเสี้ยววินาทีก่อนที่การโจมตีนั้นจะถึงตัวทั้งสองคนนั้น เรียวตะก็รีบอุ้มอากาเนะแล้วหลบการโจมตีดังกล่าว จากนั้นก็บินหนีหายไปด้วยความรวดเร็วจนมาฮิโตะยังต้องผิวปากให้ว่ามันช่างรวดเร็วกว่าที่คิดไว้อีก ต่อมาเขาก็หันไปทางชั้นล่างของอาคารเรียนอาคารหนึ่งแล้วพูดคุยราวกับว่ามีคนอยู่ในนั้น

    “แน่ใจนะว่านายจะปล่อยเด็กคนนั้นน่ะอากิฮิโกะ ปกติเห็นนายอยากฆ่าเค้าจะตาย” สิ้นเสียงของมาฮิโตะ หน้าต่างบานหนึ่งของอาคารชั้นล่างสุดก็ถูกเลื่อนออก ซึ่งคนที่ทำนั้นก็คืออากาฮิโกะในเสื้อฮู้ดสีดำสนิทกับหมวกแก็ปสีดำที่แอบเฝ้าดูอยู่ในนั้นมาตลอดนั่นเอง

    “ยังมีวันอื่นให้ฆ่าตั้งเยอะแยะน่า อีกอย่างฉันทิ้งคราบไว้ไม่ได้เดี๋ยวพวกผู้ใช้คุณไสยตามตัวจนเจอ”

    “นึกว่าเป็นคนที่เอาแต่ตามฆ่าจนไม่สนใจอย่างอื่นซะอีก”

    “แรงนะเมื่อกี้” อากิฮิโกะชี้นิ้วคาดโทษ “แล้วเจ้าเด็กที่ชื่อโยชิโนะ จุนเปย์นี่คือยังไง ได้ข่าวมาว่าเด็กนั่นมีชิกิงามิได้เพราะนาย?”

    “อ๋อ แค่หลอกใช้นิดหน่อยก็เท่านั้นเอง”

    “♪~” คนผมบลอนด์ผิวปาก “เอาเป็นว่าฉันจะรอดูรีแอคชั่นของโยชิโนะก็แล้วกันว่าพอรู้ว่าตัวเองโดนหลอกใช้แล้วมันจะเป็นยังไง”

    “ฮึๆๆๆๆ นายได้เห็นแน่นอนรอดูได้เลย:)”



    .

    .

    .

    “ทำไม…ถึงไม่หลบล่ะ?” ณ อาคารเรียนหนึ่ง อิตาโดริและจุนเปย์ก็ได้ทำการต่อสู้กันโดยที่จุนเปย์ใช้ชิกิงามิแมงกระพรุนโอริสึคิออกมาต่อสู้กับเด็กหนุ่มผมชมพู พอสู้กันไปเรื่อยๆอิตาโดริก็คุยเพื่อเรียกสติจุนเปย์ แต่เขาก็ยังไม่ฟังและใช้โอริสึคึแทงอิตาโดริไปซึ่งอีกฝ่ายกลับไม่หลบและยอมเจ็บตัวจนจุนเปย์ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่หลบ

    “?!!!” แต่ทันใดนั้นเองร่างของเขาก็ถูกจับกดลงพื้นโดยบางสิ่งบางอย่างพร้อมกับดาบหลายเล่มที่จ่อมาที่เขา พอเงยหน้าขึ้นมาก็พบอากาเนะที่เอาดาบมาจ่อไว้ทางด้านหน้า ส่วนที่ทับตัวจุนแปย์นั่นก็คือชิกิงามิของเธอจำนวน4ตน “ฟุ...บูกิ?”

    “ดูท่าฉันจะมาช้าไปสินะ” เด็กสาวเอ่ยน้ำเสียงขุ่นมัวก่อนที่จะเอามือข้างหนึ่งไปหยิบลูกแก้วออกมา

    “เอบิสึ”

     

    เพล้ง!!

     

    “ไปทำแผลให้ยูจิคุง”

    “รับทราบ~” ชิกิงามิชายแก่ร่างเล็กนามเอบิสึขานรับคำสั่งและไปหายูจิเพื่อทำแผล

    “เดี๋ยวอากาเนะ! ฉันจะคุยกับจุนเปย์-”

    “เดี๋ยวให้คุยแน่ แต่ตอนนี้ฉันขอลัดคิวก่อนแปบนึง” เด็กหนุ่มผมชมพูที่ไม่ทันได้พูดจบก็ถูกเด็กสาวตัดหน้าก่อน

    “นี่แก-”

    “เฮ้ๆ พูดอะไรก็ระวังปากไว้ด้วยเจ้ามนุษย์” จุนเปย์ที่กัดฟันกรอดด้วยความเจ็บใจอยู่นั้น ชิกิงามิสาวผมสั้นสีดำปิดครึ่งหน้าเตือนในขณะที่ชิกิงามิตัวอื่นๆรวมทั้งอากาเนะเอาดาบจ่อเข้าใกล้ตัวเด็กหนุ่มมากกว่าเดิม

    “เอาน่าโฮเนะอนนะ จุนเปย์คุงเค้ายังไม่ได้พูดอะไรซักหน่อย” เด็กสาวผมแดงเอ่ยแล้วเอานิ้วเกี่ยวสายผ้าปิดตาออกข้างนึงและมองจุนเปย์ด้วยสายตาเรียบนิ่ง

    “อ-” จุนเปย์ที่ไม่ทันจะได้พูดอะไรเมื่อได้เห็นนัยน์ตาสองสีของคนตรงหน้าก็ถูกอากาเนะเอานิ้วมาแตะที่ริมฝีปากของเขาเป็นการบอกนัยๆว่าอย่าพึ่งพูดอะไรทั้งนั้น ซักพักเธอก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกลับไปใส่ผ้าปิดตาเหมือนเดิม

    “นี่ จุนเปย์คุง”

    “อ…อะไร”

    “นายแน่ใจแล้วเหรอที่จะฆ่าคนที่เคยบูลลี่นายน่ะ”

    “?!!” เด็กหนุ่มผมดำหน้าซีดกับประโยคของเด็กสาวตรงหน้า ทางคนพูดก็เงียบไปพักนึงก่อนที่จะพูดต่อ

    “คนแบบนั้นอ่ะนะฆ่าให้ตายเลยทีเดียวมันไม่คุ้มหรอก เป็นฉันจะเอาให้ไม่ถึงกับตายแต่ให้ทรมานไปทั้งชีวิตเลยดีกว่า แบบนั้นมันสะใจกว่าตั้งเยอะ” เธอเอ่ยด้วยรอยยิ้มอันน่าขนลุก ทำเอาเหล่าชิกิงามิทั้งสี่ตนต่างร้องในใจเป็นเสียงเดียวกันว่าชิบหาย เพราะว่าตัวอากาเนะนั้นถ้าดูจากภายนอกเหมือนจะไม่มีอะไร

     

     

    แต่ในความเป็นจริงแล้ว เธอเป็นคนน่ากลัวจัดจนสามารถพูดคำว่าฆ่าหรือคำว่าตายได้ด้วยรอยยิ้มเหมือนเป็นเรื่องสนุก

     

    แต่ใช่ว่าพวกเค้าจะไม่กล้าเตือนเธอหรอกนะ

     

    “ท่านอากาเนะ สันดานออกแล้วนั่น” ยูกิโดจิเตือน

    “อุ่ยโทษที” อากาเนะที่เพิ่งรู้สึกตัวจากคำเตือนของชิกิงามิของตัวเองก็เอ่ยปากขอโทษทันที “เพราะฉะนั้นเวลาจะทำอะไร แนะนำว่านึกถึงผลที่จะตามมาภายหลังด้วยละกัน เอ้าทุกคน! ลุก”

    แล้วอากาเนะและชิกิงามิทั้งสี่ตนก็ลุกขึ้นปล่อยเด็กหนุ่มดำให้เป็นอิสระก่อนที่จะหันมาหาอิตาโดริ “ตะกี้จะคุยกับจุนเปย์คุงใช่มั้ย เชิญเลย”

    “เธอนี่…น่ากลัวเป็นบ้า” อิตาโดริบ่นเบาๆ

    “รู้ตัวจ้า อ้อจริงสิ กลับเป็นลูกแก้วก่อนนะทุกคน” แต่เธอก็ได้ยินอยู่แต่ก็ไม่ได้แย้งอะไรก่อนที่สั่งให้ชิกิงามิทุกตนรวมถึงกลับไปเป็นลูกแก้วเหมือนเดิมและปล่อยให้อิตาโดริกับจุนเปย์ไปปรับความเข้าใจกัน

    ‘ที่พูดแบบนั้นกับโยชิโนะไปนี่ เจ้าเห็นอดีตของหมอนั่นใช่มั้ย’ ยมทูตหนุ่มถาม

    ‘อือฮึ ดูเหมือนว่าไม่ต้องให้นายสิงก็มองเห็นอดีตได้แล้วแหละ’

    ‘แล้วเป็นไง ได้เห็นอดีตของคนอื่น?’

    ‘ก็…ถ้าเอาความรู้สึกตัวเองก็ตกใจอยู่นิดนึง แต่ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ว่าทำไมเขาเลือกที่จะทำแบบนั้น’

    ‘อ้อ…ลืมไปว่าเจ้าเคยโดนล้อว่าโดนพ่อแม่ทิ้งด้วยนี่นา’

    ‘ของฉันมันเป็นคำพูด แต่ของเขามันเป็นการกระทำ มันเทียบกันไม่ได้หรอก’

    ‘แต่ก็เจ็บเหมือนกันเถอะ’

    ‘…เอาซะไปไม่ถูกเลย’ อากาเนะถึงกับเอามือทาบหน้าอกตัวเองหลังจากที่ได้ยินประโยคเจ็บจี๊ดจากเรียวตะ

     

    แต่แล้ว

     

    “ฮึๆๆ”

    “ใครน่ะ!”

    “?!!” 

    ‘เดี๋ยว ไอ่หมอนี่!?’ ในตอนนั้นเองก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นตรงบันได พออิตาโดริและอากาเนะเงยหน้ามองก็พบว่าเป็นมาฮิโตะ ทางเด็กหนุ่มผมชมพูก็เอ่ยปากถามว่าใครผิดกับอากาเนะและเรียวตะที่เจอกันมาก่อนถึงกับช็อกเลย

    “ยินดีที่ได้รู้จัก ภาชนะของสุคุนะ”

    “ยูจิคุง จุนเปย์คุง ถอยออกมาเดี๋ยวนี้-?!!”

    “เดี๋ยวก่อน คุณมาฮิโตะ!!”

     

    ตึง!!

     

    “อั่ก!!” แต่จุนเปย์ยังห้ามได้ไม่ทันไร อิตาโดริกับอากาเนะก็ถูกมือของมาฮิโตะมาจับติดผนังไปซะแล้ว

    ‘ไอ้บ้าเอ๊ย?! เมื่อกี้มันเร็วเกิน-?!’ เด็กสาวสบถในใจแต่ก็ชะงักไปเมื่อเธอเห็นภาพอนาคตที่กำลังจะเกิดหลังจากนี้

    ‘เดี๋ยวๆๆๆๆ เอางี้เลยเหรอ อย่านะเว้ย!!’ เรียวตะเองที่เห็นเหมือนกันก็ถึงกับทำตัวไม่ถูกเลย

    “หนีไปซะจุนเปย์!!” อิตาโดริเตือนจุนเปย์ “ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายคิดกับเจ้านั่นยังไง แต่ตอนนี้นายรีบหนีเร็วเข้า ขอร้องล่ะ!!”

    “อิตาโดริคุงใจเย็นก่อน คุณมาฮิโตะไม่ใช่คนเลว-”

    “ไม่ใช่กับผีเถอะจุนเปย์คุง!!!” อากาเนะตวาดลั่น “ถ้านายยังไม่อยากตายก็รีบหนีเดี๋ยวนี้เลย!! เร็ว!!”

    “?!!” จากคำเตือนของอิตาโดริและอากาเนะก็ทำให้จุนเปย์ชะงักและนึกถึงวันที่ตัวเองได้พูดคุยกับมาฮิโตะว่าเขาเชื่อไปได้ยังไง

    “จุนเปย์เนี่ยฉลาดใช้ได้นะ” มาฮิโตะพูดและเอามือมาวางไหล่จุนเปย์ “แต่ว่าบางครั้งการคิดละเอียดถี่ถ้วนก็อาจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ยายิ่งกว่าการคิดน้อยนะ เธอเป็นตัวอย่างนั้นเลย!”

    “จุนเปย์คุง!?!!” เด็กสาวตะโกนเรียกเด็กหนุ่มผมดำแต่น่าเสียดายที่อีกฝ่ายไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับมา

    “จุนเปย์เองก็ไม่ได้ฉลาดกว่าพวกที่เธอดูถูกซักเท่าไหร่ เพราะงั้นเลยต้องตายยังไงล่ะ”

    ‘ตายๆๆๆๆๆๆๆ ชื่อมันเริ่มขึ้นหน้าสมุดแล้วเนี่ยยยยยยยยยย’ ยมทูตหนุ่มสติแตกเพราะภาพอนาคตที่ตัวเองและอากาเนะเห็นนั้นมันกำลังจะเกิดขึ้นภายใน

     

    5

     

    4

     

    3

     

    2

     

    1

     

    “!!!?” ทันใดนั้นเอง จุนเปย์ก็กลายร่างเป็นมนุษย์ดัดแปลงโดยฝีมือของมาฮิโตะพร้อมปล่อยให้อิตาโดริและอากาเนะเป็นอิสระ แต่จากเหตุการณ์เมื่อครู่ก็ทำเอาทั้งคู่ช็อกจนพูดอะไรไม่ออก

     

     

     

    ซึ่งมันคือภาพอนาคตที่อากาเนะกับเรียวตะเห็นและไม่ต้องการที่จะให้มันเกิดแต่มันก็เกิดไปแล้ว

     

     

     

     

     

    .

    .

    .

    ต็อกๆ : ทุกโคนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน เราขอโทษที่หายไปนานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เรากลับมาเขียนแล้วนะ

    สาเหตุที่หายไปก็หัวตัน+เรียนออนไลน์ที่หนักขึ้นเรื่อยๆจนอารมณ์เขียนมันไม่มาเลย ก็ต้องขอโทษด้วยที่หายไปนาน

     

    ขออธิบายตอนที่อากาเนะกับแก๊งค์ชิกิงามิ4ตัวที่ไปหยุดจุนเปย์ก็จะมีอินุงามิ โฮเนะอนนะ ยูกิโดจิ แล้วก็ยามะคาเสะ แล้วก็มีเอบิสึที่ไปฮีลยูจิอีกหนึ่งตัว อารมณ์ก็จะประมาณภาพนี้

    ภาพนี้มาจากเรื่องbleach นะคะ ถ้าให้เทียบตำแหน่งที่นั่งกันก็จะเป็น

    อากาเนะ = ฮิราโกะ (เสื้อสีส้ม)

    อินุงามิ = โรส (ผช.ชุดดำ)

    โฮเนะอนนะ = ริสะ (ผญ.ชุดนักเรียน)

    อันนี้คืออิมเมจของโฮเนะอนนะนะคะ

    ยามะคาเสะ = เลิฟ (ชุดพละ)

    อันนี้เป็นอิมเมจยามาะคาเสะ

    ยูกิโดจิ = มาชิโระ (ผมเขียว) *ที่ใส่วงเล็บด้านหลังคือเผื่อมีคนไม่รู้จักนะ


    อันนี้คือเอบิสึค้าบโผม

    เสริมเรื่องอากาเนะตรงดวงตายมทูตนิดนึง คือเห็นอดีตได้แล้วแหละแต่ช่วงเวลาของเหตุการณ์ที่เห็นจะไม่นานเท่าของเรียวตะที่เห็นไปไกลหลายปี (ยกตัวอย่างก็ตอนน้ำแข็งพันปี ดวงตายมทูต และตระกูลฮิรามารุ (2)) 

    สุดท้ายนี้ก็อยากจะบอกว่าขอโทษที่หายไปและขอบคุณที่ยังรอ เราอ่านคอมเม้นทุกคอมเม้นแล้วรู้สึกแฮปปี้มาก พอมีคนบอกว่าเมื่อไหร่จะอัปหรือรอนานแล้วก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ จะพยายามหาเวลามาแต่งให้ได้เพราะงานมันหนักขึ้นเรื่อยๆแล้ว

    สนุกไม่สนุกยังไงก็เม้นกันเข้ามาได้นะคะ

    เจอกันใหม่ตอนหน้า see  you kaaaaaaaaaaaaaaaaaa

    twitter : @bdm1228

     

    Cr.themy butter

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×