คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : ฟุบูกิ ฮิโรโตะ
กันยายน 2018
ณ คฤหาสน์ร้างแห่งหนึ่ง จังหวัดอิบารากิ
“นี่คุณมิซาเอะ”
“ว่า?”
“แรงกดดันที่นี่เยอะกว่าที่คิดแฮะ…” หนึ่งเดือนต่อมาหลังจากการตื่นขึ้นของยูกิฮิเมะ วันนี้อากาเนะก็ได้รับภารกิจปัดเป่าคำสาปที่คฤหาสน์ร้างสไตล์โมเดิร์นแห่งหนึ่งในจังหวัดอิบารากิ
ซึ่งเธอไม่ได้มาทำภารกิจนี้คนเดียว
เพราะเธอได้มิซาเอะที่กลับเข้าสู่วงการผู้ใช้คุณไสยมาได้ซักพักแล้วมาดูแลด้วย
บอกเลยว่าเป็นอะไรที่เซอร์ไพรซ์หนักมาก
“จะเยอะก็ไม่แปลกหรอก ก็ที่นี่เมื่อก่อนครอบครัวที่เป็นเจ้าของคฤหาสน์นี้และคนรับใช้อีกนับสิบถูกฆาตกรรมยกครัวน่ะ” มิซาเอะอธิบายไปในระหว่างที่สำรวจภายในบ้านพร้อมกับอากาเนะ “แล้วหลังจากนั้นก็มีข่าวลือจนหนาหูว่ามีคนเห็นวิญญาณของทุกคนที่อยู่ที่นี่กำลังทำกิจกรรมเหมือนตอนที่ยังมีชีวิตอยู่เด๊ะๆ แถมยังเฮี้ยนจัดจนชนิดที่ว่าทำคนที่ไม่เชื่อเรื่องผีสางเลยกลับกลายเป็นเชื่อสุดๆไปเลยล่ะ”
“อันนี้ได้ข้อมูลมาจากอาจารย์โกโจใช่มั้ยคะ” เด็กสาวถาม
“อือฮึ ก็ไม่อยากจะยอมรับเท่าไหร่ว่าไอ่คนแด๊ดแด๋แบบนั้น-โอ๊ะ?” มิโกะสาวที่กำลังนินทาโกโจอยู่นั้นก็มีวิญญาณเด็กผู้หญิงในชุดนอนสีขาวเปื้อนเลือดยืนแสยะยิ้มอย่างสยดสยองตรงทางเดินที่พวกเธอยืนอยู่ไม่ไกลนัก จากนั้นเธอก็พุ่งตัวมาหาหญิงสาวทั้งสองและต่อยหมัดลงกับพื้นจนเกิดรอยร้าวเป็นวงกว้าง แต่มิซาเอะกับอากาเนะกระโดดถอยหลบได้ทันในวินาทีสุดท้ายก่อนที่หมัดจะถึงพื้น
“มาเล่นกันเถอะ~” วิญญาณตนนั้นกวักมือเชิญชวนพวกเธอ ไม่นานก็มีวิญญาณตนอื่นๆปรากฏตัวออกมาอีกเป็นโขยงและกวักมือให้มาหาพวกเขา
“โอ้โห เล่นหมาหมู่อีกแล้วเหรอ” เรียวตะออกมาจากลูกแก้วและพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “ครั้งนี้ข้าขอลุยด้วยได้มั้ย เห็นเจ้าพวกนี้แล้วคันมือ”
“ตามใจ แต่อย่าให้คฤหาสน์นี่พังก็พอ” มิซาเอะอนุญาตให้เรียวตะมาช่วยอีกแรงแล้วหันไปคุยกับอากาเนะบ้าง “ถ้าทำงานนี่เสร็จเดี๋ยวมีอะไรจะให้ด้วยนะ”
“อย่าบอกนะว่าเป็นชิกิงามิ?” เด็กสาวขมวดคิ้ว แต่มิซาเอะไม่พูดอะไรนอกจากยักไหล่ทำเอาอากาเนะถึงกับส่ายหัวเอือมระอาเพราะชิกิงามิที่เธอมีจะได้มาจากมิซาเอะตลอด
“สงสัยต้องรีบจัดการให้เสร็จซะแล้วสิ” แต่ไม่นานอากาเนะกลับฉีกยิ้มอย่างมีเล่ห์นัยในขณะที่เอาดาบออกมาจากถุงดาบ ทางมิซาเอะกับเรียวตะที่เห็นว่าเด็กสาวเริ่มเข้าโหมดทำงานแล้วก็ยืดเส้นยืดสายเตรียมจัดการเหล่าวิญญาณแล้ว
“นี่พวกแกรู้รึเปล่าพวกแกเล่นอยู่กับใคร” วิญญาณชายแก่ผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์พูดด้วยน้ำเสียงเดือดดาล แต่สามคนนั้นกลับไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวแต่อย่างใด
“ไม่รู้และไม่คิดจะรู้ด้วย” เรียวตะตอบด้วยน้ำเสียงกวนประสาท ทำเอาพวกวิญญาณนั้นโมโหกว่าเดิมและพุ่งเข้าไปหาสามคนนั้นทันที
“งั้นมาเป็นตัวตายตัวแทนซะดีๆ!!”
“ก็มาดิคร้าบบบบบบ พวกข้ากลัวที่ไหนกันล่ะ!!”
.
.
.
“ยังเป็นตัวบวกคนแรกไม่เปลี่ยนเลยนะเรียวตะ”
“โทษที พอดีมันคันปากอยากบวกด้วย” ผ่านไปหลายนาที อากาเนะ มิซาเอะและเรียวตะก็ทำการปัดเป่าเหล่าวิญญาณในคฤหาสน์แห่งนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มิซาเอะก็บ่นใส่ยมทูตหนุ่มที่มักชอบพูดจาชวนตีทันที
“แต่เอาจริงเมื่อกี้ก็ทำเอาตึงมือเหมือนกันนะ” อากาเนะพูด “แต่ว่านะคุณมิซาเอะ ชิกิงามิที่บอกว่าจะให้นี่?”
“อ้อใช่ๆ เป็นตัวใหม่ที่มีฝีมือร้ายกาจใช้ได้เลยแหละ” แล้วมิโกะสาวก็หยิบลูกแก้วออกมาหนึ่งลูกและวางบนมือของเด็กสาว “ที่ให้ก็ไม่ใช่อะไรหรอก ไอ่ตัวนี้มันขอร้องฉันเป็นการส่วนตัวเลยว่าอยากมาอยู่กับเธอน่ะ”
“?” ประโยคของมิซาเอะทำเอาอากาเนะทำหน้างง แล้วเธอก็ส่องลูกแก้วเพื่อมองดูว่าชิกิงามิที่อยู่ในนั้นเป็นตัวอะไร พอเธอเห็นมันก็ทำเบิกตากว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อว่ามิโกะสาวจะให้ชิกิงามิตัวนี้กับเธอ
“ทำอากาเนะตาโตได้ต้องไม่ใช่ตัวธรรมดาชัวร์” เรียวตะที่เห็นท่าทางของเด็กสาวผมแดงก็คิดได้อย่างเดียวว่ามิซาเอะต้องให้อะไรแปลกๆมาแน่นอน พอเขาส่องลูกแก้วที่อยู่ในมือของเด็กสาวเสร็จก็มีรีแอคชั่นไม่ต่างกันเลย
“มิซาเอะ เจ้าจะเอาไอ่ตัวนี้ให้อากาเนะจริงดิ”
“จริง”
กริ๊งๆ~
“แป๊บนะมีคนโทรมา” แต่ในระหว่างนั้นเองเสียงโทรศัพท์ของมิซาเอะก็ดังขึ้น พอเธอเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครโทรมาก็รับสายทันที
“ฮัลโหลอิจิจิคุง มีอะไรรึเปล่า” ซึ่งคนที่โทรมาก็คืออิจิจิ ซึ่งเธอเดาว่ามีงานเข้ามาแน่นอน
“อ่าคุณชิโรงาเนะ ฟุบูกิ อากาเนะเค้าอยู่กับคุณรึเปล่าครับ?”
“หือ? จะคุยกับอากาเนะเหรอ” หญิงสาวเลิกคิ้วด้วยความสงสัย
“ครับ”
“งั้นเดี๋ยวให้อากาเนะถือสายเลยนะ” แล้วเธอก็ยื่นโทรศัพท์ให้อากาเนะมาคุยต่อ
“ฮัลโหลค่ะคุณอิจิจิ ไม่ทราบว่ามีอะไรรึเปล่าคะ”
“คุณฟุบูกิ พรุ่งนี้ช่วยมาที่คาวาซากิได้มั้ยครับ พอดีว่ามีงานด่วนให้เธอไปทำที่นั่นน่ะครับ”
“คาวาซากิ?” เด็กสาวเอ่ยด้วยความแปลกใจ “พรุ่งนี้คือต้องไปที่คานางาวะเลยเหรอคะ”
“ครับ” สิ้นคำตอบของอิจิจิ อากาเนะที่ถือสายอยู่ทำหน้าหนักใจไปพักนึงก่อนที่จะตอบตกลงรับงานนี้
“โอเคค่ะ พรุ่งนี้ฉันต้องไปกี่โมงเหรอคะ”
“เดี๋ยวผมไปรับเธอเองครับ รายละเอียดของงานจะบอกในวันพรุ่งนี้นะครับ”
“เข้าใจแล้วค่ะ พรุ่งนี้ต้องขอรบกวนด้วยนะคะ”
ตู๊ด!!
“พรุ่งนี้ไปทำงานที่คานางาวะเหรอ” มิซาเอะถาม
“ค่ะ คุณอิจิจิเขาบอกว่าจะบอกรายละเอียดวันพรุ่งนี้ด้วย”
“จู่ๆให้ภารกิจล่วงหน้ามาแบบนี้มันรู้สึกเหมือนมีอะไรไม่ชอบมาพากลยังไงก็ไม่รู้” เรียวตะออกความเห็น “ขอให้เป็นงานง่ายๆแบบวันเดียวเสร็จเหมือนอย่างทุกทีเถอะ”
.
.
.
ในเวลาเดียวกัน
จิยูกาโอกะ โตเกียว
“ยินดีต้อนรับค่ะ ไม่ทราบว่ารับอะไรดีคะ”
“…เอาเป็นสตอร์เบอร์รี่ช็อตเค้กชิ้นนึงกับคาราเมลแม็คคิอาโต้ครับ”
“สองรายการทั้งหมด 1500 เยนค่ะ กรุณารอซักครู่นะคะ” ในเวลาเดียวกันนั้นเอง โกโจได้มาที่คาเฟ่เล็กๆแห่งหนึ่งในย่านจิยูกาโอกะที่มีพนักงานทำงานแค่คนเดียวและสั่งของกินรวมถึงจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตไปเป็นที่เรียบร้อย เขามองหาโต๊ะที่ตัวเองจะนั่งไปพักนึงและไปนั่งทันทีเมื่อหาที่ได้แล้ว
แต่โต๊ะที่เขาไปนั่งนั้นมันมีคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้สนใจอะไร
“เลิกได้เลิกนะนิสัยชอบมาสายของนายน่ะ โกโจ” ชายหนุ่มเรือนผมสีส้ม นัยน์ตาสีเทาสวมแว่นตากลมกรอบทองที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันเอ่ยด้วยความหงุดหงิดในขณะที่อ่านหนังสืออยู่
“เฮ้ๆ แค่ห้านาทีเองนะใจเย็นๆสิ” คนผมขาวกลับไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไร “แต่ขอบใจที่มาตามนัดนะครับ คุณผู้ช่วยตัวแทนผู้นำตระกูลฟุบูกิ ฟุบูกิ ฮิโรโตะคุง”
“อย่าเรียกชื่อฉันซะเต็มยศได้มั้ย ได้ยินจากปากนายแล้วขนลุกชะมัด” ชายผมส้มปิดหน้าหนังสือและทำหน้าเบื่อหน่ายใส่
เพราะคนที่โกโจนัดมาคุยด้วยในวันนี้นั้นมีชื่อว่า ฟุบูกิ ฮิโรโตะ เพื่อนร่วมรุ่นของเขาและเป็นว่าที่ผู้ใช้คุณไสยระดับ 1 อีก และหลังจากที่เรียนจบไปได้ปีสองปี เขาก็ได้เป็นผู้ช่วยตัวแทนผู้นำตระกูลฟุบูกิอย่างฟุบูกิ เซย์จิ หรือก็คือพ่อของเขาเอง
แถมนามสกุลก็ชัดขนาดนี้คงไม่ต้องบอกนะว่าเหมือนใคร
“แล้ว…วันนี้นายนัดฉันมาเรื่องอะไร?” ฮิโรโตะถาม
“นั่นสินะ ที่นัดมาคุยกันวันนี้น่ะ…” คนผมขาวทิ้งช่วงไว้ในขณะที่ตัวเองเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์หารูปอยู่ ฮิโรโตะเลยดื่มลาเต้เย็นเป็นการรอ “รู้จักคนนี้รึเปล่า”
“?!!” พอโกโจหารูปเจอแล้วก็หันหน้าจอให้อีกฝ่ายดู แต่พอฮิโรโตะได้เห็นรูปที่โกโจเปิดถึงกับหยุดดื่มและวางแก้วลาเต้อย่างไวจากนั้นก็คว้าโทรศัพท์จากในมือ
“รีแอคชั่นแบบนั้นมันอะไรกันครับ ฮิโรโตะคุง?”
“นี่อากาเนะจังไม่ใช่เหรอ!? แล้วยูนิฟอร์มนั่นคือเข้าเรียนโรงเรียนไสยเวทแล้ว?” ประโยคของฮิโรโตะทำเอาโกโจคิ้วกระตุก
“รู้จัก?”
“เออดิ! นี่ลูกพี่ฮิโรมิเลยนะเฟ้ย” คนผมส้มเอ่ยด้วยความตื่นเต้น “แต่…โห ไม่ได้เจอกันนานโตขึ้นเยอะเลยแฮะ”
“แป๊บนะฮิโรโตะคุง ฮิโรมินี่ใคร?” โกโจยกมือแทรก
“ก็พี่ฉันไง”
“พี่เธอชื่อฮิโตมิไม่ใช่เหรอ” คนผมขาวเอ่ยเสียงเครียด เพราะเท่าที่รู้จักกันมาฮิโรโตะมีพี่สาวอยู่คนนึงชื่อฮิโตมิและเป็นว่าที่ผู้ใช้คุณไสยระดับ 1 เหมือนกับฮิโรโตะ แต่จู่ๆอีกฝ่ายกลับพูดชื่อไม่คุ้นหูอย่างฮิโรมิมันทำให้เขาสงสัยมากว่าเป็นใคร
“อ๋อ…ก็ใช่ไง” ฮิโรโตะตอบเสียงเรียบ แต่โกโจกลับทำหน้าเครียดกว่าเดิม “คือฉันมีพี่สาวสองคน พี่ฮิโรมิเป็นคนแรก พี่ฮิโตมิเป็นคนรอง ส่วนฉันเป็นคนเล็ก พี่ฮิโตมินายรู้จักอยู่แล้วฉันจะไม่พูดถึงก็แล้วกัน ส่วนพี่ฮิโรมินี่เป็นคนเดียวในบ้านที่ไม่มีพลังไสยเวทเลยแต่บ้านฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ แล้วหลังจากนั้นหลายปีพี่ฮิโรมิก็มีลูกซึ่งก็คืออากาเนะจัง พูดง่ายๆก็คือพี่ฮิโรมิเป็นแม่อากาเนะจังนั่นแหละ”
“…” โกโจที่ได้ฟังพูดอะไรไม่ออก ส่วนฮิโรโตะก็จิบลาเต้ต่อเพราะคอแห้ง
“แต่ก็นะ พออากาเนะจังอายุ 3 ขวบเท่านั้นแหละ จู่ๆทั้งพี่เขยแล้วก็พี่ฮิโรมิโดนพวกบ้านฮิรามารุฆ่าตายและลักพาตัวอากาเนะไปเลี้ยงเองและรอฆ่าเมื่อถึงเวลา ไอ่เวร…พูดแล้วหัวร้อนเลย”
“คาราเมลแม็คคิอาโต้กับสตอร์เบอร์รี่ช็อตเค้กได้แล้วค่ะ” ในตอนนั้นเอง พนักงานสาวก็ยกออเดอร์ที่โกโจสั่งไปมาเสิร์ฟและเดินจากไปเมื่อวางของเสร็จ
“แล้ว…เธอไปเจออากาเนะได้ไงเหรอ” โกโจถาม
“ก็วันตัดสินคดีของอากาเนะจังคือคุณชิโรงาเนะเค้าชนะคดี หลังจากนั้นพ่อฉันก็เรียกคุณชิโรงาเนะไปคุยเรื่องอากาเนะจังเป็นการส่วนตัวนิดหน่อย วันนั้นฉันกับพี่ฮิโตมิไปด้วยก็เลยได้เป็นพี่เลี้ยงเด็กชั่วคราว”
“โอเครู้เรื่อง” คนผมขาวพูดไปพลางกินเค้กไปด้วย “แล้วเรื่องการตายของพ่อแม่อากาเนะนี่คือพวกเธอทำอะไรไม่ได้เลยเหรอ”
“เออมันทำอะไรไม่ได้” ฮิโรโตะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “คือตัวจริงมันตายไปแล้วไง แต่ดันมีตัวปลอมมาสวมรอยแถมแอ็คติ้งเหมือนตัวจริงจนไม่อยากจะยอมรับเลย แล้วพวกฉันทำอะไรได้? มีแต่จำใจเล่นไปตามน้ำเท่านั้นแต่ก็ไม่คิดว่าพวกนั้นจะกล้าเอาคำสาประดับหนึ่งไปฆ่าอากาเนะจังด้วยซ้ำ”
“ผมว่าพวกเขาคงแค้นหนักจนกู่ไม่กลับแล้วเถอะ” โกโจออกความเห็น “ที่นัดเธอมาก็คือจะคุยเรื่องอากาเนะนี่แหละ แต่ไหนๆเธอก็รู้จักแบบนี้แล้วก็คุยง่ายหน่อย”
“นั่นหลานฉันนะ” ชายหนุ่มยิ้มแห้ง “แล้วอากาเนะจังไปทำอะไรไว้นายถึงได้เรียกฉันมาคุยล่ะ?”
“เธอรู้ใช่มั้ยว่าอากาเนะมีอะไรถึงได้โดนคนจากตระกูลฮิรามารุไล่ฆ่า” ฮิโรโตะที่ได้ฟังประโยคของโกโจก็นิ่งไปพักนึงก่อนที่จะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“วิชาคุณไสยน้ำแข็งพันปีกับวิญญาณคำสาประดับพิเศษยูกิฮิเมะ ทำไม?”
“เมื่อประมาณเดือนก่อน อากาเนะเริ่มใช้อาคมนี้ปัดเป่าคำสาป แล้วหลังจากนั้นหลายวันยูกิฮิเมะก็ตื่นขึ้นมาแล้ว”
“?!!” สิ้นประโยคของคนผมขาว ฮิโรโตะก็อึ้งไปชั่วขณะก่อนที่จะถามอีกฝ่ายเสียงเบา “นายไม่ได้โกหกฉันใช่มั้ย”
“อันนี้เรื่องจริง เพราะผมเห็นวิชาคุณไสยของอากาเนะรวมทั้งเจอกับยูกิฮิเมะแล้วด้วย”
เพล้ง!!
“?!” จู่ๆเสียงของแตกดังขึ้นจากทางเคาน์เตอร์ของร้านทำเอาสองหนุ่มหันไปหาอย่างไว
“ขอโทษค่ะ จะรีบเก็บเดี๋ยวนี้ค่ะ!” พนักงานสาวก้มหัวขอโทษและรีบเก็บกวาดเศษแก้วเซรามิกที่ตัวเองทำแตกไป ชายหนุ่มทั้งสองคนก็ได้แต่พยักหัวตอบและกลับไปคุยกันต่อ
ถ้าพวกคุณสงสัยว่าแล้วลูกค้าคนอื่นไม่ว่าเหรอ
คำตอบคือในร้านนี้ไม่มีลูกค้าคนอื่นเลยนอกจากสองคนนี้จ้า
“โกโจ ฉันขอตั้งสติแป๊บนึงนะ” ฮิโรโตะยกมือห้ามข้างนึงในขณะที่มืออีกข้างกำลังจับหน้าผากตัวเองเพื่อสรุปเรื่องที่โกโจเล่ามา “คือนายจะบอกว่าอากาเนะจังใช้วิชาคุณไสยได้แล้วบวกกับยูกิฮิเมะตื่นขึ้นมาแล้ว?”
“ถูกต้อง” คนผมขาวยิ้ม “ยูกิฮิเมะนี่ตื่นหลังจากที่อากาเนะใช้วิชาคุณไสยไปไม่ถึงสัปดาห์นะ แต่ประเด็นคือวันที่อากาเนะใช้วิชาคุณไสยน้ำแข็งพันปีปัดเป่าคำสาปเป็นครั้งแรกน่ะ”
“?” คนผมส้มทำหน้างงในระหว่างที่ดื่มเครื่องดื่มของตัวเอง
“เขาโดนพวกฮิรามารุฆ่า”
“แค่กๆๆ!! ไอ้-!?” ฮิโรโตะถึงกับสำลักและเตรียมด่า แต่ก็ถูกคนตรงหน้ายกมือห้ามไว้ซะก่อน
“แต่อากาเนะใช้พลังสับขาหลอกทั้งผมและคนจากบ้านฮิรามารุก็เลยรอดมาได้”
“เกือบแล้วนะ เกือบโดนด่าแล้วนะ” ฮิโรโตะชี้นิ้วคาดโทษ “แล้วตอนนี้อากาเนะจังยังโดนพวกฮิรามารุตามล่าอยู่รึเปล่า”
“ผมว่าพวกเขาคงรอจังหวะเหมาะๆที่จะฆ่าอยู่นะ แต่จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีอะไรผิดปกติเลย” สิ้นประโยคของโกโจ ฮิโรโตะก็นั่งเงียบแล้วใช้ความคิดไปพักใหญ่ก่อนที่จะพิมพ์อะไรบางอย่างลงไปในโทรศัพท์ตัวเอง
“ฉันจะเอาเรื่องที่นายเล่ามาทั้งหมดไปคุยที่บ้านใหญ่”
“โห~ ดูท่าจะเป็นเรื่องใหญ่จริงๆนะเนี่ย” โกโจพูด “แล้วนี่เมื่อไหร่บ้านเธอจะมีผู้นำตระกูลกันล่ะครับ มันนานแล้วนะ”
“…พูดงี้มาต่อยกันเลยมั้ย” ฮิโรโตะกำหมัดเตรียมต่อยคนตรงข้าม เพราะตระกูลฟุบูกินั้นไม่มีผู้นำตระกูลเป็นเวลานานมากแล้ว แถมยังโดนโกโจ ซาโตรุที่เป็นถึงผู้นำตระกูลโกโจมาแซะกันแบบนี้มันทำให้เขาอยากจะลุกขึ้นไปต่อยจริงๆ
“สรุปคือเธอจะเอาเรื่องที่คุยกันวันนี้ไปประชุมที่บ้านเธอ?”
“เออ ฉันไม่ยอมให้อากาเนะจังมีชะตากรรมเหมือนกับพี่ฮิโรมิหรอก” แล้วเขาก็ลุกขึ้นและออกจากร้านพร้อมกับแก้วลาเต้ที่ใกล้หมดแล้วในมือ แน่นอนว่าเขาจ่ายเงินก่อนแล้วด้วย
“อ้อจริงสิ! ขอบใจสำหรับแฟ้มข้อมูลของฟุบูกิ เรียวตะเมื่อตอนนั้นด้วยนะครับ”
“?!!!” แต่ในจังหวะที่ฮิโรโตะกำลังจะเดินออกนั้นก็ชะงักไปด้วยประโยคของคนผมขาว ถึงอย่างนั้นเขาก็หันมาพยักหน้าตอบแล้วออกจากร้านไปในที่สุด
“ฮึๆๆ ยังหัวร้อนง่ายไม่เปลี่ยนเลยนะฮิโรโตะ”
‘แล้วนี่เมื่อไหร่บ้านเธอจะมีผู้นำตระกูลกันล่ะครับ มันนานแล้วนะ’
“เดี๋ยวนายก็รู้เองแหละ โกโจ ซาโตรุ” หลังจากที่ฮิโรโตะออกมาจากคาเฟ่มาแล้ว เขาก็เดินไปเรื่อยๆพลันนึกถึงประโยคที่โกโจถามเขาไว้เรื่องผู้นำตระกูล จนกระทั่งเขาเห็นรถเก๋งสีดำป้ายทะเบียนคุ้นตาจอดอยู่เขาก็เดินตรงไปหารถคันนั้นและเปิดประตูขึ้นฝั่งเบาะหน้าไป หลังจากนั้นรถก็ถูกขับออกไปโดยฝีมือของใครบางคน
“สรุปโกโจนัดนายไปคุยอะไร ฮิโรโตะ” หญิงสาวเรือนผมสีม่วง นัยน์ตาสีเทาเหมือนกับฮิโรโตะที่นั่งเบาะคนขับถามในระหว่างที่ขับรถ
“คุยเรื่องอากาเนะจังน่ะพี่ฮิโตมิ”
“ห้ะ!?! คราวที่แล้วก็เรื่องคุโจ เรียวตะ คราวนี้เป็นอากาเนะจังเหรอ?!!” เธอร้องเสียงดัง เพราะคนที่มารับฮิโรโตะนั้นคือพี่สาวของเขา ฟุบูกิ ฮิโตมินั่นเอง
“พี่ๆ แต่โกโจเรียกคุโจ เรียวตะว่าฟุบูกิ เรียวตะนะ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเครียดเพราะเรื่องข้อมูลของเรียวตะที่โกโจไปได้มานั้นมันมาจากเขาเอง แต่เขาไม่ได้บอกโกโจเรื่องที่เรียวตะไปเปลี่ยนนามสกุลจากคุโจเป็นฟุบูกิเลย “หมอนั่นไปรู้มาได้ไงว่าคุโจ เรียวตะคนนั้นเค้าไปเปลี่ยนนามสกุลเป็นฟุบูกิวะ”
“นายไม่ได้บอกโกโจเรื่องที่เรียวตะเปลี่ยนนามสกุล?” ฮิโตมิถาม
“สาบานเลยว่าไม่ได้บอก” ฮิโรโตะทำหน้ามุ่ย “แต่จะบอกว่าวันนี้โดนหมอนั่นแซะเรื่องตำแหน่งผู้นำตระกูลบ้านเราด้วย”
“โดนแซะไปแบบนั้นนายคงไม่ได้หลุดเรื่องพินัยกรรมว่าด้วยตำแหน่งผู้นำตระกูลของเราใช่มั้ย” ฮิโตมิถามอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ฮิโรโตะกลับยิ้มร่าและตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเริงร่า
“ไม่หลุด~ กะจะไปเซอร์ไพรซ์ทั้งพวกสามตระกูลใหญ่และพวกเบื้องบนให้พูดไม่ออกเลยล่ะนะ”
“ดีแล้ว เราต้องเก็บเรื่องนี้ให้เงียบที่สุดอย่าให้พวกฮิรามารุมันรู้ได้ล่ะ” หญิงสาวเอ่ย “แต่เค้าจะรับตำแหน่งมั้ยก็อีกเรื่องเนี่ยสิ นายคิดว่าไง?”
“สำหรับผมล่ะก็ ผมอยากให้เค้ารับนะไหนๆก็มีไอ้นั่นตามที่พินัยกรรมบอกไว้แล้วนี่” คนผมส้มพูด “แต่ก็นั่นแหละ เราไม่มีสิทธิไปบังคับเค้าหรอก ผมอยากให้เค้าตัดสินใจเอง”
“เฮ้อ~ พวกเราคงได้แต่ภาวนากับขายตรงเรื่องบ้านเราให้ฟังแล้วล่ะ” ฮิโตมิถอนหายใจ ว่าด้วยตำแหน่งผู้นำตระกูลฟุบูกิที่ไม่มีมาหลายปีนั้น สาเหตุเป็นเพราะในบรรดาคนในตระกูลที่มีตัวตนอยู่จนถึงปัจจุบันนั้นไม่มีใครที่มีบางสิ่งที่พินัยกรรมได้ระบุไว้ทำให้ไม่มีใครได้รับตำแหน่งนี้ไป
แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นทำให้ผู้ช่วยตัวแทนผู้นำตระกูลคนที่สองอย่างเธอต้องมาเครียดจนหัวหมุน
เพราะประเด็นที่ทำให้เธอต้องมาเครียดแทนนั้นกลับเป็นเด็กสาวที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้น้องชายของเธอถูกโกโจเรียกไปคุยอย่างฟุบูกิ อากาเนะ
ทำไมน่ะเหรอ
‘ขอร้องล่ะอากาเนะจัง ช่วยรับตำแหน่งเจ้าบ้านทีเถอะ’
เพราะพินัยกรรมได้เขียนไว้ว่า
หากผู้ใดในตระกูลฟุบูกิเกิดมาแล้วมีวิชาคุณไสยน้ำแข็งพันปี ผู้นั้นจะได้สิทธิในการเป็นผู้นำตระกูลฟุบูกิทันที
หากมีใครคัดค้านก็จงพิสูจน์ตัวเองว่าตนนั้นเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำตระกูล
.
.
.
ต็อกๆ : เรากลับมาอัพแล้วนะทุกคน จัดให้กันไปแบบยาวๆเลย แถมเรามีตัวละครใหม่มาเพิ่มอีกสองตัวซึ่งก็คือฮิโรโตะและฮิโตมิ ทั้งคู่เป็นน้องของแม่อากาเนะจังและเป็นอาอีก อิมเมจก็จะประมาณนี้
สนุกไม่สนุกยังไงก็เม้นกันเข้ามาได้นะคะ จะได้มีกำลังใจในการแต่งต่อไป
สุดท้ายนี้เราอยากจะบอกทุกคนว่า
เราเรียนจบม.6และติดพอร์ตมฟล.แล้วนะคะทุกโคนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
เจอกันตอนหน้า บ๊ายบายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
Cr.
ความคิดเห็น