NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (ss1+2+3) | Fic Jujutsu Kaisen x OC | The Grim reaper eye

    ลำดับตอนที่ #18 : ฟุบูกิ ฮิโรโตะ

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ค. 67


    กันยายน 2018

    ณ คฤหาสน์ร้างแห่งหนึ่ง จังหวัดอิบารากิ

     

     

     

    “นี่คุณมิซาเอะ”

    “ว่า?”

    “แรงกดดันที่นี่เยอะกว่าที่คิดแฮะ…” หนึ่งเดือนต่อมาหลังจากการตื่นขึ้นของยูกิฮิเมะ วันนี้อากาเนะก็ได้รับภารกิจปัดเป่าคำสาปที่คฤหาสน์ร้างสไตล์โมเดิร์นแห่งหนึ่งในจังหวัดอิบารากิ

     

     

    ซึ่งเธอไม่ได้มาทำภารกิจนี้คนเดียว

     

     

     

    เพราะเธอได้มิซาเอะที่กลับเข้าสู่วงการผู้ใช้คุณไสยมาได้ซักพักแล้วมาดูแลด้วย

     

     

     

    บอกเลยว่าเป็นอะไรที่เซอร์ไพรซ์หนักมาก

     

     

     

     

    “จะเยอะก็ไม่แปลกหรอก ก็ที่นี่เมื่อก่อนครอบครัวที่เป็นเจ้าของคฤหาสน์นี้และคนรับใช้อีกนับสิบถูกฆาตกรรมยกครัวน่ะ” มิซาเอะอธิบายไปในระหว่างที่สำรวจภายในบ้านพร้อมกับอากาเนะ “แล้วหลังจากนั้นก็มีข่าวลือจนหนาหูว่ามีคนเห็นวิญญาณของทุกคนที่อยู่ที่นี่กำลังทำกิจกรรมเหมือนตอนที่ยังมีชีวิตอยู่เด๊ะๆ แถมยังเฮี้ยนจัดจนชนิดที่ว่าทำคนที่ไม่เชื่อเรื่องผีสางเลยกลับกลายเป็นเชื่อสุดๆไปเลยล่ะ”

    “อันนี้ได้ข้อมูลมาจากอาจารย์โกโจใช่มั้ยคะ” เด็กสาวถาม

    “อือฮึ ก็ไม่อยากจะยอมรับเท่าไหร่ว่าไอ่คนแด๊ดแด๋แบบนั้น-โอ๊ะ?” มิโกะสาวที่กำลังนินทาโกโจอยู่นั้นก็มีวิญญาณเด็กผู้หญิงในชุดนอนสีขาวเปื้อนเลือดยืนแสยะยิ้มอย่างสยดสยองตรงทางเดินที่พวกเธอยืนอยู่ไม่ไกลนัก จากนั้นเธอก็พุ่งตัวมาหาหญิงสาวทั้งสองและต่อยหมัดลงกับพื้นจนเกิดรอยร้าวเป็นวงกว้าง แต่มิซาเอะกับอากาเนะกระโดดถอยหลบได้ทันในวินาทีสุดท้ายก่อนที่หมัดจะถึงพื้น

    “มาเล่นกันเถอะ~” วิญญาณตนนั้นกวักมือเชิญชวนพวกเธอ ไม่นานก็มีวิญญาณตนอื่นๆปรากฏตัวออกมาอีกเป็นโขยงและกวักมือให้มาหาพวกเขา

    “โอ้โห เล่นหมาหมู่อีกแล้วเหรอ” เรียวตะออกมาจากลูกแก้วและพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “ครั้งนี้ข้าขอลุยด้วยได้มั้ย เห็นเจ้าพวกนี้แล้วคันมือ”

    “ตามใจ แต่อย่าให้คฤหาสน์นี่พังก็พอ” มิซาเอะอนุญาตให้เรียวตะมาช่วยอีกแรงแล้วหันไปคุยกับอากาเนะบ้าง “ถ้าทำงานนี่เสร็จเดี๋ยวมีอะไรจะให้ด้วยนะ”

    “อย่าบอกนะว่าเป็นชิกิงามิ?” เด็กสาวขมวดคิ้ว แต่มิซาเอะไม่พูดอะไรนอกจากยักไหล่ทำเอาอากาเนะถึงกับส่ายหัวเอือมระอาเพราะชิกิงามิที่เธอมีจะได้มาจากมิซาเอะตลอด

    “สงสัยต้องรีบจัดการให้เสร็จซะแล้วสิ” แต่ไม่นานอากาเนะกลับฉีกยิ้มอย่างมีเล่ห์นัยในขณะที่เอาดาบออกมาจากถุงดาบ ทางมิซาเอะกับเรียวตะที่เห็นว่าเด็กสาวเริ่มเข้าโหมดทำงานแล้วก็ยืดเส้นยืดสายเตรียมจัดการเหล่าวิญญาณแล้ว

    “นี่พวกแกรู้รึเปล่าพวกแกเล่นอยู่กับใคร” วิญญาณชายแก่ผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์พูดด้วยน้ำเสียงเดือดดาล แต่สามคนนั้นกลับไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวแต่อย่างใด

    “ไม่รู้และไม่คิดจะรู้ด้วย” เรียวตะตอบด้วยน้ำเสียงกวนประสาท ทำเอาพวกวิญญาณนั้นโมโหกว่าเดิมและพุ่งเข้าไปหาสามคนนั้นทันที

    “งั้นมาเป็นตัวตายตัวแทนซะดีๆ!!”

    “ก็มาดิคร้าบบบบบบ พวกข้ากลัวที่ไหนกันล่ะ!!”

     

     

     

     

     

     

     

     

    .

    .

    .

     

    “ยังเป็นตัวบวกคนแรกไม่เปลี่ยนเลยนะเรียวตะ” 

    “โทษที พอดีมันคันปากอยากบวกด้วย” ผ่านไปหลายนาที อากาเนะ มิซาเอะและเรียวตะก็ทำการปัดเป่าเหล่าวิญญาณในคฤหาสน์แห่งนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มิซาเอะก็บ่นใส่ยมทูตหนุ่มที่มักชอบพูดจาชวนตีทันที

    “แต่เอาจริงเมื่อกี้ก็ทำเอาตึงมือเหมือนกันนะ” อากาเนะพูด “แต่ว่านะคุณมิซาเอะ ชิกิงามิที่บอกว่าจะให้นี่?”

    “อ้อใช่ๆ เป็นตัวใหม่ที่มีฝีมือร้ายกาจใช้ได้เลยแหละ” แล้วมิโกะสาวก็หยิบลูกแก้วออกมาหนึ่งลูกและวางบนมือของเด็กสาว “ที่ให้ก็ไม่ใช่อะไรหรอก ไอ่ตัวนี้มันขอร้องฉันเป็นการส่วนตัวเลยว่าอยากมาอยู่กับเธอน่ะ”

    “?” ประโยคของมิซาเอะทำเอาอากาเนะทำหน้างง แล้วเธอก็ส่องลูกแก้วเพื่อมองดูว่าชิกิงามิที่อยู่ในนั้นเป็นตัวอะไร พอเธอเห็นมันก็ทำเบิกตากว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อว่ามิโกะสาวจะให้ชิกิงามิตัวนี้กับเธอ

    “ทำอากาเนะตาโตได้ต้องไม่ใช่ตัวธรรมดาชัวร์” เรียวตะที่เห็นท่าทางของเด็กสาวผมแดงก็คิดได้อย่างเดียวว่ามิซาเอะต้องให้อะไรแปลกๆมาแน่นอน พอเขาส่องลูกแก้วที่อยู่ในมือของเด็กสาวเสร็จก็มีรีแอคชั่นไม่ต่างกันเลย

    “มิซาเอะ เจ้าจะเอาไอ่ตัวนี้ให้อากาเนะจริงดิ”

    “จริง”

     

    กริ๊งๆ~

     

    “แป๊บนะมีคนโทรมา” แต่ในระหว่างนั้นเองเสียงโทรศัพท์ของมิซาเอะก็ดังขึ้น พอเธอเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครโทรมาก็รับสายทันที

    “ฮัลโหลอิจิจิคุง มีอะไรรึเปล่า” ซึ่งคนที่โทรมาก็คืออิจิจิ ซึ่งเธอเดาว่ามีงานเข้ามาแน่นอน

    อ่าคุณชิโรงาเนะ ฟุบูกิ อากาเนะเค้าอยู่กับคุณรึเปล่าครับ?”

    “หือ? จะคุยกับอากาเนะเหรอ” หญิงสาวเลิกคิ้วด้วยความสงสัย

    ครับ

    “งั้นเดี๋ยวให้อากาเนะถือสายเลยนะ” แล้วเธอก็ยื่นโทรศัพท์ให้อากาเนะมาคุยต่อ

    “ฮัลโหลค่ะคุณอิจิจิ ไม่ทราบว่ามีอะไรรึเปล่าคะ”

    คุณฟุบูกิ พรุ่งนี้ช่วยมาที่คาวาซากิได้มั้ยครับ พอดีว่ามีงานด่วนให้เธอไปทำที่นั่นน่ะครับ

    “คาวาซากิ?” เด็กสาวเอ่ยด้วยความแปลกใจ “พรุ่งนี้คือต้องไปที่คานางาวะเลยเหรอคะ”

    ครับ” สิ้นคำตอบของอิจิจิ อากาเนะที่ถือสายอยู่ทำหน้าหนักใจไปพักนึงก่อนที่จะตอบตกลงรับงานนี้

    “โอเคค่ะ พรุ่งนี้ฉันต้องไปกี่โมงเหรอคะ”

    เดี๋ยวผมไปรับเธอเองครับ รายละเอียดของงานจะบอกในวันพรุ่งนี้นะครับ

    “เข้าใจแล้วค่ะ พรุ่งนี้ต้องขอรบกวนด้วยนะคะ”


    ตู๊ด!!

     

    “พรุ่งนี้ไปทำงานที่คานางาวะเหรอ” มิซาเอะถาม

    “ค่ะ คุณอิจิจิเขาบอกว่าจะบอกรายละเอียดวันพรุ่งนี้ด้วย”

    “จู่ๆให้ภารกิจล่วงหน้ามาแบบนี้มันรู้สึกเหมือนมีอะไรไม่ชอบมาพากลยังไงก็ไม่รู้” เรียวตะออกความเห็น “ขอให้เป็นงานง่ายๆแบบวันเดียวเสร็จเหมือนอย่างทุกทีเถอะ”

     

     

     

     

     

     

    .

    .

    .

    ในเวลาเดียวกัน

    จิยูกาโอกะ โตเกียว


    “ยินดีต้อนรับค่ะ ไม่ทราบว่ารับอะไรดีคะ”

    “…เอาเป็นสตอร์เบอร์รี่ช็อตเค้กชิ้นนึงกับคาราเมลแม็คคิอาโต้ครับ”

    “สองรายการทั้งหมด 1500 เยนค่ะ กรุณารอซักครู่นะคะ” ในเวลาเดียวกันนั้นเอง โกโจได้มาที่คาเฟ่เล็กๆแห่งหนึ่งในย่านจิยูกาโอกะที่มีพนักงานทำงานแค่คนเดียวและสั่งของกินรวมถึงจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตไปเป็นที่เรียบร้อย เขามองหาโต๊ะที่ตัวเองจะนั่งไปพักนึงและไปนั่งทันทีเมื่อหาที่ได้แล้ว

     

    แต่โต๊ะที่เขาไปนั่งนั้นมันมีคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้สนใจอะไร

     

    “เลิกได้เลิกนะนิสัยชอบมาสายของนายน่ะ โกโจ” ชายหนุ่มเรือนผมสีส้ม นัยน์ตาสีเทาสวมแว่นตากลมกรอบทองที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันเอ่ยด้วยความหงุดหงิดในขณะที่อ่านหนังสืออยู่

    “เฮ้ๆ แค่ห้านาทีเองนะใจเย็นๆสิ” คนผมขาวกลับไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไร “แต่ขอบใจที่มาตามนัดนะครับ คุณผู้ช่วยตัวแทนผู้นำตระกูลฟุบูกิ ฟุบูกิ ฮิโรโตะคุง

    “อย่าเรียกชื่อฉันซะเต็มยศได้มั้ย ได้ยินจากปากนายแล้วขนลุกชะมัด” ชายผมส้มปิดหน้าหนังสือและทำหน้าเบื่อหน่ายใส่

    เพราะคนที่โกโจนัดมาคุยด้วยในวันนี้นั้นมีชื่อว่า ฟุบูกิ ฮิโรโตะ เพื่อนร่วมรุ่นของเขาและเป็นว่าที่ผู้ใช้คุณไสยระดับ 1 อีก และหลังจากที่เรียนจบไปได้ปีสองปี เขาก็ได้เป็นผู้ช่วยตัวแทนผู้นำตระกูลฟุบูกิอย่างฟุบูกิ เซย์จิ หรือก็คือพ่อของเขาเอง

     

    แถมนามสกุลก็ชัดขนาดนี้คงไม่ต้องบอกนะว่าเหมือนใคร

     

    “แล้ว…วันนี้นายนัดฉันมาเรื่องอะไร?” ฮิโรโตะถาม

    “นั่นสินะ ที่นัดมาคุยกันวันนี้น่ะ…” คนผมขาวทิ้งช่วงไว้ในขณะที่ตัวเองเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์หารูปอยู่ ฮิโรโตะเลยดื่มลาเต้เย็นเป็นการรอ “รู้จักคนนี้รึเปล่า”

    “?!!” พอโกโจหารูปเจอแล้วก็หันหน้าจอให้อีกฝ่ายดู แต่พอฮิโรโตะได้เห็นรูปที่โกโจเปิดถึงกับหยุดดื่มและวางแก้วลาเต้อย่างไวจากนั้นก็คว้าโทรศัพท์จากในมือ

    “รีแอคชั่นแบบนั้นมันอะไรกันครับ ฮิโรโตะคุง?”

    “นี่อากาเนะจังไม่ใช่เหรอ!? แล้วยูนิฟอร์มนั่นคือเข้าเรียนโรงเรียนไสยเวทแล้ว?” ประโยคของฮิโรโตะทำเอาโกโจคิ้วกระตุก

    “รู้จัก?”

    “เออดิ! นี่ลูกพี่ฮิโรมิเลยนะเฟ้ย” คนผมส้มเอ่ยด้วยความตื่นเต้น “แต่…โห ไม่ได้เจอกันนานโตขึ้นเยอะเลยแฮะ”

    “แป๊บนะฮิโรโตะคุง ฮิโรมินี่ใคร?” โกโจยกมือแทรก

    “ก็พี่ฉันไง”

    “พี่เธอชื่อฮิโตมิไม่ใช่เหรอ” คนผมขาวเอ่ยเสียงเครียด เพราะเท่าที่รู้จักกันมาฮิโรโตะมีพี่สาวอยู่คนนึงชื่อฮิโตมิและเป็นว่าที่ผู้ใช้คุณไสยระดับ 1 เหมือนกับฮิโรโตะ แต่จู่ๆอีกฝ่ายกลับพูดชื่อไม่คุ้นหูอย่างฮิโรมิมันทำให้เขาสงสัยมากว่าเป็นใคร

    “อ๋อ…ก็ใช่ไง” ฮิโรโตะตอบเสียงเรียบ แต่โกโจกลับทำหน้าเครียดกว่าเดิม “คือฉันมีพี่สาวสองคน พี่ฮิโรมิเป็นคนแรก พี่ฮิโตมิเป็นคนรอง ส่วนฉันเป็นคนเล็ก พี่ฮิโตมินายรู้จักอยู่แล้วฉันจะไม่พูดถึงก็แล้วกัน ส่วนพี่ฮิโรมินี่เป็นคนเดียวในบ้านที่ไม่มีพลังไสยเวทเลยแต่บ้านฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ แล้วหลังจากนั้นหลายปีพี่ฮิโรมิก็มีลูกซึ่งก็คืออากาเนะจัง พูดง่ายๆก็คือพี่ฮิโรมิเป็นแม่อากาเนะจังนั่นแหละ”

    “…” โกโจที่ได้ฟังพูดอะไรไม่ออก ส่วนฮิโรโตะก็จิบลาเต้ต่อเพราะคอแห้ง

    “แต่ก็นะ พออากาเนะจังอายุ 3 ขวบเท่านั้นแหละ จู่ๆทั้งพี่เขยแล้วก็พี่ฮิโรมิโดนพวกบ้านฮิรามารุฆ่าตายและลักพาตัวอากาเนะไปเลี้ยงเองและรอฆ่าเมื่อถึงเวลา ไอ่เวร…พูดแล้วหัวร้อนเลย”

    “คาราเมลแม็คคิอาโต้กับสตอร์เบอร์รี่ช็อตเค้กได้แล้วค่ะ” ในตอนนั้นเอง พนักงานสาวก็ยกออเดอร์ที่โกโจสั่งไปมาเสิร์ฟและเดินจากไปเมื่อวางของเสร็จ

    “แล้ว…เธอไปเจออากาเนะได้ไงเหรอ” โกโจถาม

    “ก็วันตัดสินคดีของอากาเนะจังคือคุณชิโรงาเนะเค้าชนะคดี หลังจากนั้นพ่อฉันก็เรียกคุณชิโรงาเนะไปคุยเรื่องอากาเนะจังเป็นการส่วนตัวนิดหน่อย วันนั้นฉันกับพี่ฮิโตมิไปด้วยก็เลยได้เป็นพี่เลี้ยงเด็กชั่วคราว”

    “โอเครู้เรื่อง” คนผมขาวพูดไปพลางกินเค้กไปด้วย “แล้วเรื่องการตายของพ่อแม่อากาเนะนี่คือพวกเธอทำอะไรไม่ได้เลยเหรอ”

    “เออมันทำอะไรไม่ได้” ฮิโรโตะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “คือตัวจริงมันตายไปแล้วไง แต่ดันมีตัวปลอมมาสวมรอยแถมแอ็คติ้งเหมือนตัวจริงจนไม่อยากจะยอมรับเลย แล้วพวกฉันทำอะไรได้? มีแต่จำใจเล่นไปตามน้ำเท่านั้นแต่ก็ไม่คิดว่าพวกนั้นจะกล้าเอาคำสาประดับหนึ่งไปฆ่าอากาเนะจังด้วยซ้ำ”

    “ผมว่าพวกเขาคงแค้นหนักจนกู่ไม่กลับแล้วเถอะ” โกโจออกความเห็น “ที่นัดเธอมาก็คือจะคุยเรื่องอากาเนะนี่แหละ แต่ไหนๆเธอก็รู้จักแบบนี้แล้วก็คุยง่ายหน่อย”

    “นั่นหลานฉันนะ” ชายหนุ่มยิ้มแห้ง “แล้วอากาเนะจังไปทำอะไรไว้นายถึงได้เรียกฉันมาคุยล่ะ?”

    “เธอรู้ใช่มั้ยว่าอากาเนะมีอะไรถึงได้โดนคนจากตระกูลฮิรามารุไล่ฆ่า” ฮิโรโตะที่ได้ฟังประโยคของโกโจก็นิ่งไปพักนึงก่อนที่จะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

    “วิชาคุณไสยน้ำแข็งพันปีกับวิญญาณคำสาประดับพิเศษยูกิฮิเมะ ทำไม?”

    “เมื่อประมาณเดือนก่อน อากาเนะเริ่มใช้อาคมนี้ปัดเป่าคำสาป แล้วหลังจากนั้นหลายวันยูกิฮิเมะก็ตื่นขึ้นมาแล้ว” 

    “?!!” สิ้นประโยคของคนผมขาว ฮิโรโตะก็อึ้งไปชั่วขณะก่อนที่จะถามอีกฝ่ายเสียงเบา “นายไม่ได้โกหกฉันใช่มั้ย”

    “อันนี้เรื่องจริง เพราะผมเห็นวิชาคุณไสยของอากาเนะรวมทั้งเจอกับยูกิฮิเมะแล้วด้วย”

     

    เพล้ง!!

     

    “?!” จู่ๆเสียงของแตกดังขึ้นจากทางเคาน์เตอร์ของร้านทำเอาสองหนุ่มหันไปหาอย่างไว

    “ขอโทษค่ะ จะรีบเก็บเดี๋ยวนี้ค่ะ!” พนักงานสาวก้มหัวขอโทษและรีบเก็บกวาดเศษแก้วเซรามิกที่ตัวเองทำแตกไป ชายหนุ่มทั้งสองคนก็ได้แต่พยักหัวตอบและกลับไปคุยกันต่อ

     

    ถ้าพวกคุณสงสัยว่าแล้วลูกค้าคนอื่นไม่ว่าเหรอ

     

    คำตอบคือในร้านนี้ไม่มีลูกค้าคนอื่นเลยนอกจากสองคนนี้จ้า

     

     

    “โกโจ ฉันขอตั้งสติแป๊บนึงนะ” ฮิโรโตะยกมือห้ามข้างนึงในขณะที่มืออีกข้างกำลังจับหน้าผากตัวเองเพื่อสรุปเรื่องที่โกโจเล่ามา “คือนายจะบอกว่าอากาเนะจังใช้วิชาคุณไสยได้แล้วบวกกับยูกิฮิเมะตื่นขึ้นมาแล้ว?”

    “ถูกต้อง” คนผมขาวยิ้ม “ยูกิฮิเมะนี่ตื่นหลังจากที่อากาเนะใช้วิชาคุณไสยไปไม่ถึงสัปดาห์นะ แต่ประเด็นคือวันที่อากาเนะใช้วิชาคุณไสยน้ำแข็งพันปีปัดเป่าคำสาปเป็นครั้งแรกน่ะ”

    “?” คนผมส้มทำหน้างงในระหว่างที่ดื่มเครื่องดื่มของตัวเอง

    “เขาโดนพวกฮิรามารุฆ่า”

    “แค่กๆๆ!! ไอ้-!?” ฮิโรโตะถึงกับสำลักและเตรียมด่า แต่ก็ถูกคนตรงหน้ายกมือห้ามไว้ซะก่อน

    “แต่อากาเนะใช้พลังสับขาหลอกทั้งผมและคนจากบ้านฮิรามารุก็เลยรอดมาได้”

    “เกือบแล้วนะ เกือบโดนด่าแล้วนะ” ฮิโรโตะชี้นิ้วคาดโทษ “แล้วตอนนี้อากาเนะจังยังโดนพวกฮิรามารุตามล่าอยู่รึเปล่า”

    “ผมว่าพวกเขาคงรอจังหวะเหมาะๆที่จะฆ่าอยู่นะ แต่จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีอะไรผิดปกติเลย” สิ้นประโยคของโกโจ ฮิโรโตะก็นั่งเงียบแล้วใช้ความคิดไปพักใหญ่ก่อนที่จะพิมพ์อะไรบางอย่างลงไปในโทรศัพท์ตัวเอง

    “ฉันจะเอาเรื่องที่นายเล่ามาทั้งหมดไปคุยที่บ้านใหญ่”

    “โห~ ดูท่าจะเป็นเรื่องใหญ่จริงๆนะเนี่ย” โกโจพูด “แล้วนี่เมื่อไหร่บ้านเธอจะมีผู้นำตระกูลกันล่ะครับ มันนานแล้วนะ”

    “…พูดงี้มาต่อยกันเลยมั้ย” ฮิโรโตะกำหมัดเตรียมต่อยคนตรงข้าม เพราะตระกูลฟุบูกินั้นไม่มีผู้นำตระกูลเป็นเวลานานมากแล้ว แถมยังโดนโกโจ ซาโตรุที่เป็นถึงผู้นำตระกูลโกโจมาแซะกันแบบนี้มันทำให้เขาอยากจะลุกขึ้นไปต่อยจริงๆ

    “สรุปคือเธอจะเอาเรื่องที่คุยกันวันนี้ไปประชุมที่บ้านเธอ?”

    “เออ ฉันไม่ยอมให้อากาเนะจังมีชะตากรรมเหมือนกับพี่ฮิโรมิหรอก” แล้วเขาก็ลุกขึ้นและออกจากร้านพร้อมกับแก้วลาเต้ที่ใกล้หมดแล้วในมือ แน่นอนว่าเขาจ่ายเงินก่อนแล้วด้วย

    “อ้อจริงสิ! ขอบใจสำหรับแฟ้มข้อมูลของฟุบูกิ เรียวตะเมื่อตอนนั้นด้วยนะครับ”

    “?!!!” แต่ในจังหวะที่ฮิโรโตะกำลังจะเดินออกนั้นก็ชะงักไปด้วยประโยคของคนผมขาว ถึงอย่างนั้นเขาก็หันมาพยักหน้าตอบแล้วออกจากร้านไปในที่สุด

    “ฮึๆๆ ยังหัวร้อนง่ายไม่เปลี่ยนเลยนะฮิโรโตะ”

     

     

     


     


     

    ‘แล้วนี่เมื่อไหร่บ้านเธอจะมีผู้นำตระกูลกันล่ะครับ มันนานแล้วนะ’

    “เดี๋ยวนายก็รู้เองแหละ โกโจ ซาโตรุ” หลังจากที่ฮิโรโตะออกมาจากคาเฟ่มาแล้ว เขาก็เดินไปเรื่อยๆพลันนึกถึงประโยคที่โกโจถามเขาไว้เรื่องผู้นำตระกูล จนกระทั่งเขาเห็นรถเก๋งสีดำป้ายทะเบียนคุ้นตาจอดอยู่เขาก็เดินตรงไปหารถคันนั้นและเปิดประตูขึ้นฝั่งเบาะหน้าไป หลังจากนั้นรถก็ถูกขับออกไปโดยฝีมือของใครบางคน

    “สรุปโกโจนัดนายไปคุยอะไร ฮิโรโตะ” หญิงสาวเรือนผมสีม่วง นัยน์ตาสีเทาเหมือนกับฮิโรโตะที่นั่งเบาะคนขับถามในระหว่างที่ขับรถ

    “คุยเรื่องอากาเนะจังน่ะพี่ฮิโตมิ

    “ห้ะ!?! คราวที่แล้วก็เรื่องคุโจ เรียวตะ คราวนี้เป็นอากาเนะจังเหรอ?!!” เธอร้องเสียงดัง เพราะคนที่มารับฮิโรโตะนั้นคือพี่สาวของเขา ฟุบูกิ ฮิโตมินั่นเอง

    “พี่ๆ แต่โกโจเรียกคุโจ เรียวตะว่าฟุบูกิ เรียวตะนะ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเครียดเพราะเรื่องข้อมูลของเรียวตะที่โกโจไปได้มานั้นมันมาจากเขาเอง แต่เขาไม่ได้บอกโกโจเรื่องที่เรียวตะไปเปลี่ยนนามสกุลจากคุโจเป็นฟุบูกิเลย “หมอนั่นไปรู้มาได้ไงว่าคุโจ เรียวตะคนนั้นเค้าไปเปลี่ยนนามสกุลเป็นฟุบูกิวะ”

    “นายไม่ได้บอกโกโจเรื่องที่เรียวตะเปลี่ยนนามสกุล?” ฮิโตมิถาม

    “สาบานเลยว่าไม่ได้บอก” ฮิโรโตะทำหน้ามุ่ย “แต่จะบอกว่าวันนี้โดนหมอนั่นแซะเรื่องตำแหน่งผู้นำตระกูลบ้านเราด้วย”

    “โดนแซะไปแบบนั้นนายคงไม่ได้หลุดเรื่องพินัยกรรมว่าด้วยตำแหน่งผู้นำตระกูลของเราใช่มั้ย” ฮิโตมิถามอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ฮิโรโตะกลับยิ้มร่าและตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเริงร่า

    “ไม่หลุด~ กะจะไปเซอร์ไพรซ์ทั้งพวกสามตระกูลใหญ่และพวกเบื้องบนให้พูดไม่ออกเลยล่ะนะ”

    “ดีแล้ว เราต้องเก็บเรื่องนี้ให้เงียบที่สุดอย่าให้พวกฮิรามารุมันรู้ได้ล่ะ” หญิงสาวเอ่ย “แต่เค้าจะรับตำแหน่งมั้ยก็อีกเรื่องเนี่ยสิ นายคิดว่าไง?”

    “สำหรับผมล่ะก็ ผมอยากให้เค้ารับนะไหนๆก็มีไอ้นั่นตามที่พินัยกรรมบอกไว้แล้วนี่” คนผมส้มพูด “แต่ก็นั่นแหละ เราไม่มีสิทธิไปบังคับเค้าหรอก ผมอยากให้เค้าตัดสินใจเอง”

    “เฮ้อ~ พวกเราคงได้แต่ภาวนากับขายตรงเรื่องบ้านเราให้ฟังแล้วล่ะ” ฮิโตมิถอนหายใจ ว่าด้วยตำแหน่งผู้นำตระกูลฟุบูกิที่ไม่มีมาหลายปีนั้น สาเหตุเป็นเพราะในบรรดาคนในตระกูลที่มีตัวตนอยู่จนถึงปัจจุบันนั้นไม่มีใครที่มีบางสิ่งที่พินัยกรรมได้ระบุไว้ทำให้ไม่มีใครได้รับตำแหน่งนี้ไป

     

     

    แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นทำให้ผู้ช่วยตัวแทนผู้นำตระกูลคนที่สองอย่างเธอต้องมาเครียดจนหัวหมุน

     

     

    เพราะประเด็นที่ทำให้เธอต้องมาเครียดแทนนั้นกลับเป็นเด็กสาวที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้น้องชายของเธอถูกโกโจเรียกไปคุยอย่างฟุบูกิ อากาเนะ

     

     

    ทำไมน่ะเหรอ

     

     

    ‘ขอร้องล่ะอากาเนะจัง ช่วยรับตำแหน่งเจ้าบ้านทีเถอะ’

     

     

    เพราะพินัยกรรมได้เขียนไว้ว่า

     

     

     

    หากผู้ใดในตระกูลฟุบูกิเกิดมาแล้วมีวิชาคุณไสยน้ำแข็งพันปี ผู้นั้นจะได้สิทธิในการเป็นผู้นำตระกูลฟุบูกิทันที 

    หากมีใครคัดค้านก็จงพิสูจน์ตัวเองว่าตนนั้นเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำตระกูล

     

     

     

     

     

    .

    .

    .

    ต็อกๆ : เรากลับมาอัพแล้วนะทุกคน จัดให้กันไปแบบยาวๆเลย แถมเรามีตัวละครใหม่มาเพิ่มอีกสองตัวซึ่งก็คือฮิโรโตะและฮิโตมิ ทั้งคู่เป็นน้องของแม่อากาเนะจังและเป็นอาอีก อิมเมจก็จะประมาณนี้

     

     

    สนุกไม่สนุกยังไงก็เม้นกันเข้ามาได้นะคะ จะได้มีกำลังใจในการแต่งต่อไป

     

    สุดท้ายนี้เราอยากจะบอกทุกคนว่า 

     

    เราเรียนจบม.6และติดพอร์ตมฟล.แล้วนะคะทุกโคนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

     

    เจอกันตอนหน้า บ๊ายบายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

     

    Cr.themy butter

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×