คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : อาจารย์และลูกศิษย์
“ที่ข้าเล่าไปเจ้าจะเชื่อ-?!!” ทางด้านเรียวตะที่กำลังเล่าเรื่องของยูกิฮิเมะอยู่นั้น เขาก็รู้สึกได้ถึงวิญญาณของยูกิฮิเมะว่าเธอคนนั้นได้ตื่นขึ้นมาแล้ว ยมทูตหนุ่มก็สะดุดไปแวบนึงแต่ก็ยังกลับมาพูดต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เว้นแต่เขาย้ายมือข้างหนึ่งไปไว้ข้างหลังและกระดิกนิ้วเล็กน้อย จนกระทั่งโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของโกโจสั่นเหมือนมีข้อความเข้าพอเขาเปิดว่าใครส่งมาก็พบว่าเป็นเรียวตะที่ใช้พลังแฮคส่งข้อความเข้ามา
ไม่ระบุชื่อผู้ส่ง
เห้ยโกโจ นี่เรียวตะนะ
ข้าใช้พลังแฮคโทรศัพท์เจ้า
นิดหน่อยแต่เดี๋ยวจะทำให้กลับ
มาเหมือนเดิม แต่ช่วยฟังเรื่องที่
ข้าอยากบอกหน่อยได้มั้ย?
เธอแฮคโทรศัพท์ได้?
น่ากลัวชะมัด…
เดี๋ยวปั๊ดถีบหรอกไอ่นี่ จะฟังมั้ย
ครับๆๆๆ เข้าใจแล้วครับๆ
เธออยากจะบอกอะไรผมล่ะ
จำยูกิฮิเมะที่ข้าเคยเล่าให้ฟัง
ได้รึเปล่า
ยูกิฮิเมะ? ทำไมเหรอ
ยัยนั่นตื่นแล้ว
“?!!” ข้อความล่าสุดที่เรียวตะส่งมาทำเอาเจ้าของโทรศัพท์ต้องหันไปมองเรียวตะที่ยังคงคุยกับพวกเบื้องบนอยู่ ถึงสีหน้าของยมทูตหนุ่มยังคงมีรอยยิ้มอยู่แต่เขารู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายกำลังว้าวุ่นอยู่ในใจ เขาจึงส่งข้อความถามอีกฝ่ายว่าจะเอายังไง
เธอไม่ได้โกหกผมใช่มั้ย
ข้าซีเรียส
แล้วก็อย่าเล่นมุกสวัสดี
ซีเรียสด้วย
ว้า~ กำลังจะเล่นเลย
แล้วเธอจะทำยังไงต่อเหรอ
จะไปหาอากาเนะ?
ก็ใช่น่ะสิ เดี๋ยวข้าจะตัดจบ
เจ้าพวกนั้นแล้ว เจ้าจะไปด้วย
มั้ยล่ะ
ต้องไปอยู่แล้วสิครับ
ผมอยากรู้ว่าเธอคนนั้นเค้ามาดี
หรือว่ามาร้ายกันแน่
งั้นเตรียมตัวลาเจ้าพวกนี้
และsay hi กับยัยนั่นได้เลย
“เอาเป็นว่าที่ข้าพูดมาทั้งหมดน่ะ จะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่พวกเจ้าเลย” หลังจากที่เรียวตะและโกโจคุยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เรียวตะก็พูดตัดจบกับพวกเบื้องบนและบินกลับหาโกโจ
“อ้อผมลืมบอกไปอย่างนึง งานนี้ผมอยู่ข้างอากาเนะนะครับ” โกโจพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทำเอาเหล่าผู้อาวุโสกัดฟันไม่พอใจอย่างมาก “งั้นพวกผมไปก่อนนะ พอดีมีธุระด่วนเข้ามา”
“บ๊ายบาย~ ไอ้พวกโง่” เรียวตะทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงเริงร่าแล้ววาร์ปหายไปพร้อมกับโกโจทันที ทางพวกเบื้องบนที่ได้ยินประโยคเจ็บแสบของยมทูตหนุ่มก็ตะโกนด่าออกมาพร้อมกันด้วยความโกรธขั้นสุด
“ไอ้ยมทูตเวร!!!!”
.
.
.
ตึกร้าง ณ ชิโอโดเมะ
พรึ่บ!!
“?!!” เมื่อพวกเขาวาร์ปมาที่สถานที่ที่เป็นภารกิจของอากาเนะแล้ว สิ่งแรกที่พวกเขารู้สึกได้ก็คือแรงกดดันคำสาปมหาศาลที่ไม่คิดว่าจะแรงขนาดนี้
“ดูเหมือนที่มีจะมีคำสาประดับ 1 อาศัยอยู่ด้วยนะครับ” โกโจพูด
“แถมยูกิฮิเมะที่เป็นระดับพิเศษยังตื่นมาแล้วอีก ก็ยิ่งเพิ่มแรงกดดัน-”
เพล้ง!!!
“!?!!!” ในตอนนั้นเองก็มีเสียงกระจกแตกดังขึ้น พอทั้งสองคนแหงนหน้าขึ้นไปก็พบว่ามีร่างผู้หญิงสองคนกระโจนออกมาสู้กันจากหน้าต่างชั้น 5 และกำลังจะร่วงลงพื้นโดยมีผู้หญิงผมสีครามอยู่ด้านบนและผู้หญิงมีหางจิ้งจอกอยู่ด้านล่าง
“เอ๊ะเดี๋ยว ผมสีคราม…ยูกิฮิเมะ?!!” ยมทูตหนุ่มหรี่ตามองจนพบว่าคนที่มีผมสีครามนั้นเป็นยูกิฮิเมะที่เจ้าตัวตามหาอยู่นั่นเอง
“เท่านี้ก็รู้ผลแล้ว” ยูกิฮิเมะที่ตอนนี้เป็นฝ่ายได้เปรียบก็ปล่อยพลังใส่เข้าไปในดาบและเตรียมฟันจิโยะเพื่อปลิดชีพ
แต่ทว่า
“?!!” ดาบที่เธอถืออยู่ก็แตกออกเพราะรับพลังไม่ไหว จิโยะที่เห็นว่ายูกิฮิเมะเสียอาวุธไปแล้วก็ใช้หางของตัวเองแทงเข้าร่างของยูกิฮิเมะทันที
“เสร็จ-!?”
ฉัวะ!
“?!”
“คนที่ต้องพูดคำนั้นมันต้องเป็นทางนี้นะ” ในจังหวะเดียวกันที่ปีศาจจิ้งจอกเอาหางมาแทง ยูกิฮิเมะก็สร้างดาบน้ำแข็งออกมาแล้วแทงคออีกฝ่ายอย่างไร้ปราณี จากนั้นก็เอามือไปวางไว้บนหัวปีศาจจิ้งจอก
“โทษฐานที่ทำเด็กข้า” แล้วยูกิฮิเมะก็แช่แข็งร่างของจิโยะทั้งร่างและปล่อยให้ร่วงลงไปตามแรงโน้มถ่วง ส่วนตัวเองก็ใช้พลังสร้างฝูงผีเสื้อน้ำแข็งจำนวนมากมายให้มารองรับตนพอฝูงผีเสื้อบินลงมาถึงพื้นแล้วค่อยสลายไป ทางคำสาปสาวที่เพิ่งกำจัดคำสาปด้วยกันไปหมาดๆก็ทำหน้าละห้อยมองคาตานะที่ตอนนี้เหลือเพียงแค่ด้ามจับ
‘ทำพังไปซะแล้วสิ แล้วโลกในตอนนี้จะมีคนทำดาบอยู่มั้ยนะ…’
“เดี๋ยวเถอะ!!!!!” เสียงของเรียวตะดังลั่นไปทั่ว พอโกโจหันไปมองก็ไม่เห็นเรียวตะอยู่กับตัวเองแล้ว แต่กลายเป็นว่าเรียวตะตอนนี้พุ่งตัวเข้าไปกระโดดไรเดอร์คิกใส่ยูกิฮิเมะแล้ว แต่เธอก็หลบได้แถมยังจับยมทูตหนุ่มเข้ามาล็อคคอและพูดเสียงเย็น
“ไม่ได้เจอกันในรอบหลายปี บอกทีนี่คือคำทักทายของเจ้าน่ะเรียวตะ”
“ก็ป้าทำดาบพังนี่!! จ่ายเงินมา-โอ๊ยๆๆๆๆๆๆๆ?!! พอแล้วววววววววว” หญิงสาวผมสีครามล็อกคอแน่นกว่าเดิมเมื่อถูกเรียกว่าป้า เรียวตะที่เผลอหลุดคำต้องห้ามก็กรีดร้องและตีแขนเธอบอกให้พอได้แล้วก่อนที่เขาจะหายใจไม่ออก ซักพักเธอก็ยอมปล่อยอีกฝ่ายให้เป็นอิสระจนได้
“บอกทีนี่เพิ่งตื่น? แรงไม่ใช่น้อยๆเลยนะนั่น” เรียวตะพูด
“ต้องยกความดีให้ร่างสถิตนี่เลย แต่ว่าต้องฝึกกันยาวหน่อย”
“แป๊บนะ นี่แม่สิงร่างแล้ววิเคราะห์อะไรเรียบร้อยแล้วเหรอ”
“เออสิ ทักษะการต่อสู้โดยรวมถือว่าใช้ได้ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะฝึกในส่วนของการใช้พลังไสยเวทด้วย”
“อะแฮ่ม!!” ในตอนนั้นเอง โกโจที่มองมานานก็กระแอมไอขึ้นเพื่อบอกทั้งสองคนว่ายังมีตัวเองอยู่ด้วย “เรียวตะครับ อ-ธิ-บาย-มา-เลย”
“อ่าโทษทีๆ งั้นขอแนะนำให้รู้จักนะ” ยมทูตหนุ่มยกมือขอโทษคนผมขาวแล้วผายมือแนะนำหญิงสาวผมสีคราม “นี่คือยูกิฮิเมะ คำสาประดับพิเศษที่ทำตัวไม่เหมือนคำสาปตัวอื่นๆ แถมได้สมญานามจากชาวบ้านว่าราชินีหิมะเพราะอาศัยอยู่ในป่าหิมะมาตลอด และถ้าเอามารวมกันก็จะเป็น คำสาประดับพิเศษ ราชินีหิมะยูกิฮิเมะ”
“เรียวตะ นี่เจ้ามีเพื่อนคบด้วยเหรอ” ประโยคของยูกิฮิเมะทำเอาเรียวตะทำหน้ามุ่ยและเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์
“แม่ๆ ข้าก็ไม่ได้อยากได้ไอ้หมอนี่เป็นเพื่อนหรอกนะ แต่มันรู้เรื่องวิชาคุณไสยเราก็เลยติดสอยห้อยตามมา”
“ไม่ใช่เพื่อน? อย่าบอกนะว่าแฟน?”
“ใช่ที่ไหนกันเล่า!!! ให้ตายยังไงก็ไม่เอาหรอก!!!” ยมทูตตวาดลั่น ยูกิฮิเมะถึงกับอุดหูแทบไม่ทันที่จู่ๆเรียวตะตวาดดังซะขนาดนี้
“ข้าก็แค่ถามมั้ยล่ะ บอกมาว่าไอ้หมอนี่มันเป็นใคร” หญิงสาวมองคนผมขาวด้วยความสงสัย โกโจเลยแนะนำตัวเองซะเลย
“ผู้ใช้คุณไสยผู้ไร้เทียมทาน โกโจ ซาโตรุคร้าบบบบบ”
“…ห้ะ?” หญิงสาวที่ได้ฟังถึงกับร้องห้ะแล้วจ้องคนที่เพิ่งแนะนำตัวเองไปเหมือนจับผิดอะไรบางอย่าง พอจ้องเสร็จก็พูดอะไรแปลกๆออกมา “อย่างนี้นี่เอง มิน่าล่ะถึงได้บอกตัวเองว่าไร้เทียมทาน”
“แม่พูดอะไรของแม่เนี่ย”
“ไม่ยุ่งสิ”
‘กูโดนอีกแล้ววววววววว’ เรียวตะถึงกับกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดที่ข้อมือหลังจากที่ได้รับคำตอบของยูกิฮิเมะมา
“เออนี่เรียวตะ ทำไมเธอถึงได้เรียกยูกิฮิเมะว่าแม่ล่ะ เค้าเป็นแม่เธอเหรอครับ” โกโจถาม
“เอ่อ…จะว่ายังไงดี” เรียวตะเกิดท่าทีลังเลเล็กน้อย “เจ้าจำที่เจ้าเคยบอกข้าได้มั้ยว่ามีช่วงนึงที่ข้าหนีหายไปน่ะ?”
“ทำไมเหรอ”
“ข้าไปอยู่กับยัยนี่มาน่ะ แหะๆ” ยมทูตหนุ่มชี้ไปที่ยูกิฮิเมะแล้วหัวเราะแห้ง โกโจที่ได้ยินแบบนั้นก็เลิกคิ้วด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เรียวตะเลยอธิบายให้เข้าใจมากขึ้น “คืองี้ สาเหตุที่ข้าหนีก็เพราะคุมพลังตัวเองไม่ได้แถมหนีไปแบบไม่รู้จุดหมาย พอรู้ตัวอีกทีก็มาอยู่ป่าหิมะแล้ว ยูกิฮิเมะมาเจอข้าพอดีนางเลยยื่นข้อเสนอว่าจะสอนวิธีคุมพลังนี้ให้ก็เลยไปอยู่กับยัยนี่ซะเลย นางเลยเป็นทั้งเพื่อนและอาจารย์ของข้า ส่วนที่ข้าเรียกแม่ก็เพราะนางนิสัยขี้จุกจิกเหมือนแม่-โอ๊ย?!”
“ไม่ใช่แม่ซักหน่อย เจ้าบ้านี่” เรียวตะที่พูดถึงประโยคตรงท้ายก็โดนยูกิฮิเมะโบกหัวเข้าให้อย่างจังจนโกโจยังนิ่วหน้าเจ็บแทน
“แล้วเธอไปทำยังไงถึงได้มาเป็นอาจารย์ของเรียวตะได้ล่ะครับ ยูกิฮิเมะ” โกโจถามยูกิฮิเมะบ้าง
“หมอนี่เป็นมนุษย์คนแรกที่โดนคุณไสยน้ำแข็งพันปีสาดใส่แล้วไม่ตาย มันทำให้ข้าสูญเสียพลังนี้ไปส่วนนึงจนข้าได้แต่สงสัยว่ามันเป็นตัวอะไรกันแน่ หลังจากนั้นกี่วันข้าจำไม่ได้แล้ว หมอนี่ก็หนีมาที่ป่าหิมะแล้วพร่ำเพ้อถึงแฝดตัวเองกับพลังนี่ ข้าเลยเทศนาไปหนึ่งบทพร้อมกับยื่นข้อเสนอว่าจะสอนการควบคุมพลังนี้ให้แต่ต้องแลกกับการไม่ให้บอกเรื่องข้ากับใครทั้งนั้น หมอนี่เลยตอบตกลงแล้วฝึกควบคุมจนสำเร็จน่ะ แถมได้เทคนิคใหม่มาเพิ่มด้วย”
“เพิ่มเทคนิคใหม่?”
“วิชาคุณไสยน้ำแข็งพันปีไม่ได้มีแค่การแช่แข็งอย่างเดียวหรอก มันสามารถเพิ่มเทคนิคอะไรก็ได้เข้าไปในวิชาคุณไสยนี้ขึ้นกับตัวผู้ใช้เองว่าอยากจะทำอะไร”
“ยกตัวอย่างง่ายๆก็วันที่อากาเนะไปทำภารกิจที่ป่า ยัยนั่นใช้วิชานี้มาสร้างภาพมายาที่เกิดจากความกลัวของตัวศัตรูเอง พอโดนพลังนี้เข้าไปปุ๊บ ศัตรูก็จะภาพหลอนของสิ่งที่ตัวเองกลัวที่สุด” เรียวตะเสริมและยกตัวอย่างให้เห็นภาพ “แต่ประเด็นคือวันนั้นนางใช้เป็นครั้งแรกและไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกลัวอะไร ก็เลยสร้างภาพยูกิฮิเมะออกมาทดสอบแล้วดันได้ผลด้วย ถามว่ารู้ได้ไง คำตอบคือข้าไปถามอากาเนะมาแล้ว โอเคเนอะ?”
“สร้างภาพมายา? เด็กคนนี้น่ะเหรอ” ยูกิฮิเมะชี้ไปที่ร่างสถิตที่ตัวเองสิงอยู่แล้วถามเพราะตัวเองเพิ่งรู้เป็นครั้งแรก
“อ๋อใช่ เห็นบ่นๆว่าอยากจะพัฒนาไปให้ไกลกว่านี้ด้วย” ยมทูตหนุ่มตอบ หญิงสาวก็เอามือเท้าคางและใช้สมองคิดหาแผนฝึกให้ร่างสถิตของตัวเอง
“เรียวตะ ยูกิฮิเมะเค้าเป็นแบบนี้ตลอดเลยเหรอครับ” โกโจเอามือป้องปากถามเรียวตะเสียงเบา
“จะว่าแบบนั้นก็ไม่ผิดหรอก” คนผมดำตอบเสียงเบาเช่นกัน “นางเป็นพวกชอบหาอะไรใหม่ๆหรือไม่ก็เพิ่มศักยภาพให้คุณไสยตัวเองเป็นประจำน่ะ ไม่งั้นนางเป็นอาจารย์ข้าไม่ได้หรอก”
“ซุบซิบกันอยู่นั่นแหละ คิดว่าข้าไม่ได้ยินรึไง” ยูกิฮิเมะพูดอย่างเคืองๆ “แต่เอาเป็นว่า ถึงข้าจะตื่นมาในฐานะคำสาปแต่ข้าก็ไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อพวกผู้ใช้คุณไสยอย่างเจ้าหรอกนะ ถ้าเจ้าไม่ทำอะไรเด็กคนนี้ซะก่อน”
“เดี๋ยว? ที่พูดมาตอนท้ายนั่นหมายความไงเหรอครับ” โกโจคิ้วกระตุกตรงท้ายประโยคแล้วถามเสียงเครียด ทางยูกิฮิเมะกับเรียวตะก็มองหน้ากันแปบนึงแล้วหันกลับมาหาคนผมขาวแล้วพูดออกมาพร้อมกันด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“จะเป็นศัตรู พวกเดียวกันหรืออะไรก็ตาม ถ้าใครทำอากาเนะเป็นอะไรขึ้นมาแม้แต่นิดเดียวล่ะก็ เตรียมตัวตายได้เลย”
‘แค่เรียวตะก็ว่าเหนื่อยแล้วแต่นี่มียูกิฮิเมะมาอีก เป็นพวกขี้หวงจริงๆ…’ คนผมขาวคิดในใจก่อนที่จะตอบสองคนนั้นด้วยรอยยิ้ม
“ผมไม่ทำอะไรกับลูกศิษย์ตัวเองหรอกนะครับ”
“ขอให้มันจริง” หญิงสาวพูดเสียงเอื่อยเฉื่อย “งั้นข้าไปล่ะนะ ฝากหาดาบใหม่ให้เด็กคนนี้ด้วย เอาแบบบรรจุพลังไสยเวทให้ได้เยอะๆล่ะ”
“เดี๋ยว?! ไปง่ายๆ-ไม่ทันละ” เรียวตะยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ ยูกิฮิเมะก็ชิ่งออกจากการคุมร่างอากาเนะไปแล้ว สีผมที่เป็นครามก็กลับมาเป็นสีแดงและตาขวาก็กลับมาเป็นสีม่วงเหมือนเดิม รวมถึงตัวอากาเนะเองที่ได้กลับมาเป็นตัวเองก็เอามือนวดขมับใหญ่จนเรียวตะหลุดขำออกมาและถามด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ
“คึๆ อาการเป็นไงไหนบอกหน่อยซิ”
“ใช้แบบไม่เกรงใจเจ้าของร่างเลย” เด็กสาวประชด “ว่าแต่เค้าคุยอะไรไปบ้าง”
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แต่ตอนท้ายเค้าขอให้เธอไปดาบใหม่ด้วย” โกโจตอบและชี้ไปที่ดาบที่พังไปแล้วในมือของเด็กสาว พอเธอมองดาบในมือเสร็จ เธอก็เอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าคาดเอวแล้วกดโทรหาใครบางคนทันที
“อ่ะ ฮัลโหล-”
‘ทำดาบพังอีกแล้วล่ะสิ!!! นี่เล่มที่สามแล้วนะเว้ย!!!’ อากาเนะที่ไม่ทันจะได้พูดอะไรก็ถูกคนปลายสายตวาดลั่นจนเธอต้องเอาโทรศัพท์ห่างจากหูอย่างไว เพราะคนที่เธอโทรไปนั้นเป็นช่างทำดาบที่มิซาเอะรู้จักและเป็นคนทำดาบให้เธอด้วย ซึ่งอากาเนะเคยทำดาบพังมาแล้วสองรอบและโดนเขาเทศน์มาแล้ว และการที่เด็กสาวโทรมาหาเขาแบบนี้ก็หนีไม่พ้นทำดาบพังอีก
“แหะๆๆๆๆๆ” เด็กสาวหัวเราะแห้ง “ขอยอมรับผิดทุกประการและขอสั่งทำดาบใหม่ด้วยค่ะ”
‘งั้นพรุ่งนี้แกมาร้านฉันตอนบ่ายโมงเลย ฉันล่ะอยากรู้จริงๆว่าแกไปทำยังไงให้ดาบมันพังวะ’
“บ่ายโมง? อ๋อไม่มีปัญหาค่ะ แล้วเจอกันนะคะ”
‘เดี๋ยว?! มาให้ฉันเทศน์-’
ตู๊ด!!
“ไปกดตัดสายแบบนั้นเดี๋ยวก็โดนหมอนั่นโกรธหรอก” เรียวตะเตือน แต่อากาเนะก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะเธอชินแล้ว
“อากาเนะ เมื่อกี้เธอโทรใครเหรอครับ” โกโจถาม
“ช่างทำดาบที่รู้จักกับคุณมิซาเอะน่ะค่ะ เค้าเป็นคนที่ดาบเล่มนี้ให้ฉันด้วย” เด็กสาวผมแดงโชว์ดาบที่พังไปแล้วให้ดู “คือเมื่อก่อนฉันเคยทำดาบพังมาแล้ว 2 เล่มตอนที่ฝึกซ้อมกับคุณมิซาเอะแล้วก็เรียวตะ ก็เลยโดนเค้าโกรธยกใหญ่เลย”
“เชื่อข้าเถอะ ไปที่ร้านพรุ่งนี้เตรียมโดนเทศน์ชุดใหญ่แน่”
“รู้แล้วล่ะน่า” อากาเนะยู่ปากงอนกับคำเตือนของยมทูตหนุ่ม แล้วทั้งสามคนก็กลับไปที่โรงเรียนเพราะทำภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว
.
.
.
‘โกโจ ซาโตรุ…’ ทางยูกิฮิเมะที่อยู่ในตัวอากาเนะ เธอได้สร้างป่าหิมะอันเป็นอาณาเขตตามกำเนิดของเธอและกำลังยืนกอดอกพิงต้นไม้ไปนึกถึงชายที่เธอเพิ่งได้รู้จักเป็นครั้งแรกอย่างโกโจไปด้วย
‘มีทั้งดวงตาริคุกันและคุณไสยไร้ขีดจำกัดล่างแบบนี้ ถ้าต้องมาสู้กันล่ะก็แย่แน่’ เธอคิดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะตอนที่โกโจแนะนำตัวเอง เธอมองเห็นพลังไสยเวทที่เขามีและดวงตาที่ซ่อนอยู่ภายใต้ผ้าปิดตา และถ้าได้สู้กันล่ะก็เธอจะอยู่ในฝ่ายเสียเปรียบอย่างสมบูรณ์เลย
ถามว่ารู้ได้ไงน่ะเหรอ
เรื่องนั้นใครจะบอกกันล่ะ
‘แต่ว่า’
ถึงจะบอกว่าตัวเองเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
แต่พอได้จินตนาการว่าเธอกับโกโจต้องมาต่อสู้กันแบบนี้แล้ว…
“น่าสนุกดีนี่ :)”
.
.
.
ต็อกๆ : เอาตอนล่าสุดมาอัพแล้วค่าทุกคน ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมากนอกจากแนะนำยูกิฮิเมะอย่างเป็นทางการ(รึเปล่า) ซึ่งนางรู้จักกับเรียวตะด้วย อาจจะได้เห็นสองคนนี้หยุมหัวกันในตอนใดตอนนึงนี่แหละจ้า
สนุกไม่สนุกยังไงก็เม้นท์เข้ามาได้นะคะ จะได้มีกำลังใจในการแต่งต่อไป
เจอกันตอนหน้า บ๊ายบายยยยยยยยยย
Cr.
ความคิดเห็น