ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : INTRO
#ฟิคลองหนมซ
บ้านหลังใหญ่โตคล้ายกับพระราชวังร้างตั้งตระง่านอยู่ตรงกลางเด่นชัด รอบๆบริเวณเป็นพื้นที่โล่ง มีต้นไม้เป็นหย่อมๆ ไม้เลื้อยที่เกี่ยวพันตามที่ต่างๆบ่งบอกว่าไม่มีใครได้ทำความสะอาดมันนานแล้ว มันรกเสียจนไม่อยากจะเรียกว่าที่พักอาศัย
รอบข้างไม่มีเสียง มันเงียบ เงียบจนได้ยินแค่เสียงลมพัดผ่านมาเบาๆ ความเย็นประทะเข้ากับผิวเนียนละเอียด เป็นลมที่เย็นจนขนแขนทั้งสองข้างลุก ใบไม้ใบหญ้าตามพื้นที่ถูกลมพัดทำให้มันเกิดเสียงเหมือนคนกำลังเดิน มากกว่าหนึ่ง...
สองขาเรียวก้าวตามทางที่กำหนดมาเรื่อยๆ รอบข้างร้างผู้คน และเพื่อนบ้านก็อย่าหวัง มีแค่บ้านหลังใหญ่ตั้งอยู่เพียงหลังเดียวเท่านั้น
ตรงหน้าของเด็กหนุ่มใบหน้าจิ้มลิ้มที่กำลังยืนหยุดนิ่งนับนาทีไม่ได้ เขากำลังยืนคิดตัดสินใจว่าจะเคาะประตูหมุนตัวเพื่อกลับบ้านดี แต่ถ้าเขาหันหลังกลับไป เขาคงได้โดนตราหน้าว่าเป็นลูกอกตัญญูแน่ๆ เพราะพ่อเขาบอกมาแบบนั้น
ก๊อก--- เอี๊ยดดด
นิ้วเรียวยกกำขึ้นมาเพื่อเคาะส่งเสียงบอกคนข้างในถึงการมาเยือนของตัวเอง แต่เขาเคาะไปแค่ครั้งเดียวประตูนั่นก็เปิดออกราวกับว่ามันไม่ได้ปิดอยู่และกำลังรอเขาอยู่นานมากแล้ว
แต่ตอนยืนอยู่ก็เห็นว่าปิดสนิทดี..
ลมวูบหนึ่งปะทะเข้ากับใบหน้านั่นยามประตูเปิดออก แต่สุดท้ายเขาก็สบัดหัวไล่ความกลัวภายในใจออกไป สายตามองเข้าไปข้างในตัวประสาทหลังใหญ่ ข้างในไม่มีเสียงไฟแม้แต่ดวงเดียว
ยังดีหน่อยที่เวลานี้ไม่ใช่เวลาค่ำมาก ทำให้เขายังพอมองออกว่าบริเวณด้านในมันใหญ่โตขนาดไหน
มันเหมือนบ้านหลังใหญ่ทรงยุโรป หากใครเคยเห็นในหนังจะรู้ดีว่ามันสวยงามและลึกลับขนาดไหน เขาเองก็ชอบบ้านสไตล์นี้ แต่การยืนท่ามกลางความมืดกับทรงบ้านแบบนี้ ทำเอาเขากลัว
"สวัสดีค่ะ คุณยูซอนโฮ"
เสียงทักทายจากหญิงวัยกลางที่จู่ๆก็เอ่ยขึ้นมาท่ามกลางความเงียบทำเอาเขาสะดุ้งตกใจ ขาเรียวเผลอก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว เอามือขึ้นมากุมหัวใจที่เต้นแรงเพราะความตกใจจากเมื่อกี้
สายตาของเขาหันไปทางต้นเสียงก็พบหญิงวัยกลางคนในชุดแม่บ้านยืนยิ้มต้อนรับเขาอย่างเป็นมิตร
คน หรือ ผี?
ยูซอนโฮได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ ไม่ได้เอ่ยมันออกมา ร่างบางกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ เขากลัว แต่จะให้โวยวาย มันก็ไม่ใช่อุปนิสัยที่เขาชอบทำเท่าไหร่นัก
"สวัสดีครับ"
เขารวบรวมความกล้าในใจ สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วทักทายหญิงแม่บ้านตรงหน้าออกไป เธอยิ้มรับ รอยยิ้มนั่นไม่เย็นเหมือนบริเวณบ้าน มันดูอบอุ่นจนเขาเองเลิกกังวลลงมาหน่อยๆ แต่ก็ยังไม่มากพอ
"เชิญทางนี้ค่ะ"
ยังไม่ทันที่เขาจะถามอีกคนเลยว่ารู้จักชื่อเสียงเรียงนามเขาได้ยังไง แต่ก็ช่างเถอะ เวลานี้เขาไม่ได้อยากจะรู้อะไรไปกว่าแม่บ้านคนนี้จะเดินนำเขาไปที่ไหน
และแล้วความสงสัยของเขาก็จบลงเมื่อแม่บ้านคนนั้นพาเขาเดินมาที่บริเวณที่เป็นห้องโถงใหญ่
ภายในมีโต๊ะยาวที่สามารถนั่งร่วมโต๊ะกันได้20กว่าคน มันเหมือนในหนังที่เขาเคยดูเมื่อตอนเด็ก ในหนังโบราณเขาทำกัน
ถ้าหากจะเห็นภาพนั้นมีปาร์ตี้สังสรรค์ มีเสียงเพลงละก็ ไม่เลยที่นี่ไม่มีอะไรนอกจากความเงียบ แสงไฟสีส้มของห้องนี้และคุณป้าแม่บ้านที่เดินนำเขาเข้ามาเท่านั้น
แวบนึงเขาคิดอยากหมุนตัวกลับแล้ววิ่งหนีออกไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้เมื่อพบว่าการเดินเข้ามาในบริเวณนี้มันเหมือนฆ่าตัวตายชัดๆ
"เชิญนั่งตรงนี้นะคะคุณซอนโฮ"
แต่เขาทำได้เพียงแค่คิดเท่านั้นแหละ เพราะสุดท้ายแล้วขายาวก็ก้าวไปนั่งตรงเก้าอี้ที่ป้าแม่บ้านเลื่อนให้ตามคำบอกอยู่ดี
ซอนโฮอยากทึ้งหัวตัวเองแรงๆเพื่อเรียกสติว่าควรแล้วหรอที่จะทำอะไรแบบนี้
"ป้าชื่อรัม เป็นแม่บ้านดูแลบ้านหลังนี้นะคะ"
"ป้าเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้หรอครับ??" ซอนโฮพูดพร้อมมองไปรอบๆบริเวณบ้านหลังใหญ่ที่ใหญ่เกินกว่าจะอยู่คนเดียวได้ อีกฝ่ายยิ้มแล้วส่ายหน้าเบาๆ
"ไม่หรอกค่ะ เจ้าของบ้านตัวจริงก็อยู่ค่ะ แต่ไม่มีใครเห็น"
"ครับ?" คำพูดคนอายุมากกว่าทำเอาเขางงไปเล็กน้อย แต่ความงงก็อยู่กับเขาได้ไม่นานเมื่อป้ารัมพูดต่อ
"คุณคงทราบเรื่องจากคุณพ่อของคุณแล้ว"
เมื่อป้ารัมเอ่ยถึงบุพการีของเขาทำเอาเขาถึงกับหน้าเปลี่ยนสี อารมณ์น้อยใจพ่อแท้ๆของตนที่สั่งแกมบังคับให้ตนมาที่บ้านหลังนี้ ตอนแรกตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำตาม แต่สุดท้ายคนที่พ่ายแพ้กลับเป็นเขา เขาโดนส่งตัวมาที่นี่โดยที่ไม่เต็มใจเลยสักนิด
ถึงจะรู้ไม่มาก แต่ที่รู้อย่างนึงคือเขาต้องอยู่ที่นี่แบบไม่มีกำหนด..
"ทราบแล้วครับ"
"ป้าดีใจนะคะที่คุณหนูมา"
"แต่ผมไม่เลยสักนิด"
แทนที่จะหน้าเสียอีกคนกลับมีรอยยิ้มออกมา มันไม่ทำให้เขาผ่อนคลายลงสัดนิดเลย ถึงบรรยากาศในบ้านจะวังเวงชวนให้ผีมาสังสรรค์กันมากก็เถอะ
"ป้าขอเรียกคุณว่าคุณหนูซอนโฮนะคะ"
"อย่าเลยดีกว่าครับ ผมไม่ใช่คุณหนูเรียกผมว่าซอนโฮเฉยๆดีกว่า"
"ไม่ได้ค่ะ มันเป็นคำสั่ง"
"แต่ว่า.."
"ป้าขัดคำสั่งเจ้านายไม่ได้หรอกค่ะคุณหนู"
"ครับ" ซอนโฮไม่อยากเถียงกับคนอายุมากกว่าเท่าไหร่นักเพราะยังไงแล้วเขาก็ต้องแพ้อยู่ดี ไม่สิกับคนอายุน้อยกว่าซอนโฮก็มักจะเถียงแพ้ตลอด "แล้วเจ้านายป้าอยู่ไหนล่ะครับ อย่างน้อยผมควรไปทักทายเขา"
"อย่าดีกว่าค่ะ แต่เขารับรู้นะคะว่าคุณมา"
"มันจะไม่เสียมารยาทหรอครับ" ซอนโฮเกรงใจเจ้าของบ้านนี้เล็กน้อย การที่จะต้องมาอยู่ในบ้านของคนอื่น ถ้าไม่ไปพบเจอเจ้าของบ้านเพื่อพูดคุยขออนุญาตมันก็จะกลายเป็นผู้พักอาศัยที่ไม่มีมารยาทเท่าไหร่นัก
"ไม่หรอกค่ะ เดี๋ยวป้าไปบอกเอง"
"ครับ"
"คุณหนูมีอะไรจะถามป้ามั้ยคะ?" เยอะแยะเลยครับ
"ผมต้องมาอยู่ที่นี่นานมั้ยครับ"
"ป้าไม่สามารถตอบได้ค่ะ จนกว่าจะถึงกำหนดเวลาของมันเอง" ป้าตอบเขาอย่างใจเย็น
"แล้วทำไมผม..เอ่อต้องมาอยู่ที่นี่?"
ก่อนจะเดินเข้ามาที่บ้านหลังนี้ พ่อแท้ๆของเขาที่เลี้ยงเขามา จู่ๆก็เดินมาบอกว่าตัวเขาต้องเดินทางไปอยู่ที่อื่นตามคำสั่ง เขาไม่มีเวลาแม้แต่เก็บเสื้อผ้า พ่อของเขาลากเขาขึ้นรถแล้วตรงมาที่บ้านหลังนี้ โดยเขาไม่ทันได้จำเส้นทางอะไรทั้งสิ้น
เมื่อมาถึงพ่อของเขาไล่ลงจากรถ พอเขาออกมายืนแล้วปิดประตูรถ รถคันดำก็แล่นออกไปจากบริเวณนั้นทันทีโดยไม่มีคำบอกลาจากผู้เป็นพ่อเลยสักนิดนอกจากคำบอกให้รถระหว่างทาง
"ลูกต้องอยู่บ้านหลังนี้จนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย"
"ต้องอยู่ให้ได้ ไม่งั้นครอบครัวเราจะเดือดร้อน"
"หลังจากเดินเข้าไปในบ้านหลังนั้นจะมีคนมารับ จำเอาไว้ห้ามหนีออกจากที่นั่นเด็ดขาดจนกว่าจะได้รับคำสั่งว่าสามารถออกมาได้"
เขาไม่เข้าใจในสิ่งที่พ่อกำลังพูด เหมือนพ่อพาเขามาขายให้กับคนเชือดหมูที่รอเวลาแล้วก็ถูกเชือดเหมือนตัวอื่นๆ ตอนนี้เขานึกถึงพ่อตัวเองก็แทบอยากกุมหน้าร้องไห้ ทำไมพ่อที่เขารักมากๆถึงทำกับเขาเหมือนเขาไม่ใช่ลูกแบบนี้
"ทุกอย่างมีเหตุผลของมันค่ะ คุณหนูแค่อยู่ที่นี่"
"หมายถึงแค่อยู่หรอครับ แล้วต้องทำอะไรนอกเหนือจากนั้นมั้ย?"
"ไม่ค่ะ เดี๋ยวถ้าถึงเวลานั้นป้าจะมาบอกเองนะคะ"
"ครับ"
"ที่นี่มีลุงคนสวนชื่อลุงวอน แกจะคอยมาทำความสะอาดบริเวณรอบนอกนะคะ" ซอนโฮพยักหน้าตามคำบอกของป้ารัม เธอยิ้มทุกครั้งที่เห็นใบหน้าน่ารักนั่นพงกขึ้นลงอย่างเข้าใจเวลาเธออธิบายอะไรออกไป
"ป้ากับลุงจะมาอยู่แค่ช่วงเช้าถึงเย็นนะคะ"
"เดี๋ยวนะครับป้า แล้วผมล่ะ ผมจะอยู่ที่นี่คนเดียวหรอ?"
"อยู่กับเจ้าของบ้านค่ะ"
"ทำไมป้าไม่อยู่ที่นี่ล่ะครับ"
"ป้าไม่ได้รับคำสั่งให้อยู่ที่นี่ตลอดนะคะ แค่มาดูแลเสร็จแล้วก็กลับ"
"แต่ผมอยากให้ป้าอยู่ด้วย" ใบหน้าแสดงความกังวลออกมาอย่างชัดเจนว่าซอนโฮเด็กหนุ่มคนนี้กังวลมากแค่ไหน
"ไม่ได้หรอกค่ะ คุณไม่ต้องกลัวนะคะที่นี่ไม่มีอะไรน่ากลัว"
"ป้าก็พูดได้หนิครับ ผมไม่เคยชินกับที่นี่แต่ต้องมาอยู่คนเดียวได้ยังไงกัน" เขาไม่อยากอยู่บ้านหลังใหญ่ที่ไม่รู้ว่าของใครตามลำพัง มันวังเวงและน่ากลัวมาก อยากให้ทุกคนได้สัมผัสจริงๆ
"อยู่กับเจ้าของบ้านค่ะ"
"นั่นแหละครับ เจ้าของบ้านที่ป้าไม่ให้ผมไปทำความรู้จักนั่นก็อีกคน"
"เดี๋ยวอยู่ไปนานๆคุณก็รู้จักเองค่ะ" ลึกลับ ลึกลับสุดๆเลย
"อยู่กับผมไม่ได้หรอครับป้า อย่างน้อยผมจะได้อุ่นใจ"
"เดี๋ยวตอนไก่ขันป้าก็เข้ามาแล้วค่ะ อย่ากังวลไปเลยนะคะ"
"แต่..."
"เสื้อผ้าทั้งหมดของคุณหนูจะถูกส่งมาในเช้าของวันพรุ่งนี้ ส่วนของวันนี้ป้าเตรียมเอาไว้ให้ที่ห้องแล้วค่ะ"
"ห้องผมอยู่ไหนล่ะครับ?" เมื่อจนปัญญาจะยื้อป้าแม่บ้านให้อยู่ด้วยให้นานที่สุดแล้ว เขาก็ถามถึงห้องนอนที่ต้องใช้มันตลอดระยะเวลาที่อยู่นี่
"ด้านบนปีกขวามือค่ะ" ป้ารัมอธิบายบอก
"แล้วด้านซ้าย?"
"ด้านซ้ายไม่ได้ค่ะ คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ไปทางด้านปีกซ้ายอย่าลืมเด็ดขาดนะคะ"
"ทำไมล่ะครับ?"
"ทำตามเถอะค่ะ เรื่องทุกอย่างจะได้ไม่ยุ่งยาก" ซอนโฮพยักหน้าเข้าใจอีกครั้งก่อนจะลอบมองบริเวณรอบๆไปเรื่อยๆอย่างละเอียด "คุณทานอาหารเย็นเป็นอะไรดีคะ ป้าจะไปเตรียม"
"ไม่เป็นไรครับ ผมทานนมกับขนมปังมาแล้วบนรถ" ถึงอย่างนั้นเขาก็หิวอยู่ดีนั่นแหละ แค่เกรงใจถ้าหากให้ป้าไปทำตอนนี้จะเป็นการรบกวนเปล่าๆ ไม่อยากให้ป้าเริ่มงานหนักๆตอนเขาเพิ่งก้าวเข้ามาวันแรกเลย
"โอเคค่ะ ถ้าคุณหิว ของในตู้เย็นก็พอจะมีนะคะ"
"ขอบคุณครับ"
"คุณหนูซอนโฮ ถ้าได้ยินเสียงอะไรดึกๆก็อย่าสนใจนะคะ"
"จะไม่ให้สนใจได้ยังไงครับ แล้วเสียงนั่นมาจากไหน ทำไมต้องห้ามให้สนใจด้วย"
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ รู้เอาไว้แค่นี้ก็พอ"
"อ้าว ทำไมป้าต้องปิดบังผมล่ะครับไม่เข้าใจ"
"ถ้าถึงเวลาคุณก็จะรู้เอง"
พูดเหมือนเขาเป็นคนเก่ง ฉลาดมากพอที่จะรู้อะไรแบบนี้ด้วยตัวเองอย่างงั้นหรอ? เสียงที่ว่านั่นจะเป็นเสียงอะไรทำไมถึงไม่บอกเขาให้จบๆไปเลย
"ผมอยากอาบน้ำแล้ว"
เมื่อนั่งนานไม่มีอะไรเพิ่มเติมเขาก็ครั่นเนื้อครั่นตัวอยากอาบน้ำเต็มที ถ้าขึ้นไปอยู่บนห้องได้ บนนั้นน่าจะเป็นบริเวณที่เขาอยู่แล้วปลอดภัยที่สุดนั่นแหละ
บ้านหลังใหญ่โตโอ้อ้านี่เขาไม่ชอบเลยสัดนิด ถ้าเขามีครอบครัวแต่ให้มีฐานะแค่ไหน เขาก็อยากมีบ้านแค่หลังเล็กๆ เขารู้สึกบ้านใหญ่ทำให้ช่องว่างระหว่างความสัมพันธ์ในครอบครัวมันมีมากขึ้น
ตลอดเวลาที่เดินในบริเวณบ้านตามป้ารัมเพื่อไปห้องนั้น เขาสัมผัสได้ถึงความเหงา ว้าเหว่ของตัวบ้าน ไม่มีเสียงพูดคุย ไม่มีเสียงหัวเราะ มีแต่ความเงียบเท่านั้นที่บ่งบอกความเป็นตัวบ้านนี้
เขาไม่ชอบเลย ความเงียบ ความเหงา มันเหงาจนอยากตบบ่าปลอบใจบ้านหลังนี้ซะเหลือเกินว่าชีวิตมันยังต้องเดินต่อไป ถ้าเป็นไปได้เขาอยากได้ยินเสียงหัวเราะมากกว่าเสียงของความเหงาแบบนี้
ความรู้สึกเมื่อนึกถึงความเหงาของบ้านหลังนี้มันมากซะจนมันจุกที่ลำคอ เขากลั้นความเสียใจที่รับรู้เอาไว้ในใจ อยากร้องไห้จัง..ทำไมมันถึงรู้สึกเหงาได้ขนาดนี้
"ห้องทางปีกขวาจะเป็นของคุณทั้งหมด มีห้องนอน ข้างๆจะเป็นห้องสมุด ในนั้นจะมีโฟนิเจอร์ต่างๆให้คุณได้พักผ่อนนะคะ"
ป้ารัมอธิบายเมื่อเดินขึ้นมาถึงห้องทางปีกขวา ประตู 2 บานห่างกันไม่มาก หลังจากป้ารัมอธิบายจบเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นห้องนอนของเขา ข้างๆที่คั่นกลางระหว่างห้องเขากับทางเดินไปปีกซ้ายก็คือห้องสมุดนั่นเอง
"ห้องคุณหนูสามารถทะลุเข้าหาห้องสมุดได้นะคะ" ป้ารัมเปิดประตูห้องเข้าไปแล้วเปิดไฟ มันสว่างน้อยนิดจนไม่สามารถเรียกมันว่าหลอดไฟได้อย่างเต็มปาก
"ห้องน้ำในตัว มีมุมนั่งเล่นด้วยนะคะ"
เมื่อเขาเดินตามเข้ามาพ้นขอบประตูก็จะเห็นห้องนอนได้อย่างเต็มที่ เมื่อสายตาสำรวจไปพลางก็พบว่าห้องนอนห้องเดียวมันใหญ่กว่าบ้านเขาทั้งหลังซะอีก มันใหญ่จะสามารถวิ่งแข่งกันได้เลยทีเดียว
เตียงคิงไซต์ตั้งอยู่ริมสุดขอบประตู มีหน้าต่างพอให้แสดงแดดลอดเข้ามาได้ ในห้องไม่มีอะไรเลยนอกจากโฟนิเจอร์ ซอนโฮชอบดอกไม้ เขาคิดว่าต้องไปหาอะไรมาประดับให้มันไม่ดูน่ากลัวแล้วล่ะ ไม่งั้นเขานอนไม่ได้แน่ๆ
"ถ้ามีปัญหาอะไรโทรหาป้าได้นะคะ เบอร์โทรอยู่ข้างเตียง" ซอนโฮมองตามสายตาของป้ารัมไปก็พบว่าข้างเตียงเป็นโทรศัพท์บ้านไม่ใหญ่มาก แปะเบอร์โทรเอาไว้ที่ข้างผนัง เขาพยักหน้าเข้าใจทันที
"พักผ่อนตามสบายนะคะคุณ" ซอนโฮไม่ตอบอะไร ตลอดเวลาที่เดินมาเขาเอาแต่พยักหน้าอย่างเดียว ครั้งนี้ก็เช่นกัน "พรุ่งนี้เช้าจะรับเป็นอะไรดีคะ ป้าจะได้เตรียมเอาไว้ให้"
"แล้วแต่เลยครับ ผมไม่เลือกกิน"
"ค่ะ"
ป้ารัมโค้งคำนับให้ทีนึงทำเอาซอนโฮตกใจเพราะไม่เคยมีคนอายุคราวแม่มาโค้งให้แบบนี้ เขามองตามป้ารัมไปจนอีกฝ่ายปิดประตูเงียบๆ
ซอนโฮเริ่มใช้สายตาสำรวจไปที่ทางต่างๆบริเวณห้อง เขาคิดว่าถ้าเป็นบ้านคนปกติถ้าไม่เงียบแบบนี้ต้องเป็นบ้านของคนที่รวยมากระดับหนึ่งแน่ๆ ทั้งเครื่องใช้ ข้าวของต่างๆเป็นสีทองสวยงามเหมือนหลุดออกมาจากนิยายอย่างไงอย่างั้น
ถึงอย่างนั้นมันก็เกินความจำเป็นของซอนโฮ ถ้าเขาเอาของในนี้ไปขายคงได้เงินหนีไปสร้างตัวได้แน่ๆ แต่ซอนโฮไม่ใช่คนขี้ขโมย ไม่ใช่คนที่อยากได้ของคนอื่นขนาดนั้น
"ทำไมต้องมาอยู่นี่ด้วย"
ซอนโฮใช้มือลูบสิ่งของต่างๆพลางคิดเรื่อยเปื่อยอยู่ในใจ ทำไมพ่อของเขาต้องให้เขามาอยู่ที่นี่ทำไมต้องสั่งให้อยู่ให้ได้ แล้วถ้าเขาหนีไปครอบครัวจะเจอกับอะไร
ทำไมไม่มีใครบอก
ซอนโฮไล่สายตาไปเรื่อยๆก็พบว่ามีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ข้างหน้าที่จับห้องเสื้อผ้าของเขาเอาไว้ มันเป็นชุดลำลองสบายๆที่ป้ารัมคงจัดเอาไว้เพื่อให้เขาได้นอน
เขาหยิบผ้าเช็ดตัวที่วางอยู่แล้วตรงเข้าห้องอาบน้ำที่มองเห็นในตอนแรกว่าต้องใช่แน่ๆ ตอนนี้เขาเลิกสนใจสิ่งต่างๆแล้วมาทำร่างกายให้สะอาดเรื่องอื่นค่อยคิดทีหลัง
ความเย็นของน้ำกระทบผิวกายเนียนละเอียด ซอนโฮปล่อยความรู้สึกสงสัยในไหลไปตามน้ำที่อาบอยู่ ไม่นานเมื่อเสร็จก็พันผ้าเช็ดตัวออกมา ปกติแล้วถ้าอยู่บ้านคนเดียวเขาจะใส่แค่บ๊อกเซอร์นอนเท่านั้น
แต่วันนี้เพื่อความปลอดภัยเขาจะใส่เสื้อแล้วกันนะ
ซอนโฮเดินไปที่กระจกบานใหญ่ทั้งที่เนื้อตัวยังเปียกอยู่ หยดน้ำไหลตามเส้นผมลงมากระทบไหล่ทำให้เย็นจับใจ เขาไม่มีที่เช็ดผมเลยทำได้เพียงสบัดมันแรงๆหน้ากระจกเท่านั้น
"เฮ้อ"
เขาผ่อนลมหายใจก่อนจะก้มหัวเพื่อสบัดผมให้พอชื้นๆไม่มีน้ำเกาะ ถ้าไม่แห้งวันนี้มีหวังเขาต้องไม่สบายแน่ๆ
!!!!!!!!!!
"เฮ้ย!"
จู่ๆเขาก็ต้องตกใจจนเกือบหงายหลังเมื่อเงยหน้าขึ้นมามองกระจกก็พบว่านอกจากเงาตัวเองในกระจกแล้วยังมีเงาของอีกคนที่กำลังยืนมองเขาจากข้างหลังอยู่ด้วย
แต่ก็ตกใจได้ไม่นานเงาคนแปลกหน้านั่นก็แวบหายไปทันทีที่เขาร้อง เหมือนกับว่าเงานั่นยืนมองเขาอยู่นานแล้ว
"อะไรอ่ะ!"
ซอนโฮเลิกลั่กเพราะความกลัว หัวใจเต้นแรงสุดขีดเมื่อหันไปมองในบริเวณห้องก็ไม่พบใครอยู่ด้านหลังอย่างที่ควรเป็น
"ใครวะ!"
เขาไม่ชอบอะไรแบบนี้เลยสักนิด อยากวิ่งกลับบ้านให้เร็วที่สุด เขาว่าแล้วว่าบ้านหลังนี้ต้องมีอะไร แล้วมันก็มีจริงๆ ที่เห็นเมื่อกี้ซอนโฮมั่นใจมากว่านั่นไม่ใช่คนอย่างแน่นอน ไม่งั้นจะหายไปได้รวดเร็วขนาดนี้หรอ ไม่มีทาง
ซอนโฮรีบวิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบเสื้อกับกางเกงมาใส่แล้วโยนผ้าเช็ดตัวไปกองเอาไว้ที่ตะกร้าก่อนจะเดินหาอาวุธแข็งๆไว้ป้องกันตัว
"หึๆ"
!!!!!!!!
"ใครวะ!!!" ถ้าหูเขาไม่เพี้ยนเขาต้องได้ยินเสียงคนหัวเราะทำนองเย้ยหยันใส่เขาแน่ๆ ทำไมมาแต่เสียงแล้วคนไปไหน
"แน่จริงออกมาดิ อย่ามัวแต่หดหัวอยู่" เหมือนอีกฝ่ายต้องการทำให้ซอนโฮประสาทเสียเล่นๆ เขาไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย ไม่ชอบเลยจริงๆ
ซอนโฮยืนนิ่งตัวชิดขอบเตียงด้วยความระแวงสุดขีด เขานึกถึงป้ารัมก่อนคนแรก พลันมือก็รีบหยิบโทรศัพท์แล้วกดเบอร์โทรตามหมายเลขที่ติดอยู่ข้างผนัง
ไม่นานนักเสียงหญิงวัยกลางก็กดรับ เขาไม่รอให้อีกฝ่ายพูด ชิงพูดก่อนทันที
"ป้ารัม นี่มันบ้าอะไร ที่บ้านนี้มีผี ผมเห็นผี!!" เขากรอกเสียงลงไปด้วยความสั่นกลัว
(ใจเย็นๆนะคะคุณหนู ผีเผออะไรป้าว่าไม่น่ามี)
"แต่ผมเห็น เห็นเมื่อกี้เต็มสองตา มั่นใจมากว่าเขาไม่ใช่คน เขาหายตัวได้ แต่ผมเห็นเขาแค่ในกระจก..เห็น แค่ในกระจก) ขณะกำลังเล่าเขาพยายามควบคุมน้ำเสียงที่สั่น สายตากวาดมองไปทั่วห้องอย่างหวาดระแวง
(ใจเย็นๆก่อนนะคะ ป้าอยากถามว่าที่คุณหนูซอนโฮเห็นเป็นรูปร่างแบบไหนคะ) เมื่อป้ารัมถามจบซอนโฮนึกไปถึงใบหน้าอีกคนพลางอธิบายให้อีกฝ่ายฟัง
"เป็นคน แล้วก็..หล่อ.." แล้วอะไรอีกล่ะเนี่ย
(หล่อแบบไหนคะ?) น้ำเสียงออกแนวร่าเริงของอีกฝ่ายไม่ได้ทำให้ซอนโฮตลกด้วยเลย
โห่เอ๊ย ก็หล่อไงแบบหล่ออ่ะ
"สูงกว่าผม ผิวขาวจนเกือบซีด ตาตี่หน่อยๆ ที่สำคัญคือผมว่าเขาหล่อ หล่อมากจนไม่เคยเจอใครหล่ออะไรขนาดนี้มาก่อน เขา..ไม่น่าตายเลย"
(ฮ่ะๆคุณหนูมินฮยอน ยังไม่ตายนะคะคุณหนูซอนโฮ)
ห้ะ?? คุณหนูมินฮยอน??
"คุณหนูมินฮยอน? ยังไม่ตาย?"
(ป้าดีใจนะคะที่คุณหนูทั้งสองพบกันแล้ว)
"ครับ? ทำไมผมเห็นเขาในกระจก พอมองข้างนอกไม่เจอใครเลย เขาเป็นผีติดอยู่ในกระจกหรอครับ"
(ไม่ค่ะ คุณหนูมินฮยอนไม่ใช่ผี แค่ไม่สามารถปรากฏตัวให้ใครเห็นได้ ตอนนี้คงมีแต่คุณหนูซอนโฮที่มองเห็นเขาแล้ว แต่ก็มองผ่านทางกระจกได้แค่อย่างเดียวนะคะ)
"ทำไมล่ะครับ"
(เพราะคุณหนูอาจถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ตอนแรกป้าก็ไม่มั่นใจว่าคุณหนูซอนโฮจะใช่คนที่กำหนดไว้รึเปล่า จนคุณหนูซอนโฮโทรมา ป้าดีใจนะคะ ดีใจมากๆเลย คุณหนูซอนโฮคือความหวังเลยนะคะ)
"ทำไมคนนั้นต้องเป็นผม"
(ป้าบอกแล้วไงคะ ว่าทุกอย่างต้องมีเหตุผลของมัน)
"ผมไม่เข้าใจที่ป้าพูดเลย"
(เอาเป็นว่าคุณหนูไม่ต้องกลัวนะคะ คุณหนูมินฮยอนอาจแค่อยากมาทักทายเฉยๆ)
"แต่ผมกลัวหนิ"
(พักผ่อนเถอะนะคะ พรุ่งนี้ป้าจะไปหาแต่เช้า)
สายถูกตัดไปพร้อมกับความไม่เข้าใจที่ประเดประดังเข้ามาที่หัว ความกลัวที่ยัคงอยู่ทำให้ซอนโฮมองไปรอบๆห้องอย่างหวาดระแวง แต่ก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลยนอกจากความเงียบ
ถ้าเขาเป็นคนโด๊บยาเขาคงคิดว่าตัวเองประสาทหลอนจนใกล้บ้าเข้าเต็มขั้น ไหนจะคำพูดของป้ารัมที่ทำให้เขาต้องเอากลับมาคิดอีกล่ะ
อะไรคือเขาไม่สามารถปรากฏตัวให้ใครเห็นได้นอกจากเขาคนเดียว แต่ถ้าจะเห็นได้ต้องมองผ่านกระจกเท่านั้น แล้วทำไมต้องกำหนดว่าเป็นเขา ?
แล้วคนที่เขาเห็นนั่นคือใคร จะใช่คนรึเปล่า ปีศาจงั้นหรอ? ปีศาจต้องทำร้ายคนสิ เขาไม่เข้าใจ คนธรรมดาไม่สามารถล่องหนแบบนี้ได้แน่ๆ เขาคนนั้นคือใคร แล้วเกี่ยวอะไรกับบ้านหลังนี้
เขากวาดสายตาสำรวจทั่วห้องอีกทีเพื่อความมั่นใจ แล้วคืนนี้เขาจะหลับลงได้ยังไง กลัวไปหมดจนไม่อยากกระดิกไปไหนเลย
นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นเนี่ย พ่อจะรู้บ้างมั้ยว่าเขาต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ โอ้ย อยากร้องไห้..
ใครก็ได้ช่วยเขาที...
TBC.
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น