ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Lumin/Xiuhan]My Turn To You - กลับมาหาเธอ lumin2016

    ลำดับตอนที่ #16 : CHAPTER16

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.ย. 59


    CHAPTER16

               

                กลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟและเบเกอรี่ในคาเฟ่เล็กๆที่ถูกจัดแบบเรียบง่าย มินซอกที่กำลังวุ่นกับการชงกาแฟตามออเดอร์ลูกค้า ถึงจะดูวุ่นวายแต่ใบหน้ากลมน่ารักนั่นก็ยังคงเปื้อนรอยยิ้มอยู่เสมอเมื่อได้ทำงานที่ตัวเองชอบ

                หลังจากที่บอกเลิกลู่หานไปมินซอกก็ได้แต่นั่งโง่ๆอยู่บ้านไม่เป็นอันทำอะไร กับตอบคำถามอี้ชิงและเด็กๆในบ้านที่ถามแต่คำถามเดิมๆว่า เมื่อไรจะยอมกลับไปคุยกับลู่หาน

    และทุกครั้งมินซอกก็ได้แต่ยิ้มกลับไปแทนคำตอบ ลู่หานที่กำลังวุ่นวายกับการเตรียมคอนเสิร์ตของตัวเองก็ไม่ได้ติดต่อมาเลย มีแต่เฮียคริสที่ทักทายผ่านการคุกับอี้ชิงบ่อยๆ ตอนนี้ทุกคนในบ้านดูมีความสุขดีกับความรักของตัวเอง  แต่ความสัมพันธ์ของมินซอกกับลู่หานกลับห่างกันออกไปเรื่อยๆ แต่แบบนี้ก็ไม่แย่สำหรับมินซอกเท่าไรนักเพราะอย่างน้อยก็ไม่ได้เข้าใจผิดหรือติดค้างกันเรื่องอะไรอีก

                บอกตัวเองว่ามันไม่ได้แย่ แต่กลับกลายเป็นคนที่เหม่อลอยอยู่บ่อยๆจนคนในบ้านเป็นห่วง พอดีที่พี่จินเปิดร้านกาแฟใหม่กับรุ่นน้องที่คณะ เลยชวนมินซอกมาทำงานด้วย ถือเป็นการทำงานฆ่าเวลา เผื่อการอยู่กับสิ่งที่ชอบจะทำให้มินซอกรู้สึกดีขึ้น

                แต่สุดท้ายมินซอกก็ได้รู้ว่าตัวเองคิดผิด เพราะการอยู่ในร้านแบบนี้ ได้กลิ่นหอมของกาแฟแบบนี้ ยิ่งทำให้ คิดถึงคนที่ชอบมานั่งกินกาแฟด้วยกัน

     

                “มินซอก!

                “คะ ...ครับ?”เสียงเรียกจากเจ้าของร้านที่กำลังยืนส่ายหน้ากับอาการเหม่อลอยของรุ่นน้องตัวเล็กของตน  อาการหนักขึ้นทุกวันสิน่า 

                “มีออเดอร์เข้ามาใหม่นะ”

                “ครับ”พยักหน้ารับก่อนจะหันไปเก็บอุปกรณ์ให้เข้าที่เรียบร้อย ก่อนจะมานั่งประชุมกับเจ้าของร้านทั้งสองคน

                ร้านนี้มีมินซอกมาช่วยงาน และเจ้าของร้านคนแรกก็คือพี่จิน ที่ตอนนี้กลายเป็นพี่ชายที่น่ารักของมินซอกไปแล้ว กับเด็กชายที่อายุน้อยกว่ามินซอกนิดหน่อย หน้าตาน่ารักกับฟันกระต่ายคู่สวย จอน จองกุก  ที่พี่จินบอกว่าเป็นรุ่นน้องในคณะ แต่ใครดูก็รู้ว่าพี่จินคิดไม่ซื่อกับน้อง คนในบ้านมินซอกเลยสบายใจยอมให้มาทำงานกับจินได้

               

                “ทำไมกุกกี้ดูตื่นเต้นขนาดนั้นล่ะ” คำเรียกแทนตัวสำหรับคนในร้านที่สนิทกันขึ้นทุกวันถูกใช้ หลังจากเคลียร์งานทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว

                “มันก็เวอร์แบบนี้ตลอดแหละ  โอ้ย”ซอกจินที่วันๆดีแต่แกล้งน้อง โดนถวายมือพิฆาตไปฉาดใหญ่

                “มินิฮยองรู้แล้วจะต้องตื่นเต้นแบบผมแน่ๆ”จองกุกหันมาพูดแบบร่าเริงตามแบบฉบับของเขากับผม ใช่แล้วล่ะครับ มินิ = มินซอก ผมเองแหละ คุณเจ้าของร้านทั้งสองเขาช่วยกันตั้งให้ และดูจะเป็นเรื่องเดียวที่สามัคคีกันมาก

                “รีบๆบอกมาเถอะน่า”<<จิน

                “จำบริษัทที่สั่งออเดอร์กับเราบ่อยได้ไหมฮะ เรากำลังมีงานนอกประเทศ แล้วเขาก็เลือกจ้างร้านเรา .....”

     

                “เราจะได้ไปเที่ยวประเทศจีนกัน”

     

     

     

     

     

     

     

    “เราจะได้ไปเที่ยวประเทศจีนกัน”

    คำพูดเดิมๆของจองกุกที่วนเวียนอยู่ในหัวมินซอกตลอดจนถึงตอนนี้ ความรู้สึกมันสับสนเหมือนดีใจ แต่ก็กังวล แต่ทางที่ดีมินซอกขอให้อย่ามีอะไรเกิดขึ้นเลย ถ้าห่างกันไปขนาดนี้แล้วก็อย่ามาให้เจอกันอีกเลยนะ..... ลู่หาน

     

    งานนิทรรศการขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ถูกบรรจุด้วยบูธกิจกรรมมากมาย ผู้คนเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆกับ ชาวเกาหลีสามคนที่วุ่นวายกับการจัดขนมให้แขกแต่ละคน ในห้างขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในปักกิ่ง ประเทศจีน 

    แต่เพราะมีร้านบริการจำนวนมากทำให้ไม่เหนื่อยจนเกินไป มินซอกที่รู้สึกสบายใจมากขึ้นหลังจากไปดูตารางการแสดงบนเวทีของงานวันนี้ไม่มีใครคนนั้น คนที่มินซอกคิดถึง แต่ก็ไม่อยากจะเจอหน้ากันตอนนี้ ขอแค่ได้คิดถึงก็พอแล้ว

     

    “มินิ”

    “ครับ?

                “ทำไมนายเป็นเด็กสกปรกแบบนี้ล่ะเนี่ย”ปากบ่นไม่หยุดแต่พี่จินก็ช่วยปัดแป้งที่ใช้ทำขนมเมื่อเช้าที่ติดบนผมของมินซอกอย่างใจเย็น

                “บ่นเป็นคนแก่ไปได้”

                “เดี๋ยวนี้กล้าว่าพี่แล้วหรอ? เดี๋ยวจะโดนนะเรา”

                “ทีกับกุกกี้ยังไม่แตะสักนิดเลยนะ รายนั้นดื้อกว่าผมอีก”คำแย้งกลับของมินซอกทำให้พี่จินได้แต่แกล้งขยี้หัวมินซอกแล้ววิ่งหนีไปเท่านั้น

                “มินิฮยอง ช่วยเอาอันนี้ไปให้ที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าตรงนู้นทีสิฮะ”จองกุกที่อยู่ๆก็โผล่มากับถาดขนมกับกาแฟยื่นให้เขาแบบรีบๆแล้ววิ่งกลับไปช่วยพี่จินจัดของต่อ ทำให้มินซอกได้แต่เดินในห้องแต่งตัวศิลปินหลังเวที

                ประตูห้องแต่งตัวถูกเปิดออกเบาๆหลังจากเคาะอยู่นานแต่ไม่มีใครเปิดให้ มินซอกค่อยๆเดินเข้าไปวางของไว้ที่โต๊ะในห้อง แต่เพราะพึ่งเคยเห็นห้องแต่งตัวศิลปินแบบนี้ก็ขอเดินสำรวจหน่อยละกัน  เดินหยิบนู่นนี่ดูเพลิน จนเผลอชนกล่องบนโต๊ะร่วงปลุกคนที่นอนคลุมตัวอยู่บนโซฟาลุกขึ้นด้วยความไม่พอใจ

                “ขะ.. ขอโทษครับ ผมไม่....”มินซอกที่ตกใจที่เห็นว่ามีคนอยู่ในห้อง กลับต้องตกใจมากกว่าเดิมที่คนที่พึ่งลุกมานั้นคือคนที่เขามั่นใจว่าจะไม่ได้เจอ    ลู่หาน!

                “มินิ”เป็นเสียงพี่จินที่โผล่เข้ามาตามรุ่นน้องที่หายไปนาน

     

                “พี่จะมาบอกว่าไม่ต้องรีบนะ ของหมดแล้วพี่กลับไปรอที่โรงแรมแล้วกันนะ”

                “เดี๋ยวครับ พี่จิน”มินซอกหันไปขอความช่วยเหลือ หวังจะให้อีกคนพาตัวเองออกไปด้วย แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อจินตอบกลับมาสั้นๆก่อนจะปิดประตู

                “แล้วเจอกัน มินิ”

     

               

                “เดี๋ยว....”

                เสียงลู่หานดังขึ้นหลังจากที่เงียบมานาน  พอเห็นอีกคนจะเดินออกไปจึงรีบพูดรั้งไว้ก่อน ลู่หานกำลังตกใจไม่ต่างจากมินซอกที่มาเจอกันที่นี่  ถึงจะไม่รู้รายละเอียดอะไรแต่การที่เฮียคริสมันบอกว่ามีงานด่วนแล้วให้เขามาโผล่ แล้วมาเจอมินซอกที่นี่มันต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ

     

                “มาอยู่ที่นี่ได้ไง?

                “มาช่วยพี่จินทำงาน”

                “งั้นหรอ ดูสนิทกันดีนะ”

                “....”

                “......”

                คำพูดเรียบง่ายไม่มีการใส่ความรู้สึกอะไรของมินซอก ทำให้ลู่หานแทบบ้า จนพูดเรื่องไม่น่าพูดออกมาจนได้

                “เรียกกันว่าไงนะ มินิงั้นหรอ มีความสุขมากไหมมินซอก?”

                “ถ้าจะพูดเรื่องนี้ผมขอตัวนะครับ”

     

                “เดี๋ยว”มือเรียวรั้งคนตัวเล็กแล้วออกแรงดึงให้หันหน้ามาหาตัวเอง นานเท่าไรแล้วที่ไม่ได้เจอกัน นานเท่าไรแล้วที่ได้แต่แอบดูคนตัวเล็กผ่านวิดีโอคอลของเฮียคริสกับอี้ชิง   กับรูปที่เด็กๆถ่ายส่งมาให้เป็นบางครั้ง 

                “ปล่อยผมครับ”

                “อย่าเป็นแบบนี้มินซอก”เสียงกดต่ำระงับอารมณ์ตัวเองที่รู้สึกไม่พอใจที่อีกคนดูสนิทกับจินทั้งๆที่ก็รู้มาบ้างว่าไปทำงานที่ร้านเดียวกัน แต่พอได้เห็นแล้วมันก็ไม่โอเคเท่าไร ยิ่งคนตัวเล็กมาพูดจาแบบนี้แล้วความรู้สึกมันยิ่งแย่เข้าไปใหญ่

                “ขอโทษนะครับ”

                “หยุด... หยุดพูดทางการกับฉันสักที!

                “โอเค ได้ ได้เลย...”คนตัวเล็กพูดพึมพำและพยักหน้าเออออกับตัวเองเบาๆก่อนจะเงยหน้าสบตากับคนตรงหน้า

                “....”

                “ฉันไม่รู้นะว่านายทำแบบนี้ทำไม แต่ในเมื่อที่ผ่านมามันไม่ได้มีอะไรแล้ว ความสัมพันธ์ของเรามันห่างไปไกลมากแล้ว เพราะฉะนั้น อย่ามาทำให้ฉันสับสนเลยนะ”

    พูดจบก็พยายามแกะมือคนตรงหน้าแล้วเดินหนีออกจากห้องไป

     

     

                เสียงกรี๊ดของผู้คนในนิทรรศการกับเสียงปรบมือต้อนรับ ทำให้คนที่เอาแต่วิ่งเรื่อยๆหยุดฝีเท้าลง ไม่มีลู่หานตามมา แต่อีกคนกลับไปโผล่บนเวทียิ้มแย้มกับแฟนคลับได้เป็นปกติ มินซอกได้แต่ยืนหัวเราะตัวเองที่คิดว่าอีกคนยังรู้สึกดีต่อกัน และวิ่งตามเขามาเพื่อคุยกันให้รู้เรื่อง

                เสียงดนตรีจบลงพร้อมกับเสียงปรบมือให้บทเพลงที่ลู่หานร้องบนเวที ไม่รู้ว่ามินซอกเหนื่อยมากแค่ไหน ถึงไม่ยอมก้าวออกไปจากตรงนี้สักที

     

                “ถือว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์มากนะครับที่อยู่ๆมีคนดังมาโผล่บนเวทีของเรา ขอเสียงปรบมือดังๆอีกครั้งให้คนดังของเรา ลู่หาน”เสียงพิธีกรบนเวทีเริ่มพูดคุยกับลู่หานที่ยืนส่งยิ้มให้กับผู้คนในงาน

                “ครับ ผมก็เซอร์ไพรส์มากๆเหมือนกัน ที่ทุกคนให้ความร่วมมือช่วยผมร้องเพลงกันทุกคนเลย ขอบคุณนะครับ”

                “เวลานี้ใครไม่รู้จักเพลงของลู่หาน ใครไม่เป็นแฟนคลับลู่หานนี่คงเป็นไปไม่ได้แน่ๆ ใช่ไหมครับ?”

                เสียงตอบรับของผู้ชมดังสนั่น แฟนคลับลู่หานเยอะมากจริงๆ

     

                “ใกล้จะถึงคอนเสิร์ตเดี่ยวของคุณแล้วมีอะไรอยากจะพูดกับแฟนคลับหรือเปล่าครับ หรือในคอนเสิร์ตจะมีอะไรพิเศษบ้าง พอจะบอกเราหน่อยได้ไหม?

                “วันนี้เป็นวันที่ผมโชคดีที่ได้เจอกับคนที่ไม่ได้เจอกันมานาน  วันนี้ผมอารมณ์ดีมาก เพราะฉะนั้นผมจะบอกไฮไลท์ในคอนเสิร์ตที่จะถึงนี้ให้ทุกคนฟังครับ”

                เสียงฮือฮา เสียงกรี๊ด เสียงเรียกชื่อลู่หาน กับเสียงปรบมือดีใจดังขึ้นเรื่อยๆจนพิธีกรต้องขอความร่วมมือให้เงียบกันก่อน เพื่อที่จะให้ลู่หานได้พูดต่อ ลู่หานที่ยังคงยิ้มอยู่ตลอดเวลาที่อยู่บนเวทีตอนนี้กำลังมองมาที่เขา มองมาที่มินซอกที่ยืนปนอยู่กับผู้ชมด้านล่าง 

                ครั้งนี้มินซอกมั่นใจว่าไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองแน่ๆ เพราะคนบนเวลา ขยับปากแบบไม่มีเสียงหลังจากที่เห็นว่ามินซอกกำลังมองอยู่

     ตั้งใจฟังดีๆนะ เป่าจือ

     

    “ในคอนเสิร์ตผมจะร้องเพลงที่ผมแต่งเองครับ เนื้อหาเพลงมาจากก่อนหน้านี้ผมต้องอยู่ห่างจากคนคนนึงครับ เพราะเขาขอร้องให้ผมถอยออกมา.... ตอนแรกผมรู้สึกแย่มากๆ เพราะเอาแต่คิดถึงคนคนนั้น...”

    คำพูดของลู่หานเรียกเสียงฮือฮาของคนที่ยืนชมอยู่เป็นอย่างดี แต่ทุกคำที่ลู่หานพูดออกมากลับชัดเจนมากสำหรับมินซอกที่ยืนตั้งใจฟังคนบนเวที พร้อมกับเสียงของหัวใจตัวเองที่ดังมากขึ้นเรื่อยๆ

    “...เขาขอร้องให้ผมห่างออกมา เพราะอยากให้ผมมีอนาคตที่ดี อยากให้ผมเต็มที่กับงาน เขาชอบคิดว่าตัวเองไม่คู่ควร ทั้งๆที่สำหรับผม ไม่มีใครแทนที่เขาได้ด้วยซ้ำ เขาคือคนสำคัญสำหรับผมครับ”

    “อ่า เหมือนจะมีข่าวใหม่ที่น่าสนใจนะครับ แบบนี้คุณลู่หานกำลังจะเปิดตัวแฟนหรือเปล่าครับ?”

    “เปล่าครับ เขาไม่อยากให้ผมบอกใครหรอก เขากลัวว่าแฟนคลับผมจะเสียใจ แต่ตอนนี้เหมือนเราจะห่างกันเกินไปจนผมกลัวจะเสียเขาไป..”

    “...”

    “วันนี้ผมเลยอยากจะบอกพวกคุณทุกคน และขอความช่วยเหลือจากทุกคนที่รักผม เพราะพวกคุณคือคนที่พิเศษมากสำหรับผม...”

     

    “ถ้าผมจะรักใครสักคน พวกคุณจะเสียใจไหมครับ? พวกคุณจะผิดหวังในตัวผมหรือเปล่า?”คำถามจากลู่หานทำให้แฟนคลับฮือฮาหันไปพูดคุยกันจนเสียงดังทั่วทั้งชั้นที่จัดนิทรรศการ

    “ฉันรักคุณ ฉันรักคุณ ฉันรักคุณ....”เสียงแฟนคลับพร้อมใจกันตะโกนให้ลู่หาน

    “ขอบคุณครับ ผมก็รักพวกคุณ”

     

    “แต่ผมขอรักคนคนนั้นของผมได้ไหมครับ? ผมอยากให้พวกคุณช่วยแสดงให้เขาเห็น แล้วช่วยขอร้องให้เขา ให้โอกาสผมอีกครั้งนะครับ”คำพูดที่คุยกับแฟนคลับ แต่ประโยคสุดท้ายที่เน้นชัดเจน และหันกลับมาสบตามินซอกอีกครั้ง

    แฟนคลับยังคงตะโกนบอกรักและปรบมือให้กำลังใจศิลปินของพวกเขา ก่อนที่จะร้องเพลงสุดท้ายร่วมกับลู่หาน คำพูดสุดท้ายถูกทิ้งท้าย ก่อนที่ลู่หานจะลงจากเวทีและเปลี่ยนให้ศิลปินคนอื่นขึ้นมา

    “ขอบคุณนะครับ ผมรักพวกคุณ”

     

     

    “มินซอก”

    เสียงเรียกที่คุ้นเคย ทำให้มินซอกหยุดเดิน ทั้งๆที่พยายามเดินออกมาเร็วที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่ทันคนขายาวกว่าที่ลงจากเวทีแล้วรีบตามเขาออกจากงานมา

    “ฟังฉันก่อนนะ ที่ไม่ได้ติดต่อไปไม่ใช่เพราะนายรึไงที่สั่งฉันไว้ ฉันไม่กล้าติดต่อไปหรอกนะ ฉันกลัวว่านายจะหนีไปแบบที่นายพูดก่อนที่ฉันจะกลับมาที่นี่”ลู่หานพูดอธิบายให้มินซอกที่พยายามกลบเกลื่อนหน้าที่กำลังร้อนเห่อของตัวเอง ยังจะมาอธิบายอะไรต่ออีก แค่เรื่องบนเวทีก็ทำให้มินซอกเขินจนทำตัวไม่ถูกแล้ว

     

    “ดีกันนะ”นิ้วก้อยถูกยกขึ้นมาตรงหน้าคนตัวเล็กกว่าด้วยท่าทางกล้าๆกลัวๆของลู่หาน มินซอกที่ยืนนิ่งตั้งแต่เมื่อกี้ไม่สนใจนิ้วก้อยที่ลู่หานชูค้างไว้ แต่กลับก้มหยิบอะไรสักอย่างในกระเป๋าตัวเองแล้วขยับเข้ามาใกล้ลู่หานเรื่อยๆ ก่อนจะสวมหมวกเพื่ออำพรางให้คนที่ทำอะไรไม่ค่อยคิดอย่างลู่หาน

     

    ดวงตากลมโตมองคนตรงหน้าที่ยืนจ้องหน้าเขาไม่ละสายตาเหมือนกัน พึ่งรู้ว่าแรงโน้มถ่วงของโลกมีแรงมากพอที่จะพาริมฝีปากสองคู่ประกบลงหากันอย่างรวดเร็วพร้อมกับอ้อมกอดอุ่นที่คิดถึงมานาน ความอบอุ่นจากริมฝีปากทั้งคู่ แล่นเข้าไปถึงหัวใจที่กังแข่งกันเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ

    ใบหน้ากลมมีสีแดงระเรื่อขึ้นอีกครั้งหลังจากลู่หานถอนริมฝีปากออกไป แต่ไม่ยอมคลายอ้อมกอดและเอาแต่มองหน้าเขา

     

    “ปล่อยได้แล้ว”

    “ไม่ปล่อยหรอก กลัวหาย”

    “ฉันไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ ไม่หายหรอกน่า”

    “ยังไงก็ไม่ปล่อย”

    มินซอกได้แต่อมลมใส่แก้มพองๆของตัวเองด้วยความเหนื่อยใจกับคนเอาแต่ใจอย่างลู่หาน ที่ตอนนี้เอาแต่ฉีกยิ้มเหมือนคนบ้า

    ยิ้มมากๆเดี๋ยวปากก็กว้างเท่าชานยอลกันพอดี

     

    “หลังจากนี้ฉันกลับไปหานายที่บ้านได้ไหม?”

    “อะ..อือ”

    “โทรหาได้หรือเปล่า”

    “ได้”

    “แล้วต่อไปนี้ก็ไม่ต้องไปทำงานที่ร้านกาแฟนะ”

    “ไม่”

    “เป่าจือ!”คนถูกขัดใจพูดฮึดฮัดไม่พอใจ กับคำตอบคนตัวเล็กในอ้อมกอด

    “ก็ฉันเบื่อ”

    “ต่อไปนี้ก็ไม่เบื่อแล้วไง ฉันจะโทรหานาย จะไปหานายจนนายไม่มีเวลาว่างเบื่อเลย นะ เป่าจือนะ”จมูกโด่งก้มลงมาคลอเคลียแก้มใสอย่างออดอ้อน

    “ฉันกับพี่จินไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นก็หรอกน่า”

    “ถึงจะไม่คิดฉันก็ไม่ชอบ!

    “ขึ้นเสียงแบบนี้ก็ปล่อยฉันเลย”มินซอกดิ้นออกจากอ้อมแขน คนเอาแต่ใจที่เผลอพูดเสียงดังใส่ด้วยความไม่พอใจ

     

    ดวงตากลมโตจ้องมองอย่างเอาเรื่องกับลู่หานที่ตอนนี้ก็มีทีท่าว่าจะไม่ยอมง่ายๆเหมือนกัน

     

     

    “ขอโทษ เป่าจือครับ อย่าไปทำงานเลยนะ”

    สุดท้ายลู่หานก็เป็นลู่หาน คนเกรงใจแฟน(?)คนเดิม เพิ่มเติมคือเกรงใจมากขึ้นทุกวัน

    “ขอคิดดูก่อนแล้วกัน”

    “แบบนั้นก็ได้”เสือร้ายที่กล้าพูดจาไม่ดี หรือส่งเสียงดังไม่มีอีกแล้ว เหลือแต่กวางน้อยเชื่องๆที่ยอมให้แมวตัวเล็กที่ทำหน้าดุไม่เลิก

    “อือ ฉันกลับโรงแรงก่อนนะ”

    “เดี๋ยวไปส่ง”

    “ไม่ต้อง!”ทำตาโตดุใส่คนดังที่ไม่คิดหน้าคิดหลัง ก่อนจะหันหลังเดินออกมา

     

    “เดี๋ยวสิ...”

    “อะไรอีก?”หันไปดุคนตัวสูงที่วิ่งตามมาติดๆ

    “ผมขอเบอร์คุณหน่อยได้ไหมครับ พอดีจำได้ว่าคนใจร้ายแถวนี้เปลี่ยนเบอร์นี้ผมไป แล้วสั่งห้ามให้ใครบอกผมซะด้วย”

    “ถ้าจะกวนแบบนี้ก็ไม่ต้องเอาหรอกครับ”

    “ฮื่ออ เป่าจือเก่อล้อเล่น”

    “...”

    “ขอเบอร์หน่อยสิครับ ผมว่าผมชอบคุณเข้าแล้วล่ะ”

    “ไร้สาระ”ปากบ่นแต่มือก็ยื่นไปรับโทรศัพท์มากดเบอร์ตัวเองแล้วยื่นให้อีกคนก่อนจะรีบเดินหนีออกมา ลู่หานดีแต่ทำให้ใจเย็นแรงแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?

     

    “รอรับสายผมด้วยนะครับ  ผมจะโทรไปคุยด้วย จนคุณยอมเป็นของผมเลยล่ะ”

    “โรคจิต!

    “เปล่านะครับ ผมบริสุทธิ์ใจนะ”

    “ประสาท”บ่นให้ลู่หานที่ตะโกนตามหลังกับประโยคบ้าบอ

     

    “แต่ถ้านายยอม ฉันก็อยากได้นะ...”

    “....”

    “อยากได้นายมาเป็นคนของฉันน่ะ เป่าจืออออ”

    ไม่สนใจอะไรแล้ว มินซอกก้มหน้าก้มตาเดินออกจากตรงนั้นให้เร็วที่สุดก่อนจะบ้าตายกับคำพูดของอีกคน

    สงสัยจะเหนื่อยมาก หัวใจเต้นแรงไม่หยุด ในหัวก็ยังคงมีแต่เสียงของลู่หานเต็มไปหมด

    “แต่ถ้านายยอม ฉันก็อยากได้นะ...

    ....อยากได้นายมาเป็นคนของฉันน่ะ เป่าจืออออ”

     

             ลู่หาน คนบ้าเอ้ยยยย >/////<



    #กลับมาหาเธอ

    #BBBUTTER

    กลับมาแล้วค่ะ เราหายไปนาน แป้กไปเยอะเลย

    แต่สำหรับไรท์กากๆแบบเราแค่มีคนอ่านเหลืออยู่บ้างก็โอเคแล้ว

    ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันน้า


    เค้าดีกันแล้ว แต่ยังไม่จบนะคะ

    ในเรื่องขาดความหวานมานานมาเติมกันเถอะ เย้ 

    #รักเหมือนเดิม ^^

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×