คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : CHAPTER16
CHAPTER16
กลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟและเบเกอรี่ในคาเฟ่เล็กๆที่ถูกจัดแบบเรียบง่าย
มินซอกที่กำลังวุ่นกับการชงกาแฟตามออเดอร์ลูกค้า
ถึงจะดูวุ่นวายแต่ใบหน้ากลมน่ารักนั่นก็ยังคงเปื้อนรอยยิ้มอยู่เสมอเมื่อได้ทำงานที่ตัวเองชอบ
หลังจากที่บอกเลิกลู่หานไปมินซอกก็ได้แต่นั่งโง่ๆอยู่บ้านไม่เป็นอันทำอะไร
กับตอบคำถามอี้ชิงและเด็กๆในบ้านที่ถามแต่คำถามเดิมๆว่า ‘เมื่อไรจะยอมกลับไปคุยกับลู่หาน’
และทุกครั้งมินซอกก็ได้แต่ยิ้มกลับไปแทนคำตอบ
ลู่หานที่กำลังวุ่นวายกับการเตรียมคอนเสิร์ตของตัวเองก็ไม่ได้ติดต่อมาเลย
มีแต่เฮียคริสที่ทักทายผ่านการคุกับอี้ชิงบ่อยๆ
ตอนนี้ทุกคนในบ้านดูมีความสุขดีกับความรักของตัวเอง แต่ความสัมพันธ์ของมินซอกกับลู่หานกลับห่างกันออกไปเรื่อยๆ
แต่แบบนี้ก็ไม่แย่สำหรับมินซอกเท่าไรนักเพราะอย่างน้อยก็ไม่ได้เข้าใจผิดหรือติดค้างกันเรื่องอะไรอีก
บอกตัวเองว่ามันไม่ได้แย่
แต่กลับกลายเป็นคนที่เหม่อลอยอยู่บ่อยๆจนคนในบ้านเป็นห่วง
พอดีที่พี่จินเปิดร้านกาแฟใหม่กับรุ่นน้องที่คณะ เลยชวนมินซอกมาทำงานด้วย
ถือเป็นการทำงานฆ่าเวลา เผื่อการอยู่กับสิ่งที่ชอบจะทำให้มินซอกรู้สึกดีขึ้น
แต่สุดท้ายมินซอกก็ได้รู้ว่าตัวเองคิดผิด
เพราะการอยู่ในร้านแบบนี้ ได้กลิ่นหอมของกาแฟแบบนี้ ยิ่งทำให้ คิดถึงคนที่ชอบมานั่งกินกาแฟด้วยกัน
“มินซอก!”
“คะ ...ครับ?”เสียงเรียกจากเจ้าของร้านที่กำลังยืนส่ายหน้ากับอาการเหม่อลอยของรุ่นน้องตัวเล็กของตน อาการหนักขึ้นทุกวันสิน่า
“มีออเดอร์เข้ามาใหม่นะ”
“ครับ”พยักหน้ารับก่อนจะหันไปเก็บอุปกรณ์ให้เข้าที่เรียบร้อย
ก่อนจะมานั่งประชุมกับเจ้าของร้านทั้งสองคน
ร้านนี้มีมินซอกมาช่วยงาน
และเจ้าของร้านคนแรกก็คือพี่จิน ที่ตอนนี้กลายเป็นพี่ชายที่น่ารักของมินซอกไปแล้ว
กับเด็กชายที่อายุน้อยกว่ามินซอกนิดหน่อย หน้าตาน่ารักกับฟันกระต่ายคู่สวย จอน จองกุก
ที่พี่จินบอกว่าเป็นรุ่นน้องในคณะ
แต่ใครดูก็รู้ว่าพี่จินคิดไม่ซื่อกับน้อง
คนในบ้านมินซอกเลยสบายใจยอมให้มาทำงานกับจินได้
“ทำไมกุกกี้ดูตื่นเต้นขนาดนั้นล่ะ”
คำเรียกแทนตัวสำหรับคนในร้านที่สนิทกันขึ้นทุกวันถูกใช้
หลังจากเคลียร์งานทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
“มันก็เวอร์แบบนี้ตลอดแหละ โอ้ย”ซอกจินที่วันๆดีแต่แกล้งน้อง
โดนถวายมือพิฆาตไปฉาดใหญ่
“มินิฮยองรู้แล้วจะต้องตื่นเต้นแบบผมแน่ๆ”จองกุกหันมาพูดแบบร่าเริงตามแบบฉบับของเขากับผม
ใช่แล้วล่ะครับ มินิ = มินซอก ผมเองแหละ คุณเจ้าของร้านทั้งสองเขาช่วยกันตั้งให้
และดูจะเป็นเรื่องเดียวที่สามัคคีกันมาก
“รีบๆบอกมาเถอะน่า”<<จิน
“จำบริษัทที่สั่งออเดอร์กับเราบ่อยได้ไหมฮะ
เรากำลังมีงานนอกประเทศ แล้วเขาก็เลือกจ้างร้านเรา .....”
“เราจะได้ไปเที่ยวประเทศจีนกัน”
“เราจะได้ไปเที่ยวประเทศจีนกัน”
คำพูดเดิมๆของจองกุกที่วนเวียนอยู่ในหัวมินซอกตลอดจนถึงตอนนี้
ความรู้สึกมันสับสนเหมือนดีใจ แต่ก็กังวล แต่ทางที่ดีมินซอกขอให้อย่ามีอะไรเกิดขึ้นเลย
ถ้าห่างกันไปขนาดนี้แล้วก็อย่ามาให้เจอกันอีกเลยนะ..... ลู่หาน
งานนิทรรศการขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป
ถูกบรรจุด้วยบูธกิจกรรมมากมาย ผู้คนเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆกับ
ชาวเกาหลีสามคนที่วุ่นวายกับการจัดขนมให้แขกแต่ละคน
ในห้างขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในปักกิ่ง ประเทศจีน
แต่เพราะมีร้านบริการจำนวนมากทำให้ไม่เหนื่อยจนเกินไป
มินซอกที่รู้สึกสบายใจมากขึ้นหลังจากไปดูตารางการแสดงบนเวทีของงานวันนี้ไม่มีใครคนนั้น
คนที่มินซอกคิดถึง แต่ก็ไม่อยากจะเจอหน้ากันตอนนี้ ขอแค่ได้คิดถึงก็พอแล้ว
“มินิ”
“ครับ?”
“ทำไมนายเป็นเด็กสกปรกแบบนี้ล่ะเนี่ย”ปากบ่นไม่หยุดแต่พี่จินก็ช่วยปัดแป้งที่ใช้ทำขนมเมื่อเช้าที่ติดบนผมของมินซอกอย่างใจเย็น
“บ่นเป็นคนแก่ไปได้”
“เดี๋ยวนี้กล้าว่าพี่แล้วหรอ? เดี๋ยวจะโดนนะเรา”
“ทีกับกุกกี้ยังไม่แตะสักนิดเลยนะ
รายนั้นดื้อกว่าผมอีก”คำแย้งกลับของมินซอกทำให้พี่จินได้แต่แกล้งขยี้หัวมินซอกแล้ววิ่งหนีไปเท่านั้น
“มินิฮยอง
ช่วยเอาอันนี้ไปให้ที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าตรงนู้นทีสิฮะ”จองกุกที่อยู่ๆก็โผล่มากับถาดขนมกับกาแฟยื่นให้เขาแบบรีบๆแล้ววิ่งกลับไปช่วยพี่จินจัดของต่อ
ทำให้มินซอกได้แต่เดินในห้องแต่งตัวศิลปินหลังเวที
ประตูห้องแต่งตัวถูกเปิดออกเบาๆหลังจากเคาะอยู่นานแต่ไม่มีใครเปิดให้
มินซอกค่อยๆเดินเข้าไปวางของไว้ที่โต๊ะในห้อง แต่เพราะพึ่งเคยเห็นห้องแต่งตัวศิลปินแบบนี้ก็ขอเดินสำรวจหน่อยละกัน
เดินหยิบนู่นนี่ดูเพลิน
จนเผลอชนกล่องบนโต๊ะร่วงปลุกคนที่นอนคลุมตัวอยู่บนโซฟาลุกขึ้นด้วยความไม่พอใจ
“ขะ.. ขอโทษครับ ผมไม่....”มินซอกที่ตกใจที่เห็นว่ามีคนอยู่ในห้อง
กลับต้องตกใจมากกว่าเดิมที่คนที่พึ่งลุกมานั้นคือคนที่เขามั่นใจว่าจะไม่ได้เจอ ลู่หาน!
“มินิ”เป็นเสียงพี่จินที่โผล่เข้ามาตามรุ่นน้องที่หายไปนาน
“พี่จะมาบอกว่าไม่ต้องรีบนะ ของหมดแล้วพี่กลับไปรอที่โรงแรมแล้วกันนะ”
“เดี๋ยวครับ พี่จิน”มินซอกหันไปขอความช่วยเหลือ
หวังจะให้อีกคนพาตัวเองออกไปด้วย
แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อจินตอบกลับมาสั้นๆก่อนจะปิดประตู
“แล้วเจอกัน มินิ”
“เดี๋ยว....”
เสียงลู่หานดังขึ้นหลังจากที่เงียบมานาน พอเห็นอีกคนจะเดินออกไปจึงรีบพูดรั้งไว้ก่อน
ลู่หานกำลังตกใจไม่ต่างจากมินซอกที่มาเจอกันที่นี่ ถึงจะไม่รู้รายละเอียดอะไรแต่การที่เฮียคริสมันบอกว่ามีงานด่วนแล้วให้เขามาโผล่
แล้วมาเจอมินซอกที่นี่มันต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ
“มาอยู่ที่นี่ได้ไง?”
“มาช่วยพี่จินทำงาน”
“งั้นหรอ ดูสนิทกันดีนะ”
“....”
“......”
คำพูดเรียบง่ายไม่มีการใส่ความรู้สึกอะไรของมินซอก
ทำให้ลู่หานแทบบ้า จนพูดเรื่องไม่น่าพูดออกมาจนได้
“เรียกกันว่าไงนะ มินิงั้นหรอ
มีความสุขมากไหมมินซอก?”
“ถ้าจะพูดเรื่องนี้ผมขอตัวนะครับ”
“เดี๋ยว”มือเรียวรั้งคนตัวเล็กแล้วออกแรงดึงให้หันหน้ามาหาตัวเอง
นานเท่าไรแล้วที่ไม่ได้เจอกัน
นานเท่าไรแล้วที่ได้แต่แอบดูคนตัวเล็กผ่านวิดีโอคอลของเฮียคริสกับอี้ชิง กับรูปที่เด็กๆถ่ายส่งมาให้เป็นบางครั้ง
“ปล่อยผมครับ”
“อย่าเป็นแบบนี้มินซอก”เสียงกดต่ำระงับอารมณ์ตัวเองที่รู้สึกไม่พอใจที่อีกคนดูสนิทกับจินทั้งๆที่ก็รู้มาบ้างว่าไปทำงานที่ร้านเดียวกัน
แต่พอได้เห็นแล้วมันก็ไม่โอเคเท่าไร
ยิ่งคนตัวเล็กมาพูดจาแบบนี้แล้วความรู้สึกมันยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
“ขอโทษนะครับ”
“หยุด... หยุดพูดทางการกับฉันสักที!”
“โอเค ได้ ได้เลย...”คนตัวเล็กพูดพึมพำและพยักหน้าเออออกับตัวเองเบาๆก่อนจะเงยหน้าสบตากับคนตรงหน้า
“....”
“ฉันไม่รู้นะว่านายทำแบบนี้ทำไม
แต่ในเมื่อที่ผ่านมามันไม่ได้มีอะไรแล้ว ความสัมพันธ์ของเรามันห่างไปไกลมากแล้ว
เพราะฉะนั้น อย่ามาทำให้ฉันสับสนเลยนะ”
พูดจบก็พยายามแกะมือคนตรงหน้าแล้วเดินหนีออกจากห้องไป
เสียงกรี๊ดของผู้คนในนิทรรศการกับเสียงปรบมือต้อนรับ
ทำให้คนที่เอาแต่วิ่งเรื่อยๆหยุดฝีเท้าลง ไม่มีลู่หานตามมา
แต่อีกคนกลับไปโผล่บนเวทียิ้มแย้มกับแฟนคลับได้เป็นปกติ
มินซอกได้แต่ยืนหัวเราะตัวเองที่คิดว่าอีกคนยังรู้สึกดีต่อกัน
และวิ่งตามเขามาเพื่อคุยกันให้รู้เรื่อง
เสียงดนตรีจบลงพร้อมกับเสียงปรบมือให้บทเพลงที่ลู่หานร้องบนเวที
ไม่รู้ว่ามินซอกเหนื่อยมากแค่ไหน ถึงไม่ยอมก้าวออกไปจากตรงนี้สักที
“ถือว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์มากนะครับที่อยู่ๆมีคนดังมาโผล่บนเวทีของเรา
ขอเสียงปรบมือดังๆอีกครั้งให้คนดังของเรา ลู่หาน”เสียงพิธีกรบนเวทีเริ่มพูดคุยกับลู่หานที่ยืนส่งยิ้มให้กับผู้คนในงาน
“ครับ ผมก็เซอร์ไพรส์มากๆเหมือนกัน
ที่ทุกคนให้ความร่วมมือช่วยผมร้องเพลงกันทุกคนเลย ขอบคุณนะครับ”
“เวลานี้ใครไม่รู้จักเพลงของลู่หาน
ใครไม่เป็นแฟนคลับลู่หานนี่คงเป็นไปไม่ได้แน่ๆ ใช่ไหมครับ?”
เสียงตอบรับของผู้ชมดังสนั่น
แฟนคลับลู่หานเยอะมากจริงๆ
“ใกล้จะถึงคอนเสิร์ตเดี่ยวของคุณแล้วมีอะไรอยากจะพูดกับแฟนคลับหรือเปล่าครับ
หรือในคอนเสิร์ตจะมีอะไรพิเศษบ้าง พอจะบอกเราหน่อยได้ไหม?”
“วันนี้เป็นวันที่ผมโชคดีที่ได้เจอกับคนที่ไม่ได้เจอกันมานาน วันนี้ผมอารมณ์ดีมาก
เพราะฉะนั้นผมจะบอกไฮไลท์ในคอนเสิร์ตที่จะถึงนี้ให้ทุกคนฟังครับ”
เสียงฮือฮา เสียงกรี๊ด
เสียงเรียกชื่อลู่หาน
กับเสียงปรบมือดีใจดังขึ้นเรื่อยๆจนพิธีกรต้องขอความร่วมมือให้เงียบกันก่อน
เพื่อที่จะให้ลู่หานได้พูดต่อ ลู่หานที่ยังคงยิ้มอยู่ตลอดเวลาที่อยู่บนเวทีตอนนี้กำลังมองมาที่เขา
มองมาที่มินซอกที่ยืนปนอยู่กับผู้ชมด้านล่าง
ครั้งนี้มินซอกมั่นใจว่าไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองแน่ๆ
เพราะคนบนเวลา ขยับปากแบบไม่มีเสียงหลังจากที่เห็นว่ามินซอกกำลังมองอยู่
‘ตั้งใจฟังดีๆนะ
เป่าจือ’
“ในคอนเสิร์ตผมจะร้องเพลงที่ผมแต่งเองครับ
เนื้อหาเพลงมาจากก่อนหน้านี้ผมต้องอยู่ห่างจากคนคนนึงครับ
เพราะเขาขอร้องให้ผมถอยออกมา.... ตอนแรกผมรู้สึกแย่มากๆ
เพราะเอาแต่คิดถึงคนคนนั้น...”
คำพูดของลู่หานเรียกเสียงฮือฮาของคนที่ยืนชมอยู่เป็นอย่างดี
แต่ทุกคำที่ลู่หานพูดออกมากลับชัดเจนมากสำหรับมินซอกที่ยืนตั้งใจฟังคนบนเวที
พร้อมกับเสียงของหัวใจตัวเองที่ดังมากขึ้นเรื่อยๆ
“...เขาขอร้องให้ผมห่างออกมา
เพราะอยากให้ผมมีอนาคตที่ดี อยากให้ผมเต็มที่กับงาน เขาชอบคิดว่าตัวเองไม่คู่ควร
ทั้งๆที่สำหรับผม ไม่มีใครแทนที่เขาได้ด้วยซ้ำ เขาคือคนสำคัญสำหรับผมครับ”
“อ่า เหมือนจะมีข่าวใหม่ที่น่าสนใจนะครับ
แบบนี้คุณลู่หานกำลังจะเปิดตัวแฟนหรือเปล่าครับ?”
“เปล่าครับ เขาไม่อยากให้ผมบอกใครหรอก
เขากลัวว่าแฟนคลับผมจะเสียใจ แต่ตอนนี้เหมือนเราจะห่างกันเกินไปจนผมกลัวจะเสียเขาไป..”
“...”
“วันนี้ผมเลยอยากจะบอกพวกคุณทุกคน และขอความช่วยเหลือจากทุกคนที่รักผม
เพราะพวกคุณคือคนที่พิเศษมากสำหรับผม...”
“ถ้าผมจะรักใครสักคน พวกคุณจะเสียใจไหมครับ?
พวกคุณจะผิดหวังในตัวผมหรือเปล่า?”คำถามจากลู่หานทำให้แฟนคลับฮือฮาหันไปพูดคุยกันจนเสียงดังทั่วทั้งชั้นที่จัดนิทรรศการ
“ฉันรักคุณ ฉันรักคุณ ฉันรักคุณ....”เสียงแฟนคลับพร้อมใจกันตะโกนให้ลู่หาน
“ขอบคุณครับ ผมก็รักพวกคุณ”
“แต่ผมขอรักคนคนนั้นของผมได้ไหมครับ?
ผมอยากให้พวกคุณช่วยแสดงให้เขาเห็น แล้วช่วยขอร้องให้เขา ให้โอกาสผมอีกครั้งนะครับ”คำพูดที่คุยกับแฟนคลับ
แต่ประโยคสุดท้ายที่เน้นชัดเจน และหันกลับมาสบตามินซอกอีกครั้ง
แฟนคลับยังคงตะโกนบอกรักและปรบมือให้กำลังใจศิลปินของพวกเขา
ก่อนที่จะร้องเพลงสุดท้ายร่วมกับลู่หาน คำพูดสุดท้ายถูกทิ้งท้าย ก่อนที่ลู่หานจะลงจากเวทีและเปลี่ยนให้ศิลปินคนอื่นขึ้นมา
“ขอบคุณนะครับ ผมรักพวกคุณ”
“มินซอก”
เสียงเรียกที่คุ้นเคย ทำให้มินซอกหยุดเดิน
ทั้งๆที่พยายามเดินออกมาเร็วที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่ทันคนขายาวกว่าที่ลงจากเวทีแล้วรีบตามเขาออกจากงานมา
“ฟังฉันก่อนนะ
ที่ไม่ได้ติดต่อไปไม่ใช่เพราะนายรึไงที่สั่งฉันไว้ ฉันไม่กล้าติดต่อไปหรอกนะ
ฉันกลัวว่านายจะหนีไปแบบที่นายพูดก่อนที่ฉันจะกลับมาที่นี่”ลู่หานพูดอธิบายให้มินซอกที่พยายามกลบเกลื่อนหน้าที่กำลังร้อนเห่อของตัวเอง
ยังจะมาอธิบายอะไรต่ออีก แค่เรื่องบนเวทีก็ทำให้มินซอกเขินจนทำตัวไม่ถูกแล้ว
“ดีกันนะ”นิ้วก้อยถูกยกขึ้นมาตรงหน้าคนตัวเล็กกว่าด้วยท่าทางกล้าๆกลัวๆของลู่หาน
มินซอกที่ยืนนิ่งตั้งแต่เมื่อกี้ไม่สนใจนิ้วก้อยที่ลู่หานชูค้างไว้
แต่กลับก้มหยิบอะไรสักอย่างในกระเป๋าตัวเองแล้วขยับเข้ามาใกล้ลู่หานเรื่อยๆ
ก่อนจะสวมหมวกเพื่ออำพรางให้คนที่ทำอะไรไม่ค่อยคิดอย่างลู่หาน
ดวงตากลมโตมองคนตรงหน้าที่ยืนจ้องหน้าเขาไม่ละสายตาเหมือนกัน
พึ่งรู้ว่าแรงโน้มถ่วงของโลกมีแรงมากพอที่จะพาริมฝีปากสองคู่ประกบลงหากันอย่างรวดเร็วพร้อมกับอ้อมกอดอุ่นที่คิดถึงมานาน
ความอบอุ่นจากริมฝีปากทั้งคู่ แล่นเข้าไปถึงหัวใจที่กังแข่งกันเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
ใบหน้ากลมมีสีแดงระเรื่อขึ้นอีกครั้งหลังจากลู่หานถอนริมฝีปากออกไป
แต่ไม่ยอมคลายอ้อมกอดและเอาแต่มองหน้าเขา
“ปล่อยได้แล้ว”
“ไม่ปล่อยหรอก กลัวหาย”
“ฉันไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ ไม่หายหรอกน่า”
“ยังไงก็ไม่ปล่อย”
มินซอกได้แต่อมลมใส่แก้มพองๆของตัวเองด้วยความเหนื่อยใจกับคนเอาแต่ใจอย่างลู่หาน
ที่ตอนนี้เอาแต่ฉีกยิ้มเหมือนคนบ้า
ยิ้มมากๆเดี๋ยวปากก็กว้างเท่าชานยอลกันพอดี
“หลังจากนี้ฉันกลับไปหานายที่บ้านได้ไหม?”
“อะ..อือ”
“โทรหาได้หรือเปล่า”
“ได้”
“แล้วต่อไปนี้ก็ไม่ต้องไปทำงานที่ร้านกาแฟนะ”
“ไม่”
“เป่าจือ!”คนถูกขัดใจพูดฮึดฮัดไม่พอใจ กับคำตอบคนตัวเล็กในอ้อมกอด
“ก็ฉันเบื่อ”
“ต่อไปนี้ก็ไม่เบื่อแล้วไง ฉันจะโทรหานาย
จะไปหานายจนนายไม่มีเวลาว่างเบื่อเลย นะ เป่าจือนะ”จมูกโด่งก้มลงมาคลอเคลียแก้มใสอย่างออดอ้อน
“ฉันกับพี่จินไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นก็หรอกน่า”
“ถึงจะไม่คิดฉันก็ไม่ชอบ!”
“ขึ้นเสียงแบบนี้ก็ปล่อยฉันเลย”มินซอกดิ้นออกจากอ้อมแขน
คนเอาแต่ใจที่เผลอพูดเสียงดังใส่ด้วยความไม่พอใจ
ดวงตากลมโตจ้องมองอย่างเอาเรื่องกับลู่หานที่ตอนนี้ก็มีทีท่าว่าจะไม่ยอมง่ายๆเหมือนกัน
“ขอโทษ เป่าจือครับ อย่าไปทำงานเลยนะ”
สุดท้ายลู่หานก็เป็นลู่หาน คนเกรงใจแฟน(?)คนเดิม เพิ่มเติมคือเกรงใจมากขึ้นทุกวัน
“ขอคิดดูก่อนแล้วกัน”
“แบบนั้นก็ได้”เสือร้ายที่กล้าพูดจาไม่ดี
หรือส่งเสียงดังไม่มีอีกแล้ว เหลือแต่กวางน้อยเชื่องๆที่ยอมให้แมวตัวเล็กที่ทำหน้าดุไม่เลิก
“อือ ฉันกลับโรงแรงก่อนนะ”
“เดี๋ยวไปส่ง”
“ไม่ต้อง!”ทำตาโตดุใส่คนดังที่ไม่คิดหน้าคิดหลัง
ก่อนจะหันหลังเดินออกมา
“เดี๋ยวสิ...”
“อะไรอีก?”หันไปดุคนตัวสูงที่วิ่งตามมาติดๆ
“ผมขอเบอร์คุณหน่อยได้ไหมครับ พอดีจำได้ว่าคนใจร้ายแถวนี้เปลี่ยนเบอร์นี้ผมไป
แล้วสั่งห้ามให้ใครบอกผมซะด้วย”
“ถ้าจะกวนแบบนี้ก็ไม่ต้องเอาหรอกครับ”
“ฮื่ออ เป่าจือเก่อล้อเล่น”
“...”
“ขอเบอร์หน่อยสิครับ ผมว่าผมชอบคุณเข้าแล้วล่ะ”
“ไร้สาระ”ปากบ่นแต่มือก็ยื่นไปรับโทรศัพท์มากดเบอร์ตัวเองแล้วยื่นให้อีกคนก่อนจะรีบเดินหนีออกมา
ลู่หานดีแต่ทำให้ใจเย็นแรงแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?
“รอรับสายผมด้วยนะครับ ผมจะโทรไปคุยด้วย จนคุณยอมเป็นของผมเลยล่ะ”
“โรคจิต!”
“เปล่านะครับ ผมบริสุทธิ์ใจนะ”
“ประสาท”บ่นให้ลู่หานที่ตะโกนตามหลังกับประโยคบ้าบอ
“แต่ถ้านายยอม ฉันก็อยากได้นะ...”
“....”
“อยากได้นายมาเป็นคนของฉันน่ะ เป่าจืออออ”
ไม่สนใจอะไรแล้ว
มินซอกก้มหน้าก้มตาเดินออกจากตรงนั้นให้เร็วที่สุดก่อนจะบ้าตายกับคำพูดของอีกคน
สงสัยจะเหนื่อยมาก หัวใจเต้นแรงไม่หยุด
ในหัวก็ยังคงมีแต่เสียงของลู่หานเต็มไปหมด
“แต่ถ้านายยอม ฉันก็อยากได้นะ...
....อยากได้นายมาเป็นคนของฉันน่ะ
เป่าจืออออ”
ลู่หาน คนบ้าเอ้ยยยย
>/////<
#กลับมาหาเธอ
#BBBUTTER
กลับมาแล้วค่ะ เราหายไปนาน แป้กไปเยอะเลย
แต่สำหรับไรท์กากๆแบบเราแค่มีคนอ่านเหลืออยู่บ้างก็โอเคแล้ว
ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันน้า
เค้าดีกันแล้ว แต่ยังไม่จบนะคะ
ในเรื่องขาดความหวานมานานมาเติมกันเถอะ เย้
#รักเหมือนเดิม ^^
ความคิดเห็น