คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : CHAPTER13
Chapter13
Chapter13
“ฉันยอมมาด้วยแล้วก็เอาคลิปมาให้ฉันได้แล้ว”
มินซอกที่อยู่ในบ้านของเจ้าของบ้านที่ดูไม่น่าไว้ใจนัก
พยายามข่มตัวเองไม่ให้กลัวแล้วจัดการธุระให้มันจบๆไป
“อย่ามาตลกน่ามินซอก
นายก็น่าจะรู้นี่ว่าฉันต้องการอะไร”
“ว่าไงดีล่ะ ขึ้นไปข้างบนเลยดีไหม”คนตัวเล็กที่ถูกคุกคามได้แต่ยืนตัวนิ่ง
ไม่ใช่ไม่รู้ว่าตัวเองจะมาเจอกับอะไร แต่มันก็ช่วยไม่ได้จริงๆ
เพื่อผู้ชายที่ดูแลและรักเขามาตลอด มินซอกยอมได้ทุกอย่าง
หยดน้ำใสไหลออกจากตาในจังหวะเดียวกันที่ใบหน้าหวานพยักหน้า
แล้วยอมเดินตามอีกคนไปอย่างว่าง่าย
‘ขอโทษนะลู่หาน’
พลั่กก
หลังจากเสียงหมัดแรกถูกปล่อยออกมา
ความชุลมุนของผู้ชายสองคนที่ปล่อยหมัดใส่กันอย่างไม่มีใครยอมใคร
คนแรกคือผู้ชายที่จับมือมินซอกอยู่เมื่อครู่นี้แต่อีกคนคือผู้ชายที่ไม่น่าจะมาอยู่ตรงนี้ได้ในตอนนี้
ลู่หานอยู่ในสภาพที่แย่ที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา
ริมฝีปากมีเลือดไหลออกมานิดๆ ใบหน้าและตัวเต็มไปด้วยรอยช้ำ
การต่อสู้จบลงแล้วหลังจากที่พี่จินที่น่าจะมากับลู่หานมาจับมีนัมล็อคไว้
ลู่หานหันมามองมินซอกที่ยังคงเดินนิ่งอยู่ที่เดิมใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา ตัวสั่นเทาด้วยความกลัวจนลู่หานอยากจะเดินเข้าไปคว้ามากอดซะเดี๋ยวนั้น
แต่ถึงคราวซวย อะไรมันก็ไม่ได้ดั่งใจซักอย่าง
อยู่ๆในบ้านมีแค่ไม่กี่คน เต็มไปด้วยพวกของมีนัม
และแน่นอนว่าน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ลู่หานกับจินเป็นฝ่ายเสียเปรียบและต้องแพ้นี่สุด
ภาพสุดท้ายก่อนสติจะดับวูบไปของลู่หาน คือ
มินซอกที่พยายามดิ้นออกจากการถูกรั้งแขนไว้จากพวกสกปรกเพื่อมาช่วยเขา
เสียงเรียกชื่อเขาและเสียงสะอื้นดังออกจากปากของคนตัวเล็กไม่หยุด
ตาแดงกล่ำจากการร้องไห้อย่างหนัก
‘ฉันขอโทษนะมินซอก'
---ต่อกันตรงนี้นะ---
สายตาพร่ามัวค่อยๆลืมขึ้น เห็นเพดานห้องที่คุ้นเคย
สติยังไม่ได้ที่มีแต่ความสับสนมึนงง ลู่หานค่อยๆพยุงตัวเองขึ้นมองบรรยากาศรอบๆทำให้รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ในห้องนอนของตัวเองแล้ว
แต่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ความทรงจำสุดท้ายคือตัวเองกับจินถูกทำร้ายตอนไปช่วยมินซอก
มินซอก
ความทรงจำที่พร่าเบลอ
ชัดเจนขึ้นมาด้วยภาพคนตัวเล็กที่เต็มไปด้วยน้ำตา
ทำให้ลู่หานวิ่งออกมาจกห้องนอนของตัวเองด้วยความเร็ว เพื่อตามหาอีกคน
ในหัวตอนนี้เต็มไปด้วยคำถามว่าทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ อีกคนเป็นยังไงบ้าง
“เฮียรู้สึกตัวแล้วหรอ”เสียงทักจากชานยอลดูสดใส
แต่มีสิ่งที่ขัดตาออกไปคือทุกคนในบ้านที่มากองกันอยู่ในห้องนั่งเล่น
มีสภาพที่แย่มาก
“มินซอก”แต่ความเป็นห่วงเทียบกับที่เขาห่วงคนตัวเล็กที่นั่งซึมอยู่ข้างๆอี้ชิงไม่ได้
ลู่หานเดินตรงเข้าไปหาและทรุดตัวนั่งลงข้างหน้าคนตัวเล็กที่เนื้อตัวมีรอยช้ำ
“รู้สึกตัวแล้วหรอ”
“คิดว่านี่คือสิ่งที่ควรพูดหรอ”หงุดหงิด
เป็นความรู้สึกเดียวที่ลู่หานมีตอนนี้ หงุดหงิดที่ไม่รู้ว่าคนตัวเล็กเจออะไรมาบ้าง
หงุดหงิดที่อีกคนไม่บอกอะไรเขาเกี่ยวกับเรื่องนั้น
หงุดหงิดที่บนร่างคนตัวเล็กมีรอยคิสมาร์กที่ควรเป็นเขาคนเดียวที่ได้ทำ
แต่รอยนี้ลู่หานมั่นใจว่ามันไม่ใช่
“แล้วจะให้เราพูดอะไร”
“พูดอะไรก็ได้ที่ทำให้ฉันเข้าใจว่านายไปทำอะไรกับไอ้เชี่ยนั่น
ให้ฉันเข้าใจว่าอะไรทำให้นายยอมให้มัน...”
“ยอมให้มันเพื่ออะไรวะมินซอก”เกินกว่าจะควบคุมอารมณ์แล้วตอนนี้
คำพูดของตัวเองรุนแรงมากแค่ไหนลู่หานไม่รับรู้อีกแล้ว ความรู้สึกนัวมีแต่ความหงุดหงิด
ไม่พอใจ ไม่เข้าใจ
“มึงหุบปากก่อนได้ไหมลู่”เป็นเฮียคริสที่เดินมาดึงแขนแล้วพยายามลากลู่หานให้ออกไปจากตรงนี้
“จะให้หยุดได้ไงวะเฮีย
ไม่คิดจะพูดให้ฉันเข้าใจจริงๆไหมมินซอก นายแม่ง..”
“เราแม่งง่ายใช่ไหม?”
น้ำตาที่หยุดไหลไปสักพัก
กลับมาอาบเต็มแก้มสองข้างอีกครั้ง สายตาที่เคยมีแต่ความสดใส
มีแต่แววตาแห่งความชื่นชมและความรักที่เคยได้รับจากลู่หาน ตอนนี้มีแต่ความผิดหวัง
ซึ่งมันก็สมควรแล้วจริงๆที่คนอย่าเขาจะได้รับ โง่เองที่ยอมไปทำเรื่องไร้ค่า
โง่ที่ยอมทำได้ทุกอย่าง โง่ที่คิดว่าทุกอย่างมันจะผ่านไปได้
แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรขึ้นเลย
“พอเหอะ มินซอกไปพักก่อน”อี้ชิงกระชับอ้อมแขนที่สวมกอดเพื่อนตัวเล็กให้ค่อยๆลุกขึ้น
“ไม่ เราไม่เป็นอะไร
นายอยากให้ฉันบอกนายว่าอะไรลู่หาน บอกว่าฉันยอมให้มีนัมเพื่ออะไร
ยอมให้มีนัมจริงไหมใช่หรือเปล่า ใช่ เรายอมให้มีนัมเอง พอใจหรือยัง?”
“พูดออกมาได้ง่ายๆแบบนี้เลยหรอวะ”
“ใช่ ก็เรามันง่ายนี่ จะทำให้มันยากทำไม”คำพูดโต้ตอบไม่ยอมกัน
แต่น้ำตากลับไหลออกมาไม่หยุด
“ฉันหมดคำจะพูดกับนายจริงๆมินซอก พูดออกมาดิวะ
เหตุผลอ่ะ”
“พอเถอะ ฉันขอร้อง อี้ชิงพามินซอกไปพัก”คริสที่ทนดูลู่หานที่พ่นแต่คำรุนแรงออกมา
โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัว
อยู่ด้วยกันมาทำให้คริสรู้วาตอนนี้ลู่หานแค่เสียการทรงตัวและเป็นห่วงอีกคนมาก
แต่ความไม่เข้าใจมันมีมากเกินกว่าจะพูดคำดีๆออกมา
“พูดดิ
ฉันบอกให้นายพูดไง”
“....”
“มินซอก ฉันบอกให้พูด”
ความรู้สึกโกรธปะทุขึ้นเรื่อยๆเมื่ออยู่ๆอีกคนได้ปิดปากเงียบไม่ยอมสบตา
ไม่พูดอะไรออกมาสักอย่างแล้วจะเข้าใจกันได้ไงมินซอก
พูดกับฉันสิว่าไม่มอะไรเกิดขึ้น บอกฉันว่านายปลอดภัยดี
“เลิกกันนะ”
เสียงพูดที่หลุดออกจากปากของคนตัวเล็กที่ลู่หานรอให้พูดออกมาสักคำ
กลับเป็นคำที่เขาไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากคนตัวเล็ก
ไม่คิดว่าจะมีคำนี้เข้ามาในความสัมพันธ์ของเขากับมินซอก
“ไม่เอาแบบนี้ดิมินซอก นายก็รู้ว่าฉันแค่โกรธ
แค่พูดอะไรสักอย่างให้ฉันเข้าใจ ฉันขอแค่นั้น ไม่ได้หรอ”
“เลิกกันเถอะนะลู่หาน”
“มินซอก ฉันขอโทษที่พูดจาไม่ดี ฉันมันปากหมาเองเว้ย
อย่าเป็นแบบนี้นะ”มินซอกที่ยืนกรานคำเดิมเดินออกไปไกลเรื่อยๆจนคนที่กำลังเสียสติ
กลับมาสู่จุดยืนที่พอมีความคิดว่าตัวเองรุนแรงเกินไป
“อย่าเป็นแบบนี้เลยนะเป่าจือ”
สายตาที่โกรธเมื่อครู่กลับมาเป็นสายตาอ้อนวอนเหมือนที่ลู่หานชอบทำ
แต่ครั้งนี้มันจะเป็นครั้งแรกที่มันจะไม่ได้ผลกับมินซอก
พอแล้วกับเรื่องแย่ๆที่เกี่ยวกับเขาที่ลู่หานต้องมาเจอ ลู่หานเป็นศิลปินที่มีอนาคตที่ดี
เป็นแบบนั้นดีแล้วอย่ามาเสียเวลากับคนแบบเขาอีกเลย
ดวงตากลมโตสบตากับอีกคนเนิ่นนาน
เพราะรู้ว่าครั้งนี้มันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้มองตาคนที่ตัวเองรักได้ชัดเจนแบบนี้
ต่อไปนี้เราจะอยู่กันคนละโลกแล้วนะลู่เกอ
กลับไปโลกที่นายสามารถโบยบินได้อย่างสง่างาม
อย่ามาเสียเวลากับคนไม่ได้เรื่องอีกเลย
ลาก่อนนะ
“เราเลิกกันนะ ลู่หาน”
แหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายถูกถอดออก
แล้ววางใส่มือข้างขวาของอีกคนที่มีแหวนแบบเดียวกันอยู่ที่นิ้วนาง หมดเวลาแล้ว
สิ่งมีค่าควรอยู่กับสิ่งที่มีค่า
“ขอร้องนะเป่าจือ อย่าเป็นแบบนี้เลย”
อ้อมกอดอุ่นจากอีกคนกระตุ้นให้น้ำตาที่พยายามอดกลั้นไหวจะไหลออกมาอีกครั้ง
มินซอกพยายามออกจากอ้อมกอดนั้นก่อนที่จะร้องไห้อีกครั้ง
ถ้ามินซอกร้องไห้
ลู่หานก็จะยังคงอยู่กับความรู้สึกค้างคา
“กลับไปซะ ฉันไม่อยากเห็นหน้านายอีก”
“เป่าจือ...”
“อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกเลยนะลู่หาน
เพราะฉันไม่อยากจะไปจากที่นี่เพียงเพราะว่าไม่อยากเจอนาย”
“....”
“กลับไปที่อยู่ของนายเถอะนะ
ตอนนี้เราเลิกกันแล้ว”
“....”
“อย่ามายุ่งกับฉันอีก”
พูดคำที่คิดว่าควรพูดออกไป
เพื่อจบความสัมพันธ์ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ได้ต้องการ
แล้วหลบเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง แล้วปล่อยให้น้ำตาที่อดกลั้นไว้ ไหลออกมา
‘ลาก่อนนะ ลู่เกอของฉัน’
ความคิดเห็น