คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : SF1 : Feeling Confuse
“อืม เช้าแล้วเหรอเนี่ย” ร่างสูงพึมพำเบาๆ เมื่อแสงสว่างจากดวงอาทิตย์แยงตาจนต้องลืมตาไม่ได้ พอลืมตาขึ้นสิ่งแรกที่เห็นก็ทำเอาใบหน้าคมยิ้มกว้างออกมาไม่ได้
เรือนผมสีเงินปรกมาที่ใบหน้าหวาน เปลือกตาสีน้ำนมปิดนัยน์ตาสีเขียวไว้สนิท ริมฝีปากบางเผยออกหน่อยๆ มือบางข้างหนึ่งวางไว้ที่อกของเขา ส่วนแขนอีกข้างก็พาดไว้ที่เอว
เห็นอย่างนั้นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะแนบริมฝีปากลงกับแก้มเนียน ก่อนจะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ในหัวก็คิดถึงคำพูดของอีกฝ่ายเมื่อวาน คิดถึงตรงนี้ใบหน้าคมก็มุ่ยลง อดค้อนเจ้าของใบหน้าสวยหวานที่หลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมกอดไม่ได้
“โกคุเดระ ใจร้ายจังน้า” บ่นอย่างไม่จริงจัง แน่ล่ะ อาจจะคิดว่าเขาเห็นแก่ตัวก็ได้ ถ้าเขาจะเห็นว่า ความรู้สึกที่อีกฝ่ายบอกเขามาเมื่อคืนไม่สำคัญเท่าไหร่นัก แค่เขามีโกคุเดระอยู่ข้างๆแบบนี้ แค่โกคุเดระไม่หนีหน้าเขาไปไหน ยังอยู่ในอ้อมกอดของเขาแบบนี้ แค่นัยน์ตาคู่สวยนั่นยังสะท้อนภาพเขาบ้าง จะไม่อยากรู้ก็ได้ ว่าอีกฝ่ายรักเขามั้ย แค่นี้ก็จะสำลักความสุขตายอยู่แล้ว รู้บ้างมั้ยเนี่ยว่าทำอะไรกับหัวใจของเขา หือ โกคุเดระ ~
“อืม” เปลือกตาบางค่อยๆขยับ ก่อนจะเปิดออก หันซ้ายหันขวาด้วยท่าทางงัวเงียๆ มือบางยกขึ้นมาขยี้ตา
“อา อย่าขยี้สิ หือ เดี๋ยวตาก็แดงหรอก” มือหนาจับมือบางให้ออกจากตาสวย ก่อนนัยน์ตาคู่นั้นจะเบิกกว้างอย่างตกใจ
“เฮ้ย” เสียงหวานร้องออกมาอย่างตกใจ ก่อนจะดีดตัวออกจากอ้อมกอดที่ใช้เป็นที่คลายหนาวตลอดทั้งคืน
“กะ แก”
“อะไรอ่า โกคุเดระ”
“มาทำอะไรที่ห้องฉันวะ”
“อะไรกัน โกคุเดระ นี่มันห้องฉันต่างหาก แล้วเมื่อวานนายก็ค้างห้องฉันไง จำไม่ได้เหรอ ยังไม่แก่เลยน้า” เอ่ยอย่างทะเล้น ก่อนจะส่งสายตาวิบวับไปให้อีกฝ่าย แล้วพูดต่อ
“เดี๋ยวไปอาบน้ำก่อน ค่อยลงไปกินข้าวแล้วกันนะ พ่อคงกลับมาแล้วล่ะ” พูดพลางลุกไปหยิบผ้าขนหนู และเสื้อผ้าชุดใหม่ส่งให้โกคุเดระ
“อา อาจจะใหญ่ไปสักหน่อย แต่ว่า ใส่ไปก่อนแล้วกันนะ เดี๋ยวจะไปส่งเปลี่ยนที่บ้าน” พูดพลางมองไปยังไหล่ขาวๆที่โผล่พ้นเสื้อมาอวดสายตาเขา
“แล้ว แกจะไปทำไมบ้านฉันวะ” กระชากเสื้อผ้าเข้ามาในมือ ก่อนกระชากเสียงถาม ตีสีหน้าหงุดหงิดใส่
“อ้าว ก็วันนี้วันหยุดนี่ แล้วฉันอยากไปเที่ยวกับนายอ่า”
“ไม่เอาโว้ย”
“ทำไมอ่า ฉันอยากไปเที่ยวกับนายนี่นา น้า”
“ยามาโมโตะ ทาเคชิ ฟังฉันพูดอีกทีนะ ว่า ไม่-เอา-โว้ย !!!!” พูดจบก็กระทืบเท้าปึงปัง เดินเข้าห้องน้ำไป โดยไม่ลืมที่จะปิดประตูเสียงดังอย่างไม่เกรงใจเจ้าของห้องเลยทีเดียว ว่าประตูจะพัง
“โกคุเดระ ใจร้ายอ่า ไม่รู้ละ นายไม่ให้ฉันก็จะไป” ตัดสินใจได้แล้ว ว่าวันนี้เขาจะตามติดโกคุเดระทั้งวัน คิดได้แล้วรีบคว้าผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้าวิ่งเข้าห้องน้ำในห้องพ่อทันที
กว่าโกคุเดระจะจัดการกับเสื้อและกางเกงเจ้าปัญหาได้ เจ้าของห้องก็มานั่งบนเตียงรอยิ้มแป้นให้อีกฝ่ายแล้ว
“แก ไม่มีกางเกงตัวเล็กกว่านี้แล้วรึไงฟะ” ปากก็พูดไป มือก็คอยจับขอบกางเกงไม่ให้หลุดลงไปกองอยู่ที่พื้น เห็นดังนั้นร่างสมส่วนของยามาโมโตะเลยลุกออกจากเตียง เปิดตู้เสื้อผ้า ก่อนจะหยิบสายเข็มขัดแล้วส่งให้
“55+ ตัวเล็กจริงๆด้วยล่ะน้า โกคุเดระ กินข้าวเยอะๆหน่อยสิ”
“ใครจะอ้วนแบบแกกันวะ ห๊ะ”
“ฉันไม่ได้อ้วนสักหน่อย นายเองต่างหากที่ผอมไป ต้องกินข้าวเยอะๆ รู้มั้ย”
“ทำไมฉันต้องเชื่อแก” ถามพลางก้มหน้าลงไปหารูเข็มขัดที่พอจะรัดเอวไว้ได้
“เอาน่า ป่ะ ไปกินข้าวกัน” พูดจบก็ส่งมือไปให้ พออีกฝ่ายเห็นมือที่ส่งมาให้ก็เงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของมือ ก่อนจะปัดมือทิ้งอย่างไม่ไยดี แล้วเดินออกจากห้องไปไม่สนใจเจ้าของมือที่ยืนอยู่ด้านหลัง เผยรอยยิ้มน้อยๆออกมา
“ไม่เป็นไร” เอ่ยกับตัวเองเบาๆ ปลอบใจตัวเองว่า เขาไม่เคยเลย ไม่เคยเลยที่จะหวังให้อีกฝ่ายส่งมือมาให้ แต่เพราะมัวแต่จมอยู่ในห้วงคิดของตัวเอง ถึงไม่ทันได้สังเกต ว่าดวงหน้าใสของคนที่เพิ่งเดินออกไปจะขึ้นสีชมพูเข้มอย่างน่ามอง
ก็บอกแล้วว่าความรู้สึกของโกคุเดระไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะนาย
แต่ลืมอะไรรึเปล่าโกคุเดระ ว่าความรู้สึกนี้ อีกคนยังไม่รับรู้ และลืมไปรึเปล่าว่าเขารออยู่
ลืมไปรึเปล่าว่า ใครคนนั้นฟังภาษาอิตาลีไม่ออก โกคุเดระ ฮายาโตะ
“อ้าว ลงมากันแล้วเหรอ มาๆ ทาเคชิ เอาจานมาให้เพื่อนด้วย” เอ่ยทักลูกสะใภ้เอ๊ยเพื่อนลูกชาย ก่อนจะตะโกนบอกลูกให้หยิบของมาให้ด้วย
“เมื่อคืนค้างที่นี่เหรอ ดีแล้วล่ะ ว่าแต่ 555+ เจ้าทาเคชิมันตัวใหญ่หรือเราตัวเล็กกันแน่ละเนี่ย”
“โธ่ พ่อ ก็ต้องโกคุเดระนั่นล่ะ ที่ตัวเล็กเกิน ผมน่ะหุ่นมาตรฐานนะ” เอ่ยเถียงคนเป็นพ่อด้วยรอยยิ้ม แล้วส่งจานที่หยิบมา 1 ใบให้คนที่นั่งรออยู่ก่อน จากนั้นมื้อเช้าที่แสนอร่อยก็เริ่มต้นขึ้น
หงุดหงิด หงุดหงิด หงุดหงิด และหงุดหงิด ตอนนี้ไม่มีคำไหนบรรยายถึงอารมณ์ของโกคุเดระได้ นอกจากคำนี้อีกแล้วในหัวก็นึกถึงแต่คำสาปแช่ง เจ้าของเสื้อผ้าที่เมื่อกี้ก็เดินอยู่ด้วยกันดีๆ ก่อนจะรับโทรศัพท์ หันมายิ้มแหยๆให้ จากนั้นก็
“โกคุเดระ ฉันมีซ้อมเบสบอล ด่วน ขอโทษนะ” แล้วก็วิ่งไป ทิ้งให้เขายืนเอ๋ออยู่คนเดียว ก่อนจะนึกได้ว่าควรจะรีบๆเดินให้ถึงห้อง แล้วเปลี่ยนชุดบ้าๆนี่สักที
ชุดใหม่ที่เป็นเสื้อรูปหัวกะโหลกไขว้เข้ารูป กับกางเกงยีนสีเข้มตัวเก่งที่คราวนี้ไม่ต้องพึ่งเข็มขัดก็มั่นใจได้ว่าไม่หลุดลงไปกองกับพื้นแน่ๆ ถูกเลือกออกมาจากตู้เสื้อผ้า ถอดชุดเก่าทิ้ง สวมชุดใหม่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะเลยไปหยิบเครื่องประดับต่างๆ ทั้งสร้อยคอเงินอันยาว แหวนต่างๆ และไม่ลืมคว้าเข็มขัดเส้นงามมาคาดเอว ก่อนมือบางจะเอื้อมไปหยิบซองบุหรี่สีขาว เอาออกมา 1 มวน จุดที่ปลายบุหรี่อัดเอามะเร็งเข้าปอด แล้วเดินออกจากห้องไป
รองเท้าคู่งามยังพาเจ้าของเดินไปเรื่อยๆในทางที่คุ้นเคย ถนนสายยาวที่เป็นทางไปบ้านของรุ่นที่สิบ ก่อนจะไปถึงแล้วพบกับความผิดหวัง เมื่อคุณแม่ใจดีของรุ่นที่สิบบอกว่า
“อ้าว โกคุเดระคุง มาหาซือคุงเหรอะจ๊ะ ซือคุงออกไปกับพวกรีบอร์นจังแน่ะจ๊ะ เห็นบอกว่า รีบอร์นจัง
อยากกินเห็ดป่า เลยออกไปช่วยกันหาน่ะจ้ะ”
“เฮ้อ” เสียงถอนใจดังมาจากริมฝีปากบาง เมื่อกลับจากบ้านของรุ่นที่ 10 เขาก็เลยมานั่งเล่นที่สนามเด็กเล่นใกล้ๆ เพราะไม่รู้จะไปที่ไหน ทั้งๆที่ เมื่อเช้ามีใครบางคนบอกว่า จะอยู่ด้วยกันทั้งวันแท้ๆ พอคิดถึงตรงนี้ นัยน์ตาคู่สวยก็เริ่มหม่นลง ไม่อาจปฏิเสธความรู้สึกนี้ แต่ก็ไม่อยากจะยอมรับเลยว่า แค่ห่างกันไม่นาน ไม่กี่ชั่วโมง ความรู้สึกจะเด่นชัดได้ขนาดนี้
คิดถึงและเหงาเหลือเกิน
“โธ่เว้ย” เสียงสบถดังขึ้น หัวน้อยๆก็ถูกเจ้าของสะบัดไปมาอย่างรุนแรงจนเส้นผมสีเงินกระจายไปทั่ว บุหรี่มวนใหม่ถูกจุดขึ้น สูบไปได้ไม่นานก็ทิ้งลงกับพื้น เท้าบางกระทืบซ้ำลงไปขยี้ให้ไฟดับ ก่อนจุดมวนใหม่อีก ทั้งๆที่มวนเก่าก็สูบได้นิดเดียวเท่านั้น คิดได้ดังนั้นใบหน้าหวานก็ยิ่งไม่สบอารมณ์ ก่อนตัดสินใจลุกขึ้นจากชิงช้าที่นั่งอยู่ แล้วออกเดินไปยังสถานที่ใหม่ ที่น่าจะทำให้อารมณ์ดีขึ้นกว่าเดิม
ปัง ปัง บรืน บรืน ตึง ตึง
เสียงดังรอบข้างมีทั้งเสียงปืน เสียงรถแข่ง เสียงเพลงจากเครื่องเล่นเกมต่างๆ ใช่แล้ว สถานที่คลายเครียด(เหรอ) ของโกคุเดระ ก็คือ เกมเซ็นเตอร์
ขาเรียวยาวเดินไปเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดลงหน้าเครื่องเล่นเกม ที่มีวัตถุสีดำวางอยู่เบื้องหน้า เกมยิงปืน แต่ก่อนที่มือเรียวจะได้หยอดเหรียญลงในเครื่อง
“ไอ้หัวปลาหมึก แกมาทำอะไรที่นี่วะ” เสียงทักที่ดูฟังคุ้นหู ก่อนจะหันไปพบรุ่นพี่เจ้าของฉายา สุดหูรูด
“มาเกมเซ็นเตอร์ก็ต้องมาเล่นเกมสิวะ ไอ้หัวสนามหญ้า”
“55+” หัวเราะ ก่อนจะเดินไปหยิบปืนอันข้างๆ แล้วหยอดเหรียญลงไป
“เร็วๆสิวะ จะมาเล่นเกมไม่ใช่รึไง หยิบปืนขึ้นมาสิวะ ไอ้หัวปลาหมึก”
“เฮ้ย ใครให้แกมาเล่นกับฉันวะ” ถึงจะพูดแบบนั้นแต่มือก็รับปืนที่อีกฝ่ายส่งให้ ก่อนจะเล็งปืนเข้ากับจอเกม
“55+ แกยอดสุดหูรูดไปเลยว่ะ ไอ้หัวปลาหมึก” มือใหญ่ตบเข้าที่ไหล่บาง ขณะที่นั่งอยู่ในร้านอาหารข้างทาง หลังจากที่ลากโกคุเดระไปเล่นเกมต่างๆในเกมเซ็นเตอร์เรียบร้อยแล้ว ก็จบลงที่การลากร่างบางมากินข้าวใกล้เย็นด้วยกันที่ร้านประจำ
“แล้วทำไมฉันต้องมานั่งกินข้าวกับแกด้วยวะ”
“อะไร มีคนเลี้ยงไม่ดีรึไงวะ ฉันอุตส่าห์เลี้ยงนะเว้ย”
“เออๆ งั้นไม่เกรงใจล่ะนะ”
“สุดหูรูดไปเลยเว้ย” ตอบอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหันไปสั่งอาหารเพิ่มกับเจ้าของร้านใจดี
“ทำไม แกไม่รีบกลับบ้านวะ” ร่างบางเอ่ยถาม ทันทีที่เห็นว่า แสงแดดเริ่มอ่อนลง ขณะที่ข้างกายเขายังเป็นรุ่นพี่สุดหูรูดอยู่เลย
“ก็วันนี้ เคียวโกะไม่อยู่บ้านน่ะ”
“เหงา” เอ่ยย้อนถามเสียงเบา พลางก้มหน้าลงไปอีก นัยน์ตาคู่สวยไม่มองหน้าอีกฝ่าย ก้มจดจ่ออยู่กับทางเดิน
“หา อะไรของแกวะ ไอ้หัวปลาหมึก” เมื่ออีกฝ่ายเอ่ยเสียงเบา ก็เป็นคนฟังที่ไม่ได้ยิน ก่อนก้มลงไปให้ใกล้อีกฝ่ายมากกว่าเดิม
“ก็ เปล่าเว้ย แค่เห็นแก 2 พี่น้องอยู่ด้วยกันตลอด ซาซางาวะไม่อยู่แบบนี้ แกก็คงเหงา ใช่มั้ย”
“555+ เหงามันก็เหงา แต่ทำไงได้ว้า เคียวโกะใกล้สอบแล้วนี่” ตอบก่อนจะเอ่ยถามกลับ
“แล้วแก เป็นอะไรวะ”
“ใครเป็นอะไรวะ ไอ้หัวสนามหญ้า” เอ่ยตะคอกอีกฝ่าย พลางเสหน้าหนี ก่อนจะหันกลับมา เมื่อเจอแรงรั้งที่คอเสื้อ
“นี่ บอกมาสิวะ ไอ้หัวปลาหมึก”
“อ๊ากกก เรื่องอะไรจะบอกแกวะ” พูดจบ หมัดลุ่นๆก็ตรงเข้าใบหน้าของรุ่นพี่ ก่อนจะสวนหมัดกันอยู่พักใหญ่ๆ ก่อนการทะเลาะแสนงี่เง่า จะจบลงเมื่อทั้งคู่เหนื่อย แล้วยืนหอบพิงกำแพง
“อ๊ะ โกคุเดระ” เสียงของยามาโมโตะดังขึ้นอย่างดีใจ ด้วยไม่คิดว่าจะเจอคนที่คิดถึงจนต้องยอมโดดงานเลี้ยงของชมรมมา ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นรุ่นพี่ชมรมมวยยืนอยู่ใกล้ๆ
“เอ่อ สวัสดีฮะ รุ่นพี่” เอ่ยพลางยิ้มเย็นไปให้อีกฝ่าย รู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดอะไร แต่มือที่วางบนไหล่บางนั่น ใบหน้าหวานที่เจือสีแดงของโกคุเดระ ริมฝีปากที่เผยอออกมาเพื่อรับเอาอากาศเข้าไปในปอด
สวย เซ็กซี่ขนาดนั้น มันยอมให้ใครเห็นไม่ได้
“โอ้ แกมาก็ดีแล้ว เจ้าหัวปลาหมึกนี่มันมีความลับอะไรก็ไม่รู้โว้ย ถามก็ไม่บอก”
“งั้น เดี๋ยวผมจัดการเองครับ”
“ดีเลย งั้นฝากแกด้วยแล้วกัน ฉันกลับก่อนนะ เค้นความลับให้สุดหูรูดเลยนะเว้ย”
เพราะเห็นว่า สายฝนเริ่มจะโปรยปราย วายุเองก็เริ่มพัดไหว แสงแดดก็ควรลับขอบฟ้าเสียที
ในที่สุดมันก็กลายมาเป็นเรื่องเกือบยาว 5555+
ตอนหน้าจบแล้วนะคะ
ความคิดเห็น