คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : SF1 : After Birthday
“รุ่นที่ 10 คร้าบบบบ” เสียงใสของมือขวา เจ้าของเรือนผมสีเงิน ตะโกนอยู่หน้าบ้านของนายเหนือหัวอันเป็นที่รัก ก่อนคนในบ้านจะเปิดประตูออกมาหา
“รอแปปนะจ๊ะ โกคุเดระคุง เดี๋ยวซือคุงก็คงลงมาแล้วล่ะจ๊ะ เข้ามารอข้างในก่อนมั้ย”
“ไม่ล่ะครับ ผมรออยู่ข้างนอกดีกว่าครับ” ตอบพลางยิ้มให้คุณแม่ของรุ่นที่ 10 ก่อนคนเป็นแม่จะขอตัวกลับเข้าไปข้างใน เพื่อไปจัดการทำอาหารให้เด็กๆต่อ
“ไง โกคุเดระ” เสียงทักที่มาพร้อมกับความหนักที่ไหล่ซ้าย
“เฮ้ย ทำอะไรวะ เอาแขนออกไปสิโว้ย ไอ้บ้าเบสบอล เดี๋ยวคนอื่นนึกว่าเราสนิทกัน” ไม่พูดเปล่า มือขาวยังยกขึ้นปัดแขนอีกฝ่ายให้ตกลงจากไหล่
“555+ อะไรกัน แค่นี้เอง แล้ว...” หัวเราะตามแบบฉบับของตนเอง ก่อนจะก้มตัวลงมา กระซิบข้างๆหูอีกฝ่าย “เราไม่สนิทกันตรงไหน เราสนิทกันออก เนอะ”
ริมฝีปากกับลมหายใจอุ่นๆที่ข้างหู ทำเอาร่างบางหน้าแดงวาบ ก่อนจะเบี่ยงตัวให้หลุดจากแขนคนตัวสูงกว่า ที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นอ้อมกอดตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่แน่นอนว่าคนอย่างยามาโมโตะเมื่อเนียนไปแล้ว อย่าหวังว่าจะเลิกง่ายๆ
“ปล่อยสิโว้ย แล้วเราก็ไม่ได้สนิทกันสักหน่อย เข้าใจมั้ย ไอ้บ้า”
“อะไรกัน นายไม่รู้เหรอ ว่า คนที่เขา รักกัน จูบกันน่ะเขาสนิทกันทั้งนั้นแหละ 555+” พูดกลั้วหัวเราะ ก่อนรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อจะมีมากขึ้น เมื่อคนในอ้อมแขน หน้าแดงเป็นลูกตำลึง หยุดพยศไปซะดื้อๆ ก่อนจะดิ้นแรงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมคำด่า ที่ไม่รู้ไปสรรหามาจากไหน แต่เจ้าของอ้อมกอดก็ยังไม่มีทีท่าจะปล่อยง่ายๆ และรอยยิ้มยังคงมีประดับใบหน้าเสมอ
“รอนานมั้ย โกคุเดระคุง อ้าว ยามาโมโตะ มาด้วยเหรอ” ทันทีที่เห็นคนตัวเล็กออกมาจากบ้าน ยามาโมโตะ ก็ปล่อยคนในอ้อมแขน พอๆกับคนที่ถูกปล่อยก็วิ่งไปหานายเหนือหัวทันที
“ไม่นานหรอกครับ รุ่นที่ 10 แต่ตอนนี้ไปโรงเรียนก่อนเถอะครับ”
“อื้อ ไปกันเถอะ ยามาโมโตะไปกันเถอะ” ตอบรับคำ โดยไม่ลืมที่จะหันไปเรียกเพื่อนผมดำ
“อย่าไปสนมันเลยครับ ไปกันเถอะครับ รุ่นที่10” พูดพร้อมลากสึนะออกไปทันที โดยไม่สนใจเพื่อนที่ยืนอยู่เลย แต่หูก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะจากยามาโมโตะอยู่ดี ทำเอาใบหน้าหวานของโกคุเดระยิ่งแดงขึ้นไปอีก
“โกคุเดระคุง ไม่สบายหรือเปล่า หน้าแดงเชียว” เพราะรีบออกจากบ้านมา เลยไม่ทันสังเกต ว่าผิวขาวๆของลูกครึ่งอิตาลีนั้น เปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้มอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
“มะ ไม่มีอะไรหรอกครับ รุ่นที่10 อากาศที่ญี่ปุ่นมันร้อนนะครับ” ตอบพลางพยายามไม่สบสายตาคมของใครบางคนที่ส่งสายตาวิบวับมาให้ มือก็พัดให้ตัวเองเรื่อยๆบ่งบอกให้รู้ว่าร้อนจริงๆ
“555+ นั่นสิสึนะ คงจะร้อนจริงๆนั่นล่ะ แดงขึ้นเรื่อยๆเชียว แต่ตอนนี้รีบไปดีกว่ามั้ง นั่นน่ะ ประตูจะปิดแล้วนะ” เอ่ยแซวได้ไม่ทันไร สายตาก็เหลือบไปเห็นประตูโรงเรียนที่ใกล้จะปิดเต็มที ไม่พูดเปล่ามือหยาบอย่างนักกีฬาก็เอื้อมไปจับมือของสึนะ อีกข้างก็อ้อมไปโอบเอวบางของโกคุเดระ ก่อนจะพาออกวิ่งทันที แน่นอนว่า ไม่สนใจกับเสียงด่าและตวาดของอีกฝ่ายเช่นเดิม
หลังเลิกเรียน
“ฮ้า อย่างนี้ไม่ไหวแฮะ มาสายหน่อยเดียวเอง จริงมั้ย ฮะฮ่า” เสียงหัวเราะ พร้อมรอยยิ้ม กล่าวกับเพื่อน โดยมีเพื่อนตัวเล็กหัวเราะแห้งๆอยู่ข้างๆ โดยมีโกคุเดระนั่งทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่ข้างๆเช่นกัน
“เอาน่า เดี๋ยวเราช่วยกันทำก็เสร็จนะ” สึนะบอกพยายามเกลี้ยกล่อมไม่ให้มือขวาหน้าสวยของตนอารมณ์หงุดหงิดไปมากกว่านี้
ใช่แล้ว เมื่อเช้าน่ะ พวกเขามาไม่ทันโรงเรียนหรอก พอจะถึงปุ๊บประตูก็ปิดปั๊บ แถมด้วยการลงโทษอันแสนโหดร้าย การบ้านและรายงานที่กองท่วมหัว ต่อด้วยการทำความสะอาดห้องเก็บของที่ขัดไม่ได้ เพราะเป็นคำสั่งโดยตรงมาจากหัวหน้าคณะกรรมการรักษาระเบียบ ฮิบาริ เคียวยะ
“ห้องเก็บของมันเก่าแล้ว และฉันไม่ชอบการสุมหัว ดังนั้น หน้าที่นี้เป็นของพวกแกไปแล้วกันนะ เจ้าสัตว์กินพืช”
“เอาน่าๆ ช่วยไม่ได้ เดี๋ยวฉันเอาขยะไปทิ้งก่อนแล้วกัน” พูดจบยามาโมโตะก็หิ้วถุงขยะออกไปทิ้งทันที
“อ๊ะ ” ด้วยสัมผัสสั่นๆจากในกระเป๋ากางเกง ทำให้สึนะต้องละมือจากการปัดกวาดฝุ่น “ไงครับแม่” กรอกเสียงลงไปในมือถือเครื่องเล็กก่อนจะ “หา แรมโบ้พังประตูอีกแล้วเหรอ ครับ จะรีบกลับบ้านแล้วกันครับ” เก็บโทรศัพท์เครื่องเล็กลงกระเป๋า ถอนใจเล็กน้อย ก่อนจะหันไปหาเพื่อนอีกคน
“โกคุเดระคุง พอดีว่าแรมโบ้มันพังประตูอีกแล้วล่ะ คือว่า...”
“ไม่เป็นไรหรอกครับรุ่นที่ 10 กลับก่อนเลยก็ได้ครับ แต่เจ้าวัวบ้านี่ มันบังอาจให้รุ่นที่ 10 ต้องเดือดร้อน ให้ผมไปจัดการให้มั้ยครับ” พูดพร้อมนัยน์ตามุ่งมั่น
“มะ ไม่ต้องหรอก โกคุเดระคุง งั้นฉันกลับก่อนนะ” ปฏิเสธทันควันพร้อมโบกไม้โบกมือพัลวัน ก่อนจะขอตัวกลับบ้านเพื่อไปจัดการตามคำสั่งของแม่
“เฮ้ออออ” เสียงถอนหายใจดังขึ้นทันทีเมื่ออยู่คนเดียว นัยน์ตาสีเขียวกวาดมองไปรอบๆห้อง ห้องเก็บของที่ดูดีขึ้นมาระดับหนึ่ง เมื่อเทียบกับตอนที่เข้ามาในครั้งแรก มือขาวหยิบจับปัดฝุ่นไปเรื่อยๆ ปากก็บ่นขมุบขมิบถึงคนที่เอาขยะไปทิ้งตั้งแต่ชาติที่แล้วไม่ได้ ก่อนจะสะดุ้งสุดตัว
“เฮ้ย” รุ่นที่ 10 กลับบ้านไปแล้ว ดังนั้น เขาก็ต้องอยู่กับไอ้บ้านั่น 2 คน นั่นเท่ากับว่า เขากำลังเสียเปรียบเห็นๆน่ะสิ คิดอย่างนั้นใบหน้าขาวก็ร้อนขึ้นมาทันที ก่อนจะตัดสินใจเอื้อมไปหยิบกระเป๋า ก่อนจะวาง(กระแทกแรงๆ)ลงที่เดิม ถ้าเขากลับก็แปลว่าเขาหนีสิ
“ไม่ได้ๆ มือขวาผู้ยิ่งใหญ่อย่างฉัน ถ้าหนีจะทำให้รุ่นที่ 10 เสียชื่อ” บ่นไปก็ทำหน้ายุ่งไป ผูกคิ้วให้เป็นโบ ท่าทางน่ารักๆที่ทำเอายามาโมโตะที่จะเดินเข้ามาหยุดยืนมองอย่างเสียไม่ได้ ก่อนจะส่งเสียงให้คนที่กำลังท่าทางน่ารักๆนั่นรู้ว่าเขากลับมาแล้วนะ ไหล่บางสะดุ้งน้อยๆก่อนจะ
“กะ แก ไปทิ้งขยะถึงไหนวะ ไปนานขนาดนี้ เอากลับไปทิ้งที่บ้านรึเปล่าวะ หา”
“555+ ขอโทษนะ โกคุเดระ พอดีว่าลุงแกเก็บถังขยะไปแล้วน่ะ เลยต้องเดินไกลหน่อย แล้วสึนะล่ะ”
“เฮอะ ก็ไอ้เจ้าวัวบ้านั่นมันทำประตูพัง รุ่นที่ 10 เลยต้องรีบกลับบ้านไปดูน่ะสิ ชอบสร้างความวุ่นวายให้รุ่นที่ 10 จริงๆเลย งี่เง่า แล้วจะยืนนิ่งอยู่ทำไมวะ ไม่อยากกลับบ้านรึไง หา ไอ้บ้าเบสบอลมาช่วยกันทำๆให้เสร็จ แล้วกลับกันดีกว่า เฮ้ย”
เมื่อพูดจบนัยน์ตาสีเขียวก็ต้องเบิกกว้างขึ้น เมื่อได้รับแรงโถมจากด้านหลัง และเป็นแขนยาวๆของคนข้างหลังที่รัดอยู่ที่เอวบาง จะผิดมั้ยที่เขาฟังประโยคที่คนในอ้อมแขนนี่พูดแล้วดีใจขึ้นมา จะผิดมั้ยที่เขาจะขอคิดเข้าข้างตัวเองบ้าง
ถ้าจะคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าที่โกคุเดระไม่กลับบ้านไปพร้อมสึนะ ที่ยอมอยู่นี่ต่อ รอเขาใช่รึเปล่า
ถ้าจะคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเขาเริ่มมีความสำคัญกับเจ้าของดวงใจเขาบ้างแล้วใช่รึเปล่า โกคุเดระ
“ทำบ้าอะไรแกวะ ปล่อยสิ ปล่อยได้แล้ว เดี๋ยวทำงานไม่เสร็จกลับบ้านค่ำ ฉันจะระเบิดแกทิ้ง แล้วโยนทิ้งแม่น้ำเลยนะเว้ย”
“ก็ ฉันดีใจนี่นา ที่นายยังไม่กลับบ้านน่ะ รอฉันใช่รึเปล่า” พูดไป ริมฝีปากก็ฉีกยิ้มกว้าง จนน่าหมั่นไส้
“คะ ใคร คะ ใคร เขารอแกกันฟะ ที่ยังไม่กลับเพราะ ฉันต้องทำงานให้เสร็จตะหาก ฉันเป็นคนมีความรับผิดชอบนะ” พูดไป ก็หน้าแดงไป แล้วอย่างนี้ใครเขาจะเชื่อนายกัน ~ โกคุเดระ
“มีใครเคยบอกรึเปล่า ว่านายปากไม่ตรงกับใจเลยน้า”
“ใครกันฟะ”
“ก็นายนั่นแหละ ใครอีกเล่า ในห้องนี้มีกัน 2 คนนะ แล้วอีกอย่างนะ ฉันว่าห้องนี้มันก็เรียบร้อยแล้วด้วย เรากลับกันเลยก็ได้นี่นา ป่ะ” ไม่พูดเปล่า แขนก็ละออกจากเอวบางอย่างเสียดาย ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าทั้งของเขาและของโกคุเดระ ก่อนจะคว้าข้อมือเรียวให้เดินไปด้วยกัน
“เดี๋ยวสิ เฮ้ย เฮ้ย”
“ฮ้า อิ่มจังเลย เนอะ โกคุเดระ”
“เออ!!” กระแทกเสียงแรงๆ อย่างไม่สบอารมณ์ ตอนแรกก็ลากเขามา พอมาถึงบ้านก็ชวนให้เขาอยู่กินข้าวด้วย พอจะปฏิเสธคุณลุงก็บอกว่า จะออกไปหาเพื่อนข้างนอกวันนี้คงไม่กลับ ให้เขาอยู่กินข้าวเป็นเพื่อนลูกชายหน่อย จะปฏิเสธก็ไม่กล้า ก็เลยนั่งกินข้าวกับมันจนได้ พอเสร็จมันก็บอกว่าดึกแล้ว สุดท้ายก็ลากเขามาบนห้องอีก บอกว่าคืนนี้ให้ค้างที่นี่ซะ พอบอกว่าไม่เท่านั้นล่ะ
“อะไรกัน โกคุเดระ นายไม่กล้าเหรอ สึนะคงเสียใจนะที่มีมือขวาขี้กลัวแบบนี้น่ะ”
“เอ้า โกคุเดระ เหม่ออะไรอีก เอาเสื้อผ้าไปอาบน้ำได้แล้ว เอ๊ะ รึอยากให้อาบด้วย 555+”
“ไอ้ แก!!!! ชิ” ตะโกนด่าอีกฝ่าย หน้าแดงก่ำ แต่เจ็บใจนักที่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากกระชากของในมืออีกฝ่ายแล้วเดินปึงปังเข้าห้องน้ำไป
“อา อย่าน่ารักเกินไปสินายน่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆกับตัวเอง ขณะมองคนขี้อายเดินเข้าห้องน้ำไป
“หือ” ร่างบางอาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำก็ต้องแปลกใจ เมื่อเจ้าของห้องไม่อยู่
“เฮ้ออออ” จำไม่ได้แล้ว ว่าวันนี้ถอนหายใจบ่อยแค่ไหน นั่งลงบนเตียงก่อนจะหันมองไปรอบๆห้อง เหตุการณ์ในวันเกิดของตัวเองยังคงแจ่มชัดในหัว ดวงตาที่แสนจริงจังยามบอกว่า เป็นห่วง น้ำเสียงตัดพ้อยามที่บอกว่า เขาไม่สนใจ เห็นเป็นคนไม่สำคัญ และที่เด่นชัดที่สุดคงหนีไม่พ้น ริมฝีปากคู่นั้นที่ทาบลงมา ความอบอุ่นที่ชัดเจน
ความรู้สึกที่บัดนี้เปลี่ยนไปแล้ว
เพราะถึงอีกฝ่ายจะไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นอีก แต่กลับเป็นเขานี่แหละที่คิดมาก คิดจนปวดหัว ถึงแม้จะอยากเลิกคิดมากแค่ไหน ก็ทำไม่ได้สักที และยิ่งคิดก็ยิ่งได้คำตอบที่ไม่อยากได้เอาซะเลย
“โกคุเดระ!!!!!”
“เฮ้ย” เจ้าของชื่อสะดุ้งจนเกือบจะตกเตียงถ้าไม่ติดว่าแขนยาวของยามาโมโตะดึงไว้ มีหวังหล่นลงไปกองที่พื้นแน่ๆ
“อ่า ใจเย็นๆสิ เหม่ออะไรของนายอีกแล้วเนี่ย”
“ก็ใครใช้ให้แกมาตะโกนเสียงดังขนาดนี้ล่ะวะ อยู่ใกล้กันแค่นี้เอง”
“หง่า ก็ฉันเรียกตั้งนานแล้ว นายไม่ได้ยินนี่นา” พูดพลางทำปากยื่นปากยาว เป็นการบอกอีกฝ่ายให้รู้ว่าเขางอนแล้วนะ
“น่ารักตายละ” นอกจากจะไม่ง้อแล้ว ยังไร้ความเห็นใจใดๆต่อคนที่ไม่รู้จักโตอีกด้วย
“ใจร้ายจัง โกคุเดระของฉันใจร้ายแบบนี้เมื่อไหร่กัน”
“ใครเป็นของนายกันวะ” ใบหน้าหวานขึ้นสีทันทีที่ได้ยินประโยคจากคนตรงหน้า
“ฮะ ฮะ งั้นเปลี่ยนใหม่ก็ได้ เป็นทำไมใจร้ายกับยามาโมโตะของนายขนาดนี้ล่ะ โกคุเดระ”
“แก !!!!!!” ขึ้นเสียงใส่อีกฝ่าย มือบางเหวี่ยงหมัดไปมา โดนบ้างไม่โดนบ้าง ก่อนจะโดนอีกฝ่ายผลักลงกับเตียง มือคู่บางถูกรวบไว้เหนือหัว นัยน์ตาสีดำสบเข้ากับนัยน์ตาสีเขียว เพื่อจะสื่อความรู้สึกข้างในออกมา ทั้งความรัก ความห่วงใย อยากบอกอีกฝ่ายให้รู้ว่า
“ฉันรักนายจัง รู้รึเปล่าเนี่ย นายทำฉันจะเป็นบ้าอยู่แล้วน้า” บอกพลางยิ้มให้คนใต้ร่าง
“ทำไม” คำถามแผ่วเบา ไม่มั่นใจในตัวเองถูกส่งออกมา
“ทำไมเหรอ อืม ไม่มีเหตุผลล่ะมั้ง” พอเห็นหัวคิ้วมุ่นเข้าหากัน จึงขยายความต่อ
“ก็ เขาว่า ความรักไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลไม่ใช่เหรอ ฉันก็แค่รัก รัก รักนายก็เท่านั้นเอง”
พูดเองก็เขินเองไม่แพ้คนฟัง ใบหน้าคมเริ่มแดง มือค่อยๆปล่อยมืออีกฝ่ายขึ้นมาเกาหัวเบาๆเหมือนเคย ก่อนจะขยับตัวลงมานอนข้างๆ
“ฉันแค่ดีใจที่มีนายอยู่แบบนี้ และดีใจที่สุดที่มีนายอยู่ในอ้อมกอด รู้รึเปล่า โกคุเดระ”
พูดจบริมฝีปากก็แนบเข้ากับริมฝีปากบาง รับรู้ได้ถึงแรงต่อต้านนิดๆของคนในอ้อมกอด ก่อนจะนิ่งไป มือหยาบประคองใบหน้าเนียน ผละออกมาสบกับนัยน์ตาหวานที่มีน้ำใสๆมาหล่อเลี้ยง
“ฉัน ไม่เข้าใจ ฉันเอาแต่ด่าว่าแก แล้วทำไม”
คำถามที่ถามไปไม่ได้คำตอบ เมื่ออีกฝ่ายประทับรอยจูบอีกครั้ง จูบที่หนักหน่วงกว่าครั้งแรกเล็กน้อย ลิ้นร้อนแลบเลียริมฝีปากบาง ก่อนจะผละออกมาอีก
“ไม่เป็นไรหรอก ไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร ไม่เห็นจะต้องเข้าใจ เพราะฉันสัญญาว่าจะอยู่ข้างๆนายจนกว่านายจะรู้เลยว่าทำไม แต่อยากให้รู้เอาไว้แค่อย่างเดียวนะ โกคุเดระ แม้ต้องทิ้งเบสบอล ไปเล่นเป็นมาเฟียกับนาย ฉันก็จะทำ เพราะนายมีค่ากับฉันมากกว่าสิ่งใดๆบนโลกนี้ โอ๊ะ อืม”
ร้องออกมาอย่างตกใจนิดๆ เมื่อคนในอ้อมกอดเบียดตัวเข้าหา ก่อนจะเป็นริมฝีปากบางที่ปิดเขากับริมฝีปากของเขา ลิ้นเล็กไล้เลียริมฝีปากแห้ง ก่อนจะเป็นลิ้นของยามาโมโตะที่เกี่ยวกระหวัดไล่ต้อนลิ้นเล็กๆนั่น ผละออกมาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหายใจไม่ทัน ก่อนจะประทับลงไปใหม่ เปลี่ยนแนวองศาของศีรษะให้ถนัดกับการเก็บเกี่ยวความหวานในโพรงปากนั่น น้ำใสๆไหลออกมาจากมุมปาก ริมฝีปากร้อนผละออกมา ก่อนจะจูบลงไปตามแนวลำคอเพื่อเก็บน้ำใสๆที่ไหลออกมา โดยไม่ลืมที่จะขบเม้มให้เกิดรอยแดงจางๆที่ต้นคอขาว
“อืม” เสียงครางหวานเมื่อเกิดความรู้สึกแปลกๆยามที่อีกฝ่ายจูบลงบนต้นคอ
“พอแล้ว จะจูบไปถึงไหนวะ” ตวาดทั้งๆที่ใบหน้ายังแดงก่ำ เสียงยังติดหอบเนื่องจากจูบอันยาวนานที่แย่งชิงอากาศไปจนหมด อีกทั้งความรู้สึกร้อนๆที่ต้นคอก็ยังไม่จางหายไป
“ฮะฮะ ก็นายเริ่มก่อนนี่นา แล้วก็อยากน่ารักทำไมล่ะ” เอ่ยโดยโยนความผิดให้เป็นของอีกฝ่ายหน้าตาเฉย ก็แหมความจริงนี่นา น่ารักขนาดนั้น จะให้อดใจไหวได้ไงกัน ~
“แล้ว ทำไมถึงจูบฉันล่ะ”
“มะ ไม่ ไม่บอกหรอกเฟ้ย เรื่องอะไรจะบอกแกวะ”
“อะ ได้ไงกัน โกคุเดระ ใจร้ายที่สุด อ๊ะ อย่าเพิ่งหลับนะ มาพูดกันก่อนสิ”
“ก็ได้ๆ ครั้งเดียวนะเว้ย” จากที่ว่าจะ(แกล้ง)หลับ ก็ทนเสียงเซ้าซี้ และแรงเขย่าที่ไหล่บางไม่ได้ จำใจต้องลืมตา โดยไม่ลืมที่จะตวาดและแถมด้วยการกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้กว่าเดิม ก่อนจะแนบริมฝีปากเข้ากับใบหู เมื่อเห็นอีกฝ่ายพยักหน้าแรงๆ
“Ti amo”
ภาษาบ้านเกิดถูกเปล่งออกมา ก่อนจะผละออก หันหลังให้อีกฝ่ายหลับตาแล้วเข้าสู่ห้วงนิทรา ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะทำหน้ายังไง แต่ที่แน่ๆเขามั่นใจว่า อีกฝ่ายน่ะจะต้องทำหน้าเอ๋อสุดๆยิ่งกว่าตอนทำข้อสอบแน่นอน
“โกคุเดระ มันแปลว่าอะไรน่ะ นี่ หลับจริงๆเหรอ” ใบหน้าคมฉายแววงงออกมาอย่างปิดไม่มิด ถึงจะยังมีรอยยิ้มอยู่ก็เถอะ ก็แหมโกคุเดระไม่ได้รังเกียจนี่ แต่ว่ามันแปลว่าอะไรล่ะเนี่ยยยยยยย ก่อนจะนึกปลงในใจ นั่นสินะ ไม่อย่างนั้นโกคุเดระจะยอมบอกง่ายๆเหรอ ปากแข็งออกขนาดนั้น แต่ก็ช่างเถอะ ปากเรียวแย้มยิ้มอย่างดีใจ ก่อนจะส่งแขนเอื้อมไปดึงอีกฝ่ายมาไว้ในอ้อมกอด กอดแน่นๆก่อนจะหลับตามไปด้วยอีกคน
ก่อนคนในอ้อมกอดจะลืมตาขึ้น กระซิบเบาๆซ้ำอีกครั้งที่ข้างหูของคนที่หลับไปแล้ว ภาษาท้องถิ่นของคนตรงหน้า
“ฉันรักนาย ไอ้บ้าเบสบอล”
ความคิดเห็น