Au Reborn KHR : ด้ายแดงแห่งโชคชะตา - Au Reborn KHR : ด้ายแดงแห่งโชคชะตา นิยาย Au Reborn KHR : ด้ายแดงแห่งโชคชะตา : Dek-D.com - Writer

    Au Reborn KHR : ด้ายแดงแห่งโชคชะตา

    เธอผู้ที่เคราะห์ร้ายได้มาพบกับชายหนุ่มที่มอบแสงสว่างให้กับเธอ แล้วความระกในครั้งนี้จะเป็นเช่นไร จะไปด้วยดีหรือดับสิ้นลง

    ผู้เข้าชมรวม

    539

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    539

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    3
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  26 พ.ย. 59 / 22:03 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น



    ดีจ้า~ ไรท์มีชื่อว่า อายูคาวะ อายาเมะ นี่ก็เป็นเรื่องแรกเนอะ อาจจะแต่งได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ก็อยากฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของรีดเดอร์ทุกคนด้วยนะค๊า~ เข้ามาอ่านแล้วก็ติชมกันได้นร้า~




    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


      สวัสดี ฉันมุรากามิ อายากะ เป็นแค่หญิงสาววัย 20 ปีธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่โสดมา นานแล้ว!! ทั้งๆที่ฉันออกจะสวยซะขนาดนี้ ทำไมถึงไม่มีคนมาจีบเลยนะ? เพราะ ว่ากระดานเหรอ?(ก้มดูแปป--) ก็ไม่ได้กระดานนี่หว่า แล้วทำไมถึงไม่มีคนมาจีบกันล่ะ!! เฮ้อ~ พูดไปก็เหมือนระบาย อารมณ์ เลิกดีกว่า ก็อย่างว่านะ คนโสด มันก็จะเริ่มเหงาใช่ไหมล่ะ นานๆไปมันก็จะเริ่มชิน พอเริ่มชินก็เหมือนไม่มีความรู้ สึก พอไม่มีความรู้สึกไปนานๆเข้าคนเรา ก็จะเริ่มคิดว่า ความรักมันคืออะไรกันนะ? กินได้รึเปล่า อะไรทำนอนนี้ ซึ่งฉัน ก็เกือบจะกลายเป็นคนแบบนี้เข้าไปทุกทีแล้วล่ะ เวลาเดินไปเจอคนหล่อๆก็จะชอบมโนว่าเป็นแฟนตัวเอง(สายมโนก็มา) แต่แล้ว...!! สวรรค์ก็มองเห็นฉันที่ต้องเป็นโสดมานาน(น.หนูล้านตัว)จึงได้ ส่งชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของเกศาสีน้ำเงิน ดวงตาทั้ง2ข้างสีไม่เหมือนกัน ดูรวมๆแล้วหล่อมาก*o* แต่ติดอยู่ที่ว่า....ทรงผมสับปะรดเหรอ?!!
      "คุฟุฟุ คุณนี่ น่ารักจังเลยนะครับ"เขาพูด ด้วยน้ำเสียงร่าเริงปนเจ้าเล่ห์แล้วส่งยิ้ม ให้ฉัน แม่เจ้าโว้ย!!! รอยยิ้มช่างเจิดจ้าเสียยิ่งกระไร!! เป็นลมแปป~ เฮ้ยๆ ยังเป็นลมตอนนี้ไม่ได้นะยัยอายากะ! "อะ..เอ๋? ฉันเนี่ยนะ น่ารัก?" ฉันตอบเขาไปในขณะที่กำลังพยายามเก็บความเขินอายสุดชีวิต!
      "คุฟุฟุ ก็ใช่น่ะสิครับ" เขาตอบฉันกลับมาด้วยรอยยิ้มอีกเช่นเคย ฉันจะละลายอยู่แล้วค่ะพระเจ้า~
      "ถ้าคุณไม่ว่าอะไร เรามาลองดูใจกันก่อนก็ได้นะครับ"
      "~ค่ะ~" เฮ้ย เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ฉันพูดอะไร ออกไป!! เค้าขอฉันคบ แล้วฉันก็ตอบตก ลงไปอย่างนั้นเหรอ?!!!!
      "ถ้างั้น ตอนนี้คุณก็คือแฟนของผมแล้วนะครับ"เขาพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ประ ดับอยู่บนใบหน้า ก่อนที่จะขโมยหอมแก้มฉันไปทีนึง
      "อะ..อะ...อะ"ฉันก็ทำได้แต่ยืนหน้าแดงเอ๋อตรงนั้น!! นั่นมัน...หอมแก้มเลยนะ!!
      "หึหึหึ ถ้างั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ" เขาบอกลาฉันก่อนจะเดินจากไป 
      ในเย็นวันนั้น ????????????
      เอ๋? เสียงโทรศัพท์ดังเหรอ? ห๊ะ! ไม่จริงอ่ะ! โทรศัพท์ที่เงียบเหมือนป่าช้ามานานเนี่ยนะ! มีคนโทร.เข้ามา?! แล้วจะรอให้ พ่อมาตัดริบบิ้นเหรอรีบรับเซ่!!
      "อะ..ฮะ.ฮัลโหล.."
      *คุฟุฟุ สวัสดีครับ* เห่ย เสียงหัวเราะนี่มัน...ของคนเมื่อตอนกลางวันนี่นา!!
      "มะ..มีอะไรเหรอ"
      *ก็แค่...คิดถึงน่ะครับ*
      ห๊ะ!! คิดถึง!! เค้าคนนี้คิดถึงฉันเหรอ?!!
      "อะ..เอ่อ..จริงสิ..ฉันยังไม่รู้จักชื่อของคุณเลยนี่นา ฉันอายากะ"
      *มุคุโร่ครับ*
      มุคุโร่...ชื่อแปลกๆนะ แต่หล่อเวอร์*o* หลังจากนั้นเราก็คุยกันไปเรื่อยๆ ถามนู่น ถามนี่กันบ้างจนเวลาผ่านล่วงเลยไป หลายชั่วโมงและที่สำคัญนี่มันก็ดึกแล้วด้วย
      *ถ้างั้น ฝันดีนะครับ คนดีของผม*ว่าจบเขาก็ตัดสายไป ฉันก็นั่งทำหน้าเอ๋ออีก ตามเคยก่อนจะค่อยๆทบทวนคำที่เขา พูดเมื่อครู่ 'คนดีของผม....คนดีของผม...ของผม....ของผม!!!!" (ความรู้สึกช้าจริงๆนะเจ๊ - - ) เมื่อกี้นี้เค้าพูดว่า'ของผม'เหรอ!!! ใครก็ได้ช่วยที แบบนี้ฉันได้ละลายกลายเป็นน้ำแน่ๆ เฮ้ยๆ ยัยอายากะ เลิกคิดแล้วไปนอนซะ! หลังจากนั้นฉันก็พยายามหลับ แต่เมื่อหลับตาลงก็จะเผลอนึกถึงหน้ามุคุโร่ แล้วจู่ๆหน้าของฉันก็ร้อนผ่าวขึ้นมา หลายชั่วโมงเลยล่ะ กว่าฉันจะหลับลงได้เช้าวันต่อมา
      ????????????
      "อืม~ โทรศัพท์ดังเหรอ~" ฉันที่เพิ่งตื่นนอน ยังมีอาการสะลึมสลืออยู่ก็กดรับโทรศัพท์และพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงีย "ฮัล โหล~~~"
      *อรุณสวัสดิ์ครับ คนดีของผม* 
      เสียงปลายสายที่ได้ยินตั้งแต่เช้านั่นก็คือ 'มุคุโร่' หรือก็คือแฟนของฉันเอง
      "อะ..อรุณสวัสดิ์มุคุโร่" ฉันตอบเขาไปด้วยอาการที่ยังตกใจเล็กน้อยเพราะเขา โทรมาเป็นสายแรกของวันนี้
      *เพิ่งตื่นเหรอครับ น้ำเสียงงัวเงียเชียว*เขาพูดด้วยน้ำเสียงขี้แกล้งปนทะเล้นนิดหน่อย ซึ่งนั่นมันก็ทำให้ฉันหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที
      "มะ..มันก็ต้องมีบ้างล่ะน่า! ฉันมันเป็นคน ตื่นสายนี่!"ฉันพูดเชิงงอน แต่พอเขาตอบ กลับมาทำเอาฉันงอนไม่ลงเลยทีเดียว
      *ตื่นสาย แต่น่ารัก ก็ไม่ว่ากันครับ* พระเจ้า!! นี่ไม่รู้ว่าสวรรค์จะช่วยฉันให้มีความสุข หรือจะช่วยให้ฉันตายเร็วๆกันแน่! หลังจากวันนั้น มุคุโร่ก็โทร.มาหาฉัน ทุกวัน โทร.มาคุยเล่นบ้างอะไรบ้าง จนตอนนี้เราสองคนเริ่มสนิทกันเรื่อยๆ แต่แล้ววันหนึ่ง ???????????? มุคุโร่ก็โทร.มาหาฉันเหมือนเคย 
      "อะ...มีอะไรเหรอมุคุโร่"
      *อายากะ ออกมาหาผมหน่อยได้มั้ย* คราวนี้น้ำเสียงของเขาต่างไปจากเดิม เหมือนกับว่ามีความทุกข์และต้องการจะ บอกอะไรกับฉันสักอย่าง
      "ได้สิ ถ้างั้น อีก1ชั่วโมงเจอกันที่คาเฟ่ เดิมนะ"
      *อืม*เขาตอบฉันสั้นๆ ก่อนจะตัดสายไป
      "แฟนตัวเองกำลังมีเรื่องทุกข์ใจ เราก็ต้องช่วยพูดให้เขาสบายใจสินะ มานั่งคิดคำปลอบใจดีกว่า" หลังจากที่ฉันคิดคำ ปลอบใจไปได้สักพักก่อนจะออกเดินทางไปหามุคุโร่ ซึ่งฉันก็มาถึงก่อนเขาและนั่งจองโต๊ะไว้ สักพักมุคุโร่ก็มาถึงร้านด้วยหน้าที่เศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด และยังฝืนยิ้มด้วย
      "มีเรื่องอะไรเหรอ" ฉันเริ่มเปิดประเด็น ก่อนที่เขาจะพูดว่า
      "อายากะ ผม...ขอโทษนะ"
      "เอ๊ะ ขอโทษเหรอ? ขอโทษฉันทำไม?" ตอนนี้ในหัวของฉันมีเครื่องหมายคำถาม ผุดขึ้นมาเต็มไปหมด
      "พอดีว่า...ผม..ทะเลาะกับแฟนน่ะ"
      "ดะ...เดี๋ยวก่อน..มุคุโร่ เราไม่ได้ทะเลาะ อะไรกันเลยนะ"
      "ไม่ใช่...ผมหมายถึงแฟนจริงๆของผมน่ะ"
      ตอนนี้หัวใจของฉันแทบสลายเมื่อรู้ว่าตัวเองได้ขึ้นชื่อว่า 'แย่งแฟนคนอื่น'
      "เธอจับได้ว่าผมแอบนอกใจ แต่เธอยังให้โอกาศผม แต่ผม...ต้องเลิกยุ่งกับคุณอายากะ คุณโอเคนะ?"
      "อะ...ฉะ..ฉันโอเค ฉันเข้าใจดี ไม่ต้องห่วง.." ตอนนี้ฉันพยายามกลั้นน้ำตาและเสียงสะอื้นสุดชีวิตเพื่อไม่ต้องการให้เขา 'เป็นห่วง'
      "..อายากะ.."เขายื่นมือมาเพื่อจะแตะไหล่ฉัน แต่ฉันกลับเอียงไหล่หลบมือคู่นั้นโดยอัตโนมัต
      "มะ...ไม่ต้องห่วง ตอนนี้นายก็เห็นแล้วนี่ ว่าฉันยิ้มอยู่น่ะ นายเห็นใช่มั้ย?" ใช่ ตอนนี้ฉันกำลังยิ้มอยู่ แต่กลับมีน้ำใสๆไหลลงมาอาบแก้มพร้อมกับรอยยิ้มนั้นด้วย จนฉันทนไม่ไหวรีบวิ่งหนีเขาไป
      'ไม่เป็นไร แค่นี้เอง ฉันต้องอยู่ต่อไปสิ มันก็แค่กลับไปเป็นเหมือนเก่า กลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนก็เท่านั้นเอง'
      หลังจากนั้นฉันก็พยายามใช้ชีวิตตามปกติและไม่ได้เจอหน้าของมุคุโร่อีกเลยตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ในขณะที่ฉันเดินเล่นอยู่นั้น จู่ๆก็มีมือปริศนามาจับไหล่และดึงให้ฉันหันไป ชั่วพริบตาเดียวก็มีฝ่ามือประทับบนใบหน้าฉันอย่างจังจนหน้าของฉันหันไปตามแรงตบ
      'อะ...อะไรกันน่ะ?!' ฉันได้แต่คิดแบบนั้นก่อนจะมองคนตรงหน้า ที่ดูเหมือนจะเป็นแค่เด็กม.ปลายเท่านั้น
      "นี่แกร่านมากเลยเหรอ!! ถึงได้มาแย่งแฟนคนอื่นเขาน่ะ!!" สิ้นประโยคเด็กคนนั้นก็เดินจากไป ปล่อยให้ฉันอึ้งกับเหตุการณ์ตรงหน้าเพียงลำพัง
      'ทำไม...ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้นกับฉันด้วย ผู้คนบนโลกนี้มีอยู่ตั้งหลายแสนล้านคน แต่ทำไมต้องเป็นฉันล่ะ ที่ต้องเจอเรื่องเลวร้ายอย่างนี้ ถ้าชีวิตมันจะบัดซบขนาดนี้ล่ะก็....

      ฉันว่าเราควรหยุดนิยายไว้เท่านี้ ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะพบกับจุดจบที่น่าเศร้าก็ได้
      .
      .
      .
      .
      คุณนี่ดื้อจริงๆเลย แต่ก็เอาเถอะ ถือว่าฉันเตือนคุณแล้วนะ เราไปพบกับจุดจบของนิยายเรื่องนี้กัน
      .
      .
      .
      .

      ในระหว่างที่ฉันกำลังรอข้ามถนนดหมือนคนอื่นๆอยู่นั้น ก็คิดขึ้นมาได้ว่า 'ถ้าชีวิต มันจะบัดซบขนาดนี้ ก็อย่าอยู่เลยดีกว่า' ฉันก้าวขาออกไปในขณะที่มีรถคันหนึ่งขับมาด้วยความเร็วสูง แม้คนอื่นจะพูดห้ามยังไงฉันก็ไม่ฟัง และในที่สุด....
      เอี๊ยดดดดด!!!
      .
      .
      ฉันลืมตาขึ้นมาอีกครั้งและได้เห็นร่างของใครคนหนึ่งแต่มันเรือนรางมาก
      "คุณคงเป็นยมทูตที่มารับวิญญาณของฉันสินะ ฉันไม่กลัวคุณหรอก"
      "เลิกพูดอะไรเพ้อเจ้อได้แล้ว คุณยังไม่ตายซะหน่อย"
      'เอ๋? เสียง...ผู้ชาย?' หลังจากที่ปรับสายตาให้สู้กับแสงได้แล้ว ฉันก็ได้เห็น ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของผมสีดำขลับ ดวงตาสีดำสนิทดั่งท้องฟ้ายามรัตติกาล ที่แฝงไปด้วยความเย็นชา ผิวขาวออกคล้ำนิดๆ รวมๆแล้วเหมือนเทพบุตรเลย คร้า~*o* แถมตอนนี้ฉันยังอยู่ในอ้อแขนของเขาด้วย!(อีกแล้วเหรอเจ๊ - - )
      "อะ..เอ่อ..คุณ...เป็นใคร?"ฉันพยายาม รวบรวมสติที่กำลังจะเตลิดเปิดเปิงกลับมาก่อนที่จะถามคนตรงหน้าไป
      "นั่นสินะ จะเรียกผมว่าอะไรดีล่ะ นายน้อย นายท่าน คุณท่าน หรือว่าผู้มีพระคุณดีล่ะ"เขาตอบฉันพร้อมกับรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ ทำเอาใจฉันแทบละลายเลย~ แต่เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อนนะ
      "ทะ...ทำไมฉันจะต้องเรียกนายแบบนั้น ด้วยไม่ทราบ?"
      "ก็ในเมื่อคุณทิ้งชิวิตของตัวเองแล้ว และผมก็เป็นคนเก็บได้ เพราะฉะนั้นทั้งชีวิตของคุณต้องเป็นของผม"
      "ว้าย!! ทะ...ทำอะไรของนายยะ!!!"ว่าจบเขาก็อุ้มฉันขึ้นบ่าโดยที่ฉันไม่ได้ตั้งตัวอะไรเลย
      "เฮ้ย!! นี่นาย!! ปล่อยฉันลงน๊า!!!"ฉันพยายามทำให้เขาปล่อยฉันลง ไม่ว่าจะเป็นการทุบตี ดิ้น หรือแม้กระทั่งตะโกนใส่หู แต่ไม่เป็นผลเลย
      "หึ คุณนี่ตลกดีนะ ชักจะชอบขึ้นมาซะแล้วสิ แต่ว่าอย่าโวยวายไปจะดีกว่า เป็นแค่ของเล่นทางเพศแท้ๆ"
      "หะ..ห๋า!! เมื่อกี้นายพูดว่าของเล่นอะไรนะ!! ไอ้โรคจิต!!" หลังจากนั้นเขาก็วางฉันลงที่เบาะข้างคนขับบนรถBMWสีดำคันหรูและมุ่งหน้าไปยังบ้าน(คฤหาสน์) ของเขาทันที ฉันใช้ชีวิตร่วมกับเขาภายในคฤหาสน์หลังนั้นทุกๆวันผ่านไปอย่างมีความหมาย มีทั้งความสุข สนุกเฮฮา เศร้า และอาจจะทะเลาะกันในบางครั้ง แต่เราก็ยังผ่านมาได้ จนตอนนี้เราสองคนได้ตกลงคบกันแล้วล่ะ
      "ยัยบ๊อง ต้องมีแต่ผมคนเดียวนะ ถ้าคุณคิดนอกใจผมล่ะก็ ผมจะขย้ำคุณ(บนเตียง)ซะให้เข็ดเลย" เขาพูดพร้อมส่งสายตาโหดๆมาให้ฉัน
      "แหม~ มีคุณแฟนที่หล่อ ขี้หวง แล้วก็โหดขนาดนี้ ฉันจะไปกล้ามีคนอื่นได้ยังไง"ฉันตอบพร้อมจับแก้มทั้งสองข้างของเขา ทำให้แก้มของเขาขึ้นสีเลือดฝาดเล็กน้อย 'ทำไมนายมันน่าฟัดขนาดนี้นะ เฮ้ย อายากะ หยุดความคิดดาร์กๆของเธอไปเลยนะ' ฉันพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้หลงใหลไปกับใบหน้าหล่อเหลานั่น ก่อนที่มือของฉันจะจับแก้มของเขาแรงขึ้นและพูดไปว่า
      "นายก็ด้วยล่ะตาบ๊อง ถ้าไปมีคนอื่นล่ะก็...นายตายแน่" ฉันพูดขู่ให้เขากลัวแต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นผลเลยสักนิด
      "หึ มีแฟนที่สวย แล้วก็โหดแบบนี้ ผมจะกล้านอกใจได้ยังไง" เขาพูดพร้อมยิ้มให้ฉัน อร้ายยย!! จะเป็นลม~~ ดาเมจช่างพุ่งแรงเหลือเกิน~ ก่อนที่สติของฉันจะหลุดลอยหายไป ที่ริมฝีปากก็รู้สึกอุ่นๆอย่างบอกไม่ถูก ใช่ เขากำลังจูบฉัน!! ลิ้นร้อนๆของเขาแซกตัวเข้ามาในปากฉัน และตวัดเกี่ยวพันเล่นกับลิ้นของฉันเหมือนกำลังโหยหาความหอมหวาน เราจูบกันนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้และในที่สุดก็ผละออกจากกัน
      "อายากะ สัญญาแล้วนะ ว่าจะมีแต่ผมคนเดียว"
      "ถ้าฉันผิดคำสัญญา ขอให้ฉันไม่ตายดี เพราะฉะนั้นนายสบายใจได้นะ เคียวยะ"
      "ไม่เอา ไม่เล่นถึงชีวิตสิ เพียงได้ขย้ำคุณ(บนเตียง)ผมก็พอใจแล้วล่ะ"ว่าจบเขาก็สวมกอดฉันที
      "คิดได้แต่เรื่องแบบนี้จริงๆเลยนะ นายเนี่ย" แต่...เพราะนายเป็นแบบนี้ไง ฉันถึงได้รัก 'ฮิบาริ เคียวยะ' จะเป็นผู้ชายคนสุดท้ายที่ฉันจะฝากชีวิตนี้ไว้กับเขา
      The End

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×