คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : รางวัลและการสังสรรค์
สถานการณ์บนเวทีเริ่มคลี่คลายหานฉู่กวงสั่งคนมาพาตัวกัวเป่าและบุตรชายไปรักษาอาการบาดเจ็บ กรรมการบนเวทีจึงกลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง “ผู้ชนะในการประลองเวทีผู้กล้า ผู้กล้าวัยเยาว์อันดับหนึ่งในปีนี้ได้แก่หยางป๋อ” ฝูงชนพากันโห่ร้องแสดงความยินดี ลั่วเฉินลุกขึ้นยืนปรบมือเช่นกันหยางชงเวลานี้มีม่านน้ำอยู่ในดวงตา มันรู้มาตลอดว่าหยางป๋อพยายามฝึกฝนเพื่อที่จะยกฐานะตนเองมาตลอด เวลานี้ลูกชายทำสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว
บนเวทีหยางป๋อรับมอบรางวัลเป็นเงินหนึ่งพันเหรียญทองจากหานฉู่กวงและเหรียญตราสีขาวซึ่งสลักคำว่า”ผู้กล้า” ตัวใหญ่และมีคำว่า “ปิง” ตัวเล็กอยู่ด้านล่าง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ระบุตัวตนสำหรับการเข้าร่วมงานชุมนุมผู้กล้าจากเซียวหลิงซี หานฉู่กวงกล่าวชมเชยหยางป๋ออยู่หลายประโยค ขณะที่เซียวหลิงซียิ้มกลางกล่าวเพียงว่า “ท่านเศรษฐีหยางวันนี้เจ้ากับลั่วเฉินผู้ใดควรเป็นเจ้ามือดี” หยางป๋อหัวเราะ “วันนี้อย่าพึ่งไปเหลาสุราเลย ข้าจะพาพวกท่านไปกินอาหารที่บ้านข้า”
“ซี่ซี่ซี่” เนื้อหมูหินที่ถูกแล่เป็นชิ้นหนาประมาณหนึ่งนิ้วมือหมักด้วยเครื่องเทศและสุราแปดสมบัติกำลังส่งเสียงร้องพร้อมส่งกลิ่นหอมอยู่บนแผ่นหิน “ลั่วเฉินเหตุใดหมูย่างของเจ้าถึงได้น่ากินขนาดนี้” เซียวหลิงซีมองหมูหินย่างพลางกลืนน้ำลายลงคอ “พี่สาวเซียวท่านไปนั่งดื่มสุรารอสักครู่ ท่านจะได้ชิมหมูย่างที่ลืมไม่ลง” ลั่วเฉินหัวเราะ โต๊ะสุราจัดวางอยู่บริเวณชานบ้านตำแหน่งเดิมกับที่ลั่วเฉินและหยางชงนั่งดื่มด้วยกันเมื่อวันก่อน เพียงแต่วันนี้มีสมาชิกเพิ่มอีกหลายคน นอกจากลั่วเฉิน หยางชงและหยางป๋อแล้วยังมี เซียวหลิงซีกับหานอี้หนิง แม้แต่นางจูซื่อที่ไม่ดื่มสุราก็ยังมานั่งจิบชาพูดคุย นางจูซื่อเมื่อทราบว่ามีแขกก็ทำอาหารเพิ่มอีกหลายอย่าง บนโต๊ะนอกจากกาสุราแล้วยังเต็มไปด้วยอาหาร ไม่ทราบลั่วเฉินเอาอุปกรณ์แปลกๆมาจากที่ไหน เป็นเตาหินสามขามีช่องสำหรับใส่ถ่านไม้และยังมีแผ่นหินบางๆขนาดใหญ่ แม้คราแรกทุกคนจะมองด้วยความแปลกใจแต่เมื่อเห็นลั่วเฉินนำเนื้อหมูสิบกว่าชิ้นวางลงไปย่าง เมื่อหมูส่งกลิ่นหอมเซียวหลิงซีอดไม่ได้ที่จะเฝ้ารอ
“เสี่ยวเฉินของเราความสามารถรอบด้าน ไม่ทราบสตรีใดที่จะโชคดีได้แต่งงานกับเจ้า” หยางชงกล่าวติดตลก “ท่านลุงก็รู้ว่าก่อนที่บิดามารดาของข้าจะจากไปท่านได้หมั้นหมายข้าไว้กับธิดาของสหายผู้หนึ่งในเมืองหลวง แต่นั่นเป็นเรื่องที่นานมาแล้วอีกทั้งสถานการณ์บ้านข้าในตอนนี้เป็นอย่างไรทุกคนก็ทราบดี ข้าไม่คิดว่าพันธะหมั้นหมายนี้จะยังมีผลอยู่” ลั่วเฉินกล่าวอย่างเรียบเฉยพร้อมกับนำจานหมูย่างมาวางบนโต๊ะ “นี่เจ้ายังมีคู่หมั้นอยู่ที่เมืองหลวงด้วยหรือนี่ ไม่ทราบว่าเป็นสตรีจากสกุลใด” เซียวหลิงซีถามก่อนที่นำหมูย่างเข้าปาก “นี่ นี่มันอร่อยมาก” เซียวหลิงซีตะโกนออกมา คนที่เหลืออดไม่ได้ที่จะหัวเราะกับท่าทางของนาง
“นางมาจากตระกูลซุนชื่อซุนรุ่ยหมิน” ลั่วเฉินกล่าวก่อนจะยกจอกสุราขึ้นมาดื่ม “ซุนรุ่ยหมินบุตรสาวของเจ้ากรมพิธีการใช่หรือไม่” เซียวหลิงซีถามลั่วเฉินขณะกำลังคีบหมูย่างค้างไว้ในอากาศ “ข้าไม่ทราบตำแหน่งปัจจุบันของคนในครอบครัวนาง แต่คาดว่าน่าจะใช่ ทำไมท่านรู้จักนางรึ” ลั่วเฉินคีบหมูย่างใส่ปากก่อนจะจิบสุราตาม “จะนับว่าเป็นคนรู้จักก็ไม่เชิงนัก นางเป็นศิษย์ในหุบเขาเซียนกระบี่เช่นเดียวกับข้า” เซียวหลิงซีกล่าวพลางใช้ตะเกียบแย่งชิงหมูย่างกับหยางป๋อ
“นางงดงามหรือไม่” หยางป๋อถามหลังจากสูญเสียหมูย่างชิ้นที่หมายตาไป เซียวหลิงซีรีบคีบหมูย่างใส่ปากนางยิ้มอย่างพอใจกับชัยชนะ “ถูกต้องนางเป็นหญิงงามคนอื่นของเมืองหลวง แต่ในฐานะที่เราเป็นสหายกันข้าต้องบอกเจ้าว่าตอนนี้นางกำลังคบหากับผู้อื่นอยู่” หยางป๋อตาเบิกโพลง แต่ลั่วเฉินกลับหัวเราะ “ไม่ทันจะถอนหมั้นกับข้าก็คบหากับชายอื่นอย่างนั้นรึ” “เจ้าย่างหมูได้ดีถึงเพียงนี้ ผู้ใดไม่แต่งกับเจ้าข้าจะแต่งกับเจ้าเอง” หานหนิงซีหัวเราะ “แค่ก แค่ก” ลั่วเฉินได้ยินถึงกับสำลักสุรา
“หยางป๋อ ข้าขอถามเจ้าหน่อยได้หรือไม่ เหตุใดเจ้าจึงสามารถทำลายกระบี่ของหลัวเซี่ยอวี่ได้และเหตุใดเจ้าจึงไม่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของกัวเป่า” เซียวหลิงซีกล่าวถามโดยตรงทั้งยังทั้งนางยังกล่าวตามตรงว่ากระบี่ที่ถูกทำลายเป็นกระบี่ของหลัวเซี่ยอวี่ หยางป๋อลังเลก่อนจะหันมองลั่วเฉินเมื่อเห็นลั่วเฉินพยักหน้าจึงกล่าวตอบว่า “ที่ข้าทำลายกระบี่ของหลัวเซี่ยอวี่ได้เป็นเพราะกระบี่ของเสี่ยวเฉิน และที่ข้าถูกโจมตีแล้วไม่ได้รับอันตรายเป็นเพราะเกราะอ่อนที่เสี่ยวเฉินหลอมสร้างให้ข้า” หยางป๋อตอบไปตามความจริง
เวลานี้คนที่เหลือล้วนประหลาดใจก่อนจะมองมาที่ลั่วเฉิน “เจ้าเป็นนักหลอมอาวุธอย่างนั้นหรือ” หานอี้หนิงกล่าวอย่างประหลาดใจ “ไม่ถูกต้อง กระบี่เล่มนั้นของหลัวเซี่ยอวี่เป็นถึงกระบี่ระดับปฐพีเสริมแกร่งห้าส่วน” เซียวหลิงซีกล่าว ลั่วเฉินหัวเราะเบาๆ “นั่นเพราะกระบี่ของข้าเป็นระดับปฐพีเสริมแกร่งเจ็ดส่วน” ลั่วเฉินแม้ไม่อยากโกหกสหายแต่หากบอกตามความจริงอาจจะเกิดเรื่องวุ่นวายตามมามากมาย เวลานี้เขาจึงยังไม่ควรบอกความแกร่งที่แท้จริงของกระบี่
“แต่ข้าเห็นว่าเป็นเพียงกระบี่วิญญาณเสริมแกร่งห้าส่วนเท่านั้น” เซียวหลิงซียังคงไม่เข้าใจ “นั่นเพราะข้าลบประกายของมันลง พวกเจ้าไม่ต้องสงสัยว่าทำได้อย่างไรแน่นอนว่าข้ามีวิธีลับอยู่” เซียวหลิงซีความจริงอยากถามถึงลั่วเฉินลบประกายอย่างไรเมื่อถูกดักคอจึงได้แต่ยิ้มเจื่อน “เจ้าถึงกับสามารถหลอมอาวุธระดับปฐพีเสริมแกร่งเจ็ดส่วนได้ ถ้าอย่างนั้นชุดเกราะอ่อนเล่า” แม้ว่านางอยากจะถามว่าลั่วเฉินเรียนการหลอมสร้างมาจากที่ใดแต่นางรู้ว่านั่นเป็นเรื่องส่วนตัวที่นางไม่ควรถาม ลั่วเฉินพยักหน้าไปทางหยางป๋อ “เสี่ยวป๋อเจ้าแสดงให้พี่สาวเซียวดูสิ”
หยางป๋อถลกแขนเสื้อตัวนอกขึ้นเล็กน้อยแสดงให้เห็นถึงชุดสีดำแกมน้ำเงินเข้ารูปที่อยู่ภาย “ชุดเกราะอ่อนระดับปฐพีเสริมแกร่งหกส่วน” เซียวหลิงซีอุทาน คนที่เหลือล้วนจ้องมองมาที่แขนหยางป๋อเช่นกัน ชุดเกราะอ่อนสีดำแกมน้ำเงินเข้ารูปคลุมตั้งแต่ข้อมือหยางป๋อ เส้นใยดูละเอียดอ่อนนุ่มนวลแถมเมื่อสะท้อนกับแสงจะเป็นประกายสีน้ำเงิน “ช่างสวยงามยิ่งนัก ข้ายังสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอีกด้วย” หานอี้หนิงอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
“ยามที่ข้าถูกกัวเป่าลอบโจมตี ข้าไม่ได้รับความเจ็บปวดใดเพียงสัมผัสได้ว่าถูกกระแทกออกไปเท่านั้น” หยางป๋อมองชุดเกราะอ่อนที่ตนสวมใส่อย่างชื่นชม “ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีผู้ใดหลอมสร้างชุดเกราะอ่อนได้สำเร็จมาก่อนนอกจากสำนักหลอมทะเลใต้ ลั่วเฉินเจ้าคงไม่ใช่ว่าเคยไปแดนใต้กระมัง” เซียวหลิงซีถามอย่างสงสัย “จะเป็นไปได้อย่างไร ข้าย่อมไม่เคยไปและไม่เคยได้ยินชื่อสำนักนี้มาก่อน ข้าเพียงบังเอิญได้รับตำราหลอมสร้างโบราณมาจากหอการค้าลมวสันต์เท่านั้น” ลั่วเฉินโยนเรื่องนี้ให้กับหอการค้าลมวสันต์ไปก่อน หอการค้าลมวสันต์มีสินค้าแปลกๆจากทั่วทั้งทวีปการจะบังเอิญมีตำราหลอมสร้างโบราณนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก
“นับว่าเจ้าโชคดีและตนเองก็มีพรสวรรค์ ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีผู้หลอมอาวุธอายุสิบห้าปีมาก่อน เอาล่ะเจ้าพอจะสร้างเกราะอ่อนนี้ให้ข้าได้บ้างหรือไม่ ข้าสามารถจ่ายเหรียญทองให้เจ้าได้” เซียวหลิงซีทำหน้านิ่ง นางเริ่มจากการชื่นชมก่อนที่วกมาขอสิ่งของ หานอี้หนิงหัวเราะคิกคัก “อย่าลืมข้าด้วย” “เอาล่ะข้าหลอมสร้างให้พวกเจ้าคนละตัว รวมถึงท่านลุงหยางด้วยตัวหนึ่ง “ ลั่วเฉินพยักหน้าตอบรับ “โอ้ มีของข้าด้วยรึขอบใจเจ้ามาก เสี่ยวเฉินเจ้าสามารถไปเก็บเงินที่เจ้าเด็กหน้าเหม็นได้ ตอนนี้มันรวยแล้ว”
“แค่กแค่ก” หยางป๋อที่กำลังเป็นผู้ฟังที่ดี เพียงเพลิดเพลินกับอาหารและสุราอดไม่ได้ที่จะสำลักออกมา “ท่านพ่อ เงินรางวัลหนึ่งพันเหรียญทองย่อมมอบให้ท่านกับท่านแม่ทั้งหมด ข้ายังมีเงินจากการเดิมพันอีกหกสิบเหรียญทอง เพียงพอให้ข้าใช้จ่ายได้อย่างสบาย” “เรื่องเงินย่อมไม่จำเป็น ชุดของท่านลุงหยางไม่มีปัญหาข้าสามารถทำชุดสีดำให้ได้ แต่ของพี่สาวเซียวกับอี้หนิงหากเจ้าต้องการสีอื่นเจ้าต้องจำเป็นช่วยข้าหาวัตถุดิบเพิ่มเติม” ลั่วเฉินย่อมมีวัตถุดิบที่จะสร้างสีต่างๆได้ แต่นั่นล้วนเป็นวัตถุดิบระดับสูง อีกอย่างเขาจำเป็นต้องให้คนที่ต้องการสิ่งของจากเขาได้มีส่วนร่วมในการหาวัตถุดิบ นี่เป็นสิ่งที่เขาทำมาตลอดในอดีต กรณีของหยางป๋อเป็นเหตุฉุกเฉินเท่านั้น
“จะต้องไปหาที่ใด” หานอี้หนิงกล่าวถาม ลั่วเฉินยิ้มเล็กน้อย “ย่อมต้องเป็นส่วนต้นของเทือกเขาเสินหนง ที่นั่นมีสัตว์อสูรระดับสี่ถึงระดับห้าอยู่ ขอเพียงเป็นสัตว์อสูรระดับนี้ไม่ว่าท่านต้องการชุดสีใด ขอแค่ได้วัตถุดิบสีนั้นมามากพอย่อมไม่เป็นปัญหา” “เจ้าถึงกับสามารถจัดการกับสัตว์อสูรระดับระดับสี่ถึงระดับห้าได้” เซียวหลิงซีอดไม่ได้ที่ประหลาดใจ นางไม่เคยเห็นลั่วเฉินลงมือมาก่อน หานอี้หนิงก็ประหลาดใจเช่นกันจากที่นางได้ยินมานางเข้าใจว่าพลังฝีมือของลั่วเฉินต่ำกว่านางหลายขั้นตอนนี้นางอยู่ในแดนก่อกำเนิดขั้นที่หก นางสามารถต่อสู้กับสัตว์อสูรระดับสองได้เท่านั้น
“ท่านคงไม่คิดว่าคนยากจนอย่างข้าสามารถจ่ายเงินซื้อวัตถุดิบระดับปฐพีได้ใช่ไหม” ลั่วเฉินหัวเราะ “ฝีมือของเสี่ยวเฉินเหนือกว่าข้ามาก” หยางป๋อช่วยยืนยันอีกเสียง เซียวหลิงซีกับหานอี้หนิงรู้สึกมึนงงต้องเข้าใจว่าหยางป๋อเป็นผู้ชนะบนเวทีผู้กล้าวัยเยาว์ของเมืองปิงอีกทั้งเขายังชนะได้อย่างหมดจด “ข้าบอกพวกท่านแล้วว่าเสี่ยวเฉินไม่เข้าร่วมการประลองเพื่อปล่อยให้ข้าชนะ” หยางป๋อเมื่อเห็นหญิงงามทั้งสองทำสีหน้ามึนงงจึงกล่าวอีกครั้ง
“พี่สาวเซียวข้ากำลังอยากทะลวงสู่แดนปฐพี ท่านมาช่วยข้าได้หรือไม่” ลั่วเฉินฉวยโอกาสจากความสงสัยของเซียวหลิงซีบางทีอาจช่วยให้เขาทะลวงเขตแดนได้ “เจ้าอยู่ในแดนก่อกำเนิดขั้นที่เก้า” คราวนี้เป็นหานอี้หนิงที่ต้องตกใจอีกครั้ง “ถูกต้อง ข้าสังหารสัตว์อสูรระดับสี่ไปหลายตัวแต่ยังไม่อาจทะลวงได้” หยางป๋อได้ฟังลั่วเฉินกล่าวก็รู้ถึงความยากลำบากที่ตัวเขาเองก็ต้องเผชิญเช่นกัน “ตกลง เจ้ามีน้ำใจทำชุดเกราะอ่อนให้ข้า ข้าจะช่วยพาเจ้าทะลวงเขตแดน” เซียวหลิงซีตอบรับอย่างง่ายดาย
ความคิดเห็น