ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพื่อนซี้สี่ขา กับ ระบบสุ่มกาชาสุดเจ๋ง

    ลำดับตอนที่ #9 : ลุยเดี่ยว​

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.ย. 67


    ท่ามกลางหิมะขาวร่วงโรยเหน็บหนาวในยามเช้าตรู่ หกนาฬิกา ทว่าร่างกายโทมัสมีแต่หยาดเหงื่อมากมาย เพราะกำลังวิ่งจ๊อกกิ้งออกกำลังกายรอบบ้านอย่างช้าๆ พร้อมกับเพื่อนซี้โมจิสนุกสนาน

    แถมร่างกายในตอนนี้มันรู้สึกว่าแข็งแกร่งขึ้นมาเยอะ หลังจากที่ได้ดื่มน้ำยาปลุกพลังนั่นไปเมื่อคราวก่อน ตอนนี้วิ่งรอบบ้านไปยี่สิบครั้งแล้ว ก็ยังไม่รู้สึกว่าเหนื่อยล้าเลยสักนิด

    "แต่หักโหมไปก็ไม่ดี ไปเตรียมกับข้าวก่อนดีกว่า" 

    โทมัสปาดเหงื่อไปพลางเดินเข้าบ้านไปพลาง ปล่อยให้โมจิเล่นสนุกไปก่อนค่อยเรียกมากินข้าวทีหลัง เพราะตอนนี้ยังเช้าอยู่เลย รีบขึ้นไปกวาดหิมะบนด่านฟ้าก่อน จะได้นั่งกินข้าวแบบชิลๆด้านบนนี้

    เมื่อมองดูรอบนอกบ้านบนถนน ก็น่าตกใจ มีแต่พวกซอมบี้มากมายหลายเท่าตัว กระจายตัวอยู่โดยรอบทุกทิศทาง ไม่รู้จะมีคนเหลือรอดหายนะในครั้งนี้สักเท่าไหร่ ค่อยไปตรวจสอบดูทีหลัง เพราะวันนี้ยังต้องติดแผงโซลาร์เซลล์อยู่

    "แล้วกินอะไรดีล่ะวันนี้" 

    โทมัสกอดอกหลับตาครุ่นคิด เพราะตอนนี้ข้าวของมากมายเลยไม่รู้จะกินอะไรดี เมื่อคืนนี้ก็ได้ข้าวผัดกับเนื้อสเต็กมาจากระบบ หากกินพวกมันก่อนก็ไม่ได้แย่อะไร รีบจัดวางบนพื้นคนละสองชุดแบบจัดเต็ม พลันเปล่งเสียงเรียกที่ดังลั่น

    "โมจิ.. มากินข้าวได้แล้ว"

    "โฮ่งๆ" โมจิตอบกลับน้ำลายไหล รีบวิ่งขึ้นไปบนบ้านอย่างเร่งด่วน

    โทมัสนั่งลงบนพื้น เทนมให้โมจิหนึ่งชาม แล้วนั่งกินข้าวพร้อมกันอย่างช้าๆ ระหว่างนั้นก็สุ่มของฟรีในวันนี้ก่อน

    [แต่นแต้น] คุณได้รับไข่ต้ม 20 ฟอง (เปิดดูในคลัง)

    "ไข่ต้มงั้นเหรอ เอาเถอะ.. ก็ไม่ได้แย่ไปสักทีเดียว" เพราะทำใจเอาไว้ก่อนแล้วจึงไม่เสียใจเท่าไหร่​นัก

    โทมัสแจกไข่ต้มให้โมจิไปสามฟอง และของเขาสองฟอง พอลองสุ่มเพิ่มอีกหนึ่งครั้ง ก็ได้ลูกศรหน้าไม้มาห้าสิบดอกย้อมใจ จึงหยุดแค่นั้นมันยังมีวันพรุ่งนี้อยู่เสมอ

    หลังจากกินข้าวเสร็จได้ไม่นานนัก โทมัสก็เริ่มทำงานอย่างจริงจัง นำท่อนเหล็กยาวทรงสี่เหลี่ยมออกมาจากคลัง นำไปเชื่อมติดสี่มุมเสาบนด่านฟ้าด้วยหัวเชื่อมแก็ส 

    ส่วนด้านบนก็พาดเหล็กไปมา เชื่อมต่อให้ติดกันแน่นหนา แล้วมุงหลังคาเมทัลชีทให้เต็ม ด้านบนหลังคาก็ติดแผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่แปดแผ่นจนเต็ม

    "อืมม.. แบบนี้เองสินะ" 

    โทมัสเก็บหนังสือสอนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เข้าคลังไว้ แล้วต่อเดินสายทั้งหมดลงไปห้องหนึ่ง ของในชั้นสอง ห้องนี้มีแต่แบตเตอรี่มากมายเรียงรายอยู่ในห้อง 

    เพราะซื้อมาเตรียมการเอาไว้ก่อนหน้านี้โดยเฉพาะ รีบไปต่อสายให้เสร็จเรียบร้อย จะได้ให้มันชาร์จไฟเก็บเอาไว้ก่อน 

    "ไปหาแบตเตอรี่มาเพิ่มดีไมนะ" ยิ่งมีมากก็ยิ่งเป็นผลดี จะได้ไม่ต้องใช้เครื่องปั่นไฟให้หนวกหู พอตัดสินใจได้แบบนั้น

    โทมัสรีบเดินลงไปด้านล่างในทันที ตอนนี้เขามีความสามารถพอสมควร หากให้โมจิเฝ้าบ้านจะดีกว่าในวันนี้ พลันนั่งลงลูบหัวเพื่อนซี้ แล้วบอกว่า

    "นายเฝ้าบ้านดีๆล่ะโมจิ อย่าให้ใครเข้ามาปล้นข้าวของพวกเรานะ" 

    "โฮ่งๆ" โมจิเปล่งเสียงดังหนักแน่นรับคำสั่ง ส่ายหางไปมาทำหน้าจริงจังเก็บลิ้นไว้

    "ดีมากสหาย เราขอตัวออกไปรบก่อน" แต่ก่อนที่จะออกไป 

    โทมัสส่องผ่านรูดูด้านนอกก่อนเพื่อความปลอดภัย ว่ามีซอมบี้ตัวใดแอบซุ่มอยู่หลังประตูหรือเปล่า พอไม่มีตัวใดอยู่ใกล้ๆทางสะดวก

    โทมัสเร่งไขกุนแจออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว ​แล้วล็อกกลอนเอาไว้ด้านในเท่านั้น เพราะมีโมจิเฝ้าอยู่คงจะไม่เป็นอะไร ตอนกลับมาจะได้เข้าสะดวกด้วย

    "รีบไปดีกว่าจะได้รีบกลับมา" 

    โทมัสพึมพำเบาๆเอามีดสั้นออกมาพลางวิ่งไป กวาดสายตามองดู กลุ่มหิมะละลายไปบางส่วนแล้ว วิ่งได้ขึ้นสะดวกเล็กน้อย

     พวกซอมบี้ก็วิ่งมาหาเขาหลายตัว พลันตวัดมีดสั้นเคลื่อนไหวท่วงท่านินจุตสึ สะบั้นตัดคอผ่านเข้ากระดูก จนเลือดสาดกระจายไปโดยรอบ​ ทีละตัว 

    "หืมม..??."

    โทมัสขมวดคิ้วด้วยความสงสัย สัมผัสได้ถึงอะบางอย่างในตัวมัน พลันปักมีดลงเข้าเนื้อ แล้วกรีดอกอย่างเยือกเย็น ก็เห็นผลึกหินสีเขียวเปล่งแสงแปลกประหลาดอยู่ด้านในตัวของมัน 

    ถึงไม่รู้ว่ามันคืออะไรก็ตามแต่ ความรู้สึกมันบ่งบอกว่ามันล้ำค่า รีบกรีดเอาผลึกในตัวอื่นๆแล้วเร่งรีบวิ่งไปต่อ

    ระหว่างวิ่งไปก็เลี่ยงพวกซอมบี้ไปบางส่วน เพราะหากฆ่าทุกตัวก็คงจะเสียเวลาจนเกินไป ไม่นานก็มาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง ร้านขายอุปกรณ์รถยนต์

    "แบตเตอรี่ก็ต้องที่แห่งนี้แหละนะ" 

    โทมัสเดินเข้าไปอย่างระมัดระวังตัว พร้อมกับเอาปืนหน้าไม้ออกมาในมือซ้ายและถือมีดสั้นในมือขวา ด้านในมืดมัวหน้ากลัวเล็กน้อย 

    แม้พวกซอมบี้จะมีมากก็ตามแต่ ก็ยังไม่ถึงขั้นมีมากมายยั่วเยี้ยราวกับหนอน โดยรอบตัวมีแต่อุปกรณ์แต่งรถและล้อแม็ก แบตเตอรี่ก็มีอยู่ด้านหน้ากองโต ตุบ..!!!

    กล่องแบตเตอรี่ร่วงหล่นคนไม่ใช่คน พลันกระโดดออกมาหาตาแดงก่ำ ลอยมาอยู่เบื้องหน้าราวสิบเซน มือซ้ายขยับฉับพลันลั่นไก เข้ากลางหัวร่วงหล่น ตุบ.. 

    "เกือบไปแล้วเรา เห้อ" 

    โทมัสถอนหายใจรุนแรงร่างกายเขาสั่นเล็กน้อย หลังมือขวาปาดเหงื่อเบาๆทำเอาตกใจหมด โชคดีที่เขาดื่มน้ำยาปลุกพลังมา และยังมีวิชานินจุตสึอีก

     ความเร็วการตอบสนองจึงไว้ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว รีบไปดูดเก็บแบตเตอรี่เข้าคลังเอาไว้ก่อน จะได้รีบออกไปจากที่แห่งนี้  ปึงๆ.. !!! 

    "อะไรวะ..!!! " 

    โทมัสตกใจหายวาบสีหน้าหม่นหมอง เมื่อได้ยินเสียงที่ดังแน่นๆใกล้ๆ นึกว่าสัตว์ประหลาดซอมบี้ที่ไหนโผล่มา ทว่ากับเป็นเด็กน้อยทุบกระจกอยู่ในรถยนต์

    "เห้อ เด็กนี้ทำเอาใจหายใจคว่ำ" 

    โทมัสบ่นพึมพำทำใจให้สงบก่อน แล้วส่องดูด้านในรถตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย ก็มีเพียงเด็กน้อยผมสั้นสีทองอายุราวสิบกว่าปี สวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นสีดำร่ำไห้อยู่ ร่างกายไม่มีบาดแผลยังไม่ติดเชื้อ หากปล่อยเอาไว้ก็คงจะตายในไม่ช้า

    "เห้อ ช่วยไม่ได้ละนะ เปิดประตูออกมาสิ ด้านนอกนี้ปลอดภัยแล้ว" 

    เด็กน้อยกวาดสายตามองโดยรอบด้วยความหวาดกลัว รีบเปิดประตูออกไปเมื่อไม่เห็นตัวอะไรแล้ว เขาจ้องมองดูพ่อตนที่ถูกยิงตายอยู่บนพื้นร่ำไห้ 

    "ฮือ..ฮื.อ..พ่อครับ.." 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×