คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เตรียมความพร้อมเอาไว้ก่อน
"เห้อ เหนื่อยซะมัด"
โทมัสปาดเหงื่อบนใบหน้าเบาๆ กว่าจะวิ่งมาถึงหน้าบ้าน ก็สิบสามนาฬิกาแล้ว รีบเลื่อนปะตูเหล็กเข้าบ้านไปอย่างช้าๆ
"โฮ่งๆ" หมาตัวสีน้ำตาลแดง เปล่งเสียงร้องต้อนรับเจ้าบ้านที่กลับมา พลันกระโดดเข้าไปเลียหน้าราวกับดีใจ
"ฮ่าๆ โมจิพอได้แล้วหน่ามันจั๊กจี้นะ"
โทมัสหัวเราะอย่างร่าเริงสดใส และถูไถใบหน้าของตนกับโมจิเบาๆอย่างอ่อนโยน ตอนนี้โมจิตัวใหญ่หล่อเหล่าขึ้นเยอะ หลังจากเก็บมาจากกองขยะในวันนั้น ตอนนี้ก็สีขวบแล้ว
"นายรู้ไหมว่าอีกสามวันข้างหน้า โลกจะล่มสลายแล้วนะ พวกเราต้องช่วยกันเตรียมข้าวของเข้าใจไหม"
"โฮ่งๆ" โมจิตอบกลับราวกับเข้าใจอย่างไรอย่างนั้น อ้าปากแลบลิ้นห้อยราวกับสนุกสนาน
"มีเพื่อนเป็นหมา ยังดีกว่ามีเพื่อนหมาๆละนะ ไปกันเถอะโมจิ เข้าไปในบ้านกันก่อนดีกว่า"
โทมัสเดินหลับตาเข้าไปในบ้าน พร้อมกับโมจิอย่างช้าๆ แล้วเดินไปที่หน้าโต๊ะทีวีหยิบกรอบรูปขึ้นมา พลางยิ้มแย้ม
"พ่อครับแม่ครับ ผมกลับมาแล้ว"
โทมัสลูบรูปภาพของพ่อกับแม่ไปมาเบาๆด้วยความคิดถึง พวกเขาจากไปเมื่อปีก่อน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนนี้ก็อยู่กับโมจิเพียงเท่านั้น
"โฮ้งๆ" โมจิถูไถขาโทมัสไปมาราวกับรู้สึกเศร้า
"ต่อจากนี้พวกเรามาใช้ชีวิตให้สนุกสนานกันดีกว่าโมจิ" โทมัสคลี่ยิ้มน้อยๆลูบหัวโมจิไปมาเบาๆ
"โฮ้งๆ" โมจิแลบลิ้นอย่างร่าเริง
"เอาล่ะ ก่อนจะถึงสามวันข้างหน้าเราคงต้องมาทำบางสิ่งก่อน"
โทมัสกำหมัดมีไฟยิ้มน้อยใหญ่ รีบไปไล่เก็บสิ่งที่สำคัญภายในบ้านเอาไว้ในคลังก่อน อย่างเช่นรูปของพ่อกับแม่ และของอื่นๆที่จำเป็นต้องใช้ไปพักหนึ่ง
โทมัสเดินหันไปมาประเมินตรวจสอบ ภายในบ้านทั้งสองชั้นอย่างจริงจัง ส่วนไหนควรต่อเติม ส่วนไหนควรปล่อยเอาไว้ และเดินไปสำรวจนอกบ้านเพื่อความปลอดภัย
พลางลูบคางครุ่นคิดคำนวนเล็กน้อย บ้านหลังนี้ของพ่อแม่ตั้งอยู่ภายในเมืองใหญ่ พื้นที่กว้างราวหนึ่งไร่โดยประมาณ โดยรอบบ้านมีทางเดินราวห้าเมตร
แถมมีกำแพงปูนสีขาวโดยรอบ มันความสูงกว่าสองเมตร แถมมีประตูรั้วเหล็กขนาดพอสมควร ทั้งยังมีประตูคนเข้าออกอีกหนึ่งบาน
"ต่อเติมคนเดียวคงจะใช้เวลานาน โทรจ้างช่างเอาดีกว่า"
ตัดสินใจได้เช่นนั้น โทมัสหยิบมือถือโทรจ้างช่างสายเฉพาะทาง เกี่ยวกับความปลอดภัยของบ้านและระบบนิรภัย
เพียงไม่นาน ก็มีรถยนตร์สีดำสองคันขับมาจอดหน้าบ้าน ลงจากรถมากันแปดคนราวกับมาเฟียในหนัง แต่ละคนก็ดูเป็นมืออาชีพมาก สวมชุดสีดำไม่ต่างจากบอดี้การ์ด
"สวัสดีน้องชาย น้องชายชื่อโทมัส ที่โทรไปหาบริษัทรักษาความปลอดภัย ของบ้านเรือนหรือเปล่า? "ชายร่างใหญ่ผมสั้นสีดำผิวคล้ำ เดินเข้ามาเอ่ยถาม
"ใช่แล้วครับ เป็นผมเอง ผมอย่างจะต่อเติมบ้านเพื่อความปลอดภัยหน่ะครับ ตรงส่วนนั้น แล้วก็ส่วนนั้น"
โทมัสทำหน้าจริงจัง ขยับมือขวาชี้บอกจุดในส่วนต่างๆ ของบ้านที่ต้องต่อเติม ให้พวกเขาได้รับรู้พักหนึ่ง
"ดูแล้วไม่มากเท่าไหร่นัก ไม่นานสองวันก็คงจะเสร็จ น้องชายเตรียมเงินเอาไว้รอเลย" นายช่างใหญ่ยืนกอดอกด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
"เดี๋ยวผมจะออกไปเตรียมเงินมาให้นะครับ หมาผมชื่อว่าโมจิ หากไม่ไปทำร้ายมัน มันก็ไม่กัด" โทมัสพูดบอกเตือนด้วยความหวังดี แล้วนั่งลงลูบหัวโมจิบอกกล่าวเอาไว้ก่อน
"โมจิเดี๋ยวเราจะไปทำธุระครู่หนึ่ง ฝากดูแลบ้านด้วยล่ะ อย่ากัดพวกเขานะรู้ไหม"
"โฮ้งๆ"โมจิเปล่งเสียงสามครั้งรับคำสั่ง และนั่งยืดตัวตรงอย่างจริงจัง
"หมาของพ่อหนุ่มนี่ช่างแสนรู้ ไม่เหมือนลูกที่บ้านพูดไม่ค่อยฟังเลย" ชายร่างใหญ่พูดชมและส่ายหัวไปมากับลูกชายไม่เอาไหนที่บ้าน หมายังรู้ความกว่าอีก
"ผมฝากบ้านและโมจิด้วยนะครับ ผมขอตัวไปถอนเงินก่อน"
โทมัสฝากฝังและยิ้มให้เล็กน้อย แล้ววิ่งออกไปจากบ้านในทันที พลางหยิบมือถือออกมาดู ก็สิบสี่นาฬิกาแล้ว หากไปธนาคารคงจะเสียเวลามาก รีบไปที่ห้างเลยดีกว่า มันมีครบทุกอย่าง ทั้งอาหารและธนาคาร
ดวงตะวันเลื่อนลอยไปอย่างช้าๆ จนถึงเวลาสิบสามนาฬิกาเวลาโลก ภายในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เหล่าผู้คนมากมายชายญิง เดินผ่านสวนกันไปมาจับจ่ายใช้ส่อยครึกครื้น
"วันที่สี่คงไม่มีภาพแบบนี้อีกแล้ว"
โทมัสพึมพำเบาๆส่ายหัวไปมาอย่างช่วยไม่ได้ ถึงจะบอกไปก็คงไม่มีใครเชื่ออยู่ดี เขาอาจจะถูกจับเข้าโรงพยาบาลบ้ามากกว่า
"นี่จ๊ะน้องชายเงินสดสามแสนดอลลาร์ พี่แบ่งเป็นสามส่วนให้แล้ว" พนักงานสาวผมยาวสีดำงดงาม วางถุงเงินบนเคาน์เตอร์ด้วยรอยยิ้มที่สดใส จ้องมองเด็กหนุ่มครุ่นคิดสงสัย
'เขาจะเอาเงินไปทำอะไรตั้งมากมายนะ แถมยังถอนเงินออกไปหมดบัญชีเงินฝากอีก'
โทมัสหลับตาส่งยิ้มเล็กน้อยพูดเบาๆ..
"ขอบคุณครับ ที่จริงพ่อผมอยู่ในนาซ่า บอกข่าวลับกับผมมาว่า อีกสามวันโลกจะเกิดหายนะ พี่รีบลาออกจากงาน และถอนเงินออกไปซื้ออาหารมากักตุนที่บ้านจะดีกว่านะครับ เห็นพี่สาวใจดี ผมจึงแอบบอกให้รู้ไว้ ไปก่อนนะครับ"
โทมัสหยิบถุงเงินคลี่ยิ้ม แล้วเดินออกไปอย่างช้าๆ สิ่งที่เขาทำได้คงมีเพียงแค่เท่านี้ จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่เธอแล้ว
ไม่นานนักโทมัสเดินเข้าไปในห้องน้ำ เก็บเงินสองถุงเอาไว้ในคลังก่อน มันหนักมากจนแขนเขาปวดไปหมดแล้ว เงินสามล้านดอลลาร์ค่าประกันชีวิตของพ่อกับแม่ หากเก็บเอาไว้ในบัญชี ก็คงไม่มีประโยชน์อะไรในวันที่สี่
"ไปซื้อทองเอาไว้แลกแต้มกาชาก่อนดีกว่า"
โทมัสรีบเดินไปที่ร้านทองในทันที หากไปเลือกซื้อข้าวของในตอนนี้ มันก็คงจะใช้เวลานานเอามากๆ เงินหนึ่งถุงน่าจะได้ทองมากพอสมควร
หลังจากนั้นโทมัสก็แบกถุงทองแท่งเข้าห้องน้ำ มันหนักมากรีบเก็บเอาไว้ในคลังก่อน
"เห้อ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า หนึ่งแสนดอลลาร์จะได้ทองมากมายถึงขนาดนี้ ปวดแขนไปหมด"
โทมัสบ่นออกมาเบาๆ พลางเอาเงินออกมาอีกถุงหนึ่ง แล้วเดินออกไปเลือกซื้อข้าวของอาหารแห้ง และอุปกรณ์ของใช้จำเป็นรวมถึงเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม หลังจากนั้นโทมัสก็เขียนที่อยู่ให้กับพวกเขาเอาไปส่งที่บ้าน
"เห้อ วันเดียวใช้ไปแล้วสองแสนดอลลาร์ กลับบ้านดีกว่าเรา"
โทมัสวิ่งกลับบ้านไปด้วยรอยยิ้มที่อารมณ์ดี พวกคนรวยคงจะรู้สึกดีแบบนี้ ตอนใช้ตังค์..
ความคิดเห็น